◕‿ ดินเนอร์อาหารฝรั่งเศส @ Le M o n t c e n i s ร้านเจ้าเก่าที่ยังคงความอร่อยไว้ไม่เปลี่ยนแปลง ‿◕
ชื่อร้าน : Le Montcenis
รายการอาหาร : French Cuisine
ที่ตั้งร้าน : 2 pl Champ-de-Foire, 71710 Montcenis, France
พิกัด GPS : 46° 47' 31.60" N 4° 23' 20.34" E
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาอากาศที่ฝรั่งเศสอุ่นขึ้นมากเลยค่ะ ปีนี้ Spring มาช้าหน่อย
แดดสวยฟ้าใสชวนให้อยากออกนอกบ้าน ^^ เลยออกไปปิคนิคกันที่ทะเลสาบ เดินป่าชมธรรมชาติ
ก่อนจะมาจบวันดีๆในที่เดิมๆกับอาหารอร่อยเช่นเคย
ร้าน
Le Montcenis ร้านนี้อินดี้เคยรีวิวไว้แล้วหนนึง อร่อยมากๆเช่นกัน
>> เว่อร์ชั่นเก่าตอน Winter สามารถ
CLICK ลิงค์ไปชิมย้อนหลังได้จ้า <<
◕‿ ดินเนอร์อาหารฝรั่งเศสในห้องเก็บไวน์เก่า @ Le Montcenis วันนี้มีเมนูหอยทากมาให้ชิมด้วยค่ะ ‿◕ลงบรรยากาศร้านคราวก่อนไว้เยอะแล้ว แบบเต็มๆชมได้ที่ลิงค์ด้านบน
... โดยรวมก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ...
มีเพียง Collection แมวเหมียว ที่เปลี่ยนเป็นงานเพ้นท์และรูปปั้นศิลปะแทน
(ถ้าสนใจสามารถซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านได้ด้วยนะคะ)
... วันนี้ไม่ได้จองล่วงหน้า ...
แต่ยังได้นั่งในห้องเก็บไวน์เก่า เหมือนได้ย้อนความหลัง อิอิ
ในช่วงวันอุ่นๆแดดดีๆแบบนี้ โต๊ะหน้าร้านแบบ Outdoor จะเต็มก่อนค่ะ
ต่างจากหน้าหนาวครั้งก่อนที่ห้องเก็บไวน์ (ที่มีเพียงแค่สามโต๊ะ) จะเต็มแทบทุกวัน
ร้านอาหารฝรั่งเศสโดยปกติแล้ว เมนูอาหารจะเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา
อาจจะทุกอาทิตย์ ทุกเดือน หรือเปลี่ยนไปตาม Season เพื่อจะได้สอดคล้องกับวัตถุดิบตามฤดูกาล
เมนูของฤดูใบไม้ผลินี้ ยังคงเลือกยากเหมือนเคย น่าลองน่าชิมไปเสียหมด
เครื่องดื่มค่ำนี้ ... ยังปักใจขอสั่งไวน์ชมพู Rosé wine อีกซักหนค่ะ ^^
ดินเนอร์เริ่มต้นเสิร์ฟด้วย Amuse Bouche
Pulpe d'asperges et pois cassés sur lit de bisque de langoustine
et chantilly aux épices douces, Tuile à l'Emmental คราวก่อนยังจำได้เป็นมูสหอยนางรมที่อร่อยมาก
คราวนี้ก็ยังคงลักษณะเดิมคือคล้ายๆมูส มาเป็นเลเยอร์สองสี
ชั้นสีเข้มด้านล่างสุดเป็นซุปกุ้งลังกูสตีน (Langoustine Bisque) เข้มข้นหอมมาเลย
ส่วนชั้นสีเขียวทำมาจากหน่อไม่ฝรั่งและถั่ว Split peas เนียนนุ่ม
บนสุดวิปครีมสีขาวกลิ่นสไปซ์อ่อนๆ ทานกับ Tuile เคลือบชีส Emmental เค็มๆมันๆ
เวลาทานต้องตักพร้อมกันทุกชั้นแล้วเคี้ยว Tuile ไปด้วย
รวมๆแล้วสัมผัสละเมียดละไมรสชาติเข้นข้นแต่ทานสบาย
ต่อด้วย Entrée กันบ้าง
Opéra de saumon fumé (par nos soins),
courgettes et mousse de Chou fleur, Toast aux céréales et coulis d'olives noires เป็นโฮมเมดแซลมอนที่ทำการรมควันด้วยสูตรเฉพาะของทานร้าน
รสชาติปลาออกมันๆเนื้อนุ่มหยุ่นๆ เค็มนิดเดียวและกลิ่นหอมด้วยค่ะ
ส่วนตัวฐานสีออกเขียวเป็นซุคกินี่เต๋า ตัวมูสครีมที่บีบด้านบนแซลมอนทำมาจากกะหล่ำดอก
จานนี้เสริฟมาพร้อมกับขนมปังปิ้ง และหน่อไม้ฝรั่งป่า (Wild asparagus) อร่อยเข้ากันมาก
ส่วนซอสที่เห็นสีดำเป็นลายเส้นๆบนจานทำมาจากมะกอกเทศ
และที่จุดเป็นวงกลมคือน้ำส้มบัลซามิกเบสกับกลิ่นดอกส้ม หอมหวานอร๊อยอร่อย
และ Starter อีกจานเป็น
Rosace de Paleron de Boeuf aux graines de moutarde,
Salade de lentilles vertes et carotte, vinaigrette aux herbes ทานปลาไปแล้วเปลี่ยนมาทานเนื้อวัวปรุงด้วยเฮร์ปกับเมล็ดมัสตาร์ดกันบ้างค่ะ
ที่เห็นตรงกลางเป็นแผ่นเครปซ่อนข้างในด้วยถั่ว Lentil แต่งด้วยผักสลัด แครอทและหน่อไม้ฝรั่งป่า
ซอสเป็นวินนะเกรท หลักๆจากน้ำมันมะกอก น้ำส้มบัลซามิก และเฮิร์ป
ได้ชิมชิ้นนึง รสชาติเหมือนเนื้อหมักสมุนไพร อร่อยใช้ได้เลยค่ะ
ตามมาติดๆด้วย จานหลัก จานแรก
Dos de Grondin rôti, crêpe parmentière au poireau et Chorizo,
Velouté de volaille au gingembre et romarin ปลานกฮูก (Grondin/ Flying gurnard) ย่างแบบเกรียมๆที่ด้านนอก
รองฐานด้วยแพนเค้กแบบหนาที่มีส่วนผสมของมันฝรั่ง กระเทียมต้น (Leek) และไส้กรอก Chorizo รสเผ็ดนิดๆ
ตัวซอสทำมาจากซุปไก่ ขิง และโรสแมรี่
ปลาสดชิ้นโต เกรียมนอกนุ่มใน ทานกับแพนเค้กรสจัดจ้าน และครีมซอสรสชาติแปลกใหม่
ถือว่าลงตัวทีเดียวค่ะ ^^
จาน Main อีกจานเป็น
Poitrine fondante de Pintade fermière cuisinée lentement,
Pulpe de céleri rave aux amandes et carotte glacée ส่วนอกของไก่ต๊อกบ้านปรุงแบบ Slow cook
เสิร์ฟคู่มากับเซเลอรี่บดโรยอัลมอนด์สไลด์ มะเขือเทศและเบบี้แครอท
หนังไก่ต๊อกนุ่มไม่หนาจนเกินไป เนื้อส่วนอกก็ Tender แบบสุดๆ
ซอสไม่ได้แจงในเมนู แต่เท่าที่ชิมหลักๆต้องมีไวน์แดงอย่างแน่นอน
ไม่ข้นแต่รสเข้มกลมกล่อมซะเหลือเกิน อร่อยล้ำ
มื้อนี้งดชีส ข้ามมาที่ของหวานกันเลยนะคะ
Tranparence de crème légère vanille, pulpe d'oranges et fraises... ไลท์ครีมวานิลลารสชาติเบาๆคล้ายมูส
เลเยอร์ด้านบนสีออกเหลืองเป็นเจลลี่เนื้อส้ม ท็อปด้วยสตอร์เบอร์รี่สดอีกทีนึง
เสริฟพร้อม Tuile เคลือบถั่วพิสตาชิโอ
แก้วนี้ทานแล้วสดชื่นดีค่ะ เปรี้ยวๆหวานๆ
และ Dessert อีกหนึ่งรายการ
Ganache de chocolat noir "Tanzanie" au coeur de framboise coulant,
Gelée de citron jaune et sorbet à la rhubarbe จานนี้มีหลายอย่าง อร่อยๆทั้งนั้น
ทีเด็ดเลยคือ ... กานาชดาร์กช็อคโกแลตจากแทนซาเนีย
เข้มข้นถูกใจคอช็อคโกแลตอย่างอินดี้จริงๆ มีตัดเปรี้ยวด้วยซอสราสเบอร์รี่ตรงกลาง
ในถ้วยแก้ว เป็นเจลลี่เลม่อน หย่อนราสเบอร์รี่มาให้หนึ่งลูก
จะทานกับสตอร์เบอร์รี่สดด้วยก็ได้ อร่อยอีกแล้ว
สุดท้ายเป็นซอร์เบต์รูห์บาร์บ(Rhubarb Sorbet) ในถ้วยที่ทำจากช๊อคโกแลตทานได้ทั้งหมด
แจ่มมากไอศครีมรสนี้ ถูกใจใช่เลย รสออกเปรี้ยวๆหวานๆหอมมากมาย
ปิดมื้อจริงๆด้วย Mignardises ของแถมที่ก็อร๊อยอร่อย
Gelée de Corossol sur coulis de cerises,
Tuile aux amandes et écorces d'orange หน้าตาเหมือนจะธรรมดาแต่รสชาติแปลกได้อีก
เนื้อสัมผัสเนียนหยุ่นๆประมาณลูกครึ่งมูสกับเจลลี่ค่ะ
สีออกม่วงเดาไม่ยากเป็นเจลลี่รสเชอร์รี่ (Cherry jelly)
ส่วนชั้นสีขาวเป็น Soursop แปลเป็นไทยคือทุเรียนเทศ/ทุเรียนน้ำ
ทางร้านบอกว่ารสชาติจะผสมผสานระหว่าง มะม่วง สัปปะรด และ เสารส
ทานแล้วก็เป็นจริงตามนั้น อัตราส่วนของมูสทั้งสองชั้นทำได้ลงตัวมาก
ทานไปพร้อมๆกับ Tuile เปลือกส้มอร่อยจริงๆค่ะ
ตั้งแต่ต้นจนจบ ยังคง Top Form แบบนี้
คงเป็นคำตอบว่า ... น่าจะต้องมีครั้งที่ 3 4 5 ... อิอิ
~ Dine Out with Indy ~ขอบคุณที่แวะมาชิมด้วยกันนะคะ
แล้วพบกันใหม่บล็อคหน้า
บายๆ