Otousan สี่สาววุ่น จุ้นใจพ่อ
"รักพ่ออย่าทะเลาะกัน" เป็นประโยคจับใจที่ขึ้นหัวกบาลผู้เขียนเกือบทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นประโยคที่ไม่ได้ข้องแวะอะไร เกี่ยวกับการกงการเมืองเลยสักนิดนะครับพี่น้อง แต่เป็นประโยคข้อคิด ที่ได้มาจากการยลซีรีย์เรื่องล่าสุด แต่ไม่สุดล่า เพราะว่าเคยเป็นงานที่ทางทีวีเมืองไทย เขาเอามาฉายเมื่อสักหก-เจ็ดปีก่อน สมัยที่ประเทศไทยเคยมีสถานีทีวีที่เอาซีรีย์ญี่ปุ่นดีๆมาถ่ายทอด กับเรื่องที่มีชื่อว่า Daddy หรือภาษาเจ้าของประเทศหน่อยว่า . Otousan เหตุที่อยู่ๆ ผู้เขียนก็บังเกิดอาการระลึกชาติอยากดูเรื่องนี้ขึ้นมา ไม่ได้เกี่ยวเนื่องอันใดเลยกับดาราสาวสองนาง ที่ผู้เขียนแสดงอาการปลื้มจริต อย่างออกนอกหน้าแต่อย่างใด จะใครที่ไหนเหรอ ก็สองสาวดรุณี จากกุลบุตรีสี่นางของคุณพ่อบังเกิดกล้าวในเรื่อง Otousan เพราะสองนางในนั้น ประกอบด้วย เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ สาวราศี cancer คนเมืองโคชิ สูง ๑๖๑ ซม. หนัก ๔๐ กก. เกิดวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๑๙๘๐ เด็กในสังกัด FLaMme Agency กับสาวสวยอีกคน ที่ชื่อ เคียวโกะ ฟุคุดะ สาวราศี Scorpio เป็นคนเมือง คิตะแห่งกรุงโตเกียว สูง ๑๖๓ ซม. หนัก ๔๕ ซม. เกิดวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๑๙๘๒ เด็กในสังกัด Horipro Agency เชื่อผู้เขียนเถอะว่า สองนางนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอันใดในความถวิลรับชม แต่เกิดจากตัวพ่อ ทามุระ มาสากาซุ ที่ผู้เขียนเพิ่งได้ประจักษ์ในฝีไม้ลายมือ ในการแสดง จากซีรีย์ที่เพิ่งได้รับชมในเดือนที่แล้วอย่าง Concerto ชายที่เกิดเมื่อไรไม่รู้ ราศีอะไรก็ไม่ทราบ สูงเท่าไรน้ำหนักประมาณไหนไม่เห็นจะ สำคัญ เป็นอันว่า ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรจากไอ้หมอนี้เลยสักอย่าง ถ้านอกจากเรื่องนี้ กับเรื่องที่ได้ดูในคราวที่แล้ว ผู้เขียนอาจไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า ไอ้หมอนี้! มันก็เป็นดารงดาราค้างฟ้าในวงการแสดงหน้าจอทีวีเมืองยุ่นกับเขาเช่นกัน ความจริงแล้ว โครงเรื่องแบบชีวิตอลหม่านงานเข้าอย่างต่อเนื่องตอนต่อตอน สำหรับในซีรีย์ญี่ปุ่นนั้น ค่อนข้างจางหายไปตามวันและเวลาที่ผันผ่าน การได้กลับมารับชม Otousan อีกครั้งหนึ่ง มันก็สร้างสุนทรียสุนทรของวันเก่าๆ ให้กลับคืนมาอีกครั้ง เพียงแค่การวางพล็อตคร่าวๆ เรื่องราวก็ชวนน่าดูชมแล้ว ยิ่งมารับรู้ก่อนดูว่า มีสาวสี่รุ่นสี่รสนิยม ที่มารับบทเป็นกุลธิดาสี่นาง ของพ่อหม้ายลูกติด พ่อหม้ายที่ว่าชื่อ ชิโร่ แห่งร้านยากิโซบะเจ้าตำรับ (รับบทโดย ทามุระ มาสากาซุ จาก Concerto) เป็นพ่อจอมหัวดื้อและมุทะลุ ที่จะขออนุญาตลูกๆ แต่งงานใหม่ หลังจากที่อดีตภรรยาได้เสียชีวิตมาเนินนานกว่าสิบปี และต้องมีภาระรับเลี้ยงลูกสี่คน ซึ่งทั้งสี่ต่างก็เป็นเพศสตรีผู้บรรลุนิติภาวะด้วยกันทั้งสิ้น ลูกทั้งสี่คนต่างก็ปรารถนาที่จะออกจากบ้าน ไปมีเหย้ามีเรือนอยู่กับคนรักตามลำพัง และไม่ยอมรับคนรักคนใหม่ของคุณพ่อ จะด้วยความที่รักแม่มาก หรือปฏิเสธหญิงที่แปลกหน้าก็ไม่ทราบได้ แถมหน้าตาจะออกไปทางรุ่นป้า และไปคบหากันมาเมือ่ตอนไหนก็ไม่รู้ โดยไม่เคยแนะนำให้รู้จักหน้าคาตากันมาก่อน ขณะเดียวกันก็เล่นแง่ โดยไม่แคร์ว่าพ่อของตัวเองจะยอมรับแฟนที่คบหาดูใจกันมารึไม่ งานนี้จึงเป็นเรื่องของคุณพ่อที่ไม่ใช่คุณแฟน และของแฟนที่ไม่ถูกหน้าคุณพ่อ คงพอให้คาดเดาได้ลำบากกันสักหน่อย สำหรับแฟนละครชาวไทย ที่มักติดห่วงวัฏจักร แม่ผัวกับลูกสะใภ้ เพื่อเปิดรับจักษุทัศนะที่แตกต่างอีกด้าน ของปัญหา พ่อเมียกับลูกเขย ที่มีความสนุกสนานหรรษาไม่แพ้กัน ความสนุกของซีรีย์เรื่องนี้ คือ การใช้ตัวละครที่มีอัตลักษณ์ทางลักษณะนิสัย ที่แตกต่างระหว่างพี่น้องอย่างชัดเจน ทั้งในแง่รสนิยม การเลือกคู่ครอง ปัญหาชีวิต จุดดี-จุดด้อย ขณะเดียวกันก็มีจุดร่วมที่เหมือนกันทั้งจาก ประสบการณ์ร่วมในวัยเด็กที่โตกันมา และศูนย์รวมความผูกพันจากคนผู้เป็นพ่อ (และกิจการร้านยากิโซบะที่อร่อยเป็นที่หนึ่งในความคิด) และความที่มีพ่อชิโระ เป็นจุดกลางระหว่างเรื่อง เลยมีผลทำให้ลูกสาวแต่ละคน รวมทั้งมิตรสหาย รอบข้าง มีโอกาสรับรู้ ทั้งในส่วนกว้างและส่วนขยายในทุกๆมิติ ที่ผู้เขียนรู้สึกว่า ซีรีย์ระยะหลังๆ ที่แม้จะมีการแบ่งซีนละตอนสำหรับตัวละครแต่ละตัว ก็ช่างทำได้แสนจะแห้งแล้ง และขาดแคลนซึ่งมิติในอีกหลายๆด้านซะเหลือเกิน ซีรีย์เรื่องนี้ทำให้ผู้เขียนเชื่อได้เลยว่า เวลาที่ตัวละครรวมกลุ่มสมาชิกกันครบครัน มักจะนำมาซึ่งความอบอุ่นแบบแปลกๆ ที่แม้คนดูไม่อาจสัมผัสได้ แต่ก็สามารถรับรู้ได้ด้วยสายตา อีกทั้งยังพอเหน็บหนาวและอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวตาม ยามที่ลูกสาวต่างคนต่างค่อยๆทยอยออกจากบ้าน แม้ไม่ต้องอาศัยการโหวตsms เพื่อให้ใครสักคนที่ไม่ใช่แฟนคลับ จำต้องออกไป แต่ความรู้สึกแปลกๆที่ญาติก็ไม่ใช่ แต่ก็บังอาจทำให้คนดูอย่างผู้เขียนรู้สึกจี๊ด แม้จะพยายามขัดขืนสักเต็มประดา ในที่นี้ จะขอยกตัวอย่าง ลักษณะพิเศษและความแตกต่างของลูกสาวสี่นางใน Otousan พอได้ให้เห็นภาพเลาๆก็แล้วกัน ลูกสาวคนโต ที่ชื่อ ยู กำลังมีแผนที่จะจดทะเบียนหย้ากับสามี ด้วยปัญหาเข้าไม่ได้กับแม่ผัว และความที่สามีไม่เคยเข้าข้างในความ ถูกต้องของตนเอง เดิมก็เป็นคนที่มีนิสัยหุนหันพลันแล่น ทำอะไรไม่ค่อยจะคิดหน้าคิดหลัง ก่อนจะแต่งงานก็เป็นคนหลักลอย ไม่เคยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เรียนก็ไม่จบ แถมไม่เคยทำตัวให้สม กับที่เป็นพี่คนโตให้น้องๆได้เคารพนับถือ แม้แต่ลูกชายเพียงคนเดียว ที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ ก็รู้สึกอับอายที่จะบอกใครว่าเจ๊คนนี้เป็นแม่ของตน สุดท้าย เมื่อรู้ว่าไปไหนไม่รอด ก็เลยแพ๊คกระเป๋ากลับมาตายรังที่บ้าน ซึ่งคนที่รับบทนี้ คือ เจ๊อิลจิมา นาโอโกะ จากซีรีย์ Hero SP และในหนัง Kurosagi ส่วนบทของแฟนหนุ่มของยู ก็คือ ฟุคาเอะ ทากุจิ ลูกสาวคนที่สอง ที่ชื่อ อาคิระ ดูจะเป็นคนที่เอางานเอาการเป็นที่สุด และดูเหมือนว่า จะเป็นคนที่พ่อให้ความไว้วางใจและยอมรับฟังมากที่สุด เป็นคนเดียวที่ทำหน้าที่ทั้งในส่วนของงานบ้านและทีร้านยากิโซบะ แต่ในความเป็นจริงแล้ว กลับเป็นคนที่มีแผนการในชีวิตมาอย่างยาวนาน ที่จะทำงานละครเวทีตามที่ตนใฝ่ฝัน และได้พบรักกับผู้กำกับละครเวที จนมีแผนที่จะแต่งงาน เพียงแต่ยังไม่กล้าที่จะเอ่ยความจริงกับพ่อของตน และดูคล้ายจะเป็นคนที่เก็บกดในความรู้สึก ขณะเดียวกัน ก็เป็นศูนย์กลางเชื่อมความสามัคคีในเวลาที่พี่น้องทะเลาะเบาะแว้งกัน คนที่รับบทนี้ คือ นากาตานิ มิกิ จากซีรีย์ Jin และหนัง Densha Otoko ส่วนบทของแฟนหนุ่มของอาคิระ ก็คือ ทานิฮารา โชชุเกะ จาก Gokusen 2, Love Suffle ลูกสาวคนที่สาม ที่ชื่อ มาโกโตะ อาจเป็นคนที่พ่อไม่เคยแสดงความรักให้ เท่ากับที่ผู้เขียนเจาะใจแสดงกันเห็นๆ แม้ไม่ได้อยากจะเป็นพ่อเธอ ในเรื่องต้องรับบทเป็นนางพยาบาล ที่ไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง คบหาแฟนหนุ่มก็ดันเป็นคนที่ไม่เอาโล้ไม่เอาพาย มีแต่หลอกรับประทานเกาะกินไปวันๆ แต่ในบรรดาพี่น้องทั้งหมด มาโกโตะเป็นคนที่ใจดี มีเมตตา รับปากช่วยเหลือผู้คนทุกเรื่อง แม้ผลของการรับปากจะสร้างปัญหาหนักอกหนักใจที่จะตาม คนที่รับบทนี้ คือ เรียวโกะ ฮิโระสุเอะ จากใจผู้เขียน ส่วนบทของแฟนหนุ่มมาโกโตะ ก็คือ ซึกาโมโตะ ทากาชิ จาก Fire boys,Tiger and Dragon และ Kekkon Dekinai Otoko ลูกสาวคนสุดท้าย คือ เคย์ เป็นสูตรโลกแตก ที่ตัวเล็กคนสุดท้อง จะต้องเป็นเด็กที่ถูกเอาแต่ใจมาตั้งแต่เด็ก ผลที่ตามมาก็เลย เวลาที่ต้องเผชิญกับความผิดหวัง ก็จะรู้สึกรุนแรงกว่าชาวบ้านชาวเมืองเขาทั่วไป และความถูกเอาแต่ใจ เลยได้เล่นเปียโน โดยที่ผู้เป็นแม่เเแอบเก็บเงินซื้อให้โดยไม่บอกผู้เป็นพ่อ วิธีคิดและมุมมองก็เลยเอาแต่อารมณ์และไม่รู้จักยอมโต แถมแฟนที่คบหา ก็เจอกันแบบบังเอิญ ที่มารู้ภายหลังว่าเป็นถึงลูกท่านฑูต ที่อยากจะมีชีวิตนอกการบงการของทางบ้าน เลยต้องมารับจ๊อบตกอับ และพ่อท่านฑูต ก็ไม่ยอมรับในตัวลูกสะใภ้ร้านโซบะอย่างเคย์ คนที่รับบทนี้ ก็คือ เคียวโกะ ฟุคุดะ จาก Remote,Friends,Precious Time ส่วนบทของแฟนหนุ่มของเคย์ ก็คือ โคคุบุน ทาอิชิ จาก Bus Stop,Dance Drill อันนี้เป็นความเห็นจากผู้เขียน ที่ดูซีรีย์จนจบตอน แต่กับคุณพ่อในเรื่องแล้ว คิดเห็นไปอีกแนวทางแบบที่ผิดไปจากลูกเขย อย่างผู้เขียนสัมผัสได้ไม่ถึง แถมชื่อที่ตั้งก็มีเจตนารับขวัญลูกชาย แต่ให้ตายเถอะ มักมีผลตรงกันข้ามทุกที All of My Girls;Yu who is more isolated than any other. Thrid, Mokoto who's sensible in her way and feel badly if someone dislike her. Last,K was treated as she like.Have as a consequence self-willed. The final result,Akira.l can depend on inherited shop. (ในบรรดาลูกสาวทั้งหมด ยูจะเป็นคนที่อ้างว้างเป็นที่สุด ส่วนคนที่สามนี้ มาโคโตะเธอเป็นเด็กที่อ่อนไหวและจะรู้สึก แย่เสมอ หากใครสักคนแสดงอาการที่ไม่ชอบเธอ ส่วนเจ้าคนสุดท้อง เค แกเป็นเด็กที่มักถูกเลี้ยงอย่างตามใจ โตขึ้นมาก็เลยมักเอาแต่ใจตัวเอง และเจ้าคนสุดท้าย อากิระ ดูจะเป็นคนที่พอพึงพาได้ และเหมาะที่จะรับดูแลร้านในที่สุด) เรียกได้ว่า ถ้าใครชอบนักแสดงสาวและกำลังเลยสาว คนใดคนหนึ่งในสี่คนที่ว่านี้ ซีรีย์เรื่องนี้มีให้ยลโฉมหน้าพวกหล่อนกันจนอิ่มเเปล้ ครบทั้งรส หลากทั้งอารมณ์ ชนิดที่ว่าสุข-เศร้า-เหงา-รัก แถมเคล้าน้ำตา ประเคนให้กันอย่างเอิบอิ่ม ถ้าถามถึงความสามารถจากซีรีย์เรื่องนี้ ผู้เขียนต้องขอบอกว่า บทของตัวละครที่ได้แสนจะตรงกับบุคลิกหลักในชีวิตจริง ของนักแสดงแม่นางนั้นๆ เลยไม่ต้องปรับจูนหรือใส่จริตอะไรกันมาก จนบางที ยังนึกว่าไม่ใช่การแสดง แต่มาเป็นการนั่งเม้าท์แตกหลังโรงถ่าย ยิ่งหากใครถามถึง ปฏิกิริยาทางเคมีของความเป็นพี่เป็นน้องด้วยแล้ว พล่านนึกเอาว่า นักแสดงทั้งสี่นาง มาจากท้องเดียวคืบคลานตามกันมา เพียงแต่ว่าหน้าตาอาจไม่ค่อยมีส่วนคล้ายคลึงกันซะเท่าไร จะสนใจไปทำไม ในเมื่อบทที่ได้ละเลง มันช่างสนุกสนานครื้นเครงกันเสียเหลือกำลัง ส่วนอีกบทหนึ่งที่เป็นศูนย์กลางแบบขาดไม่ได้เช่นเดียวกัน คือ บทแฟนใหม่ของพ่อ ที่หน้าตาจะออกไปทางอพาร์ทแมนคุณป้าผู้สูงวัย (หรือถ้าบทจะยกให้เป็นแม่ของพ่อของลูกสาวทั้งสี่ ผู้เขียนก็ไม่รู้สึกเคอะเขินแต่อย่างใด) เข้าใจเอาเองว่า บทต้องการสร้างความรู้สึกปฏิเสธเบื้องต้นในใจของลูกทั้งสี่ ขณะเดียวกันก็สร้างจุดฮาเบื้องต้นในใจของคนดู ว่าทำไมตัวพ่อถึงได้เปิดตัวอย่างไร้รสนิยม เพียงนี้ อันนี้มิบังอาจตั้งข้อหาหมิ่นประมาทใส่ตัว แต่ทว่าภาพถ่ายของภรรยาคนก่อน ช่างงามสวยหยาดนภาลัย จนไม่สมควรที่จะตายไปก่อนวัยอันควร กระนั้นก็ต้องยอมรับว่า โมริยามา เรียวโกะ ที่รับบท อันไซ ทามาโกะ หรือ ที่ป๋าชิโระ มักโทรเรียกด้วยเสียงหวานๆว่า มาโกะจัง ดูจะเป็นงานแสดงซีรีย์เพียงเรื่องเดียวในชีวิต (ถ้าไล่หาประวัติของเจ๊จนทั่ว) เจ๊แกอาจเล่นได้ตะกุกตะกักไปบ้าง แต่ก็เข้ากับบทที่เป็นคนขี้เกรงอกเกรงใจ ตั้งเงื่อนไขแสนดี ที่อาจทรมานใจคนพ่อ ว่าหากลูกสาวทั้งสี่คนไม่เปิดใจรับความ เป็นสมาชิกใหมในบ้าน ก็จะไม่ขอรับปากที่จะรับแต่งงานด้วย ในบทคุณเจ๊แกก็น่าสงสารอยู่ไม่น้อย ใช้ชีวิตเพียงคนเดียวในโรงนวดแผนโบราณ ไปรู้จักมักจี่กับตัวพ่อชิโระได้ ก็ตอนไปเคารพหลุมศพลูกชายของเธอ ความรักของผู้ใหญ่นี้ดูกันยากเหมือนกันน้อ เพราะเขาไม่แสดงออกด้วยคำหวานๆ หรือหาของเพื่อสื่อแทนใจแก่กันและกัน อย่างในเรื่องเขาสื่อด้วยการรู้จักตัวตนของอีกฝ่าย อย่าง อาการเกาหัวเขยิกๆของป๋าชิโระ เจ๊ทามาโกะก็เดาได้เลยว่า เฮียแกกำลังโกหกอยู่แน่เลย แต่เชื่อรึไม่? ว่าจริงๆแล้ว เจ๊แกเป็นคนสองบุคลิก อันนี้ไม่ได้เกิดจากภาวะทางจิต แต่เกิดจากน้ำเปลี่ยนนิสัย ที่เรียกว่า สาเก ที่ลองได้กระดกลงคอเมื่อไร จากสาวแก่ติ๋มๆไม่ต้องแปลงร่างให้ตัวเขียว ก็สามารถเป็นเจ๊ใหญ่หัวใจเฟี้ยวซ่า จะพูดจะจาอะไรก็ไม่มียั้งปาก และเจ้าปากนี้แหละ มักจะชี้ทางออกแก่ชีวิตสี่สาวดรุณีของพ่อชิโระได้เสมอในตอนท้าย ก็อย่างว่า นิสัยของป๋าชิโระมันเป็นคนหัวดื้อ เลยทำให้ปากกับความรู้สึกที่แท้จริง มักไม่ค่อยที่จะสัมพันธ์กัน แต่ผู้กำกับกับมือเขียนบท ก็ทำให้ อาการขัดอกขัดใจในแฟนใหม่พ่อชิโระ ที่มีมาตั้งแต่ต้นเรื่องในความรู้สึกของผู้เขียน ก็เเปรเปลี่ยนไปเป็นการเอาใจ ช่วยให้ได้สมรสอย่างสมรัก ท่ามกลางการภาวนาในใจ ให้ลูกสาวทั้งสี่คิดไม่ต่างจากใจของผู้เขียน นี้ละมั้ง !ที่ว่าความดีชนะใจทุกอย่าง แต่ถ้าให้เป็นแฟนในชีวิตจริงของผู้เขียน อันนี้คงขอคิดให้หนักอีกสักระยะ ตามประสา รักลูกสาวของคุณพ่อสองคนสุดท้ายตั้งแต่แรกเห็น เผลอๆ แรกก่อนที่จะมาเล่นเป็น ลูกสาวของคุณพ่อชิโระมาเนินนานหลายซีรีย์ 50 years ago;Grandfather's Mother was troubled by save-up for open owner shop.He set a his name shop as his name one's daughter. My mom try to continued it when my father knew he resign his putational company for inheritance. (ห้าสิบปีที่แล้ว คุณตาฉันเก็บหอมรอมริบเม็ดเงินเพื่อที่จะได้เปิดร้านเป็นของ ตัวเอง เขาตั้งชื่อร้านตามชื่อลูกสาวเพียงคนเดียว ดังนั้นแม่ของฉันจึงพยายาม ทุกวิธีทางที่จะรักษาร้านเอาไว้ จนเมื่อคุณพ่อทราบความจริงเข้า เขาจึงได้ตัดสินใจลาออกจากบริษัทที่มีชื่อ เพื่อสืบกิจการของร้านต่อไป) ไม่ใช่แค่ตัวละครหลักๆ เท่านั้น ที่จะสร้างสีสันให้กับเรื่อง ผู้เขียนว่า ความสนุกของซีรีย์ยุคก่อนๆ แม้แต่ความเป็นตัวละครรองๆ ก็เติมเต็มสีสันให้ตัวละครหลักและเนื้อเรื่องที่ชวนหนักอึ้ง ให้ดูเบาโดยปริยาย ใน Otousan ก็มีตัวละครที่เล่าพฤติกรรมเพียงนิดหน่อย ก็ฉุดภาพฮากลางอากาศแบบที่พอเดาทางได้ อย่าง โอบากะ ผู้ช่วยกุ๊กร้านยากิโซบะ เจ้าอ้วนที่ช่วยป๋าชิโระในตอนเช้า แล้วไปทำตัวป๋าในโฮสคลับเวลาตอนดึก มักแสดงอาการหลงรักในตัวลูกสาวทั้งสี่ของป๋าชิโระอย่างออกนอกหน้าและออกนอกร้าน ไหนจะป๋าข้างบ้าน ที่ชื่อ โอบาจัง คนรู้จักข้างบ้านที่สอดรู้สอดเห็นความเป็นไป ของเพื่อนบ้านได้ดีกว่าในบ้านของตัวเอง เรื่องสอดนี้ไม่แพ้ซ้อเจ็อซ้อแปดสำนักไหนๆ มาทีไรเล่นเอาป๋าชิโระออกอาการ ตรูละเบื่อทุกที!! แต่ขอเกริ่นไว้นิดนึงว่า เป็นงานเขียนบทของ ยูกาวา กาซุฮิโกะ ซึ่งเป็นคนเขียนบทคนเดียวกันกับซีรีย์แนวครูโหด GTO ที่อย่าได้คาดหวังว่าจะมาแนวบรรทัดฐานเดียวกัน เพราะใน Otousan ออก ไปในทางงานเขียนอารมณ์ญิ๊งหญิง ที่มีสิ่งที่เรียกว่า "เรื่องกุ๊กกิ๊ก" โผล่ให้เห็นอยู่ตลอดทุกตอน ดังนั้นผู้เขียนจึงไม่แน่ใจว่า คนที่สถาปนาตัวเองว่า "ชายชาย" จะรับสภาพในอารมณ์ที่ถ่ายทอดออกของผู้กำกับ คิโยฮิโระ มาโคโตะ ได้รึเปล่า? แต่อย่างน้อยๆ ก็ทำให้ความรักของคนใกล้วัยเกษียณอีกไม่กี่ปี ดูยังมีรสชาติ แถมผู้คนยังอยากติดตามและดูตอ่เนื่องอย่างมีความสุข แบบที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเข็นมาได้จนถึงสิบเอ็ดตอน แบบดูก็ไม่รู้เบื่อ (โดยเฉพาะนักแสดงสาวบางราย) ถือได้ว่าเจ๊แกก็มีฝีมือเขียนบทอยู่เอาการ ซึ่งจะว่าไป ผกก.มาโคโตะ ก็พยายามประนีประนอมรอมชอมในตลาดผู้ดูสองวัย อยู่พอสมควร และทำในกรอบเนื้อหาของเรื่องราวของลูกสาวหนีพ่อ ที่แลจะเป็นงานที่หนักๆ ให้ดูเบาลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งๆที่มีการตบหน้า-ตะเพิดไล่ กันเห็นๆ เกือบทุกตอน ก็เป็นเรื่องที่ผู้เขียนไม่สามารถหาคำอธิบายได้ว่า ทำไมบางเรื่องบางตอน ถ้าเป็นละครไทย ซีรีย์ฮ่องกง-เกาหลี จะถ่ายทอดประเด็นปัญหาในฉากนั้นให้สะเทือนจิตใจท่านผู้ชมคนดู จนเลยเถิดไปสู่การอัติวินิบากกรรม แต่ในซีรีย์ญี่ปุ่น มันถึงได้ลดทอดประเด็นเล่านั้น ลงมาถ่ายทอดให้ผู้คนรับชมแบบรับรู้ แต่ไม่รับการซึมซับในภาวะอารมณ์นั้นๆ หรือจะอธิบายเป็นภาษาธรรมะว่า ขาดสิ่งปรุงแต่งในใจ เหมือนคนเห็นทุกข์ แต่ไม่รับรู้ว่าทุกข์ หรือเห็นสุข แต่ไม่รับรู้ว่าสุข จะว่าผกก. ไม่เจาะจงในประเด็นก็ไม่ใช่ เพราะยังสอดเพลงบรรเลงที่แสนชวนเศร้า แถมยังมีการย้อนรำลึกความทรงจำสีเทาๆ เวลาที่ตัวละครนั้นๆ นึกถึงช่วงปัญหา ที่สะเทือนใจ หรือจะเป็นการให้สัดส่วนแบบพอดิบพอดี แบบไม่ถ่ายมูดความเศร้า ให้กับซีรีย์จนเกินงาม และไม่เทส่วนก๊ากแบบฮาส่งเดช เพราะอย่างงี้ละมั้ง! จึงทำให้ดาราที่ไม่ค่อยรับเล่นซีรีย์ทางทีวีเท่าไรนัก อย่าง ลุง มาสากาซุ เลยเออออห่อหมก ร่วมงานกับผกก. มาโคโตะอีกครั้ง หลังจากที่หกปีที่แล้ว เคยร่วมงานในซีรีย์ที่ชื่อ Concerto ที่มีนายทาคุยะหน้าละอ่อน ในบทรักสามเศร้าชาวสถาปนิก จากค่ายทีวี TBS เจ้าเก่าเจ้าประจำ ที่ครั้งกระนั้น ผู้เขียนยังติดมาดความเป็นสถาปนิกป๋ายะเชิดชู เอบิซาวา อยู่หยกๆ พอมาทิ้งแปลนบ้าน ยกกระดานไม้มานวดแป้งยากิโซบะ ก็ดูขัดๆตาไปสักหน่อย พอดูไปสักตอนที่สอง มันก็กลายเป็นอาชีพที่ชินตาโดยปริยาย ซึ่งจะว่าไป ผกก. มาโคโตะแกก็พรรคดีกับค่ายทีวีเจ้านี้ แบบทำงานมายี่สิบปี ก็ไม่เคยหนีไปรับจ๊อบนอกค่าย ซึ่งก็กำกับเฉพาะงานซีรีย์ ปาไปเกือบจะสี่สิบเรื่องเข้าไปแล้ว You can love many people.but l have one father.he never hurt me anyway. (เธอจะไปรักใครที่ไหนก็ได้ แต่ฉันมีพ่อเพียงคนเดียว พ่อที่ไม่มีวันทำร้ายจิตใจฉัน) ถ้าถามว่า มีความสมควรมากเเค่ไหนสำหรับซีรีย์เรื่องนี้ อันนี้ก็แล้วแต่วิจารณญาณและปัญหาของทางบ้านที่จะไปจี๊ดใจในชีวิตจริง ของบรรดาท่านๆทั้งหลาย กันรึไม่? ความฉลาดของซีรีย์เรื่องนี้ คือ การฉายภาพของมายาคติทิฐิ ที่ล้นเปี่ยมในทุกๆตัวละคร ก่อนที่จะค่อยๆสลายพฤติกรรม จากผลลัพธ์ทางความสัมพันธ์ที่พูดกัันอย่างเปิดอก ท่ามกลาง สถานการณ์ในจุดพลิกผันของชีวิตในแต่ละตัวละคร จะว่าไปในทุกๆทางออก ล้วนเป็นการเสนอในแนวกรอบ "เฟนิมิสต์นิยม"เสียด้วยซ้ำ ถือเป็นการฉีกกฎเกณฑ์ทางสังคม แม้ไม่กี่งประจาน แต่ก็แสดงวุฒิเพศสภาวะ ที่ไม่ได้เป็นเพียงช้างเท้าหลังของผู้ชายที่เรียกว่า แฟน หรือเกินเลยจนเรียกว่า สามี แต่เท่าที่สังเกตุจากการขายงานของซีรีย์เรื่องนี้ ก็จะหนักไปทางขายดารา แถมยังเป็นดาราสาวสองคนที่ผู้เขียนครองใจมานานโคตร สำหรับเรียวโกะ สนมมือขวาของผู้เขียนแล้ว ค่อนข้างจะอุ่นใจได้ว่า ยังคงมีงานซีรีย์และเหล่าบรรดาหนังใหญ่ เชื้อเชิญให้รับเล่นอยู่อย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อมือได้ทั้ง หน้าตาและฝีไม้ลายมือในการแสดง แต่กับหนูเคียวโกะแล้ว ผู้เขียนชักไม่ค่อยแน่ใจ เอาเข้าแล้วน้องหนูก็ยังคงมีงานชุกในแต่ละปี แทบจะชนกันตาย เพียงทว่าโอกาสที่จะเผยแพร่สู่นอกเกาะหมู่เกาะญีปุ่น มาสู่ฝูงชนชาวไทยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แทบจะไม่มีตลาดเจ้าไหนหรือคลิปเว็บยูเซอร์ใด ปล่อยงานบรรจงที่ขายหน้าตา ให้ผู้เขียนได้หายคิดถึงเอาความ เป็นหนูเคียวโกะที่บุญมี แต่มักที่จะมีกรรมบัง แถมบังสักมิดตา จนได้ข่าวว่าน้องแกได้ลดสภาวะอาการกินอยู่กับปาก อยากอยู่กับท้อง จนปัจจุบันรูปร่างสลิมเพรียวบาง จะโผล่ในแขกรับเชิญในซีรีย์กาลิเลโอ ก็บรรเทาความหายคิดถึงจนผู้เขียนจำต้องลดโทษให้ลงกึ่งหนึ่ง แต่ยังคงรักษาเก้าอี้สนมมือซ้ายให้เป็นตำแหน่งวาง ซึ่งถ้าคุณหนูเคียว ยังรอช้า อาจมีดาราหน้าใหม่ผิวขาวๆ รอเสียบไว้อีกเพียบ แต่ใช่ว่างานซีรีย์สมัยก่อนๆจะดีไปเสียทุกอย่าง ในแง่โปรดักชั่น ยังถือว่าถ้ามุ่งจับผิดกับจริงๆ ก็มีความไม่สมจริงอยู่หลายส่วน ทั้งยังจับทางได้ว่า เป็นการถ่ายทำจากห้องส่งชัดๆ เพราะยังเห็นกำแพงโรงถ่ายอยู่ลิบตา ตัดกับหลังคาตัวบ้านที่สร้างเป็นฉากกันเห็นๆ ขณะที่แสงไฟจากห้องส่งกับแสงแดดจากภายนอก ก็มีอนุภาคเบต้าที่ไม่ต้องสัมผัส ก็ดูเห็นกันได้อย่างชัดเจน ส่วนความที่เป็นบทรั่ว อันนี้รับรู้แต่พอให้อภัยกันได้ ไอ้ประเภทแปล้บๆก็เปลี่ยนเป็นคนละคน หรือแม้แต่คนเลวที่มาต้นเรื่อง แต่เหมือนได้น้ำมนต์ดี ไม่ก็ผีพระมาเข้าสิงร่าง อันนี้ก็พอเข้าใจคอปเซปต์มาตราฐาน ที่ไม่อยากให้ภาพแง่ลบ ต้องติดตัวนักแสดงหน้าใหม่ เพราะขืนเล่นอย่างนี้กันจนอวสาน เดี๋ยวจะหางานใหม่รับเล่นให้แจ้งเกิดได้ยาก อย่างไรเสีย ก็ตีโจทย์คอเมดี้แฟมิลี่จ๋าแบบที่มีสาระปนแง่คิดตามสูตร ดูแล้วก็ไม่ทำร้ายจิตใจ แถมดูไปก็ไม่เอามาเก็บมาเป็นฝันร้าย จึงเป็นงานที่ดูได้ทั้งครอบครัว ไม่ว่าตอนนี้จะมีเสื้อสีไหน ก็ล้วนแล้วแต่ไม่ถูกใจในผิวเนื้อสีขาวๆ ของสี่สาวดรุณี ของท่านพ่อชิโระได้เป็นอันขาด พูดอย่างนี้ไม่ได้ดูถูก แต่ลูกสาวพ่อเขาดีจริง ดีแบบไม่ต้องพึ่งป้าย "บ้านนี้สุนัขดุ" เสียด้วยซิ........ อวยขอ้มูลให้จาก jkdramas และ dramawiki ครั้งหนึ่งเคยเขียนถึงผู้กำกับ ฮิโรคิโย มาโคโตะและลุงทามุระ มาสากาซุ ใน Concerto รักเราชาวสถาปนิก ครั้งหนึ่งเขียนถึง เคียวโกะ ฮิโรสุเอะ ใน Summer Snow หิมะกลางฤดูร้อน Beach Boys ร้อนนักก็พักร้อน Slow Dance ปล่อยชีวิตตามจังหวะสโลว์ departures ศพขึ้นหิ้งออสการ์
Create Date : 14 มีนาคม 2553
Last Update : 15 มีนาคม 2553 22:17:35 น.
21 comments
Counter : 3574 Pageviews.
โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.64.157 วันที่: 14 มีนาคม 2553 เวลา:23:41:32 น.
โดย: Tukta21 วันที่: 15 มีนาคม 2553 เวลา:0:22:16 น.
โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.73.195 วันที่: 16 มีนาคม 2553 เวลา:20:32:46 น.
โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.50.126 วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:20:24:21 น.
โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.50.126 วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:20:29:37 น.
โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.27.122 วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:20:42:53 น.
โดย: prysang วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:12:36:15 น.
โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.42.11 วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:20:40:09 น.
โดย: chanpanakrit IP: 115.67.234.166 วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:23:07:21 น.
โดย: มะนาวเพคะ IP: 118.173.94.139 วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:20:30:36 น.
โดย: มะนาวเพคะ IP: 118.174.52.233 วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:20:27:34 น.
โดย: Mulberry Alexa Bag IP: 94.23.252.21 วันที่: 2 สิงหาคม 2557 เวลา:13:32:46 น.
แถมมีดาราฝีมือจัดจ้านหลายคน
อย่างพี่คนโตนี้ติดใจตั้งแต่เรื่องHERO(ปี2001)
เธอแสดงเป็นทนายที่แสนจะเป็นหญิงเท่แข่งกับอัยการอย่างทาคุยะ
ส่วนคนรองก็ฝีมือจัดจ้านจริงๆดูเรื่องJINแล้วนับถือฝีมือเธอเลย
แสดงได้แบบลืมไปเลยว่าเธอเคยแสดงเรื่อง Merry Christmas in Summer
ซึ่งเรื่องนี้ดูไม่จบเพราะเธอขี้เหร่มากและเนื้อเรื่องก็ไม่สนุก
ส่วนคนที่3น้องหนูเรียวโกะสนมเบื้องขวาของจขบ.ขอผ่านค่ะ
ส่วนคนที่4สนมเบื้องซ้ายของจขบ. ขอหน่อยเถอะ จะอวบไปถึงไหน
ดูGalileoแล้ว อึดอัดแทนเธอจริงๆ กลัวหายใจไม่ออก
แล้วยิ่งเธอมาแสดงเรื่องYama Onna ขนาดเสื้อปริ กระดุมกระเด็นล่ะกัน เฮ้อ!
เนื้อเรื่องผูกพันกับการรักษาร้าน
คล้ายเรื่องLunch no Joou เลยนะคะ
แต่เรื่องLunch no Joougเป็นลูกผู้ชายหมด
และลูกชายคนที่2ก็เป็นผู้ได้สืบทอดร้านเหมือนเรื่องนี้ที่เป็นลูกสาวคนที่2เหมือนกัน