*** พื้นที่ส่วนตัวของ พันตำรวจเอก ดร. ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ รองผู้บังคับการกองคดีอาญา สำนักงานกฎหมายและคดี นี้ จัดทำขึ้นเพื่อยืนหยัดในหลักการที่ว่า คนเรานั้นจะมีความเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ได้ ก็ต่อเมื่อมีเสรีภาพในการแสดงความคิดโดยบริบูรณ์ และความเชื่อที่ว่าคนเราเกิดมาเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ไม่มีอำนาจใดจะพรากความเป็นมนุษย์ไปจากเราได้ ไม่ว่่าด้วยวิธีการใด ๆ และอำนาจผู้ใด ***
*** We hold these truths to be self-evident, that all men are created equal, that they are endowed by their Creator with certain unalienable rights, that among these are life, liberty and the pursuit of happiness. That to secure these rights, governments are instituted among men, deriving their just powers from the consent of the governed. That whenever any form of government becomes destructive to these ends, it is the right of the people to alter or to abolish it, and to institute new government, laying its foundation on such principles and organizing its powers in such form, as to them shall seem most likely to effect their safety and happiness. [Adopted in Congress 4 July 1776] ***
Group Blog
 
All Blogs
 
เหยื่อของ PHISHING SCAM

วันนี้ (๒ เม.ย.๔๙ ) เป็นวันเลือกตั้งของประเทศไทย รู้สึกจะเป็นการแข่งขันระหว่าง สองพรรคการเมืองใหญ่ คือ พรรคไทยรักไทย กับ พรรคไม่เลือกใคร .... ก็ต้องลุ้นกันต่อไปว่าจะเป็นไงต่อไป เอ่อ ...ผมไม่ได้ตั้งใจ เขียนเรื่องการเมืองไทยหรอก ปวดหัวใจครับ ... แต่ขอแค่แถมท้ายนิดหน่อยก็พอ




ผมตั้งใจจะมาเล่าเรื่อง Phishing Scam คือ การฉ้อโกง อย่างหนึ่งครับ ไม่ใช่เรื่องการเมืองโดยเด็ดขาด ผมคิดว่า ทุกคนคงเคยได้รับอีเมลล์ประเภท ว่าต้องการความช่วยเหลือในการโอนเงิน แล้วให้เรากรอกข้อมูล รายละเอียดเกี่ยวกับตัวบุคคลของเราเอง และเลขบัญชีธนาคาร เพื่อโอนเงินของเขา มายังบัญชีของเรา ประมาณนั้น ..... แล้วเขาจะแบ่งเงินส่วนหนึ่งให้เรา ในจำนวนที่สูงมาก

พอเราแจ้งไปจริง ๆ ข้อมูลของเรา ก็จะถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด นอกจากส่วนเงินส่วนแบ่งที่เขาสัญญาไว้ เราจะไม่ได้รับแล้ว เงินในบัญชีของเราที่สะสมมาแทบตาย ก็จะไม่เหลือแม้เพียงเซ็นต์เดียวครับ .... ปัญหานี้ เกิดขึ้นมาในสหรัฐฯ และมีคนจำนวนไม่น้อย หลงกล เพราะความโลภเช่นนี้ เยอะเลยครับ

หากจะเปรียบเทียบกับปัญหาในไทย ก็คงจะเหมือน "แก๊งค์ตกทอง" ที่ปรากฎอยู่เนือง ๆ ไม่น่าเชื่อครับ ที่อยู่ดี ๆ มีคนเอาทองหนัก ๑๐ บาท แต่ต้องการได้ทองเส้นเล็ก ๆ ของเราที่หนักเพียง ๑ บาท โดยมีเงื่อนไขว่า หากเรายินดีจะแลกแล้ว เราต้องจ่ายเงินส่วนต่างของราคาทองหนัก ๑๐ บาท กับหนัก ๑ บาท อีกเล็กน้อย ด้วยความโลภ เราก็เลยแลกไป .... พร้อมจ่ายเงินค่าทองปลอม ไปอีกก้อนหนึ่ง ..... ทั้ง ๆ ที่เราก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่า ธุรกิจนี้ มันช่างเป็นไปไม่ได้เสียเลย แต่ก็ยังมีคนไม่น้อย หลงเชื่ออีก.... กลุ่มคนที่ถูกหลอกนี้ ก็จะก็ไปบอกตำรวจว่า เขาถูกป้ายยาอะไรก็ไม่รู้ ทำให้สมองมึนงง ... แบบ มึนตึ๊บ มึนตึ๊บ จนยอมแลกทองที่มีน้ำหนักและมูลค่าแตกต่างกันมากมายขนาดนั้นไปได้ ...

โ อ๊ ะ โ อ ว ...แ ล้ ว ค ร า ย จ ะ เ ชื่ อ ล ะ ค ร๊ า บ ....


ถ้ามีเรื่องประเภทนี้ ก็ระวังด้วยกันนะครับ .... ในสหรัฐ กำลังมีกฎหมายเสนอต่อต้านการกระทำแบบนี้ คือ กำหนดให้การส่งอีเมลล์ ไปหลอกถามข้อมูลบุคคล เป็นความผิดกฎหมายอาญา ครับ โดยใช้ประกอบกฎหมายที่มีอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น The Credit Card Fruad Act: 18 U.S.C. § 1029, The ID Theft Act: 18 U.S.C. § 1028, The State Anti-Fraud Laws และ ร่างกฎหมาย The Anti-Phishing Act of 2005 ที่ขณะนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาในสาระคัญอยู่

หันกลับมามองปัญหานี้ .... ประเทศไทย เรายังไม่มีอะไรคืบหน้า ไม่ว่าจะเป็นอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์โดยตรง หรือ กฎหมายเกี่ยวกับอาชญากรรมที่กระทำบนคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตทั้งหลาย คงต้องรอให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นก่อนนั่นแหละ ตามสไตล์ พี่ไทยของเรา แล้วค่อยหาทางแก้ไขกันต่อไป

ส่วน Link ด้านล่างนี้ ถ้าไม่สนใจก็ไม่ต้องคลิ๊กไปอ่านหรอกครับ ผมแค่เขียนถึงปัญหานี้เล็ก ๆ น้อย กับตัวบทกฎหมายของสหรัฐฯ พร้อมเอาบทความที่เกี่ยวกับ Phishing Scam ที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษมารวมไว้ แต่หากสนใจ ก็จะเป็นประโยชน์นะครับ เพราะหน่วยงานของสหรัฐฯ ได้เสนอวิธีการในการป้องกันตนเองในกรณีที่ถูกหลอกลวง และหลงเชื่อไปแล้ว จะทำไงดี .... รวมถึงข้อแนะนำให้เราแจ้งข้อความไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยอีเมลล์ไป เพื่อให้หน่วยงานดังกล่าว สืบสวนสอบสวน ที่มาของอีเมลล์ดังกล่าวด้วย




ประเด็นที่สองครับ ขอย้อนกลับมาเหตุการณ์ทางการเมืองสักเล็กน้อยครับ





ตอนนี้ ผมมีข้อกังวลทางกฎหมายเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งเหมือนกันว่า ถ้าประชาชนลงคะแนนไม่เลือกผู้ใด สูงกว่าตัวแทนพรรคการเมือง และ แม้จะตัวแทนพรรคการเมืองที่ได้รับเลือกจะได้คะแนนเกิน ๒๐ % แล้ว ในทางกฎหมาย จะมีผลทางกฎหมายอย่างไร .... ผู้สมัครท่านนั้น จะถือว่าเป็น สส. โดยชอบธรรม ได้หรือไม่ ...

ผมว่า ประเด็นนี้น่าสนใจ และจะต้องมีการโต้แย้งกันถึงผลทางกฎหมายในประเด็นนี้แน่ ๆ ผมคิดเล่น ๆ ว่า หลักเรื่องคะแนนอย่างที่ได้รับเลือกต้องอย่างน้อย ๒๐ เปอร์เซ็นต์ นี่ มันน่าคิดว่า จะสอดคล้องกับสถานการณ์ และเจตนารมณ์ที่แท้จริงของการมีกฎหมายมาตรานี้หรือไม่

หากจะพิจารณากันจริง ๆ สิ่งที่จะนำมาใช้ในการพิจารณาประการหนึ่ง ก็คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะต้องย้อนดูประวัติศาสตร์หรือที่มาของการร่างมาตรานี้ เพื่อประกอบการตีความกฎหมายในมาตรานี้ ว่าแท้จริงแล้ว มันมีเจตนารมณ์ที่แท้จริงอะไรซ่อนอยู่ แล้วจะปรับประยุกต์กับเหตุการณ์ปัจจุบันอย่างไร

หากว่าผู้ร่างมีเจตนาว่า อย่างน้อย คะแนนเสียง ควรจะต้องได้มากกว่าคะแนนไม่ประสงค์จะเลือก ... ก็ย่อมจะหมายความว่า ประชาชนส่วนใหญ่ เห็นว่า ไม่ใครเหมาะสมจะเป็นผู้แทนของของเขา กรณีนี้ ผมคิดว่า ควรจะต้องเคารพในเจตนารมณ์ของประชาชนในพื้นที่นั้น ๆ จึงเห็นว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ เฉพาะในเขตเลือกตั้งที่มีปัญหาข้างต้น ก็ไม่น่าจะเป็นการเลือกตั้งที่ชอบธรรม .. และควรดำเนินการแก้ไขต่อไปครับ

อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องเคารพเจตนารมณ์ของเสียงข้างมาก ที่ไม่ละเลยเสียงข้างน้อย เช่นกัน หากประชาชนส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นพวกบ้านนอกคอนา หรือไม่ใช่คนในเมือง ที่เลือกรัฐบาลเก่า เราก็ต้องเคารพ จะไปดูถูกว่า มันเป็นเสียงของบ้านนอก ที่ถูกมอมเมาด้วยนโยบายทุนนิยม ก็คงไม่สวยเช่นกัน ..... ทางที่ดีที่สุด คือ จะประนีประนอม กันอย่างไร ... ผมภาวนาว่า ทุกฝ่ายจะหันหน้าเข้าหากัน แล้วลองหาทางออกที่ดีที่สุดกันสักตั้งครับ ... รักประเทศไทยกันบ้างเถอะ ..... แค่นี้ ประเทศไทย ก็บอบช้ำสุด ๆ แล้ว

สุดท้ายของสุดท้าย .... ได้เห็นข่าวของ คุณไชยันต์ ที่มี ดีกรี ดอกเตอร์ จากอังกฤษ เป็นอาจารย์ รัฐศาสตร์ จุฬาฯ ฉีกบัตรเลือกตั้ง แล้วมีคนจำนวนมาก ให้กำลังใจส่งเสริม การกระทำผิดกฎหมายของเขา โดยอ้างเป็น "อารยะขัดขืน" แล้ว เศร้าใจ ... ทั้ง นิติ มธ. ฯลฯ หาเหตุผลบิด ๆ เบี้ยว ทางกฎหมายมาอ้างกันเข้าไป ... ผมว่า การหาเหตุผลบิดเบี้ยว ๆ มาอ้างเพื่อให้รอดพ้นการกระทำผิดกฎหมาย ก็คงไม่ต่างจาก กรณีที่ นิติบริกร กระทำการให้รัฐบาลเลย ... มันเข้ากับสำนวน "ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง หรือเปล่า"

ผมเรียนตามตรงเลย ผมเป็นคนหนึ่ง ที่ไม่ขอเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมให้ประชาชนทำผิดกฎหมาย ไม่ยกย่อง และไม่เป็นกำลังใจ กับการกระทำแบบนี้ .... อยากรู้จริง ๆ ว่า ถ้าเป็น ตาสี ยายสา ตามี ยายมา ทำแบบนี้ หลายคน จะยังชื่นชม หรือ สนับสนุน หรือไม่ ... พวกสนับสนุน ถามใจตัวเอง ไม่ต้องตอบคำถามผม ... ขออย่าโกหก ตัวเองก็พอ ... นอกจากผมจะไม่ยกย่อง แล้วผมยังขอประณามการกระทำผิดของคุณไชยันต์ ด้วยครับ ...




Click to Read in English.






Create Date : 03 เมษายน 2549
Last Update : 18 มิถุนายน 2553 8:39:59 น. 36 comments
Counter : 1138 Pageviews.

 
เรื่องการตกทองนี่ เมื่อก่อนมีให้เห็นกันตามหน้า นสพ.เยอะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นแล้ว ผมอ่านๆแล้วก็มานั่งคิด นี่แหละนะความโลภ อย่าได้ของที่ไม่ใช่ของตนเอง (สมน้ำหน้า)
แต่ก็ใช่ว่าการหลอกลวงแบบนี้จะหมดไป เพราะเดี๋ยวนี้มีการพัฒนารูปแบบในการหลอกลวงอาเงินผู้อื่น อย่างหลอกว่าจะมาซื้อที่ แล้วทำไปทำมาก็ชวนกันเล่นการพนัน แล้วก้โกงกัน หรือไม่ก็ปลอมล๊อตเตอร์รี่ แล้วนำไปขายต่อแบบถูกๆ
อย่างยุคปัจจุบันก็นี่แหละตาม E-Mail ว่าท่านโชคดีบ้าง แต่ท่านต้องชำระค่าภาษีก่อน.... เสียท่าเพราะความโลภทั้งน้านนนนน

ปล.ข้อความข้างล่าง ท่านไม่บอกผมก็ไม่สนใจอยู่แล้วครับ เพราะแปลไม่อกครับ (ฮา)

ปล.2 เมื่อวานครั้งแรกในชีวิต ที่ต้องนอนหลับทับสิทธ์ ..เหตุผลหลักก็เรื่องที่ต้องเดินทางไปกลับแต่ละที ค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 2000.- แล้ววันเลือก สว.อีกล่ะ เฮ่อ!... มันน่าจะเลือกแบบ online ได้แล้วนะว่าไหมท่าน pol_us ไม่รู้ว่ามีกระทรวง ICT ไว้หาพระแสงอะไร


โดย: merf1970 วันที่: 3 เมษายน 2549 เวลา:6:00:33 น.  

 
ไม่เคยได้หรอกค่ะพี่ตำรวจขา
สงสัยเค้าแอบรู้ว่าเราไม่มีตังค์


โดย: PADAPA--DOO วันที่: 3 เมษายน 2549 เวลา:6:09:43 น.  

 
แก๊งค์ตกทอง ไม่เห็นมาแหยมกรายผมหรอกฮะ เพราะทั้งเนื้อทั้งตัวเนี่ย เสื้อ ตัวละ 50 บาท เกงตัวละ 199 แหวนเงินสองวง 400 (ทำไมแหวนแพงกว่าเสื้อผ้าอีกเนี่ย )

มันดูไม่น่ามีกะตังค์เลยรอดตัวจากมิจฉาชีพได้เป็นอย่างดีฮะ

แต่เรื่องแกงค์ตกทองเนี่ย ถ้าไม่โลภพวกมิจฉาชีพก็ทำอะไรไม่ได้หรอกฮะ แต่คนเรานี่สิโลภอยากได้ของคนอื่น เลยโดนหลอกซะ


โดย: err_or วันที่: 3 เมษายน 2549 เวลา:7:39:54 น.  

 
เป็นเรื่องที่ดีค่ะที่นำมาบอกกล่าวกันจะได้ระวังตัวมาก ๆ ขอบคุณมากนะคะ


โดย: เสียงซึง วันที่: 3 เมษายน 2549 เวลา:8:18:59 น.  

 
อาชญากรรม นี่..มันมีความเป็นสากลเหมือนกันนะครับ

ป.ล.ผมกับคนในครอบครัวไม่เคยมีใครตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพทำนองนี้ครับ...เพราะไม่ใช่พวก ตื่นทอง กัน


โดย: กุมภีน วันที่: 3 เมษายน 2549 เวลา:9:55:27 น.  

 
แวะมาหาจ้ะ อิอิ ยาวจังเลยไปนอนละจ้ะ


โดย: พีเจี้ยวค่ะ (sutida_jeaw ) วันที่: 3 เมษายน 2549 เวลา:11:17:16 น.  

 
เคยเจอลูกค้าโดนตกทองไปหมาดๆ มานั่งสะลึมสะลืออยู่ในร้าน (ฤทธ์ยา ) แล้วก็ถามผมว่า จำคนที่มากับหนูได้มั้ยเค้าเอาทองหนูไป ฯลฯ เห็นแล้วก็สงสาร พวกมิจฉาชีพตายไปเกิดใหม่อยู่ในสภาพที่แย่แน่ๆ

ผมเชื่อเรื่องผลกรรมนะ เด๋วนี้ให้ผลตอบแทนเร็วจริงๆเลย ยกตัวอย่าง ผมทำบุญให้สมาคมคนชรา 20 บาทปุ๊บ คุณยายที่ไม่ค่อยได้เจอกันก็มาหา แล้วให้เงินผม 2000 ตอบแทนเร็วดีจริงๆ


โดย: ปอมปอม วันที่: 3 เมษายน 2549 เวลา:14:37:07 น.  

 
ทริกการโกงทั้งหลายทั้งปวงเป็นสากลจริงๆ ค่ะ อันตรายรอบด้านเลยสำหรับคนไม่รู้และไม่ระวังตัว ...แบบนี้ต้องระวังเพิ่มขึ้นเลยค่ะ ถึงแม้ว่าทองหยองจะไม่มีติดตัวสักชิ้นก็เหอะ


โดย: JewNid วันที่: 3 เมษายน 2549 เวลา:16:13:57 น.  

 
ถ้ามียาป้ายแบบนั้นมีจริงๆน่ากลัวมากค่ะ
เสียทองไม่เท่าไหร่ กลัวเสียตัวมากกว่า



โดย: Michiyo วันที่: 3 เมษายน 2549 เวลา:16:19:01 น.  

 
ทั้งยาว
ทั้งใหญ่
ทุกที
พี่โพ้ม...

การเลือกตั้งครั้งนี้
ก็ถือว่าเป็นบทเรียนที่ดีครับ
ผมยังคุยกับเพื่อนเลยพี่
ว่าตอนเด็กๆ สอบยังต้องได้ 50% ถึงจะสอบผ่าน
แล้วนี่อะไร แค่ 20% เอง จะเรียกสอบผ่านได้อย่างไร


โดย: Marvel' Boy IP: 203.154.242.2 วันที่: 3 เมษายน 2549 เวลา:18:03:53 น.  

 
กฎหมายก็เหมือนภาษาไทยนะพี่ ถ้ายังไม่ตายก็ต้องแก้ไขปรับปรุงให้เข้ากับสถานการณ์กันต่อไปนี่แหละเนอะ
เรื่อง phishing นี่เมืองไทยจะสนใจรึเปล่าไม่รู้แฮะ ยิ่งกระทรวงไอทีเรามีไว้ปลูกสะระแหน่อยู่ด้วย


โดย: dio ฯ IP: 220.245.178.136 วันที่: 3 เมษายน 2549 เวลา:18:19:31 น.  

 
ย้าวยาวเช่นเคย


โดย: rebel วันที่: 3 เมษายน 2549 เวลา:18:55:40 น.  

 


โดย: jaa_aey วันที่: 3 เมษายน 2549 เวลา:20:54:14 น.  

 
ผมว่าการยึดหลักอยู่อย่างพอเพียงตามแนวพระราชดำรัสก็ช่วยกันเราจากเรื่องแบบนี้ได้น่ะครับ อย่าโลภนั่นเอง

ส่วนเรื่องการเมือง ก็ขอให้มันจบลงด้วยดีแล้วกันครับ


โดย: หมื่นทิพ TRAVOLTA (เทพบุตรตบะแตก!! ) วันที่: 3 เมษายน 2549 เวลา:21:07:01 น.  

 
ขอบคุณพี่ครับสำหรับบทความที่น่าสนใจครับผม

รู้ว่าผมก็มีแนวร่วมและเสียงสนับสนุนจากพี่ครับ ขอบคุณครับพี่ พี่คงสบายดีนะครับ


โดย: Tempting Heart วันที่: 3 เมษายน 2549 เวลา:22:56:10 น.  

 
ผมเห็นข่าวนี้ เลยยกมาวางไว้ใน blog ด้วยครับ อ่านข่าวแล้วรู้สึกตกใจ กับแนวคิด ของคณาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งนี้ฯ ที่เห็นว่า การกระทำผิดกฎหมาย เป็นสิ่งที่น่ายกย่องสรรเสริญ แถมยังข้าง ๆ คู ๆ ว่า เป็นการต่อต้านการปกครองที่ชอบด้วยหลักการทางรัฐศาสตร์ อะไรจะขนาดนั้น .... ใครจะยกย่องก็ทำไป แต่ผมขอบายครับ




จุฬาฯ ยกย่องวีรกรรม “ไชยันต์” พร้อมประชุมกำหนดท่าทีวันที่ 7 โดย ผู้จัดการออนไลน์ 3 เมษายน 2549 16:16 น. [//www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9490000044811]

อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะเครือข่ายจุฬาฯ เชิดชูคุณธรรมนำประชาธิปไตย เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้เวลาประมาณ 13.00 น.จะมีการประชุมเพื่อกำหนดบทบาทและกิจกรรมที่ทางเครือข่ายฯ จะมีต่อสังคมในวันที่ 7 เมษายน อันเป็นวันที่พันธมิตรนัดรวมตัวอีกครั้ง พร้อมยกย่อง “อ.ไชยันต์” สร้างวีรกรรมกล้าหาญกรณีฉีกบัตรเลือกตั้ง

วันนี้ (3 เมษายน) เวลาประมาณ 15.45 น. ดร.อนันต์ เหล่าเลิศวรกุล อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะตัวแทนเครือข่ายจุฬาฯ เชิดชูคุณธรรมนำประชาธิปไตย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวผ่านทางโทรศัพท์ว่าในวันพรุ่งนี้ (4 เมษายน) เวลาประมาณ 13.00 น. ทางเครือข่ายฯ จะมีการประชุมเพื่อหารือและกำหนดกิจกรรมของทางเครือข่ายฯ ว่าจะให้ออกมาในรูปแบบใด

“เราจะประชุมเพื่อกำหนดกิจกรรมของจุฬาฯ เพราะทางเราก็ต้องมีกิจกรรมของเราเอง ซึ่งก็ต้องเป็นกิจกรรมที่ยึดหลักอหิงสาเป็นหลักในการเคลื่อนไหว กำหนดบทบาทของจุฬาฯ ต่อสังคม ซึ่งในส่วนของวันที่ 7 เอง เราก็จะประชุมเพื่อกำหนดกิจกรรมที่จะมีขึ้นในวันดังกล่าว ซึ่งกิจกรรมที่เราจะทำขึ้นนั้นต้องเป็นกิจกรรมที่ยึดหลักอหิงสา แต่เปิดเผยไปมากกว่านี้ไม่ได้จริงๆ ครับ ต้องขอโทษด้วย และนอกจากนี้เราจะมีการเลือกประธานเครือข่ายฯ อย่างเป็นทางการ”

สำหรับในกรณีของการฉีกบัตรเลือกตั้งของ รศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร หัวหน้าภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดร.อนันต์ กล่าวว่า กระแสภายในจุฬาฯ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนี้ส่วนใหญ่จะเป็นไปในแนวการชื่นชมในวีรกรรมความกล้าหาญของ รศ.ดร.ไชยันต์ ที่ถึงแม้ว่าจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่ รศ.ดร.ไชยันต์ก็ยอมที่จะให้ตัวเองได้รับความเดือดร้อนเพื่อแลกกับการเอาตัวเองเข้าขวางรัฐบาลไม่ชอบธรรม ซึ่งถือเป็นอารยะขัดขืน เป็นวิธีอหิงสาอีกวิธีหนึ่ง นอกจากนี้ ดร.อนันต์ยังได้กล่าวต่อไปอีกว่า การประชุมในบ่ายพรุ่งนี้ตัวแทนเครือข่ายฯ กล่าวว่า น่าจะเป็นการประชุมที่ไม่อนุญาตให้สื่อเข้าไปร่วมสังเกตการณ์ด้วย

อย่างไรก็ตาม ได้มีกระแสข่าวออกมาว่า ในวันที่ 5 เมษายนที่จะถึงนี้ ข้าราชการทั่วประเทศ จะรวมใจนัดกันใส่ชุดดำเพื่อร่วมกันสาปส่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีรักษาการอีกด้วย




โดย: POL_US วันที่: 4 เมษายน 2549 เวลา:0:57:44 น.  

 
เคยได้เมล์หลอกลวงเหมือนกันครับ ดีที่ไม่บ้าจี้ เกือบไปๆ


ผมก็อีกหนึ่งเสียงที่ไม่เลือกใคร ถ้าเขตไหนคนเลือกไม่ถึงครึ่ง ก็น่าคิดจริงๆครับ


โดย: QUOLL วันที่: 4 เมษายน 2549 เวลา:3:15:09 น.  

 
อันนี้ เป็นกระทู้ที่ผม เข้าไปตอบมา .... ในห้องไกลบ้าน ... ซึ่งเป็นความเห็นของชาวไกลบ้าน ที่มีความเห็นต่อการกระทำของ คุณไชยันต์ฯ อ.จุฬาฯ ที่ฉีกบัตรเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ ๒ เม.ย. ที่ผ่านมา เชิญคลิ๊กเพื่ออ่าน

ผมได้ตอบไว้ในกระทู้เช่นกัน ว่าโดยส่วนตัวไม่รู้กกับคุณไชยันต์ฯ เลย และด้วยความเคารพในความเห็นแล้ว ความเห็นส่วนตัวของผม ยืนยันหนักแน่นว่า การกระทำผิดกฎหมาย ไม่ใช่สิ่งที่น่ายกย่องอะไร

แต่มี คนใน bloggang คนหนึ่ง ... ไปตอบกระทู้ และถามผมว่า "รู้จักคำว่า civil disobedience" และท่านผู้เจริญท่านนี้ ยังถามผมว่า ได้รู้จักวิชา "รัฐศาสตร์" จริงหรือไม่ .... โดยท่านกล่าวว่า ผมมีความรู้แบบ งู ๆ ปลา ๆ ซึ่งน้อยกว่า นิสิตเรียน ปี ๓ ผู้วิชาทางสังคมวิทยาและมนุษยาวิทยา แบบท่านผู้เจริญท่านนี้ (ความเห็น ๘, ๒๙ และ ๔๓) .... อืม ไม่ว่ากันครับ เชื่อมั่นตัวเองดี

ความจริงผมก็บอกว่าแล้ว ผมเรียนรู้วิชานี้มาพอสมควร แต่ไม่ได้เป็นดอกเตอร์ ทางด้านนี้ และคนที่สอนผม ก็ไม่ใช่ใครหรอก อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ทั้งนั้นแหละ และสอนผมตั้งแต่ผมเรียนอยู่ที่ รร.นายร้อยตำรวจ เช่น รศ.จรูญ สุภาพ, รศ.ประหยัดฯ รศ.กระมลฯ (ตำแหน่งทางวิชาการขณะนั้น) และอีกหลายท่าน จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ครับ

ผมได้มีโอกาส มาเรียนวิชาการเมืองการปกครองและลัทธิการเมืองการปกครอง จากรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ กับ ศ.ดร. ลิขิต และอีกหลายท่าน จากค่ายท่าพระจันทร์ ในชั้นปริญญาโท ... แม้วิชาเอกของผมคือ บริหารรัฐกิจ แต่ก็เรียนการเมืองการปกครองไทย และลัทธิการเมือง ไม่น้อยเช่นกัน

อีกทั้ง ผมก็ยอมรับแล้ว ในกระทู้ดังกล่าวว่า ผมไม่ได้รู้อะไรลึกแบบ ดอกเตอร์ ไชยันต์ ผู้กล้าหาญในการฝ่าฝืนกฎหมายแน่ ๆ เพราะเขามีดีกรีเป็นถึง "ดอกเตอร์" ทางรัฐศาสตร์ จากประเทศอังกฤษ ....

ผมยังไม่ได้กล่าวรายละเอียดเกี่ยวกับความรู้ทางรัฐศาสตร์อะไรแม้แต่น้อย ... ท่านผู้เจริญ ท่านนี้ ก็กล่าวว่า ผมอวดตัวและพูดเกี่ยวกับทางรัฐศาสตร์ เสมือนรู้จริง ทั้ง ๆ ที่รู้แบบงู ๆ ปลา ๆ ... ที่จริง ผมกล่าวแต่ประเด็นกฎหมายว่าไม่ควรกระทำ และไม่สรรเสริญครับ ท่านผู้เจริญ

สุดท้ายครับ สำหรับ ท่านผู้เจริญ ท่านนี้ ผมขออโหสิ ที่ได้บังอาจล่วงเกินความรู้ความสามารถของท่าน ด้วยแล้วกัน


โดย: POL_US วันที่: 4 เมษายน 2549 เวลา:6:46:54 น.  

 
ผมก็ชาวไกลบ้านคนนึงครับ
ได้เห็นกระทู้นั้นแล้ว บอกได้ว่านิสิตปีสามท่านนั้นอัตตาสูงจนน่ากลัว
ถ้าเป็นผู้รู้แล้วต้องแสดงความเห็นดูถูกกันเช่นนั้น ผมขอเป็นผู้ไม่รู้คอยเก็บความรู้ใหม่ ๆ ดีกว่า
โต ๆ กันแล้ว เรียนก็ถึงขนาดนี้แล้ว อะไรควรไม่ควรน่าจะรู้เองได้ครับ


โดย: dionysos.exe IP: 220.245.178.136 วันที่: 4 เมษายน 2549 เวลา:14:17:49 น.  

 
ผมก็ได้อีเมลประเภทโอนเงินแลกกรีนการ์ดไปอเมริกาเหมือนกันครับ... ได้บ่อยจนน่ากลัวอยู่พักนึง ตอนนี้หายไปแล้ว

ส่วนเรื่อง รองศาสตราจารย์ด๊อกเตอร์ ท่านมีอุดมการณ์ดีนะครับ แต่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการกระทำของท่านเท่าไหร่..


โดย: nanoguy IP: 203.151.140.117 วันที่: 4 เมษายน 2549 เวลา:18:46:33 น.  

 
เข้าไปอ่านกระทู้ในไกลบ้านแล้วครับ รู้สึกไม่ค่อยดีครับ

มีบ่อยนะครับที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้

คงอีกนานน่ะครับที่คนไทยจะใจกว้างพอที่จะรับความแตกต่างของคนอื่น

สำหรับผม ผมไม่รู้ทั้งหลักรัฐศาสตร์และหลักกฎหมาย แต่ผมคิดเอาเองด้วยสามัญสำนึกว่า คนที่จงใจทำผิดกฎหมายนั้นไม่น่ายกย่องชื่นชมแต่อย่างใด

ถ้าจะแสดงออกว่าไม่เห็นด้วย ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปทำผิดกฎหมายนี่ครับ ทางอื่นมีอีกมากมาย บางทีด้วยฐานะหรือตำแหน่งทางสังคมที่เรามีอยู่ ถึงเราอยากจะทำ แต่เราก็ไม่ควรทำ


โดย: คนทับแก้ว IP: 203.159.12.16 วันที่: 4 เมษายน 2549 เวลา:19:49:58 น.  

 
เคยได้อีเมล์ให้โอนเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือคนในฟิลิปปินส์ค่ะ แต่ไม่ได้บ้าตามน่ะค่ะ เลยรอดและไม่เห็นมันส่งมาอีกเลย และก็มีแบบส่งมาจากแบงค์ ให้เราเข้าไปอัพเดทข้อมูลด้านความปลอดภัยของบัญชี แต่มันคงไม่รู้ว่าเราไม่ได้เป็นลูกค้าแบงค์นั้น เพราะคงส่งแบบสุ่มหาเหยื่อแน่ ๆ เพราะเล่นใหใส่ข้อมูลอัพเดททั้งเลขที่บัญชี รหัส ชื่อบัญชี พออ่านก็ลบทิ้งซะเลย แต่ก็ยังมีส่งมาเรื่อย หลัง ๆ มันคงรู้ว่าไม่ได้เหยื่อรายนี้แน่ ๆ เลยไม่เห็นมันส่งมาอีกเลย

ส่วนกรณี ดร. อะไรนั่น บอกตรง ๆ ว่าไม่สมควรทำค่ะ ชื่นชมไม่ลง ไม่ชอบก็แค่เลือกกาในช่องไม่ใช้สิทธิ์ก็ได้นี่นา


โดย: JC2002 วันที่: 5 เมษายน 2549 เวลา:1:53:04 น.  

 
ผมเห็น คุณพิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ เขียนบทความเรื่อง อายะขัดขืน ของ คุณไชยันต์ฯ แล้ว เลยนำมาให้อ่าน ..... อ่านเล่น ๆ ก็ดูดี มีเหตุผล หรือ ดูดี มีชาติตระกูล .... แต่การอยู่ร่วมกันในสังคม มีอะไรที่มากกว่านั้น

หากใครเห็นด้วยกับการกระทำของ คุณไชยันต์ ก็เท่ากับเห็นว่า ต่อไปนี้ หากเห็นว่ากฎหมาย ไม่ได้เรื่อง ก็ไม่ต้องปฎิบัติตาม ขัดขืนเข้าไว้ โดยเฉพาะ ถ้าขัดขืนโดยอาจารย์ หรือ คนที่เป็นผู้นำทางสังคม จะได้รับการยกย่องว่า "ดี" หรือ ยอมรับได้

ผมอยากรู้เหมือนกันแหละว่า ถ้าเกิดมี ตาสี ยายสา ตามี ยายมา ทำแบบนี้ นิติ มธ. หรือ ใครหลายคน จะหันไปมองหรือไม่ ..... และจะมีเสียงยอมรับแบบนี้หรือไม่

คนเหมือนกัน ใต้ฟ้าเดียวกัน แต่ไม่เท่ากัน เพราะสังคมไทย มองสถานะของคนต่างกัน หากเป็นอาจารย์ หรือ มียศมีศักดิ์ ทำอะไรก็ดูดี ไม่ผิดไปหมด ...

การอยู่ร่วมกันในสังคม หากเห็นว่า กติกา ไม่ยอม ก็ต้องโต้แย้งโดยวิธีการชอบด้วยกฎหมาย ไม่ใช่ทำอะไรตามใจชอบ ... ใครจะยกย่อง คนทำผิดกฎหมาย ก็ยกย่องไป แต่ผมไม่ยกย่องด้วย .... ลองอ่านความคิดของ คุณพิชญ์ฯ ดู ผมไม่รู้จักเลย แต่ขอโทษครับ ... อ่านแล้วดูดี มีเหตุผล แต่เลือดซิบที่สีข้างอย่างไรไม่ทราบครับ ...


กระดานความคิด : อารยะขัดขืนของ อ.ไชยันต์ : บททดลองตีความ โดย พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ madpitch@yahoo.com

ปัจจุบันในสังคมไทย อารยะขัดขืน (civil disobedience) ได้รับการ "พูดถึง" และได้รับการ "ปฏิบัติจริง" ในสังคมไทยในปัจจุบัน

ผมขอจำกัดการอภิปรายไว้เฉพาะในกรณีของการลงคะแนนไม่ประสงค์จะลงคะแนน การฉีกบัตรเลือกตั้ง (และการประกันตัวเองออกไปสู้คดี) ของ รศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร หัวหน้าภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

แน่นอนว่ากรณีของ อ.ไชยันต์ (ขอย่อหน่อย) เป็นอารยะขัดขืน แต่เราเรียนรู้อะไรจากการขัดขืนของ อ.ไชยันต์ บ้าง และที่สำคัญ การขัดขืนของ อ.ไชยันต์ นั้น "อารยะ" ตรงไหน และที่สำคัญอารยะสำหรับสังคม "ไทย" อย่างไร

อ.ไชยันต์ กำลังทำอะไร : ผมตีความว่าอาจารย์กำลังสร้างบทสนทนาทางปรัชญาการเมืองพร้อมกับชี้ให้เห็นว่าความรู้กับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองนั้นไม่สามารถแยกออกจากกันได้

ในขณะที่นักกฎหมายมหาชนจำนวนหนึ่งเคลื่อนไหวต่อสู้ต่อรองกับการเลือกตั้งและระบอบทักษิณในแง่ "เทคนิค" ทางกฎหมาย เช่น อ้างว่าการจัดคูหานั้นผิด สิ่งที่ อ.ไชยันต์ กระทำคือ ปฏิบัติทางการเมืองบางอย่างที่ผสมทฤษฎีและปรัชญาทางการเมืองหลายๆ อย่างเข้าด้วยกัน (ต่อสู้ด้วยหัวและมือ มิใช่ด้วยก้น) ภายใต้สิ่งที่เรียกว่า อารยะขัดขืน

ประการแรก อ.ไชยันต์ ประกาศตนว่าเป็นพลเมืองที่มีสิทธิเลือกตั้ง และใช้สิทธิเลือกตั้ง

ประการที่สอง อ.ไชยันต์ ทำการฉีกบัตรเลือกตั้ง และเสนอว่าตนนั้นขออนุญาตประชาชนในการละเมิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยอ้างสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งในขั้นนี้มีความก้ำกึ่งว่าเป็น อารยะขัดขืน ที่สมบูรณ์หรือไม่ ด้วยว่าถ้ากฎหมายเลือกตั้งนั้นขัดกับรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายที่สูงกว่า สิ่งที่ อ.ไชยันต์ทำนั้นก็คือ การทำตามรัฐธรรมนูญ

ประการที่สาม อ.ไชยันต์ ออกแถลงการณ์ที่สำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1.ตนไม่ได้บ้า 2.สาเหตุที่ต้องละเมิดกฎหมายเลือกตั้ง และ 3.ยินดีสู้คดี อ.ไชยันต์ยืนยันว่าไม่ได้บ้า เพราะ อ.ไชยันต์ ในฐานะของดุษฎีบันฑิตทางปรัชญาการเมือง (กรีก) กำลังแสดงให้เห็นว่า ตนนั้นเต็มใจขัดกฎหมายและต้องการสู้คดีในขั้นศาล

ที่สำคัญ การขออนุญาตประชาชนและฉีกบัตรเลือกตั้งนั้น อ.ไชยันต์ได้ชี้ให้เห็นว่า การลงคะแนนเสียงนั้นไม่ใช่ทำได้แค่การกาบัตร แต่ต้องใช้อำนาจทั้งหมดของความเป็นพลเมืองที่มี (Cast your whole vote, not a strip paper merely, but your whole influence.) และสะท้อนให้เห็นว่า แม้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ คนส่วนใหญ่จะยังเลือกคุณทักษิณ แต่พลังของการขัดขืนนั้นไม่ได้อยู่ที่ว่าต้องมีความมากกว่าของจำนวน (จึงไม่ยอมให้บัตรเลือกตั้งของตน "ไหลรวม" ไปกับบัตรเลือกตั้งของเสียงข้างมาก ที่ฟอกคุณทักษิณ) หากแต่อยู่ที่ความเป็นคนกลุ่มที่อาจน้อยกว่าในเรื่องจำนวน แต่มีความเข้มข้นในทางคุณภาพ ด้วยว่ามีความรู้สึกนึกคิดที่เข้าใจว่าเหนือกฎหมายยังมี "กฎอีกชุดหนึ่ง" ที่เรารู้อยู่แก่ใจว่า เป็นเรื่องของมโนสำนึก (conscience) ของตัวเรา

อ.ไชยันต์ ถามคำถามกับการดำรงชีวิต (an unexamined life is not worth living) ถึงความขัดแย้งระหว่างความเป็นคนดี (good man) กับพลเมืองดี (good citizen) ซึ่งในแง่หนึ่งคนดีนั้น จะเป็นพลเมืองที่ดีได้ก็ต่อเมื่ออยู่ในรัฐหรือชุมชนทางการเมืองที่ดี

"ความอารยะ" ในอารยะขัดขืน จึงสำคัญไม่น้อยกว่า "การขัดขืน" ท่ามกลางกระแสคนจำนวนไม่น้อยที่สนใจอารยะขัดขืนเพียงแง่ของ "เทคนิคการต่อรองอำนาจ" หรือมองว่าเราไม่มีสิทธิในการขัดขืนกฎหมายใดๆ (คุณทักษิณมีพื้นฐานจากตำรวจ ย่อมมีความเข้าใจเรื่องกฎหมายในแบบที่คับแคบกว่า)

ความอารยะของการขัดขืนจึงอยู่ที่การขัดขืนเพื่อเปิดโปงให้เห็นความถูกต้องชอบธรรมของกฎหมายตัวนั้นๆ และ/หรือ กฎเกณฑ์ที่กำกับชุมชนทางการเมือง (constitutionality) และเราจะต้องตัดสินความชอบธรรมของกฎหมายนั้นมิใช่ด้วยว่ากฎหมาย/กฎเกณฑ์นั้นถูกกำหนดว่าชอบธรรม หรือคนหมู่มากเห็นว่าชอบธรรม

แต่ต้องอยู่ที่มโนสำนึกของเราเองในฐานะพลเมืองของชุมชนทางการเมืองที่ดี

อารยะขัดขืนของ "อ.ไชยันต์" จึงมิใช่แค่การยืนยันถึงเสรีภาพของมนุษย์ หรือแค่เรื่องของ "ความกล้าหาญ" หากแต่อารยะขัดขืนของ อ.ไชยันต์ "เป็นคุณ" กับชุมชนทางการเมือง เพราะจะเป็นตัวทดสอบว่ากฎหมายและเจตนารมณ์ของกฎหมายที่เราเชื่อถือนั้น มันเป็นกฎหมายที่ถูกกำหนดขึ้นจากมโนสำนึกของพลเมืองดีในรัฐที่ดีหรือไม่

ความเป็นอารยะของการขัดขืนจึงมิใช่อยู่ที่การให้กำลังใจ อ.ไชยันต์ หรือเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วยกับ อ.ไชยันต์

หากอยู่ที่การถามคำถามกับความเป็นอารยะ และมโนสำนึกของ "ตัวเรา" กับสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง

ในสังคมที่ "เคย" เข้าใจว่า "ความเป็นพลเมืองดี" คือการ "เชื่อฟังรัฐ" เท่านั้น ทั้งที่การเลือกตั้งเป็น "ห้วงจังหวะ" ของการ "ปลดปล่อยพลัง" ของความเป็นพลเมืองที่สามารถกำหนดชะตาชีวิตของชุมชนการเมืองได้มากกว่าการกาบัตรและหันก้น !

[//www.komchadluek.net/news/2006/04-04/pol--18132.html]


โดย: POL_US IP: 130.126.85.23 วันที่: 5 เมษายน 2549 เวลา:1:54:56 น.  

 
สำหรับ กระทู้อันนี้ เป็นกระทู้ต่อเนื่องกัน .... กับเรื่อง "อัตตา" "สถาบัน" และ "ไชยันต์" กับความไม่รู้จักว่าอะไรควรไม่ควร .....

การเป็นคนไม่รู้จัก เคารพความคิดเห็นของคนอื่น เป็นเรื่องน่ารังเกียจ ... การแสดงความเห็นที่ กระทบกระเทียบ เปรียบเปรย เหยียดหยัน แสดงว่าตนเองเก่งกว่า โดยที่ไม่มีมูลความจริง ยิ่งน่ารังเกียจเข้าไปใหญ่ หากเป็นอย่างนี้ ก็คงยากที่จะมีคนคบค้าสมาคมด้วยอย่างจริงใจครับ

ผมเอากระทู้นี้ มาโพสต์ไว้ที่นี่ เพราะเห็นว่า มีหลายความเห็นในกระทู้นี้น่าสนใจครับ ... เชิญอ่านครับ ...

เพื่อป้องกัน กระทู้หายไป ผมขอนำความเห็นของบางท่านมาลงไว้ด้วยครับ

_______________________________


หากอ.ไชยยันต์ จากจุฬาฯ สามารถฉีกบัตรได้โดยไม่ผิด เท่ากับศาลไทยอยู่ภายใต้ระบอบไชยยันต์!! ใช่มั้ยฮะ ใช่มั้ยฮะ

นักกฏหมายที่ชอบตีความเข้าข้างตัวเองนี่เค้าเรียก..นิติบริกร มาคราวนี้ก็เสนอตัวกันเต็มที่เลยอย่างนาย แก้วสรร อติโพธิ

พรบ.การเลือกตั้ง บอกไว้ชัด ๆ อยู่แล้ว ทำให้บัตรเสีย โทษจำคุก 1 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท แต่หากอ.ไชยยันต์ สามารถบิดเบือนเจตนารมณ์กฏหมายไปได้โดยการที่ มาตร 65

ครั้งนี้ถ้าทำให้ตัวเองรอดจากความผิดไปได้ล่ะก็ ข้าน้อยต้องยอมรับเลยว่า ถึงคราที่ระบบยุติธรรมของไทย ตกอยู่ภายใต้..ระบอบไชยยันต์


ปล. ระบอบทักษิณ..นี่หลีกเลี่ยงช่องโหว่ของกฏหมายใช่มั้ยฮะ แต่ระบอบไชยยันต์ เนี่ยบัญญัติไว้ว่าผิดเห็น ๆ เลยสงสัยจะหนักกว่าระบอบทักษิณอีกนะเนี่ย

จากคุณ : Mr.DogGie

__________________________________


ก็นั่นซิครับ.. กฏหมายเบี้ยว ต้องแก้ที่กฏหมาย..ตรงไหนมีช่องโหว่..ต้องหาทางอุดช่องโหว่.. ไม่ใช่ ..กฏหมายมีช่องโหว่.. แล้วช่วยกันแหวกๆๆ แหก กฏ ล้ม มัน.ซะเลย..

ใช้ระบบ ม๊อป ธิปไตย..ไม่วันไหนสักวัน ก็ต้องนองเลือด..
บ้าเลือดกันขึ้นมา .ก็ยกพวก ฟัดกัน..

คนไทยทั้งน๊าน..หาทาง รอมชอม ยุติ..แล้วหันหน้ามาคุยกันดีดี ..ดีกว่ามาอาละวาด..คุณคิดว่า..ม๊อป นี้มีความชอบธรรม..อีกม๊อป ก็คิดว่าตัวเค้ามีความชอบธรรม..

อาจารย์ จุฬา ฉีก บัตรเลือกตั้ง เป็นความชอบธรรม.. คนแก่..หูตาฟ้าฟาง รักประชาธิปไตย..ไปเลือกตั้ง ฟังผิด..ฉีกด้วยความรู้เท่าไม่ถึงกาล..ต้องไปนั่งแกร่ว..โรงพัก ถ้าไม่เป็นข่าวคงโดน จับติดคุก เด็กเดินรณรงค์ ให้ไปเลือกตั้ง..จับเข้าบ้านเมตตา..

แล้ว ตกลง..เราใช้กฏหมายฉบับเดียวกันหรือเปล่า??

จากคุณ : อภิมหาอัครบัตรผ่าน(อมยิ้ม)

มีอีกหลายความเห็นที่น่าสนใจ ... เชิญอ่านแล้วใช้สมองตรึกตรองกันเองครับ เคารพในความเห็นที่แตกต่างเสมอ


โดย: POL_US (POL_US ) วันที่: 5 เมษายน 2549 เวลา:3:15:56 น.  

 
ก็แค่คนทำผิดกฎหมายคนนึง


โดย: praphrut608 วันที่: 5 เมษายน 2549 เวลา:5:35:29 น.  

 
เดี๋ยวมาอีกรอบนะครับท่านพี่ -_-"


โดย: BAYROCKU วันที่: 5 เมษายน 2549 เวลา:11:18:02 น.  

 
เอาหละ

ไหนๆก็ขอแวะเข้ามาตอบกระทู้พี่พลเสียหน่อย

สำหรับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ผมเองมิอาจที่จะไปตัดสินได้ว่ามันผิด ถูก อย่างเบ็ดเสร็จแต่อย่างใด หากแต่ผมอยากจะอยู่บนจุดยืนที่ว่า เข้าใจการกระทำของอาจารย์เค้านะ และในอีกทางหนึ่ง มันก็ผิดกฏหมายกันเห็นๆ

ถ้าถามผม คิดว่าการต่อต้านทำได้หลายวิธีการครับ ไม่จำเป็นต้องไปฉีกบัตรเลือกตั้งก็ได้ แต่เท่าที่อ่านๆ กระทู้ในพันทิปคิดว่า อาจารย์คงมองอะไรข้ามชอตไปไกลกว่านั้นมาก ถึงขั้นใช้ตัวเองเป็นหมากตัวหนึ่งในการเปิดโปงระบอบทักษิณ อืมๆ คนจริง กระทิงแดงเลยนะเนี่ย นับถือๆ

เอาล่ะ มาถึงประเด็นที่ผมอยากจะเสนอ

ที่ผมกลัวอย่างเดียวก็คือสิ่งนี้มันจะกลายเป็นบรรทัดฐานไปสิครับ แม้ว่าตัวบทกฏหมายมันอาจจะสร้างความอยุติธรรมในสังคมไว้บ้าง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เราจะแหกตามอำเภอใจ ถ้าผมขอหล่ะก็ ขอให้การ "ขัดขืน" ครั้งนี้เป็นเพียงมาตรการฉุกเฉินเท่านั้นพอครับ หากใช้กันเป็นเรื่องเป็นราว โอ้ มันส์ครับ 5555


และที่อยากทิ้งเอาไว้ก็คือ ไปเห็นการโต้เถียงที่ไม่ค่อยจะ work เท่าไหร่นักใน pantip ผมคิดว่าสังคมไทยอ่อนด้อยในเรื่องการยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างมากนะ พี่เค้าเองก็บอกแล้วว่าเคารพทุกความเห็น และทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิดต่าง แต่น้องเค้าก็นะ กัดไม่ปล่อยจริงๆ เหอ เหอ เถียงน่ะทำกันได้ครับ ตั้งอยู่บนพื้นฐานเหตุผลสิครับ ไม่ใช่ไปอ้างข่มกันว่าเรียนรัฐศาสตร์มากน้อย กี่ตัว กลายเป็นเรื่องในเชิงปริมาณไปซะงั้น

บุญรักษา ชีวาลั๊ลลา


โดย: gelgloog IP: 221.128.96.196 วันที่: 5 เมษายน 2549 เวลา:14:09:40 น.  

 
สวัสดีครับทุกท่าน

ผมบังเอิญ ไปอ่านเจอโคลงที่แต่งโดย คุณ สิคีรียา ตั้งแต่ 25 ก.พ. 49 ... เห็นว่า เข้าสถานการณ์ที่ผม โดนด่าว่า รู้งู ๆ ปลา ๆ โดยท่านผู้เจริญ ที่เคยเข้ามาใน Blog ผมบ่อย ๆ .... อันเนื่องมาจากการตอบกระทู้ เรื่องคุณไชยันต์ ที่ฉีกบัตรเลือกตั้ง ... ดีครับ เลยหยิบมาปลง...

*นาคีมีพิษเพี้ยง สุริโย
เลื้อย บ่ ทำเดโช แช่มช้า
พิษน้อยหยิ่งยะโส แมงป่อง
ชูแต่หางเองอ้า อวดอ้างฤทธี

*ฝูงชนมี หยิบน้อย กำมือ
อวดเอ่ยภาพตนคือ ทั่วหล้า
ฮึกเหิมโอ่อวดถือ ปกาศิต
มิเกรงบาปหยาบช้า กล่าวถ้อยมดเท็จ

*คนโตมักอ่อนน้อม โอนมา
เย็นฉ่ำจิต วาจา ลูบไล้
สงบเงียบนิ่งเวลา ทำกิจ
คนโง่ประมาทไซร้ หยิ่งเหยียดคนดู

*คนใดใจอ่อนด้อย อ่อนแอ
เกรงถูกคนรังแก หวาดซ้ำ
มักโอ่ศักดาแล ทำเก่ง
ปืดจุดอับตนย้ำ แกร่งกล้าจำแลง

*ฉันใดเปรียบเทียบแล้ว ฝูงชน
ขาดเหตุขาดผลจน ดั่งบ้า
กำลังหยิบมือคน คุยโอ่
แอบอ้างชนทั่วหน้า ว่าล้วนหนุนเนือง

*แมงสัตว์เปรียบสัตว์เลื้อย คลานดิน
แมงป่องสิ หาญบิน อวดจ้าน
นาคียิ่งธรณินทร์ แอบสงบ
เฉกกลุ่มคนเรือนล้าน พิษร้ายยังเฉย



ขออโหสิครับ ท่านผู้เจริญ.......


โดย: POL_US IP: 12.221.102.112 วันที่: 5 เมษายน 2549 เวลา:15:01:19 น.  

 
อืมๆๆ ตามนั้นเลยครับ
เป็น blog ที่เปี่ยมด้วยสาระจริงๆ ...แต่ของผม..มันช่าง...


โดย: superjack วันที่: 5 เมษายน 2549 เวลา:16:37:05 น.  

 
ผมจำไมได้แล้วล่ะครับว่าเคยไปโพสต์ไว้ที่ไหน T T กระทู้อาจารย์จุฬา แต่ยังไงก็ยังคิดแบบเดิมๆคือ ไม่มีอะไรอยู่เหนือกฎหมายได้ครับ
ขอบคุณที่เข้าไปเยี่ยมนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ


โดย: Markabyte วันที่: 5 เมษายน 2549 เวลา:23:06:25 น.  

 
......ถ้าเป็น ตาสี ยายสา ตามี ยายมา ทำแบบนี้ หลายคน จะยังชื่นชม หรือ สนับสนุน หรือไม่ ... พวกสนับสนุน ถามใจตัวเอง ไม่ต้องตอบคำถามผม ... ขออย่าโกหก ตัวเองก็พอ ... นอกจากผมจะไม่ยกย่อง แล้วผมยังขอประณามการกระทำผิดของคุณไชยันต์ ด้วยครับ ...
ชื่นชมจริงๆครับ...สังคมที่ไม่เคารพกฎกติกา..จะสงบสุขได้อย่างไร


โดย: Peak (DheKim ) วันที่: 21 เมษายน 2549 เวลา:18:32:18 น.  

 
ฎีกาปี"28ตัดสิน ฉีกบัตรเลือกตั้งไม่ผิด

คดีแดงที่ 2338/2528 อัยการ โจทก์ นายเกรียงศักดิ์ แซ่ตั้ง จำเลย

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำให้บัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ชำรุดเสียหาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2522 มาตรา 74 จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นสอบถามโจทก์ โจทก์แถลงว่าบัตรเลือกตั้งที่จำเลยฉีกนั้นเป็นบัตรที่ยังไม่ได้กาเครื่องหมาย

ศาลชั้นต้นเห็นว่า การทำให้ชำรุดหรือเสียหายซึ่ง "บัตรเลือกตั้ง" อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2522 มาตรา 74 นั้น จะต้องเป็นการกระทำต่อบัตรเลือกตั้งที่ผู้เลือกตั้งได้ใช้สิทธิลงคะแนนแล้ว การที่จำเลยฉีกบัตรเลือกตั้งที่จำเลยยังมิได้กาเครื่องหมายใช้สิทธิลงคะแนนให้ชำรุดเสียหาย จึงไม่เป็นความผิด พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2522 มาตรา 74 บัญญัติว่า "ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำด้วยประการใดให้บัตรเลือกตั้งชำรุดหรือเสียหาย หรือให้เป็นบัตรเสีย หรือกระทำด้วยประการใดแก่บัตรเสียให้เป็นบัตรที่ใช้ได้" บทมาตราดังกล่าวนี้บัญญัติไว้ในหมวด 8 ว่าด้วยเรื่องการตรวจและการรวมคะแนน จึงเป็นเรื่องหลังจากการลงคะแนนเลือกตั้งแล้ว และเมื่อพิจารณาถึงความหมายของคำว่า "บัตรเลือกตั้ง" ย่อมต้องหมายถึงบัตรเลือกตั้งที่ผู้เลือกตั้งได้ลงคะแนนแล้วและนับคะแนนได้ เจตนารมณ์ของกฎหมายมุ่งประสงค์ที่จะห้ามมิให้บุคคลใดกระทำด้วยประการใดแก่บัตรเลือกตั้ง ที่ผู้เลือกตั้งได้ใช้สิทธิลงคะแนนแล้วเท่านั้น อันจะทำให้กระทบกระเทือนถึงผลของการนับคะแนนหรือผลของการเลือกตั้งไม่รวมถึงบัตรเลือกตั้งที่ผู้เลือกตั้งยังมิได้ใช้สิทธิลงคะแนน การที่จำเลยฉีกบัตรเลือกตั้งที่จำเลยยังไม่ได้ลงคะแนนให้ชำรุดเสียหาย จึงไม่เป็นความผิด

พิพากษายืน

ลงนามโดย นายอำนวย อินทุภูติ นายดำริ ศุภพิโรจน์ นายสมศักดิ์ เกิดลาภผล องค์คณะ

หน้า 2

//www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01p0104240449&day=2006/04/24


โดย: POL_US วันที่: 25 เมษายน 2549 เวลา:6:34:44 น.  

 
อืมไม่รู้มาตอบช้าไปไหม
ผมเห็นด้วยกับพี่พลในเรื่องการบังคับใช้กฏหมายเกี่ยวกับความผิดอาญาทางอิเลคโทรนิคนะครับ
แต่ผมก็ยังมองเห็นช่องโหว่กม.ไอทีบ้านเรา(ดูจากร่าง)ว่าดูเข้มแข็งดีนะครับถึงขนาดว่าการแฮกนี่มีโทษประหารชีวิตแต่ผมว่ามันเกินไปหน่อยหรือเปล่าก็ไม่รู้
ถึงแม้จะเป็นภัยทางด้านเศรษฐกิจแต่ผมยังมองไม่ออกว่าจะสามารถทำให้เกิดอัันตรายต่อชีวิตได้ยังไง(อันนี้ไม่เข้าใจเรื่องว่าภัยทางเศรษฐกิจของไทยมีโทษถึงประหารชีวิตแล้วหรือ)น่าจะเอาหลักม.แพ่งมาปรับมากกว่าเอาอาญามานะครับ
แต่ถึงจะพูดอย่างนี้ก็ไม่ได้คิดจะปกป้องhackerแต่พูดกันตามเจตนารมณ์เลยน่ะ

อีกเรื่องคือคนที่มีเครื่องมือบางประการพวก exploit networkscan ซึ่งสมารถใช้hackได้เนี่ยเขามีโทษโหดร้ายมากจำคุกกี่ปีไม่ทราบจำไม่ได้แต่ผมว่ามันเกินไปจริงๆนะ
เพราะอย่างnetwork adminทั้งหลายจำเปนต้องใช้เครื่องมือเหล่านี้แม้แต่ในการเรียนด้านnetwork programming ก็ต้องใช้ซึ่งผมเหนว่ามันมิได้ป้องกันไม่ให้เป็นความผิดในวิชาชีพเหล่านี้เลย

และอีกประการคือผมไม่เข้าใจอีกแล้วอย่างเรื่องsoftware ด้าน network securityเนี่ยมันเทียบกับอาวุธสงครามเลยหรอครับมันไม่ใช่ว่ามีของพวกนี้แล้วจะทำลายใครได้นะครับมันต้องใช้ความรู้ค่อนข้างจะสูงพอสมควรในการใช้งานดังนั้นหากใครมีมันไม่ใช่ขนาดว่าปืนลั่นไกรปั้มคนตายปุ้บซะที่ไหน
แล้วถ้าหากมีคนประสงค์ไม่ดีนำไปไว้ในร้านอินเตอร์เนตคาเฟ่จะเป็นยังไง

เรื่องทั้งหมดที่เล่ามาแค่ส่วนน้อยๆในด้านช่องโหว่ผมว่าคนร่างกฏหมายน่าจะเอาคนในวิชาชีพมาประมวลความคิดเยอะๆหน่อยแล้วก็หลักเจตนารมณ์ควรจะมีให้เหมือนกับกฏหมายรุ่นก่อนๆเขาไม่ใช่การลอกแปะแบบนี้

สรุปคือการลงโทษต้องทำจริงจังแต่โทษต้องกำหนดตามหลักกฏหมายทั่วไปด้วยว่าเหมาะสมไหมและด้านไอทีผมว่าเป็นกฏหมายตัวนึงที่มีความอ่อนไหวพอๆกับกม.อื่นๆ
ต้องพิจารณาเยอะมาก แต่เท่าที่สังเกตรัฐบาลชุดนี้จะมองอินเตอร์เนตเป็นของเลวร้ายไปซะหมดทั้งเรื่องร้านอินเตอร์เนต/เกมออนไลน์/กระทู้อินเตอร์เนต
ซึ่งไม่ควรให้อารมณ์หรือทัศนะคติไม่ดีส่วนบุคคลมามีผลต่อการร่างกฏหมายเลยจริงๆ
ปล.พูดในฐานะคนที่ทำงานทั้งด้านไอทีและกฏหมายครับ


โดย: violator (violator ) วันที่: 9 สิงหาคม 2549 เวลา:16:59:24 น.  

 
อืมไม่รู้มาตอบช้าไปไหม
ผมเห็นด้วยกับพี่พลในเรื่องการบังคับใช้กฏหมายเกี่ยวกับความผิดอาญาทางอิเลคโทรนิคนะครับ
แต่ผมก็ยังมองเห็นช่องโหว่กม.ไอทีบ้านเรา(ดูจากร่าง)ว่าดูเข้มแข็งดีนะครับถึงขนาดว่าการแฮกนี่มีโทษประหารชีวิตแต่ผมว่ามันเกินไปหน่อยหรือเปล่าก็ไม่รู้
ถึงแม้จะเป็นภัยทางด้านเศรษฐกิจแต่ผมยังมองไม่ออกว่าจะสามารถทำให้เกิดอัันตรายต่อชีวิตได้ยังไง(อันนี้ไม่เข้าใจเรื่องว่าภัยทางเศรษฐกิจของไทยมีโทษถึงประหารชีวิตแล้วหรือ)น่าจะเอาหลักม.แพ่งมาปรับมากกว่าเอาอาญามานะครับ
แต่ถึงจะพูดอย่างนี้ก็ไม่ได้คิดจะปกป้องhackerแต่พูดกันตามเจตนารมณ์เลยน่ะ

อีกเรื่องคือคนที่มีเครื่องมือบางประการพวก exploit networkscan ซึ่งสมารถใช้hackได้เนี่ยเขามีโทษโหดร้ายมากจำคุกกี่ปีไม่ทราบจำไม่ได้แต่ผมว่ามันเกินไปจริงๆนะ
เพราะอย่างnetwork adminทั้งหลายจำเปนต้องใช้เครื่องมือเหล่านี้แม้แต่ในการเรียนด้านnetwork programming ก็ต้องใช้ซึ่งผมเหนว่ามันมิได้ป้องกันไม่ให้เป็นความผิดในวิชาชีพเหล่านี้เลย

และอีกประการคือผมไม่เข้าใจอีกแล้วอย่างเรื่องsoftware ด้าน network securityเนี่ยมันเทียบกับอาวุธสงครามเลยหรอครับมันไม่ใช่ว่ามีของพวกนี้แล้วจะทำลายใครได้นะครับมันต้องใช้ความรู้ค่อนข้างจะสูงพอสมควรในการใช้งานดังนั้นหากใครมีมันไม่ใช่ขนาดว่าปืนลั่นไกรปั้มคนตายปุ้บซะที่ไหน
แล้วถ้าหากมีคนประสงค์ไม่ดีนำไปไว้ในร้านอินเตอร์เนตคาเฟ่จะเป็นยังไง

เรื่องทั้งหมดที่เล่ามาแค่ส่วนน้อยๆในด้านช่องโหว่ผมว่าคนร่างกฏหมายน่าจะเอาคนในวิชาชีพมาประมวลความคิดเยอะๆหน่อยแล้วก็หลักเจตนารมณ์ควรจะมีให้เหมือนกับกฏหมายรุ่นก่อนๆเขาไม่ใช่การลอกแปะแบบนี้

สรุปคือการลงโทษต้องทำจริงจังแต่โทษต้องกำหนดตามหลักกฏหมายทั่วไปด้วยว่าเหมาะสมไหมและด้านไอทีผมว่าเป็นกฏหมายตัวนึงที่มีความอ่อนไหวพอๆกับกม.อื่นๆ
ต้องพิจารณาเยอะมาก แต่เท่าที่สังเกตรัฐบาลชุดนี้จะมองอินเตอร์เนตเป็นของเลวร้ายไปซะหมดทั้งเรื่องร้านอินเตอร์เนต/เกมออนไลน์/กระทู้อินเตอร์เนต
ซึ่งไม่ควรให้อารมณ์หรือทัศนะคติไม่ดีส่วนบุคคลมามีผลต่อการร่างกฏหมายเลยจริงๆ


โดย: violator (violator ) วันที่: 9 สิงหาคม 2549 เวลา:17:04:16 น.  

 
ขอบคุณครับทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียน โดยเฉพาะความเห็นของท่านน้อง Violator ขอบคุณครับ



โดย: POL_US วันที่: 8 มกราคม 2550 เวลา:1:40:28 น.  

 
ถามว่าวันเลือกตั้งประเทศไทยเมื่อไรครับใครรู้ช่วยตอบที


โดย: อุ๋ม IP: 222.123.85.192 วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:8:20:13 น.  

POL_US
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 82 คน [?]




คลิ๊ก เพื่อ Update blog พ.ต.อ.ดร. ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ ได้ที่นี่
https://www.jurisprudence.bloggang.com






รู้จักผู้เขียน : About Me.

"เสรีภาพดุจดังอากาศ แม้มองไม่เห็น แต่ก็ขาดไม่ได้ "










University of Illinois

22 Nobel Prize & 19 Pulitzer Prize & More than 80 National Academy of Sciences (NAS) members







***คำขวัญ : พ่อแม่หวังพึ่งพาเจ้า

ครูเล่าหวังเจ้าสร้างชื่อ

ชาติหวังกำลังฝีมือ

เจ้าคือความหวังทั้งมวล



*** ความสุข จะเป็นจริงได้ เมื่อมีการแบ่งปัน :

Happiness is only real when shared!














ANTI-COUP FOREVER: THE END CANNOT JUSTIFY THE MEANS!






Online Users


Locations of visitors to this page
New Comments
Friends' blogs
[Add POL_US's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.