|
การประลองระหว่างเป็นกับตาย
ที่สุสานแห่งหนึ่ง ทุก ๆ สัปดาห์ชายผู้เฝ้าดูแลสุสานจะได้รับจดหมายฉบับหนึ่งกับเงิน 50 ดอลลาร์เพื่อเป็นค่าซื้อดอกไม้สดอย่างสม่ำเสมอตรงเวลา ผู้ที่ลงชื่อในจดหมายว่า หญิงชราผู้น่าสงสาร วานให้เขาช่วยซื้อดอกไม้สดวางที่หน้าหลุมศพของฮาลี (ลูกชายผู้เป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในชีวิตของเธอแต่กลับนอนอยู่ในหลุม) ทุกอาทิตย์ ชายดูแลสุสานผู้ซื่อสัตย์นี้ได้รับจดหมายและเงินแล้วก็จะซื้อดอกไม้กำหนึ่งนำมาไว้หน้าหลุมศพของฮาลี วันหนึ่ง หญิงชราผู้น่าสงสาร ได้ปรากฎตัวในที่สุด เธอนั่งรถคันเล็กมาที่สุสาน แต่กลับไม่ได้ลงจากรถ ส่งคนขับรถมาเชิญชายผู้ดูแลสุสาน บอกว่า หญิงชราที่วานให้คุณส่งดอกไม้ให้ลูกชายเธอทุกอาทิตย์นั้นเชิญให้คุณไปพูดอะไรกับเธอสักหลายคำ เนื่องจากขาของเธอเป็นอัมพาตเดินไม่สะดวก ชายผู้ดูแลสุสานตามคนขับรถมายืนอยู่ตรงหน้า หญิงชราผู้น่าสงสาร เธอเป็นหญิงสูงอายุและสุขภาพแย่มาก ใบหน้าที่สูงศักดิ์แต่ก็ไม่อาจปิดบังซ่อนเร้นร่องรอยความเจ็บปวดจากโรคภัยและความสิ้นหวังในชีวิตของเธอได้ ฉันคือหญิงชราคนที่ส่งจดหมายนั้น เธอพูดเสียงขาด ๆ หาย ๆ หลายปีมานี้ต้องรบกวนคุณแล้ว ผมส่งดอกไม้ตามกำหนดทุก ๆอาทิตย์ครับ ชายผู้ดูแลสุสานตอบ ขอบคุณมาก เธอพูดต่อ หมอบอกว่าฉันคงจะอยู่ในโลกนี้ได้อีกไม่นาน ตายไปก็ดีเหมือนกัน ฉันมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ไม่รู้สึกว่ามีความหมายอะไรสักนิดเลย แต่ฉันเป็นห่วงว่าไม่มีใครที่จะส่งดอกไม้ให้ลูกชายฉันอีกแล้ว ชายผู้ดูแลสุสานถามขึ้นในทันทีว่า คุณนายครับ คุณเคยไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไหมครับ เด็ก ๆ ที่นั่นล้วนไม่มีพ่อแม่ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า คุณนายครับ ต้องขออภัยที่ผมละลาบละล้วง ชายผู้ดูแลสุสานพูด คนที่นอนอยู่ที่ตรงนี้ มีใครบ้างที่มีชีวิตอยู่ กับการที่จะส่งดอกไม้กำใหญ่ ๆ ให้กับคนตายที่ไม่สามารถรับรู้ถึงความสุขและความเจ็บปวดของผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่นั้น ทำไมไม่เก็บเงินค่าดอกไม้ไว้ให้กับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ล่ะครับ หญิงชราผู้น่าสงสาร ได้ฟังคำพูดของชายผู้ดูแลสุสาน นิ่งเงียบไม่พูดไปนาน บอกคนขับให้ออกรถไป ชายผู้ดูแลสุสานคิดในใจ คำพูดของตนที่พูดต่อหญิงชราที่โดดเดี่ยวออกจะเกินไปกระมัง ไม่คาดว่าหลังจากนั้นหลายเดือน รถคันเล็กที่บรรทุก หญิงชราผู้น่าสงสาร ก็มาถึงสุสาน ครั้งนี้คนที่ขับรถไม่ใช่คนขับคนนั้น แต่เป็น หญิงชราผู้น่าสงสาร เอง เธอดีอกดีใจกระโดดลงจากรถ พูดกับชายผู้ดูแลสุสานอย่างสดชื่นเบิกบานว่า เฮ้ ข้อเสนอแนะของคุณก่อให้เกิดความมหัศจรรย์ ฉันเอาเงินทั้งหมดบริจาคให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ความสุขของเด็กกำพร้าเหล่านั้นทำให้ฉันสะเทือนใจอย่างสุดซึ้ง ทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันยังมีประโยชน์บ้าง ยิ่งคิดไม่ถึงเลยว่าการช่วยเหลือผู้อื่นเช่นนี้ได้ประโยชน์จริง ๆ ขาของฉันกลับรักษาหายได้ด้วยความมหัศจรรย์นี้ ***ความหมายของชีวิตอยู่ที่ได้ทำประโยชน์ให้แก่สังคม แต่หาใช่การใช้เวลาและเงินทองอย่างสุรุ่ยสุร่ายโดยเปล่าประโยชน์ ขอเพียงแต่คุณสามารถทำอะไรให้แก่สังคม คุณก็จะไม่รู้สึกว่าชีวิตผ่านไปโดยไร้ความหมาย *****
Create Date : 04 กรกฎาคม 2554 |
Last Update : 4 กรกฎาคม 2554 5:43:11 น. |
|
0 comments
|
Counter : 493 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|