แล้วเด็กบ้านนอกคอกนา ก็บินมาอยู่ถึงนิวยอร์ค
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
23 มีนาคม 2550
 
All Blogs
 
ตอน 7 ฝึกงานแบบพิกลพิการ






นอนเลียแผลอยู่เงียบๆในห้อง ตอนนี้ฉันเหมือนนังแมวป่าถูกถอดเขี้ยวเล็บ ก็เพราะเล็บมันหลุดไปจริงๆ นิ จะเดินไปไหนที น้ำตาแทบเล็ด เห้อๆๆๆนั่งถอนหายใจถี่ๆกินอากาศแบบสิ้นเปลือง จนทนไม่ไหว ฉันอยากอาบน้ำ รีบเข้าห้องครัวไปหาถุงก๊อบแก๊บมาห่อเท้าอย่างมิดชิด ดูสภาพตัวเองตอนนี้เหมือนพังช้างโมตลาตอนเหยียบกับระเบิด

บ่ายโมงครึ่ง ฉันพร้อมในชุดไปทำงาน ก้อบแนะนำเพื่อนที่แชร์บ้านอยู่ร่วมกันให้รู้จัก แล้วฝากฝังให้ช่วยเทรนงานให้ฉันด้วย “สุ” คือชื่อของเธอ สาวร่างจ้ำหม้ำน้องๆพี่หนูแหม่ม พาฉันเดินอย่างกระชับกระเฉง ขึ้นรถไฟฟ้าสาย 7 ออกไปนอกเมืองจนสุดสาย แล้วต่อรถเมล์ไปอีกจนไกลแสนไกลถึงย่านเบย์ไซด์

สิริรวมช่วงเวลาของการเดินทางแล้วเกือบชั่วโมงครึ่ง พอเดินเข้าไปในร้าน ฉันต้องตกตลึง บรรยากาศแบบล้านนาไทยที่ฉันคุ้นเคย ถูกยกข้ามทวีปมาอยู่ที่นี่ ภาพเขียน ไม้แกะสลัก เครื่องเขิน ตุ๊กตาไม้สวัสดีชะนีร่าเริงเกินเหตุทักทายฉันเหมือนเจอเพื่อนเก่า

“สวยจังเลยสุ เหมือนคุ้มขันโตกที่เชียงใหม่เลย”
“จริงดิ เจ้าของชอบไปเชียงใหม่ ของตกแต่งนำเข้ามาทั้งนั้น” หลังจากทำความคุ้นเคยกับบรรยากาศของร้านได้สักพัก สุรีบพาฉันเข้าไปในครัว เพื่อไปไหว้สาเจ้าที่ อุ๊ย....แม่ครัว สุกำชับหนักหนาว่าให้ไหว้อย่างสวยงาม นอบน้อม ถ่อมตน พูดจาไพเราะ ทำตัวให้น่ารักแสนซนที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้แม่ครัวโปรด ถึงจะอยู่รอดในร้านนี้

“สวัสดีครับป้า”
“เออ...มาไง เพื่อนใครอีกล่ะ”
“อ๋อ เพื่อนก้อบคะ เพิ่งมาจากเมืองไทย” สุแนะนำตัวให้แทน ป้าเงยหน้ามองฉันอย่างนักเลงเจ้าถิ่นเจอนายอำเภอใหม่
“ตั้งใจทำงานล่ะกัน”
“ครับ”

จากนั้นฉันกับสุรีบออกจากครัว สุบอกกับฉันว่า ป้าแกมีอำนาจมาก อย่าได้ไปทำให้เคืองเด็ดขาด เป็นปกติของร้านอาหารไทยในนิวยอร์ค นอกจากงานจะหนักแล้ว เราก็ต้องอดทนกับแม่ครัวด้วย

แล้วงานก็เริ่มขึ้น ฉันต้องจัดโต๊ะเก้าอี้ให้เข้าที่ พร้อมกับการจำโค๊ดโต๊ะแล้วไปพับผ้าเช็ดปาก เช็ดช้อน ส้อม เตรียมน้ำตาล ชา กาแฟ แล้วสุก็มาสอนฉันใช้เครื่องทำกาแฟคาปูชิโน เอสเพรสโซ่ พร้อมคอร์สสั้นๆเรื่องการใช้คอมฯในการคีย์เข้าไปสั่งอาหารในครัว

นี่...คืองานในหน้าที่บัสบอย พอใกล้เวลาเริ่มทำงาน ฉันถูกเรียกเข้าไปในครัว เพื่อไปเทรนการเป็นรันเนอร์ มี “คูณ” ชายหนุ่มหน้าตาหล่อแบบอาตี๋บนดอยตุง มาทำหน้าที่พี่เลี้ยงนางงาม

คูณ เริ่มสอนฉันตั้งแต่การเสียบปลั๊กไฟ เหอๆ........เอาข้าวเหนียวออกมาอุ่น เตรียมน้ำจิ้ม เอาผักออกมาจัดเตรียมไว้แต่งจาน และขาดไม่ได้วิธีการจับจาน เพราะร้านช้างน้อย สาขา 2 นี้ ขายอาหารฝรั่งเป็นหลัก ต้องเรียนรู้มารยาท ตลอดจนวัฒนธรรมการกินแบบฝรั่งด้วย

1 ชม.ผ่านไป เวลาของการเรียนรู้งานช่างน้อยนัก ฉันต้องเริ่มทำงานแล้ว ออเดอร์แรกปริ้นออกมา ฉันรีบกวาดสวยตาดูอย่างถ้วนถี่ จับตาการทำงานของคูณที่เริ่มจากตักน้ำจิ้มแอ๊ป เตรียมไว้เลย พออาหารเสร็จยกออกไปเสิร์ฟ แล้วออเดอร์ก็ทยอยเข้ามา คูณ แต่งจานแล้วส่งต่อให้ฉันยกออกไปเสิร์ฟ

จานสเต็กใบใหญ่ 2 ใบ อยู่ในมือซ้าย คาดคะเนน้ำหนักตอนนี้ประมาณว่าฉันกำลังกระเตงน่องขาของลูกวัว 1 ตัว ส่วนมือขาว มีกุ้งล็อปสเตอร์ตัวใหญ่นอนตายอนาจมีผัดไทยคลุมร่างเหมือนข่าวจากหนังสือพิมพ์หัวเขียว
“สเต็ก มีเดียม แร สเต็ก มีเดียม เวล ล็อปสเตอร์ ผัดไทย”

ฉันขานชื่ออาหารอย่างมั่นใจ เพราะท่องมาเต็มที่จากดุ๊ป(กระดาษที่ปริ้นออเดอร์) ครอบครัวฝรั่งหรรษา ทำหน้างงๆ ฉันเริ่มหันไปหาตัวช่วย แล้วสุ ก็เหมือนนางฟ้ารีบกระเพื่อมร่างกายเข้ามา

“สาเต้ก มีเดี้ยว แรรรร มีเดี้ยว เวลล ล็อปสเตอร์ ผาดทาย” สุพูดอย่างมืออาชีพ ฉันได้แต่เดินงงๆเข้าครัว พลางถามตัวเองว่าทำไมฉันพูดกับฝรั่งไม่รู้เรื่อง
“สมิงจ๊ะ เวลาพูดภาษาอังกฤษ ใส่จริตเข้าไปนิ๊ดส์สิจ๊ะ”
“ยังไงอ่ะ”
“แบบว่าให้มันมีแอ๊คเซ่นหน่อยนะ อย่าไปพูดแบบไท้ไทยมาก บางทีฝรั่งไม่เข้าจายย”
“อูย...ต้องทำขนาดนั้นเลยหรือ อาย”

“ไม่ต้องอายจ๊ะ ถือซะว่าเป็นการฝึก เวลาฝรั่งพูดไทยเขายังพยายามเลียนเสียงให้เหมือนเลย เรามาอยู่บ้านเขาก็ต้องฝึกให้ได้แบบเจ้าของภาษาพูด”
“ได้ๆ เราจะพยายามจ๊ะ”
“แต่ต้องพูดภาษาไหน ชัดภาษานั้นนะ แบบไทยคำ อังกฤษคำไม่เอานะ” สุแนะนำฉันแล้วรีบปลีกตัวออกไปทำงานต่อ

ฉันเริ่มเครียดเรื่องภาษา ตอนอยู่เชียงใหม่ ฉันนี่ล่ะสาวมั่นต่อให้ฝรั่งเมาเหล้าขี่รถเครื่องมาถามทางกลับเกสต์เฮ้าส์ ฉันยังพูดรู้เรื่องจนแทบจะชวนฉันไปนอนด้วย อิอิอิ แต่พอมาที่นี่ ทำไมต่อมเข้าใจเรื่องภาษาของฉันไม่ทำงานไปซะงั้น

“ห้ามเดินผ่านช่องนี้ เข้าใจไหม” ฉันสะดุ้งกับเสียงเอ็ดของผู้ช่วยแม่ครัว
“ทางมีให้เดิน ไม่เดิน วุ่นวาย” มีต่อ
“ทำให้คนอื่นเขายุ่ง”ไม่จบ

ฉันเริ่มใจเสีย อะไรกันนี่ แค่จะเดินผ่านทางนี้ก็ไม่ให้ผ่าน เข้าใจล่ะ ที่นี่เจ้าที่แรงจริงๆฉันไม่อยากทำอะไรให้ไม่พอใจ จึงได้แต่เงียบ เดินไปเข้าห้องน้ำ ทำงานจนลืมความเจ็บปวด พอถอดรองเท้าออก กลิ่นเท้าตลบอบห้องน้ำ เท้าร้อนอุ่นระอุ จนฉันอยากถอดรองเท้าออกทิ้ง แต่นั่งได้ไม่ถึงนาที

ฉันก็ต้องรีบออกมาทำงานต่อ เวลาพักของที่นี่ไม่มีหรอก อยากพักก็ต้องกลับเมืองไทย ใครคนหนึ่งพูดแว่วๆให้ได้ยินจากในครัว

การเสิร์ฟแบบบ้าระห่ำยังคงดำเนินต่อไป ฉันสะกดจิตตัวเองให้ลืมความเจ็บปวดที่เท้า ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสทุกครั้งที่เดินออกไปหาลูกค้า แขนที่เคยเมื่อยล้ากลับมีแรงแกร่งขึ้นมาอย่างประหลาด

“เม ไอ เก็ต เมโย พลีส” อะไรกันเมโย ฉันนึกในใจ เมื่อลูกค้าร้องขอบางสิ่ง ฉันเดินเข้าครัวก่อนไปถาม
“พี่ครับ ลูกค้าขอหมี่หยกครับ”
“ร้านเราไม่มี”
“เขาขอไรไม่รู้พี่ เมโย ประมาณนี้”

“เอ๊ะ...ขอไรกันแน่” เริ่มหงุดหงิด
“มายองเนสจ๊ะ” สุ โผล่มาจากข้างนอก แล้วรีบออกไปอย่างรวดเร็ว
“ไร แค่นี้ก็ไม่รู้”

ฉันเดินเอามายองเนสมาเสิร์ฟให้ลูกค้า ด้วยสีหน้าเริ่มเครียด แต่ก็ไม่วายยิ้มเจื่อนๆให้สุ พร้อมกับเดินเข้ามาในครัวเงียบๆ อดทน ความอดทนเท่านั้น ที่จะทำให้ฉันผ่านเรื่องนี้ไปได้ ฉันบอกกับตัวเองเบาๆก่อนยกจานอีก 3 ใบออกไปเสิร์ฟ

กว่าลูกค้าโต๊ะสุดท้ายจะออกจากร้านก็เกือบเที่ยงคืน เช่นเคยฉันต้องเก็บร้านและเตรียมของเพื่อใช้ในวันพรุ่งนี้ จากนั้นพนักงานทุกคนมากินข้าวร่วมกัน

ฉันขอแพ็คข้าวกลับมาทานต่อที่บ้านด้วย เพื่อประหยัด เกือบตีหนึ่งแล้ว บนรถไฟสาย 7 ฉันนั่งเงียบมองดูสุตอนนี้เริ่มสัปหงก รอบๆตัวเต็มไปด้วยพวกโก้ คนใช้แรงงานด้วยกัน

ฉันกุมเงิน 20 เหรียญไว้ในมือ วันนี้เพื่อนๆใจดีให้ค่าเทรนมา ฉันจะต้องตั้งต้นกับที่นี่ให้ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกครั้งก็ตาม

วันนี้เทรนงานร้านช้างน้อยได้ 20 บาท รวมเงินที่มีตอนนี้ 155 บาท รายจ่าย 0 บาท ห่อข้าวกลับบ้าน 2 ห่อ เทรนงานวันที่ 1 ฉันจดรายละเอียดต่างๆลงในสมุดบันทึก

ฉันจะเริ่มทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เพื่อเตือนสติตัวเองทุกครั้งก่อนใช้เงิน ที่มากไปกว่านั้น ฉันจะจดทุกอย่างที่เกิดขึ้น เพื่อบอกตัวเองไว้เสมอว่า ฉันเป็นใคร มาที่นี่เพื่ออะไร



Create Date : 23 มีนาคม 2550
Last Update : 24 มีนาคม 2550 1:24:52 น. 6 comments
Counter : 927 Pageviews.

 
สู้โว้ย


โดย: DekChaiDam วันที่: 23 มีนาคม 2550 เวลา:10:20:21 น.  

 
ฟังเพลงนี้ น้ำตาร่วง อยากกลับบ้านโว้ย


โดย: ตา (Febie ) วันที่: 23 มีนาคม 2550 เวลา:18:21:35 น.  

 
เราว่า สุในเรือ่งเนี่ย.........เพื่อนเราที่นิเทดแน่ๆเลยค่ะ
ถ้าเป็นสุเดียวกัน ฝากบอกว่าคิดถึงด้วยนะคะ


โดย: pompoko IP: 124.120.20.190 วันที่: 21 เมษายน 2550 เวลา:15:02:53 น.  

 
เพลงโดนจายยย
ฟังแล้วคิดถึงมามี้ที่บ้าน 555


โดย: new IP: 24.168.39.141 วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:1:13:22 น.  

 
ท่าทางจะใช่แน่ๆ สุ สาวจุฬา น่ารัก ตัวกระปุกลุก อิอิ ใจดีมาก ช่วยเราหางานจ้า


โดย: สหมิว (Be a good guy ) วันที่: 28 พฤษภาคม 2550 เวลา:3:39:44 น.  

 
ดีใจด้วยคับ
คนดีๆก็มีแต่ใช้เวลาหาหน่อยเท่านั้นเนอะ

ต่อโลดดดด


โดย: Kurt Narris วันที่: 28 พฤษภาคม 2550 เวลา:6:30:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Be a good guy
Location :
New York CityBoy United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เด็กจากทุ่งกุลาร้องไห้ฯฝันไกลในนิวยอร์ค
Friends' blogs
[Add Be a good guy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.