บรรยากาศร้านไม่มีมาฝากนะคะ
โดยรวมเรียบง่าย(ไปนิดนึง) แต่นั่งสบายเหมาะแก่การเม้าท์มอยค่ะ
มาดูรายการอาหารกันเลย ...เมนูประจำเดือนสิงหาคม
รับออเดอร์เรียบร้อย ก็มีขนมปังมาให้เลือก 4-5 แบบ
ส่วนไวน์ สั่งมาลองทั้งไวน์ขาวและไวน์แดงอย่างละแก้วเท่านั้น
เก็บโควต้า Lกฮ ไว้สำหรับ Wine Tasting ตอนบ่ายค่ะ
ตามมาด้วย Mise en bouche
.. Tartelette de Haddock
Lasagne carotte-fromage de chèvre
Croustillant tapenade-escargot
Stick comté-moutarde
+ Tomates cerises ..
เสิร์ฟมาอย่างกับขบวนพาเหรด ฮ่าๆ
เริ่มจากทาร์ตปลา Haddock ขนาดจุ๋มจิ๋ม มีดอกไม้สีม่วงแปะด้านบนน่ารักเชียวค่ะ
ชิมแล้วรสชาติคล้ายๆ Quiche ประมาณนั้น
ตามมาด้วยลาซานญ่าแครอทกับ goat cheese เสิร์ฟมาในช้อน
รสชาติโอเคเลยชีสกลิ่นไม่แรงด้วย
ที่แรกสีส้มๆนึกว่าเป็นแซลมอนซะอีกค่ะ ...คุณหลอกดาว
ส่วนแท่งๆหน้าตาคล้ายทองม้วนผสมปอเปี๊ยะ
ไส้ด้านในเป็นเอสคาโก้(หอยทาก)+ตาเปนาด (เครื่องจิ้มมีมะกอกดำเป็นส่วนผสมหลัก)
เนื้อในเข้มข้นแต่ไม่ออกรสชัดเจน เคี้ยวกรอบนิดๆ
ส่วนแท่งเรียวๆ เป็นสติ๊กเคี้ยวกรุบๆรสมัสตาร์ด+ชีสกงเต้ (Comté)
รสออกเค็มๆมันๆ เคี้ยวเพลินๆเรียกน้ำย่อยค่ะ
สุดท้ายที่ไม่เคยเห็นร้านไหนเอามาขึ้นโต๊ะเป็นเรื่องเป็นราวแบบนี้
คือเจ้ามะเขือเทศลูกน้อยๆในโถแก้ว เก๋ไก๋น่าเอ็นดู๊น่าเอ็นดู
น่าจะมาจากสวนที่ร้านนี่แหละ หวานกรอบชื่นใจ
กินไปคุยไป... มี
pré-entrée ยกมาให้ ไม่ขาดตอน
.. Soupe de melon, boules de melon acidulées ..
เป็นซุปเมล่อนที่รสชาติทำเอาประหลาดใจมากๆ
คุณเชฟแกปิ๊งไอเดียเอาเมล่อนที่เป็นผลไม้ยอดฮิตสำหรับช่วงซัมเมอร์
ซึ่งปกติรสชาติจะหวานหอมมาทำใหม่ให้มีรสเปรี้ยววิ้งๆ
โดยการจับเมล่อนไปหมักกับน้ำส้มสายชูและปาสติส
Pastis รสชาติหอมๆฉุนๆ ประมาณเมล็ดยี่หร่า โป๊ยกั๊ก
เป็นเหล้าเครื่องเทศของฝรั่งเศสที่ใช้ผสมทำเครื่องดื่ม Apéritif
ต่อด้วย Entrée จานแรก
.. Omble chevalier des Cévennes,
en gravelax de concombres, fine gelée de fenouil ..
เริ่มด้วยจานปลา จัดน่ารักอย่างกะสวนดอกไม้
เป็น Arctic char ตระกูลเดียวกับแซลมอน
เนื้อเฟิร์มรสสัมผัสหยุ่นๆไม่มีกลิ่นคาวแม้แต่นิดเดียว
ด้านล่างเป็นมูสเนื้อเนียนแล้วทับด้วยเจลลี่ funnel ใสๆอีกทีนึง
ที่ลอยด้านบนเจลลี่จะเป็นเนื้อเกรปฟรุ๊ต
ส่วนลูกกลมๆสีเขียวเป็นแตงกวาจากเม็กซิโก
อร่อยค่ะ ทานเบาๆเรียกความสดชื่นได้เป็นอย่างดี
จาน Starter ลำดับต่อไป
.. Terrine de volaille, concombres mexicains, gelée à l'orange ..
จานนี้เป็นเทอรีนสัตว์ปีก สอดไส้มะเดื่อ (Fig)
บอกมารวมๆเลยต้องเดากันเอาเองนะคะว่าเป็น
ไก่ เป็ด ห่าน นก หรือ
สารพัดสัตว์อื่นๆที่บินได้
ที่เห็นเป็นผงๆหุ้มด้านนอก เป็นคล้ายๆเกล็ดขนมปังปิ้ง/ธัญพืชอบแห้ง
ส่วนที่ผ่าครึ่งสีเขียวเป็นแตงกวาเม๊กซิกันเหมือนจานที่แล้วค่ะ
จากที่ชิม ด้วยความที่ลูกมันเล็กเลยกรอบดีแต่ก็เหนียวนิดๆ
แผ่นบางๆสีออกเหลืองเป็นเจลลี่รสส้ม
โดยรวมอร่อยรสชาติดีเลยค่ะ
เนื้อเทอรีนแทรกมันนิดๆกำลังพอดี ไม่เลี่ยนจนเกินไป
มาต่อ Main Course บ้างนะคะ
.. Filet mignon de porc ..
เป็นเมนูพื้นฐานอย่าง ฟิเลมิยอง
สเต๊กหมูเนื้อนุ้มนุ่ม โปะทับด้วยครัสสมุนไพร
ท๊อปด้วยถั่วบดหยาบ ราดซอสรสออกหวานเค็ม
สอบถามคนชิม ...ตอบสั้นๆว่า
delicacy !
จานหลักถัดมาเป็นของอินดี้เอง
.. Pluma de cochon ibérique,
aubergines fumées, pommes délicatesses, ail acidulé ..
หมูดำอิเบอริโคจากสเปน ใช้เนื้อส่วนถัดมาจากคอหมูที่เรียกว่า Pluma
เนื้อนุ่มมากๆเลยค่ะ โปะทับด้วยครัสสมุนไพรเช่นกัน
ตัวฐานวาดเป็นริ้วๆนั้นคือมะเขือม่วงรมควันแล้วเอามาบด
จานนี้ซอสเข้าเนื้อ เกรียมด้านนอกแต่ด้านในนุ่มชุ่มฉ่ำ
มันฝรั่ง กระเทียม ที่เคียงมาก็เข้าคู่กันอย่างมาก อร่อยถูกใจ
หมดจานหลัก พักทาน Cheese กันก่อนจ้า
.. Fourme d'Ambert, aux pruneaux, céleri et pomme verte ..
เป็นบลูชีสจาก Auvergne
เสิร์ฟมาพร้อมกับแยมลูกพรุน แอปเปิ้ลเขียวและเซเลอรี่ซอยเป็นชิ้นเล็กๆ
เพื่อนอีกคนสั่ง Epoisses Berthout ชีสจากเบอกันดี
ถ่ายภาพไว้ทันแค่จานเดียว
จากนั้นก็มี pré-dessert ถ้วยเล็กๆมาขั้นรายการ
.. Coulis de fraise, mousse mascarpone, sorbet à la pomme verte ..
เป็นมูสมาสคาโปเน่ชีส กับไอติมซอร์เบต์แอปเปิ้ลเขียว
จริงๆด้านล่างลงไปมีซอสสตอร์เบอร์รี่ด้วยนะคะ แต่ถ่ายไม่ทันอีกล้าาวววว
ผ่านไปแล้วสองชั่วโมง มาถึงคอร์ส
Dessert ที่รอคอย
.. Autour de la fraise et du citron (sorbet yahourt-menthe) ..
หน้าตาน่ารักน่าชิมจริงๆค่ะ
ของหวานจานแรกมีชื่อว่า Around Strawberry and Lemon
ฐานเป็นเค้กเนื้อนุ่มลักษณะแบบ Genoise ทาบางๆด้วยแยมสตอร์เบอร์รี่
แล้วทับชั้นบนความหนาเท่าๆกันด้วยเลมอนเคิร์ด รสหอมหวานอมเปรี้ยวนิดๆ
แต่งหน้าด้วย
สตอร์เบอร์รี่สดๆ
และเมอแรงค์ที่กรอบนิดๆ
เสิร์ฟพร้อมคุ้กกี้ Palets au citron และซอร์เบต์มิ้นท์โยเกิร์ต
จานนี้ติอย่างเดียวที่ไอศครีมค่ะ ไม่ปลื้มๆ
ของหวานจานที่สอง เหลืองเด่นมาแต่ไกล
.. Comme une pavlova : aux saveurs d'abricot et pêche ..
เป็นขนมพาฟโลวา ที่ตั้งใจให้หน้าตาเปลี่ยนไปจากต้นฉบับ
แต่ส่วนประกอบหลักๆยังคงเดิม ทั้งเมอแรงก์ ครีม และผลไม้
ตัว Meringue หวาน-เบา-กรอบ
ถูกทำเป็นแผ่นบางๆแล้วเอามาปักแทนที่จะอยู่เป็นฐาน
โดยใช้ครีมช่วยยึดไว้ตรงกลาง
ผลไม้ธีมเหลืองได้แอพริคอตกับลูกพีชมาแทนเหล่าเบอร์รี่ที่คุ้นตา
ไอศครีมเป็นซอร์เบต์เบซิล แปลกลิ้นและกลิ่นนี่ชัดเจนเลย
ของหวานจานสุดท้าย
.. Pour les amateurs de chocolat :
crémeux Guanaja, croustillant, sablé diamant et glace caraïbe ..
ของหวานสำหรับ Chocolate Lover (ใครกันๆ... ดิฉันเอง)
อธิบายลำบาก เอาเป็นว่ามีครบทุกสัมผัสเลยค่ะ
ทั้งครีม มูส ซอส เค้ก คริสปี้ เนื้อร่วนนิดๆแบบบราวนี่ก็มี ไอศครีมก็มา
อร่อยครบเครื่อง ลงตัวทุกอย่างค่ะ
ตบท้ายด้วย Mignardise นะคะ
.. Financiers à la framboise,
Pâte de fruit à l'abricot, Opéra myrtille-chocolat ..
ตอนเริ่ม Amuse bouche ก็มาเป็นขบวน
ตอนจบ Mignardise ไม่มีน้อยหน้าค่ะ
++ จั ด เ ต็ ม ๆ ++
ตรงกลางคือขนม ฟินองเซีย/ฟินองซิเยร์ หน้าราสพ์เบอร์รี่
ก่อนสี่เหลี่ยมมีน้ำตาลทรายเคลือบมองเผินๆนึกว่าเยลลี่ใช่มั้ยหล่ะ
แต่จริงๆแล้วคือปัตเดอฟรุย หรือแยมแห้ง รส Apricot รสเข้มผลไม้มาเต็ม
ส่วนเค้กหลายชั้น ชิ้นพอดีคำ เดาไม่ยาก... Opera Cake นั่นเอง
โอเปร่าเค้กมาในรสช็อคโกแลต-บลูเบอร์รี่ค่ะ อร่อยๆ
ระหว่างรอชา กาแฟ ปิดมื้อ ...ได้มาอีกจาน
.. Marshmallows citronnés et sablés roulés ..
มาชเมลโล่กับคุกกี้ เสิร์ฟมาให้ทานเล่น
ฮึๆ... นี่กะให้กลิ้งกลับเลยชิมิคะ
พวกเรากลับกันเกือบจะโต๊ะสุดท้าย
มีโอกาสได้เจอเชฟ ทักทายกันนิดหน่อยด้วยค่ะ
อีกสองวันร้านนี้เค้าจะหยุดยาว ปิดร้านไปวาเคชั่นกัน
สงสัยว่านี่แหละคือสาเหตุ...
ที่ทำให้เสิร์ฟพาเหรด ขนมาให้ชิมกระจายขนาดนี้
ประมาณว่าเคลียร์ของหรือไม่ก็ฟิตจัดก่อนจะพักยาวไรงี้
โ ช ค ดี ของพวกเราไป
.
..
....
........
................
.................................
ก่อนจาก ...ขอแถมด้วยบรรยากาศขลังๆ
จากคลังเก็บไวน์ใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในเบอกันดี
ภาพนี้เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของทางเดินใต้ดินเก่าแก่อายุหลายร้อยปี
ระยะทางกว่า 5 กิโลเมตรที่สร้างคดเคี้ยวอยู่ใต้เมืองโบน
ไวน์สำคัญๆหลายล้านขวดถูกเก็บไว้ที่นี่ค่ะ
อีกหนึ่งไฮไลท์คือ Wine tasting มีหลากหลายให้ได้ลิ้มลอง
โดยจะเสิร์ฟเก๋ๆในถ้วย tastevin ให้เลือกชิมกันแบบไม่อั้น
ชิมเสร็จเก็บถ้วยกลับบ้านฟรี เป็นของที่ระลึกได้อีกด้วย
ใครสนใจ
เรื่องไวน์หรือ
ชอบดื่มไวน์
มีหลายที่ในเบอกันดีที่เปิดให้เข้าชมเข้าชิม ( Dégustation de vins) นะคะ
ไว้วันหลังอินดี้จะมาเล่าที่ๆเคยไปมาแล้วให้อ่านกันค่ะ
ขอบคุณที่แวะมาอร่อยด้วยกันนะคะ
แล้วพบกันใหม่เอนทรี่หน้า
บายๆ