Group Blog
 
All Blogs
 
The Dark Princess: Chapter 16 Tears of the Princess PART II [Warning R]




เฮอร์ไมโอนี่ไม่แน่ใจว่ามันผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว แต่เท่าที่เธอรู้ก็คือเธอรู้สึกราวกับมันได้ผ่านไปแล้วชั่วนิรันดร์ยามที่เธอตกอยู่ในอ้อมกอดของนายลูเซียสผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธอ อ้อมกอดที่เธอไม่ต้องการเลยแม้แต่น้อย อ้อมกอดที่คุมขังเธอไว้เพื่อรับโทษทัณฑ์ที่เธอไม่ได้เป็นคนก่อขึ้น อย่างน้อย ๆ เธอก็ไม่ได้ทำความผิดอย่างที่เขาเข้าใจแต่เขากลับไม่สนใจที่จะฟังคำอธิบายของเธอเลยแม้แต่น้อย รวมทั้งเขาไม่สนใจด้วยว่าเธอจะเจ็บปวดเพียงใดกับสิ่งที่เขาหยิบยื่นให้เธอ เฮอร์ไมโอนี่ไม่ทราบแน่ชัดว่าน้ำตากี่หยดแล้วที่เธอต้องสูญเสียไปกับการกระทำของเขาในครั้งนี้ การกระทำที่ไม่ต่างจากการขืนใจเท่าไหร่นัก ท่ามกลางความเจ็บปวดร้าวรานของเธอ เธอได้แต่นอนอยู่ตรงนั้นโดยมีเชือกเวทย์มนตร์ที่พันธนาการร่างของเธอไว้เพื่อรอรับการลงโทษจากเขา เฮอร์ไมโอนี่ไม่รู้ว่ากี่ครั้งแล้วที่ริมฝีปากของเขาเข้ามาครอบครองริมฝีปากของเธออย่างหนักหน่วงขณะที่เขากำลังครอบครองร่างกายของเธออยู่ เธอไม่รู้แล้วว่ากี่ครั้งแล้วที่เขาเลื่อนริมฝีปากลงไปจูบผิวเนื้อของเธออย่างรุนแรงราวกับเขาต้องการจะประทับร่องรอยแห่งความเป็นเจ้าของลงบนตัวเธอ และที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือเธอไม่อาจจะบอกได้แล้วว่านี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่ที่เธอทะยานไปสู่ความสุขสมภายใต้การรุกรานของเขาทั้ง ๆ ที่เธอไม่ได้เต็มใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เลยแม้แต่น้อย!!!



และเพราะเหตุผลข้อสุดท้ายนี้เองที่ทำให้เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าจิตใจของเธอนั้นเจ็บปวดเกือบจะมากกว่าร่างกายของเธอในตอนนี้เสียด้วยซ้ำ เพราะนอกจากมันจะเจ็บปวดเพราะการกระทำอันรุนแรงของผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธอแล้ว เธอยังจะต้องมาเจ็บปวดที่ได้มารู้ว่าส่วนหนึ่งของร่างกายเธอก็รู้สึกดีไปกับสัมผัสของเขาเช่นกันซึ่งมันทำให้หญิงสาวรู้สึกอับอายรวมทั้งเกลียดชังตัวเองมากกว่าอะไรทั้งหมดที่เธอจะต้องมาตกอยู่ในสภาพที่น่าสมเพชแบบนี้

หากแต่บทลงโทษของนายลูเซียสนั้นก็ไม่ได้ดำเนินต่อไปเนิ่นนานนัก ถึงแม้ว่าเฮอร์ไมโอนี่จะรู้สึกว่ามันยาวนานราวกับชั่วนิรันดร์ก็ตาม เพราะหลังจากที่เขาได้ทรมานร่างดื้อดึงที่อยู่เบื้องล่างได้ระยะหนึ่งแล้วชายผมบลอนด์ที่ไม่อาจจะทนต่อความต้องการของตนเองได้ก็โถมกายครอบครองร่างเล็กภายใต้การควบคุมของเขาอย่างหนักหน่วงก่อนจะพาเธอโบยบินไปสู่ฝั่งฝันที่ระคนไปด้วยความเจ็บปวดและความสุขสมในขณะที่เขาเองก็เคลื่อนกายเพื่อปลดปล่อยความต้องการของตัวเองไปยังร่างเล็กที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขาโดยไม่สนใจเลยว่าเธอจะต้องการหรือเต็มใจกับสิ่งที่เขาหยิบยื่นให้เธอหรือไม่

นายลูเซียสหลับตาลงเมื่อเขาโบยบินไปสู่สรวงสวรรค์ก่อนที่เขาจะซบร่างใหญ่ลงบนร่างเล็กเบื้องล่างพร้อมกับหอบหายใจอย่างแรงเมื่อบทรักระหว่างเขาและเฮอร์ไมโอนี่จบลง



…………………………………………….



มันต้องใช้เวลาครู่หนึ่งกว่าที่เขาจะปรับลมหายใจได้ และเมื่อลมหายใจของเขากลับมาเป็นปกติพอ ๆ กับอารมณ์ของเขาซึ่งเปรียบได้ราวกับท้องทะเลที่เพิ่งผ่านพ้นพายุแห่งโทสะไปและคลื่นลมก็เริ่มกลับมาสงบอีกครั้ง นายลูเซียสก็เพิ่งตะหนักได้เป็นครั้งแรกว่าเขาได้ทำอะไรลงไปกับหญิงสาวผู้เป็นภรรยาของเขา

เพราะว่าภาพเบื้องหน้าของชายผมบลอนด์นั้นก็คือภาพของเฮอร์ไมโอนี่ที่มีดวงตาแดงก่ำและคราบน้ำตาเปรอะแก้มเนียน ริมฝีปากอิ่มของเธอนั้นห้อเลือดเนื่องมาจากการกัดริมฝีปากของตัวเองเพื่อกั้นเสียงร้องที่น่าอายของเธอ และยิ่งไปกว่านั้นก็คือ เมื่อนายลูเซียสมองตามแขนเรียวของหญิงสาวไปเขาก็พบว่าข้อมือเล็กของเธอนั้นเกิดบาดแผลเนื่องจากเวทย์มนต์ของเขาจนมันปรากฏรอยสีแดงขึ้นที่ผิวของเธอราวกับผิวบริเวณนั้นห้อเลือดขึ้นมาเพราะเชือกเวทย์มนต์ที่มองไม่เห็นของเขานั้นบาดลึกเข้าไปในข้อมือเล็กของเธอ และสิ่งที่ทำให้นายลูเซียสรู้สึกราวกับเขาเพิ่งถูกคลื่นแห่งความรู้สึกผิดถาโถมเข้าใส่นั้นก็คือดวงตาสีน้ำตาลของเฮอร์ไมโอนี่ที่มองมาทางเขาอย่างเจ็บปวดระคนเกลียดชัง ราวกับเขาเป็นสัตว์ร้ายที่ช่วงชิงทุกอย่างไปจากเธอ!

และเป็นเพราะได้สบดวงตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังและความเสียใจของหญิงสาวนั้นเองที่ทำให้นายลูเซียสตัดสินใจละจากร่างบางที่บอบช้ำตรงหน้า ดวงตาสีเงินของเขาสำรวจไปตามร่างกายของเธอด้วยสายตาราวกับเขาเองก็ไม่แน่ใจกับสิ่งที่เขาได้ทำลงไปเหมือนกัน และก่อนที่ขาจะค้นพบอะไรที่จะมาทำให้เขารู้สึกผิดไปมากกว่าเดิมนั้นชายผมบลอนด์ก็เลื่อนมือของเขาไปยังข้อมือเล็กที่ถูกพันธนาการไว้ของเฮอร์ไมโอนี่อย่างแผ่วเบา ซึ่งเธอก็พยายามเบี่ยงตัวหลบสัมผัสของเขาอย่างหวาดกลัวหากแต่ไร้ประโยชน์ แต่นายลูเซียสทำเป็นไม่สนใจท่าทีของเธอเมื่อเขาพึมพำอะไรบางอย่างขึ้นมาพร้อม ๆ กับแตะมือของเขาลงที่เชือกที่มองไม่เห็น และในวินาทีต่อมาหญิงสาวก็รู้สึกถึงความผ่อนคลายที่ข้อมือเมื่อเวทย์มนต์ที่พันธนาการเธอได้ถูกถอนออกไปแล้วหากแต่ความเจ็บปวดที่ข้อมือของเธอก็ยังคงอยู่

ขณะที่ดวงตาสีเงินของสามีกำลังจ้องมองเธออยู่นั้นเฮอร์ไมโอนี่ก็ดึงแขนของเธอกลับมาพร้อมกับสำรวจข้อมือที่บอบช้ำของเธออย่างเบามือโดยมีนายลูเซียสมองเธออยู่เงียบ ๆ เขาไม่ได้พูดหรือทำอะไรมากไปกว่าจ้องมองเธออยู่แบบนั้น ไม่มีคำขอโทษ ไม่มีถ้อยคำดูถูก และไม่มีคำอธิบายใด ๆ ทั้งสิ้นเกี่ยวกับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น ชายผมบลอนด์จ้องมองหญิงสาวอยู่เงียบ ๆ แบบนั้นจนกระทั่งเธอเริ่มร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้ง น้ำตาใสไหลอาบแก้มเนียนของเธออีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่อาจจะบอกได้ แต่ขณะที่กำลังร้องไห้อยู่นั้นเอง มันก็เป็นครั้งแรกที่หญิงสาวสังเกตเห็นว่าชายตรงหน้าทำท่าทีราวกับจะยื่นมือมาเพื่อเช็ดน้ำตาให้เธอ แต่อาจจะเป็นเพราะการกระทำของเธอเองที่ทำให้นายลูเซียสต้องชะงักการกระทำของเขาไปเมื่อเธอเบี่ยงตัวหลบเขาในทันทีราวกับเธอกลัวว่าเขาจะเข้ามาทำร้ายเธอมากกว่าจะเข้ามาปลอบใจเธอ

และเพราะการกระทำของหญิงสาวนั้นเองที่ทำให้มือใหญ่ของชายผมบลอนด์นั้นชะงักอยู่กลางอากาศก่อนที่เขาจะชักมันกลับอย่างรวดเร็ว นายลูเซียสจ้องมองหญิงสาวด้วยสายตาประเมินอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียงไป

แม้ว่าจะแสร้งหันหน้าไปทางอื่น แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็รู้สึกได้จากความยวบยาบของเตียงเมื่อร่างใหญ่ของชายผมบลอนด์ลุกขึ้นจากเตียง และถึงแม้ว่าเธอจะสงสัยอยู่ไม่น้อยว่าสามีของเธอนั้นกำลังจะเดินไปที่ไหนในตอนนี้ แต่หญิงสาวก็ไม่ต้องการที่จะหันไปมองพอ ๆ กับที่เธอไม่ต้องการจะหันไปสบตาเขา ดังนั้นสิ่งที่เธอทำได้เพียงอย่างเดียวในตอนนี้นั้นก็คือการฟังเสียงฝีเท้าของร่างใหญ่ที่กำลังเดินไปตามพื้นห้องเท่านั้น แต่หลังจากสงสัยในเรื่องดังกล่าวอยู่ไม่นานนัก คำตอบก็ปรากฏขึ้นให้เฮอร์ไมโอนี่เห็น อันที่จริงจะต้องเรียกว่าเธอได้ยินมันมากกว่าเมื่อเธอได้ยินเสียงเปิดประตูห้องนอนขึ้นพร้อมกับเสียงมันปิดลงอย่างรวดเร็วซึ่งบอกให้เธอรู้ว่านายลูเซียสนั้นออกจากห้องนอนไปแล้ว และหลังจากเสียงประตูที่ปิดลงดังขึ้นไม่นานนักเฮอร์ไมโอนี่ก็ปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น ร่างเล็กของเธอสะอื้นราวกับจะขาดใจก่อนจะซบร่างลงบนกับที่นอนและร้องไห้อย่างหนักมากที่สุดเท่าที่เธอเคยร้องมาก่อนครั้งหนึ่งในชีวิตของเธอ



…………………………………………….



ทางด้านชายผมบลอนด์นั้นเขารู้สึกแปลกใจไม่น้อยกับเรื่องที่เกิดขึ้น หลังจากที่สติสัมปชัญญะของเขากลับคืนมาแล้วนายลูเซียสก็รู้สึกราวกับคนที่เพิ่งตื่นขึ้นมาจากฝัน เขารู้สึกสับสนและไม่แน่ใจในสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป และยิ่งไปกว่านั้นคือเขาก็รู้สึกผิดมากกว่าอะไรทั้งหมดในเรื่องที่เกิดขึ้น ในเรื่องที่เขาได้ทำลงไปกับหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของเขาเอง แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นได้ พอ ๆ กับที่เขาไม่อาจจะพูดปลอบใจหรือเอ่ยคำอธิบายในสิ่งที่เขาได้ลงไปกับเฮอร์ไมโอนี่ได้เลย โดยเฉพาะในตอนที่เธอเบี่ยงตัวหลบสัมผัสของเขาพร้อมกับตัวสั่นด้วยความหวาดหลัวราวกลับลูกนกตัวเล็ก ๆ อยู่นั้น และเมื่อเห็นเช่นนั้นชายผมบลอนด์ก็รู้แล้วว่าสิ่งที่เขาได้ทำลงไปนั้นส่งผลกระทบต่อหญิงสาวมากเพียงใด และเมื่อเห็นเช่นนั้นเขาจึงตัดสินใจลุกออกมาจากเตียงและเดินออกมาจากห้องเสียเพื่อปล่อยให้เธออยู่ภายในห้องตามลำพัง แต่ถึงเขาจะตัดสินใจแบบนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังร่างเล็กที่กำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะออกจากห้องมา แม้ว่าหญิงสาวจะไม่หันมามองเขาก็ตาม แต่เขาก็สามารถเห็นได้ว่าแผ่นหลังของเฮอร์ไมโอนี่นั้นสั่นเทาแค่ไหนในตอนที่เขากำลังจะเดินออกจากห้องไป และเมื่อเป็นเช่นนั้นนายลูเซียสจึงถอนหายใจก่อนจะเดินออกจากห้องมา แต่หลังจากที่เขาปิดประตูเบื้องหลังของเขาลงโดยที่ยังไม่ทันที่เขาจะเดินออกจากหน้าธรณีประตูที่ว่านั้นเองเสียงสะอื้นของหญิงสาวก็ดังกระทบหูของเขา มันไม่ใช่เสียงสะอื้นที่แผ่วเบาเลยแม้แต่น้อยเพราะมันสามารถดังเล็ดลอดประตูไม้บานหนาออกมานอกห้องที่มีระยะห่างจากเตียงนอนอยู่พอสมควรนี้ได้ ซึ่งมันบอกเขาว่าในตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่กำลังร้องไห้อย่างหนัก และสาหตุที่หญิงสาวเป็นเช่นนี้ก็มาจากการกระทำของเขาทั้งสิ้น! และถึงแม้ว่าเสียงสะอื้นนั้นจะเปรียบเสมือนมีดที่กรีดหัวใจของเขาอย่างที่เขาเองก็ไม่สามารถค้นหาสาเหตุได้ว่าทำไม นายลูเซียสก็ไม่ได้ตัดสินใจที่จะกลับเข้าไปปลอบโยนภรรยาของเขาที่กำลังเสียใจอยู่แต่อย่างใด เขาทำเช่นนั้นไม่ได้พอ ๆ กับที่เขาไม่อาจจะเอ่ยคำขอโทษในสิ่งที่เขาได้ทำกับเธอออกไปได้ และเมื่อเป็นเช่นนั้นชายผมบลอนด์จึงตัดสินใจที่จะหันหลังให้กับเสียงสะอื้นนั้นและเดินไปตามระเบียงทางเดินก่อนจะลงบันไดไปยังชั้นล่างของคฤหาสน์



ภายในห้องนั่งเล่นของคฤหาส์มัลฟอย ตรงเคาน์เตอร์บาร์ซึ่งเป็นที่เก็บเครื่องดื่มชั้นเยี่ยมของเจ้าของบ้านนั้น ลูเซียส มัลฟอยกำลังรินวิสกี้ไฟใส่แก้วอย่างลวก ๆ ก่อนจะกระดกมันลงคออย่างรวดเร็ว ดวงตาสีเงินดูสับสนในสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นราวกับเขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่เมื่อเขารู้ตัวอีกทีเขาก็พบว่าเขาได้ทำร้ายเฮอร์ไมโอนี่ผู้เป็นภรรยาของเขาลงไปด้วยมือของเขาเองเสียแล้ว

เมื่อนึกย้อนไปถึงภาพหญิงสาวที่มีน้ำตาไหลอาบแก้มและกำลังมองเขาด้วยสายตาราวกับเขาไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าปีศาจร้ายในร่างมนุษย์และค้นพบว่าการนึกถึงภาพดังกล่าวไม่อาจก่อให้เกิดผลประโยชน์ใด ๆ กับเขาได้มากไปกว่าเป็นการนำเอาความเจ็บปวดและความรู้สึกผิดมาสู่ตัวของเขาเองนั้น นายลูเซียสก็กระดกวิสกี้ไฟแก้วที่สองตามไปอย่างรวดเร็ว หลังจากรู้สึกถึงความร้อนของวิสกี้ไฟที่แผดเผาลำคอของเขากระเพาะที่ว่างเปล่าของเขาแล้ว ชายผมบลอนด์ก็รินแก้วที่สามขึ้นมาจิบอย่างช้า ๆ ซึ่งในครั้งนี้ดวงตาสีเงินของเขานั้นเริ่มดูสุขุมมากขึ้นและมันก็ไม่ได้ถูกครอบงำด้วยโทสะเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้ว หลังจากเริ่มตั้งสติได้นายมัลฟอยก็เริ่มคิดทบทวนในเรื่องที่เกิดขึ้นในบ่ายวันนี้อย่างมีสติหนักแน่นเป็นครั้งแรก



นายลูเซียสคิดทบทวนไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่ห้องทำงานของเขา เริ่มตั้งแต่ตอนที่เขากลับมาพบเฮอร์ไมโอนี่อยู่กับเซเวอร์รัสสองต่อสองในห้องทำงานของเขาซึ่งควรจะเป็นสถานที่ต้องห้ามสำหรับเธอ รวมทั้งเธอยังสารภาพออกมาด้วยว่าเธอต้องการที่จะแต่งงานกับอดีตอาจารย์ของเธอมากกว่าเขา ในตอนแรกนั้นเขาตกใจและโกรธมากกับสิ่งที่เขาได้เห็นและได้ยิน จนเขาคิดไปว่าเฮอร์ไมโอนี่นั้นนอกใจเขากับเซเวอร์รัส สเนป หนึ่งในเพื่อนผู้เสพความตายที่เขาสนิทสนมมากที่สุด และดูเหมือนว่าท่าทีของทั้งสองคนในตอนที่เขาจับได้ว่าทั้งคู่แอบพบกันรวมทั้งคำแก้ตัวต่าง ๆ นานาที่ทั้งสองสรรหามาพูดกับเขานั้นยิ่งทำให้เขาปักใจเชื่อไปก่อนแล้วว่าเฮอร์ไมโอนี่นั้นมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเซเวอร์รัส รวมทั้งเธออาจจะคบหากับอดีตอาจารย์ของเธอมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วก็เป็นได้ แต่หลังจากที่นายลูเซียสได้ลองใช้สติคิดไตร่ตรองถึงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดอีกครั้ง เขากลับพบว่ามีบางอย่างที่ขัดแย้งในสิ่งที่เขาเชื่อในตอนแรกอยู่หลายประการ



อย่างแรกก็คือมันไม่มีเหตุผลใด ๆ เลยที่เฮอร์ไมโอนี่จะต้องการแต่งงานกับสเนปแทนที่จะเป็นเขา และลูเซียสเองก็ไม่ได้เข้าข้างตัวเองแต่อย่างใดที่คิดเช่นนี้ เพราะเขาเพิ่งนึกได้ถึงความจริงที่ว่าเฮอร์ไมโอนี่นั้นรังเกียจสเนปแค่ไหนที่เขาเป็นคนสังหารดัมเบิลดอร์ด้วยมือของเขาเอง อีกทั้งนายลูเซียสยังจำถึงปฏิกิริยาของเธอได้เป็นอย่างดีในตอนที่เธอพบสเนปครั้งแรกที่ศูนย์บัญชาการศาสตร์มืดหลังจากที่เขาจับตัวเธอมา ซึ่งปฏิกิริยาของหญิงสาวเมื่อเซเวอร์รัส สเนปปรากฏกายขึ้นในห้องนั้นมันช่างแตกต่างจากในตอนที่เขาพบเธอที่กองปริศนาก่อนหน้านั้นมากนั้น เพราะในตอนนั้นเฮอร์ไมโอนี่ดูต่อต้านและเกลียดชังสเนปมากกว่าอะไรทั้งหมด และแม้ว่าในตอนนี้หญิงสาวจะตกเป็นภรรยาของเขาแล้วก็ตาม แต่ลูเซียสก็ค่อนข้างแน่ใจว่าลึก ๆ แล้วเธอยังคงภักดีกับฝ่ายภาคีและเพื่อนรักของเธออยู่ และถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่เธอจะต้องการแต่งงานกับผู้เสพความตายที่เป็นคนสังหารดัมเบิลดอร์กับมือกันเล่า

อีกประการหนึ่งก็คือ แม้ว่าชายผมบลอนด์จะไม่สามารถหาเหตุผลใดมาตอบคำถามที่ว่าทำไมเฮอร์ไมโอนี่จึงต้องการจะแต่งงานกับสเนปที่เป็นผู้สังหารดัมเบิลดอร์ออกมาได้แล้วนั้น เขาก็นึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่มาขัดแย้งกับสิ่งที่เขาเชื่อไปก่อนหน้านี้ด้วยอารมณ์ที่ว่า เฮอร์ไมโอนี่นั้นแอบคบหากับสเนปจนอาจถึงขั้นมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกันมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งมันไม่น่าจะเป็นเรื่องจริงแต่อย่างใด เพราะแม้ว่าทั้งสองจะลักลอบพบกันในสภาพที่น่าสงสัยมากก็ตาม แต่สภาพที่เขาไปเจอพวกเขาทั้งสองอยู่ด้วยกันในตอนนั้นสเนปและภรรยาของเขามีท่าทางเหมือนกำลังยืนพูดคุยกันมากกว่า พวกเขาไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวกัน รวมทั้งไม่ได้ใกล้ชิดกันเหมือนเช่นในวันที่เขาไปเจอทั้งคู่อยู่ด้วยกันในห้องทำงานของสเนปซึ่งเขาพาหญิงสาวไปรักษามือของเธอแต่อย่างใด แต่ถึงกระนั้นก็ตาม มันก็เป็นเพราะคำพูดของหญิงสาวที่ทำให้เขาเกิดโทสะและคิดไปก่อนแล้วว่าเฮอร์ไมโอนี่นั้นมีความสัมพันธ์เกินเลยกับเพื่อนของเขาเอง ซึ่งเมื่อลองมาทบทวนดูอีกทีเขาก็ค่อนข้างแน่ใจแล้วว่าก่อนหน้านี้เขาคิดผิด ภรรยาของเขาไม่น่าจะเคยมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับเซเวอร์รัส สเนป อย่างน้อย ๆ ก็ไม่ใช่ก่อนที่เธอจะมาแต่งงานกับเขา เพราะเฮอร์ไมโอนี่เป็นสาวบริสุทธิ์จวบจนคืนวันแต่งงานของเขาและเธอ และลูเซียสก็แน่ใจว่าเขาเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ เป็นสามีของเธออย่างถูกต้อง และเมื่อเขานึกย้อนไปถึงคืนแต่งงานของเขาและเฮอร์ไมโอนี่ชายผมบลอนด์ก็รู้สึกถึงกระแสแห่งความจริงที่ผุดขึ้นมาในหัวสมองของเขาซึ่งมันได้เข้ามาคัดค้านกับสิ่งที่เขาเคยเชื่อก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง ลูเซียสนึกไปถึงร่างที่สั่นเทาของหญิงสาวเมื่อเขาสัมผัสร่างกายของเธอในคืนแต่งงานของพวกเขา นึกถึงท่าทีเอียงอายและการขัดขืนที่ไร้ประโยชน์ของเธอยามที่เขาแตะต้องร่างกายของเธอ รวมทั้งใบหน้าแดงก่ำและท่าทีเขินอายของเธอในตอนที่เขามาปลุกเธอที่เตียงนอนในยามเช้า และภาพเหตุการณ์เหล่านั้นเองที่เตือนให้นายมัลฟอยคิดได้ว่าเขาเข้าใจผิดอย่างมหันต์ไปก่อนหน้านี้ว่าเฮอร์ไมโอนี่นั้นเป็นผู้หญิงที่นอกใจเขาไปกับเพื่อนของเขาเองซึ่งเป็นอดีตอาจารย์ของเธอด้วย รวมทั้งเธออาจจะคบหากับเซเวอร์รัสมาก่อนหน้าที่จะมาแต่งงานกับเขาแล้ว เนื่องจากภาพลักษณ์ของผู้หญิงที่มีความสัมพันธ์กับอาจารย์ของตัวเองและผู้หญิงที่นอกใจสามีของเธอหลังจากที่เธอเพิ่งแต่งงานกับเขาได้ไม่ทันจะครบอาทิตย์ดีนั้นมันช่างขัดกับภาพของหญิงสาวบริสุทธิ์ที่เขาได้มาเป็นภรรยาเหลือเกินแม้ว่าจะเธอแต่งงานกับเขาโดยไม่เต็มใจก็ตาม แต่เธอก็ยังคงมีท่าทีเขินอายอยู่แม้แต่ตอนที่เธอตกเป็นของเขาแล้ว ซึ่งมันบอกเขาได้ว่าผู้หญิงที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสาอย่างเธอนั้นไม่น่าจะลักลอบพาเพื่อนผู้เสพความตายของเขาเข้ามามีสัมพันธ์รักกันในบ้านของเขาเองแบบนี้



หลังจากที่คิดได้เช่นนั้นก็เกิดคำถามผุดขึ้นในสมองของนายลูเซียสต่อมา

ถ้าเช่นนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันเล่า เป็นเพราะอะไรเฮอร์ไมโอนี่ถึงต้องการจะแต่งงานกับเซเวอร์รัสมากกว่าเขา และเป็นเพราะอะไรทั้งสองถึงต้องมาลอบพบกันในตอนที่ชายผมดำเองก็รู้ดีกว่าเขาไม่อยู่บ้าน หากไม่ใช่เรื่องชู้สาวแล้วทั้งสองมาพบกันด้วยเรื่องอะไรกัน

หลังจากที่พยายามระดมสมองเพื่อหาคำตอบในคำถามที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่นี้อยู่ครู่หนึ่ง ลูเซียสก็รู้ว่าเขาไม่สามารถหาคำตอบให้มันได้พอ ๆ กับที่เขาไม่สามารถคาดเดาเหตุการณ์ต่าง ๆ ไปเองได้เลย และมีเพียงทางเดียวเท่านั้นที่เขาจะสามารถล่วงรู้คำตอบที่แท้จริงของเรื่องราวที่แสนจะซับซ้อนที่เกิดขึ้นนี้ก็คือเขาต้องไปถามมันจากปากของเฮอร์ไมโอนี่เองเท่านั้น

‘ แต่เธอจะบอกเขาอย่างนั้นหรือ ’ นั่นเป็นคำถามแรกที่เกิดขึ้นในใจของชายผมบลอนด์หลังจากนั้น และเพราะคำถามดังกล่าวนั้นเองที่ทำให้นายลูเซียสนึกไปถึงภาพของภรรยาสาวของเขาที่มีน้ำตาไหลอาบแก้มและกำลังมองมาทางเขาด้วยสายตาราวกับเขาเป็นสัตว์ร้ายในร่างมนุษย์ และเมื่อเป็นเช่นนั้นนายลูเซียสจึงถอนหายใจออกมาเบา ๆ พร้อม ๆ กับที่เขาวางแก้วเครื่องดื่มในมือลงเมื่อเขาไม่เห็นประโยชน์ในการดื่มมันต่อไปอีกแล้ว ดวงตาสีเงินที่เต็มไปด้วยแววครุ่นคิดเปลี่ยนมาเป็นแววตาที่ดูเคร่งเครียดเมื่อเขาคิดสงสัยไปว่าเฮอร์ไมโอนี่นั้นจะเป็นอย่างไรบ้างหลังจากที่เขาได้ทำรุนแรงกับเธอลงไปขนาดนั้น



และเมื่อนึกถึงตรงนี้สายตาของนายลูเซียสก็ปรายลงมามองที่มือใหญ่ของตัวเองพร้อม ๆ กับนึกทบทวนถึงเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วก็เริ่มสงสัยว่าเรื่องทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร เขาได้ทำอะไรลงไปกับหญิงสาวผู้เป็นภรรยาของเขาเองและเขาทำเช่นนั้นกับเธอลงไปได้อย่างไร แต่เมื่อใช้ความคิดอยู่ได้ไม่นานนักชายผมบลอนด์ก็ได้คำตอบว่า เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นมันเกิดขึ้นมาจากการที่เขาเข้าไปพบเฮอร์ไมโอนี่อยู่ตามลำพังกับเซเวอร์รัส สเนปซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเขา เพียงแต่ที่เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่ใหญ่มากจนเขาถึงกับบันดาลโทสะสั่งสอนหญิงสาวไปนั้นเป็นเพราะคำพูดของเธอที่พูดว่าเธอต้องการจะแต่งงานกับสเนปมากกว่าเขารวมทั้งความพยายามที่จะปิดบังเขาจากการรับรู้ความจริงว่าแท้ที่จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นนั้นได้นำไปสู่การกระทำที่อาจจะเรียกได้ว่าเลวร้ายที่เขาได้ทำลงไปกับเธอ

เมื่อคิดถึงตรงนี้ภาพของเฮอร์ไมโอนี่ที่พยายามขัดขืนดิ้นรนรวมทั้งอ้อนวอนให้เขาหยุดการกระทำของเขาทั้งน้ำตาก็แวบเข้ามาในหัวสมองของนายลูเซียสอย่างรวดเร็วจนเขาต้องสะบัดศีรษะของเขาเบา ๆ เพื่อไล่ภาพนั้นออกไปจากสายตา หากแต่เขากลับไม่ประสบความสำเร็จแต่อย่างใด เพราะแม้ว่าเขาจะสามารถลบภาพดังกล่าวไปจากความคิดคำนึงของเขาในขณะนี้ได้ แต่เขาก็ไม่สามารถลบล้างความจริงที่ว่าเขาได้ทำรุนแรงลงไปกับเฮอร์ไมโอนี่ที่เป็นภรรยาของเขาลงไปได้เลย และยิ่งไปว่านั้นก็คือยิ่งเขาพยายามจะลบภาพเลวร้ายที่เขาทำลงไปกับเฮอร์ไมโอนี่มากเพียงใด ภาพหญิงสาวที่พยายามดิ้นรนขัดขืนการกระทำของเขาในวันนี้ก็ไปซ้อนทับกับภาพของเธอที่มีกริยาไม่ต่างกันนักในคืนวันแต่งงานของเขา ซึ่งมันตอกย้ำถึงสิ่งที่นายลูเซียสเพิ่งค้นพบก่อนหน้านี้ว่าเฮอร์ไมโอนี่นั้นไม่ใช่ผู้หญิงที่จะทำเรื่องในแบบที่เขาคิดกับผู้ชายที่เป็นอาจารย์ของเธอรวมทั้งเป็นเพื่อนผู้เสพความตายของเขาลงไปได้ บางทีเรื่องทั้งหมดอาจจะเป็นการเข้าใจผิด และบางทีมันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดก็ได้ แต่ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันคืออะไรกันแน่ แล้วมันเกิดมาจากอะไร ทำไมสเนปต้องมาหาเฮอร์ไมโอนี่ถึงที่บ้านแบบนี้ด้วย เพราะถึงจะเข้าใจแล้วว่าภรรยาของเขาไม่น่าจะมีความสัมพันธ์ที่เกินเลยกับเซเวอร์รัส หากแต่นายลูเซียสก็ยังไม่ปักใจเชื่อทันทีว่าเซเวอร์รัสจะลงทุนมาหาภรรยาของเขาที่บ้านในเวลาที่เขาไม่อยู่เพราะต้องการเอายารักษาบาดแผลมาให้เธอเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ถึงกระนั้นชายผมบลอนด์ก็ไม่อาจจะหาคำตอบหรือคาดเดาได้ว่าสาเหตุที่แท้จริงที่เซเวอร์รัส สเนปมาพบเฮอร์ไมโอนี่ในวันนี้นั้นคืออะไร และเมื่อเป็นเช่นนี้ก็มีเพียงทางเดียวเท่านั้นที่เขาจะได้คำตอบในสิ่งที่เขาต้องการจะรู้ ซึ่งนั่นก็คือการถามทุกอย่างจากปากภรรยาของเขาเอง

หลังจากที่ได้บทสรุปจากความคิดที่ยุ่งเหยิงของเขาแล้วนายลูเซียสก็ไม่รอช้าที่จะลุกขึ้นจากเคาเตอร์ที่เขากำลังนั่งอยู่โดยไม่สนใจจะดื่มเครื่องดื่มที่เหลืออยู่ในแก้วให้หมดแต่อย่างใด ตรงกันข้ามเขากลับลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินกลับไปยังห้องนอนของเขาที่อยู่ที่ชั้นสองของคฤหาสน์ในทันที



…………………………………………….



นายลูเซียสเดินมาถึงห้องนอนของเขาในเวลาต่อมา ชายผมบลอนด์เปิดประตูห้องออกอย่างแผ่วเบาและสิ่งแรกที่เขาสัมผัสได้ก็คือความเงียบภายในห้อง ซึ่งในตอนแรกนั้นเขาคาดหวังไว้ว่าจะได้ยินเสียงสะอื้นของหญิงสาวที่กำลังนอนอยู่บนเตียงนอนของเขาและเธอเหมือนกับในตอนแรกที่เขาออกจากห้องไป แต่ปรากฏว่านายลูเซียสกลับต้องแปลกใจที่พบว่าห้องทั้งห้องนั้นเงียบงัน และเมื่อเป็นเช่นนั้นชายผมบลอนด์จึงเดินเข้าไปภายในห้องด้วยท่าทีที่สงบนิ่งมากกว่าเดิมราวกับเขากังวลว่าการมาของเขาจะไปทำให้ร่างเล็กที่กำลังนอนอยู่บนเตียงนั้นตกใจ

นายลูเซียสเดินไปถึงเตียงนอนของเขาพร้อม ๆ กับสังเกตเห็นว่าร่างเล็กของเฮอร์ไมโอนี่ที่อยู่บนเตียงนั้นกำลังนอนตะแคงหันหลังไปอีกทางหนึ่ง ในตอนแรกเขาไม่แน่ใจว่าหญิงสาวตื่นอยู่หรือไม่ แต่เมื่อชายผมบลอนด์เข้าไปใกล้ร่างดังกล่าวมากขึ้นเขาก็ได้ยินเสียงสะอื้นแผ่วเบาที่ดังมาจากร่างเล็กเบื้องหน้าพร้อม ๆ กับที่เขาเห็นว่าแผ่นหลังของร่างนั้นสั่นสะท้านเพราะแรงสะอื้นของเธอ หากแต่เสียงที่ดังออกมาช่างแผ่วเบายิ่งนักราวกับเธอพยายามที่จะกลั้นมันไว้ด้วย เนื่องจากในตอนนี้เธอรู้ว่าเขาได้กลับเข้ามาในห้องแล้ว และเมื่อนายลูเซียสเดินเข้าไปยืนอยู่ข้างเตียงนอนของเขาซึ่งใกล้กับตรงที่เฮอร์ไมโอนี่กำลังนอนอยู่นั้นเขาก็เห็นว่าหญิงสาวกำลังยกมือข้างหนึ่งขึ้นปิดปากของตนเองเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นของตนไม่ให้ดังออกมา

และเมื่อเขาเห็นเช่นนั้นความต้องการที่จะถามรวมถึงคาดคั้นเอาคำตอบในสิ่งที่เขาต้องการจะรู้จากหญิงสาวนั้นก็มลายหายไปในพริบตาหลังจากเขาได้เห็นเธอกำลังนอนร้องไห้อยู่เงียบ ๆ แบบนี้แล้วเขาก็ไม่อาจที่จะไปคาดคั้นหรือซักถามอะไรเธอไปมากกว่านี้ได้ ตรงกันข้ามนายลูเซียสกลับทำในสิ่งที่เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าเขาจะทำ ซึ่งนั่นก็คือการที่เขาขึ้นไปบนเตียงเพื่อไปนอนข้าง ๆ ร่างเล็กของภรรยาของเขา



เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเธอได้ยินเสียงเปิดประตูห้องนอน แม้จะรู้ดีว่า ‘ เขา ’ คงต้องกลับมาที่ห้องนี้แต่เธอก็ไม่คิดว่าเขาจะกลับมาที่นี่เร็วขนาดนี้ อย่างน้อย ๆ มันก็ไม่เร็วพอสำหรับให้เธอทำใจให้พร้อมกับการเผชิญหน้ากับเขาอีกครั้ง หรือบางทีเธออาจจะไม่พร้อมที่จะต้องเผชิญหน้าเขาตลอดไปเลยก็เป็นได้

เสียงฝีเท้าอันแผ่วเบาหากแต่สามารถจับทิศทางได้ทำให้หญิงสาวรู้ว่าบัดนี้ร่างใหญ่ของนายลูเซียสนั้นกำลังเดินมายังเตียงที่เธอกำลังนอนอยู่ และเมื่อเป็นเช่นนั้นเฮอร์ไมโอนี่ก็มีความรู้สึกอยากจะหนีไปจากที่ ๆ เธอกำลังอยู่เสียเดี๋ยวนี้ เธอต้องการจะลุกขึ้นจากเตียงและหนีไปให้พ้นจากผู้ชายที่ได้ทำร้ายเธออย่างแสนสาหัสมากกว่าอะไรทั้งหมด เพียงแต่เธอก็รู้ดีว่าเธอไม่อาจจะทำเช่นนั้นได้เมื่อเสียงฝีเท้าของนายมัลฟอยนั้นใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ พร้อม ๆ กับที่ความกลัวเริ่มแล่นเข้ามาจับขั้วหัวใจของเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้งเมื่อเธอจินตนการไปว่านายลูเซียสจะทำอะไรกับเธอต่อไปบ้าง เขาจะทำร้ายหรือทรมานเธอเพื่อเป็นการลงโทษในสิ่งที่เขาคิดว่าเธอได้ทำลงไปอีกหรือไม่ หรือที่ร้ายไปกว่านั้นก็คือเขาจะใช้กำลังข่มเหงเธออย่างที่เขาทำเมื่อครู่อีกหรือเปล่า!!!

และเพราะการจินตนการถึงสิ่งที่ไม่น่าพิสมัยเหล่านี้นี่เองที่ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ส่งเสียงสะอื้นออกมาเบา ๆ อย่างห้ามตัวเองไม่อยู่ น้ำตาที่เหือดแห้งไปแล้วได้ไหลออกมาอีกรอบ แต่ถึงกระนั้นหญิงสาวซึ่งไม่ต้องการทำให้สามีของเธอล่วงรู้ถึงความอ่อนแอของเธอไปมากกว่านี้ได้ก็ยกมือขึ้นปิดปากของตนเองเพื่อห้ามไม่ให้เสียงสะอื้นของเธอนั้นเล็ดรอดออกมา หากแต่เธอกลับไม่รู้เลยว่าทุกการกระทำของเธอนั้นอยู่ในสายตาของชายผมบลอนด์ตั้งแต่ในตอนที่เขาเข้ามาภายในห้องนอนเสียแล้ว



แม้ว่าจะพยายามควบคุมตัวเองอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็สะดุ้งขึ้นมาเมื่อเธอรู้สึกถึงแรงยุบที่เตียงด้านหลังของเธอเมื่อร่างใหญ่ของนายมัลฟอยนั้นขึ้นมาบนเตียงและเข้ามานอนถัดจากร่างของเธอไปหลังจากที่เธอรู้สึกได้ว่าเขามายืนมองเธอจากด้านหลังอยู่ครู่หนึ่ง แม้จะตกใจและหวาดกลัวมากก็ตาม แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่สามารถหนีไปจากที่ ๆ เธออยู่ในตอนนี้ได้ พอ ๆ กับที่เธอไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะไปขัดขืนการกระทำของร่างใหญ่ที่บัดนี้ได้มามีอำนาจเหนือเธอในแทบจะทุกด้านได้เลย

แม้ว่าจะจินตนาการถึงสิ่งที่เลวร้ายที่สุดไว้แล้วก็ตาม แต่สิ่งที่เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกต่อมานั้นกลับเป็นสัมผัสที่แผ่วเบาบริเวณหัวไหล่ของเธอเมื่อมือใหญ่ของนายลูเซียสเลื่อนมาปัดผมสีน้ำตาลดกหนาของเธอออกจากบริเวณไหล่และซอกคอ ในขณะที่หญิงสาวแทบจะกลั้นหายใจเพราะการกระทำของเขาอยู่นั้นชายผมบลอนด์ก็ก้มลงจูบเธออย่างแผ่วเบาที่หัวไหล่

เฮอร์ไมโอนี่หลับตาลงเมื่อริมฝีปากของสามีสัมผัสผิวเนื้อของเธอ แม้ว่ามันจะไม่มีความรุนแรงเจือปนอยู่ก็ตามรวมทั้งรอยจูบของเขานั้นก็ดูราวกับแผดเผาผิวเนื้อของเธอให้ร้อนรุ่มด้วยสัมผัสที่อ่อนโยนของมัน แต่ถึงกระนั้นก็ตามหญิงสาวก็ไม่อาจจะคลายตัวเองจากความหวาดกลัวที่มีต่อสามีของเธอเพียงเพราะจูบที่อ่อนโยนจากเขาได้ ไม่ใช่หลังจากที่เขาได้ทำร้ายเธออย่างแสนสาหัสมาขนาดนี้แล้ว

และเมื่อไม่เห็นปฏิกิริยาตอบรับใด ๆ จากร่างตรงหน้า ชายผมบลอนด์ก็ก้มลงไปจูบร่างเล็กตรงหน้าอีกครั้ง หากแต่คราวนี้เขาเลือกที่จะประทับจูบของเขาที่ซอกคอขาวผ่องของเธอก่อนจะเลื่อนมันไปยังแก้มเนียนที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาของเธอแทน ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่หลับตาลงเมื่อเธอรู้สึกถึงสัมผัสของสามีที่แทบจะแผดเผาร่างกายของเธอ แม้ว่าเธอจะรังเกียจรวมทั้งหวาดกลัวผู้ชายคนนี้มากกว่าอะไรทั้งหมด แต่เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าสัมผัสของเขานั้นทำให้ร่างกายของเธอร้อนรุ่มได้ทุกครั้งที่เขาสัมผัสมัน แม้กระทั่งในตอนนี้หลังจากที่เขาเพิ่งทำสิ่งที่เลวร้ายเกินกว่าจะให้อภัยลงไปกับเธอก็ตาม

และเมื่อคิดได้เช่นนั้นน้ำตาใสก็ไหลจากดวงตาสีน้ำตาลของเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้งซึ่งหญิงสาวเองก็ไม่แน่ใจว่ามันเป็นน้ำตาหยดที่เท่าไหร่แล้วที่ไหลรินจากดวงตาของเธอนับตั้งแต่ที่เธอต้องตกมาเป็นของผู้ชายคนนี้ แต่มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่เฮอร์ไมโอนี่สามารถบอกตัวเองได้ก็คือ เธอคงจะต้องเสียน้ำตาเพราะการกระทำของเขาไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ของเธอที่เธอจะต้องใช้มันในฐานะภรรยาของเขาเท่านั้น!

แต่ถึงกระนั้นหญิงสาวก็กลับไม่รู้เลยว่าน้ำตาหยดแล้วหยดเล่าที่ไหลออกมาจากดวงตาสีน้ำตาลที่แสนจะอ่อนโยนของเธอนั้นมันสร้างความไม่สบายใจให้กับผู้ที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดนี้ไม่น้อย และถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอย่างที่เธอรู้สึกแต่นายลูเซียสก็กลับไม่รู้สึกสบายใจเลยที่ได้เห็นน้ำตาหยดแล้วหยดเล่าที่ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยของภรรยาของเขาแบบนี้ และเมื่อเป็นเช่นนั้นเองชายผบลอนด์ที่เป็นต้นเหตุในแทบจะทุกครั้งที่เฮอร์ไมโอนี่ร้องไห้ตั้งแต่เขาแต่งงานกับเธอมาก็คิดได้ว่าบางทีเขาก็ควรจะหยุดทำให้เธอร้องไห้เสียที

และเมื่อได้ข้อสรุปในสิ่งที่เขาควรจะทำพร้อม ๆ กับที่เขาถอนหายใจออกมาเบา ๆ นายลูเซียสก็ก้มลงกระซิบที่ข้างหูของภรรยาสาวของเขาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาหากแต่ฟังดูหนักแน่นว่า

“เธอเป็นของฉันเพียงคนเดียวเท่านั้น”

เขากระซิบขึ้นพร้อม ๆ กับที่ลมหายใจร้อนผ่าวของเขาปะทะเข้ากับผิวเนื้อของหญิงสาวจนเธออดขนลุกกับถ้อยคำอันหนักแน่นของชายผมบลอนด์ไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อมันตามมาด้วยสัมผัสที่อ่อนโยนของเขาเมื่อเขาจูบผมของหญิงสาวอย่างทะนุถนอม แต่ก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะได้แม้กระทั่งคิดหรือพูดอะไรออกไปนั้นนายลูเซียสก็ลุกขึ้นจากเตียงที่เธอกำลังนอนอยู่อย่างรวดเร็ว เขาหันมามองร่างเล็กที่กำลังนอนหันหลังให้เขาอยู่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะตัดสินใจเดินออกจากห้องนอนไปอีกครั้งโดยที่เขาไม่ได้หันกลับไปมองร่างของหญิงสาวอีกเลยแม้แต่น้อย

หลังจากที่ได้ยินเสียงประตูห้องนอนที่ปิดลงแล้ว เฮอร์ไมโอนี่ก็ยันกายขึ้นจากที่นอนและหันไปมองด้านหลัง แต่สิ่งที่เธอพบก็มีเพียงห้องนอนที่ว่างเปล่าปราศจากวี่แววของร่างใหญ่ที่เพิ่งนอนอยู่ข้าง ๆ เธอก่อนหน้านี้เท่านั้น แต่ถึงนายลูเซียสจะเดินออกไปจากห้องแล้วก็ตาม หญิงสาวกลับรู้สึกราวกับว่าชายผมบลอนด์นั้นไม่ได้จากเธอไปเลยแต่อย่างใด เพราะอย่างน้อย ๆ ในตอนนี้คำพูดที่เขาเพิ่งพูดกับเธอนั้นก็ยังคงดังก้องอยู่ในหูของเธอพอ ๆ กับที่ผิวเนื้อของเธอบริเวณที่เขาเพิ่งสัมผัสนั้นยังคงร้อนรุ่มอยู่ ถ้อยคำที่เขาเพิ่งเอ่ยกับเธอนั้นดังก้องไปมาอยู่ในห้วงคำนึงของหญิงสาวราวกับว่ามันเป็นความจริงที่เธอจะไม่อาจจะปฏิเสธหรือลบล้างได้ เพราะมันเป็นความจริงที่ว่า ‘ เธอเป็นของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น ’







*************************************************







Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2556 22:22:20 น. 4 comments
Counter : 3281 Pageviews.

 
ดีใจที่น้องพิกมาอัพต่อ เปนฟิคที่หายากนะคู่เนี่ย
ถ้าจะถามถึงความพึงพอใจ
เปรียบฟิคเปนการสอบ ส.พ.บ.ร.ส. น้องพิกก้ได้คะแนนดีเยี่ยมในทุกวิชานะ
คำพูด ภาษา การเรียบเรียง ชอบ
แต่เรื่องนี้พี่แอบจิ้นเซเวอรัสกะเฮอไมโอนี่อ่ะ
อยากให้น้องพิกลองแต่งคู่นี้ดูบ้าง SS/HG ไหนๆก้แต่งเดรโก พ่อเดรโก ก้ลองพ่อทูลหัวเดรโกดูบ้างสิ 55555
เป่็นกำลังใจให้ทั้งเรื่องเรียน และเรื่องฟิคด้วย
ปล. พี่รอทาสรักอยู่นะ ฟิคอันดับ 1 เลย


โดย: Chonly IP: 27.55.11.206 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:15:59:29 น.  

 
ขอบคุณที่ชมค่ะ แล้วก็ดีใจนะคะที่ชอบฟิคเรื่องนี้

สำหรับคู่ SS/HG มีโครงการจะแต่งค่ะ แต่คงต้องรอซักพัก อย่างน้อยๆ ก็คงหลังจากที่ปิดฟิคเรื่องทาสหัวใจได้แล้วอ่ะค่ะ ^^ ยังไงก้อรบกวนนักอ่านรอนิดนะคะ เพราะไรเตอร์ต้องวุ่นวายกับเรื่องเรียนและเรื่องอื่น ๆ อีกมากมายอ่ะค่ะ แต่สัญญาจะว่ามาอัพแน่นอนค่ะ


โดย: piksi วันที่: 11 มีนาคม 2556 เวลา:12:44:05 น.  

 
สนุกมากเลยในนี้มีฉากNCด้วยผมจะติดตามผลงานของพี่ทั้ง2เว็บเลยครับ


โดย: Cullen+มิคคุง IP: 37.228.107.59 วันที่: 15 เมษายน 2556 เวลา:9:14:13 น.  

 
คือดี ดีมาก เราก็เขียนเรื่องสามคนนี้นะ SS HG LM คือขอเรายังไม่รู้เลยใครเป็นพระเอก แต่ที่คุณเขียนคือแบบ จรม ๆ ดีจริงจัง สู้ ๆ รออ่านอยู่เรื่อย ๆนะ


โดย: นักอ่าน และเขียน ฟิค แฮน์รี่คนนึง IP: 223.24.185.131 วันที่: 24 มิถุนายน 2562 เวลา:9:11:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

piksi
Location :
ปทุมธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 95 คน [?]




สวัสดีค่ะ เรา piksi นะคะ เรียกสั้น ๆ ว่าพิกก็ได้ค่ะ เราเป็นแฟนแฮร์รี่ พอตเตอร์คนหนึ่งที่ชื่นชอบคู่ D/Hr มากเลยค่ะ รวมทั้งรัก Tom Felton สุดหัวใจ >-< ใครที่ชอบคู่นี้และชื่นชอบทอมเหมือนกัน เค้ามาคุยกันนะคะ
Friends' blogs
[Add piksi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.