Group Blog
 
All Blogs
 
อะไรก็ได้ (๙) สิ่งเดียวกัน




อะไรก็ได้ (๙)


คอลัมน์อะไรก็ได้นี้ เป็นที่รวมของเรื่องอะไรก็ได้ โดยใครก็ได้จริง ๆ เพราะมีผู้ส่งเรื่องมาให้หลากหลายรส ทั้งข้อคิดคำคม ธรรมะ กฎหมาย สุขภาพ ขำขัน และในฉบับประจำเดือน มกราคม – เมษายน ๒๕๓๔ จึงมีเรื่องสั้น ของ แม่พิศ ชื่อ สิ่งเดียวกัน มาประดับอยู่ด้วย

วันวิสาขบูชาปีนี้ แม่พิศติดขัดเพราะแม่ป่วย ต้องเฝ้าดูแลจะไปเวียนเทียนที่ใดก็ไม่ได้ทั้งนั้น จึงได้แต่เปิดทีวีดูเมื่อมีการถ่ายทอดพิธีเวียนเทียนที่พุทธมณฑล ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด้จแทนพระองค์ พร้อมกับพรมมือกล่าวคำสวดตามไปทุกตอน และเมื่อมีการเดินเวียนเทียน เธอก็นำพระพุทธรูปห้อยคอซึ่งได้มาจากที่ต่าง ๆ ใส่มือพนมเดินเวียนวนอยู่ในห้อง ซึ่งเรื่องนี้เมื่อเล่าให้ใครฟังแล้ว เขาก็หัวเราะกันทุกคน

เมื่อจบพิธีแล้วเธอจึงลงนั่งสมาธิ นานจนจิตว่างได้ชั่วขณะนานจนคิดว่าจะเลิกเธอจึงอธิษฐานจิต ขอให้ส่วนกุศลนี้จงเป็นผลให้พระพรหมของบุตรธิดาทั้งหลายทั่วโลกนี้ จงเป็นสุขเป็นสุขอยู่ในภพภูมิ ในบ้านช่องห้องหับและในทุกแห่งหน ตามจิตปรารถนาเถิด

แล้วจึงลืมตาขึ้นมองพบนิ้วมือของตนจึงจับดัดไปมาแก้เมื่อย พลางพิจารณาดูว่ามือและนิ้วของเราขณะนี้ว่างเปล่า ปราศจากพิมพาภรณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น แต่อดีตที่ผ่านมา ถึงมือนี้จะไขว่คว้าปริญญามาไม่ได้ แต่มือ....และสิบนิ้วนี่แหละ ที่กรำงานมาอย่างโชกโชน ไม่เลือกงาน ไม่เลือกเวลา ไม่เลือกสถานที่ไม่เลือกแม้นแต่ว่าจะได้เงินหรือไม่ได้ ขอให้มีงานเท่านั้น ก็มีความสุข เพราะเธอสุขอยู่กับงาน

นิ้วของเธอถึงจะไม่เรียวเหมือนลำเทียน แต่เมื่อถึงวันและถึงเวลาอันควร เธอก็ได้สวมใส่แหวนหมั้น ที่ทั้งแม่และน้าสาวของคนรักไปช่วยกันเลือกเฟ้นจากร้านเพ็ชรชื่อดัง มาให้ลูกชายสวมใส่ให้เธอ ในวันประกอบพิธีหมั้น เธอสวมใส่ไว้อย่างเป็นสุขและภาคภูมิใจ เมื่อเธอกลับไปหายายที่เคยเลี้ยงดูเธอมาระยะหนึ่ง ยายก็คว้ามือเธอไปดูพร้อมกับบอกว่า

“ โอ้โฮ น้ำมันลึก แสงสีสวยเหลือเกิน ระวังรักษาให้ดีเถอะลูกของมีค่ามีราคามากนะ แสงยังกะหิ่งห้อย นัยน์ตาแม่ผัวแกแหลมจริง ๆ ถึงเพ็ชรจะเล้กแต่แสงไวนัก แว็บวับจับตาทีเดียว “

เมื่ออยู่ในบ้านของน้าสาวที่เคยเลี้ยงดู และให้ที่อยู่อาศัยแก่เธอมาเช่นกัน น้าก็ชื่นชอบพร้อมทั้งขอยืมไปลองใส่อย่างชื่นชมด้วยกันทั้งคู่ จนน้าเขยเธอกลับเข้าบ้านมา น้าสาวก็ยื่นมือไปกรีดนิ้วอวด ปรากฏว่าน้าเขยตวาดออกมาว่า

“ บ้า....พวกคนบ้าทั้งนั้น....บ้ากรวดบ้าหิน บ้าสิ้นดี “

น้าสาวเธออ้าปากค้างแล้วก็ก้มหน้างุดลง ถอดแหวนส่งให้เธอ ซึ่งก้มหน้าก้มตาแกะเล็บที่นิ้วตนอยู่ไปมาอย่างไม่รู้ว่าจะทำอะไรให้ดีกว่านั้น

เดี๋ยวนี้แม้เวลาจะผ่านมาถึง ๔๐ กว่าปีแล้ว เธอก็ยังเก็บแหวนเพ็ชรวงนั้นไว้ ด้วยความไม่เข้าใจว่า ทำไมของสิ่งเดียวกัน คนหนึ่งเห็นเป็นอัญมณีที่มีค่า.........แต่

แต่.........อีกคนกลับเห็นเป็นกรวดหินไปได้.



ในฉบับเดียวกันนี้เอง ก็มีเรื่องขำขันคลายเครียด ชื่อ คนละเรื่อง ของ นายพิสดาร ประกบอยู่ด้วย

กุนสั้น ในมาตรของชายอาวุโส ต้องการจะไปเยี่ยมเยียนลูกน้องเก่าแถว ๆ สะพานแดงทั้ง ๆ ที่อยู่ไกลถึงประชาชื่น จึงต้องอาศัยรถเมล์เล็กร่วมบริการ มาลงแถว ๆ วัดประชาระบือธรรม

ด้วยความที่รู้ว่าตนเองไม่ค่อยกระฉับกระเฉง เพราะข้อพับต่าง ๆ มันฝืดไปหมดแล้ว จึงพาร่างอันบอบบาง กระย่องกระแย่งลงมายืนรอที่บันไดหน้า ก่อนที่รถจะเข้าป้าย

เลยถูคนขับหน้าตาไม่ค่อยจะรับบุญ เอ็ดตะโรเอา

“ ลุ้ง...........รอให้จอดป้ายก่อนซิ่ เดี๋ยวตกลงไปขาแข้งหัก “

“ ตกก็เรื่องของกู “

“อ้าวลุง.....ไหงพูดงั้นล่ะ ลุงตกลงไปผมก็เดือดร้อนซี “

“ นั่นมันเรื่องของเอ็งนี่ “

...................................ฮา................................

###############

Create Date : 03 มีนาคม 2553
Last Update : 3 มีนาคม 2553 5:17:27 น.








Create Date : 20 สิงหาคม 2553
Last Update : 24 ธันวาคม 2553 5:16:59 น. 0 comments
Counter : 479 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.