บล็อควันนี้จะพาไปแนวตะเข็บชายแดนกันค่ะ
ไปหม่ำฉลองวันเกิด(ล่วงหน้า)กันที่ฝั่งฝรั่งเศส อิ่มแล้วขับรถข้ามแดนไปฝั่งสวิส
เดินขึ้นเขาย่อยอาหาร แวะชมน้ำตก Saut du doubs ก่อนจะนั่งเรือชิลๆกลับมาฝั่งฝรั่งเศส
~ จบวันดีๆอีกหนึ่งวัน ~
ร้าน
Le France เป็นห้องอาหารของโรงแรม Hotel de France เมือง VILLERS-LE-LAC
ด่านชายแดน (France-Swiss Border) อยู่ห่างไปแค่ไม่กี่เมตร
ถูกขั้นด้วยแม่น้ำ Doubs แบ่งกันคนละครึ่งค่ะ ฝั่งนึง France ฝั่งนึง Switzerland
ร้านนี้ติดดาวมิชลินด้วยนะคะ
เชฟถนัดจานปลาค่ะ เดี๋ยวต้องสั่งมาชิมกันหน่อยหล่ะ
ขนมปังร้อนๆแสนอร่อยมาแล้ว ชอบแบบมีธัญพืชมากกว่าแบบเพลน
เนยเป็นแบบมีเมล็ดพริกไทย เค็มๆมันๆ หอมอร่อยทานเพลินมาก
เครื่องดื่มไวน์ชมพูค่ะ (Vin Arbois Rosé)
ตามมาติดๆด้วย
Amuse Bouche รายการแรก
Tuile au Comté et graines de sesame กระเบื้องฝรั่งเศส (Tuile) เคลือบชีส Comté โรยงาดำ กรอบรสออกเค็มๆมันๆ
จานในร้านนี้และอุปกรณ์ต่างๆจะมี Signature ทั้งหมดเลยค่ะ
เดี๋ยวลองสังเกตจานอื่นๆด้วยนะคะ จะเป็น
ตัวย่อ H มาจากชื่อเชฟ
ต่อด้วย
Amuse bouche อีกหนึ่งรายการ
Gaspacho de Tomates กาปาซโช่มะเขือเทศ ส่วนในหลอดสีเขียวเป็นสมุนไพรรวม Garden herbs (herbs du jardin)
บีบแล้วทานรวมกัน รสออกเปรี้ยวนำ หวานตามนิดๆ อร่อยเบาๆค่ะ
หมดแล้วก็ลุย
Entrée จานแรกกันเลย
Cocktail de crabes, Tourteaux, Avocats et riz violet bio vanille et sorbet corriandre ยังคงคอนเซป เพ้นท์จานด้วยซอสเป็นชื่ออักษรย่อ H สีแดงอย่างเด่น
สีม่วงด้านล่างสุดเป็นข้าวหยุ่นๆหอมหวานนิดๆด้วยออแกนิควานิลลา
ต่อด้วยเลเยอร์ถัดมาที่ทำมาจากอะโวคาโด เนียนๆรสชาติออกมัน
และชั้นบนสุด ปิดท้ายด้วยค็อกเทลปูสองแบบ (Crabs & Tourteaux)
ตกแต่งด้วยมะเขือเทศราชินีสีเหลือง และไข่นกกะทาผ่าครึ่ง ปักยอดด้วยกระเบื้องปรุงเฮิร์ป
และที่เก๋สุดๆคือไอศครีมแบบซอร์เบท์รสผักชีมาเป็นแท่ง
อร๊าย...ไอเดียบรรเจิดจริงคุณเชฟ !!!
มันเริ่ดมากกกก อาจจะดูเยอะและหนักไปนิดนึงสำหรับที่จะเป็นจาน Starter
แต่อร่อยมากกกกกก มีครบทุกรส
โดยเฉพาะเจ้าไอติมแท่งนี้ รสชาติดีมาก เข้ากันอย่างประหลาด
หวานเย็นอร่อยหอมกลิ่นผักชีนิดๆไม่ฉุนเลย
จาน
Starter อีกจาน
Gaspacho de Tomates, Grappes du Roussillon ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ เพราะคล้าย Amuse bouche ที่ชิมไปแล้ว
มีเพิ่มขนมปังที่มี Nuts มากมายแทรกอยู่ และ portion ของ Gazpacho ที่เพิ่มขึ้นมา
แต่ก็ทานหมดเรียบ
ไม่เหลวไม่ข้น เปรี้ยวหวานเรียกความสดชื่นได้ดีค่ะ
พักท้อง ล้างปากก่อนเข้าจานหลัก
Emulsion temporaire surprise (Bergamote)
สารภาพว่าทีแรกนึกว่านมสด 555+ ยังงงว่ามายังไงเนี่ย
จริงๆแล้วเป็นเครื่องดื่มรสมะกรูดค่ะ
ดื่มหมดแบบมึนงง ให้น้อยไปหน่อยยังไม่ทันจะวิเคราะห์หมดซะแล้ว
แล้วก็เข้าจาน
Main ซึ่งเราสองคนเลือกเมนูปลาที่เชฟถนัด
แต่คนละเมนู & ใช้ปลาคนละชนิดกันค่ะ
Filet de truite Fario, Crumble amandes et Légumes à la Cardamone ปลาเทร้า (Brown trout) สองชิ้นโต กับครัมเบิลอัลมอนด์กรอบๆ
ทับมาบนผักนานาชนิดปรุงด้วยกระวาน
ปลาเนื้อนุ่ม ลื่นๆมันๆอร่อยดีค่ะ
ในเมนูไม่ได้อธิบายถึงตัวซอสนะคะ
แต่เท่าที่ชิมๆดูน่าจะเป็นเนยกับไวน์ขาวเป็นหลัก
ครี่มมี่นิดๆเลี่ยนหน่อยๆ อิ่มอร่อยแบบเบาท้อง
อีกหนึ่ง
จานหลักFilet de Loup, Caviar d'aubergines et poivrons rouges au sesame ปลา Loup วางบน Caviar d'aubergines โรยงา ซึ่งวิธีทำตัวฐานนี้คร่าวๆคือ
การนำเอามะเขือม่วงยัดไส้ด้วยกระเทียมเอาไปย่างในเตาอบแล้วถึงเอามาบดอีกทีนึง
ทานกับพริกหยวกสามสีย่าง ส่วนจุดๆที่น้ำตาลคือ Tapenade ทำมาจากมะกอกเทศค่ะ
จานนี้รสชาติเข้มข้นมาก โดยเฉพาะ Tapenade นี่ฉุนสุดๆ
แต่พอทานกับปลาซึ่งออกจืดเลยเข้ากันดีค่ะ
ลืมบอกว่าเจ้าแท่ง Stick สีดำๆที่เห็นปักในจานปลาทั้งสองจานนี้สามารถทานได้ด้วยนะคะ
แต่ก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าคืออะไร มันกรอบมากถึงมากที่สุด แต่แข็งพอที่จะไม่แตกเปราะง่าย
แถมมีกลิ่นปลาอีกต่างหาก แปลกและเก๋ดีจัง
ใครทราบชื่อและรู้ว่าทำมาจากอะไรวานบอกด้วยจ้า
จบแล้วมาต่อ
ของหวานกันหล่ะค่ะ
Thé glacé Earl Grey solide, Pêche (plate blanche) et Spéculos แก้วนี้ส่วนผสม Symmetry นะคะ
บนสุดและก้นแก้วเป็น Spéculos บิสกิตป่นกรอบๆ
ถัดเข้ามาเนื้อมูสสีขาวนวลเป็นมูสครีมชาเอิร์ลเกรย์เย็นค่ะ
ส่วนใจกลางเป็นชา Earl grey เช่นกันสอดไส้ลูกพีชพันธุ์พิเศษ
ลูกสีออกอมชมพูแบบแบนมากกว่ากลมๆทั่วไป หอมรสชาติดีสุดๆค่ะ
ชาส่วนใสๆตรงกลางที่เห็นนี้ยังเป็นน้ำชาเหลวๆอยู่เลยนะคะ รสสัมผัสหลากหลายดีจัง
เชฟยังแจกลายเซน H ไม่หยุดหย่อนบนช็อคโกแลตที่ปักด้านบนก็มี ฮ่าๆ
และก็มาถึง
ไฮไลท์ค่ะ เรียกว่าอินดี้ปลื้มมากกว่าได้เค้กวันเกิดอีกจ้า อิอิ
Sphère de Chocolat et Griottines de Fougerolles จานนี้เป็นของหวานเมนูพิเศษของคุณเชฟเลยค่ะ เป็นเมนูเชฟแนะนำและเชฟคิดค้นเอง
โดมช๊อกโกแลตกับ Cherry จากเมือง Fougerolles
พนักงานมาทำสดที่โต๊ะอาหารเลยค่ะ
ซอสเชอร์รี่อุ่นๆบรรจงราดลงบน Chocolate Dome แล้วก็แตกโผล๊ะ
ค่อยๆละลายทีละน้อยๆ
เปลือกโดมเป็นดาร์กช็อคโกแลต ข้างในเดาว่าเป็นมิลค์ช็อค คาราเมลและเชอร์รี่รัม
ราดด้วยเชอร์รี่ซอสรสเปรี้ยวหวาน หอมกลิ่นแอลกอฮอลล์ อร่อยขูดจาน ...
อิ่มแล้วแต่ทางร้านยังจัด 6 แท่ง...
มีแก้วมังกร ช็อคโกแลต แคนดี้ และเจลลี่มาเสิร์ฟตบท้าย
จบมื้อ หน้าเจ้าของวันเกิดอร่อยเปรมมากจ้า
~ Dine Out with Indy ~All stories and photos byIL & PEL | indyland.bloggang.comขอบคุณที่แวะมาชิม
Happy birthday to me ด้วยกันนะคะ
แล้วพบกันใหม่บล็อคหน้า
บายๆ