'หัวใจ๋ข้า หัวใจ๋เจ้า ห้อยอยู่เก๊าเดียวกั๋น' *
*คลิกเพื่ออ่านคำแปลเจ้า :)
~จารึกไว้ในดวงใจ... จำหลักไว้ในแผ่นดิน~

"จำหลักไว้ในแผ่นดิน"
ผู้แต่ง: กฤษณา อโศกสิน


ชีวิตคือสวรรค์ แต่ชีวิตก็คือนรก
ณ ที่นี้มีทั้งสวรรค์ในนรก และนรกในสวรรค์
ใครต่อใครถูกส่งมาทำงานในนรกโดยแท้
หากก็ด้วยความเต็มใจจนเปี่ยมล้น
คนเหล่านี้คือ ทูตจากสวรรค์
ถ้านรกไม่มีทูตที่สวรรค์ส่งมา
พวกเขาจะเป็นอย่างไรบ้างหนอ
จะตายอย่างไร และอยู่อย่างไร

หากไม่มีเมตตาธรรม โลกนี้จะมืดมิดสักเพียงไหน...

ข้างบนคือโปรยปกหลังของหนังสือเล่มนี้ค่ะ...

“จำหลักไว้ในแผ่นดิน” นวนิยายไตรภาคอิงประวัติศาสตร์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปไม่นานนัก...

เรื่องเริ่มต้นขึ้นในภาคที่ ๑ ปีพุทธศักราช ๒๕๑๘ กรุงพนมเปญแตก...

เจ้าหญิงโสคนเทีย...เจ้าหญิงขะแมร์และพระญาติสนิทเดินเท้าเข้ามายังชายแดนไทย...คาดหวังความช่วยเหลือจากทางการไทยเพื่อขอผ่านทางสู่ประเทศที่สาม...ฝรั่งเศส
เธอได้รับน้ำใจไมตรีจากผู้ที่ให้ที่พักพิงชาวไทย
หากก็เป็นไปท่ามกลางความคลางแคลงใจในฐานันดรของเธอ
และความหวาดระแวง ระมัดระวังต่อความมั่นคงของแผ่นดินไทยไปพร้อมกัน

เรื่องราวบอกเล่าถึงความเจ็บปวดของผู้ที่ต้องตกอยู่ในสภาพ “บ้านแตกสาแหรกขาด” ได้อย่างลึกซึ้ง กินใจ...

เจ้าหญิงบอกกับเพื่อนคนไทยของเธอว่า...

“...เพื่อนรัก จงรู้ไว้เถิดว่าเธอนั้นโชคดีนักหนาแล้วที่ยังมีทั้งพ่อแม่ สามีที่เธอรักและที่รักเธอ กับทั้งโชคอันประเสริฐสุดที่มนุษย์ในโลกปรารถนา นั่นก็คือความเป็นไทของชาติ ซึ่งเธอก็ได้ไว้ในอ้อมแขนตลอดมา...ตรงกันข้ามกับหัวอกของเพื่อนเธอที่นอนกอดความแตกสลายของหัวใจและของกัมปูเจียมายาวนานด้วยความทุกข์ระทมขมขื่น...

ขอให้ฉันได้ระบายความอัดอั้นคับแค้นแก่เธอบ้าง แม้ว่าเธออาจจะตระหนกตกตื่นผวาหวาดในอวสานของฉันขนาดไหน แต่ก็เชื่อมั่นอย่างมากว่า...เธอคงนึกเลยไปไม่ถึง...โดยเฉพาะไม่ถึงที่สุดของความสิ้นชาติ สิ้นกษัตริย์ และสิ้นอิสรภาพ...
เพราะเธอยังมีชาติ มีกษัตริย์ และมีอิสรภาพ...”

ในภาคที่ ๒ บอกเล่าถึงสภาวะสงครามกลางเมืองในกัมพูชาที่ไทย ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านจำตัองยื่นมือเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้...
นับตั้งแต่กรุงพนมเปญได้แตกยับลงในปี ๒๕๑๘...จนถึงปี ๒๕๒๒ ผู้อพยพชาวกัมพูชาได้ทยอยหลั่งไหลกันเข้ามาทางเขตชายแดนไทย...จากพันเป็นหมื่น...จากหมื่นเป็นแสน และเป็นหลาย ๆ แสนในเวลาต่อมา

สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) จึงได้จัดตั้งศูนย์ฯอพยพขึ้นเป็นแห่งแรก ที่อำเภอสระแก้ว(ในเวลานั้น)จังหวัดปราจีนบุรี

และ...

“...ด้วยพระมหากรุณาธิคุณแห่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถองค์สภานายิกาสภากาชาดไทย จึงทรงมีพระราชเสาวนีย์โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สภากาชาดไทยจัดสร้างศูนย์ผู้ลี้ภัยชาวกัมพูชาขึ้นเป็นแห่งที่ ๒ ณ บ้านเขาล้าน ตำบลไม้รูด อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เขตชายแดนไทย-เขมร โดยเสด็จไปทรงควบคุมการก่อสร้างด้วยพระองค์เอง”

ในภาคนี้ผู้เขียนยังได้สอดแทรกเรื่องราวของความรักต่างเชื้อชาติ...อันอาจจะเรียกได้ว่าเป็น...รักระหว่างรบ...ความรักระหว่างชาย-หญิงอันเกิดจากการได้พึ่งพิงและความผูกพัน...ซึ่งกลายเป็นรักสามเส้าอันขมขื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...เมื่อเพื่อนสนิทต้องมากลายเป็นศตรูหัวใจของกันและกัน...
สิ่งใดจะมีอำนาจเหนือกว่ากัน..ระหว่างความรัก...มิตรภาพ...หรือแผ่นดิน...

และคำตอบก็ปรากฏในภาคที่ ๓...ภาคจบ

ภาคที่ว่าด้วยเรื่องของการเมือง...
ความพยายามของหลายฝ่ายในอันที่จะทำให้เขมรหลายฝ่ายประนีประนอม และส่งผู้ลี้ภัยให้ได้ “กลับบ้าน”...ด้วยความคาดหวังที่ว่า...
“กัมพูชาควรจะปรองดองกันได้แล้ว...เพื่อว่าประเทศของพวกเขา...ที่หมายถึงประชาชนชาวกัมพูชาทั้งมวล จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ สลัดผืนผ้าอันกว้างใหญ่ของสันติสุขออกแผ่คลุมดินแดนลุ่มแม่น้ำโขงอันอุดมสมบูรณ์แห่งนี้...”

ซึ่งผลจากความพยายามดังกล่าวทำให้เหตุการณ์ต่างๆ ในกัมพูชาค่อยๆ คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น จนกระทั่งทางการไทยสามารถจัดส่งผู้ลี้ภัยรุ่นสุดท้ายกลับสู่มาตุภูมิของพวกเขาในตันเดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๓๖

ส่วนคำตอบของความรักระหว่างราชสกุลสาวแห่งกัมพูชากับทหารไทย...

เจ้าหญิงโสคนเทียนั้น...ด้วยทรงเป็น ‘ขัตติยนารี’ ที่... “ทรงเกิดมาเพื่อต่อสู้...เพื่อรับทุกข์ เพื่อผิดหวัง...”

และ “การมีชีวิตบางคราวก็ต้องกัดฟัน อดทน อดกลั้นแล้วพยายามบอกตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า เรายังจำเป็นต้องอยู่ บางที...ก็ไม่ใช่เพื่อตัวเอง เพื่อใครคนใดคนหนึ่ง แต่อยู่เพื่อใครหลายคน อยู่เพื่อมาตุภมิ...”

และ... “ ...ท่านต้องภูมิใจในตัวเองที่ชีวิตของท่านทั้งชีวิต อุทิศเพื่อผลประโยชน์ของชาติ...ท่านกู้ชาติตลอดมา ...เพื่อหวังจะเห็นกัมพูชาหลุดจากหายนะ...ได้ก้าวเดินต่อไป...”

(ดังนั้น)... “ความรักระหว่างเพศเล็กน้อยเต็มทีสำหรับท่าน...”


ใช้เวลาอ่านหนังสือเล่มนี้ประมาณหนึ่งสัปดาห์...จบลงด้วยความปีติปนโล่งใจ...
ดื่มด่ำกับความรักอันงดงามระหว่างชายหญิงผู้เปี่ยมด้วยสติ และปัญญา...
และกับความรักอันยิ่งใหญ่... ความรักที่อยู่เหนือสิ่งอื่นใดคือความรักที่มีต่อแผ่นดินเกิด...

กราบขอบพระคุณคุณกฤษณา อโศกสินที่สร้างสรรค์นวนิยายดีให้เราได้ดื่มด่ำตลอดมา...นับเนื่องมายาวนานหลายทศวรรษ...

“จำหลักไว้ในแผ่นดิน” ได้รับรางวัลดีเด่นประเภทนวนิยาย จากการประกวดหนังสือดีเด่น พ.ศ. ๒๕๔๒

หมายเหตุจขบ. : หนังสือเล่มนี้วางอยู่บนชั้นมาหลายปีแล้ว...แต่ด้วยขนาด...และเนื้อหาบางส่วนที่แอบพลิก ๆ ดูแล้วรู้สึกออกจะเครียด ๆ ทำให้หนังสือเล่มนี้จึงยังคงวางเฉย ๆ อยู่บนชั้นอีกเนิ่นนาน
จนเมื่อเร็ว ๆ นี้ เกิดเหตุการณ์รุนแรงทางการเมืองของประเทศเพื่อนบ้านขึ้น...เป็นแรงบันดาลใจให้อยากรู้จักประเทศ... “บ้านใกล้เรือนเคียง” ของเราให้รอบด้านมากขึ้น...เกี่ยวกันไหมเนี่ย...จริง ๆ แล้วไม่เกี่ยวกันหรอกค่ะ...แต่ก็จะโยงมาให้ได้ง่ะ...

...จึงได้กระทำการอัญเชิญลงมาจากหิ้ง...











Create Date : 09 ตุลาคม 2550
Last Update : 23 ธันวาคม 2550 16:52:45 น. 3 comments
Counter : 4979 Pageviews.

 
ของ กฤษณา อโศกสิน เคยอ่านเรื่อง รากแก้วน่ะค่ะสนุกดีเหมือนกันนะคะ แต่ว่าเรื่องนี้ยังไม่เคยอ่านเลย


โดย: ดอกคูณริมฝั่งโขง วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:15:05:42 น.  

 
คุณแม่ไก่ คะช่วงนี้มีงานหนังสือ ไม่ทราบว่ามีโอกาสมามั้ยคะ

โมกอยู่ใกล้แค่นี้ยังไม่แน่ใจว่าจะได้ไปหรือไม่

ชอบดูหนังสือในสถานที่สงบมากกว่าคนพลุกพล่านอ่ะค่ะ

ลำปางหนาวมากมั้ยคะ ที่เมืองแปดริ้ว ลมหนาวพัดแรงเชียวค่ะ


โดย: โมกสีเงิน วันที่: 19 ตุลาคม 2550 เวลา:11:42:50 น.  

 
คุณดอกคูณฯคะ รากแก้วเป็นนิยายรุ่นเก่ามาก ๆ เชียวนะคะ ฟ้องอายุคนอ่าน อิอิ คุณกฤษณามีนิยายสะท้อนสังคม และอิงประวัติศาสตร์มากมายนับไม่ถ้วน...ลองอ่านอีกนะคะ

คุณโมกฯขา...แม่ไก่เลิกเดินงานหนังสือมา...ห้าปีแล้วค่ะ...เพราะ...'ชอบดูหนังสือในสถานที่สงบมากกว่าคนพลุกพล่านอ่ะค่ะ'...ตอนนี้แหล่งช็อปปิ้งหนังสือของแม่ไก่ก็เป็นเว็บออนไลน์ซะเยอะอ่ะค่ะ...ถ้าได้ไปเดินเล่นในเมืองถึงจะเข้าร้านหนังสือที...

ลำปางเริ่มเย็นแล้วค่า...ตอนเช้า ๆ ปั่นจักรยานต้องใส่เสื้อกันหนาวแล้วเพราะหมอกลงด้วยล่ะ

ดีจัง...แม่ไก่มีกัลยาณมิตรที่มีชื่อเป็นดอกไม้ทั้งนั้นเลย...



โดย: แม่ไก่ วันที่: 20 ตุลาคม 2550 เวลา:16:45:40 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

แม่ไก่
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 184 คน [?]




**หลังไมค์เจ้า**





Cute Clock Click!



เออสิ,มาอยู่ใยในโลกกว้าง
เฉกชลคว้างมาเมื่อไรไม่นึกฝัน
ยามจากไปก็เหมือนลมรำพัน
โบกกระชั้นสู่หนไหนไม่รู้เลย


รุไบยาต ~ โอมาร์ คัยยัม
สุริยฉัตร ชัยมงคล : แปล




Latest Blogs

~ท่านหญิงในกระจก/แสงเพลิง ~

~เพชรรากษส/อลินา ~

~มนตร์ทศทิศ/ราตรี อธิษฐาน ~

~เมื่อหอยทากมีรัก 1-2/"ติงโม่"เขียน/พันมัย แปล ~

~ให้รักระบายใจ/"ณกันต์"เขียน ~

~ผมกลายเป็นแมว/Abandoned/Paul Gallico เขียน(ภูธนิน แปล) ~

~พ่อค้าซ่อนกลรัก & หมอปีศาจแสนรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~อาจารย์ยอดรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~จอมโจรพยศรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~


สารบัญหนังสือ: รวมลิงก์หนังสือที่รีวิวในบล็อก # ๑ + ๒



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่ไก่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.