ซื่อสัตย์ต่อตัวเอง
Group Blog
 
All Blogs
 

จดหมายถึงพระเจ้า

ลูกเห็บขนาดใหญ่ตกลงมาชั่วโมงหนึ่งเต็ม ๆ ข้าวโพดในไร่แหลกลาญไม่มีเหลือ Lai Enke ชาวไร่ผู้ยากจนข้นแค้นที่กำลังเผชิญหน้ากับการล้มละลาย สิ้นเนื้อประดาตัว บัดนี้นี้ยิ่งเศร้าเสียใจหนักไปอีก
แต่ทว่า พอตกค่ำ เขาพลันนึกขึ้นได้ว่า “ พวกเราไม่จำเป็นต้องทุกข์ใจจนเกินไป อย่าลืมว่าพระเจ้าไม่มีวันปล่อยให้เราอดตาย ”
“ ขอพระเจ้าช่วยเราให้พ้นจากทะเลแห่งความทุข์นี้ ” ประกายไฟแห่งความหวังลุกโชนโชติช่วงขึ้นในใจของ
Lai Enke ตลอดทั้งคืน อย่าเห็นว่าเขาเป็นเพียงชายชาวไร่ที่หยาบกร้าน เขายังพอมีความรู้อยู่บ้าง
ฟ้าเพิ่งจะสาง เขาก็รีบตื่นขึ้นเขียนจดหมายว่า “พระผู้เป็นเจ้า หากท่านไม่ยอมช่วยแล้ว ปีนี้พวกเราจะต้องอดอยากหิวโซ ลูกต้องการเงิน 100 เปโซเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์ ซื้อเสบียงอาหาร เพื่อจะทำการเพาะปลูกใหม่อีกครั้ง เพื่อประคองชีพให้อยู่รอด สาเหตุเป็นเพราะลูกเห็บ..........”
เขาเพียงจ่าหน้าซองถึงผู้รับว่า “พราะเจ้า“ สองคำเท่านั้น หลังจากเอาจดหมายใส่ซองแล้ว เดินทางเข้าตัวเมืองด้วยหัวใจที่เต้นระทึก มาถึงที่ทำการไปรษณีย์ เขาซื้อแสตมป์ติดที่หน้าซองแล้วหย่อนลงตู้ไปรษณีย์
ที่ทำการไปรษณีย์มีพนักงานคนหนึ่งเป็นทั้งบุรุษไปรษณีย์ และทำหน้าที่พนักงานทั่วไปด้วย เขาหยิบจดหมายฉบับที่ส่งถึงพระเจ้าออกจากตู้ไปรษณีย์ ขณะที่ยื่นให้กับหัวหน้าหน่วยนั้นอดไม่ได้ที่จะหัวเราะก๊ากออกมาดัง ๆ พระเจ้าอยู่ที่ไหนหรือ เขาทำหน้าที่บุรุษไปรษณีย์มานานหลายปี แต่ไหนแต่ไรมายังไม่เคยรับรู้ที่อยู่ของพระเจ้าเลย หัวหน้าหน่วยเป็นชายร่างอ้วนที่ดูอ่อนโยนมีเมตตา เขาเห็นจดหมายฉบับนี้ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ แต่ว่า เขารีบเก็บซ่อนรอยยิ้มทันที เคาะจดหมายบนโต๊ะทำงานของเขาสองสามที พูดด้วยอากัปกิริยาที่เคร่งขรึมว่า “ ช่างเป็นศรัทธาที่แน่วแน่ ขอให้ศรัทธาของผมแน่วแน่เหมือนกับผู้ส่งจดหมายฉบับนี้เช่นกัน ”
เพื่อไม่ให้ปาฎิหารย์แห่งศรัทธานี้ต้องดับมอดไป เขาผุดความคิดขึ้นในใจอย่างหนึ่ง : ตอบจดหมายในนามของพระเจ้า แต่ว่าพอเขาเปิดจดหมายออกอ่าน จึงรู้ว่าการตอบจดหมายฉบับนี้นั้น หาใช่เขียนอะไรสักหลายคำก็สามารถแก้ปัญหาได้ หัวหน้าหน่วยขอให้พนักงานทั้งหลายช่วยกันบริจาคเงิน ตัวเขาเองก็เจียดเงินเดือนส่วนหนึ่งออกมา นอกจากนี้เพื่อนของเขาหลายคนก็ยินดีควักเงินออกมาสบทบ เพราะว่าเขาบอกกับทุกคนว่านี่คือการแสดงออกทางการกระทำของ “ความรักจากพระผู้เป็นเจ้า ”
หัวหน้าหน่วยไม่สามารถรวบรวมเงินก้อนโตถึง 100 เปโซให้ครบได้ เงินที่ส่งไปให้ Lai Enke ได้เพียงเกินครึ่งหนึ่งของจำนวนที่เขาต้องการเท่านั้น เขานำเงินใส่ซอง เขียนชื่อและที่อยู่ของผู้รับ แนบจดหมายฉบับหนึ่ง ในจดหมายไม่ได้เขียนว่าอะไรนอกจากลงชื่อว่า : พระเจ้า
Lai Enke เชื่ออย่างสนิทใจว่าพระเจ้าได้ส่งเงินมาให้เขาจริง ๆ ดังนั้นขณะที่เขาเห็นในซองจดหมายบรรจุไปด้วยธนบัตรนั้น ใบหน้าของเขาไม่ได้แสดงอาการแปลกประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย กระทั่งนับจำนวนธนบัตรเสร็จแล้วเขากลับรู้สึกโกรธ หรือว่าพระเจ้าก็ยังผิดพลาดได้ หักหรือลดทอนจำนวนเงินที่เขาต้องการลง เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด Lai Enke ขมวดคิ้วครุ่นคิดอย่างหนัก แล้วรีบตอบจดหมาย
จดหมายถูกทิ้งลงตู้ไปรษณีย์ สองชั่วโมงผ่านไปถูกส่งมายังหัวหน้าหน่วย ในจดหมายเขียนไว้ดังนี้
พระผู้เป็นเจ้า
เงินที่ลูกต้องการไม่ได้รับตามจำนวน ได้รับเพียง 70 เปโซเท่านั้น ได้โปรดส่งมาอีก 30 เปโซ ลูกต้องการใช้ด่วน คราวหน้าหากจะส่งอย่าส่งมาทางไปรษณีย์เป็นอันขาด เพราะว่าไอ้พวกที่ทำงานในไปรษณีย์เหล่านี้ล้วนเป็นโจรขี้ขโมย ไม่มีใครดีสักคน
จาก Lai Enke
*** ความโลภก็เหมือนบ่วงกับดัก เมื่อติดกับแล้วยิ่งรัดก็ยิ่งแน่น สุดท้าย สติสัมปชัญญะก็ไม่เหลืออีกเลย
*****




 

Create Date : 15 สิงหาคม 2554    
Last Update : 15 สิงหาคม 2554 8:13:05 น.
Counter : 553 Pageviews.  

แบ่งปันของเล่นกับเพื่อน

ปีนี้ลี่ลี่อายุครบสามขวบ เนื่องจากเหตุผลเรื่องการงาน วันนี้คุณแม่ส่งเธอมาที่โรงเรียนอนุบาล ในโรงเรียนอนุบาลเนื่องจากลี่ลี่ยังรู้สึกแปลกหน้า เธอหอบเอาของเล่นไว้ บางทีก็ใส่ไว้ที่กระโปรง บางทีก็วางไว้รอบ ๆ ตัวเธอ เธอพูด “ ตักเตือน ” เด็กที่คิดจะเอาของเล่นของเธอด้วยเสียงอันดังบ่อย ๆ ว่า “ ของพวกนี้เป็นของฉัน เธอเอามันไปไม่ได้ ”
หากเด็กคนไหนเอาของเล่นของเธอไป เธอก็จะไล่ตามไปกระทั่งแย่งของเล่นกลับคืนมา สรุปแล้วก็คือห้ามใครแตะต้องของเล่นของเธอ
สุดท้ายเพื่อนๆ ต่างไม่ชอบเธอเลย รอจนโรงเรียนเลิกคุณแม่มารับ เธอบอกคุณแม่ด้วยน้ำตาพรากว่าพรุ่งนี้จะไม่มาโรงเรียนอีกแล้ว เพื่อน ๆ ไม่มีใครดีเลย ไม่มีใครสนใจเธอเลย
หลังจากถามไถ่ถึงสาเหตุแล้ว คุณแม่พูดว่า “ เอาอย่างนี้ พรุ่งนี้หนูแบ่งของเล่นให้เพื่อน ๆ เล่นด้วย ดูว่าจะเกิดเอะไรขึ้น แล้วค่อยตัดสินใจดีไหม ”
ลี่ลี่พยักหน้ารับ
วันรุ่งขึ้น ตอนที่คุณแม่มารับเธอ เธอดีใจมาก ยังไม่ทันรอให้คุณแม่ถาม เธอก็พูดว่า “ คุณแม่ขา หนูเป็นเพื่อนกับพวกเขาแล้ว หนูเอาของเล่นของหนูให้พวกเขาเล่น พวกเขาก็เอาของเล่นให้หนูเล่น พวกเราเล่นกันสนุกจริง ๆ “
***เด็กขี้ใจน้อยมักจะมีนิสัยโดดเดี่ยว ใจแคบ หยุมหยิมคิดเล็กคิดน้อย ขาดซึ่งจิตใจเป็นผู้ให้ ขาดซึ่งความเห็นอกเห็นใจ
พ่อแม่ควรจะเปลี่ยนแปลงลูกให้ใจกว้างสักหน่อย ให้เด็กรู้จักการแบ่งปันซึ่งกันและกัน
*****




 

Create Date : 10 สิงหาคม 2554    
Last Update : 10 สิงหาคม 2554 8:00:37 น.
Counter : 444 Pageviews.  

รักษาจิตใจที่ให้อภัยไว้

ระหว่างการทำงาน ทอมส์ต้องรองรับอารมณ์ของหัวหน้าโดยไร้เหตุผล เขาพกเอาอารมณ์ที่ขุ่นเคืองกลับบ้าน โกรธจนข้าวเย็นก็ไม่รับ และยังบอกพ่อของเขาด้วยเสียงอันดังว่า ต้องมีสักวันจะฆ่าหัวหน้าของเขาให้ได้
พ่อที่ผมขาวโพลนของเขาฟังเรื่องราวความเป็นมาแล้วพูดว่า “ เขาทำเกินไปจริง ๆ เวลานั้นลูกคงจะโกรธจนตัวสั่นเลยใช่ไหม ”
“ ก็ใช่ล่ะสิครับ เขาคิดว่าตัวเองเป็นหัวหน้า คิดจะหัวเสียใส่ลูกน้องเมื่อใดก็ได้ ”
“ แล้วลูกสังเกตุเห็นว่าวันนี้เขามีอะไรที่ผิดปกติไปบ้างหรือไม่ ”
“ ผิดปกติ เขาจะมีอะไรที่ผิดปกติไปได้ ผมเห็นเขาก็เหมือนปกติทุกอย่าง “
“ งั้นลูกยังเอาใจใส่เขาไม่พอ วันนี้เขาอาจจะพบเรื่องราวที่ทำให้ไม่สบายใจเลยล่วงเกินลูกเข้า ลูกเอ๋ย ให้อภัยเขาเถอะ ”
“ ไม่ใช่เลยล่ะ ผมได้ข่าวว่าเมื่อวานเขาชนะการแข่งเทนนิส อารมณ์จะต้องดีอย่างแน่นอน ”
“ ถ้าอย่างนั้นเขาคงจะดีใจจนเลอะเลือนไป ลืมกระทั่งชื่อแช่ของตัวเอง เรื่องเช่นนี้คงไม่เกิดขึ้นบ่อยนักหรอก ”
“ ก็ไม่ใช่อีกนั่นแหละพ่อ ยามปกติเขาก็เป็นเช่นนี้อยู่แล้ว อารมณ์ร้าย ชอบรังแกผู้อื่น ”
“ อ๋อ ที่แท้เป็นเช่นนี้นี่เอง งั้นเป็นเพราะว่าอุปนิสัยดั้งเดิมของเขาเกิดมาก็เป็นเช่นนี้อยู่แล้ว ลูกเอ๋ย เป็นเพราะพระเจ้าให้อารมณ์ร้ายเขามา เจ้าก็ยิ่งฆ่าเขาไม่ได้นะ ”
“ พ่อครับ ” ทอมส์อดทนต่อไปไม่ไหวตะโกนขึ้นว่า “ ทำไมพ่อต้องพูดจาแทนเขาทุกครั้งไป ”
“ เพราะว่ามีแต่ทำเช่นนี้เท่านั้นจึงจะสามารถลดความอาฆาตแค้นของลูกลงได้ ทำให้ลูกรักษาจิตใจที่ให้อภัยผู้อื่นเอาไว้ได้ตลอดเวลา ”
“ ก็เขาล่วงเกินลูกก่อน หรือว่าเขาไม่สมควรได้รับโทษอย่างนั้นหรือ ”
“ แต่ว่าตอนนี้พ่อเห็นแต่ว่าลูกกำลังรับโทษอยู่ เนื่องจากการไม่ให้อภัยของลูก ลูกโกรธจนสั่นไปแล้วทั้งตัว และยังเกือบจะทำให้ตัวเองขาดสติสัมปชัญญะไปแล้ว ”
“ ผมเปล่านะครับ ขณะนี้ผมมีสติดีออกครับ ”
“ ยังบอกว่ามีสติ เมื่อสักครู่นี้ลูกไม่ได้บอกว่าจะฆ่าเขาดอกหรือ ”
ทอมส์จนด้วยคำพูด เขาไม่อาจปฎิเสธว่าหลังจากตัวเองถูกรังแกกลับมาแล้วรู้สึกไม่สบายใจเลย ถ้าหากให้อภัยเขาเสียแต่เนิ่น ๆ ป่านนี้ตัวเขาเองคงนั่งกินข้าวเย็นอย่างสบายใจไปแล้ว
***ในการดำรงชีวิต พวกเราไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะได้รับการปฎิบัติต่ออย่างไม่ยุติธรรม ถึงเวลานั้นอย่าได้โมโหโกรธแค้นเด็ดขาด เพราะว่าพอเราโกรธแค้น ก็มีความเป็นไปได้ที่จะขาดสติสัมปชัญญะ และนี่ก็คือการนำเอาความผิดพลาดของผู้อื่นมาลงโทษตัวเอง
*****




 

Create Date : 08 สิงหาคม 2554    
Last Update : 8 สิงหาคม 2554 8:28:45 น.
Counter : 500 Pageviews.  

กุญแจในใจ

ฮูดินี่ สุดยอดนักมายากลในสมัยหนึ่ง เขาสามารถใช้เวลาเพียงสั้น ๆ ไขกุญแจที่สลับซับซ้อนโดยไม่เคยพลาดมาก่อน เขาเคยกำหนดเป้าหมายให้กับตัวเองอย่างท้าทายว่า จะหลุดรอดจากพันธนาการด้วยกุญแจใด ๆ ก็ได้ภายในหกสิบนาที เงื่อนไขมีเพียงว่า ขอให้เขาได้สวมใส่เสื้อผ้าที่ทำขึ้นมาพิเศษ และไม่อนุญาติให้ผู้อื่นดูอยู่ข้าง ๆ
มีชาวชนบทในเมืองเล็ก ๆ ในอังกฤษคนหนึ่งตัดสินใจท้าทายฮูดินี่ผู้ยิ่งใหญ่นี้ เขามีเจตนาที่จะทำให้ฮูดินี่ได้อับอาย เขาสร้างลูกกรงเหล็กที่แน่นหนาเป็นพิเศษขึ้นห้องหนึ่ง ล็อคกุญแจที่ดูเหมือนมีความสลับซับซ้อนมากเอาไว้ เชิญฮูดินี่มาดูว่าจะสามารถออกจากลูกกรงนี้ได้หรือไม่
ฮูดินี่ตอบรับคำท้านี้ เขาสวมชุดที่ทำขึ้นมาพิเศษ เดินเข้าไปในลูกกรงเหล็ก ประตูลูกกรงเหล็กปิดดังโครม ทุกคนเคารพในกฎโดยหันหลังกลับไม่ไปมองเขาทำงาน ฮูดินี่หยิบเอาอุปกรณ์ที่เขาประดิษฐ์ขึ้นเป็นพิเศษจากเสื้อของเขา แล้วเริ่มต้นทำงาน
เวลาผ่านไปแล้ว 30 นาที ฮูดินี่แนบหูกับกุญแจ ทำงานอย่างจดจ่อ 45 นาทีผ่านไป หนึ่งชั่วโมงผ่านไปแล้ว หน้าผากของฮูดินี่เริ่มอาบเหงื่อ สองชั่วโมงผ่านไป จนแล้วจนรอดฮูดินี่ยังไม่ได้ยินเสียงดีดเปิดของกุญแจแต่อย่างใด เขาหมดเรี่ยวหมดแรงนั่งลงพิงประตู ในที่สุดประตูลูกกรงเหล็กเปิดออกตามแรงพิงของเขา ที่แท้ ประตูลูกกรงเหล็กไม่ได้ล็อคไว้ตั้งแต่แรก กุญแจที่ดูเหมือนร้ายกาจตัวนั้นเป็นเพียงรูปแบบเท่านั้น
ชาวชนบทประสบความสำเร็จในการกลั่นแกล้งมืออาชีพในการเอาตัวรอดผู้นี้ ประตูไม่ได้ล็อค แน่นอนว่าจึงไม่ต้องมีวิธีเปิดให้ออก แต่ในใจของฮูดินี่สิกลับถูกกุญแจล็อคไว้แล้ว
ชาวชนบทเจตนาเล่นตลกกับอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้ ความพ่ายแพ้ของอาจารย์ผู้นี้อยู่ที่เขาจดจ่ออยู่กับกุญแจที่มีเพียงความหมายทางสัญลักษณ์เท่านั้น เป้าหมายของเขาได้เปลี่ยนจากการ “ เอาตัวรอด ” มาเป็น “ เปิดล็อคกุญแจ ” โดยไม่รู้ตัว อีกทั้งมโนสำนึกแต่แรกของเขาได้บอกกับเขาว่า ขอเพียงเป็นกุญแจก็จะต้องล็อคอยู่อย่างแน่นอน
*****






 

Create Date : 05 สิงหาคม 2554    
Last Update : 5 สิงหาคม 2554 5:12:42 น.
Counter : 475 Pageviews.  

ชายหูตึง

ชายคนหนึ่งสงสัยว่าภรรยาของตนสมรรถนะในการฟังมีปัญหา ตัดสินใจจะทดสอบการได้ยินเสียงของเธอสักครั้ง
วันหนึ่งหลังจากเลิกงานกลับบ้าน เขาย่องมาด้านหลังของภรรยาระยะห่าง 10 เมตร “ เมียจ๋า คุณได้ยินเสียงของผมไหม ”
ภรรยาของเขาไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เขาเดินใกล้เข้ามา 5 เมตร “ เมียจ๋า คุณได้ยินผมไหม ”
เธอยังคงไม่ได้ตอบ เขาจึงได้แต่เดินเข้าใกล้ที่ระยะห่าง 3 เมตร คุณได้ยินผมหรือยัง
“ ได้ยินแล้ว ” ภรรยาของเขาพูด “ นี่เป็นครั้งที่สามที่ฉันตอบคุณ ”
*** “จุดอ่อนที่ใหญ่หลวงของคนคนหนึ่งอยู่ที่หลงคิดว่าตัวเองฉลาด ” นี่คือคำคมของ Emmons ใช่เลย ขณะที่เราคิดเอาเองว่าตัวเองฉลาดนั้น ก็คือจุดเริ่มต้นของความโง่เขลาไร้ปัญญานั่นเอง
*****




 

Create Date : 03 สิงหาคม 2554    
Last Update : 3 สิงหาคม 2554 8:06:09 น.
Counter : 559 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  

syrubbocaboro
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add syrubbocaboro's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.