สวัสดีค่ะเพื่อนๆ บล็อคนี้เป็นตอนสุดท้ายของ Day Trip ชมมองบลังค์จาก Aiguille du Midi แล้วค่ะ
อุ่นเครื่อง ... คลิกลิงค์ตามไปย้อนความเดิมกันได้นะคะ
❉ ธารน้ำแข็ง & หิมะหน้าร้อน @ Plan de l'Aiguille จุด Stop ก่อนไปชมมงบลังค์ใกล้ๆค่ะ ❉ เขยิบเข้าใกล้มองบลังค์ @ Aiguille du Midi วิวรอบตัว 360 องศา สูง หนาว สวย เสียว มากมาย
... เท้าความตอนที่แล้ว
จบด้วยภาพภูเขา
Matterhorn อันโด่งดังในเมือง Zermatt ประเทศ Switzerland
โลโก้สำคัญของช๊อคโกแลต Toblerone และ Paramount Pictures
เดินชมรอบๆของจุดชมวิวชั้นนี้กันต่อจ้า
หินเป็นแท่งรูปทรงประหลาด
Le Piton Sud มีจุด Lookout เดินไปชมใกล้ๆได้ค่ะ
ช่วงหน้าร้อนมีการก่อสร้างและซ่อมแซมเป็นบางจุด
ดูจากแผนโครงการในอนาคตแล้ว
มาคราวหน้าคงมีมุมเด็ดๆเพิ่มขึ้นอีกมากมายเป็นแน่
ลอดอุโมงค์น้ำแข็ง
Stop & watch !
ส่องไปเจอ Mont Blanc เต็มๆจังๆตรงหน้าเลย
ยามไร้หิมะปกคลุม เห็นหินภูเขาก้อนโต แหลมคมทั้งนั้นเลย
เดินไปอีกทิศ วิวธารน้ำแข็ง
Glacier des Bossons อย่างงาม
มุมมองจากความสูงระดับนี้ ทำให้เห็นจุดเริ่มต้นการเคลื่อนตัวของกลาเซียร์
ถัดไปอีกนิด จะเห็นตึกสีน้ำตาลที่ตั้งบนภูเขาอีกฝั่งนึง
วิวด้านนั้นจะเห็นเมือง
Chamonix ชัดเจนกว่า
มองมุมสูงจะเห็นยอดเข็มแหลมๆสีทอง
เอกุย ดู มิดี (Aiguille du Midi) ภาษาอังกฤษคือ
Needle of the Southทีมาของชื่อ...
เมื่อเรามองจากหน้าโบสถ์ของเมืองชาโมนี เข็มนี้จะชี้ไปทางทิศใต้
ยอดสูงๆนี้นี่แหละที่เราจะขึ้นลิฟท์ต่อไปชมวิวด้านบนกัน
คิวขึ้นลิฟท์ยาวมาก จุได้รอบละ 16 คนเท่านั้น
ระหว่างนั้นเลยไปเดินฆ่าเวลาที่
Musée de l'Alpinismeเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมๆ บอกเล่าเรื่องราวของการปีนเขาพิชิตยอดมองบลังค์
อุณหภูมิกลางวันในหน้าร้อนแดดเปรี้ยงอยู่ที่ 4 องศาเซลเซียส
มาหน้าหนาวคงสนุกพิลึก
เข้า Lift อัดกันเป็นปลากระป๋อง
มีตัวเลขบอกความสูงด้วย จอดปลายทางที่
3842 m แม่นแล้ววว...
ในที่สุดก็มาถึง
Summit terrace of Aiguille du Midi
จุดสูงสุดและใกล้ที่สุดในการชมมองบลังค์แบบไม่ต้องปีนเขา
มองบลังค์ (Mt. Blanc
4807 m) ภูเขาที่สูงที่สุดในสหภาพยุโรป (European Union)
Slope ขาวๆหิมะเนียนๆ
อยากจะวิ่งไปกระโดดบนนั้นจัง พอเหนื่อยก็หยิบเฮลบลูบอยมาราดทำน้ำแข็งไสทาน กร๊ากๆๆ
ภาพข้างล่างนี้
ลองเพ่งดีๆ จะเห็นจุดสีดำเล็กๆนับร้อย เหล่านั้นคือหลายชีวิตของนักไต่เขามืออาชีพ
ตอนอยู่บนนั้น... อินดี้นั่งนับกันเล่นๆ เกิน 70 คนแน่ๆค่ะ
พี่ท่านปีนกันเหมือนง่ายจริงๆนิ ข้าน้อยขอคารวะสามจอก ฮ่าๆ
จุดชมวิวบนนี้ 360 องศา
ชมวิวสวยๆกันเพลินเลยหล่ะ
นกตัวน้อยท่ามกลางขุนเขาอันใหญ่ยิ่ง สยายปีกบินไปไกล จับภาพคู่มองบลังค์มาได้หนึ่งใบ
วิวจะคือๆกันกับจุดชมวิวชั้นล่าง แต่ความสูงที่มากกว่าทำให้มุมมองต่างไป
จุใจกับวิวรอบด้าน
ล้อมรอบตัวเองด้วยธรรมชาติแบบนี้จัง
ซูมๆไปเจอกระท่อมพักแรมของนักปีนเขา
Refuge des Cosmiquesมองไกลๆเหมือนจะเล็ก แต่จริงๆจุคนได้ร่วมร้อยเชียวนา
เป็นจุดพักค้างคืนก่อนพิชิตยอดมองบลังค์วันต่อๆไป
จริงๆยังมีอีกหลายกระท่อมเลยนะคะ
แต่สังเกตและจับจุดได้ยากเมื่อเทียบกับ Scale ภูเขาที่ใหญ่มากๆแบบนี้
อีกฝั่งไปชมวิว Panorama กันค่ะ
ไล่จากฝรั่งเศสฝั่งซ้ายของภาพไปถึงสวิสเซอร์แลนด์ฝั่งขวา
ตรงกลางในหุบเขาคือเมืองชาร์โมนีนั่นเอง
เราขึ้น Cable car มาไกลมากเลย
ตึกฝั่งนู้นกับเทือกเขาอีกด้าน
ช่วง Winter จะสวยมากๆขาวโพลนด้วยหิมะทุกยอดเขา
ยังพอจำสะพาน Centre Footbridge สูง & เสียวในบล็อคก่อนกันได้นะคะ
ภาพ Top view นี้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่าเชื่อมระหว่างสองภูเขา
จุดชมวิวของทั้งสองตึกมีมากมาย
ค่าตั๋วที่ว่าแพงพอขึ้นมาแล้วขอบอกว่า
สุดคุ้ม ! เลยจ้า
ส่วนจุดขึ้นลงเคเบิลคาร์มองไม่เห็นนะคะ เพราะตึกบังอยู่นั่นเอง
อินดี้อยู่บนนั้นหลายชั่วโมงทีเดียว สรุปว่าเดย์ทริปชม Mont Blanc แบบใกล้ๆวันนี้
ประทับใจ มากค่ะ
ลืมบอกไปว่าถ้าใครกลัวหนาว ไม่ต้องกังวลนะคะ
มีจุดชมวิวแบบ Indoor ชมผ่านกระจกด้วยจ้า
ร้านอาหารก็มีนะคะ แต่ได้ข่าวว่าไม่อร่อย แต่วิวสวยอาจจะช่วยคุณได้ อิอิ
ของที่ระลึกซื้อข้างล่างสวย & ถูกกว่านะจ๊ะ อย่าพลาดสอยมาเด็ดขาด
แอบขำทิชชูทำเป็นธนบัตร 100 ยูโร (หรือประมาณ 4000 บาท)
อยากประชดค่าเงินจะซื้อกลับมาเช็ดก้น เช็ดน้ำมูกก็สะใจดี ชิมิ
~ Travel with Indy ~All stories and photos byIL & PEL | indyland.bloggang.comขอบคุณที่แวะมาเที่ยวด้วยกันนะคะ
แล้วพบกันใหม่บล็อคหน้า
บายๆ