|
ตะวันทอแสง ผู้เขียน : ปิยะพร ศักดิ์เกษม ผู้พิมพ์ : สำนักพิมพ์อรุณ(พิมพ์ครั้งที่ ๗/ก.ค. ๒๕๕๔) ๔๐๕ หน้า ราคา ๓๐๕ บาท
จากสำนักพิมพ์ :
ตะวันทอแสง... เรื่องราวความรักของมัณฑนากรสาวคนเก่ง กับชายหนุ่มที่งามพร้อมทั้งรูป และทรัพย์สมบัติ(ภัคพงษ์) เขาพยายามทำตัวเป็นเสือผู้หญิง เพื่อปิดบังตัวตนที่แท้จริงข้างใน
และเมื่อคนทั้งคู่ได้พบกัน ฝ่ายหนึ่ง...ต้องการผลักไส ส่วนอีกฝ่าย...รู้สึกว่าชีวิตขาดเธอไม่ได้ บทสรุปของคนทั้งคู่จะเป็นเช่นไรต้องติดตาม
..
เรื่องย่อ :(ย่อมาก ๆ )
รสา เป็นมัณฑนากรสาวฝีมือดี เธอได้รับมอบหมายให้ทำงานปรับปรุงคฤหาสน์หลังใหญ่ของภัคพงษ์ ชายหนุ่มผู้ร่ำรวย แต่มีชื่อเสียงที่ไม่ดีนักในเรื่องของผู้หญิง...
แม้การพบกันครั้งแรกของทั้งคู่จะไม่น่าประทับใจนัก แต่ด้วยลักษณะนิสัยที่ร่าเริง เปิดเผย และเอาการเอางานของรสาก็เป็นที่จับตาจับใจของภัคพงษ์...ชายหนุ่มผู้มีปมอดีตอันขมขื่น...
...............
หลังอ่าน...
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องแรกของคุณปิยะพรค่ะ ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารสกุลไทยในช่วงปีพ.ศ. ๒๕๓๓ - ๒๕๓๔
ไม่น่าเชื่อว่ากาลเวลาที่ล่วงเลยมาร่วม ๆ ยี่สิบปี คุณค่าของนิยายเรื่องนี้ไม่ได้ลดน้อยถอยลงหรือล้าสมัยเลย...
กลับจะเพิ่มคุณค่าด้วยเรื่องราวเนื้อหาที่คลาสสิคร่วมสมัย...นั่นคือ เรื่องราวของความรักกับการได้เปรียบเสียเปรียบของเพศหญิงที่"ยอม"ทุกอย่างเพียงเพื่อ...สิ่งที่เรียกว่ารัก...
เรียงร้อยด้วยสำนวนภาษาที่นุ่มนวล อ่อนหวานและละมุนละไมนักหนาในอารมณ์
ชอบนางเอกของคุณปิยะพร เข้มแข็ง ซื่อตรง เปิดเผยจริงใจ จนสามารถใช้พลังแห่งความจริงใจนั้นแทงทะลุกำแพงหนาทึบในใจพระเอกเข้าไปได้
พระเอกเป็นคนมีปมเพราะถูกแม่ทิ้งตั้งแต่ยังเด็ก...ความโดดเดี่ยว อ้างว้างก่อให้เกิดโพรงลึกในอกของเขา จนกลายเป็นที่บ่มเพาะความอึดอัดคับแค้น สุมอยู่ในนั้น...
กระทั่งมีแสงอุ่นๆ แห่งดวงตะวันอย่างรสามาทอแสงให้...ความแค้นนั้นจึงค่อย ๆ หลอมละลาย...
..........
เล่มนี้เคยอ่านมารอบหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนนู้น... มาอ่านอีกรอบในฉบับพิมพ์ใหม่ ปกสีสีนสดใสกระจ่างตา... ก็ยังคงได้ความประทับใจคงเดิมทุกประการ
|
ชักจะรู้ตัวว่า ทิ้งบล็อกไว้นานเกินไปแล้ว...
วันนี้เลยขอหยิบของเก่ามาเล่าใหม่สั้น ๆ แล้วกันค่ะ
เป็นหมายเหตุของตัวเองว่า...เล่มนี้อ่านแล้ว...
ฝากกำลังใจ ความห่วงใยมายังเพื่อนพ้องน้องพี่ที่กำลังทุกข์ท้อต่อภัยธรรมชาติทุก ๆ คนนะคะ...
ขอให้นึกไว้เสมอนะคะว่า...
นี่เป็นแค่ทุกข์จรเท่านั้น ผ่านมาแล้วเดี๋ยวมันก็ผ่านไป
ไม่มีสิ่งใดจีรังยั่งยืน...ไม่ว่าสุขหรือทุกข์ค่ะ