Group Blog
 
All Blogs
 

อะไรก็ได้ (๒) ได้อะไรมากกว่าที่คิด

อะไรก็ได้ (๒)

วชิรพักตร์

คอลัมน์ อะไรก็ได้ จากนิตยสาร ทหารสื่อสาร ฉบับ กันยายน ๒๕๓๓ ที่น่าสนใจคือเรื่อง ได้อะไรมากกว่าที่คิด เขียนโดย “กัปตันนัมเบอร์วัน” เขาบรรยายไว้ว่า

เมื่อสมัยก่อน (คงจะก่อน พ.ศ.๒๕๓๓) การประชาสัมพันธ์ในเรื่องที่ ชายฉกรรจ์ควรเข้ารับราชการทหารกองประจำการนั้น เน้นหนักอยู่ที่ว่า ลูกผู้ชายจะต้องรับใช้ชาติด้วยการเป็นทหาร หรือการตายในสนามรบถือว่าเป็นเกียรติของทหาร ซึ่งเป็นการเรียกร้องของประเทศชาติ ซึ่งไม่มีตัวตน จึงไม่ค่อยจะได้ผลเท่าที่ควร เพราะมีคนไม่อยากเป็นทหารกองประจำการกันมาก ทั้งเจ้าตัวและครอบครัวของเขาด้วย

มาถึงยุคนี้ การประชาสัมพันธ์เปลี่ยนไปเป็นทำนองที่ว่า ท่านจะได้อะไรจากการเป็นทหาร หรือการเป็นทหารให้ท่านมากกว่าที่คิด โฆษณาประชาสัมพันธ์หลายรูปแบบ ทางโทรทัศน์ชี้ให้เห็นว่า นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง หรือผู้จัดรายการที่มีชื่อเสียงบางคน ประสบความสำเร็จได้ ก็เพราะได้อะไรดี ๆ จากการเป็นทหาร สุดท้ายย้ำว่า ลูกผู้ชายที่เป็นทหารนั้น สามารถจะสร้างความภาคภูมิใจให้แก่พ่อแม่ได้อย่างคาดไม่ถึง เรียกว่าจูงใจกันทั้งครอบครัวทีเดียว

แต่ในแง่ของความเป็นจริง ที่นับว่าเป็นเรื่องสามัญที่สุดในสมัยนี้ก็คือ การว่างงานของผู้ที่สำเร็จการศึกษาด้านต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมายก่ายกอง เมื่อเทียบกับกรรมกรก่อสร้างที่ต้องเร่ร่อนไปในที่ต่าง ๆ โดยได้รับค่าแรงวันละ ๕๐ – ๙๐ บาท อย่างไม่มีหลักประกันอะไรทั้งสิ้นแล้ว การสมัครเข้าเป็นทหารกองประจำการ ให้อะไรไม่น้อยไปกว่านั้น หรือยังดีกว่าเดินวิจัยฝุ่นเป็นไหน ๆ ถ้าใครยังสงสัยในเรื่องนี้ ขอเชิญไปดูได้ที่โรงเลี้ยงของกรมการทหารสื่อสาร เขาเขียนเตือนใจไว้ให้ทหารที่มารับประทานอาหารประจำวัน ได้อ่านประดับสติปัญญา สรุปว่า

ทหารกองประจำการปีที่ ๑ ได้รับเงินเดือนรวมเบี้ยเลี้ยง เดือนละ ๑,๕๒๐.- บาท ปีแรกมีรายได้ ๑๘,๔๐๐.- ยาท ปีที่ ๒ ได้เพิ่มอีกเดือนละ ๓๐ บาท ปีหลังมีรายได้ ๑๘,๗๖๐.- บาท รับราชการ ๒ ปี มีรายได้ ๓๗,๑๖๐.- บาท และยังมีการช่วยเหลือสวัสดิการต่าง ๆ โดยไม่ต้องเสียเงินอีก คือค่าเครื่องแต่งกายทั้ง ๒ ปี เครื่องนอนหมอนมุ้ง ค่ารักษาพยาบาล ตั้งแต่ปวดหัวตัวร้อน ไปจนถึงผ่าตัดใหญ่เลยทีเดียว

และในตอนท้าย เขาโอดครวญพร้อมกับสำทับไว้เป็นกลอนอย่างน่าคิด ดังนี้

ประกอบเลี้ยงเหน็ดเหนื่อยและเมื่อยล้า
ราชการบรรจุมาทำหน้าที่
ให้ท่านท่านอิ่มเอมและเปรมปรีดิ์
รวมทั้งผู้กินฟรีมีเบิกบาน

ราชการหักเงินท่าน(วันละ) ยี่สิบสอง
ตอบสนองท่านมากมายมหาศาล
ท่านได้กินอิ่มหนำและสำราญ
ท่านสนองราชการนั้นเพียงใด ?

ท่าน”กัปตันนัมเบอร์วัน” คงจะอยู่และเห็นชีวิตทหารมานานพอสมควร จึงสามารถที่จะเล่ารายละเอียดเหล่านั้นได้ แต่ก็เป็นเหตุการณ์ในอดีตที่ล่วงมาแล้ว ๒๐ ปี ถ้าจะเอาเหตุการณ์ปัจจุบัน น่าจะต้องถามเพื่อนในห้องนี้ ที่ปลดจากกองประจำการมาหลัด ๆ ว่าจะแตกต่างจากที่เล่ามานี้สักแค่ไหน

อีกเรื่องหนึ่งที่แตกต่างกับเรื่องนี้โดยสิ้นเชิง สมกับคอลัมน์ อะไรก็ได้ จริง ๆ ผู้เขียนชื่อ ห่อ ปูเค็ม ให้ชื่อเรื่อง ปัญหาแม่บ้าน จากนิตยสารทหารสื่อสาร ฉบับ พฤษภาคม ปีเดียวกัน ความว่า

ในรายการโทรทัศนที่ทันสมัยรายการหนึ่ง มีการเชิญแม่บ้านให้สมัครเข้ามาร่วมรายการด้วยการตอบปัญหา รับรางวัลจากสปอนเซ่อร์ ซึ่งเป็นร้านค้าขนมหวานต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด เช่น แม่บาง แม่เล็ก แม่กิมไล้ แม่ทุเรียน เป็นต้น โดยให้ชื่อรายการว่า “ปัญหาพาหวาน” ซึ่งล้วนแต่เป็นปัญหาง่าย ๆ ที่อยากจะแจกรางวัลอยู่แล้ว โดยสมมุติให้ผู้ตอบปัญหาเป็น แม่บ้านทองหยิบ แม่บ้านทองหยอด แม่บ้านเม็ดขนุน แม่บ้านสังขยา แม่บ้านฝอยทอง

พิธีกรก็ตามฟอร์ม คือดาราสาวเจ้าเสน่ห์คนหนึ่ง กับดาวตลกชายอีกคนหนึ่ง (ซึ่งจำได้แม่นว่าคือ คุณเทิ่ง สติเฟื่อง นั่นเอง) ช่วยกันถามช่วยกันตอบ ช่วยกันทำให้รายการครึกครื้น น่าดู เป็นที่สนใจของผู้ชมทั้งที่บ้าน และที่เข้ามานั่งแออัดอยู่ในห้องส่ง

ปัญหาที่น่าสนใจคือ

๑.มีของหลายสิ่งหลายอย่าง ที่เราจำเป็นต้องหาเอามาใช้ แต่มีสิ่งของอย่างหนึ่ง ที่เวลาเราจะใช้ต้องโยนทิ้งไป เวลาไม่ใช้กลับเอามาไว้บนหัว สิ่งนั้นคืออะไร

๒.เป็นปัญหาเชาว์ ถามว่า ของสิ่งหนึ่งที่เวลาไม่ใช้จะอยู่ที่ไหนก็ได้ แต่เวลาใช้ ต้องเอามาไว้บนหัว สิ่งนั้นคืออะไร

ความจริงปัญหาทั้งสองข้อนี้ แม่บ้านตอบไม่ถูก ทั้งคู่ และพิธีกรก็เฉลยให้แล้ว แต่ผู้เล่าเรื่องนี้ (วชิรพักตร์) อยากจะอุบไว้ก่อน ลองให้ท่านผู้อ่านคิดและตอบบ้าง

คงจะดีนะครับ.

จากคุณ : เจียวต้าย
เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 06:10:54
ถูกใจ : Oncidium.



--------------------------------------------------------------------------------

bookmark เก็บเข้าคลังกระทู้ ส่งต่อกระทู้ พิมพ์ หน้าหลัก กระทู้ก่อนหน้า กระทู้ถัดไป








--------------------------------------------------------------------------------

ความคิดเห็นที่ 1

สวัสดีเช้าวันอังคารค่ะคุณอา

มาพร้อมปัญหาเชาว์....แต่คนจะตอบคิดตั้งนาน

"..เวลาใช้ ต้องเอามาไว้บนหัว สิ่งนั้นคืออะไร..."

ในอาชีพครู....ขอตอบสิ่งใกล้ตัวทั้งครูและนักเรียนว่า

ยางลบ ค่ะ(หน้าแตกรึเปล่าคะ )

แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 53 06:51:15








จากคุณ : จริงใจ.......สบายจริง
เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 06:49:56










ความคิดเห็นที่ 2

อรุณสวัสดิ์ เรื่องคำตอบ คงตอบไม่ได้ค่ะ

เพราะเรื่องนามสกุลตัวเองยังจัดการไม่ได้เลยค่ะ แหะๆๆ

ว่างๆ คุณอาช่วยไปแวะแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้หญิงมายด์ด้วยสิค่ะ

อยู่กระทู้ข้างๆ คุณอานี่แหล่ะค่ะ

จากคุณ : คนไม่สวยอยากเล่า
เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 07:06:31










ความคิดเห็นที่ 3

สวัสดีครับคุณอา

คล้ายๆผมจะเคยได้ยินคำถามนี้มาก่อนนะครับ แต่จำคำตอบไม่ได้ รอคุณอาเฉลยครับ

จากคุณ : ตาแว่น (chanyout)
เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 07:17:12










ความคิดเห็นที่ 4

ยังนึกหาคำตอบไม่ได้ครับ ทั้งสองข้อ

แต่คิดไปว่าถ้าคุณเทิ่ง สติเฟื่องยังอยู่ แล้วมาเข้าก๊วนกับ ดร เสรี วงษ์มณฑา และ อาจารย์ยิ่งศักดิ์ แล้ว โลกนี้มันจะเป็นยังไง ??

จากคุณ : ลุงแก่
เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 07:17:36










ความคิดเห็นที่ 5

ข้อหนึ่ง สมอเรือ
ข้อสอง หมวก

จากคุณ : visitna
เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 07:48:31










ความคิดเห็นที่ 6

สวัสดีครับคุณลุง ตอนเด็กๆผมทันได้ดูรายการแม่บ้านสมองไว
ที่คุณเทิ่ง จัดกับคุณ นันทวรรณ

ปัญหาแม่บ้านสมองไวขำๆ

"อะไรเอ่ย คุณแม่บ้านใช้โรยไข่ให้คุณพ่อบ้าน(ทาน) ตอนเช้า"

คำตอบที่ถูกคือ เกลือ พริกไทย

แต่แม่บ้านสมองไวตอบว่า

"แป้งเด็กจอห์นสัน ค่ะ"

จากคุณ : เด็กทุ่งครุ
เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 08:27:26










ความคิดเห็นที่ 7

ข้อ ๒ ลุงอ่ำ นึกว่าหมวก น่าจะพอไปได้

แต่ข้อ ๑. นี่สิ ทีแรกนึกถึงจดหมายไปโน่น เรียกว่า ทิ้งจดหมาย
แต่บอกว่า เวลาไม่ใช้เอามาไว้บนหัว เลยนึกไม่ออก
เอาจดหมายมาไว้บนหัวทำหยังหวา...

จากคุณ : ลุงอ่ำ
เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 09:13:17










ความคิดเห็นที่ 8

สวัสดีค้าบคุณตา แง๊วววว

จากคุณ : ข้าวโพดแมวติสต์แตก
เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 09:44:28










ความคิดเห็นที่ 9

ตอบคุณอาครับ
ข้อที่ 1 ตอนแรกไม่แน่ใจเรื่องเวลาไม่ใช้กลับเอามาไว้บนหัว
อ๋อ..สมอเวลาไม่ใช้ต้องเอาขึ้นมาเก็บบนหัว(เรือ)
ข้อที่ 2 ถ้าไม่ใช่หมวกแล้วจะเป็นอะไรหนอ บอกว่าเป็นปัญหาเชาว์ทำให้ต้องคิดมาก








จากคุณ : ตัวเขียว
เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 09:52:18










ความคิดเห็นที่ 10

ขออนุญาต...ขำ ก่อนนะคะคุณอา...เอิ๊กๆๆๆๆ

รายการแม่บ้านสมองไว จำได้แล้วค่ะ ใช่ คุณเทิ่งจริงๆ

เป็นคำถามยังขำ ไม่หาย

รองเท้าอะไร หายากที่สุด?

ทำไม..ไก่..ถึงเป็นฆาตกร?

ได้ยินบ่อยๆ ตอนเด็กๆ น่ะค่ะ

อุ๊บ...ไว้ก่อน คุณอา ตอบได้แน่น่อน

จากคุณ : nupvs
เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 13:40:23










ความคิดเห็นที่ 11

สวัสดีค่ะ

คำถามท้ายเรื่องทำเอามึนเลยค่ะ

เป็นสิ่งของ"ที่เราจำเป็นต้องหาเอามาใช้"

แล้วของที่เกี่ยวกับหัว นึกออกแต่พวกหวี หมวก กิ๊ป ที่คาดผม ผ้าคาดผม ฯลฯ

ซึ่งบางอย่างมันก็ดูไม่จำเป็นสักเท่าไหร่

มึนค่ะ

~

จากคุณ : ป้าหนาสองนิ้ว
เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 14:31:27










ความคิดเห็นที่ 12

สวัสดีค่ะคุณอา

ข้อแรกตอบไม่ได้ค่ะ
ข้อสอง นึกถึงหมวกค่ะ

จากคุณ : MAY BEE ... LITTLEDEVIL
เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 15:01:27










ความคิดเห็นที่ 13

ข้อ.๑ เวลาไม่ใช้เอาไว้บนหัว ลองเลื่อนดูคำตอบของท่านอื่นซิครับ

ข้อ.๒ เวลา ใช้ เอาไว้บนหัว ลองคิดดูอีกทีซิครับ

คุณnupvs แน่ใจหรือครับว่าจะตอบถูกทั้งสองข้อ
รองเท้าที่หายาก คือ รองเท้านารี ครับ.

จากคุณ : เจียวต้าย
เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 16:10:12










ความคิดเห็นที่ 14

แหะ ๆ คือนู๋คิดว่าจะไม่ลอกคำตอบท่านอื่นอ่ะค่ะคุณอา



ปล. สุขภาพเป็นอย่างไรบ้างคะตอนนี้

จากคุณ : MAY BEE ... LITTLEDEVIL
เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 17:22:31










ความคิดเห็นที่ 15

สวัสดีครับ

ผมจัดเพลง "กาลเวลารัก" สำหรับ คุณอาแล้วนะครับ

ที่ลิ้งค์นี้นะครับ
//www.pantip.com/cafe/isolate/topic/M8838091/M8838091.html

จากคุณ : นฤรัตน์
เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 18:38:10










ความคิดเห็นที่ 16

ขอบคุณคุณป้าเมย์ ถ้าใครถามเรื่องสุขภาพผมก็มักจะตอบว่า
"ไม่สบายเป็นปกติครับ"

คือความไม่สบายเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มีอยู่ เช่นปวดหัวไหล่ ปวดต้นคอ
ขนตาแยงลูกกะตา หูตึงฟังข่าวทีวีไม่รู้เรื่อง โรคกระเพาะอาหาร ฯลฯ
ก็ยังเป็นอยู่อย่างเดิม

แต่ไม่มีโรคร้ายสี่อย่างคือ ความดันสูง ไขมันในเส้นเลือด เบาหวาน
และ โรคหัวใจ ที่จะเอาชีวิตกันครับ

จากคุณ : เจียวต้าย
เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 18:39:20










ความคิดเห็นที่ 17

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน และสนใจที่จะตอบปัญหาอะไรเอ่ย ในเรื่องหลัง

แต่ไม่มีใครเข้ามาขยายความเรื่องรายได้ของพลทหารในปัจจุบันเลยครับ

ขอเฉลยครับ

ข้อ.๑ สมอเรือ...............ถูกต้องครับ

ข้อ.๒ เวลา ใช้ ต้องเอาไว้บนหัว ไม่ใช่ข้าง ๆ หรือข้างใต้ หรือข้างหน้า
ก็คือ...............ไม้โท ไงครับ

ปรบมือให้คนตอบถูกหน่อยครับ.

จากคุณ : เจียวต้าย
เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 18:43:55










ความคิดเห็นที่ 18

ปอ.ลอ.

คห.๕ คุณ visitna ตอบถูกเป็นคนแรกครับ

คห.๖ ของคุณเด็กทุ่งครุ แม่บ้านตอบได้ขำดี คงจะเป็นประสบการณ์จริงนะครับ

คห.๗ คุณลุงอ่ำตอบข้อ ๒ น่าจะถูกนะครับ แต่คุณเทิ่งเขาว่าเป็นปัญหาเชาว์ครับ

คห.๙ คุณตัวเขียวก็คิดเหมือนคุณลุงอ่ำนะครับ

คห.๑๐ คุณnupvs ทำไมไก่จึงเป็นฆาตกร ไม่ทราบครับ

คห.๑๑ คำตอบของคุณป้าหนา ก็พอใช้ได้นะครับ ถ้าผมเป็นคนถามคงไม่ให้ศูนย์หรอกครับ

คุณนฤรัตน์ปาดผมไปนิดเดียว เดี๋ยวจะเปิดฟังเพื่อรำลึกถึงความหลังครับ

วันนี้เราจากกันแค่นี้นะครับ
สวัสดีครับ คุณจริงใจ...สบายจริง คุณไม่สวยอยากเล่า คุณลุงแก่
คุณหนูออน คุณตาแว่น และคุณข้าวโพดครับ.

แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 53 19:41:29

แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 53 19:05:53

จากคุณ : เจียวต้าย
เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 18:58:36










ความคิดเห็นที่ 19

ขอเฉลยครับ

ข้อ.๑ สมอเรือ...............ถูกต้องครับ

ข้อ.๒ เวลา ใช้ ต้องเอาไว้บนหัว ไม่ใช่ข้าง ๆ หรือข้างใต้ หรือข้างหน้า
ก็คือ...............ไม้โท ไงครับ

คุณอา เฉลยแล้ว ขอเฉลยค่ะ

รองเท้าอะไร หายากที่สุด?

รองเท้าหาย รองเท้าเวลาถอดวางแล้วหาย ไม่ต้องไปหาค่ะ
เพราะหาเจอก็ไม่หาย เพราะหายไป ถึงหายากที่สุด

ทำไม..ไก่..ถึงเป็นฆาตกร ?

อูยอันนี้ ใครเป็นผู้พิพากษา ก็ต้องตัดสิน ให้ ไก่ เป็น ฆาตกร
มีพยานเป็นคนไทยทุกปาก พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า

" ไก่ จิกเด็กตาย บนปากโอ่ง "



พอเป็น หลานสาวของคุณอา ได้บ้างหรือไม่ค่ะนี่








จากคุณ : nupvs
เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 53 10:10:06










ความคิดเห็นที่ 20

ใช้ได้ทั้งสองข้อเลยครับ ขอบคุณ
และขออภัยที่มาช้าไปหน่อยครับ.

จากคุณ : เจียวต้าย
เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 08:20:29














 

Create Date : 13 สิงหาคม 2553    
Last Update : 24 ธันวาคม 2553 5:10:02 น.
Counter : 670 Pageviews.  

อะไรก็ได้ (๑) ช่องว่างระหว่างคน

อะไรก็ได้ (๑)

วชิรพักตร์

ผมเคยเล่าว่า ผมเขียนเรื่องลงพิมพ์ในนิตยสารทหารสื่อสาร ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๐๓ จนได้รับการแต่งตั้ง ให้เป็นเจ้าหน้าที่ในกองบรรณาธิการ เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๘ ซึ่งต้องทำงานแทนผู้ช่วยบรรณาธิการ ซึ่งทำงานแทนบรรณาธิการ ทุกอย่างในการผลิตหนังสือเล่มนี้ แล้วเสนอขึ้นไปตามลำดับว่าท่านจะเอาหรือไม่เอา เท่านั้น

ผมอยากจะให้หนังสือนี้มีเรื่องเบาสมอง และเปิดโอกาสให้ผู้ที่อยากเขียนอะไรก็ได้ ส่งมาให้ผม ถ้าไม่ใช่เรื่องด่านายหรืออนาจารแล้ว ผมจะพิจารณาลงพิมพ์ให้ทั้งหมด ผมเปิดคอลัมน์และแนะนำไว้ว่า

เดิมทีเดียว คอลัมน์ หรือ บัญชร หรือ กรอบหน้านี้ ตั้งใจจะให้ชื่อว่า อ.ร.ด. ซึ่งเป็นตัวย่อของคำว่า อะไรก็ได้ แต่เกรงว่าจะไปซ้ำหรือเป็นการลอกเลียนนามปากกาของนักประพันธ์เรื่องตลกรุ่นอาวุโส ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดท่านหนึ่ง ซึ่งมีผลงานเป็นที่รู้จักกันแพร่หลาย ในยุคยี่สิบสามสิบปีก่อนเป็นอย่างมาก ซึ่งอาจจะทำให้คุณผู้อ่านเข้าใจผิด คิดว่าท่านได้เป็นผู้เขียนเรื่องสัพเพเหระ ที่ไม่ค่อยจะมีสาระในคอลัมน์นี้ ซึ่งย่อมเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง แต่ก็จนปัญญาที่มีอยู่ไม่ค่อยมาก หาชื่ออะไรอื่นมาใช้ให้เหมาะสมกับเรื่องที่ไม่ค่อยจะเป็นโล้เป็นพาย ประเภทสิ่งละอันพันละน้อย ที่บรรจุอยู่ในนี้ได้ ก็เลยดันทู่รังใช้คำเต็มไปอย่างที่ขึ้นหัวตัวใหญ่ไว้ข้างบนนั้น

อ.ร.ด.นี้เป็นคำย่อที่ใช้กันมานานแล้ว ในวงการทหารหรือโดยเฉพาะ ทหารสื่อสารรุ่น ไดโนเสา แต่เป็นคำย่อที่ไม่ใช่ของทางราชการทั้ง ทบ.(ทหารบก)และ กห.(กลาโหม) เป็นคำย่อตามสะดวกปากประเภทเดียวกับ ส.บ.ม. หรือ ย.ห. หรือ ส.ท.ร. ที่ใช้กันเกร่อเกลื่อนอยู่ในยุคสมัยที่กฏหมู่กำลังขับเคี่ยวกับกฎหมายในขณะนี้

และเป็นคำย่อที่ใช้กันอยู่ภายในวงการสโมสรเท่านั้น โดยเฉพาะการเขียนบิลเงินเชื่อ ของผู้ที่จำเป็นจะต้องจ่ายค่าเกมบิลเลียด หรือค่าเหล้าโซดาเบียร์และกับแกล้มเดิมพัน ที่บรรดากวางที่เป็นกองเชียร์ทั้งหลาย ที่นั่งอยู่รอบโต๊ะ ได้ช่วยกันจัดการให้เป็นที่เกลี้ยงเกลาไปแล้ว ในระหว่างที่บรรดาเสือสิงห์หรือสมิงทั้งสองฝ่าย กำลังฟาดฟันกันอยู่อย่างเอาเป็นเอาตาย รอบโต๊ะสักหลาด หรือเป็นค่าแต้มในเกมรัมมี่ที่เล่นกันอย่างไม่เอาจริงเอาจัง เพียงค่อนวันหรือครึ่งคืน ไม่ถึงกับหมดเนื้อหมดตัว ซึ่งก็คล้าย ๆ เช็คหรือตั๋วแลกเงินที่ใช้หมุนเวียนกันเป็นประจำ ระหว่างเพื่อนสมาชิกสโมสรด้วยกัน

เพราะไม่แน่ว่าผู้ที่ได้ครอบครองกรรมสิทธิ์ ในบิลเงินเชื่อฉบับนี้เป็นคนสุดท้าย จะเอาไปแลกเปลี่ยนเป็นสิ่งของอะไรที่มีขายในสโมสร ก็เลยเขียนพอไม่ให้ช่องรายการว่างว่า อ.ร.ด. ก็รู้กันเป็นอันดีว่า เป็นหนี้ที่เกิดจากการใช้สโมสร ให้เป็นประโยชน์ในยามว่าง หรือวันหยุดราชการ ซึ่งเมื่อเจ้าของลายเซ็นในบิลฉบับนั้นได้รับคืนมาตอนปลายเดือน เมื่อเจ้าหน้าที่การเงิน ได้หักเงินเดือนให้สโมสรแล้ว จะได้แอบฉีกทิ้งเสียก่อนที่ ผ.บ.ท.บ. หรือผู้บังคับบัญชาที่บ้านจะมาเจอเข้า

แต่ว่าคำย่อคำนี้ในสมัยปัจจุบันก็ชักจะเลือน ๆ กันไปเสียมากแล้ว มีคำใหม่กว่ามาแทน คือ อ.อ.ก.ที่มีคำเต็มว่า ออกอากาศ อันเป็นศัพท์เท็คนิค เฉพาะของทหารสื่อสารเท่านั้น เคยได้ทดลองสอบถามตามเหล่าอื่น ๆ ดูแล้วหลายสโมสร ทั้งสี่มุมสะพานแดง และที่ห่างไกลจากสะพานแดงออกไป ก็ได้ความว่าถึงแม้เขาจะมีกิจกรรมทำนองเดียวกันหรือคล้าย ๆ กัน แต่ต่างเหล่าต่างก็เรียกกันไปคนละอย่าง ไม่ใช้ อ.อ.ก.เหมือนของเรา ส่วนคำว่าออกอากาศนั้น ก็คือการเซ็นบิลซื้อเชื่อเครื่องรับโทรทัศน์ แต่ไม่เอาเครื่องกลับบ้าน คงตั้งไว้ที่สโมสรเพื่อฝากขายเงินสด ด้วยราคาที่ย่อมเยากว่าราคาในบิลนั่นเอง

ว่ามาถึงตอนนี้ คุณผู้อ่านก็คงจะพอมองออกกันแล้วว่า คอลัมน์หรือบัญชรหรือกรอบหน้านี้ มีนโยบายหรือวัตถุประสงค์หรือความมุ่งหมายหลัก ที่จะคุยกันถึงเรื่องทำนองที่น่าจะเรียกว่า ยำใหญ่ หรือ จับฉ่าย หรือเรื่อง สัพเพเหระ อะไรพันนั้น ซึ่งเมื่ออ่านแล้วจะได้เรื่องหรือไม่ได้เรื่อง หรือทำท่าจะมีเรื่องซะเลยนั้น ก็แล้วแต่สติปัญญาหรือฝีไม้ลายมือของผู้เขียนแต่ละท่าน ซึ่งจะเป็น ใครก็ได้ นั้นเอง

เรื่องแรกของคอลัมน์นี้ คือ ช่องว่างระหว่างคน

ในยุคที่หนุ่มสาวนิยมกันว่า ถ้าจะให้ทันสมัย หรือมีจุดยืนที่แน่นอน และก้าวหน้าจากพวกปฏิกิริยาล้าหลัง จะต้องประกอบด้วย ๕ ย.คือ ผมยาว เสื้อยับ กางเกงยีน สะพายย่าม และ รองเท้ายาง นี้ การที่เราจะแยกเพศของผู้ที่เดินคู่กันไป ตามถนนหนทาง ออกจะทำได้ไม่ง่ายนัก เพราะอย่าว่าแต่จะดูข้างหลัง ซึ่งเหมือนกันแทบทุกประการ ตั้งแต่เส้นผมจนถึงส้นรองเท้าแล้ว แม้จะมองข้างหน้าจนใกล้เข้ามาแทบจะชนจมูก ก็ยังไม่ค่อยจะแน่ใจว่า คนไหนเป็นผู้ชายหรือผูหญิง หรือชายทั้งคู่ หรือหญิงทั้งคู่ เพราะไม่ว่าจะเป็นทรงผม แบบของเสื้อผ้าอาภรณ์ เฟอร์นิเจอร์ที่สวมใส่ประดับประดา ตลอดจนทรวดทรงองค์เอวอันเรียวชะลูด และท่วงทีกิริยาการเดินเหิน ก็ละม้ายคล้ายคลึงกันไปหมดทุกฝีก้าว แถมยังต้องเบียดกระแซะประคองเอวหรือไหล่ หรือกอดคอกันไป จนแนบชิดสนิทเนื้อ ประหนึ่งเกรงว่าจะพลัดพรากจากกันไป ในฝูงชนอันแน่นหนาของกรุงเทพมหานครของเราเสียหลัด ๆ

ซึ่งแตกต่างกับคนหนุ่มคนสาวยุคก่อนที่จะได้พบกลิ่นไอของประชาธิปไตย แบบต่างคนต่างมีเสรีภาพไม่เหมือนกันนี้ ซึ่งแม้จะรักกันมานานแทบล้มประดาตาย เวลาปรากฏตัวในที่สาธารณะกลับเดินห่างกันตั้งคืบ ปลายนิ้วมือก็แทบจะไม่ได้แตะต้องกัน ยิ่งถ้าแต่งงานกันแล้ว ช่องว่างก็ยิ่งห่างกันออกไปอีก เป็นศอกเป็นวา เวลาจะข้ามถนนหนทาง จะรอจะจูงกันบ้างก็ไม่มี พ่อยอดชายข้ามได้ก็นำลิ่วไปเลย ไม่ยอมรอดูใจว่าคนที่ตามมาข้างหลังจะเก้ ๆ กัง ๆ ยังไง ถ้าถึงกับทรงกุมารหรือทั้งอุ้มทั้งจูงเจ้าตัวเล็กมาด้วย ก็เป็นอันว่าแทบจะต่างคนต่างเดินคนละฟากถนนกันเลยทีเดียว

แต่ถ้าจะมีสุภาพบุรุษสักนายหนึ่ง จูงเจ้าโตแล้วอุ้มเจ้าตัวเล็ก โดยมีแฟนเดินเกาะแขนมาด้วย อย่างกะหนุ่มสาวสมัย ๕ ย. ก็เป็นอันสันนิษฐานได้เลยว่า ท่านผู้นั้นถ้าไม่ใช่เลขาธิการ พรรคภรรยาธิปไตย ก็คงจะมีแม่ยายรวยอย่างสาหัสเชียวละ

นั่นเป็นทัศนะของ “นายพิสดาร” ผู้เขียน เมื่อ ๓๕ ปีล่วงมาแล้ว จากนิตยสารทหารสื่อสาร ฉบับประจำเดือน กันยายน – ตุลาคม ๒๕๑๘ นะครับ.

#################

Create Date : 28 มกราคม 2553
Last Update : 28 มกราคม 2553 5:24:28 น. 0 comments
Counter : 17 Pageviews.




 

Create Date : 11 สิงหาคม 2553    
Last Update : 24 ธันวาคม 2553 5:08:12 น.
Counter : 539 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.