---

สวัสดีวันหยุดค่ะ


ซัมเมอร์นี้มีโอกาสไปหม่ำร้านอร่อยแบบมี Michelin star การันตีมาหลายร้านเลยค่ะ

บล็อควันนี้ชวนอร่อยกันที่เมืองน่ารักๆอย่างโกลมาร์ (Colmar)

ปัจจุบันร้านนี้ติดอันดับ 3 ใน Tripadvisor ด้วยนะคะ

ทำเลก็ดี ที่สำคัญราคาไม่แรงเหมือนร้านติดดาวมิชลินส่วนใหญ่

ใครมีโอกาสไปเยือนโกลมาร์ก็ลองแวะไปหม่ำกันได้นะคะ











ร้าน L'Atelier du Peintre (1 Michelin Star )

ในภาพตึก สีชมพูส้มๆ นี้หล่ะจ้า

ทำเลดีขนาดรถไฟนำเที่ยวของเมือง (Colmar's Little Tourist Train) แล่นผ่านหน้าร้านเลยหล่ะค่ะ

ใกล้ที่จอดรถหลักของเมืองด้วย  ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆก็อยู่ใกล้ๆ ระยะเดินสะดวกค่ะ












วันที่ไปทาน... ฝรั่งเศสแคว้นอาลซาส (Alsace) ร้อนจริงๆค่ะ

 น่าจะราวๆ 40 องศา ขอนั่งห้องแอร์ด้านในดีกว่า

จริงๆไม่มีตัวเลือกหรอกค่ะ มีโต๊ะว่างอยู่แค่ 2 โต๊ะ

ขนาดว่าไปถึงบ่ายกว่าๆแล้ว ดีที่เราโทรจองโต๊ะสองวันล่วงหน้า












ขนมปังของร้านนี้อร่อยมาก เคี้ยวเพลินสุดๆ

ส่วน Amuse Bouche ก็เข้าท่าค่ะ


Gaspacho de pastèque, céleri branche et mozzarella

&

Saumon mariné et mousse iodée



ถ้วยสีส้มแดงเป็นกาปาซโช่แตงโม กับเซเลอรี่และชีสมอสเซอเรลล่าชิ้นเล็กชิ้นน้อย

ถ้วยสีขาว เป็นมูสไอโอดีนสอดไส้ด้วย Salmon หมัก

อินดี้ลืมแหวกโชว์แซลมอน แบบว่าอร่อยจัดจ้วงเรียบอย่างไว












เริ่มลุยจริงจังด้วย Entrée จานแรก

  Effeuillé de haddock fumé et crevettes, Guacamole et griottes,
Pois gourmands à la pistache


จานนี้ของอินดี้ เป็นปลา Haddock รมควันและกุ้ง

ฐานสีเขียวนวลเป็นกัวคาโมเล่ (Guacamole) อะโวคาโดดิ๊ปนั่นเอง

 ส่วนซอสสีแดงทำมาจากเชอร์รี่ค่ะ ออกเปรี้ยวนำหวานตาม

ท๊อปด้วยถั่ว Pois gourmands และโรยด้วยถั่วพิสตาชิโออีกทีนึง



จานนี้อร่อยสดชื่นดีค่ะ ชอบเป็นพิเศษตรงมูสอโวคาโดกัวคาโมเล่

รสออกมันเนื้อเนียนนุ่มสุดๆ ทานกับซีฟู้ดและซอสรสออกเปรี้ยวใสๆ

ตบท้ายด้วยถั่วลันเตาเคี้ยวกรอบ ทำได้ดีมาก












ส่วนคุณเพื่อนสั่งเมนู Starter เบาๆ เพราะข้างนอกร้อนจัด


  Crème froide de petits pois,
Rémoulade de champignons, Emulsion amandes



มื้อนี้ไวน์ก็ไม่ได้สั่งนะคะ ร้อนจริงอะไรจริง

อยากทานแต่น้ำเปล่า ดื่มกันเป็นลิตรๆ  คอร์สอาหารไม่แพงแต่ไปหนักน้ำแร่ 

จานนี้เป็นครีมถั่ว Petits Pois แบบเย็น

ถั่วคนละชนิดกับถั่วจานก่อนนะคะ แต่น่าจะตระกูลถั่วลันเตาเหมือนกัน

ด้านในซ่อนไข่เยิ้มกับสไลด์เห็ดแชมปิญอง

ส่วนมูสโฟมด้านบนทำมาจากอัลมอนด์ค่ะ



อร่อยแบบเบาๆ สมใจคนสั่งเค้าหล่ะ

เห็นเขียวๆแบบนี้  ไม่มีกลิ่นถั่วเหม็นเขียวแบบนั้นนะคะ ฮา

เหมือนทานซุปข้นๆน่ะค่ะ ละเลียดเนียนๆทานสบายจ้า












คนแน่นร้าน แต่เชฟจัดสรรเวลาดีเสริฟค่อนข้างต่อเนื่อง
(ยกเว้นช่วงของหวานที่มีรอนานนิดนึง)


ตอนนี้ถึงจาน Main แล้วค่ะ

Truite de mer rôtie et rillettes de crabe,
Pommes de terre ratte et poireaux mitonnés, Beurre battu au caviar d'avruga



ปลาเทร้าจากทะเล (Sea Trout) อบมาตรงกลางยังไม่สุกมาก ถูกใจจัง

ท๊อปด้วยสีเหลืองๆคือ รีเยตเนื้อปู (Rillettes ลักษณะคล้ายกับปาเต้ Pâté)

ส่วนฐานประกอบไปด้วยมันฝรั่งขี้หนู กระเทียมต้น (Leek)

ตัวซอสเนยตีเคี่ยวรวมกับไข่ปลา

สุดท้ายเม็ดดำๆเป็นไข่ปลา/คาเวียร์ (Avruga caviar)



จานนี้อร่อยพอประมาณค่ะ วัตถุดิบคุณภาพทั้งนั้น

แต่เอาจริงๆจะออกจืดไปซักนิดนึง ไม่เข้มข้นนัก

หอมเนยและก็หมดเรียบอีกตามเคย












อีกหนึ่งจานหลัก

Magret de canard grillé, Mousseline de cèleri,
Jus au cassis et girolles à l'estragon



จานหนักๆเน้นๆต้องเมนูนี้เลย

เป็ดย่าง รองด้วยฐานเนื้อมูสสีครีมทำมาจากเซเลอรี่

ซอสแดงผิดคลาดไม่ใช่ไวน์แดงนะเออ แต่เป็นกาซีส (Cassis) อร่อยเข้มไม่แพ้กัน

ส่วนด้านบนท๊อปมาด้วยเซเลอรี่ มันฝรั่ง หั่นเต๋า

และเห็ดสีออกน้ำตาลๆอย่าง Girolles (EN: Golden Chanterelle) กับเฮิร์ป Tarragon

เห็ดนี้จัดเป็น Excellent edible mushroom หรือสุดยอดเห็ดกินได้เชียวนา

เพิ่มข้อมูลให้นิดนึง เนื้อค่อนข้างแน่น พบเห็นตามเมนูร้านอาหารบ่อยๆในช่วงฤดูร้อน

กลิ่นของมันจะคล้ายแอพริคอต ส่วนรสชาติจะละหม้ายพริกหวาน/พริกหยวกนิดๆด้วยค่ะ












ชิมแล้ว อร่อยโดนใจ มากสำหรับจานนี้ 

มาแบบสุกนิดๆ เนื้อยังชมพูๆอยู่เลย  Portion เกินอิ่มให้หลายชิ้นมาก

เป็ดเนื้อแน่นและก็เนื้อนุ่มด้วยค่ะ ซอสเข้มข้น เห็ดก็เคี้ยวหนุบหนับดีจัง












หมดจานหลักมาต่อ ของหวาน กันจ้า

La voluptueuse tasse de chocolat,
sauce caramel épicé et glace café (vanille)


ตลกชื่อเมนู La voluptueuse tasse แปลตรงๆแปลว่าถ้วยอันเย้ายวน 555+

จะเป็นช็อคโกแลตครีมข้นๆที่ก้นถ้วยค่ะ ท๊อปด้วยไอศครีม และช็อคโกแลตบิสกิต

ราดด้วยสไปซี่คาราเมล(ประมาณว่ามีกลิ่นขิง กลิ่นอบเชย) อีกที

สุดท้ายปักดาร์กช๊อกโกแลตขูด




ขอเล่านิดนึง

เดิมทีตามเมนูเป็นไอศครีมกาแฟ แต่อินดี้ไม่อยากทานรสนี้วันนั้น
ตอนออเดอร์เลยขอเปลี่ยนเป็นไอติมช๊อคโกแลต พนักงานก็จดๆไป สักพักก็เดินมาบอกว่า
เชฟเสนอเป็นไอศครีมรสวานิลลาแทน จะดีกว่ามั้ยเพราะในถ้วยมีช๊อคโกแลตหลายองค์ประกอบแล้ว

กรี๊ด... เชฟใส่ใจมว๊ากกกกกกก 

กลัวเราเอียน chocolate แถมช่วยออกไอเดียว่าอะไรเข้าท่า
ส่วนรสชาติ อร่อยหายห่วง จริงๆประทับจิตตั้งแต่เชฟใส่ใจดีเทลเล็กๆน้อยๆแล้วหล่ะ ^^












และ Dessert จานสุดท้ายของมื้อ

Tarte fine à l'abricot, Glace pistache


คุณผู้ชายสั่งทาร์ตแอพริคอตแบบบาง มาพร้อมกับไอศครีมรสพิสตาชิโอ

อินดี้ไม่ได้ชิมนะคะ แต่เห็นหมดอย่างไว แถมบ่นว่าเล็กไปมั้ย อยากได้อีก ฮ่าๆ





















~ Dine Out with Indy ~


All stories and photos by
IL & PEL | indyland.bloggang.com






ขอบคุณที่แวะมาชิมด้วยกันนะคะ

แล้วพบกันใหม่บล็อคหน้า

บายๆ






-:  You may also like  :-