A ........ Z
Group Blog
 
All blogs
 
Nanase Futatabi นานาเสะสาวน้อยพลังจิต (รุ่นที่สี่)


ช่วงนี้ผู้เขียนรู้สึกแหน่งหน่ายกับข่าวสารบ้านเมืองไทยเมืองนี้สักเหลือเกิน
เบื่อตรงที่จะดูคล้ายว่า บรรดาข่าวจะเล่นกับประเด็นสมมติฐานในขั้นร้ายแรงสุดๆ
อันเป็นการคาดเดาสถานการณ์แบบหยอดนิดผสมหน่อย เติมรสชาติอีกนิด
แล้วผลสรุปที่เหลือ ก็เป็นเพียงปรากฎการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นแล้วก็ผ่านเลยไป
แต่เลยไม่ได้ไกล สักพักมันก็มีปรากฎการณ์ในรูปแบบยุทธศาสตร์ใหม่
ที่ให้ข่าว ได้กับมาเล่นในประเด็นที่ชวนวือหวาและดึ้งดึ๋ง
ให้เลี้ยววกกลับมา พอให้คาดเดาสถานการณ์ อย่างมีประเด็นพอให้เล่นเป็นข่าว
ทั้งๆที่ สำหรับผู้ถูกสัมภาษณ์บางคน ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับความเกี่ยวข้อง
หรือเชื่อมโยงกับความเป็นข่าว
เป็นแต่เพียงที่ว่า ขอให้ได้เอาไมค์ไปยื่นที่ปาก ให้ได้ร่ายรำพรรณนา
เหมือนกับว่าตนเองเป็นผู้คุมสถานการณ์ สักพักก็ได้ช่องหน้าข่าวด้านใน
ที่มีความยาวอีกตั้งหลายบรรทัด ว่าแล้วผู้เขียนจึงต้องขอยื่นใบลา
ออกสู่นอกโลกแห่งความเป็นจริง เข้าหาโลกพระธรรมจากหมดซีรีย์นี้อีกครั้ง
และที่สำคัญ ขอไปแตะกับซีรีย์ประเภทหลุดจากโลกแห่งความเป็นจริงไปสักหน่อย
ไม่ได้รังเกียจ แต่ก็ติดมีรังงอนสักเล็กน้อย ตามประสาโลกความจริง
ที่บางกลุ่มชอบไปแตะสัญลักษณ์ ให้มันสะเทือนถึงคนบนโน้น





เลยได้ไปชมซีรีย์ที่ชื่อ Nanase Futatabi ของค่าย NHK อีกวาระหนึ่ง
ซึ่งบอกตามตรงเลยว่า ที่เผลอไปแตะเข้า ก็เพราะหน้าปกของซีรีย์
ที่แสนจะจงใจโคสต์อัพแต่เพียงใบหน้าของหนูนางเอกแอบเหงา(แล้วเขาเป็นใคร)
ที่ดูไกลๆแบบสูดยากันยุงแล้วแอบหนีไปขึ้นรถไฟเหาะ ตีลังกาม้วนสองรอบ
เกือบนึกไปว่า เป็นนางเอกคนเดียวกันกับคนที่เล่นหนังเกาหลีเรื่อง
My Sassy Girl ซึ่งก็คือ เจ๊จอน จี ฮุน ที่ผู้เขียนแอบปลื้มแต่ไม่กล้าบอกโดยตรง
เพราะกลัวจะผิดใจกับนางเอกสาวยุ่นอีกหลายคน ที่อาจจะยังคงอินประวัติศาสตร์
ตั้งแต่หลังสมัยสงคราม ด้วยสองประเทศนี้ลึกๆแล้ว เขาก็กินแหนงแคลงใจกันอยู่
อย่างว่า ก็ด้วยทั้งสองประเทศต่างไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตำราบังคับในวิชาปวศ.
จนหลังจากที่ได้ถางตาและอ่านประวัติอย่างคร่าวๆ จึงพอรู้แจ้งเห็นชาติว่า
น้องหนูคนนี้ เธอเป็นนางเอกหน้าใหม่ที่ผู้เขียนไม่เคยคุ้นหน้า
ก็พอๆกับทีมเหล่านักแสดงเกือบทั้งหมดที่มียถากรรมไม่ต่างจากนางเอกเขา
กล่าวคือ ไม่เคยผ่านหน้าคาตาให้ผู้เขียนได้คารวะในฝีมือ
ซึ่งถ้ามองไปอีกทาง ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะนอกจากจะได้ไม่ติดตา
ในบทบาทซีรีย์จากเรื่องก่อนๆ ให้ผู้เขียนต้องทำการฟอรแมทสมอง-ท่องมโน
เพื่อให้ลืมความทรงจำ ขณะเดียวกันความเป็นหน้าใหม่ ยิ่งต้องสำแดงฤทธิ์เดชและ
กำลังภายในส่วนตัวแบบไม่ต้องให้ผู้กำกับ ต้องมาเกรงอกเกรงใจในบารมีที่หวังจะเชิดชู
เพื่อให้ซีรีย์ในการกำกับของตัว มีเรตติ้งคนดูบนพื้นฐานของการขายหน้าตาจากเหล่านักแสดง





พล็อกของ Nanase Futatabi ถือเป็นพล็อกที่ดูจะธรรมดาตามแบบมาตราฐาน
ของซีรีย์แนวปรากฎการณ์พิเศษเหนือธรรมชาติ ตามประสาเหล่าปถุชนผู้มีอำนาจ
วิเศษอยู่ในตัวพร้อมๆกับการไขปริศนาบางอย่าง ที่รอการคลี่คลายจากปมอดีตที่ซับซ้อน
และรอการเฉลยจากใครบางคน เรื่องราวค่อยๆดำเนิน
โดยมุ่งเจาะจงให้ตัวละครหลักหนึ่งเดียว คือ นานาเสะ สาวน้อยวัย ๑๙
ที่ดูจะเป็นเจ้าหน้าที่หญิงในบ้านพักคนชราที่มีวิถีชีวิตปกติประจำวัน
ไปมาลาอาริกาโตะตั้งแต่เช้าจรดค่ำ จนกระทั่งวันหนึ่งขณะที่กำลังเดินทางกลับ
โดยรถไฟ นานาเสะก็ได้พบกับเด็กชายประหลาดที่มีชื่อว่า อากิระ
ทั้งสองต่างมีพลังวิเศษเหมือนกันหนึ่งอย่าง คือ การอ่านจิตใจผู้คนโดยรอบได้
แบบไม่ต้องพึ่งการกด BB เพื่อให้อีกฝ่ายรู้ความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง
แต่เดิมนานาเสะก็หาได้เป็นคนที่มีพลังวิเศษนี้แต่กำเนิด
แต่เกิดขึ้นในช่วงที่แม่ของเธอใกล้เสียชีวิต ซึ่งเป็นช่วงที่
แม่ของเธอไม่อาจจะปริปากบอกอะไรในระยะสุดท้ายของชีวิต เพื่อเป็นการสั่งลา
จึงเป็นพลังวิเศษ ที่ไม่รู้จะเรียกว่า "พร" หรือ "คำสาป"
เธอจึงเก็บความสงสัยนี้ไว้และมิได้เพ่งพายให้บุคคลอื่นใดให้รับทราบ
หรือกรอกเป็นความสามารถพิเศษในช่องสมัครงาน
นับแต่วันที่เธอรู้ว่าพลังนี้จะเป็นส่วนหนึ่งไม่ต่างจากอวัยวะภายในที่จะติดตัวเธอจนวันตาย





After all ,the scientists only saw us a research experiments.
Paranormal abilities are unconsciously restrained by the morals of the
soiciety in which a person lives.

(อย่างไรก็ตาม พวกนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายแหล่ต่างก็มองพวกเราเพียงแค่
วิจัยเชิงประสบการณ์ ความพิเศษเหนือธรรมชาติเป็นเพียงส่วนที่กักขังของจิตไร้สำนึก
โดยหลักศีลธรรมในสังคม ที่ปถุชนพึงอาศัยอยู่)

In a society where violence is forbidden a person is not
capable of hurting others by using his ability.


(ในสังคมที่ความรุนแรงถูกปิดซ่อน ไม่ให้ถูกปลดปล่อยเพื่อ
ไปทำร้ายแก่ผู้อื่น จากพลังอำนาจที่พวกเขาแฝงเร้นเอาไว้)



การได้พบกับเด็กชายที่ชื่อ อากิระ ถือเป็นการตอบโจทย์ความสงสัยส่วนตัว
ที่ว่าในโลกช่างกว้างใหญ่นัก จะมีใครบางน้อ ที่มีปรากฎการณ์ในพลังวิเศษ
ที่ยากจะอธิบายเหมือนกันกับเธอ การส่งโทรจิตไปมาระหว่างกันบนรถไฟ
ได้สร้างมิตรภาพความผูกพันแบบใหม่ของคนต่างวัย ที่จ้องหน้าก็ขำกันเอง
จนผู้โดยสารร่วม ต่างก็รู้สึกมึนงงกับพฤติกรรมของเจ้าสองคนนี้ แล้วอยู่ๆ
ก็มีชายหนุ่มนิรนามกระโจนพรวดเข้ามาในขบวนรถไฟ ปรี่เข้ามาหา
ตัวนานาเสะ บอกให้เธอรีบออกจากรถไฟขบวนนี้โดยทันที
เพราะไม่กี่นาทีข้างหน้า รถไฟขบวนนี้จะประสบกับอุบัติเหตุดินถล่มครั้งใหญ่
และก็เป็นจริงอย่างที่ชายนิรนามคนนั้นได้กล่าวอ้าง ครั้งนั้นมีผู้รอดชีวิต
คือ นานาเสะ เด็กน้อยอากิระ และชายนิรนาม ส่วนผู้โดยสารท่านอื่นๆ
แม้จะได้รับการแจ้งเตือนในครั้งนั้นไม่ต่างกัน แต่ก็หาได้มีใครที่จะยอมเชื่อในสิ่ง
ที่หนุ่มนิรนามคนนั้นพูดแม้แต่น้อย ซึ่งภายหลังจึงทราบว่าชายหนุ่มนิรนาม
มีนามว่า โคสุเกะ เป็นชายผู้ซึ่งเห็นภาพในอนาคตกาล และหนึ่งในภาพนั้น
ที่สร้างความกังวลใจเขาตลอดมา คือ ใบหน้าของนานาเสะ
จนเขาต้องถ่อดั้งด้นตามหาความจริง จนมาได้พบกับนานาเสะในที่สุด
แค่ตอนแรกเรื่องราวก็ทำท่าว่า จะสนุกและเต็มไปด้วยปริศนาต่างๆมากมาย
ที่ทรมานหัวอ่านดีวีดีส่วนตัวเสียแล้วสิ





เหตุการณ์ครั้งนั้น เหมือนเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตในมรสุมครั้งใหญ่
ให้กับตัวนานาเสะเอง เพราะนอกจากจะถูกตั้งข้อสงสัยในการก่อวินาศกรรม
จากหน่วยงานของกรมตำรวจแล้ว แม้แต่บ้านพักคนชราที่เธอเคยได้รับการปฏิบัติ
เป็นอย่างดีจากหน่วยงานและคนไข้ ก็มีสายตาที่เปลี่ยนไปและตั้งข้อระแวง
ไม่ต่างจากเธอเป็นแม่มดหรือปีศาจ จำให้เธอต้องลาออกจากงานที่ต่างจังหวัด
เข้ามาหางานในเมืองกรุงกับเพื่อนสนิท และเริ่มต้นชีวิตใหม่ในร้านบาร์เล็กๆ
ในฐานะลูกจ้าง ที่ชื่อแสนจะเข้ากับเนื้อเรื่อง ว่า Question
เป็นบาร์ที่ไม่ได้จ้างคณะตลกมาเล่นแบบที่เรามักจะได้เห็นตามร้านหมูกะทะทั่วไป
เพราะบาร์แห่งนี้ทุกวันเขามีการแสดงมายากล และหนึ่งในนักมายากลก็เป็นบุคคลที่มีพลังวิเศษ
เหนือมนุษย์ อย่าง เฮนรี แต่พลังที่ว่าไม่ได้เหมือนกับนานาเสะหรอก
เพราะไอ้หมอนี้มันสามารถเคลื่อนย้ายสสารวัตถุ แต่ไม่อาจเคลื่อนย้ายหัวใจนานาเสะ
ให้มาหลงรักตนเหมือนที่ตนแอบหลงรักได้ เพราะหัวใจของนานาเสะ
ถูกเทใจให้กับโคซุเกะตั้งแต่แรกพบ แถมโคซุเกะก็รับจ๊อบเวียนสายเล่นมายากล
ในที่ที่นานาเสะทำรับใหม่ ณ บาร์เเห่งนี้เช่นกัน





l can only use my powers around you .That means my power
is only meant to be used to save you .Right?

(ฉันสามารถใช้พลังวิเศษนี้เพื่อปกป้องเธอ พลังนี้แหละ
ที่จะดูแลเธอเป็นอย่างดี เชื่อฉันสิ)


ขณะเดียวกัน ก็มีผู้ที่มีพลังจิตคนอื่นๆ ได้เข้ามาในชีวิตของนานาเสะ
แต่ละคนก็เข้ามาพร้อมที่จะคลี่คลายปริศนาในอดีตทั้งในส่วนของตนเอง
และในตัวของนานาเสะ อีกทั้งตัวนานาเสะเธอก็เป็นตัวส่งเสริมในการ
ปลุกพลังวิเศษที่หลบซ่อนของแต่ละคน ไม่เว้นแม้แต่ดร.สาวฟุจิโกะ
คนที่เคยร่วมทำงานกับคุณพ่อของนานาเสะมาก่อน
(คนนี้มาเด่นเอาเรื่อยๆ แสดงโดย มิซูโนะ มิกิ ที่เล่นใน
Beatiful life และ แขกรับเชิญ ใน Galileo ตอนที่ ๕) ปลุกดี
แบบที่ไม่ต้องใช้แบงค์ม่วงแบงค์เทา เพื่อมาปลุกกระตุ้นเหมือนกับในบางม็อบ
และดูเหมือนว่าคนอื่นๆจะพยายามใช้ชีวิตของตนเองปะปนร่วมกับคนปกติทั่วไป
จะยกเว้นก็ในตัว มาซาฮิโระ ผู้ซึ่งมีจักษุทิพย์ มองทะลุภายในได้ทุกสรรพสิ่ง
และพยายามใช้พลังวิเศษเพื่อตักตวง เอาผลประโยชน์จากความทุกข์ยากของผู้อื่น
แต่นั้นก็ทำให้สมาชิกผู้มีพลังจิต ที่เคยอยู่กันกระจัดกระจาย
เกิดการรวมกลุ่มโดยมีศูนย์กลางทั้งหมด อยู่ที่ตัวนานาเสะ
ทั้งในฐานะความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเกินคำจะบรรยาย (เดี๋ยวมันจะทิ่มตาเอา)
และในฐานะบุตรีซึ่งผู้เป็นพ่อในอดีต เคยทำอยู่ในหน่วยงาน
ด้านการวิจัยศึกษาผู้มีพลังวิเศษเหนือธรรมชาติ ที่จะไปเกี่ยวพันกับ
ตัวละครผู้มีพลังวิเศษทั้งหมดในปัจจุบัน ว่าเขาเคยมีความเป็นมาเป็นไปเช่นไร
ถึงได้มีความเหมือนที่แตกต่างจากคนบนท้องถนนทั่วไปตามกิจวัตร
และเป็นปริศนาต่อการอัตวินิบากกรรมเพื่อชดใช้ความผิดว่าจริงตามสมว่ารึไม่
และนั่น ก็ทำให้การพัฒนาในอำนาจวิเศษในตัวของนานาเสะก็ค่อยๆผุดขึ้น
เป็นเงาตามตัว ทั้งการควบคุมจิตใจคนและการย้อนเวลา ซึ่งในทุกๆการเคลื่อนไหว
ของคนกลุ่มนี้ มีผลต่อการจับตาทั้งในส่วนของหน่วยวิจัยในพลังเหนือธรรมชาติ
และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่สามารถหาคำอธิบายในรูปแบบทางสำนวนทางคดีได้





ถ้าจะให้ถามว่านักแสดงคนไหน พอจะมีเค้าให้คนไทยได้พอรู้จักบ้าง
ในสายตาของผู้เขียนแล้ว ก็เห็นจะเป็น ตัวพ่อของนานาเสะ ที่เล่นโดย
ลุงฟุมิโยะเจ้าเก่าเจ้าประจำ กับ เจ้าหนุ่มพลังสสารเคลื่อนเฮนรี
ที่เล่นโดย กากุ โทโมฮิโระ ไอ้หนุ่มเสียความทรงจำในหนัง Hana and Alice
เด็กไม่ดีใน All About Lily Chou-Chou และเด็กกลัวผีใน Ju-on: The Curse 2
และยังเจอไอ้หมอนี้ในซีรีย์ในฐานะแขกรับเชิญ ใน ROOKIES ตอนท้ายๆ
แต่นักแสดงชายที่เล่นได้เด่นกว่า เพราะมาฐานะฮีโร่แมนของเรื่อง
อย่างไอ้หนุ่มนิรนามโคซุเกะ ที่ดูไกลๆแบบยังมีสารยากันยุงตกค้าง
นึกเอาว่าเป็นนักสืบกาลิเลโอมาซาฮารุ ด้วยโครงหน้าและทรงผมคล้ายๆกัน
ที่ถ้ามาซาฮารุเล่นแง่ ในภาคต่อของนักสืบกาลิเลโอเขา
อย่างน้อยๆผู้สร้าง ก็ยังพออุ่นใจ ไม่ต้องมาโคลนนิ่งเพาะเนื้อเยื่อ
โดยเข็นไอ้หมอนี้ ขึ้นมาทาบรัศมีแทนได้ เพราะวิธีการเล่นก็ดูจะเข้ากับใคร
ได้ไม่ง่ายนักเช่นกัน แต่จริงๆแล้ว ไอ้หมอนี้ มันมีชื่อว่า ชิโอยะ ชุน
ถ้าไม่อ่านประวัติ ก็นึกไม่ออกว่าเคยเล่นซีรีย์ที่ผู้เขียนเคยผ่านตามาแล้วใน
หมอโกโตะภาคแรกและ ซีรีย์เรื่อง Byakuyako
บารมีความเป็นพระเอกห่อหุ่มในเรื่องนี้ น่าจะมีผลสืบเนื่องในเรื่องต่อๆไปอยู่ไม่น้อย
และที่สำคัญกว่าอื่นใดในทั้งหมด ก็ต้องเป็นนางเอกจากซีรีย์เรื่องนี้
ที่ตั้งใจจะเป็นจุดขายและจุดล่อ ที่มีแมงเม่าอย่างผู้เขียนหลงบิน
ยอมให้ติดกับเป็นเหยื่อแบบไม่เอาเรื่องเอาความ เธอคือ เรนบุทซึ มิซาโกะ
หรือ น้องเรนจัง สาวเลือดกรุ๊ปโอ ที่เพิ่งเข้าวงมาได้ไม่นาน
ก็ขึ้นหิ้งเป็นนางเอกตัวยืนกะเขาแล้ว Nanase Futatabi ถือเป็นซีรีย์เรื่องที่สาม
แต่กับสายภาพยนตร์แล้วก็รับเล่นมาอยู่พอสมควร ที่เล่นแล้วได้รับรางวัลก็มีเรื่อง
Battery ในบท มายุ ยาจิมะ แต่กับแฟนคนไทยดูเหมือนจะรู้จักจากเรื่อง Dive!! ในบท
เคียวโกะ นิชิกาวา เจริญแต่สายนักแสดงโดยไม่มีความเป็นนักร้องมาประกอบ
ถือว่าน่าจะเอาดีและพัฒนาฝีมือได้ในเร็ววัน





ซีรีย์เรื่องนี้ อาจสร้างความหวาดหวั่นใจให้กับใครหลายๆคน
ที่รู้ว่า สถานี NHK เป็นผู้ได้สิทธิ์ในการรีเมก นั่นหมายความว่า
พล็อกเรื่องใน Nanase Futatabi ต้องไม่ถือว่าเป็นสิ่งใหม่ให้กับวงการบันเทิง
เมืองยุ่นอย่างแน่นอน ด้วยต้นฉบับดั้งเดิมในระดับที่เรียกว่า Original writing
ที่เขียนโดย เท็ตซึอิ ยาสุตากา ถือเป็นนักเขียนวรรณกรรมเชิงวิทยาศาสตร์
ที่เลื่องนามของประเทศพอดูคนหนึ่ง ไปคว้ารางวัลในประเทศตัวเองมาตั้งมากมาย
แถมยังได้รับการเชิงชูเกียรติ์จากรัฐบาลฝรั่งเศสมาอีกด้วย และไม่อยากบอกเลย
ว่า หมอนี้เป็นคนคนเดียวกับที่เขียนบทในงานอนิเมชั่นเข้าใจยาก ใน Paprika
ด้วยละตัวเอง ส่วนถ้าจะให้ย้อนอดีตความเป็น Nanase Futatabi ทางทีวี
ด้วยแล้ว ก็ต้องเท้าความไปไกลตั้งแต่เริ่มต้นขึ้นครั้งแรกในปี ๗๙
ที่ทาง NHK ยังถือลิขสิทธิ์เรื่องนี้อยู่ โดยมี ทากิกาวา ยูมิ รับบทเป็น ฮิตะ นานาเสะ
เป็นคนแรก พอมาปี ๙๕ ลิขสิทธิ์ถูกโอนค่ายมายังฟูจิทีวี
แต่เอามาเสนอแค่ตอนสั้นเพียง ๖ ตอน ได้มิซุโนะ มากิ มารับบทเป็น นานาเสะ
ในรุ่นที่สอง และจากนั้นอีกสามปีต่อมา Tv Tokyo
ก็เอามาสร้างด้วยเวลาฉายปกติ ๑๓ ตอน โดยมี วาตานาเบ้ ยูกิ มารับบท
นานาเสะรุ่นที่สาม ให้ดูเป็นสาวทอมบอยกล้าคิดกล้าลุยมากขึ้น
จนกาลเวลาข้ามมาปี ๐๘ นานาเสะในรูปลักษณ์สมัยใหม่ก็มาตกในอ้อมกอดของหนูเรนจัง
ที่ผู้เขียนไม่คิดจะย้อนกลับไปดูพัฒนาการของคนรุ่นป้านานาเสะ ที่เคยเล่นไว้อีกเลย
ให้มาทิ่มแทงใจ ว่าคนรุ่นป้านี้แหละ มันก็ร่วมรุ่นเดียวกับผู้เขียน
ซึ่งถ้าให้ต้องย้อนกลับไปดูตอนนี้ ผู้เขียนยังมิอาจทำใจได้





You can't move forward while you only see their negative side.

(เธอไม่สามารถก้าวต่อไปข้างหน้าได้ ถ้าเธอยังมั่วมองพวกเขาแต่เพียงแง่ลบอย่างนี้)

Where there're shadow or negative sides to the powers.
There must also be light.

(ไม่ว่าเงาหรือเจ้าอคติแง่ลบ มันก็มีด้านสว่างในอีกด้านของตัวมันเองนะเธอ)



ในความเห็นส่วนตัวนะ แบบที่ไม่เคยได้ดู (หรือเคยดู?) Nanase Futatabi
ในเวอร์ชั่นก่อนๆ ก็คิดว่าเป็นเรื่องที่ผิดคาดกับความเป็นเอ็นเอชเคภิวัฒน์
ที่ทำได้น่าประทับใจในระดับหนึ่ง แต่กระนั้น ก็ยังติดกลิ่นจารีตนิยมบางส่วนที่ค่าย
NHK พึ่งปฏิบัติในทุกเรื่องทุกสมัย และการใส่ความคิดแบบอนุรักษ์นิยมตกยุค
ในบางช่วงบางตอน ผู้เขียนเชื่อว่า หลายคนพยายามนำไปเปลี่ยนกับ Hero หรือ
Supernatutal ที่เป็นซีรีย์ของคนมะกัน
ที่โครงเรื่องและเนื้อหาปูไว้เกี่ยวกับมนุษย์ผู้มีพลังวิเศษ เพียงแต่ทางฝั่งโน้น
เขาเน้นความสนุก ตื่นเต้นและติดลูกเร้าใจตลอดทุกก่อนโฆษณาคั่น
ผิดกับ เรื่องใน Nanase Futatabi ที่จะใส่ปรัชญานิยมและการเล่าเรื่องที่สืบเรื่องไปเรือ่ยๆ
ไม่มีลูกวือหวาหรือโชว์เทคนิคพิเศษสุดพิศดารจนอ้าปากว้อ
(ส่วนแฟนๆ ซีรีย์จาก Psychometrer Eiji อาจต้องคิดให้หนักหน่อย
แม้จะขึ้นชื่อว่า เป็นซีรีย์จากประเทศเดียวกัน แถมยังเป็นแนวเร้นลับเหนือธรรมชาติก็ตาม)
แต่มุ่งกระเทาะปัญหาในอคติจากสายตาของคนที่มองผู้อื่นที่แตกต่างไปจากตัว
และไม่เคยย้อนมองหรือมุ่งแสวงหาความหมายในตัวตน
แต่ความน่าเบื่อของค่าย NHK โดยผู้เขียนเพิ่งเผชิญจากซีรีย์ของค่ายนี้ อย่าง
Spica Twin คือ การเล่าเรื่องแบบซื่อๆ ที่ถ้าต้นฉบับนี้ไปตกกับค่ายสถานี
อย่างฟูจิหรือTBS อาจได้รสชาติที่แตกต่างกันออกไป และปัญหาที่แก้ไม่จบ
ของค่าย NHK คือ การทำตอนจบที่มักจะประคองเอาไว้ไม่เคยอยู่
คล้ายๆกับว่าพลังทั้งหมดต่างระดมทิ้งไว้ในช่วงครึ่งแรกเพื่อเอาคนดูให้อยู่หมัด
ในส่วนความแปลกใหม่ในการนำเสนอ
อันนี้ก็ต้องบอกว่า เหมือนเคยกับซีรีย์ร่วมสมัยที่ค่ายนี้เคยปฏิบัติกันมา
ยังคงแข็งแรงและไม่เคยหลุดจากกรอบ ให้ออกนอกเลนไปเสียที
ไม่รู้จะบอกว่า จารีตนิยมอันเข้มแข็งหรือกองโปรดิวเซอร์เขาแข็งแรงกว่าผู้กำกับ
ก็ไม่อาจจะทราบได้ ถึงกระนั้นก็เชื่อเหลือเกินว่า โครงเรื่องของ Nanase Futatabi
ได้มีอิทธิพลต่อแนวการเขียนเรื่องเกี่ยวกับสิ่งเร้นลับเหนือธรรมชาติ ทั้งในส่วน
ของการ์ตูนและภาพยนตร์ของเกาะญีปุ่น ที่มักไม่หลุดไปจากขนบนี้สักเท่าไรนัก
Nanase Futatabi รุ่นที่สี่นี้ มีจำนวนสิบตอน ที่มีความคาดหวังเป็นภูมิคุ้มกันไว้ก่อนหน้า
และภูมิคุ้มกันของผู้เขียนนั้นก็ทำงานได้ดีสักด้วย จนไม่รู้สึกว่าคุ้มค่าหรือเสียดายแต่อย่างใด
ยังคงดูด้วยความเพลิดเพลินใจ และสอดแทรกแง่คิดสาระได้พอประมาณ
จนเชื่อว่า ถ้ามีการเอามาทำใหม่ในครั้งที่ห้า
ด้วยความกล้า ทุนที่หนาและเทคโนโลยีที่เต็มเปี่ยม
น่าจะสร้างอรรถรสแบบสมบูรณ์อย่างที่บทประพันธ์ของยาสุตากา
ที่ยังเก็บซ่อนลูกชิ้นดีๆเอาไว้ และรอวันที่จะปล่อยของนั้นออกมา
อย่างที่ TBS เคยทำให้ Orthoros Dog กลายเป็นซีรีย์ประทับทรวงในปีที่แล้ว
ซึ่งจะว่าไป Nanase Futatabi เป็นบทที่มีสีสันที่น่าจะสนุกกว่า
Orthoros Dog แบบเทียบไม่ติดเสียด้วยสิ





ล่าสุดโครงการ ยกระดับ Nanase Futatabi ให้กลายเป็นหนังก็เป็นจริงได้
เมื่อผู้กำกับ คาซุยะ โคนากะ ประกาศการลงโรงในปี ๒๐๑๐ เข็นบรรดา
นักแสดง อย่าง ตำรวจนักสืบหญิงใจกล้า เซอิ อาชินะ จาก bloody monday
มารับบทนานาเสะหญิงสาวผู้มีญาณพิเศษ รอมาสามสิบปีก็ได้เข้าโรงเป็นที
เป็นทางกับเขาสักที แต่อาจต้องทำใจในสไตล์ผู้กำกับท่านนี้นิดนึง
เพราะสายงานของพี่ท่าน จะเน้นหนักไปทางสายยอดมนุษย์จากดาว M78
ของสายตระกูลอุตร้าแมนมูวี่ แต่เชื่อใจได้นิดเพราะก็เคยกำกับการ์ตูน
ชื่อดัง BlackJack โดยให้นักแสดงเล่นจริง และคนๆนั้น ก็ไปเล่นเป็นพระเอก
ใน Departures นั้นเอง ........




อวยข้อมูลจาก


imdb และ dramawiki เจ้าประจำ






Create Date : 27 มีนาคม 2553
Last Update : 10 ตุลาคม 2555 13:57:39 น. 19 comments
Counter : 3386 Pageviews.

 
รีวิวได้สนุกมากๆเลยค่ะ อ่านแล้วอยากดูเลยค่ะ
จะไปหามาดูบ้างนะคะ
ชอบเรื่องแนวนี้ค่ะ
ขอบคุณสำหรับรีวิวและบทแปลดีๆค่ะ


โดย: CrispyShrimpTempura IP: 222.123.125.218 วันที่: 27 มีนาคม 2553 เวลา:20:50:16 น.  

 
คิดเหมือนกันเลยท่านมะนาวฯ

แสดงว่าท่านมะนาวฯ จับทางซีรีย์ได้อยู่หมัดแล้วสิครับ

ผู้เขียนมองแต่ละค่าย เหมือนกับห้างสรรพสินค้าในเมืองไทย

ฟูจิทีวี เปรียบได้กับ เดอะมอลล์
ทีบีเอส เปรียบได้กับ ห้างเซ็นทรัล
ส่วนเอ็นทีวี เปรียบได้กับ ห้างโรบินสัน

ส่วนเอ็นเอสเค ก็เปรียบกับ ห้างพาหุรัด

แต่ทั้งหมดก็ตั้งใจขายของให้กับคนดูเฉกเช่นเดียวกัน
แต่พอนานเข้า เริ่มดูจากงานของผู้กำกับกับคนเขียนบทสักส่วนใหญ่
ก็มีในใจหลายคน พอเอาชื่อคนพวกนี้ไปใส่
ก็เพิ่งรู้ว่าซีรีย์ที่เราชอบ ส่วนมากก็มาจาก
พวกเขาเหล่านี้ไปมีส่วนรวมมาเนินนานแล้ว
รึเนี่ย

The road ทำให้ท่านมะนาวเกิดอาการจุกเสียดแน่นท้อง
เพราะความเครียดเลยรึขอรับ
เอ๊ สงสัียชีวิตผู้เขียนคงผ่านงานสายโหดมามาก
เลยรู้สึกปกติไปสักหน่อย แต่ปฎิเสธไม่ได้ใช่ไหมว่า
เป็นหนังที่ดี แบบไม่ต้องใช้ทุนมาก
ดาราคนแก่นี้ผู้เขียนไม่รู้จักคับ อาจเป็นได้ทั้งใช่แลไม่ใช่ เพราะไม่ถนัดในสายนี้เลยจริงๆ หนังสร้างปมขัดแย้งและไตร่ถามด้านศีลธรรม
ในโลกที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ที่ทุกคนต่างเอาตัวรอด
ถ้่าเป็นเรา จะคิดเห็นเป็นประการใดน้อ
แต่ฉบับหนังสือ บอกเล่าเกริ่นเพียงว่า
เป็นโลกหลังการระเบิดครั้งใหญ่ของอาวุธนิวเคลียร์
เสียดายไม่มีใครแปล และผู้เขียนเรื่องภาษาอังกฤษก็ไม่ค่อยแข็งแรง
อมโรคมาตั้งแต่สมัยกางเกงขาสั้นแล้ว

อืมจริงด้วยคนแก่ที่เล่นใช่โรเบริต ดูเวลด้วย
ท่านมะนาวฯนี้ช่างรอบรู้จริงๆ
นับถือๆ
แถมยังมีกาย เพียส
แต่ชาลีสบทน้อยไปหน่อย ถือเป็นการเทเวลาให้กับสองพ่อลูกอย่างเต็มทีไปเลยที่เดียว
มอลเทนเซ่นเล่นได้เทพจริงๆเลยนะขอรับ

หนังควรจะต้องเล่นให้แรง เพื่อให้เราหวาดกลัวต่อการรุกราน
ภายใต้นิยามของคำว่า สงคราม
ที่เป็นกิจกรรมอันไม่สร้างสรรค์ที่บรรพบุรุษร่วมสร้าง
แล้วเรายังสะเออะไปสืบทอด
โดยไม่ได้อยู่ในผลประโยชน์ร่วมกัน
แสดงว่ามนุษย์เรายังพัฒนาไปได้ไม่ถึงไหนว่าไหมท่านมะนาวฯ
เอํ+หมาตาม แล้วท่านผู้เขียน
ขอตัวไปฝึกเลียนนิสัยใจคอสักพัก
อาจจะมีคำตอบให้แก่ท่านนะขอรับ

ตอนนี้นอนดึกทุกวัน กำลังทำตัวเลียนแบบนกเค้าแมวไปก่อน
ส่วนห่วงไอ้ตัวน้อย บางทีอาจจะสูญเสียลูกของตัวเอง การพบเด็กที่ไร้พ่อ
อาจช่วยต่อเติมอะไรบางอย่าง
อันนี้นั่งเทียนคิดนะท่าน หนังสือคงมีคำตอบ
ให้ในทุกๆกรณี
แต่ไปงานสัปดาห์หนังสือ ยังไม่มีคนแปล
ท่านมะนาวฯละแวะผ่านงานสัปดาห์หนังสือบางรึเปล่า


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 27 มีนาคม 2553 เวลา:22:48:30 น.  

 
555จะบอกว่าเรื่องนี้มะนาวก็ปิ๊งนางเอก เธอหน้าตาน่ารักมาก
ยังจำได้เลยว่าไปเข้ากระทู้ที่เขาให้ช่วยแนะนำซีรีส์ญี่ปุ่น แต่เขาเน้นขอนางเอกน่ารัก
มะนาวไปแนะนำไว้ทั้งหมด5เรื่อง แถมแปะภาพนางเอกให้เขาทุกเรื่อง
โดยแนะนำเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก เพราะพอเขาบอกว่าขอนางเอกน่ารัก
มะนาวก็นึกถึงเรื่องNanase Futatabi นี่แหละเป็นเรื่องแรก
แล้วก็ไม่ผิดหวังจขกท.ให้giveมาด้วย แต่ที่ตลกคือ
มะนาวไปแนะนำเรื่องFlower shop without roses ให้ด้วย
จขกท.บอกว่าไม่ชอบนางเอกสวย และบอกว่าดูเหมือนนางเอกจะมีอายุด้วย
555ขำแทบแย่ ที่แกบอกว่าYukoแก่ มะนาวว่าที่จริงเรื่องFlower shopนี้
Yukoสวยมากนะ จุดยืนแกชัดเจนจริงๆ55

เรื่องNanase นี้ เห็นด้วยเลยค่ะ ที่บอกว่าตอนแรกเรื่องทำท่าว่าจะสนุก
จากปมปริศนาต่างๆ แล้วมาอีกแล้วความเข้าใจผิด จากข่าวสารซุบซิบ
จากรักกลับชัง จนนางเอกอยู่ไม่ได้ต้องจากไปจากบ้านพักคนชรา
ทำไม๊ ทำไมจะเขียนบทให้มันมีเหตุผลกว่านี้หน่อยก็ไม่ได้

พระเอกShioya Shun หน้าตาดีนะคะ แถมเล่นบทขรึมๆ เท่ๆสาวๆกรี๊ดได้ไม่ยาก
แต่น่าเสียดายขาโก่งไปหน่อย แล้วที่บอกว่าแสดงเรื่องDr.Kotoด้วยอ่ะค่ะ
แสดงเป็นตัวละครตัวไหนเหรอคะ มะนาวนึกไม่ออกจริงๆค่ะ

เรื่องนี้อย่าเทียบกับHeroesเลยค่ะ ฝั่งโน้นลูกเล่นเพียบ เร้าใจตลอด
และที่เคยบอกว่าเขียนบทออกทะเล ตอนที่เขียนนั้นกำลังนึกถึงเรื่องนี้ล่ะค่ะ
แต่ไปนึกว่าเป็นของค่ายNTV เพราะค่ายนี้ก็ เฮ้อ!เลยอะไรแย่ๆโบ้ยค่ายนี้ไว้ก่อน
ที่จริงก็น่าจะนึกถึงNHKได้นะ เพราะหัวโนมาจาก Futatsu no Spica แล้วยังไม่จำ
เป็นเพราะเจ้าหญิงอัตสึ ช่วยค่ายนี้ไว้เยอะ เลยทำให้เลือนๆเรื่องแย่ๆไป

เรื่องที่มะนาวว่าทำให้เห็นความโหดร้ายของสงครามได้แบบสะเทือนใจสุดๆ
คือเรื่อง"สุสานหิ่งห้อย"ค่ะ ที่จริงเรื่องนี้มะนาวดูต่อจากเรื่องSpirited Away น่ะค่ะ
แต่มะนาวรักหนังเรื่องนี้มากกว่า แต่ก็ไม่คิดว่าจะหยิบขึ้นมาดูเป็นครั้งที่2
แค่ครั้งแรกก็ร้องไห้จนปวดหัวไปหมดแล้วค่ะ
จะบอกว่าAnimation ของค่ายนี้ มะนาวมีครบทุกเรื่องเลยนะคะ

ช่วงนี้งานหนักเหรอคะ ถึงทำให้นอนดึก
คุณChanpanakritใช้วิธีนอนชดเชยซิคะ
นอนแบบกินบ้านกินเมืองเลยน่ะค่ะ
ผลวิจัยออกมาแล้วนะคะ ว่าวิธีนี้ใช้ได้ผล
มะนาวทำออกบ่อยค่ะ อย่างวันนี้มะนาวก็นอน ตื่นเอาตอนเที่ยง
มันอาจจะไม่สดชื่น แต่มันหายมึนๆ เบลอๆได้ชะงัดเลยค่ะ
เพราะถ้ามะนาวนอนไม่พอจะมีปัญหาหลับตอนขับรถค่ะ ซึ่งอันตรายมาก
เคยมีประสบการณ์ แล้วกลัวจับใจค่ะ

คุณChanpanakritไปงานสัปดาห์หนังสือมาแล้วเหรอคะ
ได้ไปสูดกลิ่นหมึกมาแล้วซินะคะ ได้หนังสืออะไรมาบ้างคะ
มะนาวคงไม่ได้ไปล่ะค่ะ คงต้องพึ่งนายอินทร์ กับซีเอ็ดเหมือนเดิมค่ะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.25.181.238 วันที่: 28 มีนาคม 2553 เวลา:15:12:37 น.  

 
รู้จักก่อนหน้าผู้เขียน
ก็ไม่เห็นแนะนำบางเลย
ปล่อยให้ผู้เขียนต้องมั่นแสวงเครื่อง
เสี่ยงเวลาด้วยตัวเอง
แต่เรื่องนี้ก็พอรับไว้อยู๋นะ
nanase อาจไม่ได้ทรงพลังดั่งที่คิด
แต่คิดว่าพล็อกเรือ่งทำได้น่าสนใจดี
ถ้าได้พ่อครัวที่แต่งรสชาติดีกว่านี้หน่อย
อาจเป็นหนังชั้นเลิศได้ไม่อยาก
ด้วยทรัพยาการทางบท ที่อยากยกให้ใน
ระดับตำนานน้อท่านมะนาวเพคะ

สูตรคนเคยรักกลับชัง
อันนี้ไม่ค่อยแปลกใจ ใน Ortheros Dog
ก็ถูกนำมาใช้เช่นกัน อาจเรียกว่าขนบหนังเหนือมนุษย์ไปแล้วมั้งครับ
จำเจ้าชุนไม่ได้แล้วเหรอครับ
ในหมอโกโตะภาคแรก เจ้าหมอนี้ยังเล่นเป็น
เด็กวัยรุ่น เจ้าเด็กที่ชื่อ ฮาชิกุชิ ชุน
แต่บทไม่เด่นเพราะเป็นเพียงตัวประกอบ
แต่จำขนาดว่าขาโก่งนี้ อันนี้ไม่เคยสังเกต
แม้ซีรีย์จะจบเลยเเล้วก็ตาม

ครับไม่ขอเทียบกับ Hero แต่กับข้อคิดแล้ว
Nanase ให้มากกว่าซีรีย์ฝั่งตะวันตกเยอะเลย
นะท่าน
ส่วนบทจบนี้ เห็นต่างจากท่านมะนาวฯละ
สงสัยเราคงจะไปต่อด้วยกันไม่ได้สักแล้ว
เพราะบทจบนั้น ผู้เขียนคิดว่า NTV ทำได้
เฉลี่ยดีมาโดยตลอด ยกตัวอย่างประสบการณ์ปีนี้
อย่าง Osen , Psychometrer Eiji ทำได้ดี
ด้วยกันทั้งน่าน ไหนจะ Haken no อีกเรื่อง
แต่อันนี้ กล่าวถึงเฉพาะตอนจบนะครับ
เพราะในส่วนอื่นๆแล้ว ก็ต้องหายใจออกเป็นพักใหญ่

เอ๊ แต่เคยได้ฟังงานวิจัย
ออกไปคนละทางนะครับ เพราะทางโน้นบอกว่า
การนอนกลางวัน แต่อาจชดเชยกับการนอนในรอบดึกได้
เพราะการปรับสภาพของร่างกายเป็นคนละแบบ
ไหนจะพฤติกรรม อุณหภูมิ และเวลา
อืม เชื่อฝ่ายไหนดีละ
แต่กินบ้านกินเมืองนี้ เห็นแต่พวกนักการเมืองนะ
การนอนไม่รู้เกี่ยวข้องกันด้วยรึเปล่า
หรือการนอน ต้องสังกัดพรรคการเมืองกันละหว่า

งานสัปดาห์หนังสือ ไม่เคยพลาดสักปี
แต่ปีนี้อาจจะพลาด เพราะต้องเลือกระหว่าง
ความฉลาดจากการซื้อหนังสือ
หรือการกตัญญูผ่านเทศกาลเชงเม้ง
ยังกังวลใจอยู๋ไม่น้อยเลย

เคยเขียนงานของสตูดิโอจิบลีด้วยละ
แต่โม้การ์ตูนของค่ายนี้เพียงเรื่องเดียว
ืคือ ปลาทองน้องปอนเนียว ขอทำลิงค์แนะนำ
เพื่อจะแสวงหาข้อมูลประกอบนะเอิงเอย

https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=chanpanakrit&date=04-04-2008&group=3&gblog=4
และ
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=chanpanakrit&date=07-09-2009&group=3&gblog=32



โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 28 มีนาคม 2553 เวลา:23:23:29 น.  

 
รู้จักก่อนหน้าผู้เขียน
ก็ไม่เห็นแนะนำบ้างเลย
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
ยังกะรู้แน่ะ ว่าจะเขียนเรื่องอะไร
ก็ยังเข้าใจผิดอยู่เลยว่าเขียนเรื่อง The Road

เห็นด้วยค่ะที่บอกว่าNanaseพล็อตดี
เพราะมะนาวดูได้โดยไม่หลับเลย
แต่มาตอนจบ อ้าว!ไหงเป็นงั้นล่ะ
อยู่ๆก็มาตายเฉยเลยเหรอหรือไม่ตาย โอ๊ย!ไม่รู้ งง
ส่วนเรื่องOsenนี้ มีแอบสัปหงกเป็นพักๆ
พอถึงตอนจบ เอาอีกแล้ว แล้วตกลงร้านมันยังอยู่หรือเปล่านี่ โอ๊ย!งง
555เวลามะนาวดูไม่รู้เรื่อง มะนาวก็โทษว่าเขียนบทออกทะเลไว้ก่อนล่ะ
เพราะถือว่าหาลานลงสวยๆไม่เจอ คนดูถึงงง
ทีนี้คงรู้แล้วใช่ไหมคะ ว่าใครจะเป็นผู้ให้ความกระจ่างกับมะนาว
ทีนี้จะถามล่ะนะ

1เรื่องNanase Futatabi ตอนจบ พระเอก-นางเอกตายหรือเปล่าคะ
แล้วทำไมถึงตาย ตายเพราะอะไร เพราะดูแล้วเหมือนอยู่ๆนางเอกก็ตายตามไปอย่างงั้นแหละ
อันนี้ถามจากที่ความทรงจำของเรื่องนี้ยังพอหลงเหลืออยู่นะคะ

2เรื่องOsen ตอนจบร้านอิโชอังยังอยู่หรือเปล่าคะ
หรือว่าล่มสลายไป เพราะสู้กระแสไม่ไหว
แต่ว่าปูพื้นเหมือนจะอยู่นะคะ เหมือนว่าตอนจบ
จะเป็นตอนเริ่มต้นเปิดเรื่องใช่หรือเปล่าคะ
เห็นมั๊ย บอกแล้วว่างงได้ที่จริงๆค่ะ

เรื่องHaken no Hinkaku ก็ของค่ายนี้เหรอคะ
มะนาวมีอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้ดูเลยค่ะ
คุณChanpanakritเคยเขียนไว้แล้วหรือยังค่ะ
แปะลิงค์ให้มะนาวอีกซิคะ จะได้ตามไปค่ะ
หรือว่ายังไม่ได้เขียน แล้วคิดจะเขียนไหมคะ
เอ่อ!แต่คุณChanpanakritบอกว่าเรื่องฮิตไม่ชอบเขียน ชอบเขียนเรื่องไม่ฮิต
แล้วจะได้อ่านไหมเนี่ย เพี้ยง!เรื่องนี้อย่าฮิต

ส่วนอีตาพระเอกShioya Shunมะนาวเลิกนึกแล้วค่ะว่าเป็นใครในหมอโกโตะ
ขนาดคุณChanpanakritบอกใบ้แล้วก็ยังนึกไม่ออก
ตอนนี้เรื่องนี้นึกออกแต่คุณตาอากิ กับคุณยายอุจิ แค่นั้นแหละค่ะ

เรื่องงานวิจัย มะนาวว่ามันอยู่ที่คำถามการวิจัยว่าต้องการคำตอบเรื่องอะไร
เรื่องนอนเหมือนกัน คำถามการวิจัยต่างกัน คำตอบก็ต้องออกมาต่างกันค่ะ
"จงเฮ็ดในสิ่งที่เชื่อ จงเชื่อในสิ่งที่เฮ็ด"ค่า

มะนาวนึกว่าคุณChanpanakritไปเดินงานสัปดาห์หนังสือแล้วซะอีก
ก็งานมันเริ่มมาตั้งแต่วันศุกร์แล้วไม่ใช่เหรอคะ ไปซุ่มทำอะไร ถึงไม่ได้ไป
เทศกาลเช็งเม้ง บ้านมะนาวสบายที่สุด เลือกวันจักรีค่ะ
รถก็ไม่ติด ลางานก็ไม่ต้องลา ป่ะป๊าบอกว่าไม่ถือว่าไปช้าค่า

ปล.ตามลิงค์ไปแล้วนะคะ เขียนแบบคุณชายละเอียดจริงๆ
ของPonyoมะนาวไปเม้นต์แล้วนะคะ
แต่ของอีกลิงค์ที่เป็นเรื่องราวของStudio Ghibli มะนาว
ขอติดไว้ก่อนนะคะ จะค่อยๆบรรจงเขียน เพราะหนังในดวงใจเพียบ
หนังที่ตีโจทย์ไม่แตกก็เพียบ



โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.19.211 วันที่: 29 มีนาคม 2553 เวลา:20:35:32 น.  

 
ไม่อยากบอกว่าคอมมีปัญหานะท่าน อาจต้องวินโดว์ใหม่สักแล้ว แย่จังเลยน้อท่านมะนาวฯ


โดย: chanpanakri t IP: 202.91.19.194, 64.255.180.230 วันที่: 30 มีนาคม 2553 เวลา:0:23:48 น.  

 
คอมเครื่องผู้เขียนท่าจะแย่แล้วจะพยายามรวบรัด
เดี๋ยวมันจะปิ๊งแว๊บ แล้วก็จางหายไป

นั่นสิท่าน อย่างคราวก่อนว่าจะโม้
Nobuta no Produce ก็ไม่รุ้เป็นไร
ไหลเรื่องเป็นทางได้ไม่ถึงฝั่ง
เลยไม่อยากรับปากใคร เพราะท่าทำไม่ได้
จะเสียความน่าเชื่อถือและผิดศีลข้อสี่ไป

ดูท่าจะทำบางสิ่งให้กระจ่างแก่ท่านมะนาวฯได้ยาก
ด้วยข้อหาเพ่งพ่ายความเป็นสปอยล์
เกิดอีเท่อท่า ไปแชตที่เขมรเข้า
เดี๋ยวจะโดนโทษเหมือนวิศวกรท่านหนึ่งเอา
แต่อย่างไรเสียก็ชอบตอนจบของOsenดี
อุดมการณ์มันยากที่จะสวนทางทุนนิยมส่วนใหญ่
นี้แหละโลกความจริง ดูซีรีย์แฮปปี้เอนดิ้งมา
ตั้งเยอะ เจอความจริง
เช่นนี้เข้าก็รู้เช่นเห็นชาติไปเลยทีเดียว
Haken no ก็ใช่ย่อย เล่นพื้นฐานส่วนใหญ่ของกลุ่มชน
ที่คนในประเทศแลดูผิวเผิน
haken นี้ยิ่งกว่าไพร่อีกนะครับ
เป็นส่วนหนึ่งที่ประคับประคองเศรษฐกิจของประเทศเชียว

ส่วนเจ้าชุน ไม่ใช่เป้าหมายของผู้เขียน
ข้อมูลบอกแค่นี้ คงค่อยไปไล่ตาม
เพราะตอนนี้ก็มีภาคสองรออยู่ในมือแล้วด้วยสิ

แต่แปลกหนอนอย่างท่านมะนาวฯกลับไม่ไปงานสัปดาห์หนังสือ ขณะที่เด็กต่างจังหวัด
แห่หนทางยาวไกลเพื่อได้ขึ้นชื่อว่าได้เหยียบ
พื้นประชุม
ส่วนผู้เขียนกลัว มันจะเป็นสัญลักษณ์แห่งอมาตย์
เกรงจะได้รับอันตราย เพราะหน้าตาไปละม้าย
คล้ายนายกฯเข้า

คอมไม่ตาย วินโดว์ไม่หาย คงไม่เจอกันอีกนะครับ ไปแล้ว อร้ากกกก.......


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 30 มีนาคม 2553 เวลา:0:50:47 น.  

 
555ขำ เหน็บสี......ได้ทุกช็อต

อืม!พอจะรู้แล้วค่ะว่าOsen จบหยั่งไง
แต่Nanaseนี้ ยังปล่อยให้งงต่อไปใช่ไหมคะ เดี่ยวผิดconcept หึ หึ
อยากรู้จังว่า เวลาที่คนเขาไม่รู้ แล้วจะให้เขาไปถามใคร?

ปล.ไปบรรยายความรู้สึกที่ลิงค์เรื่องราวของStudio Ghibli ให้แล้วนะคะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.79.196 วันที่: 30 มีนาคม 2553 เวลา:17:27:13 น.  

 
แอบแว้บไปดูการกลั่นความรู้สึกและความทรงจำจากใจ
ท่านมะนาวเพคะ ที่มีต่อสื่อบันเทิงของค่ายจิบลี่

ต้องเรียกว่าแฟนพันธ์แท้ท่านหนึ่งในสยามประเทศ
นี้เลยเชียว
ว่าแต่ ท่านมะนาวฯไปหาเเผ่นจากนี้ที่ไหนเหรอขอรับ
คงไม่ได้ทำตัวเป็นป้า แย่ของเล่นของหลานมา
เป็นของส่วนตัวนะขอรับ

อย่างที่ท่านมะนาวฯว่า ใครไม่ชอบ
My Neighbor Totoro ถือเป็นความอปกติอย่างยิ่งเลย
ผู้เขียนยังเก็บเรื่องนี้ใส่โทรศัทพ์มือถือส่วนตัว
มันช่างเพ้อฝันได้ใจจริงๆ
นอกนั้นก็ดูด้วยความเพลิดเพลิน หรรษา
แต่แง่คิดไม่ค่อยจะได้อะไรเท่าไรนัก
มากสุดคงได้แง่การจรรโลงโลกกระมังขอรับ

เออ ท่านมะนาวฯร้องไห้จนปวดหัวเลยกระนั้นฤา
กับเรื่อง Grave of the Fireflies คงเพราะสมองผลิตสาร
คัดหลั่งทางนัตย์ตาไม่ทัน
ดูเหมือนว่า หนังอะไรที่มันเศร้าๆ
ท่านมะนาวต่อมน้ำตาไม่กักเก็บเอาไว้เลย
แสดงว่าธาตุน้ำ คงดีสิท่า
อยากเก็บท่านมะนาวฯไว้ตอนหน้าแล้งเสียจริง

สัปดาห์หน้าผู้เขียนต้องร่วมเทศกาลที่ต่างจังหวัด
ตามประสาเด็กบ้านนอกคอกนา
จะลองดูสิว่า ไปค้นๆคุ้ยๆสมบัติส่วนตัว
แล้วไปเจอเรื่องอะไร แต่ทำใจไว้เลยว่า
เก่ากรุ แน่นอน


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 30 มีนาคม 2553 เวลา:21:59:52 น.  

 
ส่วนอยากทราบตอนจบของ Nanase Futatabi
เป็นเช่นไร
จะหลังไมค์ท่านมะนาวก็ไม่มีบล็อกนอกจากโลกอันเป็นส่วนตัว

งั้น ลองส่งซองเปล่าติดเเสตมป์มาสิท่าน
แล้วจดหมายลูกโซ่จะตีกลับให้ในบัดดล
ถ้ายากเกินไปนั้น ทำไมท่านมะนาวฯไม่เอา
มารีรันอีกครั้งละน้อ หรือเป็นสมบัติของผู้อื่น
หรือขายตลาดนัดมือสอง หรือดูพร้อมกับเวลา
ฉายที่ญี่ปุ่น เพราะเอาเข้าจริงก็แค่ซีรีย์ปีกว่าๆนี้เอง


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 30 มีนาคม 2553 เวลา:22:04:24 น.  

 
เรื่องนี้คุ้นเคยกับชื่อเรื่องอยู่นะ แต่ไม่เคยดูเพราะ ปกติไม่ค่อยชอบแนว "พลังวิเศษ" หรืออะไรก็ตามที่มีความเป็นไปเหนือธรรมชาติ แต่ที่ดู Orthoros Dog ก็เพราะ ชอบเรียวและหลังจากดูทักกี้ในเรื่อง Stawberry on the shortcake แล้วไม่ปลื้ม ก็เลยอยากลองดูทักกี้ในแนวอื่นบ้าง

เวลาอ่านพล็อตคิดอยู่เสมอ ว่าไม่อยากดูแนวนี้ แต่ดูทีไร เป็นชอบทุกทีสิน่า ทั้ง Orthoros Dog และ Operation Love ที่ย้อนเวลากลับไปอดีตได้น่ะ คิดยังเสียดายที่เมื่อก่อนไม่สนใจ ทวิภพ ของไทย สักเท่าไร ดูนิดๆ หน่อยๆ แล้วก็เลิก

คิดถึงการดูซีรีย์จังเลย ไม่ได้ดูมาพักใหญ่ๆ แล้ว เวลามีน้อย จึงหันมาบรรเทาอาการติดซีรีย์ด้วยการดูรายการวาไรตี้เกาหลีวันละเล็กละน้อยคลายเครียด อย่างน้อยก็ไม่ทุรนทุรายเหมือนดูซีรีย์ที่ดูแล้วก็อยากจะตะบี้ตะบันดูให้จบแบบภายในชั่วเวลาข้ามวันข้ามคืน

อ่านแล้ว คิดถึง ๆ ก่อนหน้ามีเรื่องที่เคยดูไป แล้วชอบมากจริงๆ แต่เมื่อไม่สามารถทำบล็อกได้ขณะนั้น เข้าใจแล้ว ตามที่ท่านเคยบอกว่าถ้าเราปล่อยมันผ่านๆ ไป มันก็จะตายไปกับเราด้วย เสียดายสุดๆ ที่ไม่ได้ทำบล็อกคือ Dragon Sakura จะย้อนกลับไปก็ไม่ได้อารมณ์เหมือนตอนดูจบใหม่ๆ แล้ว ... เพราะฉะนั้น รู้สึกดีเหมือนกันที่เห็นท่านทำบล็อกแต่ละเรื่องๆ วัดจากข้อมูลแน่นหนาและวิเคราะห์วิจารณ์อย่างมีเหตุมีผลแล้วรู้ซึ้งถึงความตั้งใจ

เพราะส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่เขียนบล็อกซีรีย์ แล้วพวกเรา หญิง ๆ ก็เหมือนกันคือ เขียนด้วยอารมณ์หญิงๆ น่ะท่าน หล่อนำทางมาก่อน 555



โดย: prysang วันที่: 31 มีนาคม 2553 เวลา:0:35:32 น.  

 
555เป็นป้าเลยเหรอคะ เอ้า!ป้าก็ป้า
เพราะในชีวิตจริงคงเป็นป้าไม่ได้ เพราะเป็นน้องนุชสุดท้องซะแล้ว
มะนาวมีแผ่นของStudio Ghibliเป็นของตัวเองค่า ไม่ได้ไปแย่งใคร
แผ่นแรกที่มีคือ Spirited Away จำไม่ได้ว่าซื้อมาจากไหน เรื่องนี้ดังมีจำหน่าย
เป็นBoxsetอย่างสวย ดูเรื่องนี้แล้วชอบผีว้าเหว่มาก
แม้จะไม่ค่อยเข้าใจในปรัชญาของหนังสักเท่าไหร่
แต่อยากดูหนังของค่ายนี้อีก แต่ไม่รู้จะหาซื้อที่ไหน เพราะยังไม่รู้วิธีสั่งซื้อจากเน็ต
แล้วเหมือนชะตาต้องกัน ได้ไปเดินที่ตลาดวังหลัง เจอเขาตั้งแผงไว้ริมกำแพง
รู้แต่ว่าเป็นหนังการ์ตูนBoxsetสวยๆทั้งนั้นเลย เดินเข้าไปเหมือนต้องมนต์
แล้วแทบร้องกรี๊ดมีหนังของStudio Ghibliด้วย กวาดมาหมดทั้ง6เรื่อง
จากนั้นเป็นลูกค้าเขาเรื่อยมา จนสะสมได้ครบทั้ง17เรื่อง
แถมเกินมาอีก2เรื่องคือ GOSHU THE CELLIST โปรยไว้ว่า The Studio Ghibli Collection
กับ PANDA go PANDA โปรยไว้ว่า Created by Hayao Miyazaki
เรื่องนี้ตัวการ์ตูนคล้ายๆPonyo มะนาวเลยมีเกินกว่าคนอื่นๆเขาคือมี19เรื่องค่ะ

มะนาวธาตุดินค่ะ บ่ช่ายธาตุน้ำ แต่เรื่องดูหนังแล้วร้องไห้ ก็มันอินอ่ะ
อย่างเรื่องMy Boss My Hero คุณChanpanakrit เคยแปลกใจ
ที่มะนาวซึ้งกับเรื่องนี้จนน้ำตาไหลพรากๆ จะบอกว่าที่บ้านไม่ใช่แปลกใจแต่ตกใจค่ะ
วันนั้นมะนาวอยู่บ้านคนเดียว แล้วดูเรื่องนี้ถึงตอนที่ใกล้ๆจะจบมะนาวซาบซึ้งกับ
มิตรภาพระหว่างยากูซ่ากับเพื่อนๆมาก นั่งร้องไห้กระดาษทิชชู่กองเต็มถังขยะเล็กๆ
ที่บ้านกลับกันมาเมื่อไหร่ไม่รู้ มารู้อีกทีตอนที่ๆบ้านตกใจ อุทานว่ามะนาวเป็นอะไร
คือสภาพมะนาว ตาฉ่ำ น้ำตาเปรอะ จมูกบวมแดง มะนาวตกใจวิ่งปรู๊ดเข้าห้องน้ำ
ตะโกนออกมาว่า กระดาษทิชชู่เข้าตา 555ใครจะเชื่อไม่เชื่อไม่รู้ ไม่ชี้แจงใดๆทั้งสิ้น

มะนาวว่าเรื่องDragon Zakura สนุกมากนะคะ
เสียดายคุณprysang ไม่มีอารมณ์เขียนซะแล้ว

คุณChanpanakrit ไปต่างจังหวัด
ค้นเรื่องLove Letter ให้เจอนะคะ มะนาวจะได้ดูอีกรอบ อยากดูค่ะ

ปล.มะนาวหลังไมค์ไปถามแล้วนะคะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.77.21 วันที่: 31 มีนาคม 2553 เวลา:20:32:50 น.  

 
กลัวท่านมะนาวเพคะจะหลงระเริงไปกับ
วัยเยาว์ว่าเจ้าจะอยู่คู่ไปกันเราอย่างยาวนาน

เจอมากับตัวเเล้วท่าน มาแว้บนึกเอาอีกที
ก็สังสรรค์ศิษย์เก่ากับเขาไปแล้ว
เห็นเพื่อนๆมีลูกมีเต้า อยู่เหย้าเฝ้าเรือน
แล้วมาอนาถใจ เวลาเป็นสิ่งขับเคลื่อนที่ไร้ตัวตนเสียนี้กระไร

กลายเป็นว่า ท่านมะนาวฯเป็นสาวกค่ายจิบลี่
มากกว่าตัวผู้เขียนสักอีก เพราะการ์ตูนนอกคอกนอกนา
อย่าง GOSHU THE CELLIST และ PANDA go PANDA
ผู้เขียนหูไม่กระดิกเอาเสียเลย แต่ก้พอได้รู้ว่าท่านมะนาวฯพำนักแถวพระนคร
ทำท่าว่าตลาดวังหลัง น่าจะเป็นสถานที่เที่ยวชม
สำหรับผู้เขียนในการคว้านหาซีรีย์ประหลาด
สักเรื่องสองเรื่องเสียแล้ว

แล้วก็จริงอย่างท่าน prysang ว่าไว้
ซีรีย์หลายเรื่องเหมือนกัน ที่ผู้เขียนอยากจะโม้ใจจะขาด
แต่มันขาดช่วงกระตือรือล้น และอารมณ์แจ๋วแว้ว
มันหายบรรเจิดรสบรรเจิดชาติไปเนิ่นนาน
จะให้ปลุกใหม่ก็ไม่ง่ายด้วยสิ

เห็นผู้เขียนขี้โม้หลายเรื่อง ท่านมะนาวฯก็อย่าคิดว่า
ผู้เขียนอวดเก่งเลยนะขอรับ
เพียงทว่า แต่ไม่บรรเจิดในช่วงเวลาล่าสุดตอนนี้
เวลาต่อมา ให้หวนรำลึก ก็พอทำได้แต่ไร้ความสนุกที่จะเขียน
พอไม่เขียน ชีวิตก็ดูไร้คุณค่ากันไปเลย

ถึงอย่างไร ก็ไม่เข้าใจอารมณ์ซึ้ง ในMy Boss My Hero
อยู่ดี แต่ถ้าเรื่องนี้ทำน้ำตาท่านมะนาวฯเล็ดได้
ซีรีย์เรื่องอื่นๆ ก็เป็นอันตรายต่อระบบก้านสมองในส่วนของ
การกลั่นสารคัดหลั่งทางนัยน์ตาของ
ท่านมะนาวฯจนหมดสิ้น
สั้งซื้อดีวีดีคราวหน้า ขอเจ้าของร้านแถมทิชชูด้วยสิขอรับ

ว่าแต่ฝากหลังไมค์ แล้วไมค์มันอยู๋ตรงไหนกันละท่าน


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 1 เมษายน 2553 เวลา:1:17:31 น.  

 
อ่านที่คุณChanpanakrit เขียนที่บอกว่าจะไปหาซื้อซีรีส์ประหลาดแถวตลาดวังหลัง
มะนาวหัวเราะกิ๊กเลยค่ะ นึกถึงที่คุณChanpanakrit เคยบอกว่ามะนาวเป็นคนประหลาด
แล้วดูซิคุณChanpanakrit จะไปหาซื้อซีรีส์ประหลาดที่ตลาดวังหลัง
จากการบอกเล่าของมะนาว แทนที่คุณChanpanakrit จะบอกว่าไปหาซื้อซีรีส์ดีๆ
สักเรื่อง สองเรื่อง กลับบอกว่าไปหาซื้อซีรีส์ประหลาดสักเรื่อง สองเรื่อง
555ขนาดถิ่นที่มะนาวเดิน ยังประหลาดในความรู้สึกเลย
อย่าเดินหลงไปถึงUnderland ล่ะ ประเดี๋ยวจะกลายเป็น
Chanpanakrit in Wonderland 55
แต่จะบอกใบ้ให้ว่าตลาดวังหลังไม่ได้อยู่ฝั่งพระนครนะคะ
อยู่ที่ไหนไปสืบค้นเอาเองค่ะ ไม่บอก เพราะคุณChanpanakritเรียนประวัติศาสตร์มาแล้ว

ไม่หลงระเริงหรอกค่ะ แต่วิถีชีวิตมันก็ต้องดำเนินไปตามครรลองของมัน
เราก็แค่ประคับประคองตัวเราให้เป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็น
จะสุขหรือทุกข์ก็อยู่ที่ตัวเรา มะนาวว่าถ้าอยู่คนเดียวแล้วมีความสุข
ก็ไม่เห็นจะเป็นไรนี่คะ ดูแต่อีตาKekkonซิคะ
เขาก็อยู่อย่างมีความสุขตามประสาตัวคนเดียวของเขา
แม้จะเหงาบ้างในบางครั้ง แต่นานเข้า ก็ปรับตัวได้
และเกิดเป็นความเคยชิน ก็จะไม่รู้สึกเหงาและมีความสุขตามประสากันไป
แหะ แหะ พูดเป็นแม่แก่เลย เรียนรู้จากการดูหนังและซีรีส์ค่ะ

เรื่องการส่งหลังไมค์ พวกมะนาวไม่ใช้คำนี้ค่ะ
คุณChanpanakrit ได้ยินแล้วอาจบอกว่าเหลือเกิน
ไม่กล้ายกตัวอย่างกลัวคุณครูเม่นดุเอาค่ะ ฮิ ฮิ

มะนาวดูจากเวลาที่คุณChanpanakrit โพสต์
นอนดึกจังเลยนะคะ แล้วนอนพอเหรอคะ ไม่ง่วงนอนแย่เหรอคะ

มะนาวจะขอจำศีล อีกแล้วล่ะค่ะ
จะเข้ามาคุยอีกครั้ง วันอาทิตย์นะคะ หลังสอบเสร็จ

มะนาวไม่ทราบว่าคุณChanpanakrit จะกลับต่างจังหวัดวันไหน
ขอให้เดินทางโดยปลอดภัยนะคะ ขอคุณพระคุ้มครองค่ะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.25.183.133 วันที่: 1 เมษายน 2553 เวลา:20:32:08 น.  

 
พระคุ้มครองดั่งอธิษฐานของท่านมะนาวฯโดยแท้
ทำให้ผู้เขียนรอดพ้นภยันอันตรายแบบแคล้วคลาด

ที่สำคัญไม่ต้องโดนม็อบทำให้รำคาญใจในเมืองกรุง
ปัญหาอย่างเดียวตอนนี้ คือ แล้วเราจะกลับอย่างไรละ

ไม่รู้จะอัพบล็อกได้สักเรื่องสักราวรึเปล่า
เพราะลูกหลานสร้างความรบกวนใจอย่างยิ่ง
บางทีอาจต้องรอเอาวันจันทร์
เชื่อแน่ว่า การสอบของท่านมะนาวฯ
ก็คงเลื่อนด้วยสถานการณ์ที่ไม่ปกติ
จะหนีเที่ยวห้างกลางเมือง ต่อให้มีตังค์
ก็เคาะประตูให้เปิดรับมิได้


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 3 เมษายน 2553 เวลา:18:06:06 น.  

 
มีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นเหรอคะ ดีใจค่ะที่คุณChanpanakrit ปลอดภัย
ต่อไปมะนาวจะอธิษฐานขอให้คุณพระคุ้มครองคุณChanpanakrit ทุกครั้งถ้ารู้ว่าเดินทางค่ะ

แล้วก็ได้หัวเราะอีกแล้ว นี่ถ้ามะนาวเป็นเสื้อ......คงมีแผลเหวอะหวะไปทั้งตัว
จนหมอไม่รับเย็บเป็นแน่55

วันนี้มะนาวได้ไปสอบค่ะ อาจารย์ไม่เลื่อนสอบ
ตอนแรกที่บ้านจะไม่ยอมให้ไปเพราะไม่ไว้ใจสถานการณ์
แต่มะนาวดื้อบอกจะไป จะไป ก็มะนาวนัดเพื่อนไว้แล้วนี่หน่า
ก็เลยถูกที่บ้านประกบพาไปส่งและรับกลับ
ไปเจอเพื่อน555มีสภาพเดียวกันเลยถูกที่บ้านประกบเหมือนกัน ไม่แตกต่างกันเล้ย

คุณChanpanakrit มีเวลาน้อยอย่างนี้อัพบล็อกเป็นหนังซิคะ จะได้ไม่เหนื่อยมาก
ที่มะนาวเคยบอกว่าให้คุณChanpanakrit ค้นเรื่องLove Letter ให้เจอ
แล้วมะนาวจะได้ดูอีกรอบ เพราะมะนาวไปดูหนังเรื่องหนึ่งเข้าค่ะ
ไม่รู้คุณChanpanakritเคยได้ยินหรือเปล่า เรื่องSecret ค่ะ
เป็นหนังที่Jay Chou ทั้งกำกับและเขียนบทเอง
หนังน่ารักมากเลย เนื้อเรื่องดูเหมือนเป็นหนังรักใสๆธรรมดา
แต่ที่ไหนได้ มีการซ่อนเงื่อนไว้ได้อย่างแยบยลทีเดียวและทำได้ดีเสียด้วยซิค่ะ
มะนาวดูเรื่องนี้แล้วนึกถึงLove Letter โดยเฉพาะที่เป็นฉากสมัยยังเป็นนักเรียน
ที่พระเอกแอบชอบนางเอก แล้วขยันแกล้งนางเอกเสียจริง
แอบชอบเขา แต่ก็ชอบแกล้งเขา มะนาวชอบเวลาพระเอกแกล้งนางเอก
แล้วนางเอกก็ไม่โกรธ เพียงแต่ไม่เข้าใจว่ามาแกล้งตัวเองทำไม
โดยเฉพาะฉากที่นางเอกถีบจักรยาน แล้วพระเอกเอาถุงกระดาษมาครอบหัวนางเอก
ทำให้จักรยานเสียหลัก 555แกล้งได้น่ารักมาก สองเรื่องนี้คล้ายกัน
ตรงน่ารักใสๆเหมือนกัน แต่เรื่องSecret นางเอกชอบแกล้งพระเอกค่ะ
แล้วนางเอกก็น่ารักไม่แตกต่างจากนางเอกวัยเด็กเรื่องLove Letterเลยค่ะ
แต่ที่มะนาวชอบอีกอย่าง ไม่อยากบอกเลยว่า งี๊ด งี๊ด ชอบJay Chouค่ะ
เป็นผู้ชายที่เท่ อบอุ่น น่ารัก อ๊าก!สงสัยต้องไปเอาHERO มาดูเรียกสติกลับคืนซะแล้ว

วันนี้ง่วงนอนมาก อยากนอนจังเลย แต่เหมือนคนมีกรรม
มะนาวขนงานจากที่ทำงานมาทำ ต้องทำให้เสร็จภายในคืนนี้
ไม่ใช่งานตัวเอง แต่ก็ต้องทำ ยังไม่รู้เลยว่าจะเสร็จตอนไหน
ง่วงนอน แล้วไม่ได้นอนนี้ มะนาวว่าคงเป็นเวรเป็นกรรมอย่างหนึ่งนะคะ
เฮ้อ!ง่วงจัง




โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.21.135 วันที่: 4 เมษายน 2553 เวลา:20:03:17 น.  

 
พระคุ้มครองของท่านมะนาวฯได้ผลจริงด้วย
ไม่รู้นิมนต์มาจากวัดไหน ถ้ารรู้จะได้ทอดกฐิน
และถวายสังฆทานเสียตามพลังศรัทธา

ดีจังเลยนะขอรับ ที่ได้สอบโดยไม่ต้องเลียน
แบบห้างกลางกรุง
บางทีสอบช้าวันเดียว ก็ทำให้นอนไม่เป็นสุข
ใจตุ้มๆต้อมๆไปอีกวัน

secret ที่เจโชว์ลงทุนลงแรง
ถือเป็นเรื่องที่ตากล้องกับการเลือกโปรดักชั่น
หามุมงามๆ ได้น่าดูชม
แต่ความอ่อนของบทก็ยังพอมีให้เห็นอยู่
เอ๊ ถ้าอยากย้ำความเท่ห์ของเจ้าเจย์โชว์
ดูเหมือนท่านมะนาวฯจะซ้ำผิดเรื่องรึเปล่า
ถ้าเป็นหนังภายใต้การกำกับของจางอี้โหม่ว
Curse of the Golden Flower มากกว่านะเอ้ย

ทว่าผู้เขียนกับชอบนางเอกตามสังขารเพศ
ตามฟอร์ม
ที่เล่นโดย Lunmei Kwai ชอบมาตั้งแต่หนังฟอร์มเล็กแต่ได้ใจ อย่าง
Blue Gate Crossing
ไม่รู้ท่านมะนาวฯเคยดูรึเปล่าเอ่ย
ืเชื่อว่าถ้าท่านมะนาวฯได้ชม จะเป็นเรื่องในดวงใจท่านมะนาวฯได้ไม่ยาก

Love Letter ยังหาเเผ่นไม่เจอ
ดันไปเจอ all about lily แทน
ซึ่งไม่อยากจะซ้ำเท่าไร แต่จะหาดูอีกครั้ง
ถ้าเจอ จะรีบรีวิวไว้เป็นอนุสรณ์ไว้สักเรื่อง
แล้วเราค่อยมาแชร์ความคิดกันนะครับ

ทำงานให้เพื่อน มันไม่มีฟรีรอครับ
มีแต่เสียเปรียบอย่างสูญเปล่า กับสำนึกในบุญคุณเท่านั้น
อันนี้ เคยเป็นมา ทำเอาใจเพื่อนก่อน
ยามชราแล้ว จะหาเพื่อนให้สนองพระเดชพระคุณสักคน ก็ไม่เจอ


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 4 เมษายน 2553 เวลา:21:14:42 น.  

 
ฮือ ฮือ ไม่อยากบอกเลยว่าเมื่อคืนมะนาวได้นอนตอนตี3
พอไปบอกพี่เขา พี่เขาบอกว่ายังหน้าใส ตาใสอยู่เลย(มะนาวนึกถึงปลาที่เพิ่งตายใหม่ๆ)
แล้วพี่เขาก็หันไปบอกคนอื่นๆว่า เห็นมั๊ยเรามีคนเก่ง ก็ดีอย่างนี้แหละ
555คุณChanpanakrit รู้ใช่ไหมคะ ว่าใครฉลาด

คืนนี้มะนาวต้องช่วยที่บ้านเตรียมของที่จะไปเช็งเม้งพรุ่งนี้อีก
ไม่รู้ว่าจะเสร็จตอนไหน รู้แต่ว่าตอนนี้มะนาวใกล้จะสิ้นสภาพแล้วค่ะ

คือที่มะนาวว่าJay Chou เท่ มันเป็นเรื่องของความรู้สึกน่ะค่ะ
คือในเรื่องSecret เจย์โชว์เขาชอบนางเอก เขาก็ชอบจริงๆ
แม้ว่าจะมีนางรอง ซึ่งสวยกว่านางเอกอีกมาแสดงให้เห็นๆว่าชอบเขา
แต่เจย์โชว์ก็ไม่หวั่นไหว มันเท่ตรงนี้ล่ะค่ะ
มะนาวว่าเจย์โชว์จับจุดตรงนี้ของอารมณ์ผู้หญิงได้นะคะ
แหะ แหะ อย่างน้อยมะนาวก็โดนคนหนึ่งล่ะค่ะ

ส่วนเรื่องBlue Gate Crossing มะนาวดูแล้วค่ะ และชอบมาก
นางเอกคนเดียวกันกับSecret แต่ตอนนั้นยังเป็นวัยใสอยู่
เธอน่ารักมาก แต่เรื่องSecretเธอโตขึ้น และสวยน่ารักแบบใสๆ
อย่างเวลาเธอยิ้มมีเสเน่ห์จริงๆเลยค่ะ ไม่แปลกใจถ้าจะมีคนถวิลหา
แม้แต่คุณChanpanakrit ก็ยังหลงเสน่ห์เธอเลย
เอ๊ะ!หรือว่าหลงมาตั้งแต่Blue Gate Crossingคะ
ตอนนั้นมะนาวว่าเธอยังแค่น่ารัก ยังไม่มีเสน่ห์ค่ะ
หรือว่าคุณChanpanakrit เห็นเสน่ห์เธอมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้วคะ 55 สำคัญ สำคัญ
เรื่องBlue Gate Crossingชอบมากก็จริง แต่ชอบWhisper of the Heart
ของGhibli มากกว่าค่ะ แม้ว่าจะเป็นการ์ตูนที่ไม่มีเลือดเนื้อ
แต่มีจิตวิญญานที่เราสัมผัสได้ค่ะ

เรื่องAll About Lily ใช่All About Lily Chou-Chou หรือเปล่าคะ
ที่บ้านมะนาวมี เหมือนหนังจะหลายปีแล้วนะคะ
แต่หนังยังไงก็ไม่รู้ ดูยากชะมัด ตอนนั้นอาจจะยังดูหนังยากๆไม่รู้เรื่องก็เป็นได้
ดูได้เป๊บเดียวก็เลิกดู ตอนนี้ไม่รู้แผ่นไปอยู่ไหนแล้วค่ะ
ถ้าคุณChanpanakrit จะเขียน คงต้องไปหาซื้อใหม่แน่นอนค่ะ
แต่ตอนนี้เหมือนจะเริ่มดูหนังที่เข้าใจยากๆเป็นบ้างแล้วนะคะ
แต่ก็ชักไม่แน่ใจอีกแล้วค่ะ เพราะขนาดดูเรื่อง รถไฟฟ้ามาหานะเธอ
มะนาวยังไม่รู้เลยค่ะว่าเขาสื่อเรื่องความรักด้วยมาม่า ต้องต้ม3นาที
555สรุปเส้นทางนี้ของมะนาวยังต้องเรียนรู้อีกยาวไกล

วันนี้ต้องรีบเข้ามาคุยค่ะ ทานข้าวเสร็จคงต้องอยู่ช่วยหม่าม้าค่ะ

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เพิ่งเห็นว่าคุณChanpanakrit
เขียนเรื่องLove Letter ขอติดไว้ก่อนนะคะ กลับมาจากเช็งเม้งจะมาร่ายค่ะ
หรือถ้าคืนนี้มะนาวไม่สลบไปเสียก่อนจะเข้ามาคุยค่ะ Thank you Thank youค่า
คุณChanpanakrit น่ารักที่ซู๊ด


โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.72.205 วันที่: 5 เมษายน 2553 เวลา:18:19:56 น.  

 
โยกไปตอบใน Love Letter ทั้งหมดตามฟอร์ม
นะท่านมะนาวฯ โอ้ๆ


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 6 เมษายน 2553 เวลา:8:50:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mr.Chanpanakrit
Location :
สงขลา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]




Friends' blogs
[Add Mr.Chanpanakrit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.