นัดหมายในความมืด ...โดยโอตสึ อิจิ
พรพิรุณ กิจสมเจตน์ แปล
บอกเล่าเรื่องราวของชายหนุ่มที่ตกเป็นผู้สงสัยในคดีฆาตกรรมแอบเข้ามาหลบอยู่ในบ้านที่มีหญิงสาวตาบอดอาศัยอยู่เพียงลำพัง!
คนหนึ่งตกอยู่ในความมืด... เพราะตาบอด
คนหนึ่งติดอยู่กับความมืดบอด... เพราะจิตใจ
(สนพ.Bliss publishing ตีพิมพ์เม.ย.45 จำนวนหน้า169 ราคาปก 155)
ความรู้สึกหลังจากที่ได้อ่าน...
ถ้าจะเปรียบให้เป็นหนังสักเรื่องก็คงจัดวางนิยายเรื่องนี้เป็น 'หนังเงียบ' ก็ว่าได้ บทพูดคุยมีน้อยมากมาย ตัวละครสื่อสารกันด้วยกันกระทำ ทั้งๆที่ส่งเสียงพูดคุยกันได้แต่พวกเขาเลือกที่จะไม่ทำ เหตุใดพวกเขาจึงทำเช่นนั้น นั่นก็เพราะไม่ต้องการให้สายสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างกันต้องพังทลายลงไป เมื่อสถานการณ์ที่ชักนำให้ทั้งคู่พบกันในนิยายเรื่องนี้ มันช่างเปราะบางและแปลกประหลาดกว่าเรื่องไหนๆ!
นี่คือเรื่องราวของชายหนุ่มที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมแอบเข้ามาหลบซ่อนตัวในบ้านที่มีหญิงตาบอดอาศัยอยู่เพียงลำพัง!
ภาพจากภาพยนตร์เรื่อง Waiting in the dark (2006)
นิยายเล่าผ่านความคิดของสองตัวละครสลับกันไปมาระหว่างชายหนุ่มที่เข้ามาหลบซ่อนตัวภายในบ้านกับหญิงสาวตาบอดเจ้าของบ้าน ในความลุ้นไปกับตัวละครว่าจะรู้สึกตัวเมื่อใดว่าตัวเองนั้นไม่ใช่เพียงผู้เดียวที่อาศัยอยู่ในบ้าน ผู้เขียนยังนำเราลงลึกเข้าไปในจิตใจของคนที่ปิดกั้นตนเองจากสังคม อ่านแล้วคล้ายๆกับได้อ่านตัวตนของเราเองที่สะท้อนอยู่ในตัวละครของเรื่องด้วย คนที่ชอบอยู่ในโลกเงียบอ้างว้างเพียงลำพังมากกว่าการกระโดดโลดแล่นเข้าไปในวงสังคมที่มีคนมากมาย แต่พวกเขาทั้งคู่มีเหตุผลผลักดันให้ตนออกนอกวงนั้นแตกต่างกัน....
คนหนึ่ง...ยินดีอยู่ในโลกอันมืดมิด เพียงเพื่อไม่ต้องพบเจอผู้ใดอีก ไม่ต้องผูกพันกับใครแล้วต้องจากลากันอีก ไม่ต้องเจ็บปวดใจอีก
อีกคนหนึ่ง...ผลักคนรอบข้างออกไป เพราะคิดว่าตนไม่เคยเป็นที่ต้องการสำหรับใคร ไม่เคยเป็นที่ยอมรับอยู่แล้ว ดังนั้นตัวเขาไม่จำเป็นที่จะต้องมีคนเหล่านั้นก็ได้ เขาไม่เคยแคร์
ความเกรงอกเกรงใจและพยายามทำความเข้าใจความรู้สึกผู้อื่น แม้คนคนนั้นจะเป็นคนแปลกหน้าหรือเป็นคนอื่นก็ตาม สำหรับคนญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นเด่นชัดมากกก+ในนิยายเรื่องนี้ การที่นางเอกพยายามทำความเข้าใจถึงสาเหตุการเข้ามาในบ้านของผู้บุกรุกและหาวิธีรับมืออย่างมีสติก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าเผลอให้เลยเป็นความเกรงใจต่อผู้บุกรุกแบบที่เธอรู้สึกในเรื่องนี้ก็อันตรายไปนะ 555+
เมื่อมองในมุมของนิยาย โลกเงียบๆที่คนเขียนสร้างขึ้นนี้ ไม่ได้นำความอ้างว้างเดียวดายของคนสองคนมาให้เราสัมผัสเพียงอย่างเดียว แต่เขายังนำเอาเรื่องราวการผูกสัมพันธ์ของตัวละครในสถานการณ์ที่ไม่ควรเป็นได้ให้เกิดขึ้นและเราคล้อยตามไป แสดงให้เห็นว่าความโรแมนติกเกิดขึ้นได้แม้ไร้บทพูดลึกซึ้งคำใด...
'ตั้งแต่วินาทีแรกที่รับรู้ถึงตัวตนของอีกฝ่าย การสัมผัสถึงกันก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว'
ภาพจากภาพยนตร์เรื่อง Waiting in the dark (2006)
ส่วนปมคดีฆาตกรรมนั้นไม่ซับซ้อน แต่วิธีการเล่าเรื่องผ่านมุมมองของตัวละครนั้นแหละที่ทำให้มันซับซ้อน บ้างเล่ายอกย้อน บ้างก็หมกเม็ด ผู้เขียนไม่ได้กล่าวความเท็จ แค่ค่อยๆทยอยความจริงออกมาทีละเล็กละน้อย ชอบการวางปมเล็กๆน้อยๆตลอดรายทาง นั้นเองทำให้ทุกอย่างดูแน่นหนาและลึกซึ้งมากเลยทีเดียว....
คงต้องไปค้นหาตัวหนังมาดูซะแล้ว...