ซื่อสัตย์ต่อตัวเอง
Group Blog
 
All Blogs
 

กินข้าวเป็นเพื่อนแม่

เวลาที่แม่เดินทางจากบ้านนอกมาเยี่ยมผม ภรรยาผมมักจะขอให้ท่านอยู่กินข้าวด้วยกันเสมอ แต่ไม่รู้ทำไม แม่กลับกินข้าวปลาไม่ค่อยลง ทั้งๆ ที่ท่านเป็นคนกินเก่งแต่ไหนแต่ไรมา บางครั้งผมพยายามคะยั้นคะยออยู่นานท่านจึงยอมกินอีกหน่อยแล้วบอกว่า “ อิ่มแล้ว “
ผมประหลาดใจมาก ตอนแม่อยู่บ้านนอกแม่จะกินข้าวได้มาก สำหรับคนทำงานในไร่แล้ว การที่จะกินข้าวครั้งละสามสี่ชามนั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดา ตอนผมอยู่บ้านนอกได้ยินแม่เล่าให้ฟังบ่อยๆ ว่า มีครั้งหนึ่งแม่ไปเยี่ยมญาติในเมือง เวลากินข้าวเห็นชามข้าวของเขาใหญ่กว่ากำปั้นนิดเดียว ใส่ข้าวแล้วเทียบกับชามใบใหญ่ที่บ้านนอกเท่ากับเศษหนึ่งส่วนสามเท่านั้น จะให้รู้สึกกังวลว่าข้าวแค่นั้นจะอื่มรึ แม่บอกว่าพวกเราคนบ้านนอกหากอยู่ในเมือง ถ้าคนในเมืองเข้าใจ และหากพวกเราทำใจได้กินมันสักแปดชามสิบชามก็ยังไหว
ทุกครั้งที่แม่มาผมจะเจาะจงเปลี่ยนเป็นชามใบใหญ่หน่อยให้ท่านโดยพาะ แต่แม่ก็ยังกินได้ไม่มากเท่าไหร่ หรือว่าอาหารไม่ถูกปาก หรือว่าปริมาณการกินของแม่น้อยลงมากขนาดนี้แล้วหรือ
มีอยู่ครั้งหนึ่ง พ่อพูดกับผมโดยบังเอิญว่า “ ทุกครั้งที่แม่มาบ้านแกกลับไปแล้วเป็นต้องกินข้าวเยอะมาก “ ผมถามพ่อครั้งแล้วครั้งเล่าว่าเรื่องมันเป็นอย่างไร พ่อจึงบอกว่า “ แล้วอย่าบอกแม่ว่าพ่อเป็นคนบอกนะ “ ความจริงมีว่าที่แท้แม่อายุมากแล้ว ฟันไม่ดีเหมือนก่อน กินอะไรช้ากว่าเก่ามาก ส่วนผมและภรรยายังหนุ่มยังสาว อาหารมื้อหนึ่งเดี๋ยวเดียวก็เรียบร้อย แม่จึงรู้สึกเกรงใจที่ยังช้าๆ กินไม่อิ่มอยู่คนเดียวบนโต๊ะ ผมจึงได้ถึงบางอ้อ นึกถึงตอนเด็กเวลาแม่พาไปเยี่ยมญาติ แม่จะสั่งแล้วสั่งอีกว่าเวลากินข้าวห้ามอิ่มเป็นคนสุดท้าย ไม่อย่างนั้นคนอื่นจะหัวเราะว่าเรางกกินไม่รู้อิ่มได้ การที่เป็นแม่ของชาวไร่ เรื่องที่ซื่อสัตย์เรียบง่ายเหล่านี้ได้ฝังรากหยั่งลึกลงในกระดูกเสียแล้ว
ตั้งแต่นั้นมาเวลาแม่มากินข้าวที่บ้าน ผมและภรรยาจะชะลอความเร็วลง กินอย่างช้าๆ เป็นเพื่อนท่าน แม่กลับกินได้ไม่น้อยเลย คิดขึ้นมาแล้วเมื่อตอนเด็กพวกเราทุกคนล้วนเคยได้รับการว่ากล่าวปลอบโยนค่อยๆ กินที่ละคำ ๆ จากแม่ไม่ใช่หรือ แล้วเราจะกินช้าๆ เป็นเพื่อนท่านในยามแก่ไม่ได้เชียวหรือ
*** พ่อแม่เป็นบุคคลที่ธรรมดาสามัญที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุด และควรค่าแก่การขอบพระคุณมากที่สุด หากมีเวลาก็กลับบ้านไปกินข้าวกับท่านบ่อยๆ จะเป็นการตอบแทนบุญคุณท่านที่ดีที่สุด

*****




 

Create Date : 28 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 28 กรกฎาคม 2553 15:48:02 น.
Counter : 384 Pageviews.  

เทพหลวี่ต้งปินรับศิษย์

หนึ่งในแปดเซียนหลวี่ต้งปินเมื่อสำเร็จเป็นเซียนแล้ว คิดอยู่เสมอว่าอยากจะหาลูกศิษย์สักคนเพื่อถ่ายทอดวิชาเซียน เขาตัดสินใจลงมาที่เมืองมนุษย์เฟ้นหาผู้ที่ไม่ละโมบสักคน แล้วถ่ายทอดวิชาทั้งหมดให้
หลวี่ต้งปินแปลงเป็นตาเฒ่าขายหมั่นโถว ติดป้ายโฆษณาไว้ที่แผงขายดังนี้ “ เงินสิบเซ็นต์กินหมั่นโถวหนึ่งอัน เงินยี่สิบเซ็นต์กินจอิ่ม “
คนจำนวนมากมาอุดหนุนหมั่นโถวของเขา แต่ทั้งหมดล้วนแต่จ่ายยี่สิบเซ็นต์เพื่อกินจนอิ่ม ไม่มีใครยอมจ่ายสิบเซ็นต์เพื่อหมั่นโถวอันเดียว
เมื่อเห็นว่าใกล้ถึงเวลาเย็นแล้ว ทันใดนั้นก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินมา เขาจ่ายสิบเซ็นต์แล้วกินหมั่นโถวอันเดียวจริงๆ หลวี่ต้งปินดีใจเกินคาด รีบเดินไปถามว่า “ ทำไมเธอจึงกินอันเดียวและไม่จ่ายยี่สิบเซ็นต์เพื่อกินจนอิ่มล่ะ “
ชายหนุ่มจนใจตอบว่า “ ฉันก็อยากเหมือนกัน เจ็บใจที่ทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือแค่สิบเซ็นต์ “

*** ความโลภทำให้คุณสูญเสียโอกาสดีๆ ไป

*****




 

Create Date : 27 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 27 กรกฎาคม 2553 15:58:38 น.
Counter : 422 Pageviews.  

คลีนิครัก

ชายคนหนึ่งต้องการแก้ปัญหาการแต่งงาน เขาเดินเข้าไปในสถานแนะนำคู่รักที่ชื่อ “ ความรัก “
พนักงานคนหนึ่งออกมาต้อนรับ บอกเขาว่า “ ตอนนี้ขอให้คุณเข้าไปในห้องข้างๆ นี้ ข้างในมีประตูหลายบาน บนบานประตูทุกบานจะมีข้อมูลของคู่รักที่คุณต้องการเพื่อให้คุณได้เลือก ขอให้โชคดี “ ชายผู้นี้กล่าวขอบคุณพนักงานแล้วเดินเข้าไปในห้องด้านข้าง
ภายในห้องมีประตูสองบาน ประตูที่หนึ่งเขียนว่า “ คู่ชีวิตตลอดกาล “ อีกประตูหนึ่งเขียนว่า “ ไม่เปลี่ยนใจจนวันตาย “ ชายผู้นี้ถือคำว่า “ ตาย “ เป็นคำไม่สิริมงคลจึงเลือกเดินเข้าประตูแรก
ต่อจากนั้นพบประตูอีกสองบาน ด้านขวาเขียนว่า “ ผมสีน้ำตาลอ่อน “ ต้องยอมรับว่าไม่รู้ทำไมผู้ชายมักจะชอบผู้หญิงผมสีน้ำตาลอ่อน ดังนั้นชายผู้นี้จึงผลักเข้าไปที่ประตูบานขวา
หลังจากเข้าไปแล้ว ยังมีประตูอีกสองบาน ด้านซ้ายเขียนว่า “ สาวสวยอายุน้อย “ ด้านขวาเขียนว่า “ สตรีและแม่หม้ายที่มากประสบการณ์ “ คิดดูก็รู้ว่าชายผู้นี้เลือกเดินเข้าไปที่ประตูด้านซ้าย
แต่ทว่า เข้าไปแล้ว ยังมีประตูอีกสองบาน ข้างบนบานหนึ่งเขียนว่า “ รักสามีของตนมาก “ และ “ ต้องการสามีอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา “ จากนั้นยังมี “ บุพการีทั้งคู่แข็งแรง “ “ ไม่มีญาติโยม “ “ ซื่อสัตย์ มีน้ำใจ ขาดประสบการณ์ “ และ “ มีพรสวรรค์ มากด้วยปัญญา “ ชายผู้นี้เลือกไปทีละประตูจนครบ
ประตูสองบานสุดท้ายนี้กล่าวสำหรับผู้ชายแล้วเป็นการตัดสินใจเลือกที่สำคัญ บนประตูเขียนไว้ว่า “ มีมรดก ร่ำรวย มีบ้านหรูหนึ่งหลัง “ และ อีกบานเขียนว่า “ อาศัยเงินเดือนยังชีพ “ ด้วยความสมเหตุสมผลชายผู้นี้เลือกปนะตูบานนแรก เขาเตรียมที่จะเลือกต่อไป เมื่อผลักประตูบานดังกล่าวออก โอ้ พระเจ้า....เขาได้มาถึงบนนถนนแล้ว
พนักงานคนนั้นเดินมาที่ชายผู้นั้นและมอบจดหมายฉบับหนึ่งแก่เขา บนกระดาษจดหมายเขียนว่า “ ขออภัย ข้อเรียกร้องของคุณสูงเกินไป ที่เรานี้ไม่เหมาะกับคุณ “

*** คนจำนวนมากก็เหมือนชายผู้นี้ที่เที่ยวตามหาความรัก ความสำเร็จทางธุรกิจ ตามหาความสมบูรณ์แบบของชีวิต ความจริงแล้วพวกเขาไม่เข้าใจว่าความไม่สมบูรณ์นั้นก็เป็นความงามอย่างหนึ่ง เหมือนวีนัสแขนขาด ผู้คนเห็นว่าสวยที่สุดเลย ฉะนั้นควรถนอมรักปัจจุบัน ความจริงแล้วการรู้จักถนอมรักก็คือความงามอย่างหนึ่ง

*****




 

Create Date : 26 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 26 กรกฎาคม 2553 13:03:20 น.
Counter : 396 Pageviews.  

คนหาปลาสองคน

ชายสองคนออกไปหาปลาด้วยกัน
พวกเขาหาปลาในแม่น้ำ ได้ปลามาจำนวนมาก ระหว่างแบ่งปลากัน ทั้งคู่เกิดข้อขัดแย้งขึ้น ต่างคนต่างพูดว่าตัวเองได้แบ่งน้อยไป อีกฝ่ายได้แบ่งมากกว่า ไม่รู้จะทำอย่างไร พวกเขาตกลงขุดบ่อไว้ข้างๆ แม่น้ำ เอาปลาทั้งหมดใส่ไว้ในนั้นชั่วคราว แล้วกลับบ้านไปเอาตาชั่งมาเพื่อแบ่งกันใหม่ แต่ว่ารอจนพวกเขากลับมาปลาในบ่อที่ขุดไว้ก็กระโดดออกลงไปในแม่น้ำหมด พวกเขาต่างรู้สึกโกรธเคือง จึงโทษกันไปโทษกันมา
นาทีนั้นพวกเขาได้ยินเสียงร้องของนกเป็ดน้ำ จึงตกลงว่าไปจับนกเป็ดน้ำกัน ขณะที่พวกเขาเข้าใกล้นกเป็ดน้ำและเล็งปืนไปที่มัน คนหนึ่งก็พูดขึ้นว่า “ ไม่ต้องรีบ พวกเราตกลงกันก่อนว่าจะแบ่งนกเป็ดน้ำอย่างไร จึงไม่ให้นกเป็ดน้ำหนีไปได้อีก “ และแล้วพวกเขาก็ทะเลาะกันเรื่องแบ่งนกเป็ดน้ำกัน เสียงทะเลาะของพวกเขาทำให้นกเป็ดน้ำตกใจและบินหนีไป แต่พวกเขาก็ยังทะเลาะกันไม่เลิก

*** นิทานเรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่า ไม่ควรยึดถือเรียกร้องความยุติธรรมในเรื่องเล็กน้อยอย่างเด็ดขาด ในความเป็นจริงนั้นความยุติธรรมไม่มีในโลก ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า ควรจะมองผลประโยชน์ระยะยาว ไม่ควรสายตาสั้นคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องหยุมหยิม

*****




 

Create Date : 25 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 25 กรกฎาคม 2553 14:30:21 น.
Counter : 400 Pageviews.  

รางวัลจากพระเจ้า

รางวัลจากพระ

ในปี 1963 เด็กหญิงชื่อ แมรี่ เบนนี เขียนจดหมายถึง หนังสือพิมพ์ Chicago Herald Tribune เนื่องจากเธอไม่เข้าใจจริงๆ เลยว่าเหตุใดเวลาที่เธอช่วยแม่ยกขนมที่เพิ่งอบเสร็จไปไว้ที่โต๊ะอาหาร สิ่งที่เธอได้รับเป็นเพียงคำชมว่า “ เด็กดี “ แต่น้องชายที่ไม่ทำอะไรเลย เอาแต่ก่อความวุ่นวายกลับได้กินขนม เธออยากถามคนที่ ” ไม่มีอะไรที่เขาไม่รู้และตอบไม่ได้ ” ที่ชื่อ ฮิลลี คัสเตอร์ ว่า พระเจ้ามีความยุติธรรมจริงหรือ ทำไมเด็กๆ เช่นเธอที่เธอพบทั้งที่บ้านและที่โรงเรียนต่างก็ถูกพระเจ้าหลงลืมไปแล้ว
ฮิลลี คัสเอตร์เป็นบรรณาธิการคอลัมพ์เด็ก “ฉันพูดเธอพูด “ แห่งหนังสือพิมพ์ Chicago Herald Tribune สิบกว่าปีมานี้ เขาได้รับจดหมายเป็นพันฉบับของเด็กๆ ที่เขียนถึงเขาเพื่อถามว่า “ ทำไมพระเจ้าไม่ให้รางวัลแก่คนดี และลงโทษคนเลว “ ทุกครั้งที่อ่านจดหมายประเภทนี้ เขารู้สึกหนักใจมาก เพราะเขาไม่รู้จะตอบปัญหาเหล่านี้อย่างไร
ขณะที่เขาไม่รู้ว่าจะตอบจดหมายของสาวน้อยมาลีอย่างไรดีนั้น เพื่อนคนหนึ่งเชิญเขาไปร่วมพิธีแต่งงาน เขารู้สึกอาจต้องขอบคุณพิธีแต่งงานครั้งนี้ ไปตลอดชีวิต ก็เพราะเขาได้พบคำตอบจากพิธีแต่งงานครั้งนี้ อีกทั้งคำตอบครั้งนี้ได้ทำให้ชื่อเสียงเขาโด่งดังในชั่วข้ามคืน
ฮิลลี คัสเตอร์ หวนระลึกถึงพิธีแต่งงานดังนี้ บาทหลวงทำพิธีหมั้นเสร็จ เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวก็แลกแหวนกัน พวกเขาอาจจะกำลังดื่มด่ำในความสุข หรือทั้งสองอาจจะตื่นเต้นไปหน่อย สรุปแล้วทั้งสองสวมแหวนให้แก่กันและกันผิดข้างคือสวมที่มือขวาทั้งคู่ บาทหลวงเห็นว่าเรื่องเป็นเช่นนี้แล้วจึงพูดอย่างอารมณ์ขันว่า “ มือขวาน่ะสวยงามสมบูรณ์แบบแล้ว ฉันคิดว่าทางที่ดีพวกเธอนำมันมาประดับที่มือซ้ายจะดีกว่า “ ฮิลลี คัสเตอร์บอกว่า มุกตลกของบาทหลวงครั้งนี้ทำให้เขากระจ่างแจ้งขึ้นมาทันที การที่มือขวาเป็นมือขวามันสมบูรณ์แบบในตัวของมันอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องไปประดับมันอีก เช่นเดียวกัน การที่คนมีคุณธรรมมักจะถูกมองข้ามก็ไม่ใช่เพราะพวกเขาสมบูรณ์แบบอยู่แล้วหรือ ต่อมา ฮิลลี คัสเตอร์ ได้ข้อสรุปว่า การที่พระเจ้าให้มือขวาได้เป็นมือขวานั้นก็คือการให้รางวัลสูงสุดแก่มือขวาอยู่แล้ว เหตุผลเดียวกัน การที่พระเจ้าให้คนดีได้เป็นคนดีก็คือรางวัลสูงสุดของคนดีนั่นเอง
หลังจากฮิลลี คัสเตอร์ ได้ค้นพบสัจธรรมข้อนี้ ดีใจอย่างยิ่ง เขาใช้หัวข้อที่ว่า “ พระเจ้าให้เธอได้เป็นเด็กดี ก็คือรางวัลสูงสุดจากพระเจ้า “ ตอบจดหมายให้ มาลี เบนนีทันที หลังจากจดหมายฉบับนี้ได้ตีพิมพ์ใน Chicago Herald Tribune ในเวลาไม่นาน ก็ได้รับการเผยแพร่ต่อในหนังสือพิมพ์กว่าพันฉบับในยุโรปและอเมริกา และได้รับการพิมพ์ซ้ำอีก ในวันเด็กของทุกๆ ปี
ไม่นานนี้ เด็กจีนคนหนึ่งไม่ทราบว่าไปพบจดหมายฉับบี้จากไหน เขาอ่านแล้ว ส่งข้อความไปยัง Chicago Herald Tribune ทางอินเตอร์เน็ท ว่า จีนโบราณมีคำพูดที่ว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เมื่อถึงเวลา กรรมต้องตามสนอง ฉันเคยไม่เข้าใจว่าทำไมคนเลวจึงยังลอยนวล แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว ความจริงพวกเขาได้รับการสนองในทันที เพราะการที่คนเลวเป็นคนเลวนั้นก็คือการลงโทษจากพระเจ้า
*** กรรมดีกรรมชั่วต้องได้รับการสนองในที่สุด การสนองนั้นบางครั้งก็สอดคล้องกับสภาพเป็นจริง เป็นรูปธรรม บางครั้งอาจจดไว้ในบัญชีของพระเจ้า อยู่ในศาลในหัวใจเรา เราไม่ควรละทิ้งการใฝ่หาความดีเพียงเพราะว่าความ “ ชั่ว “ ยังไม่ได้รับการลงโทษ

*****




 

Create Date : 24 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 24 กรกฎาคม 2553 17:15:38 น.
Counter : 409 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  

syrubbocaboro
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add syrubbocaboro's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.