|
The Dark Princess: Chapter 13 Severus Secrets PART III
[ต่อไปนี้มีฉากส่วนหนึ่งที่ยกมาจากหนังสือเล่มที่ 7 ตอนเรื่องเล่าของเจ้าชายนะคะ แต่ก็จะมีบางฉากที่เราเขียนขึ้นเองรวมทั้งฉากที่เอามาจากหนังสือเราก็จะเอามาเล่าในภาษาของเราเองเพื่อไม่ให้มันเหมือนหนังสือเป๊ะ ๆ ด้วยค่ะ]
เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกราวกับร่างของเธอถูกดูดเข้าไปในมวลสารสีเงินที่เวียนว่ายอยู่ภายในเพนซิฟ และเมื่อรู้สึกตัวอีกครั้งหญิงสาวก็พบว่าเท้าของเธอแตะพื้นนุ่ม ๆ ของผืนหญ้า เบื้องหน้าของเธอเป็นเด็กอายุราวสิบขวบสองคนกำลังยืนโต้เถียงกันอยู่ เด็กหญิงคนที่มีผมสีน้ำตาลเข้มกำลังตะโกนใส่เด็กคนที่ตัวเล็กกว่าและมีผมแดงสยาย
หยุดนะ! เด็กผมสีเข้มร้อง และเมื่อเฮอร์ไมโอนี่เดินเข้าไปใกล้ ๆ เธอจึงเห็นว่าเด็กผมสีแดงนั้นมีดอกไม้ดอกหนึ่งอยู่ในมือแต่ที่น่าประหลาดก็คือเธอสามารถทำให้กลีบของมันหุบเข้าและสยายออกได้ราวกับมีเวทย์มนต์
มันไม่ทำอะไรพี่หรอกน่า เด็กผมแดงกล่าว ดวงตาสีเขียวมรกตของเธอทอประกายอย่างนึกสนุก มันเป็นดวงตาที่หญิงสาวรู้สึกคุ้นตาเหลือเกิน
มันไม่ถูกต้องนะ เธอทำได้ยังไงกัน เด็กผมสีน้ำตาลมองตามกลีบดอกไม้ที่ปลิวจากมือของเด็กผมแดงด้วยแววตาที่แฝงไว้ด้วยความอิจฉา แต่ก่อนที่เด็กผมแดงจะได้พูดอะไรออกไปเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวขึ้นของเด็กชายอายุราวสิบถึงสิบเอ็ดปี เขามีผิวที่ซีดเผือด ผมและดวงตาของเขาเป็นสีดำสนิท ทันทีที่เห็นเด็กคนนั้นเฮอร์ไมโอนี่ก็แน่ใจว่าเขาเป็นสเนปในวัยเด็ก
อะไรกันล่ะที่เห็นได้ชัด ๆ เด็กผมแดงถาม หลังจากที่เด็กผมสีเข้มกรีดร้องวิ่งหนีไปเพราะการปรากฏตัวของสเนป
ฉันรู้ว่าเธอเป็นอะไร สเนปในความทรงจำกระซิบ
เธอหมายความว่ายังไง เด็กหญิงคนนั้นถาม
เธอเป็น.....เธอเป็นแม่มด สเนปพูด และก็ราวกับมีคนมากดสวิตซ์ไฟในหัวของเฮอร์ไมโอนี่ หญิงสาวสามารถเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้ทันที อันที่จริงเธอน่าจะเข้าใจเรื่องนี้ตั้งแต่เธอเห็นดวงตาของเด็กผมแดงคนนั้นแล้ว เพราะมันเป็นดวงตาสีเขียวแบบเดียวกับของเพื่อนรักของเธอ แฮร์รี่ พอตเตอร์ และที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอนี้ก็น่าจะเป็นลิลี่ พอตเตอร์ แม่ของแฮร์รี่ในตอนเด็ก
หลังจากค้นพบความจริงดังกล่าวแล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็ติดตามดูสเนป และลิลี่ รวมถึงพี่สาวของเธอในความทรงจำพลางสังเกตุพฤติกรรมของพวกเขา เห็นได้ชัดว่าสเนปรู้จักลิลี่มาตั้งแต่ที่พวกเขาเป็นเด็ก หญิงสาวดูเด็กทั้งสองในความทรงจำตั้งแต่พวกเขารู้จักกันจนถึงตอนที่สเนปพูดเรื่องฮอกวอตส์กับลิลี่จนกระทั่งพวกเขาขึ้นรถด่วนสายฮอกวอตส์เพื่อไปที่โรงเรียนเป็นครั้งแรกด้วยกัน และที่นั่นเองที่พวกเขาได้พบกับเจมส์ พอตเตอร์ และซีเรียส แบล็ก ซึ่งดูเหมือนว่าทั้งสองจะทำตัวเป็นอริกับสเนปตั้งแต่แรกเจอ
เฮอร์ไมโอนี่ติดตามดูฉากในความทรงจำในวัยเด็กของสเนปที่เปลี่ยนฉากหลังจากบริเวณแถวบ้านของเขามาเป็นฮอกวอตส์อย่างสนอกสนใจ ความทรงจำของสเนปที่ฮอกวอตส์เริ่มขึ้นด้วยฉากการคัดสรรนักเรียนปีหนึ่งเข้าบ้าน ซึ่งแน่นอนว่าลิลี่ เอฟเว่นส์นั้นถูกคัดสรรไปอยู่บ้านกริฟฟินดอร์เช่นเดียวกับ เจมส์ ซีเรียส และรีมัส ขณะที่สเนปนั้นถูกคัดสรรไปอยู่บ้านสลิธีรินโดยที่หมวกคัดสรรกรีดร้องออกมาว่า สลิธีริน ทันทีที่มันสัมผัสผมสีดำของเขา
หญิงสาวมองภาพอดีตอาจารย์วิชาปรุงยาในวัยเด็กเดินไปที่โต๊ะของบ้านสลิธีรินอย่างภาคภูมิใจ และแล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็ต้องรู้สึกเย็บวาบที่สันหลังเมื่อเธอเห็นลูเซียส มัลฟอยในวัยรุ่นกำลังยืนรอสเนปอยู่ที่โต๊ะ และตบหลังของเด็กชายอย่างปลาบปลื้มเมื่อสเนปนั่งลงข้างเขา เข็มกลัดพรีเฟ็คสว่างวาบอยู่บนอกของนายมัลฟอย และจากที่สังเกตุดูแล้วนายลูเซียสในความทรงจำน่าจะมีอายุไม่เกิน 15 ปี ผมสีบลอนด์ของเขาดูสว่างไสวท่ามกลางแสงเทียนภายในห้องโถง และถึงแม้ว่านายลูเซียสในตอนนั้นจะยังเด็กมากและแตกต่างกับตอนปัจจุบันโดยสิ้นเชิง แต่สิ่งเดียวที่ทำให้เฮอร์ไมโอนี่สังเกตุว่ามันไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยจวบจนถึงปัจจุบันก็คือดวงตาสีเงินอันเย็นชาและท่าทีถือตัวตามแบบฉบับของตระกูลมัลฟอยของเขา
แต่ก่อนที่หญิงสาวจะมีโอกาสสำรวจสามีของเธอในอดีตมากกว่านี้ฉากก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง
ฉากนี้เป็นฉากที่เกิดขึ้นที่ฮอกวอตส์เช่นกัน มันเป็นบริเวณหน้าหอคอยกริฟฟินดอร์ สเนปและลิลี่ดูโตขึ้นมากจากความทรงจำที่เธอเห็นเมื่อครู่ เด็กทั้งสองน่าจะอายุราว ๆ 15 ปีในตอนนั้น ลิลี่สวมชุดนอนและกำลังยืนกอดอกมองสเนปที่มาหาเธอหน้าหอกริฟฟินดอร์ด้วยแววตาเย็นชา
ฉันออกมาก็เพราะแมรี่บอกฉันว่าเธอขู่ว่าจะนอนตรงนี้ เด็กสาวผมแดงกล่าว
ฉันพูดจริง ๆ แล้วฉันจะทำจริงด้วย ฉันไม่ได้ตั้งใจเรียกเธอว่าเลือดสีโคลน มันแค่....... สเนปพยายามอธิบาย
หลุดปากออกมาใช่ไหม ลิลี่ตัดบทอย่างเย็นชา สายไปแล้วละ ฉันหาข้อแก้ตัวให้เธอมาเป็นปี ๆ แล้ว เพื่อน ๆ ของฉันไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าทำไมฉันถึงพูดกับเธอ เธอกับเพื่อนผู้เสพความตายแสนรักแสนใคร่ทั้งหลายน่ะ เห็นไหมเธอไม่เคยปฏิเสธเสียด้วยซ้ำ! ไม่เคยปฏิเสธเลยว่ามุ่งหวังจะเป็นแบบนั้น! เธออยากไปเข้าร่วมกับคนที่เธอก็รู้ว่าใครจนตัวสั่นแล้วสิ ใช่ไหม เฮอร์ไมโอนี่เห็นว่าสเนปพยายามจะอธิบายแต่ดูราวกับเขาไม่อาจจะหาถ้อยคำใดมาโต้เถียงลิลี่ได้
ฉันไม่อยากหลอกตัวเองอีกแล้ว เธอเลือกทางเดินของเธอ ฉันก็เลือกทางเดินของฉัน ลิลี่พูดออกมาในที่สุด
อย่านะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ สเนปพยายามพูดอีกครั้ง
จะเรียกฉันว่าเลือดสีโคลนใช่ไหม แต่เธอเรียกทุกคนที่มีกำเนิดแบบฉันว่าเลือดสีโลนนะ เซเวอร์รัส แล้วฉันต่างจากคนอื่นตรงไหนล่ะ เธอถามอย่างเย็นชา ขณะที่สเนปมองเธอด้วยแววตาสีดำที่มีแววปวดร้าว เขาทำท่าราวกับพยายามจะอธิบายให้ลิลี่ฟังอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถพูดถ้อยคำที่ติดอยู่ที่ริมฝีปากออกมาได้ หรือไม่เขาก็ไม่เร็วพอที่จะพูดมันออกมาเมื่อลิลี่มองเขาด้วยสายตาเหยียดหยามเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะหายเข้าไปในช่องลับหลังรูปปั้นสุภาพสตรีอ้วน ขณะที่สเนปมองตามเธอด้วยแววตาโหยหา และเพราะสายตาของสเนปที่ใช้มองลิลี่นั่นเองที่ทำให้เฮอร์ไมโอนี่แน่ใจถึงความรู้สึกที่เขามีต่อลิลี่
สเนปรักแม่ของแฮร์รี่ซึ่งเป็นเพื่อนกับเขามาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าหญิงสาวจะไม่แน่ใจว่าตอนนี้สเนปยังจะรู้สึกกับลิลี่เหมือนเดิมหรือเปล่าหลังจากที่เธอตายไปได้เกือบยี่สิบปีแล้ว รวมถึงเหตุผลที่เขาเก็บความทรงจำเกี่ยวกับเธอไว้ในเพนซิฟนี้เป็นเพราะเขาต้องการจะลืมเธอหรือต้องการเก็บความทรงจำที่แสนจะมีค่าของเขากับเธอไว้อย่างปลอดภัยนั้นเฮอร์ไมโอนี่ไม่อาจตอบได้ แต่เธอก็แน่ใจว่าความรู้สึกที่สเนปมีต่อลิลี่น่าจะยังคงอยู่ถึงในตอนที่เธอและแฮร์รี่มาเข้าเรียนที่ฮอกวอตส์เป็นแน่ เพราะการที่สเนปรักลิลี่รวมถึงจงเกลียดจงชังสามีของเธอนั้นเป็นเหตุผลที่เหมาะสมเหลือเกินที่จะนำมาอธิบายว่าทำไมเขาถึงไม่ชอบหน้าแฮร์รี่เพื่อนรักของเธอมากกว่านักเรียนกริฟฟินดอร์คนอื่น ๆ เพราะแม้ว่าแฮร์รี่จะได้รับมรดกดวงตามาจากแม่ของเขาก็ตาม แต่ใบหน้าที่เหลือของเขานั้นเหมือนเจมส์ พอตเตอร์ซึ่งเป็นคู่ปรับของสเนปไม่มีผิด และหญิงสาวก็คิดว่ามันคงเจ็บปวดมากสำหรับสเนปเป็นแน่ที่ผู้หญิงที่เขารักเลือกแต่งงานกับศัตรูตัวฉกาจของเขาแบบนี้
และความทรงจำต่อมาของสเนปก็ดูเหมือนจะเป็นตัวตอกย้ำความรู้สึกที่สเนปมีต่อลิลี่ เมื่อเฮอร์ไมโอนี่พบว่าเธอยืนอยู่ในสถานที่หนึ่งซึ่งไม่ใช่ฮอกวอตส์เมื่อฉากได้เปลี่ยนอีกครั้ง แต่ฉากหลังของความทรงจำในครั้งนี้เป็นบาร์เล็ก ๆ ที่แทบจะร้างผู้คน
ตรงหน้าของหญิงสาวนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากสเนปในวัยผู้ใหญ่ที่มีอายุไม่เกินยี่สิบปีกำลังนั่งจิบเครื่องดื่มอยู่ที่บาร์ มือของเขากำกระดาษแผ่นหนึ่งซึ่งดูเหมือนจะถูกฉีกออกมาจากหนังสือพิมพ์ เมื่อเห็นเช่นนั้นเฮอร์ไมโอนี่จึงก้มลงไปดูใกล้ ๆ และพบว่าในกรอบเล็ก ๆ ของหนังสือพิมพ์นั้นเป็นข่าวประกาศการหมั้นและการแต่งงานที่กำลังจะมีขึ้นของเจมส์ พอตเตอร์ และลิลี่ เอฟเว่นส์ เมื่ออ่านข่าวจบและเข้าใจเรื่องทุกอย่างแล้วหญิงสาวก็เงยหน้าขึ้นมองสเนปที่มีสีหน้าทุกข์ระทม ชายหนุ่มผมดำอ่านข่าวในกรอบนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยแววตาปวดร้าวก่อนที่กระดกเครื่องดื่มในมือจนหมดแก้ว
และแล้วฉากก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง คราวนี้เฮอร์ไมโอนี่ก็พบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ในห้องที่มืดทึมแห่งหนึ่ง ตรงหน้าของเธอมีร่างสวมเสื้อคลุมสีดำสนิทสี่ห้าร่างกำลังยืนล้อมวงกันอยู่รอบโต๊ะ แต่ที่ดูเหมือนจะโดดเด่นที่สุดก็คือร่างสูงของลอร์ดโวลเดอมอร์ที่กำลังยืนอยู่ที่หัวโต๊ะด้วยท่าทีราวกับราชา เครื่องหน้าของโวลเดอมอร์นั้นดูไม่แตกต่างจากในปัจจุบันเลยแม้แต่น้อย เพราะมันยังคงเป็นใบหน้าที่ไม่อาจตัดสินได้ว่าควรจะเป็นใบหน้าของมนุษย์หรือปีศาจร้ายดี ดวงตาสีแดงของเขาจ้องมองลูกสมุนของเขาแต่ละคนอย่างพิจารณา และเมื่อหญิงสาวเดินเข้าไปใกล้พวกเขามากขึ้นเธอก็สังเกตุเห็นว่าร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ทางขวามือสุดของจอมมารคือเซเวอร์รัส สเนป ถัดจากเขานั้นเป็นชายร่างสูงที่มีผมสีบลอนด์ส่องสว่าง แน่นอนว่าเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลูเซียส มัลฟอยในอดีต ส่วนร่างสองร่างถัดจากนายลูเซียสนั้นเป็นสองสามีภรรยาเลสแตรงค์
พวกเจ้าแน่ใจใช่ไหม จอมมารกระซิบขึ้นพร้อมกับกวาดสายตามองลูกสมุนแต่ละคน หญิงสาวสังเกตุได้ว่าสเนปมีท่าทีอึดอัดใจมาก เหงื่อหลายเม็ดผุดขึ้นตรงไรผมสีดำของเขา
แน่ใจครับนายท่าน พวกเราตรวจสอบอย่างดีแล้ว เด็กที่เกิดในวันสุดท้ายของเดือนกรกฏาคมโดยพ่อแม่ที่สามารถท้าทายท่านได้ถึงสามครั้งมีแค่ลูกชายของครอบครัวพอตเตอร์ กับลองบอตท่อมเท่านั้นครับ นายลูเซียสตอบอย่างหนักแน่น
งั้นรึ
ใช่แล้วเจ้าค่ะ นายท่าน พวกเราตรวจสอบอย่างดีแล้วค่ะ เสียงของเบลลาทริกซ์ดังขึ้นอย่างกระตือรือร้น เฮอร์ไมโอนี่เพิ่งสังเกตุเห็นเป็นครั้งแรกว่าหล่อนมองจอมมารด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความภักดีจนเกือบจะเรียกได้ว่ารักใคร่ แม้ในยามที่สามีของหล่อนยืนอยู่ข้าง ๆ ก็ตาม
น่าตลกดีนะ ที่คำทำนายนั่นบอกว่าจะมีเด็กชายคนหนึ่งที่สามารถมีอำนาจมาเทียบเทียมข้าได้ เทียบเทียมลอร์ดโวลเดอมอร์คนนี้ได้! จอมมารพูดอย่างเย็นชาแต่น้ำเสียงของเขาแฝงไว้ด้วยแววเกรี้ยวกราดจนทำให้เฮอร์ไมโอนี่ขนลุก หญิงสาวสังเกตุเห็นลูกสมุนหลายคนของเขาสะดุ้งเพราะคำพูดนั้นก่อนที่โวลเดอมอร์จะหันใบหน้าเหมือนงูไปทางสเนป
เจ้าแน่ใจว่าเจ้าได้ยินคำทำนายนั่นมาถูกต้องใช่ไหม เซเวอร์รัส ขอรับ นายท่าน สเนปพูดขึ้นโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นสบตาจอมมาร ข้าบอกท่านทุกอย่างที่ข้าได้ยินมาอย่างถูกต้องครับ
งั้นปัญหาก็มีแค่ว่า เด็กคนไหนกันที่เป็นคนที่คำทำนายพูดถึง แล้วข้าควรจะจัดการคนไหนดี จอมมารกล่าวด้วยท่าทีราวกับกำลังใช้ความคิดอยู่
นายท่าน ถ้าข้าจะขอเสนอ ข้าคิดว่าท่านควรจะจัดการทั้งสองคนจะดีหรือไม่ครับ เพื่อเป็นการ ป้องกันไว้ก่อน นายลูเซียสพูดขึ้นอย่างไม่แน่ใจ แต่ดูเหมือนลอร์ดโวลเดอมอร์จะชื่นชอบความคิดนั้น
นั่นนับว่ารอบครอบทีเดียว ลูเซียส จอมมารกล่าว
นายท่านเจ้าคะ ข้าขอเสนอว่าท่านควรจะจัดการพวกมันทั้งครอบครัวเลยดีไหมเจ้าคะ เบลลาทริกซ์พูดขึ้นอย่างรีบร้อนราวกับว่าเธอรู้สึกน้อยหน้าหากไม่ได้เสนอความคิดเห็นที่สามารถทำให้เจ้านายของเธอพอใจได้
นั่นเป็นสิ่งที่ข้าคิดไว้แล้วว่าเจ้าต้องพูด เบลลา จอมมารกล่าวเรียบ ๆ ถ้าอย่างนั้นก็เป็นอันว่าปัญหาที่เกิดขึ้นได้รับการสะสางเรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่าข้าจะลงมือจัดการทั้งสองครอบครัวด้วยตัวของข้าเอง เพื่อป้องกันความผิดพลาด จอมมารกล่าวอย่างโหดเหี้ยม แต่ดูเหมือนจะไม่มีลูกสมุนคนไหนไม่เห็นด้วยกับเขาเลย
พวกเจ้ามีเรื่องอะไรจะรายงานข้าอีกรึเปล่า เขาถาม และเมื่อไม่ได้รับคำตอบจากลูกสมุนที่รายล้อมอยู่จอมมารก็กำลังจะเอ่ยปากบอกให้พวกเขาออกไปจากห้อง แต่เขากลับถูกขัดขึ้นด้วยคำพูดของสเนป
ข้ามีเรื่องจะขอพูดกับนายท่านเป็นการส่วนตัว ถ้าหากท่านสะดวก ชายผมดำพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด ขณะที่โวลเดอมอร์มองเขาด้วยสายตาประเมิน
แกมีอะไรจะพูดกับนายท่านที่เราได้ยินไม่ได้งั้นหรือ สเนป เบลลาทริกซ์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
ผมมีธุระที่จะคุยกับนายท่านเป็นการส่วนตัว หวังว่าคุณจะเข้าใจนะ เบลลา สเนปตอบไปด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ถ้าหากว่านายท่านอนุญาต เขาหันไปพูดประโยคสุดท้ายกับเจ้านายของตน และหลังจากที่โวลเดอมอร์มองลูกสมุนของเขาอยู่ชั่วครู่ เขาก็พูดออกมา
ข้าหวังว่ามันจะไม่ใช่ธุระที่กินเวลานานเท่าไหร่นะ เซเวอร์รัส พวกเจ้าออกไปได้แล้ว สิ้นคำสั่งของจอมมาร ลูกสมุนคนอื่นของลอร์ดโวลเดอมอร์ก็เดินออกจากห้องไป หลังจากที่แน่ใจว่าเพื่อนผู้เสพความตายของเขาเดินออกจากห้องไปแล้ว สเนปก็เดินเข้าไปใกล้จอมมารอีกสองก้าว ท่าทีของเขาตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด
เจ้ามีเรื่องอะไรจะพูดกับข้าหรือ เซเวอร์รัส จอมมารถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ หากแต่มันกลับฟังดูน่ากลัวเหลือเกินในความคิดของเฮอร์ไมโอนี่
ข้า......ข้าแค่สงสัยว่านายท่านตัดสินใจจะไปจัดการกับครอบครัวไหนก่อน......นายท่าน... แม้ว่าจะพยายามควบคุมตัวเองอย่างสุดความสามารถ แต่น้ำเสียงของสเนปที่พูดออกมานั้นก็ฟังดูแปลกแปร่งจนโวลเดอมอร์สังเกตุเห็นได้
ข้ายังไม่ได้คิด ว่าแต่นี่คือธุระของเจ้างั้นหรือ จอมมารถามพลางมองลูกสมุนของเขาด้วยแววตาสีแดงราวกับต้องการอ่านใจ
ข้า ข้าแค่คิดว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะไปจัดการกับทั้งครอบครัว ในเมื่อคำทำนายบอกไว้อย่างชัดเจนว่าผู้ที่มีอันตรายกับท่านนั้นเป็นเด็ก..... สเนปเริ่มพูดอีกครั้ง แต่ในคราวนี้เขาไม่สามารถพูดจนจบได้เมื่อเจ้านายของเขาตวัดสายตามามองเขาอย่างรู้ทันก่อนจะขัดขึ้น
เจ้าไม่ต้องการให้ข้าฆ่าใครอย่างนั้นหรือ เซเวอร์รัส สเนปมีสีหน้าตกใจมากกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน และนี่เป็นครั้งแรกที่หญิงสาวรู้สึกว่าหน้ากากที่เขาได้สวมไว้ตลอดการประชุมที่ผ่านมานั้นถูกฉีกออกอย่างไม่มีชิ้นดี แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่ได้ตอบคำถามของเจ้านายแต่อย่างใด
และในวินาทีต่อมาโวลเดอมอร์ก็ย่างสามขุมเข้ามาใกล้ลูกสมุนของเขา จนร่างของเขาอยู่ห่างกับสเนปเพียงแค่ฟุตเดียวเท่านั้น
ตอบข้ามา ก่อนที่ข้าจะทรมานเจ้า! จอมมารกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด
ข้า.....แค่อยากจะขอร้องท่าน สเนปพูดออกมาพลางคุกเข่าลงต่อหน้าเจ้านาย ขอร้องให้ท่านได้โปรดไว้ชีวิตของลิลี่ เอฟเว่นส์เท่านั้น น้ำเสียงของสเนปดูทุกข์ทรมานยามเขาเอ่ยชื่อผู้หญิงที่เขารักออกมา
เอฟเว่นส์ เจ้าหมายถึงนังเลือดสีโคลนที่เป็นภรรยาของพอตเตอร์น่ะหรือ จอมมารกล่าว แล้วทำไมข้าจะต้องไว้ชีวิตนางด้วยล่ะ นางมีค่าอะไรกับเจ้าอย่างนั้นหรือ
ข้า..... สเนปทำท่าทีราวกับเขาอากาศหายใจขึ้นมากระทันหันก่อนที่เขาจะตัดสินใจพูดออกมา ข้ารักนาง ได้โปรดนายท่าน ได้โปรดกรุณาไว้ชีวิตนางด้วย เห็นแก่ที่ข้ารับใช้ท่านอย่างซื่อสัตย์มาโดยตลอด เขาอ้อนวอน ดวงตาสีดำที่ปกติดูเย็นชานั้นเต็มไปด้วยความปวดร้าวทุกข์ทรมาน แต่ถึงอย่างนั้นกลับไม่มีความปราณีอยู่ในดวงตาของโวลเดอมอร์ที่ใช้มองลูกสมุนของเขาเลย ตรงกันข้ามจอมมารกลับมองสเนปด้วยสายตารังเกียจ
เจ้ามันน่าสมเพช เซเวอร์รัส ที่เจ้าไปรักผู้หญิงเลือดสกปรกแบบนั้น แต่ที่ทำให้เจ้าน่าสมเพขยิ่งกว่าคือการที่เจ้ามาขอร้องข้าให้ไว้ชีวิตนาง จอมมารพูดอย่างเย็นชา
นายท่าน.......
คำตอบคือไม่ เซเวอร์รัส ลอร์ดโวลเดอมอร์กล่าว บางทีการตายของนางอาจจะทำให้เจ้ากลับใจหันมามองผู้หญิงที่มีเลือดบริสุทธิ์มากกว่านางขึ้นมาก็ได้ จอมมารพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันพลางมองลูกสมุนของเขาด้วยแววตาราวกับปีศาจร้าย ขณะที่สเนปนั้นมีท่าทีราวกับหัวใจของเขาเพิ่งแตกสลาย
และแล้วฉากก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง ครั้งนี้เฮอร์ไมโอนี่พบว่าเธอกำลังยืนอยู่บนเนินลูกหนึ่งในเวลาค่ำ เบื้องหน้าของเธอเป็นสเนปในวัยผู้ใหญ่ที่ดูแล้วอายุของเขาน่าจะไม่ได้มากกว่าในความทรงจำที่ผ่านมาเท่าไหร่นัก ร่างสูงของชายผมดำกำลังรอคอยใครบางคนอยู่ขณะที่มือของเขากุมไม้กายสิทธิ์ไว้แน่นราวกับว่าคนที่กำลังจะปรากฏตัวขึ้นมาในวินาทีใดวินาทีหนึ่งนั้นพร้อมจะฆ่าเขาได้ทุกเมื่อ
และในวินาทีต่อมาแสงสว่างจ้าบาดตาก็สว่างวาบขึ้น สเนปทิ้งตัวลงคุกเข่าแทบจะในทันที ไม้กายสิทธิ์ที่เขากุมเขาไว้แน่นก่อนหน้านี้กระเด็นหลุดจากมือไปอย่างง่ายดาย
อย่าฆ่าผม! เขาร้อง และแสงสว่างนั้นก็จางลงพร้อมกับที่เสียง ๆ หนึ่งที่ฟังดูคุ้นหูดังขึ้น
นั่นไม่ใช่จุดประสงค์ของฉัน ดัมเบิลดอร์ปรากฏตัวขึ้นหลังจากที่แสงสว่างนั้นหายไป เขาค่อย ๆ เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าสเนป
ว่าอย่างไร เซเวอร์รัส ลอร์ดโวลเดอมอร์ต้องการส่งข่าวอะไรให้ฉัน ดัมเบิลดอร์ถาม
ไม่มี ไม่มีข่าว ผมมาที่นี่ด้วยความต้องการของผมเอง! สเนปสารภาพพร้อมกับบีบไม้บีบมือตัวเองอย่างวิตก
ผู้เสพความตายมีเรื่องอะไรจะขอร้องฉันหรือ
เรื่อง เรื่องคำพยากรณ์......เรื่องคำทำนาย.......ทรีลอว์นีย์...... ชายผมดำพูดตะกุกตะกัก
อ้อ ใช่แล้ว เธอถ่ายทอดให้โวลเดอมอร์รู้มากแค่ไหนล่ะ ดัมเบิลดอร์ถาม
ทั้งหมด ทั้งหมดที่ผมได้ยิน! นี่ละคือสาเหตุ เพราะเหตุนี้เอง ท่านคิดว่าหมายถึงลิลี่ เอฟเว่นส์!
คำพยากรณ์นั้นไม่ได้หมายถึงผู้หญิง มันพูดถึงเด็กผู้ชายที่เกิดในวันสุดท้ายของเดือนกรกฏาคม..... ดัมเบิลดอร์กล่าว
คุณก็รู้ว่าผมหมายความว่าอะไร! ท่านคิดว่ามันหมายถึงลูกชายของเธอ ท่านกำลังจะตามล่าเธอ ฆ่าพวกนั้นทั้งหมด! สเนปขัดขึ้นอย่างร้อนใจ
ถ้าเขามีความหมายมากสำหรับเธอ ลอร์ดโวลเดอมอร์ก็น่าจะยกเว้นเขาไว้สักคนสิ เธอไม่ลองขอความเมตตาให้แม่ล่ะ เพื่อแลกเปลี่ยนกับลูกชาย ดัมเบิลดอร์พูด
ผมทำแล้ว ผมขอท่านแล้ว...... สเนปสารภาพออกมาอย่างอ่อนแรง
ฉันขยะแขยงเธอจริง ๆ ดัมเบิลดอร์พูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม ถ้าเช่นนั้นเธอไม่แยแสเลยใช่ไหมว่าสามีและลูกของเขาจะต้องตาย ทุกคนตายได้ ตราบเท่าที่เธอได้สิ่งที่ต้องการ สเนปนิ่งเงียบเพราะคำพูดนั้นราวกับเขาไม่อาจหาคำพูดมาโต้แย้งชายตรงหน้าได้ แต่ในที่สุดเขาก็เงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดขึ้น
ถ้าอย่างนั้นก็ซ่อนพวกเขาไว้สิ ชายผมดำกล่าวด้วยเสียงที่แหบแห้ง ซ่อนเธอ ซ่อนทุกคนไว้ ให้ปลอดภัย กรุณาด้วยเถิด
แล้วเธอจะให้อะไรฉันตอบแทนล่ะ เซเวอร์รัส ดัมเบิลดอร์ถามขึ้น ขณะที่สเนปเงยหน้ามองร่างตรงหน้าราวกับเขาเพิ่งได้ยินคำพูดที่เหลือเชื่อเป็นอย่างมาก
ให้ตอบแทนหรือ เขาถาม แต่แล้วสเนปก็พูดประโยคต่อมาได้อย่างรวดเร็วราวกับเขาไม่ต้องเสียเวลาคิดแม้แต่น้อย อะไรก็ได้ทั้งนั้น เขาพูดอย่างยอมจำนน
และแล้วฉากก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง คราวนี้เฮอร์ไมโอนี่พบว่าเธอกำลังยืนอยู่ในห้องทำงานของดัมเบิลดอร์ ตรงหน้าของเธอสเนปกำลังคุดคู้อยู่บนเก้าอี้พร้อมกับส่งเสียงราวกับสัตว์ที่บาดเจ็บ ขณะที่ดัมเบิลดอร์ยืนค้ำศีรษะของเขาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ผมคิด......ว่าคุณ.....จะดูแลเธอ......ให้ปลอดภัย....... เขากล่าวออกมาด้วยสีหน้าราวกับหัวใจของเขาเพิ่งแตกสลาย
เขากับเจมส์ไว้ใจคนผิด เหมือนกับเธอนั่นแหละ เซเวอร์รัส เธอเองก็หวังไม่ใช่หรือว่าลอร์ดโวลเดอมอร์จะยกเว้นเขาไว้คนหนึ่ง ดัมเบิลดอร์พูด ขณะที่สเนปมีท่าทีราวกับเขาขาดอากาศหายใจ
ลูกชายของเขารอดตาย ดัมเบิลดอร์พูด ลูกของเขามีชีวิตรอดมาได้ เด็กคนนั้นมีดวงตาเหมือนแม่ เหมือนแม่ไม่มีผิด เธอจำรูปร่างและสีตาของลิลี่ เอฟเว่นส์ได้ใช่ไหม ฉันแน่ใจ สิ้นเสียงของดัมเบิลดอร์ สเนปก็ตะโกนออกมา
อย่าพูด! จากไปแล้ว.....ตายแล้ว....... เขาพึมพำราวกับคนเสียสติ
นี่เป็นความสำนึกผิดหรือ เซเวอร์รัส
ผมอยาก.....ผมอยากให้ผมตายเสียเอง...... เขากล่าว น้ำตารื้นดวงตาสีดำของเขา
แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ ดัมเบิลดอร์เอ่ยอย่างเย็นชา ถ้าเธอรักลิลี่ เอฟเว่นส์ ถ้าเธอรักเขาจริง ๆ เช่นนั้น หนทางข้างหน้าของเธอก็ชัดเจน
อะไร คุณหมายความว่าอะไร สเนปถาม
เธอก็รู้ว่าเขาตายยังไง และเพราะเหตุใด จงอย่าให้เขาตายเปล่าสิ มาช่วยฉันคุ้มครองลูกของลิลี่ ดัมเบิลดอร์เสนอ
เขาไม่ต้องการการคุ้มครองแล้ว จอมมารได้จากไปแล้ว........
จอมมารจะกลับมาอีก และแฮร์รี่ พอตเตอร์จะตกอยู่ในอันตรายร้ายกาจนักเมื่อเขากลับมา
ดูราวกับต้องใช้เวลาเนิ่นนานกว่าที่สเนปจะเข้าใจสิ่งที่ดัมเบิลดอร์ต้องการบอกเขา หรือไม่ก็เขาต้องใช้เวลาเป็นอย่างมากในการตัดสินใจในเรื่องนี้ แต่ในที่สุดหลังจากผ่านหลายนาที สเนปที่ดูเหมือนเพิ่งควบคุมสติได้ก็พูดขึ้น
ตกลง ตกลง แต่อย่า.....อย่าบอกใครนะ ดัมเบิลดอร์! นี่ต้องเป็นเรื่องระหว่างเราสองคนเท่านั้น! สาบานสิ! ผมไม่อาจทนได้......โดยเฉพาะเมื่อเป็นลูกของพอตเตอร์......ผมต้องได้คำมั่นจากคุณ!
คำมั่นจากฉัน ว่าจะไม่มีวันเปิดเผยสิ่งที่ดีที่สุดในตัวเธอน่ะหรือ เซเวอร์รัส ดัมเบิลดอร์พูดพลางถอนหายใจ ถ้าเธอยืนกรานเช่นนั้น......
และแล้วทุกอย่างก็มืดลงเมื่อฉากเปลี่ยนไปอีกครั้ง แม้ว่าเฮอร์ไมโอนี่จะพบว่าตัวเองอยู่ในห้องทำงานของดัมเบิลดอร์เหมือนเดิม แต่เมื่อสังเกตุจากร่างสองร่างตรงหน้าของเธอแล้วหญิงสาวแน่ใจว่าเหตุการณ์ในความทรงจำนี้ห่างจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในความทรงจำก่อนหน้าอยู่มากทีเดียว เพราะดัมเบิลดอร์ดูแก่ชราลงอย่างเห็นได้ชัด เขากำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานอย่างอ่อนแรง มือขวาที่ไหม้เกรียมห้อยอยู่ข้างตัวขณะที่สเนปที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ นั้นชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่มือข้างที่บาดเจ็บของดัมเบิลดอร์และร่ายคาถา พร้อมกับใช้มือซ้ายช่วยกระดกถ้วยบรรจุน้ำยาสีทองลงไปในคอของดัมเบิลดอร์
ทำไม ชายผมดำถามขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่าชายตรงหน้ามีอาการดีขึ้นพอที่จะพูดคุยได้แล้ว ทำไมคุณถึงสวมแหวนนั่น มันใส่คำสาปแช่งเอาไว้ คุณต้องรู้สิ ทำไมถึงแตะต้องมัน เขาพูดพลางมองไปที่แหวนวงหนึ่งที่แตกหักซึ่งวางอยู่บนโต๊ะ ข้าง ๆ มีดาบของกริฟฟินดอร์วางอยู่
ฉันเป็นไอ้โง่ ถูกยั่วยวนอย่างเจ็บปวด..... ดัมเบิลดอร์ตอบอย่างปวดร้าว อะไรยั่วยวน สเนปถามตามตรง แต่ดัมเบิลดอร์ไม่ตอบ
ปาฏิหารย์แท้ ๆ ที่คุณกลับมาถึงที่นี่ได้! สเนปพูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด
แหวนนั่นมีคำสาปแช่งที่ทรงพลังเหนือธรรมดา เราทำได้แค่ควบคุมมันไว้ ตอนนี้ผมกักคำสาปไว้ในมือข้างหนึ่ง....
เธอทำได้ดีมาก เซเวอร์รัส เธอคิดว่าฉันมีเวลาอีกนานสักแค่ไหน ดัมเบิลดอร์พูดขึ้นหลังจากยกมือข้างที่ไหม้เกรียมขึ้นมาพิจารณาด้วยน้ำเสียงที่ปกติ
ผมบอกไม่ได้หรอก อาจเป็นปีหนึ่ง เราไม่มีทางหยุดยั้งคำสาปแบบนี้ได้ตลอดไป ในที่สุดมันจะแผ่ขยายออกมา ยิ่งเวลาผ่านไปมันจะยิ่งมีพลังมากขึ้น แม้ว่าสเนปจะกำลังพูดถึงสิ่งที่เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของตนเองอยู่ แต่ดัมเบิลดอร์ก็สามารถยิ้มได้
ฉันโชคดีนะ โชคดีเหลือเกินที่ฉันมีเธออยู่ด้วย เซเวอร์รัส
ถ้าคุณตามตัวผมมาเร็วกว่านี้หน่อย ผมอาจจะช่วยได้มากกว่านี้ อาจจะซื้อเวลาให้คุณได้นานขึ้น! น้ำเสียงของสเนปฟังดูเกรี้ยวกราด คุณคิดว่าถ้าทำให้แหวนแตกจะช่วยทำลายคำสาปได้หรือ
ก็ทำนองนั้น....ฉันเพ้อคลั่งไปชั่วขณะ ไม่ต้องสงสัยเลย..... ดัมเบิลดอร์กล่าวอย่างอ่อนแรง เอ้อ ดีละ แบบนี้ก็ทำให้เรื่องนี้ง่ายขึ้นเยอะทีเดียว เขาพูดกับสีหน้างุนงงของสเนป
ฉันหมายถึงแผนการของลอร์ดโวลเดอมอร์ที่เกี่ยวข้องกับฉันอย่างไรล่ะ แผนที่จะให้เด็กมัลฟอยที่น่าสงารนั่นฆ่าฉัน
เมื่อดัมเบิลดอร์พูดจบ สเนปก็นั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามดัมเบิลดอร์ เขาขมวดคิ้วก่อนจะพูดขึ้น
จอมมารไม่คาดว่าเดรโกจะทำสำเร็จอยู่แล้ว นี่เป็นแค่การลงโทษที่ลูเซียสทำพลาดเมื่อเร็ว ๆ นี้ พ่อแม่ของเดรโกจะถูกทรมานไปช้า ๆ เพราะทนดูลูกชายล้มเหลวแล้วถูกลงโทษ ชายผมดำอธิบาย
สรุปว่าเด็กหนุ่มนั่นต้องโทษประหารแน่ ๆ แล้วสินะ เหมือนฉันนั่นเอง ดัมเบิลดอร์พูด เอาล่ะ ฉันคิดว่าคนที่จะสานงานต่อนั้นทันทีที่เดรโกล้มเหลว ก็คือเธอใช่ไหม ชายชราถาม ขณะที่สเนปนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบออกมา
ผมว่านั่นล่ะคือแผนของจอมมาร
ลอร์ดโวลเดอมอร์คงเห็นว่าในอนาคตอันใกล้นี้ เขาไม่จำเป็นต้องมีสายลับอยู่ที่ฮอกวอตส์แล้ว ดัมเบิลดอร์กล่าว
ใช่ เขาเชื่อว่าในไม่ช้าโรงเรียนจะตกอยู่ในเงื้อมมือเขา สเนปบอก
แล้วถ้ามันตกอยู่ในเงื้อมมือของเขา ดัมเบิลดอร์พูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา แต่ดูเหมือนว่าชายตรงหน้าเขาจะได้ยินมันอย่างชัดเจน ฉันจะได้คำมั่นจากเธอหรือไม่ ว่าเธอจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อคุ้มครองนักเรียนฮอกวอตส์ สิ้นเสียงของชายชรา สเนปก็พยักหน้าให้เขาอย่างไม่เต็มใจนัก
ดีมาก ถ้าอย่างนั้นงานอันดับแรกของเธอก็คือ ค้นหาให้พบว่าเดรโกตั้งใจจะทำอะไร เด็กวัยรุ่นที่ตื่นกลัวน่ะเป็นอันตรายทั้งต่อตนเองและต่อผู้อื่น บอกเขาสิว่าเธอจะช่วยแนะนำ เขาน่าจะยอมรับนะ เขาชอบเธอนี่..... ดัมเบิลดอร์บอก
ชอบลงน้อยมากแล้วตั้งแต่จอมมารเลิกโปรดปรานพ่อของเขา เดรโกโทษผม เขาคิดว่าผมแย่งตำแหน่งลูเซียส สเนปบอกด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
ถึงกระนั้นก็เถอะ ลองพยายามหน่อย ฉันไม่ห่วงตัวเองเท่าไหร่ แต่ห่วงคนอื่น ๆ ที่จะจับพลัดจับผลูกลายเป็นเหยื่อของแผนอะไรก็ตามที่พ่อหนุ่มนั่นคิดจะทำขึ้นมา แต่แน่นอนที่สุด ถึงที่สุดแล้ว เราก็คงทำได้เพียงอย่างเดียว ถ้าจะช่วยเขาจากความพิโรธของลอร์ดโวลเดอมอร์ ดัมเบิลดอร์พูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเกือบจะเป็นปกติ ขณะที่สเนปเลิกคิ้วก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแดกดัน
คุณตั้งใจจะยอมให้เขาฆ่าคุณหรือ ไม่ใช่แน่นอน เธอต่างหากที่ต้องฆ่าฉัน ดัมเบิลดอร์พูดด้วยท่าทีราวกับพวกเขากำลังคุยเรื่องลมฟ้าอากาศกันอยู่ แต่เมื่อลองพิจารณาดวงตาสีฟ้าของชายชราดูแล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็เห็นว่ามันดูตึงเครียดไม่น้อยทีเดียว สิ้นเสียงดัมเบิลดอร์ความเงียบก็เข้าปกคลุมภายในห้อง แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะเนิ่นนานกว่าครั้งก่อนหน้ามากจนกระทั่งสเนปเป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้น
คุณอยากให้ผมลงมือตอนนี้เลยหรือเปล่าล่ะ หรืออยากขอเวลาสักสองสามนาที จะได้แต่งคำจารึกหน้าหลุมศพดูก่อน เขาพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน แต่ดัมเบิลดอร์กลับยังคงมีทีท่าเป็นปกติ
อ๋อ ยังไม่รวดเร็วถึงขนาดนั้นหรอก ฉันกล้าพูดเลยว่าเมื่อถึงเวลาเราก็จะรู้เอง แล้วเมื่อดูจากเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ เราก็แน่ใจว่ามันคงไม่เกินปีสินะ เขาพูดยิ้ม ๆ พลางพยักเพยิกไปทางมือที่เหี่ยวแห้งไหม้เกรียมของเขา
ถ้าคุณไม่แยแสเรื่องตาย ทำไมไม่ปล่อยให้เดรโกเป็นคนทำล่ะ สเนปพูดเสียงแข็ง
วิญญาณของเด็กนั่นยังไม่ถูกทำลายจนเสียหายน่ะสิ ฉันไม่อยากให้วิญญาณนั้นถูกฉีกขาดเพราะฉัน ดัมเบิลดอร์ตอบตามตรง ขณะที่สเนปมองชายชราตรงหน้าด้วยสายตาราวกับเขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เพิ่งได้ยิน
แล้ววิญญาณของผมล่ะ ดัมเบิลดอร์ วิญญาณของผม ชายผมดำถามออกมา
เธอเป็นคนเดียวที่รู้ว่าวิญญาณของเธอจะถูกทำลายหรือไม่ ถ้าช่วยคนแก่คนหนึ่งให้พ้นจากความเจ็บปวดและอับอาย ชายชรากล่าว ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกราวกับเลือดในกายเธอเย็นเฉียบขึ้นในทันทีเมื่อเธอยินคำพูดนั้นของอาจารย์ใหญ่ แม้ว่าหลังจากนั้นชายทั้งสองจะยังคงพูดคุยกันต่ออีกสองสามประโยคแต่ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะไม่สามารถได้ยินถ้อยคำอื่นใดได้อีกต่อไป เพราะในตอนนี้ในหัวของเธอนั้นเต็มไปด้วยความสับสนจากข้อมูลใหม่ที่เธอเพิ่งได้รับ ข้อมูลที่ว่าสเนปนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์มาตลอด รวมทั้งเขาเป็นสายลับให้กับดัมเบิลดอร์มาตั้งแต่แม่ของแฮร์รี่ตายด้วย และจากการตกลงกันระหว่างเขากับดัมเบิลดอร์ในครั้งนี้ก็เห็นได้ชัดว่าการที่สเนปสังหารดัมเบิลดอร์ที่หอคอยเป็นไปตามเจตนารมณ์ของดัมเบิลดอร์เอง เพราะถึงสเนปจะไม่ฆ่าเขาในคืนนั้นดัมเบิลดอร์ก็จะต้องตายเพราะคำสาปกจากแหวนวงนั้นอยู่ดี ที่สำคัญก็คือการให้สเนปลงมือปลิดชีพดัมเบิลดอร์เองนั้นเป็นการทำให้เขาได้รับความไว้วางใจสูงสุดจากลอร์ดโวลเดอมอร์ และสามารถแฝงตัวเข้าไปอยู่ใกล้ชิดจอมมารในฐานะผู้เสพความตายที่ภักดีที่สุดได้ ทั้งที่แท้ที่จริงแล้วเรื่องทั้งหมดมาจากการวางแผนระหว่างดัมเบิลดอร์กับเขาทั้งสิ้น!
แต่ถึงจะสับสนกับสิ่งที่เพิ่งได้รู้เห็นมาก็ตาม แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็สามารถจับคำพูดสุดท้ายของดัมเบิลดอร์ในความทรงจำนี้ได้ เพราะหลังจากที่สเนปพยักหน้าในเชิงตกลงกับดัมเบิลดอร์อย่างเคร่งขรึมและไม่ค่อยเต็มใจในแผนการครั้งนี้เท่าไหร่แล้ว ชายชราก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริงว่า
ขอบคุณมาก เซเวอร์รัส..... สิ้นเสียงของดัมเบิลดอร์ฉากก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่กำลังสงสัยว่าความทรงจำที่สเนปเก็บไว้ในเพนซิฟนั้นมีทั้งหมดกี่เรื่องกันแน่ แล้วสาเหตุที่เขาตั้งใจเก็บความทรงจำเหล่านี้ไว้ในเพนซิฟเป็นเพราะเขากลัวว่าจอมมารจะล่วงรู้ความลับนี้เข้า ซึ่งก็หมายความว่าสเนปน่าจะยังคงภักดีต่อดัมเบิลดอร์อยู่แม้ในตอนที่เขาตายไปแล้วก็ตามนั้นเสียงของสเนปก็ดังขึ้นซึ่งมันทำให้หญิงสาวล่วงรู้ว่าฉากของความทรงจำนั้นเปลี่ยนไปอีกครั้งแล้ว
วิญญาณหรือ เรากำลังพูดถึงเรื่องจิตใจต่างหาก! สเนปพูดเสียงกร้าว ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่หันไปมองรอบ ๆ ตัวและพบว่าเธอกำลังอยู่ที่ชายป่าต้องห้ามที่ไร้ผู้คนในเวลาโพล้เพล้ และตรงหน้าของเธอนั้นก็คือสเนปกับดัมเบิลดอร์ที่ดูเหมือนกำลังทุ่มเถียงอะไรบางอย่างกันอยู่
ในกรณีของแฮร์รี่กับโวลเดอมอร์ พูดอย่างหนึ่งก็หมายถึงอีกอย่างหนึ่งนั่นแหละ ดัมเบิลดอร์พูดพลางกวาดสายตาไปรอบ ๆ ราวกับเขาต้องการแน่ใจว่าเขาอยู่เพียงลำพังกับสเนปเท่านั้นก่อนที่เขาจะพูดต่อ
หลังจากที่เธอฆ่าฉันแล้ว เซเวอร์รัส
. ชายชราพูดเสียงต่ำ
คุณไม่ยอมบอกผมทุกอย่าง แต่กลับหวังจะได้รับบริการเล็ก ๆ น้อย ๆ จากผม! ชายผมดำขึ้นเสียง ใบหน้าของเขาบอกได้ชัดว่ากำลังโกรธ คุณทึกทักเอาเองมากไปหน่อยมั้ง ดัมเบิลดอร์! บางทีผมอาจจะเปลี่ยนใจแล้วก็ได้!
เธอสัญญากับฉันแล้ว เซเวอร์รัส แล้วพูดถึงบริการที่เธอติดหนี้ฉันอยู่ ฉันคิดว่าเธอตกลงจะเฝ้าจับตาดูเพื่อนหนุ่มสลิธีรินของเราไม่ใช่เหรอ ดัมเบิลดอร์เตือน แต่ดูเหมือนคราวนี้สเนปจะไม่ยอมอ่อนข้อให้ชายชราแต่อย่างใด ทั้งสองจ้องกันอยู่ครู่หนึ่งจนดัมเบิลดอร์ยอมถอนใจ
มาที่ห้องทำงานของฉันคืนนี้ เซเวอร์รัส เวลาห้าทุ่ม แล้วเธอจะไม่บ่นอีกว่าฉันไม่ไว้ใจเธอ ดัมเบิลดอร์พูด และฉากก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง
คราวนี้พวกเขากลับมาที่ห้องทำงานของดัมเบิลดอร์อีกครั้ง สเนปกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของดัมเบิลดอร์ขณะที่เจ้าของห้องนั้นกำลังเดินไปเดินมารอบห้อง
แฮร์รี่จะต้องไม่รู้ ไม่รู้จนกระทั่งถึงนาทีสุดท้าย ไม่รู้จนกว่าจะจำเป็น ไม่เช่นนั้นเขาจะมีกำลังทำสิ่งที่ต้องทำต่อไปได้อย่างไร ดัมเบิลดอร์พูดด้วยน้ำเสียงที่เฮอร์ไมโอนี่รู้ว่าสิ่งที่เขากำลังพูดนั้นสำคัญมาก
แต่อะไรล่ะครับที่เขาต้องทำ สเนปถาม
นั่นเป็นเรื่องระหว่างฉันกับแฮร์รี่ เอาละ ฟังให้ดีนะ เซเวอร์รัส จะมีอยู่ช่วงหนึ่ง หลังจากที่ฉันตายไปแล้ว อย่าเถียง อย่าขัด! จะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ลอร์ดโวลเดอมอร์ทำท่าเหมือนกลัวว่างูของเขาจะมีอันตราย ดัมเบิลดอร์พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดกว่าทุกครั้ง
นากินีน่ะหรือ ชายผมดำด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ
ถูกต้อง เมื่อเวลานั้นมาถึง เมื่อลอร์ดโวลเดอมอร์เลิกส่งงูออกไปทำอะไร ๆ แต่เก็บมันไว้ใกล้ตัว พร้อมกับเสกคาถาคุ้มครอง เมื่อนั้นฉันคิดว่าคงปลอดภัยที่จะบอกแฮร์รี่
บอกเขาว่าอะไรล่ะครับ สเนปถามอีกครั้ง ขณะที่ดัมเบิลดอร์หลับตาลงและสูดลมหายใจลึก ๆ ส่วนทางเฮอร์ไมโอนี่ที่แทบจะกลั้นใจเพื่อรอฟังสิ่งที่ดัมเบิลดอร์กำลังจะพูดออกมาซึ่งแน่นอนว่ามันเกี่ยวข้องกับเพื่อนรักของเธอโดยตรงอยู่นั้นเอง จู่ ๆ หญิงสาวก็รู้สึกว่ามีมือมาจับบ่าของเธอไว้และดึงเธอออกมาจากเพนซิฟ!
.
เมื่อออกมาจากความทรงจำเฮอร์ไมโอนี่ก็พบว่าตัวเองกำลังเผชิญหน้าอยู่กับเซเวอร์รัส สเนปในปัจจุบัน ดวงตาสีดำของเขาแทบจะลุกเป็นไฟ ขณะที่ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ แม้จะเคยเห็นอดีตอาจารย์สอนวิชาปรุงยาของเธอโกรธมานับครั้งไม่ถ้วนตลอดเวลาที่เธอต้องเรียนกับเขาที่ฮอกวอตส์ก็ตาม แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นครั้งที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่หญิงสาวเคยเห็นมาเมื่อชายผมดำเริ่มตะโกนใส่เธออย่างเกรี้ยวกราด
เธอเห็นไปแค่ไหนแล้ว! บอกฉันมา!!! สเนปตะโกนขณะที่มือใหญ่ของเขากุมแขนของเฮอร์ไมโอนี่ไว้พร้อมกับบีบมันอย่างแรง ขณะที่หญิงสาวที่หวาดกลัวพยายามดิ้นรนให้พ้นจากการเกาะกุมของเขา เธอสะบัดแขนของตัวเองออกจากมือที่เหมือนคีมเหล็กของสเนปก่อนจะถอยหลังกรูไปจนชนกับโต๊ะทำงานของเขาและล้มลงบนเก้าอี้ของชายผมดำขณะที่เขาย่างสามขุมตามเธอมาก่อนจะมายืนค้ำร่างของเธอไว้และยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้เธอ
ตอบฉันมา! เกรนเจอร์ ว่าเธอเห็นอะไรไปบ้างในเพนซิฟนั่น!!! ตอบฉันมาเดี๋ยวนี้!!! สเนปพูดอย่างเกรี้ยวกราด ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ได้แต่จ้องมองชายตรงหน้าอย่างหวาดกลัว แต่ก่อนที่หญิงสาวจะทันได้ตัดสินใจพูดหรือทำอะไรลงไป เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น แน่นอนว่ามีคนจากภายนอกต้องการเข้ามาข้างในแต่เนื่องจากประตูห้องนั้นน่าจะถูกลงคาถาไว้ให้ล็อกตัวเองโดยอัติโนมัติ หรือสเนปอาจจะล็อกมันหลังจากที่เขากลับมาที่ห้องทำงานก็ตาม มันจึงทำให้ร่างที่อยู่ข้างนอกนั้นไม่สามารถเปิดประตูเข้าในห้องมาได้ ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังตื่นกลัวนั้นพอจะเดาได้ไม่ยากว่าร่างที่อยู่ภายนอกประตูนั้นเป็นใคร
และในเสี้ยววินาทีอันคับขันนั่นเองสเนปก็พึมพำคาถาบางอย่างที่หญิงสาวไม่รู้จักโดยไม่ใช้ไม้กายสิทธิ์เพื่อทำให้ช่องลับที่เธอค้นพบโดยบังเอิญนั้นปิดตัวลงหลังจากที่อ่างเพนซิฟนั้นลอยกลับเข้าไปอยู่ในที่เดิมของมัน และหลังจากที่ได้ยินเสียงช่องลับดังกล่าวปิดลงไม่ถึงสองวินาที เสียงประตูห้องทำงานที่เปิดออกก็ดังขึ้น!
ร่างที่เพิ่งก้าวเข้ามาในห้องนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลูเซียส มัลฟอยสามีของเฮอร์ไมโอนี่ซึ่งมีสีหน้าแปลกใจอย่างที่สุดเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้าซึ่งเป็นภาพภรรยาของเขากำลังนั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงานของสเนป โดยมีเจ้าของห้องโน้มศีรษะเหนือร่างเธอโดยที่ใบหน้าของทั้งสองห่างกันไม่ถึงคืบเท่านั้น! นี่มันอะไรกัน! ชายผมบลอนด์กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความตกใจ ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่หันไปมองทางสามีพลางคิดในใจว่า เธอกำลังตกที่นั่งลำบากอย่างแท้จริงเสียแล้ว!
*************************************************
Create Date : 09 ตุลาคม 2555 |
Last Update : 9 ตุลาคม 2555 19:43:24 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1795 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Chonly IP: 27.55.155.204 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:20:20:50 น. |
|
|
|
| |
|
|
|
Location :
ปทุมธานี Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 95 คน [?]
|
สวัสดีค่ะ เรา piksi นะคะ เรียกสั้น ๆ ว่าพิกก็ได้ค่ะ เราเป็นแฟนแฮร์รี่ พอตเตอร์คนหนึ่งที่ชื่นชอบคู่ D/Hr มากเลยค่ะ รวมทั้งรัก Tom Felton สุดหัวใจ >-< ใครที่ชอบคู่นี้และชื่นชอบทอมเหมือนกัน เค้ามาคุยกันนะคะ
|
|
|
|
|
|
|
|