A ........ Z
Group Blog
 
All blogs
 
Otousan สี่สาววุ่น จุ้นใจพ่อ






"รักพ่ออย่าทะเลาะกัน"
เป็นประโยคจับใจที่ขึ้นหัวกบาลผู้เขียนเกือบทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมา
เป็นประโยคที่ไม่ได้ข้องแวะอะไร เกี่ยวกับการกงการเมืองเลยสักนิดนะครับพี่น้อง
แต่เป็นประโยคข้อคิด ที่ได้มาจากการยลซีรีย์เรื่องล่าสุด แต่ไม่สุดล่า
เพราะว่าเคยเป็นงานที่ทางทีวีเมืองไทย เขาเอามาฉายเมื่อสักหก-เจ็ดปีก่อน
สมัยที่ประเทศไทยเคยมีสถานีทีวีที่เอาซีรีย์ญี่ปุ่นดีๆมาถ่ายทอด
กับเรื่องที่มีชื่อว่า Daddy หรือภาษาเจ้าของประเทศหน่อยว่า . Otousan



เหตุที่อยู่ๆ ผู้เขียนก็บังเกิดอาการระลึกชาติอยากดูเรื่องนี้ขึ้นมา
ไม่ได้เกี่ยวเนื่องอันใดเลยกับดาราสาวสองนาง ที่ผู้เขียนแสดงอาการปลื้มจริต
อย่างออกนอกหน้าแต่อย่างใด จะใครที่ไหนเหรอ ก็สองสาวดรุณี
จากกุลบุตรีสี่นางของคุณพ่อบังเกิดกล้าวในเรื่อง Otousan
เพราะสองนางในนั้น ประกอบด้วย เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ สาวราศี cancer
คนเมืองโคชิ สูง ๑๖๑ ซม. หนัก ๔๐ กก. เกิดวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๑๙๘๐
เด็กในสังกัด FLaMme Agency
กับสาวสวยอีกคน ที่ชื่อ เคียวโกะ ฟุคุดะ สาวราศี Scorpio
เป็นคนเมือง คิตะแห่งกรุงโตเกียว สูง ๑๖๓ ซม. หนัก ๔๕ ซม.
เกิดวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๑๙๘๒ เด็กในสังกัด Horipro Agency
เชื่อผู้เขียนเถอะว่า สองนางนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอันใดในความถวิลรับชม
แต่เกิดจากตัวพ่อ ทามุระ มาสากาซุ ที่ผู้เขียนเพิ่งได้ประจักษ์ในฝีไม้ลายมือ
ในการแสดง จากซีรีย์ที่เพิ่งได้รับชมในเดือนที่แล้วอย่าง Concerto
ชายที่เกิดเมื่อไรไม่รู้ ราศีอะไรก็ไม่ทราบ สูงเท่าไรน้ำหนักประมาณไหนไม่เห็นจะ
สำคัญ เป็นอันว่า ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรจากไอ้หมอนี้เลยสักอย่าง ถ้านอกจากเรื่องนี้
กับเรื่องที่ได้ดูในคราวที่แล้ว ผู้เขียนอาจไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า
ไอ้หมอนี้! มันก็เป็นดารงดาราค้างฟ้าในวงการแสดงหน้าจอทีวีเมืองยุ่นกับเขาเช่นกัน



ความจริงแล้ว โครงเรื่องแบบชีวิตอลหม่านงานเข้าอย่างต่อเนื่องตอนต่อตอน
สำหรับในซีรีย์ญี่ปุ่นนั้น ค่อนข้างจางหายไปตามวันและเวลาที่ผันผ่าน
การได้กลับมารับชม Otousan อีกครั้งหนึ่ง มันก็สร้างสุนทรียสุนทรของวันเก่าๆ
ให้กลับคืนมาอีกครั้ง เพียงแค่การวางพล็อตคร่าวๆ เรื่องราวก็ชวนน่าดูชมแล้ว
ยิ่งมารับรู้ก่อนดูว่า มีสาวสี่รุ่นสี่รสนิยม ที่มารับบทเป็นกุลธิดาสี่นาง
ของพ่อหม้ายลูกติด พ่อหม้ายที่ว่าชื่อ ชิโร่ แห่งร้านยากิโซบะเจ้าตำรับ
(รับบทโดย ทามุระ มาสากาซุ จาก Concerto) เป็นพ่อจอมหัวดื้อและมุทะลุ
ที่จะขออนุญาตลูกๆ แต่งงานใหม่ หลังจากที่อดีตภรรยาได้เสียชีวิตมาเนินนานกว่าสิบปี
และต้องมีภาระรับเลี้ยงลูกสี่คน ซึ่งทั้งสี่ต่างก็เป็นเพศสตรีผู้บรรลุนิติภาวะด้วยกันทั้งสิ้น
ลูกทั้งสี่คนต่างก็ปรารถนาที่จะออกจากบ้าน ไปมีเหย้ามีเรือนอยู่กับคนรักตามลำพัง
และไม่ยอมรับคนรักคนใหม่ของคุณพ่อ จะด้วยความที่รักแม่มาก
หรือปฏิเสธหญิงที่แปลกหน้าก็ไม่ทราบได้ แถมหน้าตาจะออกไปทางรุ่นป้า
และไปคบหากันมาเมือ่ตอนไหนก็ไม่รู้ โดยไม่เคยแนะนำให้รู้จักหน้าคาตากันมาก่อน
ขณะเดียวกันก็เล่นแง่ โดยไม่แคร์ว่าพ่อของตัวเองจะยอมรับแฟนที่คบหาดูใจกันมารึไม่
งานนี้จึงเป็นเรื่องของคุณพ่อที่ไม่ใช่คุณแฟน และของแฟนที่ไม่ถูกหน้าคุณพ่อ
คงพอให้คาดเดาได้ลำบากกันสักหน่อย สำหรับแฟนละครชาวไทย
ที่มักติดห่วงวัฏจักร แม่ผัวกับลูกสะใภ้ เพื่อเปิดรับจักษุทัศนะที่แตกต่างอีกด้าน
ของปัญหา พ่อเมียกับลูกเขย ที่มีความสนุกสนานหรรษาไม่แพ้กัน



ความสนุกของซีรีย์เรื่องนี้ คือ การใช้ตัวละครที่มีอัตลักษณ์ทางลักษณะนิสัย
ที่แตกต่างระหว่างพี่น้องอย่างชัดเจน ทั้งในแง่รสนิยม การเลือกคู่ครอง
ปัญหาชีวิต จุดดี-จุดด้อย ขณะเดียวกันก็มีจุดร่วมที่เหมือนกันทั้งจาก
ประสบการณ์ร่วมในวัยเด็กที่โตกันมา และศูนย์รวมความผูกพันจากคนผู้เป็นพ่อ
(และกิจการร้านยากิโซบะที่อร่อยเป็นที่หนึ่งในความคิด) และความที่มีพ่อชิโระ
เป็นจุดกลางระหว่างเรื่อง เลยมีผลทำให้ลูกสาวแต่ละคน รวมทั้งมิตรสหาย
รอบข้าง มีโอกาสรับรู้ ทั้งในส่วนกว้างและส่วนขยายในทุกๆมิติ
ที่ผู้เขียนรู้สึกว่า ซีรีย์ระยะหลังๆ ที่แม้จะมีการแบ่งซีนละตอนสำหรับตัวละครแต่ละตัว
ก็ช่างทำได้แสนจะแห้งแล้ง และขาดแคลนซึ่งมิติในอีกหลายๆด้านซะเหลือเกิน
ซีรีย์เรื่องนี้ทำให้ผู้เขียนเชื่อได้เลยว่า เวลาที่ตัวละครรวมกลุ่มสมาชิกกันครบครัน
มักจะนำมาซึ่งความอบอุ่นแบบแปลกๆ ที่แม้คนดูไม่อาจสัมผัสได้
แต่ก็สามารถรับรู้ได้ด้วยสายตา อีกทั้งยังพอเหน็บหนาวและอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวตาม
ยามที่ลูกสาวต่างคนต่างค่อยๆทยอยออกจากบ้าน แม้ไม่ต้องอาศัยการโหวตsms
เพื่อให้ใครสักคนที่ไม่ใช่แฟนคลับ จำต้องออกไป แต่ความรู้สึกแปลกๆที่ญาติก็ไม่ใช่
แต่ก็บังอาจทำให้คนดูอย่างผู้เขียนรู้สึกจี๊ด แม้จะพยายามขัดขืนสักเต็มประดา
ในที่นี้ จะขอยกตัวอย่าง ลักษณะพิเศษและความแตกต่างของลูกสาวสี่นางใน
Otousan พอได้ให้เห็นภาพเลาๆก็แล้วกัน



ลูกสาวคนโต ที่ชื่อ ยู กำลังมีแผนที่จะจดทะเบียนหย้ากับสามี
ด้วยปัญหาเข้าไม่ได้กับแม่ผัว และความที่สามีไม่เคยเข้าข้างในความ
ถูกต้องของตนเอง เดิมก็เป็นคนที่มีนิสัยหุนหันพลันแล่น
ทำอะไรไม่ค่อยจะคิดหน้าคิดหลัง ก่อนจะแต่งงานก็เป็นคนหลักลอย
ไม่เคยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เรียนก็ไม่จบ แถมไม่เคยทำตัวให้สม
กับที่เป็นพี่คนโตให้น้องๆได้เคารพนับถือ แม้แต่ลูกชายเพียงคนเดียว
ที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ ก็รู้สึกอับอายที่จะบอกใครว่าเจ๊คนนี้เป็นแม่ของตน
สุดท้าย เมื่อรู้ว่าไปไหนไม่รอด ก็เลยแพ๊คกระเป๋ากลับมาตายรังที่บ้าน
ซึ่งคนที่รับบทนี้ คือ เจ๊อิลจิมา นาโอโกะ จากซีรีย์ Hero SP และในหนัง Kurosagi
ส่วนบทของแฟนหนุ่มของยู ก็คือ ฟุคาเอะ ทากุจิ



ลูกสาวคนที่สอง ที่ชื่อ อาคิระ ดูจะเป็นคนที่เอางานเอาการเป็นที่สุด
และดูเหมือนว่า จะเป็นคนที่พ่อให้ความไว้วางใจและยอมรับฟังมากที่สุด
เป็นคนเดียวที่ทำหน้าที่ทั้งในส่วนของงานบ้านและทีร้านยากิโซบะ
แต่ในความเป็นจริงแล้ว กลับเป็นคนที่มีแผนการในชีวิตมาอย่างยาวนาน
ที่จะทำงานละครเวทีตามที่ตนใฝ่ฝัน และได้พบรักกับผู้กำกับละครเวที
จนมีแผนที่จะแต่งงาน เพียงแต่ยังไม่กล้าที่จะเอ่ยความจริงกับพ่อของตน
และดูคล้ายจะเป็นคนที่เก็บกดในความรู้สึก ขณะเดียวกัน
ก็เป็นศูนย์กลางเชื่อมความสามัคคีในเวลาที่พี่น้องทะเลาะเบาะแว้งกัน
คนที่รับบทนี้ คือ นากาตานิ มิกิ จากซีรีย์ Jin และหนัง Densha Otoko
ส่วนบทของแฟนหนุ่มของอาคิระ ก็คือ ทานิฮารา โชชุเกะ จาก Gokusen 2,
Love Suffle



ลูกสาวคนที่สาม ที่ชื่อ มาโกโตะ อาจเป็นคนที่พ่อไม่เคยแสดงความรักให้
เท่ากับที่ผู้เขียนเจาะใจแสดงกันเห็นๆ แม้ไม่ได้อยากจะเป็นพ่อเธอ
ในเรื่องต้องรับบทเป็นนางพยาบาล ที่ไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง
คบหาแฟนหนุ่มก็ดันเป็นคนที่ไม่เอาโล้ไม่เอาพาย
มีแต่หลอกรับประทานเกาะกินไปวันๆ แต่ในบรรดาพี่น้องทั้งหมด
มาโกโตะเป็นคนที่ใจดี มีเมตตา รับปากช่วยเหลือผู้คนทุกเรื่อง
แม้ผลของการรับปากจะสร้างปัญหาหนักอกหนักใจที่จะตาม
คนที่รับบทนี้ คือ เรียวโกะ ฮิโระสุเอะ จากใจผู้เขียน
ส่วนบทของแฟนหนุ่มมาโกโตะ ก็คือ ซึกาโมโตะ ทากาชิ จาก
Fire boys,Tiger and Dragon และ Kekkon Dekinai Otoko



ลูกสาวคนสุดท้าย คือ เคย์ เป็นสูตรโลกแตก
ที่ตัวเล็กคนสุดท้อง จะต้องเป็นเด็กที่ถูกเอาแต่ใจมาตั้งแต่เด็ก
ผลที่ตามมาก็เลย เวลาที่ต้องเผชิญกับความผิดหวัง
ก็จะรู้สึกรุนแรงกว่าชาวบ้านชาวเมืองเขาทั่วไป และความถูกเอาแต่ใจ
เลยได้เล่นเปียโน โดยที่ผู้เป็นแม่เเแอบเก็บเงินซื้อให้โดยไม่บอกผู้เป็นพ่อ
วิธีคิดและมุมมองก็เลยเอาแต่อารมณ์และไม่รู้จักยอมโต
แถมแฟนที่คบหา ก็เจอกันแบบบังเอิญ ที่มารู้ภายหลังว่าเป็นถึงลูกท่านฑูต
ที่อยากจะมีชีวิตนอกการบงการของทางบ้าน เลยต้องมารับจ๊อบตกอับ
และพ่อท่านฑูต ก็ไม่ยอมรับในตัวลูกสะใภ้ร้านโซบะอย่างเคย์
คนที่รับบทนี้ ก็คือ เคียวโกะ ฟุคุดะ จาก Remote,Friends,Precious Time
ส่วนบทของแฟนหนุ่มของเคย์ ก็คือ โคคุบุน ทาอิชิ จาก Bus Stop,Dance Drill




อันนี้เป็นความเห็นจากผู้เขียน ที่ดูซีรีย์จนจบตอน
แต่กับคุณพ่อในเรื่องแล้ว คิดเห็นไปอีกแนวทางแบบที่ผิดไปจากลูกเขย
อย่างผู้เขียนสัมผัสได้ไม่ถึง แถมชื่อที่ตั้งก็มีเจตนารับขวัญลูกชาย
แต่ให้ตายเถอะ มักมีผลตรงกันข้ามทุกที

All of My Girls;Yu who is more isolated than any other.
Thrid, Mokoto who's sensible in her way and feel badly
if someone dislike her.
Last,K was treated as she like.Have as a consequence
self-willed.
The final result,Akira.l can depend on inherited shop.
(ในบรรดาลูกสาวทั้งหมด ยูจะเป็นคนที่อ้างว้างเป็นที่สุด
ส่วนคนที่สามนี้ มาโคโตะเธอเป็นเด็กที่อ่อนไหวและจะรู้สึก
แย่เสมอ หากใครสักคนแสดงอาการที่ไม่ชอบเธอ
ส่วนเจ้าคนสุดท้อง เค แกเป็นเด็กที่มักถูกเลี้ยงอย่างตามใจ
โตขึ้นมาก็เลยมักเอาแต่ใจตัวเอง
และเจ้าคนสุดท้าย อากิระ ดูจะเป็นคนที่พอพึงพาได้
และเหมาะที่จะรับดูแลร้านในที่สุด)

เรียกได้ว่า ถ้าใครชอบนักแสดงสาวและกำลังเลยสาว
คนใดคนหนึ่งในสี่คนที่ว่านี้ ซีรีย์เรื่องนี้มีให้ยลโฉมหน้าพวกหล่อนกันจนอิ่มเเปล้
ครบทั้งรส หลากทั้งอารมณ์ ชนิดที่ว่าสุข-เศร้า-เหงา-รัก แถมเคล้าน้ำตา
ประเคนให้กันอย่างเอิบอิ่ม ถ้าถามถึงความสามารถจากซีรีย์เรื่องนี้
ผู้เขียนต้องขอบอกว่า บทของตัวละครที่ได้แสนจะตรงกับบุคลิกหลักในชีวิตจริง
ของนักแสดงแม่นางนั้นๆ เลยไม่ต้องปรับจูนหรือใส่จริตอะไรกันมาก จนบางที
ยังนึกว่าไม่ใช่การแสดง แต่มาเป็นการนั่งเม้าท์แตกหลังโรงถ่าย ยิ่งหากใครถามถึง
ปฏิกิริยาทางเคมีของความเป็นพี่เป็นน้องด้วยแล้ว พล่านนึกเอาว่า
นักแสดงทั้งสี่นาง มาจากท้องเดียวคืบคลานตามกันมา
เพียงแต่ว่าหน้าตาอาจไม่ค่อยมีส่วนคล้ายคลึงกันซะเท่าไร จะสนใจไปทำไม
ในเมื่อบทที่ได้ละเลง มันช่างสนุกสนานครื้นเครงกันเสียเหลือกำลัง



ส่วนอีกบทหนึ่งที่เป็นศูนย์กลางแบบขาดไม่ได้เช่นเดียวกัน
คือ บทแฟนใหม่ของพ่อ ที่หน้าตาจะออกไปทางอพาร์ทแมนคุณป้าผู้สูงวัย
(หรือถ้าบทจะยกให้เป็นแม่ของพ่อของลูกสาวทั้งสี่ ผู้เขียนก็ไม่รู้สึกเคอะเขินแต่อย่างใด)
เข้าใจเอาเองว่า บทต้องการสร้างความรู้สึกปฏิเสธเบื้องต้นในใจของลูกทั้งสี่
ขณะเดียวกันก็สร้างจุดฮาเบื้องต้นในใจของคนดู ว่าทำไมตัวพ่อถึงได้เปิดตัวอย่างไร้รสนิยม
เพียงนี้ อันนี้มิบังอาจตั้งข้อหาหมิ่นประมาทใส่ตัว แต่ทว่าภาพถ่ายของภรรยาคนก่อน
ช่างงามสวยหยาดนภาลัย จนไม่สมควรที่จะตายไปก่อนวัยอันควร
กระนั้นก็ต้องยอมรับว่า โมริยามา เรียวโกะ ที่รับบท อันไซ ทามาโกะ
หรือ ที่ป๋าชิโระ มักโทรเรียกด้วยเสียงหวานๆว่า มาโกะจัง
ดูจะเป็นงานแสดงซีรีย์เพียงเรื่องเดียวในชีวิต (ถ้าไล่หาประวัติของเจ๊จนทั่ว)
เจ๊แกอาจเล่นได้ตะกุกตะกักไปบ้าง แต่ก็เข้ากับบทที่เป็นคนขี้เกรงอกเกรงใจ
ตั้งเงื่อนไขแสนดี ที่อาจทรมานใจคนพ่อ ว่าหากลูกสาวทั้งสี่คนไม่เปิดใจรับความ
เป็นสมาชิกใหมในบ้าน ก็จะไม่ขอรับปากที่จะรับแต่งงานด้วย
ในบทคุณเจ๊แกก็น่าสงสารอยู่ไม่น้อย ใช้ชีวิตเพียงคนเดียวในโรงนวดแผนโบราณ
ไปรู้จักมักจี่กับตัวพ่อชิโระได้ ก็ตอนไปเคารพหลุมศพลูกชายของเธอ
ความรักของผู้ใหญ่นี้ดูกันยากเหมือนกันน้อ เพราะเขาไม่แสดงออกด้วยคำหวานๆ
หรือหาของเพื่อสื่อแทนใจแก่กันและกัน อย่างในเรื่องเขาสื่อด้วยการรู้จักตัวตนของอีกฝ่าย
อย่าง อาการเกาหัวเขยิกๆของป๋าชิโระ เจ๊ทามาโกะก็เดาได้เลยว่า
เฮียแกกำลังโกหกอยู่แน่เลย



แต่เชื่อรึไม่? ว่าจริงๆแล้ว เจ๊แกเป็นคนสองบุคลิก อันนี้ไม่ได้เกิดจากภาวะทางจิต
แต่เกิดจากน้ำเปลี่ยนนิสัย ที่เรียกว่า สาเก ที่ลองได้กระดกลงคอเมื่อไร
จากสาวแก่ติ๋มๆไม่ต้องแปลงร่างให้ตัวเขียว ก็สามารถเป็นเจ๊ใหญ่หัวใจเฟี้ยวซ่า
จะพูดจะจาอะไรก็ไม่มียั้งปาก และเจ้าปากนี้แหละ
มักจะชี้ทางออกแก่ชีวิตสี่สาวดรุณีของพ่อชิโระได้เสมอในตอนท้าย
ก็อย่างว่า นิสัยของป๋าชิโระมันเป็นคนหัวดื้อ เลยทำให้ปากกับความรู้สึกที่แท้จริง
มักไม่ค่อยที่จะสัมพันธ์กัน แต่ผู้กำกับกับมือเขียนบท ก็ทำให้
อาการขัดอกขัดใจในแฟนใหม่พ่อชิโระ ที่มีมาตั้งแต่ต้นเรื่องในความรู้สึกของผู้เขียน
ก็เเปรเปลี่ยนไปเป็นการเอาใจ ช่วยให้ได้สมรสอย่างสมรัก ท่ามกลางการภาวนาในใจ
ให้ลูกสาวทั้งสี่คิดไม่ต่างจากใจของผู้เขียน นี้ละมั้ง !ที่ว่าความดีชนะใจทุกอย่าง
แต่ถ้าให้เป็นแฟนในชีวิตจริงของผู้เขียน อันนี้คงขอคิดให้หนักอีกสักระยะ
ตามประสา รักลูกสาวของคุณพ่อสองคนสุดท้ายตั้งแต่แรกเห็น เผลอๆ
แรกก่อนที่จะมาเล่นเป็น ลูกสาวของคุณพ่อชิโระมาเนินนานหลายซีรีย์

50 years ago;Grandfather's Mother was troubled by save-up
for open owner shop.He set a his name shop as his name one's daughter.
My mom try to continued it when
my father knew he resign his putational company for inheritance.
(ห้าสิบปีที่แล้ว คุณตาฉันเก็บหอมรอมริบเม็ดเงินเพื่อที่จะได้เปิดร้านเป็นของ
ตัวเอง เขาตั้งชื่อร้านตามชื่อลูกสาวเพียงคนเดียว ดังนั้นแม่ของฉันจึงพยายาม
ทุกวิธีทางที่จะรักษาร้านเอาไว้ จนเมื่อคุณพ่อทราบความจริงเข้า
เขาจึงได้ตัดสินใจลาออกจากบริษัทที่มีชื่อ เพื่อสืบกิจการของร้านต่อไป)



ไม่ใช่แค่ตัวละครหลักๆ เท่านั้น ที่จะสร้างสีสันให้กับเรื่อง
ผู้เขียนว่า ความสนุกของซีรีย์ยุคก่อนๆ แม้แต่ความเป็นตัวละครรองๆ
ก็เติมเต็มสีสันให้ตัวละครหลักและเนื้อเรื่องที่ชวนหนักอึ้ง ให้ดูเบาโดยปริยาย
ใน Otousan ก็มีตัวละครที่เล่าพฤติกรรมเพียงนิดหน่อย
ก็ฉุดภาพฮากลางอากาศแบบที่พอเดาทางได้ อย่าง โอบากะ ผู้ช่วยกุ๊กร้านยากิโซบะ
เจ้าอ้วนที่ช่วยป๋าชิโระในตอนเช้า แล้วไปทำตัวป๋าในโฮสคลับเวลาตอนดึก
มักแสดงอาการหลงรักในตัวลูกสาวทั้งสี่ของป๋าชิโระอย่างออกนอกหน้าและออกนอกร้าน
ไหนจะป๋าข้างบ้าน ที่ชื่อ โอบาจัง คนรู้จักข้างบ้านที่สอดรู้สอดเห็นความเป็นไป
ของเพื่อนบ้านได้ดีกว่าในบ้านของตัวเอง เรื่องสอดนี้ไม่แพ้ซ้อเจ็อซ้อแปดสำนักไหนๆ
มาทีไรเล่นเอาป๋าชิโระออกอาการ ตรูละเบื่อทุกที!!


แต่ขอเกริ่นไว้นิดนึงว่า เป็นงานเขียนบทของ ยูกาวา กาซุฮิโกะ
ซึ่งเป็นคนเขียนบทคนเดียวกันกับซีรีย์แนวครูโหด GTO
ที่อย่าได้คาดหวังว่าจะมาแนวบรรทัดฐานเดียวกัน เพราะใน Otousan ออก
ไปในทางงานเขียนอารมณ์ญิ๊งหญิง ที่มีสิ่งที่เรียกว่า "เรื่องกุ๊กกิ๊ก" โผล่ให้เห็นอยู่ตลอดทุกตอน
ดังนั้นผู้เขียนจึงไม่แน่ใจว่า คนที่สถาปนาตัวเองว่า "ชายชาย"
จะรับสภาพในอารมณ์ที่ถ่ายทอดออกของผู้กำกับ คิโยฮิโระ มาโคโตะ ได้รึเปล่า?
แต่อย่างน้อยๆ ก็ทำให้ความรักของคนใกล้วัยเกษียณอีกไม่กี่ปี ดูยังมีรสชาติ
แถมผู้คนยังอยากติดตามและดูตอ่เนื่องอย่างมีความสุข
แบบที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเข็นมาได้จนถึงสิบเอ็ดตอน แบบดูก็ไม่รู้เบื่อ
(โดยเฉพาะนักแสดงสาวบางราย) ถือได้ว่าเจ๊แกก็มีฝีมือเขียนบทอยู่เอาการ
ซึ่งจะว่าไป ผกก.มาโคโตะ ก็พยายามประนีประนอมรอมชอมในตลาดผู้ดูสองวัย
อยู่พอสมควร และทำในกรอบเนื้อหาของเรื่องราวของลูกสาวหนีพ่อ
ที่แลจะเป็นงานที่หนักๆ ให้ดูเบาลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งๆที่มีการตบหน้า-ตะเพิดไล่
กันเห็นๆ เกือบทุกตอน ก็เป็นเรื่องที่ผู้เขียนไม่สามารถหาคำอธิบายได้ว่า
ทำไมบางเรื่องบางตอน ถ้าเป็นละครไทย ซีรีย์ฮ่องกง-เกาหลี
จะถ่ายทอดประเด็นปัญหาในฉากนั้นให้สะเทือนจิตใจท่านผู้ชมคนดู
จนเลยเถิดไปสู่การอัติวินิบากกรรม แต่ในซีรีย์ญี่ปุ่น มันถึงได้ลดทอดประเด็นเล่านั้น
ลงมาถ่ายทอดให้ผู้คนรับชมแบบรับรู้ แต่ไม่รับการซึมซับในภาวะอารมณ์นั้นๆ
หรือจะอธิบายเป็นภาษาธรรมะว่า ขาดสิ่งปรุงแต่งในใจ
เหมือนคนเห็นทุกข์ แต่ไม่รับรู้ว่าทุกข์ หรือเห็นสุข แต่ไม่รับรู้ว่าสุข
จะว่าผกก. ไม่เจาะจงในประเด็นก็ไม่ใช่ เพราะยังสอดเพลงบรรเลงที่แสนชวนเศร้า
แถมยังมีการย้อนรำลึกความทรงจำสีเทาๆ เวลาที่ตัวละครนั้นๆ นึกถึงช่วงปัญหา
ที่สะเทือนใจ หรือจะเป็นการให้สัดส่วนแบบพอดิบพอดี แบบไม่ถ่ายมูดความเศร้า
ให้กับซีรีย์จนเกินงาม และไม่เทส่วนก๊ากแบบฮาส่งเดช
เพราะอย่างงี้ละมั้ง! จึงทำให้ดาราที่ไม่ค่อยรับเล่นซีรีย์ทางทีวีเท่าไรนัก
อย่าง ลุง มาสากาซุ เลยเออออห่อหมก ร่วมงานกับผกก. มาโคโตะอีกครั้ง
หลังจากที่หกปีที่แล้ว เคยร่วมงานในซีรีย์ที่ชื่อ Concerto ที่มีนายทาคุยะหน้าละอ่อน
ในบทรักสามเศร้าชาวสถาปนิก จากค่ายทีวี TBS เจ้าเก่าเจ้าประจำ
ที่ครั้งกระนั้น ผู้เขียนยังติดมาดความเป็นสถาปนิกป๋ายะเชิดชู เอบิซาวา อยู่หยกๆ
พอมาทิ้งแปลนบ้าน ยกกระดานไม้มานวดแป้งยากิโซบะ ก็ดูขัดๆตาไปสักหน่อย
พอดูไปสักตอนที่สอง มันก็กลายเป็นอาชีพที่ชินตาโดยปริยาย
ซึ่งจะว่าไป ผกก. มาโคโตะแกก็พรรคดีกับค่ายทีวีเจ้านี้ แบบทำงานมายี่สิบปี
ก็ไม่เคยหนีไปรับจ๊อบนอกค่าย ซึ่งก็กำกับเฉพาะงานซีรีย์ ปาไปเกือบจะสี่สิบเรื่องเข้าไปแล้ว



You can love many people.but l have one father.he never hurt me anyway.
(เธอจะไปรักใครที่ไหนก็ได้ แต่ฉันมีพ่อเพียงคนเดียว พ่อที่ไม่มีวันทำร้ายจิตใจฉัน)

ถ้าถามว่า มีความสมควรมากเเค่ไหนสำหรับซีรีย์เรื่องนี้
อันนี้ก็แล้วแต่วิจารณญาณและปัญหาของทางบ้านที่จะไปจี๊ดใจในชีวิตจริง
ของบรรดาท่านๆทั้งหลาย กันรึไม่?
ความฉลาดของซีรีย์เรื่องนี้ คือ การฉายภาพของมายาคติทิฐิ ที่ล้นเปี่ยมในทุกๆตัวละคร
ก่อนที่จะค่อยๆสลายพฤติกรรม จากผลลัพธ์ทางความสัมพันธ์ที่พูดกัันอย่างเปิดอก ท่ามกลาง
สถานการณ์ในจุดพลิกผันของชีวิตในแต่ละตัวละคร
จะว่าไปในทุกๆทางออก ล้วนเป็นการเสนอในแนวกรอบ "เฟนิมิสต์นิยม"เสียด้วยซ้ำ
ถือเป็นการฉีกกฎเกณฑ์ทางสังคม แม้ไม่กี่งประจาน แต่ก็แสดงวุฒิเพศสภาวะ
ที่ไม่ได้เป็นเพียงช้างเท้าหลังของผู้ชายที่เรียกว่า แฟน หรือเกินเลยจนเรียกว่า สามี
แต่เท่าที่สังเกตุจากการขายงานของซีรีย์เรื่องนี้
ก็จะหนักไปทางขายดารา แถมยังเป็นดาราสาวสองคนที่ผู้เขียนครองใจมานานโคตร
สำหรับเรียวโกะ สนมมือขวาของผู้เขียนแล้ว ค่อนข้างจะอุ่นใจได้ว่า
ยังคงมีงานซีรีย์และเหล่าบรรดาหนังใหญ่ เชื้อเชิญให้รับเล่นอยู่อย่างต่อเนื่อง
เพราะเชื่อมือได้ทั้ง หน้าตาและฝีไม้ลายมือในการแสดง แต่กับหนูเคียวโกะแล้ว
ผู้เขียนชักไม่ค่อยแน่ใจ เอาเข้าแล้วน้องหนูก็ยังคงมีงานชุกในแต่ละปี
แทบจะชนกันตาย เพียงทว่าโอกาสที่จะเผยแพร่สู่นอกเกาะหมู่เกาะญีปุ่น
มาสู่ฝูงชนชาวไทยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แทบจะไม่มีตลาดเจ้าไหนหรือคลิปเว็บยูเซอร์ใด
ปล่อยงานบรรจงที่ขายหน้าตา ให้ผู้เขียนได้หายคิดถึงเอาความ
เป็นหนูเคียวโกะที่บุญมี แต่มักที่จะมีกรรมบัง แถมบังสักมิดตา
จนได้ข่าวว่าน้องแกได้ลดสภาวะอาการกินอยู่กับปาก อยากอยู่กับท้อง
จนปัจจุบันรูปร่างสลิมเพรียวบาง จะโผล่ในแขกรับเชิญในซีรีย์กาลิเลโอ
ก็บรรเทาความหายคิดถึงจนผู้เขียนจำต้องลดโทษให้ลงกึ่งหนึ่ง
แต่ยังคงรักษาเก้าอี้สนมมือซ้ายให้เป็นตำแหน่งวาง ซึ่งถ้าคุณหนูเคียว
ยังรอช้า อาจมีดาราหน้าใหม่ผิวขาวๆ รอเสียบไว้อีกเพียบ



แต่ใช่ว่างานซีรีย์สมัยก่อนๆจะดีไปเสียทุกอย่าง
ในแง่โปรดักชั่น ยังถือว่าถ้ามุ่งจับผิดกับจริงๆ ก็มีความไม่สมจริงอยู่หลายส่วน
ทั้งยังจับทางได้ว่า เป็นการถ่ายทำจากห้องส่งชัดๆ เพราะยังเห็นกำแพงโรงถ่ายอยู่ลิบตา
ตัดกับหลังคาตัวบ้านที่สร้างเป็นฉากกันเห็นๆ ขณะที่แสงไฟจากห้องส่งกับแสงแดดจากภายนอก
ก็มีอนุภาคเบต้าที่ไม่ต้องสัมผัส ก็ดูเห็นกันได้อย่างชัดเจน
ส่วนความที่เป็นบทรั่ว อันนี้รับรู้แต่พอให้อภัยกันได้ ไอ้ประเภทแปล้บๆก็เปลี่ยนเป็นคนละคน
หรือแม้แต่คนเลวที่มาต้นเรื่อง แต่เหมือนได้น้ำมนต์ดี ไม่ก็ผีพระมาเข้าสิงร่าง
อันนี้ก็พอเข้าใจคอปเซปต์มาตราฐาน ที่ไม่อยากให้ภาพแง่ลบ ต้องติดตัวนักแสดงหน้าใหม่
เพราะขืนเล่นอย่างนี้กันจนอวสาน เดี๋ยวจะหางานใหม่รับเล่นให้แจ้งเกิดได้ยาก
อย่างไรเสีย ก็ตีโจทย์คอเมดี้แฟมิลี่จ๋าแบบที่มีสาระปนแง่คิดตามสูตร
ดูแล้วก็ไม่ทำร้ายจิตใจ แถมดูไปก็ไม่เอามาเก็บมาเป็นฝันร้าย จึงเป็นงานที่ดูได้ทั้งครอบครัว

ไม่ว่าตอนนี้จะมีเสื้อสีไหน ก็ล้วนแล้วแต่ไม่ถูกใจในผิวเนื้อสีขาวๆ ของสี่สาวดรุณี
ของท่านพ่อชิโระได้เป็นอันขาด พูดอย่างนี้ไม่ได้ดูถูก แต่ลูกสาวพ่อเขาดีจริง
ดีแบบไม่ต้องพึ่งป้าย "บ้านนี้สุนัขดุ" เสียด้วยซิ........




อวยขอ้มูลให้จาก
jkdramas และ dramawiki

ครั้งหนึ่งเคยเขียนถึงผู้กำกับ ฮิโรคิโย มาโคโตะและลุงทามุระ มาสากาซุ ใน

Concerto รักเราชาวสถาปนิก


ครั้งหนึ่งเขียนถึง เคียวโกะ ฮิโรสุเอะ ใน

Summer Snow หิมะกลางฤดูร้อน

Beach Boys ร้อนนักก็พักร้อน

Slow Dance ปล่อยชีวิตตามจังหวะสโลว์

departures ศพขึ้นหิ้งออสการ์




Create Date : 14 มีนาคม 2553
Last Update : 15 มีนาคม 2553 22:17:35 น. 21 comments
Counter : 3574 Pageviews.

 
เรื่องนี้เนื้อเรื่องน่าสนใจทีเดียว
แถมมีดาราฝีมือจัดจ้านหลายคน
อย่างพี่คนโตนี้ติดใจตั้งแต่เรื่องHERO(ปี2001)
เธอแสดงเป็นทนายที่แสนจะเป็นหญิงเท่แข่งกับอัยการอย่างทาคุยะ
ส่วนคนรองก็ฝีมือจัดจ้านจริงๆดูเรื่องJINแล้วนับถือฝีมือเธอเลย
แสดงได้แบบลืมไปเลยว่าเธอเคยแสดงเรื่อง Merry Christmas in Summer
ซึ่งเรื่องนี้ดูไม่จบเพราะเธอขี้เหร่มากและเนื้อเรื่องก็ไม่สนุก
ส่วนคนที่3น้องหนูเรียวโกะสนมเบื้องขวาของจขบ.ขอผ่านค่ะ
ส่วนคนที่4สนมเบื้องซ้ายของจขบ. ขอหน่อยเถอะ จะอวบไปถึงไหน
ดูGalileoแล้ว อึดอัดแทนเธอจริงๆ กลัวหายใจไม่ออก
แล้วยิ่งเธอมาแสดงเรื่องYama Onna ขนาดเสื้อปริ กระดุมกระเด็นล่ะกัน เฮ้อ!

เนื้อเรื่องผูกพันกับการรักษาร้าน
คล้ายเรื่องLunch no Joou เลยนะคะ
แต่เรื่องLunch no Joougเป็นลูกผู้ชายหมด
และลูกชายคนที่2ก็เป็นผู้ได้สืบทอดร้านเหมือนเรื่องนี้ที่เป็นลูกสาวคนที่2เหมือนกัน






โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.64.157 วันที่: 14 มีนาคม 2553 เวลา:23:41:32 น.  

 
ชอบจังเลย ว่างๆต้องหามาดูบ้างแล้วละค่ะ

ปกติก็บ้าซีรี่ส์ญี่ปุ่นอยู่แล้วด้วยอะ คิกคิก


โดย: Tukta21 วันที่: 15 มีนาคม 2553 เวลา:0:22:16 น.  

 
อ้าว!ท่านมะนาวเพคะ งัยกลับไปปลื้มบรรดา
เหล่ากุลธิดาของปะป๋าชิโร่ไปได้ละน้อ

รู้เปล่า?กล่าวจะcap.เหล่าบรรดาหนุ่มในซีรีย์
เรื่องนี้ได้ถือว่ายากเย็นไม่ใช่น้อย เพราะกว่าจะโผล่มาเข้าสักฉาก
อย่างว่า ซีรีย์เขาถ่ายเทให้กับชีวิตวิถีของป๋าหนึ่งกับเหล่าธิดา
ทั้งสี่

พอมาเขียนเรื่องนี้ ก็ทำให้ผู้เขียนต้องออกอาการอ้อ!
เฉกเช่นเดียวกัน เพราะในHeroซีรีย์ เจ๊มาโอโกะ
ที่เป็นทนายความคู่คดี ที่แม้จะเป็นแขกรับเชิญ
แต่การปะทะฝีปากในเรื่อง ถือว่าพอฟัดพอเหวี่ยง
สมน้ำสมเนื้อกับป๋ายะไม่ใช่น้อย แม้บทจะให้เป็นเพื่อนกัน
แต่ดูๆแล้ว น่าจะเป็นพี่สาวป๋ายะเสียมากกว่า

ส่วนเจ๊มิกิ นี้ คงด้วยการเปลี่ยนสไตล์การไว้ผม
เลยทำให้จดจำแกไม่ค่อยได้ เพราะสายตาไปประสบกับ
ความงามในชุดกิโมโน หลังๆเจ๊แกไปหากินกับเหล่าบรรดา
หนังใหญ่ เลยทำให้โอกาสติดตามในซีรีย์ปกติมีค่อนข้างน้อย
แต่ให้นับพี่น้องทั้งหมดแล้ว เจ๊มิกิถือว่าเล่นได้เด่นที่สุด
ด้วยบารมีคนดีศรีฮอกไกโด

ส่วนลูกสาวอีกสองคน คงไม่พล่ามอะไรกันมาก
เพราะพล่ามในบทความเสียหมดหน้าตักแล้ว
แต่เรื่องความเพรียวของหนูเคียวโกะแล้ว
ผู้เขียนคิดว่า ถ้าไม่ติดภาพสมัยเล่นซีรีย์เรื่อง Remote
หรือ Pricious time แล้ว หนูแกก็ดูสลิมได้ใจกว่าเมื่อก่อนเยอะ
แต่ถึงจะอ้วนจัดก็เหอะ หนูคนนี้พี่ก็ให้อภัย

ส่วน Yama Onna นี้ยังไม่เคยดู แต่แอบไปดูที่ popcornfor2
แล้ว อืมแนวหมิ่นเหม่ไม่น้อยแหะ
แต่เห็นว่าเคยฉายในทีวีไทยแล้ว แสดงว่าความปลอดภัยต่อฝีปาก
วิพากษ์ของเจ๊ระเบียบรัฐ คงพอบรรเทา

เห็นทีกิจกรรมการดูซีรีย์พร้อมหน้าพร้อมตาที่บ้าน
คงต้องละเรื่องนี้ ไ้ว้เป็นกรณีศึกษาส่วนตัวสักแล้ว
แถมเป็นซีรีย์ปี ๒๐๐๗ ไม่นานมานี้เอง
มีเจ๊อิตโตะ มิซากิ เล่นด้วย ไม่เจอหน้าเจ๊
ตั้งแต่ Grandfamily แต่บทเจ๊ในเรื่องไม่เด่นเท่ากับตอนที่ชม
เรื่อง Beach Boy เลย เรื่องนั้นทำให้ผู้เขียนรักตัวละคร
ทุกตัวในเรื่อง แบบไม่เหลือพื้นที่ความชิงชังเลย

ส่วน Lunch no Joou นี้ท่านมะนาวได้แลแล้วเหรอคับ

นี้เป็นซีรีย์ในตำนานเลยนะครับเนี่ย
แต่ผู้เขียนมักจะจำในชื่อ สูตรรักข่าวห่อไข่ หรือไม่ก็
The Queen of Lunchtime Cuisine
ถามว่าคล้ายไหม ก็ไม่นะ เพราะในLunchtime
มันส่อไปทางเสน่ห์ปลายจวัก
ว่าจะเขียนถึงสักครั้ง เพราะถือเป็นซีรีย์ที่ประสบ
ความสำเร็จอย่างมาก เมื่อตอนเข้าฉายในไอทีวี


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 15 มีนาคม 2553 เวลา:21:43:09 น.  

 
มาตามต่อกับ หนังผูกเรื่องที่ดูเหมือนว่้า
ท่านมะนาวเพคะจะชื่นชอบเอาม๊ากมาก

เจ้า เรื่องSummer Timemachine Blues
มันผูกเรื่องอารมณ์ไหนเหรอครับ
เพราะผู้เขียนแทบไม่เคยได้ยินชื่อเอาสักเลย
พออธิบายเทียบเคียงกับหนังสักเืรื่องที่พอรู้จัก
ได้อะปาวเอ่ย

รู้แต่ชื่อดาราจูริกับเออิตะ ชื่อชั้นนักแสดงนำก็
น่าสนใจสักแล้ว มีลิขสิทธิืจำหน่ายในเมืองไทยบ้างไหมละ
จะได้พอหาด้วยความไม่ลำบาก
แต่ไปดูบล็อกท่านอื่นเขาเล่ามา
ก็ดูจะอธิบายวกอดีตกลับไปปัจจุบัน
ปัจจุบันแล้วก็กลับไปในอดีต ไม่ตีกันตายเหรอคับ แล้วอะไรเนี่ยแอร์เสีย มันไซไฟตรงไหนกันน้อ

เหมือนเพื่อนผมท่านหนึ่ง จะพาไปดูหนังรัก
ระหว่างคนกับตุ๊กตายาง โอ๊ยจะบ้าไปกันใหญ่
เห็นว่าเป็นงานของ ผกก. Nobody Knows
จะว่าไป ไม่ค่อยปลื้มหนังเรื่องนี้สักเท่าไร

ได้หนังสือที่ผู้อ่านปลื้มอย่างงานของอ.ธีรภาพ
น่าเป็นเรื่องยินดีนะครับ เขาเล่าว่าหนังสือ
กว่าจะเป็นสารคดี เป็นการบอกเล่าชีวิตและตัวตนที่มา
ของอ.ธีรภาพแบบหมดเปลือก อันนี้ไม่รู้จริงอะป่าว
แต่อย่างน้อยๆก็ปลื้มแก ที่จบมาสายประวัิตศาสตร์เหมือนกัน
แม้หนทางของพี่แก จะไปไกลว่าผู้เขียนตั้งเยอะ
แต่ดูเหมือนท่านมะนาวไม่ค่อยไปเที่ยวที่ไหน
เลยนิครับ
เห็นมาทีไร เจอะท่านคอมเมนต์ทักทายให้ทุกที

ส่วนเจ้าหน้งสือ โดย วิทูรย์ ภูริปัญญาวานิช
เป็นหนังสือของค่ายผู้จัดการนิครับ เล่มบางๆ
แต่ออกแบบปกได้ไม่สวยจับใจเท่าไรนัก
และไม่อยากเชื่อเลยว่า เจ้าหญิงอัตสึฮิเมะ
จะทำให้ท่านมะนาวเพคะ กลายเป็นผู้มีภูมิตะวันออกอย่างเร่งรัด
หากถ้าใครมาถามว่า มันจิโร่นี้เป็นใคร

ผู้เขียนอาจนึกไปถึง หมาตัวหนึ่งในหนังเรื่อง

Maou ก็ได้


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 15 มีนาคม 2553 เวลา:22:03:53 น.  

 
ก็เรื่องนี้หนุ่มๆไม่สเป็กนี่หน่า
หน้าตาก็ไม่เห็นจะโดนเลย อย่างTsukamoto Takashiก็เฉยๆ
ยิ่งShosuke Tanihara ยิ่งเชิดใส่
เลยสนใจเนื้อเรื่องและสาวๆดีกว่า
ชมสนมเบื้องซ้ายหน่อยก็ได้ ว่าชอบเธอจากเรื่อง Minami's Girlfriend
อาจจะเป็นเพราะเธอย่อตัวจิ๋วลงหรือเปล่าก็ไม่รู้
เลยทำให้ดูน่ารัก แล้วหน้าก็ไม่พอกมาก
หรือว่าพอกมากแต่มองไม่เห็น หึ หึไม่แน่ใจดูไว้นานแล้วค่ะ
รู้แต่ว่าชอบเนื้อเรื่องและการดำเนินเรื่องมากค่ะ
ตอนที่ได้มา เอามาดูแบบขัดตาทัพ ที่ไหนได้
หนังน่ารักจัง ชอบนิโนะไปเลย(แต่น้อยกว่าป๋ายะ)
ปิ๊ง! รู้แล้วว่ารุ่นคาเมะใครพอฟัดพอเหวี่ยงด้วย ก็นิโนะไงฝีมือดีเหมือนกัน
ส่วนเรื่องYama Onna Kabe Onnaมะนาวว่าไม่ถึงกับ PG-13 หรอกค่ะ
มันเป็นหนังตลกๆน่ะ แต่ดูแล้วชวนง่วงนอนชะมัด
แล้วIto Misaki ก็ไม่สวยเลย สู้ตอนที่แสดงเรื่องDensha Otoko ไม่ได้
ตอนนั้นเรียกว่าสวยมาก เอ่อ!ว่าแต่ว่าเธอแสดงเรื่องKarei Naru Ichizoku
ด้วยเหรอคะ มะนาวนึกไม่ออกเลย เธอแสดงเป็นตัวละครตัวไหนเหรอคะ
ทั้งที่เรื่องนี้เพิ่งดูผ่านมาปีเดียวเอง ทำไมถึงจำไม่ได้ขนาดนี้น๊อ
ส่วนเรื่องLunch no Joouมะนาวได้ดูเป็นเรื่องแรกๆเลยค่ะ
เพราะคุณต่อพงษ์แนะนำไว้ เรื่องนี้ยามะพีขี้เหร่ชะมัด
และอิโตะก็ไม่สวยเลย แต่เนื้องเรื่องดีมากๆ ดูเรื่องนี้แล้วอยากกินข้าวห่อไข่ค่ะ


ส่วนเรื่องSummer Timemachine Blues ผูกเรื่องอารมณ์ไหน
อืม!ถ้าให้เทียบก็คงใกล้เคียงกับ Back to the future น่ะค่ะ แต่ก็ไม่เหมือน
คือหนังเป็นตัวของตัวเองมากเลยค่ะ เอาเป็นว่าดูแล้วไม่หัวเราะก็นั่งยิ้มประมาณนั้นล่ะค่ะ
แล้วอย่างที่คุณChanpanakrit ไปอ่านดูมานั่นล่ะค่ะ
มันย้อนกลับไปกลับมาไม่รู้กี่รอบ ระหว่างวันนี้กับเมื่อวาน
แต่สนุกค่ะ มะนาวหัวเราะแบบเสียงดังเลย
จนที่บ้านเดินมาดูว่าขำอะไรนักหนา
แล้วหนังไม่งงหรอกค่ะเพราะจะมีตัวละครเพี้ยนๆมาอธิบายเรื่องTimeline ให้เราฟัง
555รีโมทแอร์เสียนี่แหละSci-Fi ดูเหอะ สนุกจริงๆ ค่ะ
แล้วคุณ Chanpanakrit จะรู้ว่าแฟชั่นในอนาคตเป็นหยั่งไง
ทั้งทรงผม ทั้งเสื้อผ้า 555อย่าอ้าปากหวอก็แล้วกัน

ส่วนเรื่องAir Doll แรกๆมะนาวก็ไม่สนใจหรอกค่ะ
แต่พอไปอ่านกระทู้ของคุณdfh โอ้โห!หนังมันมีอะไรซ่อนอยู่มากขนาดนี้เลยเหรอ
คุณdfh วิเคราะห์ได้แบบคนอ่านทึ่งจริงๆเลยค่ะ มะนาวยังไปเขียนชมเขาเลยค่ะ
อีกวันมีคนตั้งกระทู้เรื่อง who are youว่าดูไม่รู้เรื่อง
คุณdfhมาแจกแจงพร้อมวิเคราะห์ให้ฟัง แบบคนอ่านอ้าปากหวอเลยค่ะ
ได้มีคนถามคุณdfhว่าดูไปกี่รอบ คุณdfhบอกว่าดูไปรอบเดียว
พระเจ้าช่วยกล้วยทอดทำไมถึงเก่งขนาดนี้ มะนาวมาตะลุยหาบล็อกของเขา
แต่ไม่เห็นมีเลยค่ะ แปลกมาก แต่ที่แน่ๆเขาไม่ใช่สัมภเวสีแบบมะนาวแน่นอน
เขามีบล็อก เพราะมะนาวเคยจิ้มmy blogข้างอมยิ้มเขาค่ะ

ปกติเสาร์-อาทิตย์อย่างที่บอกล่ะค่ะ
มะนาวต้องเสาะหาของอร่อยๆทาน
แต่ช่วงนี้เป็นมะนาวจำศีล ไม่ได้ออกไปไหน
พอจะออกไปได้ก็เจอม็อบ ไปไหนไกลไม่ได้
ห้ามไปไหนไกลเกิน3ป้ายรถเมล์ มิฉะนั้นถ้ามีอะไรเกิดขึ้น
ประเดี๋ยวจะเดินกลับบ้านไม่ไหว เลยได้แค่หนังสือมา2เล่ม
กับได้ทานหอยทอดกะทะร้อนซึ่งไม่อร่อยเลย
แล้วก็ได้แต่วนเวียนดูหนังแผ่น อ่านตำรา กับเข้าเน็ต เบื่อจะแย่
เอ๊ะ!หรือว่าถามถึงเที่ยวกลางคืน ถ้าเป็นแบบนั้น ไม่ไปค่ะ ไม่ชอบ

555ดูซิไปว่าท่านทูตมันจิโรเป็นน้อง.......หยาบคายใช้ได้เหมือนกันนะคะ ฮิ ฮิ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.73.195 วันที่: 16 มีนาคม 2553 เวลา:20:32:46 น.  

 
เอ๊ สงสัยผู้เขียนจะมีทัศนคติคนหล่อในความคิดตัวเอง

แตกต่างจากคนรุ่นหลานในสมัยปัจจุบันไปเยอะเลย

ถึงไม่บรรลุในพระเดชพระคุณท่านมะนาวเพะคะสักราย

ไม่เป็นไร ในสัปดาห์หน้าคอยมาบรรณาการหน้าใหม่ในหลายปีก่อนกันต่อ

อืมใช่ Minami's Girlfriend เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ที่ผู้เขียนหลงลืมไปสักสนิท จำได้ว่าช่อง ๗
เคยเอามาฉายเช้าวันเสาร์อาทิตย์
ดูได้ไม่กี่ตอน ก็อกแตกตายเพราะรับในบทไม่ค่อยจะได้
อุตสาห์ยอมอดดูเซอเลอร์มูนกับแม่มดน้อยโดเรมี
เลยนะเนี่ย

ส่วนพี่มิซากิ ผู้เขียนจำผิดไปนะท่านมะนาว
ผู้เขียนดันไปจำอีกคน คือ เจ๊อิซามุเข้า
เสียหายหลายแสน ตามประสาคนที่เริ่มเลอะๆเลือนๆ
โปรดให้อภัยด้วย แบบว่า Yama Onna
ยังไม่เคยได้ดูสักตอน ก็เลยมั่วออกให้เห็น

เอ๊ Lunch no Joou มียามะพีด้วยเหรอ
จำไม่ได้เเหะ แบบว่าถ้าบทตอนนั้นยังไม่เด่น
ผู้เขียนก็อาจหลงลืมอีกเช่นกัน
แต่ใครจะไปสน เพราะสายตาจับจ้องเจ๊ทาเกอุจิชะงัด
แถมตอนนั้นเจ๊แกก็ยังโสดอยู่สักด้วย

Summer Timemachine Blues ถ้าเจอแผ่นจะไม่ยอมพลาดเลยละท่าน
ส่วน Air Doll ใช่เลย ลืมชื่อมันไปเลย
อันนี้พลาดคงไม่เสียใจเท่าไร

อืม ท่านdfh รู้สึกเคยมาเมนต์ผู้เขียนครั้งหนึ่งเหมือนกัน
ที่จำได้เพราะมีเมนต์เดียว อุตสาห์เขียนตั้งหลายวัน
ขอลิงค์ความเห็นของท่านนี้หน่อยสิมะนาว
จะได้สดับหน่อย
ท่านมะนาวเพคะอุตสาห์ซูซ่าได้ถึงเพียงนี้

ชีวิตของท่านมะนาวเพคะ
ทำให้ผู้เขียนนึกถึงสารคดีของ Discovery เรื่องหนึ่ง
เป็นชีวิตของตัวบีเวอร์เพศเมีย มันจะออกจำศีลตามฤดูกาล
ออกจากโพร่ง เพื่อไปสร้างเขื่อนไม้ไว้ดักจับปลาอยู่เฉพาะโซนของมัน
หลังจากอิ่มหนำจนได้ที ก็จะสะสมอาหารส่วนตัว
มุดอยู่ตามโพรงที่ได้สร้างไว้กักตุนในฤดูหนาว และทำกิจกรรมเฉพาะในโพร่งของมัน
นายพรานจะใช้แผนล่อ คือ เอาอาหารมาล่อหน้าโพรง
หรือไม่ก็หาคู่

แต่ท่านมะนาวฯคงไม่ใช่แล้วละ
เพราะตัวบีเวอร์มันก็ออกเที่ยวเวลากลางคืนสักด้วยสิ

คงไม่โกรธนะ ถ้าจะหยอกเล่น
เพราะเป็นสารคดีที่ผู้เขียนรู้สึกน่ารักดี
ยิ่งท่านมะนาวเพคะเล่าให้ฟังอย่างงี้แล้ว
มันลิงค์ได้
ผู้เขียนยังโดนเพื่อนล้อว่าเหมือนตัวเม่น
ตอนแรกก็นึกว่า เพราะชอบเอาเจลมันแต่งให้
ผมแหลมๆ และเอาที่คาดผมงัดให้ตั้งขึ้น

ที่ไหนได้ มันหาว่าเม่นเป็นสัตว์ที่ไม่ชอบอาบน้ำ
เหมือนกับผู้เขียนที่ชอบวิ่งผ่านฝักบัวในเวลาเช้าๆ


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 16 มีนาคม 2553 เวลา:22:13:21 น.  

 
มะนาวจะไปหาลิงค์คุณdfhมาจากไหนล่ะค่ะ
กระทู้รหัสอะไรมะนาวก็จำไม่ได้ ชื่อกระทู้ที่คุณdfhตั้งก็จำไม่ได้
ไว้มะนาวเจอคุณdfhตั้งกระทู้อีก แล้วจะส่งข่าวนะคะ
แต่ที่แน่ๆมะนาวไปเข้ากระทู้นี้มาค่ะA8985731ที่กระทู้แนะนำ
ร้องไห้จนจมูกแดงก่ำไปหมด จขกท.เขียนเหมือนกลั่นออกมาจากใจเลยค่ะ
คงเป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลบเลือนไปจากใจเขา ไม่เล่าแล้วค่ะ น้ำตาไหลอีกแล้ว

จะบอกว่าพฤติกรรมมะนาวคล้ายตัวบีเวอร์ซินะคะ
อืม!อาจจะมีส่วนคล้ายบ้างเหมือนกันตรงที่ว่า
ทำกิจกรรมเฉพาะในโพรง เหมือนคนมีโลกส่วนตัวที่มีความสุขของตัวเอง
เพราะมะนาวนึกถึงเวลามะนาวไปพักผ่อนต่างจังหวัด
มะนาวก็มีพฤติกรรมแบบนี้ล่ะค่ะ ไม่ออกไปไหน
นั่งดูซีรีส์กับอ่านหนังสืออยู่แต่ที่พัก แค่นี้ก็มีความสุขแล้วค่ะ

แต่ว่าบีเวอร์ก็คงไม่ทำพฤติกรรมแบบนี้ใช่ไหมคะคือตามดารา
มะนาวเคยมีประสบการณ์ตามดาราค่ะ แต่ไม่ใช่ดาราไทย
ดาราที่มะนาวชื่นชอบเคยมาเมืองไทยและเพื่อนๆชวนกันไปรับ
มะนาวก็อยากมีประสบการณ์แบบนี้สักครั้ง
ก็เลยขอที่บ้านว่าขอไปตามดาราสักครั้งเพราะอยากรู้ว่ามันเป็นยังไง
ที่บ้านโอเคแต่ไม่ให้นั่งแท็กซี่ไปคนเดียว ในที่สุดมะนาวก็ได้ไปโดยมีคนที่บ้านไปเป็นเพื่อน
แล้วประสบการณ์พบดาราครั้งแรกก็เริ่มต้นขึ้น
พอมีคนตะโกนว่ามาแล้ว เท่านั้นแหละมันเหมือนจอดับเลยค่ะ
มะนาวถูกเหวี่ยงกระเด็นไปตอนไหนก็ไม่รู้ มารู้ตัวอีกทีดาราขึ้นไปนั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว
มะนาวก็ยืนมองผ่านกระจกรถ ทีนี้ก็ระดมกันถ่ายรูปซิทั้งดาราทั้งคนตาม
แต่มะนาวไม่ได้ถ่ายเพราะคิดว่ามาดูให้เห็นตัวเป็นๆอย่างเดียวก็พอแล้ว
รูปเขาเราก็มีเยอะแยะ ถ่ายเองก็ใช่ว่าจะสวย ก็เลยไม่สนใจ
ผ่านไปสักอาทิตย์หนึ่งก็ได้กรี๊ดกร๊าดบ้านแทบแตก
รูปที่มีมะนาวอยู่ด้วยถูกโพสต์ในcyworldของดาราคนนั้นค่ะ
แถมเขียนใต้ภาพด้วยว่าpretty girls
555เลยได้คุยสามบ้านแปดบ้านว่ามะนาวโก อินเตอร์
เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต ที่คงไม่มีครั้งที่2และที่3อีกแล้ว
แม้ว่าเพื่อนจะโทรมาชวนอีก แต่ก็ได้ปฏิเสธไป พอแล้ว รู้แล้วว่าเป็นอย่างไร
คุณChanpanakrit ล่ะค่ะ เล่าให้ฟังบ้างซิคะนอกจากไม่ชอบอาบน้ำคล้ายตัวเม่นแล้ว
มีอะไรคล้ายตัวเม่นอีก

คุณChanpanakritเคยดูเรื่องTokyo Sonataไหมคะ
ตอนแรกมะนาวอยากดูเพราะเห็นว่าหนังไปคว้ารางวัลและได้รับเสียงชื่นชมจากต่างประเทศมาไม่น้อย
แต่ไปเจอกระทู้หนึ่งเขาบอกว่าหนังญี่ปุ่นเป็นอย่างเรื่องนี้หมดเลยหรือเปล่าเขาดูไม่รู้เรื่องเลย
มะนาวชะงักเลยค่ะ หนังมันดูยากมากขนาดนั้นเลยเหรอ
ก็เลยตามเก็บข้อมูลเรื่อยมา จนวันนี้ได้อ่านมติชน เจอเขียนบอกว่าเหมือนดูหนังทั่วๆไป


โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.50.126 วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:20:24:21 น.  

 
ปล.ขอโพสต์ใหม่ของข้อความสุดท้ายค่ะ

คุณChanpanakritเคยดูเรื่องTokyo Sonataไหมคะ
ตอนแรกมะนาวอยากดูเพราะเห็นว่าหนังไปคว้ารางวัล
และได้รับเสียงชื่นชมจากต่างประเทศมาไม่น้อย
แต่ไปเจอกระทู้หนึ่งเขาบอกว่าหนังญี่ปุ่นเป็นอย่างเรื่องนี้หมดเลยหรือเปล่าเขาดูไม่รู้เรื่องเลย
มะนาวชะงักเลยค่ะ หนังมันดูยากมากขนาดนั้นเลยเหรอ
ก็เลยตามเก็บข้อมูลเรื่อยมา จนวันนี้ได้อ่านมติชน เจอเขียนบอกว่าเหมือนดูหนังทั่วๆไป
เพียงแต่หนังจบ คนดูไม่จบ ซึ่งมะนาวว่ามันก็เหมือนหนังอื่นๆของญี่ปุ่นเขานั่นแหละ
ทีนี้เป็นหน้าที่ของผู้รู้ต้องตอบแล้วค่ะ ว่าสมควรไปซื้อหามาดูหรือไม่คะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.50.126 วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:20:29:37 น.  

 
อืม ผู้เขียนไปเจอบล็อกของท่าน dfh แล้วคับ
อัพบล็อกไม่กี่เรื่อง แต่ีมีคนเขียนคอมเมนต์ให้มากมายเหลือใจ

อย่างที่ท่านว่า เขียนชำแหละวิเคราะห์ได้ถึงกึ๋น
ซึ่งถ้าผู้เขียนหันมาเขียนอย่างนี้
มีหวังคงเครียดหัวระเิบิดแตกตายแน่เลย



โดยเฉพาะดูท่านdfh จะถนัดสายหนังไทยนะครับ
อย่าง เฉือน นี้มีชำแหละเป็นหลายตอนเชียว
แต่ กระทู้ A8985731 เล่นท่านมะนาวเพคะ
น้ำหูน้ำตาไหลเลยรึขอรับ
อะไรมันจะจี๊ดใจปานนั้น

แต่ท่าน dfh ตอนนี้จะเที่ยวเมืองจีน (หัวบล็อกเขียนไว้อย่้างนั้น)
อยากบอกว่า ผู้เขียนอ่านงานอะไรเครียดไม่ค่อยได้เกินสี่วรรค

เป็นโรคแพ้ความจริงจัง เวลาเห็นคนอื่นมาพูด
ให้กำลังใจ ผู้เขียนจะติดโรคเลี้ยนจัด
แม้รู่ว่าจะนิสัยไม่ดี แต่ฝืนอัตตาส่วนนี้ไม่ได้จริงๆ

ความบ้าดารา คงไม่ใช่เรืองแปลกหรอกคับ
เมื่อก่อนน้องสาวผู้เขียนก็บ้าวงอินคา
ไอ้หนุ่มผมยาวฮิปปี้ ไม่รู้มันดูดีตรงไหน
อย่างหัวหน้างานผู้เขียน บ้านักร้องเกาหลีมาก
พูดไปก็กรี๊ดไป แต่ดูจะทำให้อดรีนาลีนเจ๊เปล่งปลั่ง
ก็ปล่อยไปตามสุขของเจ้าหล่อนไปเหอะ

ถ้าผู้เขียนจะเหมือนอะไรกับเจ้าสัตว์เม่นสักอย่าง
คงชอบสลัดปัญหา เหมือนเม่นที่ชอบสลัดขน
แบบว่าไม่ชอบเอาปัญหาเป็นอาวุธ
แต่ขอใช้หน้าตาที่พ่อแม่ให้มาจะดีกว่า

Tokyo Sonata นะเหรอคับ เอาไงดีละ
เป็นหนังดีที่ผู้เขียนขอดูแค่รอบเดียว
เป็นงานของผู้กำกับคุโรซาวา คิโยชิ
ถ้าผู้เขียนสังเกตแนวการชมของท่านมะนาวเพคะแล้ว
ค่อนข้างแน่ใจว่าท่านมะนาวฯคงไม่ปลื้มแน่
มันไม่มีกลิ่นแบบ departures หรือ Be with you นะคับ

เอาเป็นว่าเคยดูเรื่อง Nobody Knows ไหมละคับ
อารมณ์แบบนั้นเลยละครับ
งานที่เคยเข้าฉายในเมืองไทยของพี่ท่านนี้
ก็ ไคโรผีอินเตอร์เน็ตจำได้ไหมครับ
ใน tokyo Sonata ก็ยังไม่ทิ้งอารมณ์มึนๆ
เหมือนจะลอยทะเล แล้วก็วกกลับเข้าฝั่งสักงั้น

ดาราในเรื่องก็คุ้นหน้า ก็ตัวพ่อคางาวะ
ตำรวจสารวัตรอารมณ์ร้้อนใน Mr.Brain ไงท่าน
และตัวแม่โคอิซุมิ จากตัวคุณแม่อีกเช่นกันใน
Nada Sousou
เรื่องนี้จี๊ดใจสุดในเปียโนบรรเลง แบ็คตาติส
ในตอนท้ายเรื่อง
เอาเป็นว่าวันเสาร์นี้ จะเล่นเรืองนี้ให้ละกัน
เล่ากันแบบขำๆ ไม่วิเคราะห์สัญญะอะไรกันมาก

หนังเรื่องนี้ดูง่าย ไม่ยากอย่างที่ิคิด
แต่จะทนความอืดในครึ่งเรื่องได้รึเปล่าเอ่ย


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:21:10:17 น.  

 
อืมม เกี่ยวกับเรื่องความชอบส่วนตัว
ระหว่างคนเป็นชายกับความเป็นหญิง
ดูจะ่ต่างกันมากนะครับ

สมัยที่ผู้เขียนยังเป็นเด็กบ้านนอก
ส่วนใหญ่ความใส่ใจจะไปอยู๋บ้านผีสิง
สักส่วนมาก
ประมาณว่า ที่ไหนขึ้นชืื่อ ขอได้ลองได้ท้า
ไปเหยียบที่เป็นๆ อย่างที่เขาร่ำลือ

ส่วนใหญ่ก็ไม่เคยเจอดีหรอก
อารมณ์คงไม่เหมือนมาดูซุปเปอร์สตาร์
เพราะให้ภาวนาในใจได้ คงไม่ยากเห็นตัวเป็นๆ
แต่เพื่อนมันพาไป จะแสดงความอ่อนให้เห็น
เดี๋ยวก็ถูกประนามกลางชั้นเรียน
ก็ใจดีสู้เสือกันไป แต่กระนั้นมักทำตัวให้เข้า
กับบรรยากาศ บางทีก็ทักนั้นทักนี้ไปเรื่อย
ทั้งๆที่ไม่เห็นจริงหรอก แต่อยากให้เพื่อนได้สมอารมณ์หมาย กลัวได้ทีจะไ้้ด้มีเรื่องคุยยามแก่เฒ่าเวลาสังสรรค์
ศิษย์เก่ากันนะท่าน
ว่าแต่ท่านมะนาวละ

เคยไหมเอ่ย?


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:20:14:47 น.  

 
รื่อง เฉือน ดูแล้วนึกว่ากำลังดูหนังที่Quentin Tarantinoกำกับ
ยิงกันซะเลือดสาดกระจุย แนวหนังก็ออกหม่นๆ
เรื่องนี้จำไม่ได้แล้วว่าไปอ่านวิจารณ์มาจากไหน ว่าเป็นหนังไทยที่น่าดูเรื่องหนึ่ง
แต่พอดูแล้ว ไม่ชอบหนังแนวนี้ก็เลยกดผ่านจนจบ

เรื่อง Be with youมะนาวก็ชอบนะคะ แต่งงเรื่องเวลาที่เหลื่อมซ้อนกันอยู่
ว่านางเอกกลับมาได้อย่างไร และช่วงที่กลับมาทำไมถึงอยู่ได้แค่ช่วงหน้าฝน
ได้เคยอ่านที่มีคนมารีวิวเรื่องเงื่อนเวลานี้ไว้ แต่ก็ยังงงอยู่ดี
แต่เนื่องจากบทหนังที่ซาบซึ้งประทับใจ ถึงจะงงเรื่องTimeline ก็ยังดูได้สนุก

เรื่องNobody Knows เป็นหนังที่ดูแล้วสะเทือนใจมากๆเลยค่ะ
อยู่ก็ไม่ให้ใครรู้ จากไปก็ไม่ให้ใครเห็น เศร้าจริงๆ
เด็กๆแสดงได้เป็นธรรมชาติมากเลย โดยเฉพาะพี่คนโตแววตาสื่ออารมณ์ได้ดีมากๆ

ผีอินเตอร์เน็ต หรือ เคโระ มะนาวไม่เคยดูค่ะ รู้แต่ว่าเป็นหนังที่กดดันมากๆ

เรื่องTokyo Sonata สงสัยส่วนที่น่าดูที่สุดของหนังเรื่องนี้
คงจะเป็นฉากลูกชายคนเล็กเล่นเปียโน
เพราะมีแต่คนชอบฉากนี้ ว่าเพลง Clair de Lune ของ Claude Debussy
ไพเราะเหมือนต้องมนต์

บ้านผีสิงเหรอคะ มะนาวกลัวค่ะ มะนาวเคยไปพักกับเพื่อนๆพี่ๆ
แถวบ่อฝ้าย เนื่องจากเป็นบ้านพักแบบโบราณ และแถวนั้นเงียบมาก
แล้วเล่นซ่อนแอบกัน ประมาณตอนหัวค่ำหลังทานข้าวเย็นเสร็จ
พอเริ่มซ่อนแอบ มะนาวก็เริ่มสติแตก พอเห็นอะไรเคลื่อนไหวหน่อย ก็ร้องกรี๊ด กรี๊ด
จนพี่ๆบอกว่าได้ยินเสียงมะนาวร้อง แล้วใจสั่นไปหมด
จากที่ไม่กลัวก็พลอยกลัวไปด้วย แล้วเคยไปบ้านผีสิงตามสวนสนุก
ก็กรี๊ดซะ มะนาวว่าผีปลอมเองก็คงกลัวมะนาวไปเลยล่ะค่ะ



โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.27.122 วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:20:42:53 น.  

 
พล็อตเรื่องยังไม่ค่อยดึงดูดใจ แต่อ่านมาจนเจอที่ว่า "ครั้งหนึ่งเคยเขียนถึง เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ" ใน Departure ซื้อหามาแล้วนะเรื่องนี้ เพิ่งรู้ว่ามีเธอแสดงด้วย สัปดาห์นี้คงได้ฤกษ์ มาแอบเก็บที่ท่านทั้งสองคุยกันเรื่องหนังTokyo Sonata นี่เล็งอยู่หลายรอบ แต่ยังไม่ตกลงปลงใจซักที เพราะท่าทีหนังมันจะเครียด สูตรรักข้าวห่อไข่ เป็นซีรีย์ตำนานเรื่องแรกๆ ที่หยิบมาดู ต่อจากโนดาเมะ แต่ไหงไม่ชอบเนื้อเรื่องก็ไม่รู้ ชอบอยู่อย่างเดียว คือ นางเอก น่ารักที่ซู้ด พูดถึงซีรีย์ตำนาน คุณ chanpanakit เคยดู เรื่อง อยากกู่ร้องบอกรักให้ก้องโลก บ้างไหม เรื่องนี้อยากดูเพราะชื่อเรื่อง และตอนนี้เริ่มโอเคกับ ฮารุกะ อายาเสะแล้ว แต่อยากรู้ว่ามันเศร้ามากหรือเปล่า


โดย: prysang วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:12:36:15 น.  

 
เฉือน เป็นหนังที่น่าดูแห่งปีอีกเรื่องนะคับ
ดีแบบไม่ต้องพึ่งบั่นท้ายของใครบางคนก็ยังน่าดูชม
แปลกนะครับงานของผู้กำกับ ก้องเกียรติ โขมศิริ
น่าดูเกือบทุกเรื่อง แต่ไม่ยักกับได้ตังค์กับค่ายอื่นๆเขา
ทั้งชายาและลองของภาคสอง
แต่ภาคหนึ่งก็ทำตังค์ไปหลายนิ

เหมือนที่ผมอยู่ข้างหลังคุณว่าไว้ ไฟร์สตาร์น่าจะเปลี่ยน
แนวทางการตลาดหน่อยยกแผง ก็น่าจะดี

Be with you เป็นหนังที่เรียกคนไทย
ให้หันมาดูหนังญี่ปุ่นแบบปลุกกระแสก็ไ้ด้นะท่าน
ติดโรงจนกว่าจะถอนออกไปก็หลายสัปดาห์นะท่านมะนาวฯ
ฮ่าๆ และเข้าทางอีกหน ว่าผู้เขียนเคยฟ่อยไว้นานมาแล้ว
ในลิงค์ https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=chanpanakrit&date=14-07-2008&group=3&gblog=12
ถ้าว่างๆในวันเสาร์ หาของกินในตู้เย็นเพื่อฆ่าเวลาไม่ได้
ก็รบกวนช่วยเจิม เป็นมงคลได้ก็คงจะดี
ผู้เขียนดูไปหลายรอบ กว่าจะเข้าใจไทม์ไลน์ของเรื่อง

ท่านมะนาวฯแล ๅNobody Know แล้วเหรอครับ
ถือมีภูมิต้านทานหนังดีอยู่หลายเรื่องเลยนะัครับ
ถ้าจำอารมณ์นั้นได้ Tokyo Sonata ก็ไม่น่าจะต่างไปจากนี้
ชอบประโยคจำกัดความที่ท่านว่าจัง
"อยู่ก็ไม่ให้ใครรู้ จากไปก็ไม่ให้ใครเห็น"
ไอ้หนูอากิระ
ไปคว้าสถาบันหนังแห่งเอเชีย ที่อายุน้อยมากๆ
แต่ความเก็บกดนั้นที่เห็น ก็ติดตัวไปในชีวิตจริงของคุณน้องเขาด้วย

เออ หนังผีของผกก. คูโรซาวา มันชื่อ ไคโร นะัครับ
ไม่ใช่ เคโระ เพราะนั่นมันเป็นกบไปแล้วนะครับ
ไคโรจะว่าไปเริ่มต้นจะเป็นหนังผี แต่ช่วงท้ายก็ดันเป็นหนังปรัชญา
ที่คนดูเผลอหลับไปครึ่งทาง ปะติดปะต่อไปไม่ถูกเลย

โอ้ ช่ายเลย เพลง Clair de Lune ของ Claude Debussy
โฮ่ๆ ผู้เขียนนึกชื่อเพลงนั้นไม่ออก
เคยเพลงนี้เปิดบ่อยในรายการวิทยุสามทุ่มวันอาทิตย์
ที่มีหมออุดมศิลป์ เป็นดีเจ แต่จำชื่อไม่ได้สักที
ดูมะนาวฯจะรู้เรื่องเพลงคลาสสิกดีมากเลยนะครับ
จากอิทธิพลของโนดาเมะรึป่าวเอ่ย หรือเป็นความชอบส่วนตัวรึเปล่า
รสนิยมชั้นเลิศเลย
มิน่า หลอดเสียงจึงกังวาลเล่นเอาผีปลอดเตลิดไปไกลเลย


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:21:36:37 น.  

 
วันนี้มะนาวดูหนังที่รักมากที่สุดเรื่องหนึ่งCinema Paradiso
ไม่ว่าจะดูกี่ครั้งก็มีความสุขอิ่มเอมใจทุกครั้ง เริ่มต้นด้วยเสียงหัวเราะ
จบลงด้วยรอยยิ้มทั้งน้ำตา คุณ Chanpanakrit เคยดูหรือเปล่าคะ
มะนาวชอบฉากที่ห้องเรียนมากเลย ที่คุณครูถามป๊อกเซียว่า
5x5เป็นเท่าไหร่ จี้มากเลย ป๊อกเซียตอบว่า30บ้าง40บ้าง
โตโต้(พระเอกตอนเด็ก)จึงช่วย โดยกางสมุดภาพวันคริสต์มาสให้ป๊อกเซียดู
ป๊อกเซียยิ้มกริ่ม พอคุณครูบอกว่าจะถามเป็นครั้งสุดท้าย5x5
เป็นเท่าไหร่ ป๊อกเซียยืดอกตอบอย่างภาคภูมิใจว่า"คริสต์มาส"
โอ๊ย!หัวเราะซะน้ำหูน้ำตาไหล
และฉากจบที่แสนจะงดงามในความรู้สึกกับของขวัญที่อัลเฟรโด้ได้มอบให้โตโต้
ซึ่งคือฟิล์หนังของฉากล่อแหลมที่ถูกบาทหลวงเซ็นเซอร์
แล้วโตโต้นั่งดูของขวัญที่เพื่อนต่างวัยทิ้งไว้ให้ด้วยความรู้สึกอิ่มเอิบและตื้นตัน
เช่นเดียวกับเราคนดูที่มีความรู้สึกไม่แตกต่างไปจากโตโต้คือดูไป ยิ้มไป
น้ำตาไหลไปด้วยความซาบซึ้งอิ่มเอิบในอารมณ์กับความรู้สึกดีๆที่เกิดขึ้น
รักหนังเรื่องนี้ที่สุดและยังไม่มีเรื่องใดมาโค่นได้แม้แต่Departures

เมื่อก่อนนี้เวลามีกระทู้ถามถึงหนังในดวงใจ มะนาวจะไปโพสต์ชื่อหนังเรื่องนี้
แต่ตอนหลังไม่ได้มีแต่มะนาวคนเดียว มีอีกล็อกอินหนึ่งใจตรงกัน
แล้วมะนาวก็โพสต์ไม่ทันเขาสักที ต้องตามไปบอกว่าเรื่องเดียวกับความเห็นข้างบน เซ็งเลย

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ล็อกอินที่ well known มีคนเข้าไปเมนต์เพียบ
ได้แต่เข้าไปอ่านอย่างเดียว ไม่เคยเมนต์

Yuya Yagira จากNobody Knowsเป็นเด็กมีปัญหาไปแล้วเหรอคะ
มะนาวว่าเพิ่งเห็นเขาแสดงแว่บๆจากเรื่องเกี่ยวกับช้างนะ
ถ้าเป็นอย่างนั้นก็น่าเสียดาย

555มะนาวปล่อยไก่หมดเล้าเลยเหรอ ผีไคโร เรียกเป็นผีเคโระ555
สงสัยอยู่แล้วเชียวว่าทำไมชื่อคุ้นจัง มติชนทำเสียเจ็บเลยงานนี้

โดยส่วนตัวแล้วมะนาวชอบฟังเพลงที่มีแต่ท่วงทำนอง และชอบฟังก่อนนอน
แต่ก็ไม่ได้สนใจว่าเพลงชื่ออะไร ใครประพันธ์
แต่มาสนใจจริงจังหลังจากดูเรื่องโนดาเมะ
ทำให้อยากรู้ว่าเพลงชื่ออะไร ใครประพันธ์ ซาบซึ้งและดื่มด่ำไปกับเพลงมากขึ้น
ก็คงตอบได้เต็มปากเต็มคำล่ะว่าเป็นเพราะอิทธิพลของเรื่องNodame Cantabile

ซีรีส์ที่คุณprysangกล่าวถึง มะนาวว่ามันเหมือนมีคู่แฝดนะคะ
เพราะมะนาวมีทั้งCrying out Love, in the Centre of the World
และByakuyakou ซึ่งตัวแสดงนำก็ ทาคายูกิ ยามาดะ และ ฮารุกะ อายาเสะทั้งคู่
แต่มะนาวก็ยังไม่กล้าดู เพราะเรื่องหนึ่งก็เศร้าซะ อีกเรื่องหนึ่งก็เนื้อหาแรงซะ
แต่ถ้าให้เลือกก็คงเลือกByakuyakouมั้ง เพราะเรื่องCrying out
มะนาวดูหนังใหญ่ที่Masami Nagasawaแสดงนำไปแล้ว

เข้าไปเจิมBe With Youให้แล้วนะคะ
เพียงแต่ว่าคุณChanpanakrit ต้องหาพารามาให้มะนาวทานแล้วล่ะค่ะ
มะนาวยิ่งอ่านยิ่งมึน ปวดหัวไปหมดแล้วค่ะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.42.11 วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:20:40:09 น.  

 
มาช่วยตอบของเก่าในหัวบล็อกเรื่อง Be With You
เผื่อท่านมะนาวฯ จะกระจ่างใสยังกับซันไลท์ผสมมะนาวบ้าง

บังเอิญว่าผู้เขียนไปแวะด่อมๆมองๆชะง้อหา
ฉบับดีวีดี เลยได้บ็อกเซตที่มีฉบับเบื้องหลังอีกนึงแผ่น
จะทำให้ทราบว่า ฉากงามๆความทรงจำแจ่มๆ
เป็นการสร้างเซตจัดฉาก ทั้งในส่วนของบ้านพักส่วนตัวและ
โรงงานร้าง ทั้งหมดทำขึ้นภายในโรงถ่าย
ไม่จับผิดอิดอ้างแบบที่เห็นในซีรีย์ Otousan แน่นอน

และตอบข้อสงสัยของ Be with you ฉบับหนัง
แก่ท่านมะนาวฯ ในฐานะที่ผู้เขียนดูย้อนหลายรอบ
จนตอ่มน้ำตาด้านสนิท

ข้อสงสัยในที่ว่า
ถาม-ทำไมถึงจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร
ตอบ-ก็รถชนอย่างไงท่าน สูตรนี้เป็นสูตรสำเร็จของหนัง
ทั่วทุกมุมโลก ละครไทยก็ไม่เว้น ข้าถนนก็อย่าลืมส่วม
หมวกกันน็อกนะคับ

ถาม -ว่านางเอกเดินทางข้ามเวลาได้ไง
ตอบ-อันนี้ไม่ได้เดินนะคับ แต่เจ๊แกนั่งเหม่อลอยคลุกพื้น
แบบไร้ความทรงจำไง เข้าใจว่าแกมาด้วยจิตสุดท้าย
ที่วิ่งตามทาคุง ที่ไปเห็นมิโฮะนุ้งนิงกับรุ่นพี่ที่มหาลัย
กำลังถือร่มเอื้ออาทรณ์หน้าสถานศึกษาปานนั้น
อันนี้ก็หนังสูตรอีกเช่นกัน

ถาม-แล้วนางเอกรู้ได้หยั่งไงว่าตัวเองตายไป
ตอบ-เพราะไดอารีส่วนตัว ที่คุณลูกยุจิเก็บรักษา
ในกล่องความทรงจำ จนผู้เป็นแม่แอบอ่านตอนลูกเผลอ
ไปเรียน ถ้าจำตอนที่ถูกรถชนได้ กล้องก็ซูมเห็นๆ
ว่าไดอารีเล่มสำคัญหล่นบนพื้น ทลักแบบตั้งใจออกจาก
กระเป๋าหิ้ว คิดว่าถ้าเป็นเป๋าตังค์ก็คงไม่เหลือรอดแล้วละ

ถาม-ทำไมนางเอกถึงต้องเลือกกลับมาในฤดูฝน
ตอบ-เพราะเธอประสบอุบัติเหตุในฤดูฝนไงคับ
สวรรค์คงเป็นใจ ให้เธอได้กลับมาแก้ตัวอีกครั้ง
แต่คงทดไปไกล จึงไปโผล่เอาในเก้าปีข้างหน้า
เป็นปีที่ถ้ามาช้าสักแปดปี คงได้มาร่วมงานศพตัวเอง
แน่นอนเลยละท่าน อีกอย่างการตลาดเขาฉลาด
จะได้ขายตุ๊กตาชักชวนฝน และดอกทานตะวัน
เป็นของแถมแบบเสียสตางค์ในกล่องดีวีดีไง
ผู้เขียนว่ามันเป็นสเต็ปดีออก บอกเลิกกันตอนใบไม้ผลิ
เจอกันฤดูฝน เฉลยรักเก่าในฤดูร้อน
เมืองเกาะมันไม่มีฤดูหนาว ไม่งั้นคงได้เล่นภาคต่อกัน
อีกฤดูแน่เลย แต่คงไม่มีฤดูแดงทั้งแผ่นดินแบบเมืองไทยแน่เลย

เหตุที่ผู้เขียนไปบอกว่า การย้อนเวลามีความหมายเชิงนามธรรม
อันนี้ มองด้วยสายตาแบบโลกแห่งความจริงนะครับ
แม้จะเป็นหนังย้อนเวลา แต่หนังญีปุ่นจะให้ความหมายกับ
ความสัมพันธ์ ณ ปัจจุบัน กับการให้คุณค่าในซึ่งที่มี
มากกว่าการติดห้วงแห่งเวลา ที่มักจะทำให้ตัวละครกลายเป็น
มนุษย์ผู้อมทุกข์ ด้วยมีพาหะแห่งความทรงจำที่ผิดหวัง
ที่ต้องใช้ยาแห่งความเข้าใจโลก แต่ตัวขจัดพาหะนั้นออกไป
ท่านมะนาวฯก็เคยดู Himitsu ที่ผู้เขียนเป็นนายหน้า
ที่ยังไม่ได้รับค่าจ้างชักร้อยละสิบในปัจจุบัน คงสังเกตนะครับว่า
หนังญี่ปุ่นที่ปรากฎญาณแห่งเวลา ก็ไม่ให้ความหมายในแง่
"ข้ามเวลา" เป็นเครื่องมือในคำตอบสุดท้าย หรือจะในแง่
ถอดแง่เข้าวิญญาณ แต่จะให้ความหมายในแง่การปรับทัศนคติ
สิ่งเดิมในความรู้สึกที่เปลี่ยนไป ให้เห็นค่าสิ่งที่ลาจาก
จากสิ่งที่เคยมี แต่ไม่ตระหนักในคุณค่า
กาลเวลาจึงเป็นเพียงเครื่องกระแทกสติ ให้ปรับคิด
สัมพันธ์ที่มีอยู่ในฐานะสิ่งที่ไร้คุณค่า ว่าจริงๆแล้วมันมีความหมาย
มากเพียงใด และจะชดเชยแก่กันไม่ได้ ด้วยเวลาเป็นสิ่งก้าวหน้า
แต่ความทรงจำเป็นสิ่งถอยหลัง ให้เราต้องเดินก้าวหน้าตามกาลเวลา
ไม่ใช่มาก้นนิ่งแช่อยู่กับอดีต

แต่อย่าไปถืออะไรมันมาก เขียนไว้ตั้งนานแล้วท่าน
ตอนนนั้นยังเว้นวรรค ปรับฟอนต์อะไรไม่เป็นกับชาวบ้านเขาเลย
แล้วให้มาเขียนเครียดๆแบบนั้น ผู้เขียน ณ ปัจจุบันทำไม่ได้แล้ว











โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:22:49:42 น.  

 
คงด้วย Cinema Paradiso เป็นหนังอิตาเลียน
ที่นักดูหนังกึ่งอาชีพต่างยกย่องและเชิดชู
หนึ่งห้องในดวงใจ ของใครหลายๆคน

จนผู้เขียน เคยใส่ชื่อเรื่องนี้ไว้
เพื่อให้คนอื่นเข้าใจว่า ผู้เขียนดูหนังเป็น
แต่พอเอาเข้าใจจริงแล้ว อะไรที่เราคาดหวังกับ
มันไว้มาก เลยเป็นกำแพงหนาที่ท่าทำได้ไม่ถึงที่สุด
ตามเกณฑ์ที่ตั้งใจไว้ มักนำพาให้ผู้เขียนผิดหวังโดยปริยาย


Cinema Paradiso ก็เป็นหนึ่งในนั้น ในแง่
หนังในตำนานที่ไม่เคยตาผู้เขียนสักเท่าไร
คงไม่ใช่ทางสำหรับผู้เขียนเท่าไรนัก
ถ้าเป็นสักสิบปีก่อน ตอนที่เห่อหนังตะวันตกจัดๆ
อาจกลายเป็นหนังความทรงจำที่ดีอีกเรื่อง
จะชอบก็ตอนที่โตโต้ตอนวัยรุ่น เอาหนังไปฉายที่กำแพง
มันให้อารมณ์ของหนังในฐานะเป็นสิ่งบันเทิงชั้นสูง
ที่ลดระดับมาเผยแพร่ตามที่สาธารณะ
(แต่ราคาตั๋วปัจจุบัน ทำให้มันกลายเป็นสิ่งบันเทิงชนชั้นสูงอีกครั้ง)

ถ้ามะนาวจะเลือกชมซีรีย์ Byakuyakou
ต้องทำใจให้หนักนะขอรับ แม้จะเป็นนักแสดงชายหญิง
จาก Crying out Love ทั้งคู่ ผู้เขียนว่า Crying out Love,
ยังมีอารมณ์ขันและเพ้อฝันร่วมสมัยอยู่มาก
แต่ใน Byakuyakou นี้มันโศกนาฏกรรมชัดๆเลย
เนื้อหาปิตุฆาตมาตุฆาต แล้ววนเวียนกับการล้างแค้น
ไม่น่าจะทำให้มะนาวฯถวิลต่อในตอนที่สองได้
อีกทั้งทาคายุกิ ที่ผู้เขียนเคยเล่าใน Fireboys ก็ดูท่านมะนาวฯ
ไม่แสดงออกนอกหน้าสักเท่าไร แต่ถ้าให้เล่าคงง่ายกว่า
Tokyo Sonata ตั้งเยอะ เพราะวันนี้ไปเจอกับเหตุการณ์แดง
ที่พี่ไม่ปลื้มในพฤติกรรม เลยไม่พร้อมที่จะบรรเจิดในเรื่องเครียดๆ
ไปอย่างสมบูรณ์สักเท่าไร เอาเป็นพร่งนี้ละกันนะท่าน


โดย: chanpanakrit IP: 115.67.234.166 วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:23:07:21 น.  

 
ขอบคุณนะคะที่มาเคลียร์คำถามและอธิบายเพิ่มเติมให้มะนาวเข้าใจ
ยอมรับว่าตีโจทย์ไม่แตกจริงๆกับย่อหน้านั้นของคุณChanpanakrit
มะนาวอ่านวนไปวนมา จนรู้สึกปวดหัว คลื่นไส้ อยากอาเจียน ต้องหยุดอ่าน
มิอย่างนั้นได้อาเจียนพุ่งแน่นอน และดีใจที่บอกว่าจะไม่เขียนแบบนั้นอีก
แต่รู้สึกว่าแนวเขียนแบบนั้นจะมีแต่คนชื่นชอบนะคะ เพราะดูจากที่มาเจิม
ก็พูดชมกันทั้งนั้น มีแต่มะนาวคนเดียวที่ไม่เก็ท ยิ่งอ่านยิ่งงง

วันนี้ดูเรื่องTakenจากการแนะนำของชาวเฉลิมไทยและไม่ผิดหวัง หนังสนุกมากกกก
มันส์ สะใจ พระเอกเก่งโครตๆ ลุยผู้ร้ายโดยไม่ต้องสนใจกฏหมาย บ้านเมือง
ใช้ศาลเตี้ยเอง โอ๊ย!สนุกสุดๆ
มะนาวว่าดูหนังเรื่องนี้แล้ว มันเหมือนได้ปลดปล่อยนะคะ
เพราะในชีวิตจริง เราคงทำอย่างนั้นไม่ได้
เหมือนเพื่อนมะนาว เธอบอกว่าเธอชอบดูAlienเวลาเครียดๆ
โดยบอกว่ามันเหมือนได้ระบายออก เธอดูจนแผ่นสึกเลยค่ะ
เมื่อวานเครียดไม่ใช่เหรอคะ ลองดูTakenซิคะ
จะเอาใครเป็นผู้ร้าย แล้วเราเป็นพระเอก จินตนาการให้สุดๆไปเลย
เรื่องนี้มะนาวว่าคนเขียนบทเก่งมากเลย ทำให้เราคนดูต้องนั่งอยู่กับที่ จ้องหน้าจอตลอด
ก่อนดูเรื่องนี้จึงควรทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้อารมณ์สะดุดค่ะ

แล้ววันนี้ก็ออกไปทานสุกี้เอ็มเคแก้เบื่อที่ห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน
และไปได้หนังสือมาเล่มหนึ่งคือ"เราหลงลืมอะไรบางอย่าง"
ของวัชระ สัจจะสารสิน หนังสือรางวัลซีไรต์ปี2551 เรื่องนี้ชื่อเรื่องโดนสุดๆ
จริงๆด้วยทุกวันนี้คนเราหลงลืมอะไรบางอย่าง โดยเฉพาะความดีงาม
และได้แวะไปที่แผนกขายหนังแผ่น
ได้ถามพนักงานขายว่ามีเรื่องTokyo Sonata ไหมคะ
พนักงานบอกว่ามีชื่อภาษาไทยไหมครับ
มะนาวบอกว่าไม่รู้ว่าภาษาไทยชื่ออะไร
พนักงานขายบอกว่าอย่างนั้นผมค้นให้ไม่ได้ครับ
มะนาวถามว่าแล้วค้นจากเครื่องไม่ได้เหรอคะ
พนักงานบอกว่าเครื่องไม่ได้บันทึกไว้ครับ
แต่ผมจำได้หมดว่ามีหนังเรื่องอะไรบ้าง และเรื่องไหนอยู่ตรงไหน แต่ต้องเป็นชื่อไทยเท่านั้น
โอ้!พระเจ้า ถ้าไม่ใช่ตลกร้ายก็เป็นเรื่องมหัศจรรย์ล่ะ
หนังมีตั้งหลายพันเรื่องขนาดนั้น บอกว่าจำได้หมดว่ามีเรื่องอะไรบ้างและอยู่ตรงไหน
มะนาวอยากบอกว่าขอซื้อสมองหน่อยเหอะ อยากได้ แต่กลัวเขาตะเพิดเอา
ที่จริงถ้าได้ไปร้านเจ้าประจำที่คลองถมก็มีอยู่แล้ว เพียงแต่ตอนนี้มันออกไปไหนไม่สะดวก
กลัวจะเป็นเหมือนคุณChanpanakrit แล้วต้องมาดูTaken แก้หงุดหงิด

เอ่อ!สงสัยมากเลย ขอถามหน่อยซิคะว่าทำไมความเห็นข้างบนถึงไม่มีตัวการ์ตูน
ถูกยึดตัวการ์ตูนเหรอคะ คุณChanpanakrit เลยกลายเป็นโล่งเลี่ยนเหมือนมะนาว


โดย: มะนาวเพคะ IP: 118.173.94.139 วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:20:30:36 น.  

 
ตอบแบบต้องรื้อแผ่นมาเล่าประกอบนะท่านมะนาวเพคะ
มันถึงได้แม่นปานฉะนี้ไงละ
แต่ก็กรอกไปกรอบกลับอยู่หลายรอบเหมือนกัน

"ดีใจที่บอกว่าจะไม่เขียนแบบนั้นอีก" มันดีใจดีไหมเนี่ย!
ไม่รู้สิ ยึดตัวผู้เขียนเป็นหลักไว้ก่อน
อย่างที่บอก เขียนแบบนั้นแสนจะเครียดเลย
อยากให้ช่องทางในการเขียน เป็นยาระบายอ่อนๆ
โลกนี้มันเครียดเยอะมากแล้ว อีกอย่างคนที่เขียนเก่ง
ในbloggang ก็มีน้อยสักที่ไหน

Taken ผู้เขียนดูมาหลายเดือนแล้วละ
ตอนแรกนึกว่าทำมาจากเกมที่ชื่อ Takken
แต่ไปกันคนละทาง เป็นงานเขียนบทโดยท่านลุก เบซอง
แต่ให้ลูกศิษย์ก้นกุฏิชื่ออะไรแล้วจำไม่ได้
เป็นความสนุกแบบโหดเอาการ ปากเลยไม่กล้า
เรียกป๋าเลียม นีสัน ว่าพระเอกได้เท่าไรนัก

ถ้าท่านมะนาวเพคะใช้หนัง เป้นเครื่องบำบัด
ความรุนแรงในใจ ขอแนะนำหนังดีที่ไม่ค่อยมีใครเสนอ
อย่างยิปมัน สู้ยิบตา เป็นหนังฮ่องกงที่ทำมาจาก
ชีวประวัติของปรมาจารย์ที่สอนบรู๊ซลีอีกที
เรื่องนี้ได้ท่านต่อพงษ์แนะนำผ่านรายการ
แล้วจะรู้ว่า คนแสดงที่เขาฝึกกังฟูมาทั้งชีวิต
เวลาเล่นได้เอาจริง เราดูรู้เลยว่าอย่าไปท้าไอ้หมอนี้
เพราะมันเล่นได้เก่งจริง แม้จะเป็นหมัดมวยแบบสตรีก็ตาม
แถมยังผนวกเรื่องรักชาติกับการเมืองเชิงประวัติศาสตร์เข้ากันด้วย
คิดว่าท่านมะนาวฯน่าจะชอบได้ไม่ยาก
ที่สำคัญ หนังดูเศร้าแต่ไม่โศกอะ เคยได้ดูหนังแบบนี้อะป่าวเอย

ผู้เขียนคิดว่าก๊วนของท่านมะนาวฯ น่าจะเก็บกด
จากสรรพสิ่งที่กระทบผัสสะในใจนะครับ
คัดเอาแต่ละหนัง สุดสยองพองขนทั้งน่าน
หนังธรรมะบ้านเราก็มีเยอะนะครับ มันน่าจะเป็น
อรหันต์ซัมเมอร์ ท้าฟ้าลิขิต ไม่ก็ศพ๑๙
จะได้เกรงกลัวต่อการทำบาปทำกรรม
ไปให้สัตว์ประหลาดนอกโลก เล่นซ่อนหาในผุง
ดูไม่สมควรแก่เหตุ
"เราหลงลืมอะไรบางอย่าง" เคยเปิดผ่านๆ
ท่านมะนาวฯโดนก็โชคดีไป แต่ผู้เขียนไม่ค่อยโดนสักเท่าไร
ไม่เหมือน งานของปราบดา หยุ่น หรือ วินทร์ เลี่ยวเขา
อย่างล่าสุด ลับแลแก่งคอย อันนี้ก็เยี่ยมเลย
เสียงเอกฉันท์ในคกก.ด้วย สืบกันถึงโคตรเหง้าสักราช
อยากแนะนำ สำนวนเขามีเสน่ห์ดี
อ่านงานของท่านวัชระ แล้วรู้สึกเช่นไร บอกเล่ากันบ้างนะครับ

ส่วนชื่อไทยของ tokyo sonata
ฟังแล้ว อย่าหัวเรานะครับ มันมีชื่อว่า "วันทีหัวใจซ่อนเจ็บ"
บอกแล้วไงว่าอย่าขำ ทีมงานเขาอุตสาห์ตั้งใจตั้งชื่อ
เชื่อถือไปถามอีกครั้ง เด็กในร้านนั้นก็ไม่รู้หรอก
มันใช่หนังป๊อบสักที่ไหนละ

ส่วนความเห้นที่ไร้ตัวการ์ตูน
เพราะท่านมะนาวฯ ไม่ได้ล๊อกอินมีบล็อกของตัวเองไง
ยุให้เปิดบล็อกก็ไม่ยอมทำ หว่งกินมากๆ
มันไม่ทำให้คอมเมนต์แลมีสีสันขึ้นหรอกนะขอรับ
ว่าแล้วใส่การ์ตูนเยอะๆ ให้อิจฉาเล่นสักเลย


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:21:52:21 น.  

 
IP Man มะนาวดูแล้วค่ะ และเคยไปเม้นต์ที่บล็อกคุณคนขับช้าแล้วด้วยค่ะ
คุณคนขับช้าใจดี เคยบอกให้มะนาวยืมแผ่นเรื่อง
Eternal Sunshine of the Spotless Mind ด้วยค่ะ

เรื่องลับแลแก่งคอย มะนาวซื้อมาแล้วค่ะ
เพิ่งอ่านไปได้เสี้ยวเดียวเอง ยังไม่ทันรู้เรื่องดีเลย
แล้วไม่ได้อ่านต่ออีก ตอนนี้หนังสือเริ่มกองเต็มบ้านอีกแล้ว
ปกติมะนาวเป็นคนอ่านหนังสือเร็ว แต่ตอนนี้อ่านไม่ทันเลยค่ะ
เพราะมัวแต่มาว่อนในเน็ตนี่แหละ อยากกลับไปมีชีวิตแบบเดิมๆจัง
ชีวิตที่ยังไม่รู้จักพันทิป เป็นโลกเงียบๆของตัวเองกับหนังสือ
งานของปราบดา หยุ่น น่าอ่านเหรอคะแนะนำสักเล่มซิคะ
ส่วนของคุณวินทร์ เลียวฯมะนาวเคยอ่านแล้วค่ะ

แล้วก็โดนต่อว่าอ้อมๆจนได้
มะนาวก็ไม่อยากจะห่วงกินหรอกนะคะ
จะบอกว่าช่วงมะนาวจำศีลนี้มะนาวก็น้ำหนักหายไปเกือบ2กิโลแล้วล่ะค่ะ
อย่างวันนี้มะนาวไปเจอเพื่อนๆพี่ๆที่มาฟังการประชุมการนำเสนอโครงการวิจัย
ยังทักเลยว่ามะนาวผอมลง พี่เขาถามว่างานหนักมากเลยเหรอ ทานบ้างนะ
ตัวยิ่งเล็กๆอยู่ด้วย รู้แล้วใช่ไหมว่าทำไมมะนาวถึงห่วงทาน
แต่ต่อไปสัญญาว่าจะไม่ใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างใดๆอีกแล้ว
แต่ก็จะไม่มีบล็อกเหมือนเดิม จะเป็นสัมภเวสีไปอย่างนี้แหละ
หรือว่าจะไม่ให้เข้ามาคุยด้วยคะ

มะนาวไม่ได้อยากได้ตัวการ์ตูนนะคะ เพียงแต่สงสัยเท่านั้น
คุณChanpanakrit ลองย้อนกลับไปดูที่ผ่านมาซิคะ
ของวันที่20 มี.ค.ว่ามีอยู่ความเห็นหนึ่งของคุณChanpanakrit
ไม่มีตัวการ์ตูน มะนาวเลยสงสัยนึกว่าถูกยึดตัวการ์ตูนน่ะค่ะ

ปล.แวะไปที่บล็อกของคุณthaliana ด้วยนะคะ
ไปเม้นต์อะไรไว้ เธองงใหญ่แล้วค่ะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 118.174.52.233 วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:20:27:34 น.  

 
ตามสูตรนะครับ

โยกไปคุยในหัวข้อหนัง tokyo Sonata นะคับ

หวังว่าคงไม่สร้างความลำบากเน็ตนะขอรับ


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:22:38:30 น.  

 
As I web site possessor I believe the content material here is rattling great , appreciate it for your hard work. You should keep it up forever! Good Luck.
Mulberry Alexa Bag //www.wooden-plantation-shutters-knaresborough-harrogate.co.uk/


โดย: Mulberry Alexa Bag IP: 94.23.252.21 วันที่: 2 สิงหาคม 2557 เวลา:13:32:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mr.Chanpanakrit
Location :
สงขลา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]




Friends' blogs
[Add Mr.Chanpanakrit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.