A ........ Z
Group Blog
 
All blogs
 
Midnight Sun เธอคือกลางวัน ส่วนฉันนั่นกลางคืน





คืนวันอันมีจำกัด กาลเวลาที่ไม่หยุดนิ่ง
เราจะรักมันได้เพียงใดกัน? ต้องรักได้สินะ
หากมีเธออยู่ แม้แสงแห่งดวงตะวัน
ฉันก็จะไม่เบือนหน้าหนี
笑って泣いて君と出会えて
続く未来は輝いていた
ひまわり揺れるタイヨウの下で
私のまま明日を
ทั้งหัวเราะ ทั้งร้องไห้ จนได้มาพบกับเธอ
อนาคตอันอยู่เบื้องหน้าทอประกาย
ภายใต้ดวงตะวัน ซึ่งมีดอกทานตะวันพลิ้วไหว
ฉันจะขับขานถึงวันพรุ่งนี้ ในอย่างที่ฉันเป็น
ありがとう 伝えたい 今なら言えるよ
過ごした季節も忘れはしないよ
ひまわり揺れるタイヨウの下で
私のうた 君を照らすよ
อยากจะบอกขอบคุณ หากเป็นตอนนี้ฉันกล้าเอ่ย
จะไม่มีวันลืมเลือนช่วงเวลาที่ได้อยู่ร่วมกัน
ภายใต้ดวงตะวัน ซึ่งมีดอกทานตะวันพลิ้วไหว
บทเพลงของฉัน จะสาดส่องไปยังเธอ
私のまま君を…
สาดส่องไปยังเธอ ในอย่างที่ฉันเป็น...


Xeroderma Pigmentosum คือ โรคที่เกี่ยวกับภูมิแพ้ทางผิวหนังอัน
เนื่องมาจากการแพ้แสงแดดอย่างรุนแรง ส่วนใหญ่แล้วมักเกิดจาก
พันธุกรรมที่ผิดปกติและมักเกิดกับเด็กวัยรุ่น เมื่อผิวหนังถูกแสงแดด
แล้วรังสีอัลตราไวโอเลตจะ ทำลายดีเอ็นเอในผิวหนัง โรคนี้ถูกหยิบยกมาสร้าง
เป็นหนังเรื่องหนึ่ง โดยมีเค้าโครงและแรงบันดาลใจมาจากหนังฮ่องกงเมื่อปี 1994
เรื่อง C'est la vie, mon chéri (ปู้เหลี่ยวฉิง) ของผู้กำกับเอ๋อต่งเซิน (Protégé)
นำแสดงโดย หลิวชิงหวิน และ หยวนหย่งเอ๋อ

หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างดีเมื่อได้เข้าฉายเมื่อปี๒๐๐๖
โดยผู้กำกับหน้าใหม่ที่ชื่อ Norihiro Koizumi (ล่าสุดกำลังกำกับเรื่อง
Gachi boiหนังของเด็กหนุ่มที่มีความฝันเป็นนักมวยปล้ำ หลังจากที
เขาสูญเสียความจำด้วยผลกระทบกระเทือนทางสมอง)ได้ถ่ายทอดเรื่อง
ราวผ่านโศกนาฎกรรม ราตรี ครอบครัวและความหวัง อย่าง Midnight Sun
(タイヨウのうた) สูตรสำเร็จเมื่อหนังไปได้สวย จากจอเงินสู่จอแก้วจึงตาม
มาในชื่อภาษาไทยว่า"บันทึกน้ำหนึ่งลิตร" ถ้าคุณxanax71 ว่าไว้ไม่ผิด
ละครดีที่ไม่ได้ดู เพราะหัวหน้าไม่ปลื้มเพราะชอบใช้ทำโอที

หนังเรื่องนี้ถือว่าเป็นหนังสูตรสำเร็จตามแบบฉบับหนังรักวัยรุ่นเมือง
ปลาดิบด้วยองค์ประกอบเสริมที่ครบครัน ทั้ง นักแสดงดาวรุ่ง เพลงประ
กอบภาพยนตร์ การดำเนินเรื่องที่ไม่ซับซ้อน จังหวะการวางเรื่องที่เล่นอารมณ์
กับคนดูให้สนุก เศร้า เหงา รักตามแต่ใจผู้กำกับจะจัดวางให้ เนื้อเรื่องของ
หนังเน้นหนักกับช่วงเวลาค่ำคืนที่หลายคนต่างนอนหลับพักผ่อนจากกิจกรรม
ในยามแสงอรุณทอดผ่านเป็นเสมือนสัญญาณเตือนให้ทุกชีวิตต่างต้องขับเคลื่อน
ชีวิตของแต่ละคนบนพื้นพิภพนี้กันต่อไป แต่ในสังคมที่วุ่นวายนี้จะมีใครพอรู้บ้าง
ว่ายังมีเด็กสาวคนหนึ่งแอบซ่อนความแตกต่างของชีวิตในใต้ผ้าห่มท่ามกลาง
ห้องทึบที่ปิดกั้นด้วยผ้าม่านหนามิให้แสงแดดรอดผ่าน โดยตั้งเวลาปลุกไว้ที่
เวลาสายัญสวัสดิ์ อันเป็นเวลาเริ่มต้นชีวิตผจญภัยกับโลกราตรีที่ไร้แสงอรุณ
กลายเป็นพื้นที่โลกส่วนตัวอันจำกัดในการที่จะดำรงชีวิตอยู่อย่างเดี่ยวดาย
(ก็แน่เด่! ด้วยเป็นเวลาพักนอนของชาวบ้านชาวช่องเขา) แต่ข้างกายเธอมี
กีตาร์โปร่งเป็นเหมือนเพื่อนสนิทเพียงชิ้นเดียว เป็นพรสวรรค์ที่เธอแลกมาด้วย
ชีวิตที่ผิดปกติอันเป็นการชดเชยจากธรรมชาติที่เป็นผู้สร้างความไม่สมบูรณ์นี้กระมัง?

ในสิบนาทีแรกของหนัง เราจะไม่ได้ยินเสียงบทสนทนาใดใดของเรื่อง คงเป็นเรื่อง
ของจังหวะหนังที่พาผู้ชมอย่างเราๆ ซึมซับอรรถรสของความเงียบเหงาเพื่อให้เข้าใจ
ความรู้สึกของตัวละครอย่าง คาโอรุ (นำแสดงโดยนักร้องสาวYui หนังเรื่องนี้เป็น
เรื่องแรกของเจ้าหล่อน) ที่ต้องดำเนินชีวิตในช่วงเวลาโพล้เพล้อันเป็นสิ่งเตือนให้
เธอต้องรีบเข้านอนก่อนที่แสงตะวันจะทอดแสงส่องเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงสรรพชีวิต
เธอกับแสงตะวันจึงเป็นเส้นขนานคนละฝั่งที่ไม่เคยเชื่อมสัมพันธ์ของกันและกัน
แล้วในแต่ละวันยามค่ำคืนของเธอคืออะไรนั้นเหรอ? คงมีเพียงแค่๓สิ่งเท่านั้น คือ
อย่างแรก คือ การทานข้าวมื้อแรก(อันเป็นมื้อท้ายสุดสำหรับคนอื่น)พร้อมหน้ากัน
พ่อ แม่ ลูก อย่างที่สอง การเล่นดนตรีด้วยกีตาร์คู่ใจแบบเปิดหมวกใส่เศษสตางค์
ตามสวนสาธารณะที่ประจำ และสุดท้าย คือ การเฝ้ามองชายคนหนึ่งตรงริมหน้า
ต่างของบ้าน ชายผู้ซึ่งขี่สกู้ดเตอร์ห้อยท้ายด้วยกระดานโต้คลื่นมือสองทุกเช้าตรู่
ที่ชื่อโคจิ(ที่แสดงโดย Takashi Tsukamoto ที่เป็นเคยเป็นตัวรองในเรื่องNada SouSou)
ทุกอย่างดูเหมือนว่าคนสองคนมีช่วงเวลาเพียงรอยต่อของแสงตะวันเป็นเครื่องกั้น
สถานะการดำรงอยู่กันคนละด้านแม้ในฝั่งริมถนนสายเดียวกัน ทางออกของการ
ทอดสายสัมพันธ์ระหว่างกันจึงต้องมีใครคนใดคนหนึ่งเริ่มต้นขึ้นมาก่อน และคนๆนั้น
ก็คือ คาโอรุ นางเอกคนเรื่องนี้เอง



เข้าใจว่าการเร่งรัดความสัมพันธ์ให้ได้รู้จักกันเร็วยิ่งขึ้นของหนัง (Rapidly Relationa
Between Actors) เป็นการสร้างพื้นที่ของหนังในส่วนที่เหลือในภายใต้ข้อจำกัดของเวลา
สำหรับภาพยนตร์นั้น หนังเรื่องนี้ถือเป็นทางเลือกที่ฉลาด เท่ากับขยายมิติในองค์ประกอบ
ทีเหลือโดยรอบ แทนที่จะเอื้อยอิงอยู่กับตัวละครชาย หญิง สองคนกันตลอดทั้งเรื่อง
มันจึงมีพื้นที่ให้กับ มิติทางครอบครัวของตัวละครนางเอกที่เห็นถึงการทุ่มเท การเห็นอกเห็นใจ
และความเข้าใจอันเป็นเหมือนกับการชดใช้ความผิดของคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ ที่ทำให้ลูกเกิดมา
ภายใต้บาปอันเกิดจากความผิดปกติของโรคซึ่งทำให้เด็กสาวอย่างคาโอรุ ต้องสละการมีชีวิต
ในห้องเรียนแบบเด็กคนอื่นๆเขา มีสังคมที่โดดเดี่ยวในค่ำคืนและมีชีวิตที่เห็นแต่เดือนไม่เห็นตะวัน
หนังมีพื้นที่ให้กับเพลงอย่างเหลือเฟืออันเป็นจุดขายหลักของหนังเรื่องนี้และตรงคอนเซปต์ของ
การใช้ทรัพยากรอันอุดมในความเป็นศิลปินของนักร้องหญิงอย่างYui ในการร้อง เล่นและดีด
กีต้าร์ เป็นการให้หนังและนักแสดงเองเป็นที่รู้จักของตลาดภาพยนตร์มากยิ่งขึ้น(โดยมี๓เพลง
หลัก อย่างIt's Happy Line, Good-bye days และ Skyline เป็นทำนองขับเคลื่อนหนังตลอดเรื่อง)

หนังยังเดินตามขนบวิธีของหนังตลาดทั่วๆไป ยังเน้นถึงความฝันใฝ่ที่มีเป้าหมายเป็นตัวตั้ง อันส่งผล
ต่อการเดินเรื่องโดยมีเป้าหมายเหล่านั้นเป็นตัวปลายทาง อยู่ที่ว่าตัวละคนจะฟ่าฝันไปถึงเอง
รึไม่? ซึ่งก็ต้องเผชิญต่ออุปสรรค ปัญหา และสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ไหนจะอาการของโรคร้ายที่รอวันกำเริบ
จนต้องปรับสภาพของตัวละครในบรรทัดฐานที่แปรเปลี่ยน ในช่วงแรกหนังพยายามเชื่อมส่วนขยายช่องว่าง
ของตัวละครชาย หญิง ให้ดูห่างเหินมากยิ่งขึ้น (แต่เดิมกว่าจะได้เจอก็เล่นเอาแย่อยู่แล้ว)ผ่านอุปกรณ์
เครื่องมือ อย่างกล้องวีดีโอแบบพกพา โดยให้เพื่อนสนิทช่วยแอบถ่ายชีวิตประจำวันของเขา
เป็นการเรียนลักษณะนิสัยของอีกฝ่ายโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว จากนั้นเมือ่ถึงเวลาค่ำคืนเธอก็จะเดินตาม
ทางที่เขาเดิน สถานที่ที่เขาก้าวผ่าน เก้าอี้ที่เขานั่ง ให้คล้ายกับว่าเขาและเธอไม่ได้เหินห่างกันแต่ใด
(ดูตอนนี้แล้ว ทำให้นึกถึงตัวเองที่การได้มองหลังคนบ้านสาวเจ้าก็เป็นสุขใจโดยไร้ปัญญาการมีเทคโนโลยี
มาครอบครอง) หลายต่อหลายฉากที่พยายามเชื่อมการเข้าถึงในข้อจำกัดของตัวละครอย่างคาโอรุ
อาจดูตลกเวอร์ๆในสายตาผู้ดูอยางผม อย่างฉากการต้องสวมพันธนาการบางอย่างเพื่อเข้าถึงโคจิ
ดูแล้วกลายเป็นความขบขันมากกว่าการจะทำให้คนดูซาบซึ้ง แต่ไอ้นิยามความรักมันก็ทำให้พฤติกรรมโง่ๆ ในสายตาคนนอกอย่างผม กลายเป็นสิ่งประทับใจของอีกฝ่ายเรื่องอย่างนี้คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องคน
สองคน คนที่สามอย่างผมคงได้แต่ริษยาไอ้หน่มโคจิต่อไป ตัวหนังพยายามเสริมจุดที่เรียกว่า Opposited Point (จุดความขัดแย้งของเรื่อง) ในหลายๆแง่มุมทั้งกิจกรรมของหนุ่มโคจินักเล่นกระดานบอร์ดที่มีแดดเป็นองค์ประกอบหลัก ไอ้หนุ่มโคจิที่พิศมัย การชมพระอาทิตย์ท่อแสงเวลาหัวรุ่งบนชายหาด จนพาลคิดว่าไอ้หนุ่มโคจิ คือ จุดอ่อนที่ต้องถูกจำกัด แต่เมื่อน้องคาโอรุเลือกสรรแล้ว คนอย่างพี่คนได้แต่อวยพรให้น้องโชคดีและมีความสุขจากสิ่งที่น้องได้เลือก
กระทาชายนายโคจิจึงเป็นตัวแทนของโลกภาคกลางวัน ส่วนคาโอรุเป็นตัวแทนของโลกภาคกลางคืน
คนทั้งสองเป็นมิติที่เกื้อหนุนให้โลกได้หมุนรอบโคจรเพื่อหล่อเลี้ยงกันและกัน เพลงรักที่เคยเล่นเพื่อแลกกับ
เศษเงินเศษสตางค์กลับกลายเป็นเพลงรักที่มีความหมายและลึกซึ้งกว่าทุกคืนที่ผ่านมา อย่างที่เพลงเชื่อว่า
เป็นเช่นนั้น



โดยรวมของหนังแล้ว เป็นหนังที่ทำให้คนเกลียดหนังเรื่องนี้ได้ยาก แม้ว่าหน้าหนังกับเนื้อหนังจะไม่ได้สร้าง
ความตื่นตาตื่นใจเท่าไรนัก แต่ความประทับใจที่ได้จากหนังเรื่องนี้นั้นมีแน่ อาจจะไม่ใช่จากการแสดงที่ชวน
ให้อินสุดๆ แต่อย่างน้อยในแง่ของความทุ่มเท ในสิ่งที่เชื่อและตั้งใจ ได้เห็นถึงความสำเร็จแม้จะดูเล็กน้อยเมื่อเทียบกับตลาดสื่อบันเทิงแบบครบวงจร
ไม่ได้ยิ่งใหญ่ระดับโลก แต่มันมีความหมายต่อคนรอบข้างที่ล้วนแต่เป็นกำลังใจให้ด้วยดีตลอดมา หนังขายถึง
ความน่ารักของตัวละคร แม้จะไม่กินใจแต่ก็ยากจะไม่เห็นใจในสิ่งที่เขาเหล่านั้นได้ทำมา โดยเฉพาะเพียงแค่การ
ได้ฟังเพลงที่Yuiได้ร้องและเล่นแบบดีดจริง เสียงจริง ไม่ต้องมีสลิงช่วย มันก็เป็นความคุ้มค่าในระดับหนึ่งของผู้ชมอย่างผม ตอนท้ายคุณน้องคาโอรุยังมีมุขไล่ทุกคนออกนอกห้องบันทึกเสียงเพียงเพื่อให้ทุกคนรอฟังในรูปบันทึก
ที่เสรจ็ี่สมบูรณใน์รูปแบบซีดีอัลบั้ม โดยคุณน้องคงไม่รู้ว่าการไล่ทุกคนก็ไม่ต่างกับการไล่คนดูให้รอดูไคล์แมตของเรื่อง
ในตอนท้ายสุดตามไปด้วย ถือเป็นข้อฉลาดของหนังที่เ่ล่นอารมณ์ความอยากรู้อยากเห็นของคนดูให้ตาม
ติดจนยากที่จะลุกเข้าห้องจนต้องสู้กัดฟันทดต่อไป แม้ข้อปลีกย่อยอื่นๆจะถูกละเลยไปบ้างแต่ก็ยัง
รักษาระดับของความน่าสนใจเอาไว้โดยเฉพาะช่วงจบของหนังที่สร้างปัญหากับหนังที่เริ่มต้นมาดี
หลายต่อหลายเรื่อง ก็ยังถือว่าสอบผ่านเพราะยังคงใช้ตัวดนตรีดำเนินการปิดเรื่องอย่างประทับใจ
(แม้ไม่ได้อยากให้คาโอรุต้องหันไปสบตากับไอ้หนุ่มโคจิเลยก็ตาม) ยิ่งความเป็นหนังรักวัยรุ่นแล้ว คุณค่าของ
หนังที่ไม่ละเลยมุมมองของครอบครัวด้วยแล้ว ถือเป็นงานที่น่าสนใจชิ้นหนึ่ง แต่เสียดายที่มุมมองของคาโอรุที่มีต่อครอบครัวค่อนข้างแห้งแล้ง
อย่างไม่มีมิติ ถึงอย่างไรผมว่ามันเป็นหนังรักวัยรุ่นที่ดีกว่าหนังรักจากตะวันตกหลายต่อ
หลายเรื่อง จนผมอาจรู้สึกว่า "คาโอรุเป็นเด็กสาวที่โชคดีภายใต้ความโชคร้ายของโชคชะตา แม้คนปกติแบบ
เราๆท่านๆยังรู้สึกว่าเราคงมีความผิดปกติทางจิตใจมากกว่าที่คาโอรุเป็น" ยิ่งเป็นคนที่ชอบคุ้ยแคะแกะเกา เดินชิ้วไปชิ้วมา แบบหาอะไรมาทำตอนดึกเป็นนิจด้วยแล้ว หนังเรื่องนี้ตอบสนองอารมณ์จุดนั้นได้เป็นอย่างดี
เพราะโลกของคนนอนดึก อาจเป็นสิ่งที่คนนอนเช้ามันทดแทนด้วยกันไม่ได้ก็เท่านั้นเอง


ผู้กำกับภาพยนตร์ Norihiro Koizumi
ผู้ลำดับภาพยนตร์ Koichi Nakayama
ผู้กำกับศิลป์Tsuzuki Yuji




ขอบคุณข้อมูล - //www.jkdrammas.com
- //www.wikipedia.org


Create Date : 18 พฤษภาคม 2551
Last Update : 18 พฤษภาคม 2551 22:41:21 น. 0 comments
Counter : 1246 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mr.Chanpanakrit
Location :
สงขลา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]




Friends' blogs
[Add Mr.Chanpanakrit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.