ดวงอาทิตย์ขึ้นตามปกติ
ติงติงเป็นเด็กดี เขามักจะฟังคุณพ่อคุณแม่และคุณครูพูดอยู่เสมอว่า เป็นคนจะต้องมีเมตตาธรรม เมื่อเห็นผู้อื่นมีความยากลำบากควรจะให้ความช่วยเหลือ เขาจึงทำตามคำพูดของพ่อแม่และครูจริง ๆ มีอยู่วันหนึ่งเขาเห็นเพื่อนในชั้นเรียนทำความสะอาดในห้องเรียนตามลำพังอย่างไม่เต็มใจ จึงเป็นฝ่ายเสนอตัวว่าจะช่วย นักเรียนคนดังกล่าวเป็นเด็กเกเร เขาเห็นติงติงเสนอตัวเข้าช่วย จึงแอบหลบออกไป สุดท้ายติงติงจึงต้องอยู่ทำงานคนเดียวจนค่ำ วันรุ่งขึ้น ติงติงเห็นคนคนหนึ่งทำกระเป๋าเงินหล่นอยู่บนพื้นถนน เขาเก็บขึ้นมาและวิ่งตามไป ใครจะคิดว่าคนคนนั้นมองดูติงติงด้วยสายตาที่ระแวงแล้วมองดูเงินในกระเป๋าจากนั้นก็เดินจากไป ทิ้งติงติงที่ยืนคอยคำว่า ขอบคุณ อยู่ตรงนั้น ติงติงผิดหวังมาก กลับถึงบ้านจึงพูดกับพ่อของเขาว่า ผมจะไม่ทำดีอีกต่อไปแล้ว ทำไมล่ะ ลูก ติงติงเล่าเรื่องทั้งสองเรื่องให้พ่อฟัง และยังไม่ลืมเพิ่มเติมไปด้วยว่า พวกเขาแม้แต่คำว่า ขอบคุณ ยังไม่ยอมพูดกับผมสักคำ ช่างน่าเกลียดนัก คุณพ่อหัวเราะ ลูบศรีษะติงติงและพูดว่า บอกพ่อหน่อยว่าทำไมลูกจึงช่วยผู่อื่น เพราะว่าพวกท่านบอกว่าการช่วยเหลือผู้อื่นคือการทำความดี ในเมื่อเป็นการทำความดี แล้วเหตุใดลูกไม่คิดที่จะทำแล้วเพียงเพราะผู้อื่นไม่กล่าวคำว่า ขอบคุณ ล่ะ ติงติงตอบไม่ได้ คุณพ่อพูดอีกว่า ติงติง ลูกรู้ไหมว่า ดวงอาทิตย์ส่องแสงมาให้เราทุกวัน ช่วยเราอย่างไม่มีเงื่อนไข แต่พวกเราล่ะอะไรก็ไม่ได้ทำ ไม่ได้ตอบแทนมัน และก็ไม่ได้พูดคำว่า ขอบคุณ แต่ว่า ดวงอาทิตย์ก็ไม่ได้โกรธเพียงเพราะว่าเราไม่ได้ตอบแทน มันยังคงขึ้นอยู่ทุกวันมิใช่หรือ ***การช่วยเหลือผู้อื่นคือการแสดงออกของธาตุแท้ที่มีเมตตาธรรมของคนคนหนึ่ง คนที่มีเมตตาธรรมก็จะได้รับความสุขจากสิ่งที่ทำ หากว่าคุณช่วยเหลือผู้อื่นเพียงเพราะต้องการให้ผู้อื่นตอบแทนคุณ คุณจะไม่มีวันได้รับความสุขจากการกระทำนั้นๆ เลย *****
Create Date : 10 มิถุนายน 2554 |
Last Update : 10 มิถุนายน 2554 8:07:35 น. |
|
1 comments
|
Counter : 454 Pageviews. |
|
|
|