All Blog
The Missing Piece เงาพรางใจ...โดย คุ่นคุ่น


The Missing Piece เงาพรางใจ...โดย คุ่นคุ่น

เฟื่อง แปล


          บอกเล่าเรื่องราวของ เสิ่นโม่ว เขาตกลงทำสัญญาเป็นคู่รักกำมะลอกับ หลี่หมิงซวน เพื่อให้แฟนเก่าของเขากลายเป็นคนรักกับน้องสาวของฝ่ายนั้น และที่สำคัญกว่าเขาต้องการตอบแทนบุญคุณที่หลี่หมิงซวนฉุดดึงเขาให้กลับเป็นผู้เป็นคนได้อีกครั้ง แค่เพียงเท่านั้นเสิ่นโม่วก็ไม่ต้องการรับรู้สิ่งใดแล้ว ไม่รับรู้แม้กระทั่ง 'คนคนนั้น' เปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่ 

          คล้ายมีม่านหมอกพรางใจดวงนั้นมาเนิ่นนานเท่าใด ...เขาไม่เคยรู้เลย



(สนพ.Fu Novels    ตีพิมพ์  ธ.ค.60  จำนวนหน้า 324    ราคาปก 320   วาย18+)



ความรู้สึกหลังจากที่ได้อ่าน...


          ถ้าเปลี่ยนจากนิยายวายเป็นนิยายชาย-หญิงธรรมดา ก็จัดว่าพล็อตโหลอยู่เหมือนกันนะ ที่พระเอกจะจ้างนางเอกให้มาแต่งงานหรือมาเป็นแฟนกัน ก็เพื่อให้นางเอกหลีกทางให้คนของเขาได้สุขสมหวังกับแฟนของเธอ


          แต่พอนำพล็อตแบบนี้มาใส่ในนิยายวาย มันก็พบความแปลกใหม่ในความอีรุงตุงนังของความสัมพันธ์ดีเหมือนกัน และที่มากไปความนั้นคือการวางผังวางพล็อต ดูคนเขียนเขาคิดมาดีอะ ไม่นึกว่าจะมีอะไรซ่อนอยู่ในกระทำ ไม่คิดว่ามันจะมีความหลัง ไม่คิดว่าตั้งแต่ต้นจะมีเงาของบางสิ่งซ่อนไว้มาโดยตลอด เมื่อได้พบคำตอบชิ้นส่วนมากมายถูกนำมาประกอบ กลับเป็นคนอ่านที่ปวดหนึบในใจว่า 'คนคนนั้น' จะซ่อนใจไว้ขนาดนั้นได้อย่างไร ช่างน่าสงสารเสียจริง ฮือออ TwT ชวนให้เราย้อนนึกถึงการกระทำของตัวละครกลับไปกลับมาตลอดเรื่องเลยทีเดียว


          โชคชะตามักเล่นตลกให้คนสองคนไม่เคยได้รักกันถูกเวลาเลยสักที คาดกันไปมาตลอด...ทั้งๆที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแท้ๆเชียว


          และเราชอบเขาคนนั้นมากมาย ผู้ชายสายซึน >///< นอกจากเจ้าตัวจะโดนเงาทาบทับเป็นอุปสรรคจนถูกมองไม่เห็นแล้ว ยังจะไม่ชอบแสดงออกอีก ไม่เผยอารมณ์ ทำเฉยทำฟอร์ม ไม่พูดตรงๆ พอจะเค้นเอาคำตอบกันทีก็ทำเฉไฉ ใช้จังหวะทีเผลอถึงจะเอ่อความในใจ ถ้าไม่ยืนใกล้ๆก็คงแทบไม่ได้ยิน.... แอร๊ยยย Smiley


          เสียดายที่รู้สึกว่าเนื้อหาหลักสั้นไปหน่อย ถ้าเพิ่มอุปสรรคกันอีกสักนิดอีกสักหน่อยก็น่าจะดี น่าจะดราม่าได้อีก ส่วนที่เพิ่มเติมในช่วงบทพิเศษ คิดว่าไม่จำเป็นเท่าไหร่เพราะเป็นเพียงแค่เล่าความหลังอีกครั้งในมุมพระเอก เหมือนกรอเทปมากเกินไป หลังจากนั้นก็อืดยืดไปอีก จริงๆจะเสริมนิดๆหน่อยๆก็น่าจะพอ เพราะเท่าที่ดูในเนื้อหาหลักก็ค่อนข้างจะสมบูรณ์แล้ว


          สรุปนะฮะ
          เงาพรางใจ...เป็นนิยายวายรักดราม่าโรแมนติก ลึกซึ้งอ่านแล้วกรุ่นๆอุ่นอวลในใจ นุ่มนวลละมุนละไม เนื้อหาภายในมีความลับบางอย่างชวนติดตาม แถมด้วยฉากร้อนๆเรียกเลือดสูบฉีดได้ดีด้วยอีกนะ อุอิอุอิ >,,< (สำคัญตรงเน้ 555+)




Create Date : 22 เมษายน 2560
Last Update : 24 มิถุนายน 2560 20:36:44 น.
Counter : 1484 Pageviews.

4 comment
น้ำค้างเปื้อนสี...โดย ภาพิมล


น้ำค้างเปื้อนสี...โดย ภาพิมล


          บอกเล่าเรื่องราวของ น้ำหนึ่ง เด็กหญิงกลายเป็นกำพร้าเมื่อพ่อแม่จากไปกะทันหัน จึงถูกป้าแท้ๆนำไปอยู่เป็นครอบครัวเดียวกัน ที่แห่งนั้นเธอได้พบ ดรัล ลูกติดสามีหนุ่มของป้า เธอคิดว่าเขาจะเป็นเพื่อนกัน ทว่าเขากลับทิ้งรอยแผลเป็นบางอย่างไว้ในนั้น เธอจึงไม่อาจเป็นเพชรน้ำงามอย่างที่พ่อแม่เคยวาดหวังไว้...อีกต่อไปแล้ว


(หนังสือทำมือ    ตีพิมพ์ ก.พ.60    จำนวนหน้า 624    ราคาปก 399)



ความรู้สึกหลังจากที่ได้อ่าน...


          น้ำค้างเปื้อนสี เป็นเรื่องราว 'ชีวิต' ของเด็กสองคนที่จำต้องมาเติบโตด้วยกัน เพราะต่างฝ่ายต่างเป็นลูกหลานติดกันมา เมื่อผู้ปกครองของพวกเขาตกลงจะสร้างครอบครัวร่วมกัน สิ่งที่เราจะเห็นเด่นชัดมากๆคือพัฒนาการความเป็นไปของเด็กๆ จากการไม่รู้ความในวัยเยาว์ จากการขาดสติรู้คิดของวัยรุ่น จนไปถึงการสำนึกเรียนรู้ถูกผิดและมีใจยั้งคิดเมื่อเป็นผู้ใหญ่ คนเขียนถ่ายทอดช่วงเวลาต่างๆเหล่านั้นได้...ดีมากๆและมีมิติมากๆ ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของเหตุและผล เหมือนคนเขียนแค่วางเหตุไว้แค่ตอนต้น แล้วค่อยๆปล่อยให้ผลเลื่อนไหลไป ให้วงล้อของชะตากรรมหมุนไปด้วยตัวของมันเอง เหมือนระเบิดที่ถูกจุดด้วยระเบิด... ลูกแล้วลูกเหล่า


          แล้วคุณจะเชื่อไหมว่าจุดเริ่มต้นของระเบิดทั้งหมดในนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องของ 'เด็กตีกัน'
          เราจะเห็นเด็กสองทะเลาะกัน อิจฉากัน หมั่นไส้กัน ไม่อยากเข้าใกล้กัน ต่างต้องการเอาชนะกันและกัน เป็นอะไรที่เด็กมากๆ ตอนอ่านยังรู้สึกเลยว่าเล็กน้อยมากๆ ทำไมต้องจริงจังขนาดนั้นนะ ทำไมต้องทำ 'เรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่' ด้วยนะ ทำไมคนเขียนต้องใส่ใจขนาดนั้น?


          นั้นก็เพราะเราถูกทำให้ลืมไปจริงๆนั่นแหละ เราถูกทำให้มองว่าเรื่องใหญ่นั้นเป็นเรื่องเล็ก เราถูกนิยายประโลมโลกหรือละครทีวี หรือถูกกระแสสังคมหล่อหลอมความคิดว่าการที่พระเอกจะจู่โจมกอดจูบนางเอกนิดๆหน่อยๆมันดี มันจิ้น มันฟินเว่อร์
          แต่แล้วจู่ๆนิยายเรื่องนี้กลับกระชากเราขึ้นมา ต้องเรียกได้ว่าทำให้คนอ่านเกิดอาการผวาตื่นขึ้นมาทีเดียว ให้พบว่าเราไม่มีทางรู้ได้หรอกว่าผู้ชายคนไหนคือพระเอกในชีวิตจริง หากเป็นเรื่องจริงคุณจะขำไม่ออก ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณถูกล่อหลอก ถูกข่มแหง ถูกรังแกหรือแม้แค่ถูกขมขู่...นั่นก็หมายถึงจุดเริ่มต้นของคุกคาม เป็นจุดเริ่มต้นการเกิดบาดแผลของคนที่เคยประสบเท่านั้นจึงจะเข้าใจ


          สารที่ส่งมากำลังบอกให้เราอย่าลืม อย่าละเลยสิทธิ์ที่จะปกป้องตัวเอง เป็นทางออกที่ถูกควรมากกว่าการหนีปัญหาเพราะความอาย หรือต้องการตัดปัญหาให้จบๆไปเพราะเห็นแค่เป็น...เรื่องเล็กน้อย


          นอกจากการสะท้อนความเป็นไปของเด็กๆ สิ่งที่ทำให้เด็กต้องเป็นไป สาเหตุที่แท้จริงแล้วมาจากผู้ใหญ่ คนคนแรกที่กำลังแต่งแต้มสีลงไป จะเป็นใครไม่ได้นอกจากคนในครอบครัว เราจะได้เห็นถึงกระบวนการ 'สร้าง' คำว่าครอบครัว หากจุดเริ่มต้นของการสร้างมาจากคนที่ขาด คำว่าครอบครัวถูกนำมาเป็นสิ่งเติมเต็มของคนเป็นผู้นำ ความรักถูกส่งออกมาในรูปแบบของการคาดหวัง กำเนิดกรอบ กำเนิดความกดดัน ตัวเด็กถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือสร้างหน้าตา มันน่าเศร้าสะเทือนที่นิยายได้เปรียบความรักในรูปแบบนั้นว่าเป็นดั่งการเลี้ยงสุนัขสวยงามไว้เพื่อส่งประกวด ไว้วางหน้าบ้านเพื่ออวดใครๆ


          ถามใจคุณดู...ว่าคุณกำลังเลี้ยงลูกให้ภูมิใจในตัวเอง หรือเพียงเพื่อความภูมิใจของคุณเพียงคนเดียว

         แรงขับเพราะความคาดหวังของผู้ใหญ่ ทำให้เด็กต้องเติบโตไปเป็นคนที่ต้องวิ่งหาสิ่งเติมเต็มความหวังนั้นไม่สิ้นสุด
          เราจึงเป็นดัง...น้ำค้างเปื้อนสี


          และด้วยตัวเนื้อหานิยายที่ค่อยข้างเข้มข้นสะท้อนชีวิตจริงจัง จนคนอ่านอาจลืมไปว่ามีเรื่องรักซ่อนอยู่ คนเขียนกล่าวในคำนำว่านิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักดราม่า ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้น โดยไม่รู้ตัวเลยว่าในขณะที่เรามองดูเด็กสองคนเติบโตกันมาแบบนั้น ชีวิตต่างแตกแยกกันไปแบบนั้น ชีวิตที่ดูไม่น่าบรรจบกัน ก็ใครจะคิดว่าคนเขียนจะหักหาญโลกของพวกเขาแบบนั้น มันกลับมีสายใยบางเบาส่งผ่านถึงกัน ส่งผ่านมาให้เราร่วมทุกข์ไปกับพวกเขาด้วย
          หากนิยายรักมากมายสื่อให้เราเห็นว่าคนเรารักกันเพราะการเกื้อหนุน เทิดทูน ส่งภาษาหวานล้ำต่อกันอย่างไร นิยายเรื่องนี้ก็กำลังให้เห็นว่าคนสองคนสามารถรักกันด้วยความทุกข์ เพราะอาจไม่มีใครเข้าใจทุกข์ของเราได้เท่ากับคนที่ร่วมสร้างความทุกข์ด้วยกันก็ได้


          แล้วเราจะพบว่าความรักที่เกิดจากความทุกข์ทนขื่นขมนั้น สามารถสร้างความโรแมนติกได้มากมายอย่างไร


          น้ำค้างเปื้อนสี อาจเป็นนิยาย 'น้ำดี' ที่ดูจะสะท้อนสังคมมากจนเกินไป จนหลายสนพ.ไม่กล้าแตะต้อง จนเนื้อหาไม่เหมาะที่จะสร้างละครเรียกเรตติ้งก็เป็นได้ ต้องเรียกว่าเป็นนิยายที่ไม่ตอบโจทย์ 'กระแสสังคม' แต่เนื้อหาทั้งหมดในนั้นได้สะท้อนสังคมทุกๆด้านเอาไว้อย่างที่สังคมควรหันกลับมามอง

          แล้วเลิกมองว่าปัญหาใหญ่นั้น...เล็กน้อยเสียที



Create Date : 18 เมษายน 2560
Last Update : 18 เมษายน 2560 17:32:35 น.
Counter : 2819 Pageviews.

8 comment
เพรงเสน่หา ...โดย ตองหนึ่ง




เพรงเสน่หา...โดย ตองหนึ่ง


          สี่ปีผ่านไปหลังจากวันมงคลวันนั้นที่ สิปาง ไม่อยากจดจำ เธอย้อนกลับมาหาความหลัง เพื่อปลดพันธนาการที่ยังร้อยรัดหัวใจเธอ เธอกลับมาขอใบหย่าจากคนที่ยังมีสถานะเป็นสามี ให้ชีวิตนี้ได้ก้าวต่อไปเสียที แต่ใครจะรู้ว่าคนที่เคยตอกหน้าเธอว่า...ไม่ได้รัก จะมาเปลี่ยนไป ติณห์ กลับกลายเป็นใครที่เธอไม่รู้จักโดยสิ้นเชิง...


(สนพ.คำต่อคำ    ตีพิมพ์ ต.ค.58    จำนวนหน้า 291    ราคาปก 220)



ความรู้สึกหลังจากที่ได้อ่าน...


          อ่านโปรยด้านหลังบวกกับฉากเปิดเรื่องคล้ายว่าจะดราม่านะ คล้ายว่าจะหนัก พระเอกเราทำกับนางเอกไว้แรงมากจริงๆ แต่เนื้อหาหลังจากนั้นจริงๆไม่ได้หนักอะไร โทนส่วนใหญ่จะเป็นรักโรแมนติก หวานๆง้องอนกันไป


          อ่านไปก็คิดว่าถ้าตั้งชื่อเรื่องว่า 'แผนเสน่หา' น่าจะเข้าเค้ามากกว่า เพราะพระเอกเราเจ้าเล่ห์เจ้าแผนการมากๆ แทบจะลบความเลวที่กระทำในตอนต้น ให้คนอ่านเอาใจช่วยเขาแทน ให้ง้อนางเอกได้สำเร็จชอบพระเอกในมุมนี้ ชอบความฉลาดแบบนี้


          ซึ่งเอาจริงๆเขากลับไม่รู้ตัวเลยว่าไม่จำเป็นต้องพยายามวางแผนขนาดนั้นก็ได้ แค่เขาเข้าระยะประชิด นางเอกก็แทบจะแพ้ราบคราบแล้ว 555 เพราะนางเอกเรื่องนี้ค่อนข้างกำแพงต่ำ คนเขียนปูมาว่าเป็นคนหัวอ่อน ยอมคน ถึงเวลาจะผ่านไปให้ดูมีความนิ่งเป็นผู้ใหญ่ แต่ภายในก็ยังไร้เดียงสาไม่เท่าทันใครเหมือนเดิม แล้วจะไปรับมือคนที่เคยเป็นเจ้าของหัวใจแล้วยังมีร้อยเล่ห์แบบคุณพระเอกเขาได้อย่างไร (จะมีติงนิดๆหน่อยๆเวลาที่เธอเผลอแสดงอารมณ์โกรธเวลาถูกยั่วโมโห บางคำพูดบางประโยคจะดูก้าวร้าวไปนิดๆ เรารู้สึกได้นิดๆ แต่ไม่เยอะมากแค่ประโยคสองประโยคนี่แหละ)


          เรื่องราวค่อนข้างเน้นถึงการคลายปมในใจ ให้เห็นว่าความเชื่อใจไม่ได้กู้กลับมาใหม่ง่ายๆเพียงแค่ลงมือกระทำ และความรักก็ไม่ได้สร้างจากความรู้สึกผิดหรือความพยายามด้วยเช่นกัน


          ตัวละครเสริมมีคาแรกเตอร์ดี คู่รองที่เข้ามามีบทช่วงท้ายๆก็น่ารักเป็นธรรมชาติ แต่แอบเสียดายตัวร้ายพี่สาวนางเอก เพราะเกือบๆจะดี เกือบๆจะมีมิติแล้วถ้าไม่มีฉากแรกๆที่โมโหโวยวายดูเป็นนางร้ายนางอิจฉาในละคร และลบฉากมือกวาดโต๊ะเครื่องแป้งไปด้วยก็จะดีมาก เพราะในช่วงหลังเรากลับมองว่าจู่ๆตัวละครนี้ก็ดูมีเหตุผล ดูมีที่มาดูมีเรื่องราวเกี่ยวกับการทำงานของตัวเองจนต้องทำเรื่องไม่ดี ไม่ใช่มีแค่เหตุผลจะเกลียดๆน้องสาวตัวเองอย่างเดียว การคลายปมระหว่างพี่น้องก็ถือว่าทำได้ดี เป็นอะไรที่ดูน้อยแต่ได้มาก


          สรุปเลยแล้วกัน เราว่าฉากแรงช่วงแรกยังไม่เปรี้ยงเท่าไหร่ ยังไม่รู้สึกว่าฟ้าผ่ามากลางใจ อาจเพราะคนอ่านยังจับไม่ได้ว่าเรื่องเป็นมายังไง เลยทำให้ยังไม่รู้สึกว่าต้องเกลียดพระเอกมากเท่าไหร่ แล้วเนื้อหาหลังจากบทแรกคือแผนการง้องอนนางเอกทั้งหมด เราจึงเทใจช่วยพระเอกจนหมดจนลืมเกลียด 555+ แต่แผนการคือดีคือหวาน คือน่าหยิกปากคนช่างอ้อย 55+

          ส่วนสำนวนก็ว่าดีอ่านไม่ยาก จะมีหมัดฮุคเป็นบางประโยคที่เรียบเรียงได้สวยงามดีจัง แต่นานๆจะมีมาสักที ยกตัวอย่างเช่น

          '...หากในความเงียบนั้น หญิงสาวกลับสัมผัสได้ถึงความรู้สึกลึกซึ้ง สายตาของเขาที่เต็มไปด้วยความรัก ความปรารถนา ความคิดถึงและห่วยใย หรือเพราะแสงแดดที่ทอดตัวรำไรผ่านม่านหน้าต่างเข้ามาทำให้แววตาของเขาพลิกเหลี่ยมมุมจนหลอกตาเธอ...'




Create Date : 16 เมษายน 2560
Last Update : 22 เมษายน 2560 20:23:58 น.
Counter : 1448 Pageviews.

2 comment
Ever-Snow company บริษัทป่วน ก๊วนคนป่า (หิมพานต์)...โดย RI-NE


Ever-Snow company บริษัทป่วนก๊วนคนป่า (หิมพานต์)...โดย RI-NE


          บอกเล่าเรื่องราวของ รัตติภัทร หนุ่มดวงกุด รักคุด ตกงาน เมาเละ แถมยังถูกเด็กหนุ่มที่ไหนก็ไม่รู้...ฟันแล้ว(ไม่)ทิ้ง!อีกต่างหาก
          ใครจะคิดว่าเขาจะได้กลับมาเจอกับไอ้เด็กนั่นอีกครั้งยังที่ทำงานใหม่ บริษัทที่เขาเพิ่งหลวมตัว!และรู้ตัวว่าตัวเองเป็นมนุษย์เพียงคนเดียว! รอบกายมีแต่เพื่อนร่วมงานจากป่าหิมพานต์ สัตว์วิเศษ และโลกพิสดารรอเขาไปผจญอีกมากมาย แถมท้ายยังไม่วายมาเจอกับรอยยิ้มพิมพ์ใจปริศนาจาก กิรณ นักศึกษาฝึกงานที่เคยฟันเขาแล้ว(ไม่)ทิ้งคนนั้นอีก...


(สนพ.นาบู    ตีพิมพ์ครั้งที่ 2 ต.ค.59    จำนวนหน้า 367/358    ราคาปก 380/380    วาย 18+)



ความรู้สึกหลังจากที่ได้อ่าน...


          บอกก่อนว่าไม่ใช่แนวตัวเองสักนิด นิยายแฟนตาซีไม่ใช่ทางเราเลยจริงๆ แต่งานวายแฟนต้าในโลกปัจจุบันเรื่องนี้กลับทำเราถูกใจได้...


          อ่านแล้วเหมือนได้กลับไปอยู่ในโลกของแฮร์รี่พอตเตอร์ เปลี่ยนจากโรงเรียนเวทมนตร์เป็นบริษัทหิมพานต์จำกัด (Ever Snow company) เปลี่ยนจากพ่อมดแม่มดเป็นอมนุษย์จากป่าหิมพานต์ที่อาศัยกลมกลืนไปกับสังคมคน มีกลไกแปลกประหลาด มีเรื่องมหัศจรรย์มากมายหลบซ่อนอยู่รอบกาย และตัวเราคือแฮร์รี่ คือตัวละครนายเอกที่เพิ่งได้รู้ว่ายังมีอีกโลกหนึ่งแฝงตัวอยู่ร่วมกับเรามาเนิ่นนาน...


          บอกตรงๆว่าอ่านไป100 กว่าหน้าแรกยังได้เรื่อยๆ ด้วยความที่มีพื้นฐานด้านวรรณคดีไทยเทียบเท่ากับศูนย์ เมื่อเจอศัพท์เทคนิคไทยโบราณ ครุฑ นาค อสูร ยักษา นิทาน ตำนาน บลาๆๆ เข้าไปก็เกือบทำเราถอดใจ แต่ถ้าใครมาสายนี้อาจไม่ใช่งานยากที่จะเข้าถึง ด้วยภาษาบรรยายหลักค่อนข้างเข้าใจง่าย เน้นฮาและกวนบาทา พอเจอคำกลอน เจอศัพท์แปลกๆก็จะมีการอธิบายจากตัวละครรอบข้าง ให้นายเอกที่เป็นมนุษย์มนาธรรมดาผู้ที่หลงเข้ามาทำงานในบริษัทซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์ป่าหิมพานต์ได้เข้าใจ ไอ้คนอ่านที่เอ๋อๆอยู่ก็ได้ผลบุญเข้าใจตามไปด้วย 555+
          อีกอย่างก็ไม่คิดว่าไอ้คนที่ชอบนิยายจังหวะเนิบๆ จะตื่นเต้นไปกับฉากแฟนตาซีแอ็คชั่นไซไฟนั่นได้ด้วย สนุกอะ 55+


          เห็นว่าเป็นงานวายแฟนตาซีเช่นนี้ก็อย่างได้แน่นอนใจ เพราะภายใต้ความโปกฮา วายเกรียนเหล่านั้น มีความดราม่าซ่อนอยู่ ...


          คนเขียนแทบจะใส่ปมความหลังเลวร้ายให้กับทุกคน บางคนเหมือนไม่มีอะไรก็ยังมีเรื่องราวของตัวเอง เรื่องที่แม้แต่เพื่อนสนิทก็ยังไม่บอก ต่างคนต่างก็มีพื้นที่ในอดีตของตัวเองที่ไม่จำเป็นต้องให้ใครรับรู้

          จะบอกว่าแทบทั้งเรื่องเราจะไม่ค่อยรู้อะไรเลย เหมือนถูกให้เห็นแต่ฉากหน้าของความแฟนตาซี ปมเบื้องลึกเบื้องหลังภายในของแต่ละคนที่คนเขียนวางไว้ จะค่อยๆหยอด ค่อยๆเปิดออก เมื่ออ่านไปถึงแล้วเราจะนึกย้อนได้เองถึงการกระทำตอนต้น ปมลึกๆที่ใส่ไว้ของทั้งพระเอกและนายเอกค่อนข้างหนักทั้งคู่ คนหนึ่งขาด คนหนึ่งแหว่ง มาต่อมาเติมกันได้พอดี...


          อีกอย่างที่ชอบคือเรื่องนี้ไม่ใช่นิยายวายที่โชว์ให้เราเห็นระยะการทรานสฟอร์มของผู้ชายไปเป็นเกย์ ไม่มีช่วงเวลาของการสับสนทางเพศ ไม่มีการบังคับขู่เข็ญอย่างนิยายวายบางเรื่องที่ได้อ่าน เพราะตัวละครหลักเรื่องนี้เป็นเกย์อยู่แล้ว รู้อยู่แล้วว่าตัวเองกำลังทำอะไร สัมพันธ์ทางกายแทบจะเป็นเรื่องของส่วนประกอบไม่ใช่เมนหลักสำคัญ ฉากเซ็กซ์จึงไม่เอ็กซ์จนเกินงาม เหนือกว่านั้นยังใส่ความรู้สึกอ่อนโยน หวิวไหวไปตามท้องเรื่องที่ควรจะเกิด

          มีจะติงอยู่นิดหน่อยที่รูปแบบความรักไม่หลากหลาย มองไปทางไหนก็เจอแต่ชายรักชาย ตัวละครจับคู่กันเอง เหมือนเราอยู่ในโลกเวิลด์วายที่ไม่มีผู้ชายคนไหนจะชอบผู้หญิงเลยสักคน=w=


          เมื่อเดินมาถึงเล่ม 2 ยิ่งสนุกฉากแฟนตาซีไหลลื่นตื่นเต้นไม่ได้หยุดไม่ได้หย่อน ทำงานกับบริษัทนี้ชีวิตไม่เคยปลอดภัยสักนิด เมื่องานระเบิดถล่มตึกเงียบสงบ เขาก็ดึงเราเข้าโหมดดราม่าหน้าตาเฉยโอ้ยยย อะไรนักหนา 555+ 

          โดยในแต่ละบทจะเริ่มต้นด้วยชื่อเพลง และบางทีจะลงท้ายด้วยประโยคจากเพลงสมัยรุ่นพ่อแม่เรา ถ้าใครคุ้นเคยเกิดทัน จะช่วยบีบบิ้วอารมณ์ได้อย่างมากทีเดียว 


มันต้องเกิด อะไรที่มันต้องเกิด
เช่นใจฉันฉุดเธอไม่อยู่
หยั่งรู้...ฉันรู้และเข้าใจ
ก็ใครบ้างอยากจะร้องไห้
กลั้นไว้...ฉันห้ามมันไม่ได้



          แถมท้ายด้วยบทพิเศษของหลายๆคู่ที่เราไม่คิดว่ามันคือบทพิเศษ กลับกันเป็นบทเฉลยของเรื่องราวทั้งหมด เหตุการณ์วุ่นวายทั้งหมดเกิดขึ้นได้อย่างไร เบื้องหลังการกระทำคืออะไร คนเขียนทำให้เราลืมไปเลยว่าเรากำลังอ่านเรื่องของ 'ผู้ร้าย' แต่แท้จริงเป็นเรื่องของ 'กลุ่มคนเบื้องหลัง' ที่ทำให้พระ-นายของเราสุขสมหวัง อ่านแล้วยิ่งใจหายกว่าในตอนต้นที่เราแทบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกเขาเลย ในคำนำว่าไว้ถ้าเราได้ย้อนกลับมาอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น เราจะยิ่งอินกว่าเดิม คำกล่าวนันอาจไม่เกินจริง...

          และจะกล่าวว่า ES Company คือนิยายดราม่าที่มีแบ็กกราวด์เป็นแฟนตาซี ก็คงไม่เกินจริงเช่นกันนั้นแล...


ความรักของฉันจะเปรียบด้วยสีดอกไรๆไม่ได้

เพราะฉันได้ยินคำกล่าวว่า ความรักที่แท้จริงไม่ใช่สีแดง ย่อมเป็นสีดำดั่งสีนิล

(วาสิฏฐี; กามนิต)         




Create Date : 01 เมษายน 2560
Last Update : 1 เมษายน 2560 20:52:47 น.
Counter : 3621 Pageviews.

2 comment
คนแปลกหน้า...โดย ยามาดะ ไทจิ


คนแปลกหน้า...โดย ยามาดะ ไทจิ

นิพดา เขียวอุไร แปล


          บอกเล่าเรื่องราวของพ่อม่ายที่เพิ่งหย่ากับภรรยามาหมาดๆ เขาใช้ชีวิตอยู่คนเดียวในคอนโดที่ตัวเองเคยใช้เป็นสำนักงาน พอตกกลางคืนเขาจะพบกับความเงียบงันและวังเวง ราวกับมีเขาและหญิงสาวอีกคนเท่านั้น ที่พักอาศัยอยู่ในคอนโดแห่งนี้

          หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นอีก เมื่อเขากลับไปบ้านเกิด แล้วได้พบกับสามีภรรยาคู่หนึ่ง พวกเขามีหน้าตาเหมือนพ่อแม่ที่ตายจากไปตั้งแต่เขาอายุ 12 ขวบ อย่างไม่ผิดเพี้ยน...



(สนพ.Bliss publishing    ตีพิมพ์ ต.ค.49    จำนวน 138    ราคาปก 135)



ความรู้สึกหลังจากที่ได้อ่าน...


          เป็นเล่มที่อ่านได้เร็วมากเร็วผิดวิสัย ...เพราะเล่มบางนิดเดียวเองไง 55+


          เสียดายนิดหน่อยที่ตอนจบไม่ได้พลิกโผชวนตะลึงนัก แต่ในระหว่างทางก็จัดว่าชวนขนลุก พิศวง เสียวสันหลัง...

          อ่านแล้วยังตีประเด็นไม่ค่อยได้เท่าไหร่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นสื่อถึงคำว่า 'คนแปลกหน้ายังไง เพราะคนที่พระเอกได้เจอไม่ใช่คนแปลกหน้า แต่ชวนแปลกใจมากกว่า พ่อแม่ที่ตายจากไปแล้วจะมาอยู่ตรงหน้าตอนที่เขาอายุสี่สิบกว่าในเวลานี้ได้อย่างไร เขาเหมือนคนที่เกิดภาวะอ้างว้างโดดเดี่ยวในใจ จนโหยหาเรียกร้องสิ่งที่ขาดหาย เกิดเป็นภาพหลอกตาเพื่อปลอบประโลมจิตใจ แล้วการที่มีหญิงสาวอีกคนเข้ามาในเรื่องนั้น ก็เหมือนเป็นส่วนประกอบให้เนื้อหามันหักมุมอีกเล็กน้อยเท่านั้นเอง


          ภาพปกดูจะหลอนไปหน่อย จริงๆแล้วเมื่ออาการเสียวสันหลังหายไป เราจะพบเรื่องราวอบอุ่นลึกซึ้งของครอบครัวนิดๆด้วย
          ส่วนภาษาบรรยายก็ต้องยอมเขาแหละ งานแปลฝั่งนี้ลึกเข้าถึงอารมณ์ธรรมชาติมนุษย์อยู่แล้ว ทำให้รู้สึกว่าถ้าเป็นเราก็จะรู้สึกแบบนี้แหละ...ไม่แปลกเลย




Create Date : 23 มีนาคม 2560
Last Update : 23 มีนาคม 2560 17:12:51 น.
Counter : 1957 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  

kunaom
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 30 คน [?]



iLength = document.images.length; for(i=0;i

kunaom's bookshelf: read

Saikano: The Last Love Song on This Little Planet, Vol. 01
really liked it
เวลาคนเป็นแฟนกัน เขาต้องทำอะไรกันบ้างนะ? เออ..จริงนะ เป็นคนที่คิดไม่ออก บอกไม่ถูก นึกคำตอบไม่ได้เช่นกัน คนเป็นแฟนกันเขาต้องทำไงบ้างหว่า? อาจเพราะในชีวิตนี้เรามีแค่ช่วงเวลาของการแอบๆรักคนเดียวเท่านั้นอะ ไปไม่ถึงขั้นรัก..กันแบบคนอื่นเขาเสี...
ฆาตกรรมคืนฝนดาวตก
liked it
ไม่ถึงกับผิดหวัง น่าจะบอกว่าความตื้นเต้นเร้าใจมีน้อยกว่าผลงานอื่นๆที่ได้ลองจากผู้เขียนอย่างที่เคยอ่านผ่านๆมา อาจเพราะเคยชินในมุกหรือวิธีการคิดซ่อนเงื่อนไขต่างๆที่คนเขียนมี จะว่าเป็นวิธีเก่าก็ไม่เชิง แต่ถูกนำเสนอในแบบที่นักเขียนสืบสวนส่วน...
เจ้าหญิงเม็ดทราย
really liked it
จะบอกว่าอ่านโปรยหลังแล้วสยดสยองมาก อะไรจะยุ่งเหยิงปานนั้น น้องชายพยายามจะแย่งคู่หมั้นพี่ชาย ส่วนไอ้คนพี่ก็จ้างวานเมียเก็บ (นางเอก) ของน้องให้มาเป็นเมียตัวเอง เพื่อช่วยปกปิดและรับเป็นพ่อเด็กที่ไอ้น้องเลวมันไข่ทิ้งไว้... คือคิดอะไรกันอยู่...
สายไปไหมที่จะรักเธอ, #2
it was amazing
ใจไม่แข็งพอ อย่าอ่าน... ก็ว่าเล่มนี้ไม่เห็นมีอะไร แต่ทำไมน้ำตาต้องไหล บอกได้แค่ว่านี่เป็นแค่นิยายน้ำเน่าเรื่องนึง ที่ไม่ใช่แค่นิยายน้ำเน่า...ดาดดื่นธรรมดาแน่นอน หลังจากงงกับเล่มหนึ่งว่าจะไปต่อได้ยังไง มาเล่มนี้อารมณ์ไม่เห็นจะบีบใจกันเท่...

goodreads.com
New Comments