Group Blog
 
All Blogs
 
The Dark Princess: Chapter 18 The Unexpected Events PART III




และหลังจากที่ประตูไม้บานหนาของห้องนอนซึ่งอยู่ตรงหน้าของหญิงสาวปิดลงซึ่งเป็นการบอกว่าสามีของเธอได้เดินออกไปจากห้องเรียบร้อยแล้วนั้น เฮอร์ไมโอนี่ก็ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูอยู่ครู่หนึ่งราวกับเธอไม่รู้ว่าเธอควรจะทำอย่างไรต่อไปดีหลังจากที่นายลูเซียสออกจากห้องไปแล้ว ดวงตาสีน้ำตาลของเธอแสดงออกถึงความสับสนมากกว่าในตอนที่สามีของเธอยังอยู่ในห้องกับเธอเสียด้วยซ้ำ หญิงสาวได้แต่ยืนอยู่ตรงนั้นโดยที่ดวงตาของเธอจ้องมองประตูไม้บานใหญ่ที่เพิ่งปิดลงไม่นานนักด้วยสายตาครุ่นคิดราวกับเธอต้องระดมสมองอย่างหนักเพื่อหาทางออกในสิ่งที่เธอกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ หากแต่ถึงเธอจะทำเช่นนั้น ถึงเธอจะพยายามรวบรวมความคิดและใช้มันสมองอันปราดเปรื่องของเธอคิดเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่มันกลับดูเหมือนว่าเธอไม่อาจจะหาหนทางมาแก้ไขในสิ่งที่เธอกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ได้เลย

และในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่กำลังรวบรวมความคิดเพื่อหาหนทางจัดการกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดอยู่นั้น ในขณะที่เธอกำลังยืนนิ่งจ้องมองบานประตูตรงหน้าโดยที่สมองของเธอกำลังระดมความคิดอย่างหนักว่าเธอควรจะทำอย่างไรต่อไปอยู่นั้น ทิสซี่ที่มองดูเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ตั้งแต่ตอนที่มันถูกนายลูเซียสเรียกเข้ามาที่ห้องนอนแห่งนี้ก็เดินเตาะแตะมาทางนายหญิงของมัน ดวงตาสีฟ้าของเอลฟ์มองดูร่างสูงของหญิงสาวอย่างลังเลก่อนที่มันจะตัดสินใจพูดขึ้น

“นายหญิงเจ้าคะ นายหญิงเป็นอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ” เอลฟ์ถามด้วยท่าทีขลาด ๆ ราวกับมันไม่แน่ใจว่าเฮอร์ไมโอนี่จะต้องการตอบหรือแม้กระทั่งฟังคำถามของมันหรือไม่ และถึงแม้ว่าเสียงเล็ก ๆ ของทิสซี่ที่เอ่ยคำถามนั้นขึ้นมาจะฟังดูราวกับมันลอยมาจากที่ไกลแสนไกลในสายตาของเฮอร์ไมโอนี่ก็ตาม แต่หญิงสาวก็สามารถได้ยินรวมทั้งรับรู้ถึงความเป็นห่วงเป็นใยของมันที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงนั้นได้ และเมื่อได้ยินเช่นนั้นหญิงสาวจึงหันใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสับสนไปทางเอลฟ์สาวที่บัดนี้ได้เข้ามายืนอยู่ข้างกายเธอ เธอมองเข้าไปในดวงตากลมโตของทิสซี่ซึ่งไม่มีสิ่งอื่นใดแฝงอยู่เลยนอกจากความเป็นห่วงเป็นใยที่มีต่อเจ้านายของมัน และเมื่อเห็นเช่นนั้นเฮอร์ไมโอนี่จึงพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาว่า

“ฉัน.........ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันทิสซี่” เธอพูดออกมาอย่างอ่อนแรงพร้อมกับส่ายหน้าน้อย ๆ อย่างจนใจในเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะถึงเฮอร์ไมโอนี่จะพยายามที่จะหาทางแก้ไขเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมากเพียงใดแต่มันกลับกลายเป็นว่าเธอกลับทำให้เกิดเรื่องที่ยุ่งยากมากขึ้นเท่านั้น และถึงแม้ว่าในตอนแรกหญิงสาวจะมั่นใจมากก็ตามว่าเธอจะสามารถรักษาความลับที่สำคัญเทียบเท่าชีวิตของเซเวอร์รัส สเนป เอาไว้อย่างปลอดภัยได้ แต่ความมั่นใจที่เธอเคยมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมนั้นกลับต้องสั่นคลอนลงภายในเวลาเพียงไม่กี่วันหลังจากที่เธอได้รับรู้ความลับดังกล่าว เพราะตั้งแต่เธอเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการเก็บรักษาความลับของอดีตอาจารย์วิชาปรุงยาของเธอแล้วนั้นก็มีปัญหาต่าง ๆ มากมายที่ประดังประเดเข้ามาจนทำให้ในตอนนี้หญิงสาวไม่แน่ใจแล้วว่าเธอจะสามารถรักษาความลับที่เธอได้ไปรับรู้มานี้ไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ รวมทั้งเธอก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอจะจัดการแก้ปัญหาในเรื่องที่เกิดขึ้นนี้อย่างไร

เพราะดูเหมือนว่าปัญหาที่เกิดขึ้นซึ่งเธอจะต้องคอยตามแก้ไขเหล่านี้จะเป็นปัญหาที่หนักหนาเกินกว่าความสามารถของเธอที่จะแก้ไขมันได้ทั้งสิ้น เพราะในตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่ยังไม่รู้เลยว่าเธอจะต้องทำอย่างไรต่อไปเพื่อป้องกันไม่ให้นายลูเซียสล่วงรู้ความจริงจากปากของเดรโกที่ว่าวันนี้ สเนปมาหาเธอถึงที่คฤหาสน์ รวมทั้งเธอยังต้องคิดหาวิธีที่จะจัดการไม่ให้ชายหนุ่มแพร่งพรายเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้กับคนอื่นนอกเหนือจากพ่อของเขาอีกด้วย ซึ่งหญิงสาวรู้ดีว่ามีเพียงวิธีเดียวเท่านั้นที่เธอจะสามารถปิดปากเดรโกได้ก็คือการดัดแปลงความทรงจำของเขาเช่นเดียวกับที่สเนปทำกับทิสซี่ก่อนหน้านี้ หากแต่ถึงกระนั้นหญิงสาวก็รู้ดีว่าเธอไม่อาจจะทำเช่นนั้นได้เพราะเธอไม่มีไม้กายสิทธิ์สำหรับร่ายคาถารวมทั้งเธอยังไม่สามารถออกไปจากคฤหาสน์แห่งนี้เพื่อตามหาเดรโกที่บัดนี้เธอเองก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนได้อีกด้วย

และเมื่อการพยายามแก้ไขสถานการณ์รวมทั้งหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นของเธอนั้นถูกปิดล้อมด้วยทางตันและคำว่าเป็นไปไม่ได้แบบนี้ เฮอร์ไมโอนี่ก็รู้สึกอ่อนแรงขึ้นมาในทันที ราวกับว่าปัญหาและอุปสรรคที่เธอต้องเผชิญนั้นมาพรากเอาพลังทั้งทางกายและทางใจของเธอออกไปจนหมดสิ้น และเมื่อเป็นเช่นนั้นหญิงสาวจึงตัดสินใจเดินกลับไปนั่งที่เตียงนอนอย่างอ่อนแรง โดยมีทิสซี่ซึ่งเป็นเอลฟ์ประจำตัวของเธอเดินตามมาติด ๆ

หลังจากที่ยืนมองนายหญิงของมันนั่งลงบนเตียงนอนด้วยท่าทีราวกับเธอกำลังเหนื่อยอ่อนรับกับดวงตาสีน้ำตาลที่แลดูอ่อนล้าสับสนอยู่ครู่หนึ่งนั้น ทิสซี่จึงตัดสินใจพูดสิ่งที่อยู่ในใจของมันออกมา

“ทิสซี่ไม่รู้ว่าควรจะพูดออกไปดีหรือไม่” มันพูดขึ้นอย่างไม่แน่ใจ “แต่ทิสซี่อยากให้นายหญิงทราบว่าทิสซี่เป็นห่วงนายหญิงนะเจ้าคะ” เอลฟ์กล่าวพลางเงยหน้าขึ้นมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยดวงตาสีฟ้าที่เต็มไปด้วยความจริงใจ แต่ถึงเฮอร์ไมโอนี่จะรู้ดีว่าทิสซี่นั้นเป็นห่วงและภักดีกับเธอมากเพียงใด แต่ในขณะเดียวกันหญิงสาวก็รู้ดีว่าเธอไม่สามารถระบายความอัดอั้นตันใจของเธอต่อเรื่องที่เกิดขึ้นให้มันฟัง รวมทั้งสามารถให้มันช่วยเหลืออะไรเธอได้เลย

และเมื่อเห็นว่านายหญิงของมันไม่ตอบอะไรออกมานอกจากยิ้มบาง ๆ ให้มันอย่างอ่อนแรงแล้ว ทิสซี่จึงตัดสินใจพูดต่อ ขณะที่มันขยับเข้ามาใกล้เฮอร์ไมโอนี่อีกสองก้าว

“นายหญิงเจ้าคะ ทิสซี่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างนายหญิงกับนายท่าน” เอลฟ์พูดขึ้นอย่างเกรง ๆ ราวกับมันกลัวว่ามันจะทำให้หญิงสาวตรงหน้าไม่พอใจ “แต่ทิสซี่คิดว่านายหญิงต้องการให้นายท่านอยู่กับนายหญิงต่อ” เสียงของเอลฟ์แผ่วเบาเมื่อมันพูดประโยคสุดท้ายออกมา แต่เพราะประโยคนั้นของมันเองที่ทำให้เฮอร์ไมโอนี่มองสบตามันอย่างอึดอัดใจขณะที่มันพูดต่อ

“แต่ถึงนายท่านจะยืนยันที่จะให้นายหญิงพักผ่อนก็เถอะนะเจ้าคะ แต่ทิสซี่ดูออกว่านายท่านก็เป็นห่วงนายหญิงมาก……” เอลฟ์เริ่มพูดอีกครั้ง แต่ครั้งนี้คำพูดของมันกลับถูกขัดขึ้นด้วยคำพูดของเฮอร์ไมโอนี่เสียก่อน

“เธอต้องการจะบอกอะไรฉันอย่างนั้นหรือ ทิสซี่” หญิงสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉยหากแต่ก็ ไม่ได้แฝงแววไม่พอใจเอาไว้ ราวกับเธอต้องการถามคำถามนี้กับเอลฟ์เพื่อให้มันบอกสิ่งที่มันต้องการจะสื่อออกมามากกว่าที่จะให้มันพูดจาเยิ่นเย้อต่อไป

และเมื่อเป็นเช่นนั้นทิสซี่จึงตัดสินใจบอกนายหญิงของมันออกไปตามตรง หากแต่มันก็ยังคงเล่าด้วยท่าทีระมัดระวังราวกับว่ามันกลัวว่าคำพูดของมันจะทำให้หญิงสาวไม่พอใจ

“ทิสซี่คิดว่าถ้านายหญิงต้องการให้นายท่านอยู่ด้วยจริง ๆ นายหญิงก็ควรจะไปหานายท่านที่ห้องนอนทางปีกตะวันตกนะเจ้าคะ ถึงนายท่านจะยืนกรานให้นายหญิงพักผ่อน แต่นายท่านคงต้องดีใจแน่ ๆ ถ้านายหญิงเป็นฝ่ายไปหานายท่านเอง” เอลฟ์พูดอย่างมีความหวัง และแม้กระทั่งเฮอร์ไมโอนี่เองก็อดเห็นด้วยกับเอลฟ์ไม่ได้ว่าการไปหาสามีของเธอถึงห้องนอนใหม่ของเขาเองอาจจะเป็นการแก้ปัญหาในเรื่องที่เกิดขึ้นก็ได้ เพราะอย่างน้อย ๆ เธอก็จะสามารถแน่ใจได้ว่าเขาจะไม่ออกไปตามหาเดรโกถ้าหากเขาอยู่กับเธอที่คฤหาสน์ เพียงแต่แผนการนี้มันก็มีอุปสรรคอยู่ตรงที่ว่าเธอไม่มีเหตุผลใดจะไปอธิบายให้นายลูเซียสฟังว่าทำไมเธอถึงมาหาเขาถึงที่ห้องนอนใหม่ของเขาแบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้นหญิงสาวก็ยังเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเพียงการถ่วงเวลาเท่านั้นไม่ใช่การแก้ปัญหาที่แท้จริง เพราะการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริงนั้นต้องเป็นการที่เธอแปลงความทรงจำของเดรโกเพื่อให้เขาลืมเรื่องที่เขาได้รู้เห็นในวันนี้เสียให้หมดสิ้น แต่อย่างที่รู้กันดีก็คือตัวเฮอร์ไมโอนี่เองไม่สามารถทำเช่นนั้นได้เพราะเธอไม่มีไม้กายสิทธิ์อีกทั้งเธอก็ไม่สามารถออกไปจากคฤหาสน์หลังนี้ได้ รวมทั้งเธอก็ไม่สามารถจะรอคอยจนกระทั่งเดรโกกลับมาที่บ้านเพื่อคิดหาวิธีแปลงความทรงจำของเขาได้อีกด้วย

แต่ถึงแม้จะมีอุปสรรคมากมายที่ขัดขวางหนทางในการแก้ปัญหาของเธออยู่ก็ตาม แต่ในที่สุดหลังจากลองทบทวนเรื่องทุกอย่างดูอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว เฮอร์ไมโอนี่ก็สามารถหาทางออกให้กับสถานการณ์ที่เธอกำลังเผชิญอยู่ได้ อันที่จริงทางออกที่ว่านั้นอยู่ตรงหน้าของเธอมาตั้งนานแล้ว รวมทั้งมันยังเป็นหนทางที่ง่ายดายไม่น้อยเสียด้วย หากแต่หญิงสาวกลับมองหามันไม่เจอ ไม่ใช่สิ ในตอนแรกเธอคิดว่าเธอควรจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองมากกว่าแต่เมื่อเฮอร์ไมโอนี่ค้นพบแล้วว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นมันใหญ่โตเกินความสามารถของเธอที่จะเข้ามาจัดการได้ด้วยตัวเธอเองอีกต่อไปแล้วนั้น หญิงสาวก็คิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่เธอควรจะขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเสียที เพราะในเมื่อเธอไม่สามารถลบความทรงจำของเดรโกได้ เธอก็ต้องให้คนอื่นจัดการแทนเธอในเรื่องนี้ ซึ่งคนที่เธอกำลังพูดถึงอยู่นั้นเป็นพ่อมดที่มีความสามารถยอดเยี่ยมในคาถาเกี่ยวกับความทรงจำ รวมทั้งเขาเองก็เป็นคนที่มีส่วนร่วมในความลับที่เฮอร์ไมโอนี่กำลังพยายามรักษาอยู่รวมทั้งมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ด้วย และแน่นอนว่าพ่อมดคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเซเวอร์รัส สเนป

หลังจากใช้เวลาระดมความคิดเพื่อจัดการและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นออย่างหนักแล้ว เฮอร์ไมโอนี่ก็สามารถหาทางออกรวมทั้งข้อสรุปในการแก้ปัญหาดังกล่าวได้ เพราะในตอนนี้หญิงสาวเห็นว่ามีเพียงทางเดียวเท่านั้นที่จะจัดการเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ก็คือเธอต้องไหว้วานให้สเนปไปลบความทรงจำของเดรโกเสียเพื่อความปลอดภัยของความลับที่เขาและเธอตั้งใจจะเก็บรักษาไว้ และหญิงสาวก็รู้ดีว่ามีเพียงทางเดียวเท่านั้นที่เธอจะติดต่อกับอดีตอาจารย์วิชาปรุงยาของเธอได้ในเวลานี้ อันที่จริงแล้วเธอก็สามารถพูดได้ว่าเป็นเพราะความพยายามของสเนปเองที่จะหาหนทางให้พวกเขาสามารถติดต่อกันได้โดยที่สามีของเธอไม่สงสัยที่ทำให้เกิดเรื่องราวทั้งหมดนี้ขึ้น เพราะหนทางเพียงหนึ่งเดียวที่เฮอร์ไมโอนี่จะติดต่อกับสเนปได้ก็คือผ่านทางสมุดบันทึกที่ชายผมดำนำมาให้เธอในวันนี้จนเป็นเหตุให้เดรโกเห็นพวกเขาอยู่ด้วยกันตามลำพังในคฤหาสน์นั่นเอง!

และเมื่อคิดได้เช่นนั้นเฮอร์ไมโอนี่จึงหันไปมองทางโต๊ะข้างเตียงนอนที่เธอกำลังนั่งอยู่ซึ่งบนโต๊ะตัวนั้นมีสมุดบันทึกเล่มดังกล่าววางอยู่บนโต๊ะอย่างสงบนิ่ง และในวินาทีต่อมาหญิงสาวก็ทำท่าจะเอื้อมมือไปหยิบมันเปิด เพียงแต่ก่อนที่เธอจะทำเช่นนั้นลงไปเฮอร์ไมโอนี่ก็คิดได้เสียก่อนว่าเธอไม่อาจจะส่งข่าวให้สเนปล่วงรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ถ้าหากเธอไม่มีปากกาและหมึกซึ่งเป็นสิ่งที่เธอต้องการเดินออกไปหยิบหลังจากที่เธอกลับมาที่ห้องนอนไม่นานนัก แต่หญิงสาวกลับไม่มีโอกาสเดินไปถึงห้องสมุดเพื่อหยิบเครื่องเขียนที่เธอต้องการเพราะเธอเจอเดรโกที่มายืนรอเธออยู่ที่หน้าห้องนอนเสียก่อน อีกทั้งถึงแม้ว่าเฮอร์ไมโอนี่จะมีเครื่องเขียนอยู่ในตอนนี้ก็ตาม เธอก็ไม่อาจจะเขียนข้อความเพื่อส่งไปให้เซเวอร์รัส สเนป อ่านต่อหน้าทิสซี่ได้

และเมื่อคิดได้เช่นนั้นหญิงสาวจึงเงยหน้าขึ้นมองเอลฟ์ร่างจ้อยที่อยู่ตรงหน้า ดวงตาสีน้ำตาลของเฮอร์ไมโอนี่สบกับดวงตาสีฟ้าของทิสซี่ที่จ้องมองเธออยู่อย่างไม่ยอมละไปไหน สีหน้าของเอลฟ์บ่งบอกถึงความแปลกใจในท่าทีของนายหญิงของมันที่ก่อนหน้านี้เธอทำท่าเหมือนจะเอื้อมมือไปหยิบอะไรบางอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงแต่เธอก็กลับเปลี่ยนใจขึ้นมาเสียก่อน ในขณะที่หญิงสาวนั้นจ้องมองเอลฟ์ประจำตัวของเธอด้วยสายตาพิจารณาอยู่ชั่วครู่ก่อนที่เธอจะพูดออกไป

“เธอช่วยไปเอาปากกากับหมึกมาให้ฉันหน่อยได้ไหมทิสซี่” เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้นอย่างราบเรียบราวกับว่าข้อเรียกร้องของเธอนั้นเป็นสิ่งที่ธรรมดาที่สุดเหมือนกับการที่เธอขอขนมหวานเพิ่มเป็นพิเศษในเวลาน้ำชาตอนบ่าย ไม่ใช่การร้องขอเครื่องเขียนที่น่าจะเป็นสิ่งต้องห้ามและน่าสงสัยสำหรับเธอในเวลานี้ หลังจากพูดถึงสิ่งที่เธอต้องการออกไปแล้วหญิงสาวก็รอคอยปฏิกิริยาตอบสนองของเอลฟ์ตรงหน้าอย่างใจจดใจจ่อ ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่ต้องเสียเวลารอนานเท่าไหร่นักเมื่อทิสซี่ที่มีท่าทีเข้าใจในสิ่งที่เธอพูดออกไปนั้นตอบออกมา

“นายหญิงต้องการเครื่องเขียนหรือเจ้าคะ แต่นายหญิงจะเอาเครื่องเขียนมาเขียนอะไรหรือเจ้าคะ” ทิสซี่ถามพลางเอียงคอมองเจ้านายของมันด้วยท่าทีสงสัย และเพราะคำถามนั้นของเอลฟ์เองที่ทำให้หญิงสาวจนตรอก เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้คิดมาก่อนว่าจะตอบทิสซี่ออกไปอย่างไรว่าเธอต้องการเอาปากกาและหมึกมาเขียนอะไรในเมื่อเธอไม่ได้อยู่ในห้องสมุดในตอนนี้และในห้องของเธอแห่งนี้ก็ดูจะไม่มีวัสดุอะไรให้เธอเขียนลงไปเท่าไหร่ อีกทั้งเฮอร์ไมโอนี่ยังไม่ทราบด้วยว่าการที่นายลูเซียสให้ทิสซี่มาดูแลเธออย่างใกล้ชิดนั้นชายผมบลอนด์จะสั่งให้เอลฟ์คอยสอดแนมพฤติกรรมของเธอแล้วไปรายงานเขาหรือไม่ และบางทีนายมัลฟอยอาจจะสั่งเอลฟ์ไว้ก็ได้ว่ามีวัตถุใดบ้างที่หญิงสาวได้รับอนุญาตให้ครอบครอง และวัตถุใดที่เธอไม่ได้รับอนุญาตให้มีไว้ เพราะการนำกระดาษและปากกามาใช้ในห้องนอนนั้นอาจจะนำไปสู่การเขียนจดหมายส่งไปให้ผู้อื่นที่อยู่นอกคฤหาสน์อย่างที่เธอกำลังจะทำอยู่ก็ได้ และในขณะที่กำลังระดมความคิดเพื่อหาคำตอบที่ดูเหมาะสมมาตอบเอลฟ์ออกไปนั้น จู่ ๆ ทิสซี่ที่กำลังจ้องมองเจ้านายของมันซึ่งมีท่าทีอึดอัดอยู่นั้นก็ทำท่าทีราวกับมันเพิ่งนึกบางอย่างออกก่อนจะพูดออกมา

“ทิสซี่รู้แล้วเจ้าค่ะ!” เอลฟ์ร้องเสียงแหลม “นายหญิงจะเขียนจดหมายหานายท่านใช่หรือเปล่าคะ นายหญิงต้องการปากกาและหมึกเพื่อเขียนจดหมายให้นายท่านเพราะคงจะมีเรื่องบางเรื่องที่นายหญิงไม่สะดวกที่จะพูดต่อหน้านายท่าน นายหญิงก็เลยอยากเขียนจดหมายหานายท่านแทนใช่ไหมเจ้าคะ” ทิสซี่สรุปตามความคิดของตัวเอง และถึงแม้ว่ามันจะผิดเพี้ยนไปจากความจริงมากเพียงใดก็ตาม หากแต่ข้อสรุปที่ผิดพลาดของมันกลับเป็นประโยชน์ต่อเฮอร์ไมโอนี่เมื่อเธอเลือกที่จะเออออตามมันไป

“ใช่จ้ะ ฉันก็คิดอย่างนั้นแหละ” เธอรีบพูดออกไปหลังจากที่พิจารณาแล้วว่าคำตอบดังกล่าวนั้นเป็นประโยชน์ต่อเธอ ในขณะเดียวกันนั้นเอลฟ์ก็เงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวอย่างงุนงง

“แต่นายหญิงจะไม่ต้องการกระดาษหรือเจ้าคะ นายหญิงบอกทิสซี่ว่าต้องการแค่ปากกากับหมึก” มันถามออกมาด้วยความซื่อ ทางด้านเฮอร์ไมโอนี่นั้นก็รีบตอบคำถามของทิสซี่ด้วยการเออออไปกับมันอีกครั้ง

“ใช่จ้ะ ฉันลืมเสียสนิทเลย ขอกระดาษด้วยแล้วกัน เธอช่วยเอามาให้ฉันในตอนนี้เลยได้ไหมจ๊ะ” หญิงสาวพูดพลางยิ้มให้มัน และเมื่อเห็นเช่นนั้นทิสซี่ก็ส่งยิ้มตอบให้นายหญิงของมันก่อนจะรับคำอย่างกระตือรือร้น

“ได้เจ้าค่ะนายหญิง ทิสซี่จะรีบเอาของที่นายหญิงต้องการมาให้เดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ” ทิสซี่กล่าวอย่างกระตือรือร้นราวกับเอลฟ์ภาคภูมิใจเป็นอย่างมากที่มันได้มีส่วนช่วยให้นายหญิงและนายท่านของมันกลับมาคืนดีกัน และในทันทีที่พูดจบเอลฟ์ก็ก้มศีรษะลงต่อจนจมูกของมันแทบจะจรดพื้นก่อนที่มันจะหายตัวไปพร้อมกับเสียงดังป็อป

หลังจากที่เอลฟ์หายตัวไปต่อหน้าต่อตาเธอแล้ว เฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก หญิงสาวรู้สึกดีใจไม่น้อยที่เธอสามารถหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้แม้ว่าการจะทำเช่นนั้นหมายถึงการที่เธอจำเป็นจะต้องรบกวนอดีตอาจารย์ของเธอให้เป็นธุระในการลบความทรงจำของเดรโกที่บัดนี้เธอไม่รู้แม้กระทั่งว่าเขาอยู่ที่ไหนด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่างไรก็ตามเธอรวมทั้งสเนปก็ต้องพยายามทำอะไรซักอย่างลงไปเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดของเรื่องที่เกิดขึ้นรวมทั้งเพื่อเป็นการพยายามรักษาความลับที่มีความสำคัญยิ่งของชายผมดำต่อไป ระหว่างที่คิดเช่นนั้นเฮอร์ไมโอนี่ก็ปรายตาไปมองสมุดบันทึกที่อดีตอาจารย์ของเธอเพิ่งทิ้งไว้ให้เธอซึ่งมันนอนสงบนิ่งอยู่บนโต๊ะข้างเตียงขณะที่เธอกำลังเรียบเรียงคำพูดที่จะใช้เขียนอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับสเนปฟังอยู่ในหัวอย่างเงียบๆ





…………………………………………….





ทิสซี่กลับมาที่ห้องนอนหลังจากที่มันออกไปได้ไม่นานพร้อมกับรายการของที่เฮอร์ไมโอนี่สั่งอย่างครบถ้วน ซึ่งก็คือชุดเครื่องเขียนครบชุดประกอบไปด้วยกระดาษหลายม้วน ปากกา และหมึกหนึ่งขวด รวมทั้งที่วางปากกาและแผ่นรองสำหรับเขียนหนังสือและเครื่องมือสำหรับปิดผนึกจดหมายด้วย เห็นได้ชัดว่าเอลฟ์ทำงานของมันได้ดีกว่าที่เฮอร์ไมโอนี่ได้สั่งไว้มากนัก และหลังจากที่ขอบคุณทิสซี่ที่มันได้นำของที่เธอต้องการมาให้แล้ว หญิงสาวก็บอกเอลฟ์ว่าเธอต้องการอยู่คนเดียวเวลาที่เธอเขียนจดหมาย โดยเธออ้างว่าเธอต้องการใช้เวลาเขียนจดหมายดังกล่าวที่เธอก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะเขียนอะไรลงไปบ้าง และการที่เธอบอกทิสซี่ออกไปเช่นนั้นเป็นเพราะเธอต้องการให้มันออกไปจากห้องหลังจากนี้ เนื่องจากเธอต้องการอยู่ตามลำพังในตอนที่เธอส่งข้อความหาอดีตอาจารย์ของเธอ รวมทั้งการที่เฮอร์ไมโอนี่บอกเอลฟ์ไปว่าเธอยังไม่แน่ใจว่าควรจะเขียนอะไรหรือสิ่งใดลงไปในจดหมายที่จะส่งให้นายลูเซียสผู้เป็นสามีของเธอดีนั้น ยังเป็นการปูทางไปสู่ข้อแก้ตัวที่หญิงสาวคิดไว้ก่อนแล้วว่าถ้าเกิดทิสซี่ถามถึงจดหมายที่เธอบอกว่าจะเขียนให้ชายผมบลอนด์ก่อนหน้านี้ เธอก็สามารถจะพูดได้ว่าเธอเขียนมันไม่สำเร็จเลยตัดสินใจที่จะล้มเลิกความตั้งใจในการเขียนจดหมายให้สามีของเธอเองเสียก่อน

ส่วนทางด้านทิสซี่นั้น ถึงแม้ว่ามันจะได้รับคำสั่งจากนายท่านของมันอย่างเคร่งครัดให้มาดูแลนายหญิงหลังจากที่เขาออกไปจากห้องแล้วก็ตาม หากแต่เอลฟ์ก็ไม่สามารถปฏิเสธความต้องการของเฮอร์ไมโอนี่ที่อยากจะอยู่คนเดียวเพื่อเขียนจดหมายถึงสามีของเธอได้ อีกทั้งทิสซี่ยังเห็นด้วยกับหญิงสาวตรงที่ว่าเธอน่าจะใช้เวลาเขียนจดหมายถึงนายท่านมัลฟอยเพียงลำพังเพื่อเรียบเรียงสิ่งที่เธอต้องการจะบอกนายท่านของมันออกมาเป็นตัวอักษร เพราะในใจลึก ๆ แล้วทิสซี่ที่ภักดีต่อนายท่านกับนายหญิงของมันเป็นอย่างมากนั้นก็ต้องการให้ทั้งสองกลับไปคืนดีกันมากกว่าอะไรทั้งหมด

และเมื่อเห็นเช่นนั้น หลังจากนำเครื่องเขียนที่ได้นำมาจากห้องสมุดไปวางบนโต๊ะเขียนหนังสือภายในห้องนอนเรียบร้อยแล้ว ทิสซี่ก็บอกนายหญิงของมันว่ามันจะขึ้นมาที่ห้องนอนอีกครั้งเมื่อถึงเวลาอาหารเย็นเพื่อเชิญหญิงสาวลงไปทานอาหารที่ห้องอาหาร และถ้าหากว่าเฮอร์ไมโอนี่ต้องการจะให้มันรับใช้เรื่องอื่นใด รวมทั้งเรื่องที่จะให้มันเป็นธุระไปส่งจดหมายที่เธอเขียนเสร็จเรียบร้อยแล้วไปให้นายลูเซียสผู้เป็นสามีของเธอหญิงสาวก็สามารถเรียกหามันได้ทุกเมื่อ ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ก็ได้แต่ยิ้มรับคำพูดนั้นของเอลฟ์และรับปากว่าเธอจะเรียกมันทันทีถ้าเธอมีเรื่องต้องการให้มันช่วย และหลังจากที่ภารกิจของเอลฟ์ในการรับใช้นายหญิงของมันจบสิ้นลงแล้ว ทิสซี่ก็โค้งศีรษะลงต่ำเพื่อทำความเคารพหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าของมันอย่างที่มันทำเป็นประจำก่อนจะหายตัวไปพร้อมกับเสียงดังป็อป

ทันทีที่แน่ใจว่าเอลฟ์ได้ออกไปจากห้องแล้ว เฮอร์ไมโอนี่ก็รีบหันกลับไปที่เตียงนอนของเธอเพื่อหยิบสมุดบันทึกซึ่งเป็นหนทางเพียงหนึ่งเดียวที่เธอจะใช้ติดต่อกับเซเวอร์รัส สเนป ได้ขณะที่อยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ รวมทั้งมันยังเป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวที่จะช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนที่เรื่องทั้งหมดจะบานปลายมากไปกว่านี้ หญิงสาวคว้าสมุดบันทึกเล่มดังกล่าวไว้อย่างแน่นหนาราวกับว่ามันเป็นทางรอดสุดท้ายของเธอก่อนที่เธอจะย่างสามขุมไปที่โต๊ะเขียนหนังสือที่ทิสซี่ได้จัดอุปกรณ์เครื่องเขียนเตรียมเอาไว้ให้แล้ว

เฮอร์ไมโอนี่นั่งลงบนเก้าอี้พร้อม ๆ กับเปิดสมุดเล่มดังกล่าวออกมาซึ่งส่งผลให้เธอเห็นข้อความที่เธอส่งไปให้อดีตอาจารย์ของเธอก่อนหน้านี้ซึ่งเป็นตัวหนังสือสีดำลอยเด่นอยู่ท่ามกลางหน้ากระดาษสีขาว แต่ที่สำคัญไปยิ่งกว่านั้นสเนปยังคงไม่ได้ตอบข้อความของเธอกลับมาแต่อย่างใด และถึงแม้หญิงสาวจะรู้ดีว่าการที่สเนปไม่ตอบข้อความเก่าของเธอนั้นคงเป็นเพราะเขากำลังยุ่งกับเรื่องอื่นอยู่หรือเขาอาจจะเห็นข้อความดังกล่าวแล้วคิดว่ามันไม่สำคัญพอที่จะต้องเขียนตอบก็เป็นได้ หากแต่ในสถานการณ์เช่นนี้เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่อาจจะห้ามตัวเองไม่ให้กังวลใจได้ว่า ถ้าหากสเนปยังไม่ได้ตอบข้อความที่เธอส่งไปก่อนหน้านี้หลายชั่วโมงแล้วล่ะก็ แล้วเขาจะตอบข้อความที่เธอกำลังจะเขียนถึงเขาเมื่อไหร่กัน ในตอนนี้สมุดอีกเล่มหนึ่งซึ่งเชื่อมกับเล่มของเธอนั้นอยู่กับตัวของเขาหรือไม่ แล้วถ้าหากสเนปไม่ได้พกมันติดตัวรวมทั้งไม่ได้ตรวจสอบมันว่าเธอส่งข้อความไปขอความช่วยเหลือจากเขาได้อย่างทันท่วงทีจนเขาไม่สามารถจัดการออกไปตามหาและลบความทรงจำของเดรโกได้ทันการณ์แล้วล่ะก็มันจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น

แต่ถึงจะกังวลกับเรื่องการส่งข้อความซึ่งค่อนข้างจะเร่งด่วนแล้วเกี่ยวกับความเป็นความตายไปให้อดีตอาจารย์วิชาปรุงยาของเธอก็ตาม หากแต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะเขียนข้อความไปขอความช่วยเหลือจากสเนปและอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อให้เขาช่วยหาหนทางที่จะแก้ไขมันได้เลย และถึงแม้ว่าหญิงสาวจะไม่รู้ว่าชายผมดำจะอ่านรวมทั้งตอบข้อความที่เธอกำลังจะเขียนผ่านลงไปในสมุดเล่มนี้เมื่อไหร่ก็ตาม แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเขียนข้อความเพื่อเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เขาฟังเท่านั้น เพราะมันเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เธอทำได้ในตอนนี้ และก็เป็นเพียงหนทางเดียวเท่านั้นที่เธอจะสามารถทำได้เพื่อแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้นรวมทั้งป้องกันไม่ให้มันลุกลามใหญ่โตไปมากกว่านี้ และเมื่อคิดได้เช่นนั้นเฮอร์ไมโอนี่ก็รีบเปิดสมุดบันทึกดังกล่าวไปยังหน้าต่อไป ขณะที่มืออีกข้างหนึ่งของเธอลงมือเปิดขวดหมึก ก่อนที่เธอจะจับปากกาขนนกไว้ด้วยมือข้างหนึ่งและจุ่มมันลงไปในขวดหมึกสีดำ เมื่อเธอยกปากกาขึ้น หญิงสาวก็มองไปยังหน้ากระดาษที่ว่างเปล่าตรงหน้า เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะจรดปากกาลงไปบนกระดาษนั้นเพื่อส่งข้อความเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้อดีตอาจารย์ของเธอฟัง





…………………………………………….





เฮอร์ไมโอนี่ใช้เวลาไม่นานนักในการเขียนข้อความบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้สเนปฟังเนื่องจากเธอได้เรียบเรียงและจัดลำดับสิ่งที่เธอต้องการจะเขียนไว้ในหัวอยู่ก่อนแล้ว โดยหญิงสาวได้เล่ารายละเอียดคร่าว ๆ ของเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ลงไปว่าเดรโกเข้ามาเห็นเธอและชายผมดำเดินออกมาจากห้องนอนของแม่เขาโดยบังเอิญ แต่ตัวเฮอร์ไมโอนี่เองก็ไม่รู้ว่าชายหนุ่มล่วงรู้เรื่องดังกล่าวจนกระทั่งถึงตอนที่เขาเข้ามาหาเรื่องเธอรวมทั้งกล่าวหาเธออย่างที่เขาเข้าใจ แต่ก็นับว่าเป็นโชคดีของเธอที่นายลูเซียสเข้ามาช่วยเธอไว้ได้ทัน โดยหญิงสาวได้ข้ามรายละเอียดในตอนที่เดรโกเข้ามาล่วงเกินเธอไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และหลังจากเขียนเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นลงไปเรียบร้อยแล้วเธอก็ลงท้ายด้วยการเขียนข้อความที่บ่งบอกว่าเธอต้องการขอความช่วยเหลือจากอดีตอาจารย์ของเธอ รวมทั้งบอกถึงสิ่งที่เธอคิดว่ามันจำเป็นจะต้องทำมากที่สุดในตอนนี้ซึ่งก็คือการลบความทรงจำของเดรโกเพื่อให้ชายหนุ่มลืมเรื่องราวที่เขาได้ไปรู้เห็นในวันนี้เสีย

แต่ถึงแม้ว่าเฮอร์ไมโอนี่จะสามารถบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรวมทั้งขอความช่วยเหลือไปยังอดีตอาจารย์ของเธอได้อย่างรวดเร็วผ่านสมุดบันทึกที่เขาให้เธอมาก็ตาม หากแต่หญิงสาวก็ไม่อาจจะรู้ได้ว่าสเนปจะได้อ่านรวมถึงตอบข้อความของเธอเมื่อไหร่ เนื่องจากข้อความก่อนหน้าที่เธอส่งไปบอกชายผมดำตั้งแต่ตอนที่เธอยังอยู่ที่ห้องสมุดว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีและสามีของเธอยังไม่ได้กลับมาที่คฤหาสน์นั้นก็ยังไม่มีข้อความใด ๆ ตอบกลับมาจากอดีตอาจารย์ของเธอ ซึ่งทำให้เฮอร์ไมโอนี่คาดเดาได้ว่าสเนปน่าจะยังไม่ได้อ่านข้อความแรกที่เธอส่งไปให้เขาผ่านสมุดบันทึกเล่มนี้ บางทีเขาอาจจะกำลังยุ่งอยู่กับธุระบางอย่างจนไม่มีเวลามาอ่านข้อความในสมุดบันทึกของเขาซึ่งเป็นเล่มที่คู่กับเธอ หรือบางทีเขาอาจจะได้รับมอบหมายภารกิจจากจอมมารจนเขาไม่มีเวลาว่างพอที่จะมาตรวจดูข้อความที่เธอส่งไปให้เขาก็เป็นได้ หากแต่ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว ถ้าหากอดีตอาจารย์วิชาปรุงยาของเธอยังไม่ได้อ่านรวมทั้งตอบข้อความแรกที่เธอเขียนไปถึงเขาแล้ว แล้วเมื่อไหร่เขาถึงจะได้อ่านข้อความที่หญิงสาวเพิ่งส่งไปให้เขาเมื่อครู่ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เร่งด่วนและสามารถจะส่งผลกระทบอย่างมหาศาลต่อทั้งชีวิตของเขาและเธอได้เล่า และถึงเธอจะรู้ดีว่าสเนปคงจะต้องเข้ามาอ่านข้อความในสมุดของเขาเล่มที่เชื่อมกับของเธอเป็นแน่ แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าเมื่อถึงตอนที่ชายผมดำเข้ามาอ่านข้อความที่บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นของเฮอร์ไมโอนี่แล้วนั้น มันจะเป็นการสายเกินไปสำหรับเขาในการพยายามตามหารวมทั้งลบความทรงจำของเดรโก มัลฟอยหรือไม่ เพราะหญิงสาวไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าเดรโกจะกลับมาที่คฤหาสน์หลังนี้เมื่อไหร่ รวมทั้งเขาและนายลูเซียสผู้เป็นบิดาของเขาจะได้พูดคุยกันอีกครั้งในตอนไหน หรือเมื่อออกจากคฤหาสน์ไปแล้วชายหนุ่มจะไปเล่าเรื่องที่เขาได้ไปรู้เห็นให้คนอื่นนอกจากคนในครอบครัวของเขาฟังรึไม่ แต่มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่หญิงสาวแน่ใจ ซึ่งก็คือถ้าหากว่าเดรโกได้เล่าเรื่องที่สเนปลอบเข้ามาหาเธอที่คฤหาสน์ในวันนี้ให้พ่อของเขาหรือใครก็ตามฟังก่อนที่อดีตอาจารย์ของเธอจะตามไปลบความทรงจำของชายหนุ่มได้ล่ะก็ ความลับอันสำคัญยิ่งที่เซเวอร์รัส สเนปรวมทั้งเธอกำลังพยายามรักษาอยู่อย่างสุดความสามารถนี้ก็คงจะต้องเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผยอย่างแน่นอน!

และถึงหญิงสาวจะรู้ดีว่าทุก ๆ วินาทีที่เคลื่อนคล้อยไปนั้นยิ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่ความลับของสเนปจะถูกเปิดโปงมากยิ่งขึ้น แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรอคอยเท่านั้น ใช่แล้ว เฮอร์ไมโอนี่ไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกเสียจากรอคอยการส่งสัญญาณตอบกลับมาจากอดีตอาจารย์ของเธอหลังจากที่เขาได้อ่านและรับรู้ถึงเรื่องราวที่เธอต้องการจะบอกเขาไปแล้วเท่านั้น แต่ถึงจะรู้เช่นนั้นก็ตาม หญิงสาวก็ไม่อาจจะห้ามตัวเองไม่ให้รู้สึกร้อนใจรวมทั้งอึดอัดไปกับการรอคอยที่แสนจะทรมานนี้ได้เลย เธอรู้สึกว่าทุก ๆ วินาทีที่ผันผ่านไปนั้นช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้าและน่าอึดอัดจนเธอแทบจะทนไม่ไหวกับการรอคอยที่ยาวนานราวกับชั่วนิรันดร์ในครั้งนี้ และหลังจากที่สังเกตได้ว่าเข็มยาวของนาฬิกาตั้งพื้นที่ตั้งอยู่อีกมุมหนึ่งของห้องวนได้ครบครึ่งรอบหลังจากที่เธอเริ่มต้นการรอคอยแล้วนั้น สายตาที่คอยจับจ้องหน้ากระดาษว่างเปล่าหน้าถัดไปของสมุดบันทึกอยู่นั้นก็เห็นตัวอักษรปรากฏขึ้นบนหน้ากระดาษที่เดิมเคยเป็นสีขาวโพลน

ตัวอักษรที่เขียนจากหมึกสีดำค่อย ๆ ปรากฏขึ้นจากหน้ากระดาษสมุดบันทึกที่ว่างเปล่า ราวกับมืมือที่มองไม่เห็นกำลังเขียนมันอยู่ และตัวอักษรที่เฮอร์ไมโอนี่เห็นนั้นก็เป็นตัวอักษรตัวเล็กที่เขียนเบียดเสียดกันซึ่งเธอพอจะคุ้นเคยอยู่บ้างว่ามันเป็นลายมือของอดีตอาจารย์วิชาปรุงยาของเธอ

และในเวลาไม่นานนักตัวอักษรบรรทัดแรกก็ปรากฏขึ้นด้วยลายมือหวัด ๆ ที่ดูราวกับอีกฝ่ายกำลังเขียนอย่างรีบเร่งว่า



‘ เธอไม่รู้ใช่ไหมว่าเดรโกไปที่ไหนหลังจากเขาออกจากคฤหาสน์ไปแล้ว ’

หลังจากปราดสายตาอ่านข้อความดังกล่าวที่สเนปเพิ่งส่งกลับมาอย่างรวดเร็วได้สองรอบ คำตอบที่เธอรู้ดีอยู่แล้วก็ผุดขึ้นมาในหัวของหญิงสาวทันที และเมื่อเป็นเช่นนั้นเฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่รอช้าเมื่อเธอรีบเอื้อมมือไปหยิบปากกาขนนกมาเขียนตอบอดีตอาจารย์ของเธอไปอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้จนหญิงสาวทำให้กระดาษเลอะเป็นรอยหมึกอย่างที่เธอไม่ค่อยจะทำในเวลาที่เธอเขียนหนังสือยามปกติ

‘ ฉันไม่รู้ค่ะ ’ เฮอร์ไมโอนี่รีบเขียนคำตอบแรกของเธอลงไปแล้งจึงค่อยยกมือที่เปื้อนหมึกขึ้นเช็ดอย่างลวก ๆ ก่อนที่หญิงสาวจะกัดริมฝีปากอย่างครุ่นคิดแล้วจึงเขียนคำตอบเพิ่มเติมลงไป

‘ แต่ฉันค่อนข้างแน่ใจว่าเขาออกไปจากคฤหาสน์หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นค่ะ ’ เธอเขียนลงไป และไม่ทันที่เฮอร์ไมโอนี่จะรู้สึกว่าหมึกบนกระดาษที่เธอเพิ่งเขียนลงไปนั้นแห้งดีเท่าไหร่นัก คำตอบของสเนปก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอด้วยถ้อยคำที่ทำให้เธอรู้สึกราวกับเขากำลังพูดประโยคดังกล่าวอยู่ต่อหน้าเธอในเวลานี้ เฮอร์ไมโอนี่แทบจะจับน้ำเสียงประชดประชันของชายผมดำได้จากข้อความที่เพิ่งถูกส่งมาให้เธอ ซึ่งมีใจความว่า

‘ เธอค่อนข้างแน่ใจอย่างนั้นหรือ ‘ เขาตอบกลับมาเช่นนั้นก่อนที่เขาจะส่งข้อความใหม่มาอีก ด้วยการเขียนที่รวดเร็วจนลายมือของเขาดูหวัดและอ่านยากกว่าเดิมเป็นสองเท่าว่า

‘ เธอก็น่าจะรู้นะว่าเรื่องนี้มันสำคัญแค่ไหน และมันเป็นอันตรายแค่ไหนต่อความลับของฉัน ’ ถ้อยคำที่สเนปเขียนกลับมานั้นทำให้หญิงสาวผู้ได้อ่านมันรู้สึกว่าใบหน้าของเธอร้อนผ่าวด้วยความโกรธระคนอับอาย นี่เขาจะโทษว่ามันเป็นความผิดของเธอที่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างนั้นหรือ ทั้ง ๆ ที่เธอเองก็ไม่ต้องการให้เกิดเรื่องทั้งหมดนี่ขึ้นเลยแม้แต่น้อย



ใช่! มันอาจจะเป็นความผิดของเธอตั้งแต่แรกที่เข้าไปยุ่มย่ามในห้องทำงานของเขาจนกระทั่งเธอไปล่วงรู้ความลับของเขาเข้าโดยบังเอิญ แต่ถึงอย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็ไม่ได้เป็นความผิดของเธอหรือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากความตั้งใจของเธอแต่อย่างใด อีกทั้งเพราะการพยายามจะช่วยเขาปกปิดความลับที่สำคัญยิ่งของเขานั่นเองที่ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ต้องเผชิญเรื่องราวที่เลวร้ายอย่างที่ไม่ควรจะมีผู้หญิงคนไหนต้องมาประสบลงไป และในเมื่อหญิงสาวเองก็ต้องเคราะห์ร้ายรวมทั้งต้องเสียสละหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อปกป้องความลับของเขาขนาดนี้แล้ว ดังนั้นสเนปก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาพูดจากล่าวหาเธอแบบนี้!

แต่ถึงจะไม่พอใจในคำพูดหรือข้อความที่อดีตอาจารย์ของเธอได้พูดออกไปเท่าไหร่นัก เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่ได้เขียนข้อความโต้ตอบเขาลงไป หรืออาจจะเป็นเพราะหญิงสาวยังไม่ทันที่จะได้ลงมือเขียนข้อความกลับไปให้อดีตอาจารย์ของเธอเพื่ออธิบายว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้มันเกิดขึ้นโดยที่เธอเองก็ไม่ได้ต้องการจะให้มันเกิดรวมทั้งเธอก็ไม่สามารถยับยั้งมันได้ด้วยนั้น สเนปก็ได้ส่งข้อความใหม่ของเขาขึ้นมาบนหน้ากระดาษสีขาวโพลนของสมุดบันทึก ซึ่งข้อความที่ชายผมดำส่งมานั้นมีใจความว่า

‘ แล้วลูเซียสล่ะ เขายังอยู่ที่คฤหาสน์อยู่ใช่ไหม เธอแน่ใจไหมว่าเขาไม่ได้ตามเดรโกออกไป ’ สเนปเขียนมาเพียงแค่นี้ ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่กัดริมฝีปากเพื่อสกัดกั้นอารมณ์โกรธของตัวเอง ไว้ ก่อนจะตั้งใจอ่านข้อความใหม่ของชายผมดำที่เพิ่งปรากฏขึ้นมา หญิงสาวต้องใช้เวลาอ่านมันซ้ำอยู่หลายรอบก่อนที่เธอจะตัดสินใจตอบมันลงไป เพราะจริง ๆ แล้วเฮอร์ไมโอนี่เองก็ต้องการเวลาสักครู่หนึ่งเพื่อปรับให้อารมณ์ของเธอเย็นลงและหลังจากที่เธอเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่อดีตอาจารย์ของเธอพูดมาก่อนหน้านี้นั้นไม่ได้เป็นการว่ากล่าวเธออย่างที่เธอคิดแต่อย่างใด เพียงแต่เขาอาจจะพุ่งความสนใจไปที่การรักษาความลับของเขามากเกินไปหน่อยก็เท่านั้น อีกทั้งเฮอร์ไมโอนี่ก็เพิ่งคิดได้ว่าในสถานการณ์ที่เธอกำลังเผชิญอยู่ ณ ตอนนี้ สิ่งที่สมควรจะต้องทำอย่างมากที่สุดก็คือหาทางแก้ไขและป้องกันเรื่องร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นต่อไป ไม่ใช่การเอาเวลาอันมีค่าของเธอมาโกรธเคืองสเนปด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้ และเมื่อคิดได้เช่นนั้นแล้วหญิงสาวจึงยกมือที่กำลังจับปากกาของเธอขึ้นมาและเขียนตอบสเนปออกไปด้วยท่าทีที่สุขุมมากขึ้นว่า

‘ ฉันเพิ่งแยกกับลูเซียสเมื่อครู่ค่ะ ตอนนี้เขาไปอยู่ที่………อีกห้องนอนนึง ’ เธอชะงักที่รายละเอียดนี้เล็กน้อยก่อนจะลงมือเขียนต่อ ‘ แต่ก่อนหน้านี้ฉันได้ถามเขาเรื่องเดรโก ฉันแน่ใจค่ะว่าเขาไม่ได้ออกไปตามหาเดรโก เพียงแต่เขาก็สั่งให้เอลฟ์ บอกเขาทันทีที่เดรโกกลับมาถึงคฤหาสน์ค่ะ ’ เมื่อเฮอร์ไมโอนี่เขียนเสร็จ เธอก็วางปากกาในมือลงก่อนจะรอคอยคำตอบจาก สเนปด้วยท่าทีที่สงบลงมากกว่าเดิม

คำตอบต่อไปของชายผมดำนั้นปรากฏขึ้นช้ากว่าก่อนหน้านี้มาก ราวกับเขาต้องใช้เวลาคิดทบทวนข้อความของเขาก่อนที่เขาจะเขียนมันลงในสมุด และเมื่อมันปรากฏขึ้นในสมุดเล่มที่อยู่ตรงหน้าของหญิงสาวมันมีใจความว่า

‘ ฉันพอจะคิดวิธีแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ แต่ฉันต้องการความช่วยเหลือจากเธอ มิสเกรนเจอร์ และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ทั้งฉันและเธอจะทำพลาดไม่ได้ในครั้งนี้ ’ หลังจากข้อความดังกล่าวปรากฏขึ้น และมันก็ต้องใช้เวลาชั่วอึดใจหนึ่งกว่าที่ข้อความต่อมาจะปรากฏตามมา ราวกับว่าอีกฝ่ายนั้นกำลังรอคอยให้เธอเขียนตอบเขามาก่อน แต่ในขณะเดียวกันเฮอร์ไมโอนี่เองก็รอให้ชายผมดำเป็นฝ่ายเขียนข้อความที่เขาต้องการจะบอกเธอเสียให้จบ แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากหญิงสาวรอคอยไปได้ครู่หนึ่งข้อความต่อไปซึ่งบอกว่าอดีตอาจารย์วิชาปรุงยาของเธอวางแผนจะจัดการเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไรก็ปรากฏขึ้น

‘ ถ้าเดรโกออกไปจากคฤหาสน์ ฉันคิดว่ามันน่าจะเป็นไปได้สำหรับฉันที่จะตามหาตัวเขา รวมทั้งร่ายคาถาปรับความทรงจำใส่เขา เพียงแต่ในเวลาที่ฉันกำลังตามหาเดรโกอยู่นั้น ฉันก็จะต้องแน่ใจว่าเขาจะไม่กลับไปที่คฤหาสน์เสียก่อน หรือจะพูดให้ถูกก็คือ ฉันจะต้องแน่ใจว่าเดรโกจะไม่เจอกับพ่อของเขาก่อนที่ฉันจะร่ายคาถาปรับความทรงจำเขาเสร็จเรียบร้อย ’ หลังจากข้อความทั้งหมดปรากฏขึ้นบนหน้ากระดาษตรงหน้าเรียบร้อยแล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็รีบอ่านมันอย่างตั้งอกตั้งใจ หญิงสาวอ่านข้อความที่สเนปเขียนส่งมาอย่างรวดเร็วถึงสองรอบก่อนจะตัดสินใจเขียนตอบเขาลงไป แน่นอนว่าเธอเห็นด้วยกับอดีตอาจารย์ของเธอว่าเขาจำเป็นต้องลบความทรงจำของเดรโกก่อนที่ชายหนุ่มจะได้เจอกับพ่อของเขาอีกครั้ง เพราะการพบกันครั้งต่อไประหว่างนายลูเซียสและลูกชายของเขาอาจจะเป็นการเปิดโอกาสให้เดรโกเล่าเรื่องที่เขาได้ไปล่วงรู้มาให้พ่อของเขาฟังตามตรงก็ได้ และมันก็เป็นหน้าที่ของทั้งเธอและสเนปที่จะต้องยับยั้งไม่ให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น เพียงแต่เฮอร์ไมโอนี่กลับมองไม่เห็นว่าเธอจะสามารถแน่ใจได้อย่างไรว่าสองพ่อลูกมัลฟอยจะไม่พบกันก่อนที่สเนปจะจัดการแปลงความทรงจำของเดรโกเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นในวินาทีต่อมาก่อนที่ชายผมดำจะเขียนข้อความใหม่ของเขาขึ้นมา มือที่จับปากกาขนนกของเฮอร์ไมโอนี่อยู่จึงจรดลงไปบนหน้าบันทึกเป็นข้อความที่มีใจความว่า

‘ แล้วเราจะมั่นใจได้อย่างไรล่ะคะ ว่าพวกเขาจะไม่เจอกันก่อน ’

หลังจากที่เธอเขียนข้อความซึ่งแสดงถึงความสงสัยของเธอลงไปข้อความใหม่ของชายผมดำก็ปรากฏขึ้นมาแทบจะในทันที หากแต่ข้อความที่ตอบกลับมาดังกล่าวนั้นกลับยิ่งเพิ่มความสงสัยให้กับหญิงสาวมากขึ้นเมื่อเธอได้อ่านมัน

‘ นั่นเป็นหน้าที่ของเธอ นั่นเป็นสิ่งที่ฉันต้องการให้เธอทำเพื่อไม่ให้ลูเซียสได้เจอลูกชายของเขาก่อนเวลาอันควร ’ คิ้วของเฮอร์ไมโอนี่ขมวดเล็กน้อยเมื่อเธอได้อ่านข้อความดังกล่าวที่สเนปส่งมา ใบหน้างามที่กำลังจ้องมองหน้ากระดาษที่เต็มไปด้วยตัวอักษรตรงหน้านั้นเต็มไปด้วยความสงสัยกับข้อมูลที่เธอเพิ่งได้รับมา หากแต่ความสงสัยดังกล่าวนั้นก็คงอยู่ได้ไม่นานนัก เพราะหลังจากที่หญิงสาวลองตรึกตรองเรื่องราวทั้งหมดดูดี ๆ แล้ว เฮอร์ไมโอนี่ก็คิดออกว่าสิ่งที่สเนปต้องการจากเธอนั้นคืออะไร เพราะอดีตอาจารย์ของเธอพูดว่ามันเป็นหน้าที่ของเธอที่จะแน่ใจว่าชายผมบลอนด์จะไม่เจอลูกชายของเขาก่อนที่เดรโกจะได้รับการปรับความทรงจำ ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว สิ่งที่สเนปต้องการจากเธอก็คือให้เธอจับตาดูนายลูเซียสไว้จนกว่าสเนปจะลบควาทรงจำเดรโกเรียบร้อยแล้วอย่างนั้นหรือ เฮอร์ไมโอนี่คิดอย่างสับสน และเมื่อคิดได้เช่นนั้น รวดเร็วเท่าความคิดมือเล็กของเธอที่จับปากกาอยู่ก็เขียนสิ่งที่เธอต้องการจะถามอดีตอาจารย์ของเธอลงไปบนสมุดบันทึกอย่างรวดเร็วจนเธอทำหมึกเลอะหน้ากระดาษสีขาวโพลนอีกครั้ง

‘ ที่บอกว่าเป็นหน้าที่ของฉัน คุณหมายความว่ายังไงคะ ‘ เธอถามออกไปตามตรง และหลังจากหญิงสาวยกปากกาในมือของเธอขึ้นจากหน้าสมุดบันทึกไม่นาน ข้อความใหม่ของสเนปก็ปรากฏขึ้นด้านล่างของข้อความที่เฮอร์ไมโอนี่เขียนถามเขาไปอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าชายผมดำได้คิดไว้อยู่แล้วว่าเขาจะเขียนอะไรตอบหญิงสาวออกมา

และเมื่อคำตอบของสเนปปรากฏขึ้นสู่สายตาของเฮอร์ไมโอนี่ หญิงสาวก็ต้องอ่านมันอย่างต่ำสามรอบเพื่อแน่ใจว่าสิ่งที่เธอเห็นนั้นถูกต้องและเป็นสิ่งที่อดีตอาจารย์ของเธอต้องการจะสื่อรวมทั้งต้องการให้เธอทำจริง ๆ เพราะข้อความดังกล่าวนั้นมีใจความว่า

‘ ฉันต้องการให้เธอจับตาดูลูเซียสเอาไว้ไม่ให้คลาดสายตา ไม่ใช่สิ เธอจะต้องอยู่กับเขาตลอดเวลาในระหว่างที่ฉันออกไปตามหาเดรโกเพื่อลบความทรงจำของเขา และเมื่อฉันพูดว่าตลอดเวลาฉันหมายถึงเธอจะต้องอยู่กับเขาตลอดเวลาจริง ๆ เกรนเจอร์ เพราะเธอเป็นคนเดียวเท่านั้นที่สามารถกันไม่ให้เดรโกและพ่อของเขาได้พบกันจนกว่าฉันจะทำงานของฉันเสร็จเรียบร้อยซึ่งฉันก็ไม่แน่ใจว่ามันจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน แต่ถ้าเราโชคดีฉันเชื่อว่าทุกอย่างก็น่าจะเรียบร้อยภายในคืนนี้ ’

นั่นเป็นข้อความทั้งหมดที่สเนปเขียนส่งมาให้เธอ และหลังจากอ่านข้อความดังกล่าวอย่างละเอียดไม่ต่ำกว่าสามรอบแล้ว เฮอร์ไมโอนี่ก็คลายมือของเธอที่กำลังจับปากกาอยู่ลง ดวงตาสีน้ำตาลของหญิงสาวจ้องมองไปยังหน้ากระดาษเบื้องหน้าที่มีรอยหมึกสีดำประดับอยู่ด้วยความสับสน หลังจากที่เธอได้รู้แล้วว่าสิ่งที่สเนปต้องการจากเธอก็คือให้เธอคอยจับตาดูและถ่วงเวลานายลูเซียสไว้ระหว่างที่เขาออกไปตามหาและลบความทรงจำเดรโก แน่นอนว่าสิ่งที่สเนปเสนอมานั้นฟังดูสมเหตุสมผลและเหมาะสมอยู่ไม่น้อย เฮอร์ไมโอนี่ไม่อาจจะโต้เถียงเขาในข้อนี้ได้ หากแต่ในขณะเดียวกันหญิงสาวเองก็รู้ดีว่าเธอไม่อาจจะทำสิ่งที่ชายผมดำต้องการให้เธอทำในตอนนี้ได้เลย เพราะสิ่งที่อดีตอาจารย์ของเธอคาดหวังให้เธอทำนั้นหมายถึงการที่เธอจะต้องเข้าไปอยู่กับนายลูเซียสสองต่อสองเพื่อกันตัวเขาไว้จากการพบเจอเดรโกซึ่งมีโอกาสที่จะเป็นไปได้อย่างสูงว่ามันน่าจะกินเวลาตลอดทั้งคืนนี้ และมันก็หมายความว่าเฮอร์ไมโอนี่จะต้องเอาตัวของเธอเองไปอยู่ใกล้ชิดสามีของเธอตลอดทั้งค่ำคืนนี้ หากแต่เธอจะสามารถทำเช่นนั้นได้อย่างไรกันเล่า ในเมื่อเธอและนายลูเซียสนั้นไม่ได้เป็นคู่สามีภรรยาปกติธรรมดาทั่วไป และการทำสิ่งที่สเนปต้องการนั้นหมายถึงการที่เธอจะต้องไปใช้เวลาทั้งคืนเพื่ออยู่กับผู้ชายที่เคยลงมือทำร้ายและขืนใจเธอมาแล้ว แล้วเฮอร์ไมโอนี่จะสามารถทำเช่นนั้นได้อย่างไรกัน แม้ว่าเธอจะต้องทำเพื่อความปลอดภัยของอดีตอาจารย์ของเธอรวมทั้งเพื่อรักษาความลับของเขาที่บัดนี้เธอได้เข้ามาเป็นผู้มีส่วนร่วมรู้เห็นด้วยแล้วก็ตาม แต่เธอจะสามารถเข้าไปหารวมทั้งใช้เวลาตลอดทั้งคืนอยู่ใกล้ชิดกับผู้ชายที่เคยทำร้ายเธออย่างแสนสาหัสอย่างนายลูเซียสได้อย่างไรกันเล่า หญิงสาวไม่รู้จริง ๆ

และท่ามกลางกระแสความคิดที่สับสนซึ่งกำลังพัดกระหน่ำอยู่ในหัวของเฮอร์ไมโอนี่ราวกับลมพายุนั้น หญิงสาวก็ทำได้เพียงแค่จ้องข้อความที่สเนปส่งมาให้เธอเมื่อครู่ ซึ่งมันเป็นตัวอักษรสีดำที่ลอยเด่นอยู่ท่ามกลางหน้ากระดาษสีขาวโพลนของสมุดบันทึกตรงหน้าด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความสับสน







*************************************************




คุยกันหลังอ่าน

อ่านตอนนี้เสร็จแล้วอย่าเพิ่งเรียกหาตอนต่อไปนะคะ เพราะพิกคิดว่านักอ่านหลายคนคงสงสัยน่าดูเลยใช่มะคะว่านางเอกของเราจะทำยังไงต่อไป เอาเป็นว่าต้องรอลุ้นกันในตอนต่อไปที่สัญญาว่าจะไม่ปล่อยให้รอ (นาน) เหมือนที่ผ่านมาแล้วนะคะ สำหรับตอนนี้ นักเขียนท่านใดชอบหรือไม่ชอบฟิคตอนนี้อย่างไร อย่าลืมแชร์ความเห็นเข้ามานะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ ^^






Create Date : 26 สิงหาคม 2556
Last Update : 31 สิงหาคม 2556 21:58:15 น. 6 comments
Counter : 1451 Pageviews.

 
ตามอ่านหมดเลย ชอบภาษาเขียนมาก รอๆมาอัพไวๆนะครับ ชอบทุกเรื่องเลย อยากให้อัพ My tear ด้วยครับ สนุกมากๆ อ่านไปน่าสงสารสุดๆ


โดย: Aki IP: 110.78.186.43 วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:4:05:11 น.  

 
สวัสดีคะ คุณแต่งได้สนุกมากๆเลย นั่งอ่านทุกเรื่องที่แต่งหมดแล้วรู้สึกหลงรักคู่เดรไมโอนี่มากค่ะ

อยากอ่านมากเลยค่ะ ตอนนี้กำลังติดฟิคเดรเฮอร์ มากๆๆๆ ค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะ ที่แต่งเรื่องสนุกๆ มาให้อ่านนะค่ะ จะเฝ้ารออ่านจนเรื่องนี้จบนะค่ะ ชอบเรื่องนี้ เรื่อง เธอคือทาสหัวใจของฉันและmy tear มากเลยคะ

จะรออ่านอย่างใจจดใจจ่อคะ ^O^


โดย: หวาน IP: 110.77.149.209 วันที่: 7 กันยายน 2556 เวลา:6:15:38 น.  

 
สนุกค่ะ อ่านรวดเดียวจบเลย สำนวนคุณพิกดีกว่าสมัยเรื่องศัตรูที่รักมากเลยค่ะ จะรอติดตามตอนต่อไปนะคะ


โดย: บีบี IP: 49.230.134.45 วันที่: 21 ตุลาคม 2556 เวลา:21:48:54 น.  

 
รออ่านอยู่นะคะคุณพิก ยังเขียนต่อมั๊ยเอ่ย


โดย: FogGy IP: 1.47.202.121 วันที่: 10 ตุลาคม 2557 เวลา:0:14:04 น.  

 
รออยู่ๆๆ


โดย: nasa IP: 171.7.130.122 วันที่: 26 มกราคม 2558 เวลา:12:08:37 น.  

 
ยังเขียนต่ออยู่ค่ะ ตอนเน้กะลังปั่นตอนที่ 19 ได้ 90% แล้วค่า


โดย: piksi วันที่: 28 มกราคม 2558 เวลา:16:45:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

piksi
Location :
ปทุมธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 95 คน [?]




สวัสดีค่ะ เรา piksi นะคะ เรียกสั้น ๆ ว่าพิกก็ได้ค่ะ เราเป็นแฟนแฮร์รี่ พอตเตอร์คนหนึ่งที่ชื่นชอบคู่ D/Hr มากเลยค่ะ รวมทั้งรัก Tom Felton สุดหัวใจ >-< ใครที่ชอบคู่นี้และชื่นชอบทอมเหมือนกัน เค้ามาคุยกันนะคะ
Friends' blogs
[Add piksi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.