|
มนต์จันทรา มายาลวง ผู้เขียน : เรซิน ผู้พิมพ์ : สนพ.ไฟน์บุ้ค(ครั้งที่ 2/ก,ค.2551) 672 หน้า ราคา 325 บาท
คำโปรยปกหน้า-หลัง :
ฉันยินดีเสียใจภายหลังแต่ยังมีช่วงเวลาดีๆ เก็บไว้ในความทรงจำ ดีกว่าต้องเสียใจวันนี้เดี๋ยวนี้ โดยไม่มีอะไรเหลือในความทรงจำเลย
คาเธย์ นครต้องคำสาปในตำนานนิทานของชาวถิ่นทะเลทรายที่ใครๆ พยายามค้นหา หากทว่ามันมีอยู่จริงละหรือ และเมื่อการค้นหานำไปสู่จุดเริ่มต้นแห่งโชคชะตา เพื่อปลุก ราชินี ผู้หลับไหลให้คืนคง ณ วันสุริยันแผดเผาและจันทราดับแสง แต่เหตุใดเล่าจึงมีคำกล่าว....
เมื่อใดที่ ผู้เป็นราชินีฟื้นคืนจากการหลับใหลอันแสนนาน เมื่อนั้นจันทรามหามายาจะเสื่อมสูญ
เธอ...สตรีผู้เพียบพร้อม ตัวแทนจากโลกอารยธรรมใหม่ ผู้ร่วมเดินทางไปกับคณะสำรวจเพื่อตามหานครที่สาบสูญ
เขา...บุรุษปริศนา ผู้ลึกลับ ตัวแทนจากโลกอารยธรรมเก่า ผู้ทำทุกอย่างเพื่อขัดขวางการฟื้นคืนของ ราชินีแห่งทะเลทราย
เมื่อโลกอารยธรรมทั้งสองเคลื่อนซ้อนทับ นำพาทั้งเขาและเธอให้มาพบกันท่ามกลางความเร้นลับและมนต์เสน่ห์แห่งทะเลทราย
หากทว่า...ถ้าต้องเลือกระหว่างความรักกับหน้าที่ คุณ...จะเลือกสิ่งใด...
เรื่องย่อ ๆ (จากหน้าคำนำ)
"กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีนครแห่งหนึ่งฝังตัวอยู่ในหุบเขาอันสลับซับซ้อน ท่ามกลางทะเลทรายที่กลบฝัง วันดีคืนดีก็จะปรากฏให้ผู้คนได้พบเห็น ผู้คนต่างเล่าขานถึงความน่าสะพรึงกลัว... นครแห่งความตาย...นครมรณะ..."
นั่นคือจุดเริ่มต้นของมนต์จันทรามายาลวง..... เมื่อจัสมินดื้อดึงที่จะขอร่วมขบวนไปกับคณะสำรวจเพื่อค้นหานครคาเธ่ย์...นครต้องคำสาปที่มีอยู่ในตำนานของชาวทะเลทราย โดยมีคีล ไกด์หนุ่มผู้ลึกลับเป็นผู้นำทาง หญิงสาวไม่รู้เลยว่า ยิ่งเข้าใกล้นครต้องคำสาปมากเท่าใด จุดพลิกผันแห่งโชคชะตาก็ใกล้มาถึงทุกที เมื่อราชินีอาบรีซา ที่ถูกสะกดอยู่ภายใต้คำสาปกำลังรอเวลาฟื้นคืน
ความรู้สึกหลังอ่าน... นิยายยาวโพด ๆ แต่ก็อ่านได้สนุก เพลิดเพลินเป็นอันดี เพียงแต่บางครั้งต้องพักเบรคไปทำอะไรอย่างอื่นบ้าง จึงไม่อาจเรียกได้ว่า...สนุกจนวางไม่ลงอะไรทำนองนั้น
แต่ก็ชอบค่ะ เป็นนิยายแนวทะเลทรายที่ผสมผสานแฟนตาซีนิด ๆ ลึกลับหน่อย ๆ ได้อย่างลงตัวมาก อ้อ...มีแซมการเมืองการปกครองด้วยอีกต่างหาก...แต่ไม่เครียดนะคะ เพราะเขาไม่ได้เน้นตรงจุดนั้น เป็นเพียงส่วนเสริมของโครงเรื่องหลักมากกว่า... เรียกได้ว่าหนังสือเล่มหนาแต่ก็มีน้ำมีเนื้อ...ไมโบ๋เบ๋อย่างที่นึกเกรงและเกร็งล่วงหน้า
เขาผูกเรื่องได้ซับซ้อนพอประมาณ แต่อ่านได้ไม่งง แรก ๆ ก็อาจจะสับสนเรื่องชื่อตัวละครอยู่บ้าง แต่ดีที่เป็นตัวละครที่ไม่โดดเด่นมาก ส่วนชื่อนางเอกพระเอก และตัวรอง ๆ นั้นเขาตั้งไว้ง่าย ๆ อ่านและจำไม่ยากนัก
ในส่วนที่เป็นแฟนตาซีกับความลึกลับนั้นก็อ่านสนุกและสมเหตุสมผลทีเดียว... แม้อ่านแล้วจะได้บรรยากาศเหมือนอ่านนิยายพวกคำสาปฟาโรห์ หรือมนต์ดำมนต์ขาวอะไรเทือกนั้นก็ตาม... แต่เขาก็มีลูกเล่น มีมุกมีเกร็ดที่สามารถกระตุ้นความสนใจใคร่รู้ของเราได้โดยตลอดทั้งเรื่อง...
อยากจะเล่าอยู่นะ...แต่เกรงว่าจะสปอยล์คนที่ยังไม่ได้อ่านอ่ะ... (แล้วมันก็ยาวมากอีกต่างหาก...เล่าไม่ไหว แหะ ๆ )
เอาเป็นว่าอ่านแล้วชอบก็แล้วกัน...
จุดที่ชอบมาก ๆ คือบทสนทนา โดยเฉพาะระหว่างคู่พระ-นาง กับคู่ของพระรอง(พี่ชายนางเอก) กับนางรอง(น้องสาวพระเอก)
ทั้งสองคู่เขาจะมีการถกเถียงต่อปากต่อคำกันแทบจะตลอดเวลา... แต่ก็ไม่ใช่ลักษณะเถียงเพื่อเอาชนะคะคานอะไร เป็นการโต้แย้งกันด้วยเหตุด้วยผล... มันแสดงให้เห็นว่าตัวละครของเขา ถึงแม้จะถือตัวว่าเป็นคุณหนูที่อาจจะดื้อและเอาแต่ใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่งี่เง่าหรือเจ้าอารมณ์ เอาแต่ใจตนแต่อย่างใด...
หรืออย่างพระเอกที่มีที่มาคลุมเคลือลึกลับ แต่ก็ทำให้นางเอกรู้สึกวางใจ ไว้ใจได้ง่าย ๆ ... และแม้จะมีท่าทีเจ้าเล่ห์เฉโก ชอบแกล้งนางเอก แต่ก็เป็นไปด้วยอารมณ์กุ๊กกิ๊กขี้เล่นมากกว่าที่จะประชดประชันหรือหยามหยัน
ชอบค่ะชอบตัวละครแบบนี้ดูมีรสชาติและสีสันน่าสนใจดี...
จริง ๆ แล้วอ่านจบไปหลายวันแล้วล่ะ แต่บังเอิญช่วงนี้ภารกิจชีวิตค่อนข้างยุ่ง ๆ อยู่สักหน่อย เลยเพิ่งได้ฤกษ์หยิบมาบอกเล่ากล่าวขานชวนอ่านกันในวันนี้ค่ะ...
|
คงบอกได้อย่างเดียวว่า งานของเธอมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ถูกจริตกับเราอยู่มาก
ปกติเราไ่ม่อ่านงานแฟนตาซีที่คนไทยแต่ง แต่อ่านเล่มนี้เพราะเป็นเรซิน อ่านแล้วก็ชอบเหมือนกันค่ะ