A ........ Z
Group Blog
 
All blogs
 
Psychometrer Eiji ไอ้หนูหัตถ์จิตพิศวง


ปีใหม่..........ว่าจะเขียนอะไรที่เป็นเรื่องใหม่ๆ
แต่ทว่า มักจะจบลงที่ซีรีย์ค้างกรุเรื่องเดิมๆ เสียทุกที เหมือนอย่างปีใหม่ปีนี้
ก็ไม่ต่างจากปีใหม่ในปีที่แล้ว ที่มานั่งจับเจ่าอยู่กับซีรีย์ญี่ปุ่นเก่าๆ
ตามประสาคนที่ไม่มีที่ไป และอยากไปไหนต่อไหนแต่คนรู้จักไม่ริจะชวน
คงมีแต่ซีรีย์จากแดนไกล เป็นสิ่งรู้ใจ ที่พอรู้จักตามประสาคนชอบหมักดองเรือ่งเก่าๆ
แล้วหาเวลา มาเจียดเพื่อความหรรษาเป็นการส่วนตัวไม่ค่อยได้
ก็จะมีวันหยุดยาวในช่วงนักขัตฤกษ์นี้แหละ ที่พอแก้ขัดในการระบายสมบัติเก่าเก็บ
ให้หมดทยอยเป็นเรื่องๆไป วันนี้ก็เลยขอเลือกเอาซีรีย์เก่าในปี ค.ศ. ๑๙๙๗
กับเรือ่งในแนวฆาตกรโรคจิตกับพลังเหนือธรรมชาติ ที่ชื่อว่า

" Psychometrer Eiji "



ถ้านับในเวลานั้น ผู้เขียนรับรู้ได้ถึงความละอ่อนของตัวเอง
แต่นั้นก็ยังไม่เท่ากับความละอ่อนพระเอกของเรือ่ง ที่ชื่อ อาสึมะ เอย์จิ
ที่รับบทโดย มัตสึโอกะ มาซาฮิโระ เป็นเจ้าคนตัวใหญ่ นิสัยเบื้อก
ที่ผู้เขียนล่าสุดเพิ่งได้ชมกับซีรีย์เรืองล่า ที่เจ้าหมอนี้นำแสดง
ในบทอดีตหนุ่มสิงห์แก็งค์มอเตอร์ไซด์ ที่หันเหมาวาดการ์ตูนตาใสโชจู ในเรือ่ง
Yasuko to Kenji แล้วรู้สึกคุ้นๆหน้า ว่าเหมือนเราจะมีงานเก่าที่หมอนี้เคยเล่น
เลยไปค้นๆคุ้ยๆมา จนได้มาเจอกับซีรีย์เรือ่งที่จะเล่าอย่าง Psychometrer Eiji
เเละเพราะซีรีย์ดังกล่าว จึงพอให้รู้ว่าไอ้หมอนี้ มันก็คือหนึ่งในสมาชิกวง TOKIO
ของค่าย Johnny's Entertainment เหตุที่รู้ ก็เพราะตอนจบของซีรีย์เรือ่งนี้
จะจบด้วยเพลง Furarete Genki ซึ่งครั้งหนึ่ง เพลงนี้เคยถูกกรอกหูอย่างไม่เจตนา
ด้วยความที่สหายท่านหนึ่ง คลั่งไคล้วงนี้เอามากๆ
ประมาณว่าก๋ากั๋นกันสุดๆ ในช่วงปี ๙๐ โดยนายมาซาฮิโระ
จะทำหน้าที่ตีกลองชุดโปะชึ่งโปะ อยู่ด้านหลัง
ก็ออกไปแนวสกา-วาไรตี้ ที่มีจังหวะโจ๊ะๆ ฟังแล้วก็สนุกสนานครื้นเครงตาม



แต่ก็เป็นเรือ่งแปลก ที่งานของหมอนี้ แทบจะไม่เคยผ่านตาผู้เขียนสักเท่าไร
ตามประสาคนที่ไม่ถูกโฉลก แต่ยอมรับว่าการได้จับงานซีรีย์เรื่อง Psychometrer Eiji
ก็เป็นการปูทางชิ้นแรกๅ ในวงการบันเทิงเมืองยุ่นได้ไม่น้อย เพราะมีงานไม่กี่ชิ้น
ที่ทางค่าย NTV จะมีโครงการสร้างภาคสอง จากซีรีย์เรือ่งเดียวกัน
และเจ้ามาซาฮิโร่ ก็คล้ายๆ จะเป็นนักแสดงคู่บุญกับค่าย NTV ที่ทางสถานี
เรียกใช้บริการเจ้าหมอนี้อยู่หลายต่อหลายเรือ่ง ขณะที่ Psychometrer Eiji
แม้จะเป็นงานที่ผ่านกาลเวลามากกว่าสิบปี ก็ยังเป็นพล็อกเรือ่งที่แลดูสนุก
เผลอๆ หนุกกว่าซีรีย์สืบสวนสอบสวนยุคปัจจุบัน ในบางเรือ่งสักอีก
ส่วนเรืองไหนคงไม่ขอพาดพิง แต่ถ้าอยากแอบอิง ก็รบกวนไปอ่านหมวด
ซีรีย์สุดทนแห่งปี ที่ไม่สุโค้ยย์เลยในช่วงหนึ่งปี จากการจัดอันดับในปีที่แล้วละกัน

width='600' height='230' border=0>

ระยะหลัง ถ้าได้รู้ว่าซีรีย์เรือ่งไหน เป็นงานที่ถูกสร้างมาจากการ์ตูน
ผู้เขียนมักต้องยืนระยะ แล้วตั้งการ์ดเอาไว้สูง แม้จะพอรู้บ้างว่า
ผู้ดัดแปลงบท อยากที่จะสร้างความสมบูรณ์สมจริงเพียงไร
ก็ไม่อาจที่จะหลุดกรอบของวัฒนธรรมความเป็นการ์ตูนของเจ้าของลิขสิทธิ์ไปได้
สิ่งที่ทำได้มากที่สุด คือ การใส่มิติของตัวละคร ให้มีความเป็นมนุษย์ปุถุชนมากขึ้น
ดังนั้น ความอรรถรสที่ดูเหนือจริงในฉบับการ์ตูน ที่คนดูอย่างผู้เขียนเคยสัมผัส
มักไม่ออกลูกปะแล่มๆ เพราะรู้ว่า แม้ในความเป็นการ์ตูน ตัวตนของตัวละครที่ได้อ่าน
ก็เป็นสิ่งสมมติของลายเส้นในตัวของผู้วาด เป็นการยอมรับในชั้นแรก
จึงไม่น่าเเปลกใจ ถ้าส่วนที่เหลืออื่นๆ จะไม่เป็นเรือ่งยากที่จะยอมรับ
แต่เมื่อถูกสร้างมาเป็นซีรีย์ ที่คนจริงๆต้องเล่นเข้าด้วยแล้ว อันนี้เป็นคนละเรือ่งเลย
อย่างน้อยๆ อคติหนึ่งที่เกิดขึ้นในใจข้อแรก คือ
เอย์จิในการ์ตูน กับ เอย์จิในฉบับซีรีย์ แทบไม่มีความใกล้เคียงกันอยู่เลย
ถ้าใครได้เคยอ่านงานในฉบับการ์ตูน
อันเป็นงานร่วมเขียนร่วมสร้างของ ยูมะ เอนโด้ กับ มาสาชิ อาซากิ
มีลิขสิทธิ์แปลจำหน่ายตั้ง ๒๕ เล่มจบ เป็นของค่ายวิบูลย์กิจเข้าด้วยแล้ว
จะรู้เลยว่า เป็นคนละอารมณ์กันเลย แม้จะอยู่ในกรอบของพลังวิเศษ
ที่คลี่คลายคดีฆาตกรรมต่อเนือ่งเป็นแกนหลัก แต่เมื่อความเป็นตัวละครมันไม่ได้
ทีเหลืออื่น ก็ควรลืมๆไปสัก แล้วเสพอรรถรสไปตามเรื่องตามราว ตามแต่พี่จะเล่า
ถ้าทนได้ก็ดูต่อ แต่ถ้าทนไม่ไว้ ปีหน้าถัดไปก็เตรียมใจจัดหมวดซีรีย์สุดทนแห่งปีไว้ละกัน



แต่ปรากฎว่า เพียงได้ดูตอนที่หนึ่ง ก้นก็ติดหนึบ
หนึบชนิดที่เรียกว่า ลืมสมมติสัจจะของการเคาท์ดาวน์ ที่มนุษย์ในสังคมส่วนใหญ่
ยอมรับในกฎเกณฑ์เหล่านี้สิ้นไป มาเพ่งตามองในสมมติสัจจะจากซีรีย์บรมกรุสมบัติ
แบบที่ครั้งหนึ่ง เคยติดหนึบกับซีรีย์ Galileo ที่มารู้ตัวอีกที ก็ดูข้ามวัน
ไหลยาวเป็นมาราธอน ตั้งแต่ตอนแรกยันไปจนจบ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนือ่ย
(แต่ปวดตาฉิบเลย) ซีรีย์เรื่อง Psychometrer Eiji
จึงเป็นความหนุกที่มีอุปสรรคของกาลเวลา ในครั้งที่เคยสร้างมาตั้งนานนม
เทคนิคพิเศษแสนเชย ในระดับที่เทียบเท่ากับว่า ครั้งหนึ่งอุตร้าแมนเคยเป็นเพื่อนกับหนุมาน
เทคโนโลยีการสืบสวนยุคนั้น ที่เทียบเท่ากับในระดับประเทศโลกที่สามในปัจจุบัน
แฟชั่นการแต่งตัว สำบัดสำนวนในพวกวัยรุ่นตกยุค
ก็มิได้เป็นอุปสรรคต่อความหนุกจนต้องละทิ้งหน้าที่ ของความเป็นผู้ชม
แม้แต่เหตุจูงใจในฆาตกร จะดูสุดขั้วเสียจนนรกเรียกพี่ แต่ก็ยังมีส่วนดีๆที่จะชดเชย
มิให้กลายเป็นซีรีย์อนาถา ที่ต้องรอความเมตตาจากผู้ชม ให้ต้องอดทนในฐานะผู้ดูแต่ประการใด

width='600' height='230' border=0>

ถ้าในยุคปัจจุบัน ซีรีย์การสืบสวนสอบสวนจะมุ่งเน้นไปในหลักวิชาการ
ว่าด้วยศาสตร์แห่งการศึกษามูลฐานของการกระทำผิด อย่างที่เห็นในวิชาฟิสิกส์จาก
Galileo ประสาทวิทยาใน Mr.Brain หรือนิติวิทยาศาสตร์ อย่างใน Boss
แต่เชื่อไหมว่า ครั้งหนึ่งในญี่ปุ่นก็เคยมีซีรีย์ที่ใช้ความสามารถทางการสืบสวน
อีกวิธีหนึ่งที่ดูสุดขั้วเช่นกัน แต่ครั้งนั้น เขาใช้เด็กหนุ่มมัธยมปลาย
ที่มีพลังเหนือธรรมชาติจากหัตถ์ข้างซ้าย เป็นข้างซ้ายที่มากกว่าทำกิจธุระส่วนตัวในห้องน้ำ
เพราะหัตถ์ข้างซ้ายนั้น หากได้จับต้องต่อวัตถุหรือบุคคลใด
จะสามารถเชือ่มโยงให้เห็นภาพทั้งในอดีตและอนาคตของสิ่งนั้น
ซึ่งทางภาษาทางนักจิตวิทยาเขาเรียกว่า Psychometrer
เป็น Psychometrer ที่แม้แต่ wikipedia และ Dictionary ที่บ้าน ก็ยังไม่มีนิยามในศัพท์คำนี้
จะมีคำที่ใกล้เคียงสุด ก็คือ Psychrometers ที่เป็นเครือ่งมือวัดอุณหภูมิและความชื้น
(ซึ่งก็ไม่เกี่ยวเนือ่งอะไรกับซีรีย์เรือ่งนี้ จึงต้องปล่อยให้ศัพท์คำนี้เป็นปริศนาอีกต่อไป)
อาสึมะ เอย์จิ คือ ชื่อของเด็กหนุ่มคนที่มีพลังหัตถ์ในญาณแห่งการรับรู้
เป็นเด็กหนุ่มมัธยมปลาย ที่ถ้าดูภายนอกแล้วก็ไม่ต่างจากเด็กมัธยมปลายทั่วไป
สนุกสนานไปวันๆ ชอบกินชอบเที่ยว ร้องคาราโอเกะ และทำหน้าหื่นๆ
เวลาได้ไปยืนอ่านนิตยสารในหมวดผู้ใหญ่ แต่เหตุที่ได้มาร่วมงานกับกรมตำรวจได้นั้น
เป็นเรือ่งที่บังเอิญ เนือ่งด้วยครั้งหนึ่งได้เผลอเดินไปชนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสาวมือใหม่
ที่เพิ่งเรียนจบหมาดๆจากสายจิตวิทยา อย่าง ชิมะ เรียวโกะ
(เล่นโดย อัตสึกะ เนเน่ คนที่เป็นอัยการสาวใน Hero และหมอผ่าตัดใน IRYU)
เหตุที่เจ้าหล่อนสงสัยว่า เด็กที่เพิ่งเป็นนายอย่าง เจ้าเอย์จิ ว่าน่าจะมีพลังวิเศษ
เนือ่งด้วย พระเอกของเราดันเผลอเอ่ยเจ้าคำว่า "โมเบียส" (Mobius)
ซึ่งเป็นฉายาฆาตกรต่อเนือ่ง ที่มีเฉพาะเพียงแต่ในกองสืบสวนเท่านั้น
ที่พอจะทราบเรื่อง แล้วเจ้าเด็กหัวทองเมื่อวานซืน มันจะไปรู้เรือ่งได้อย่างไร
(อันนี้นางเอกของเรือ่งเขาคิดเองนะ แต่ผู้เขียนช่วยถอดความให้)
แล้วยิ่งเจ๊ยังเห่อกับแนวคิดเรื่องพลังเหนือธรรมชาติอยู่ เจอเม็ดนี้ ก็เข้าแก๊ปเจ๊เลยเด่
อีกอย่าง ผู้ต้องสงสัยในเรื่องนี้ มีเพื่อนพระเอกเข้าไปพัวพันอยู่ด้วยคนนึง
ความรักเพื่อน ประกอบกับเจ๊แกเลี้ยงอาหารมื้อค่ำแบบให้เป็นหนี้บุญคุณ
งานนี้พระเอกเอย์จิ ก็เลยแสดงพลังวิเศษ ขอเพียงเจ๊แค่เอาหลักฐานในที่เกิดเหตุสักชิ้น
มาสัมผัสจับต้องนิดหน่อย จากนั้นเรือ่งราวทั้งหมดก็จะปะติดปะต่อในหัวสมองของ
เจ้าเอย์จิ แล้วก็นำมาสเก็ดซ์ภาพ เพื่อให้เจ๊เรียวโกะแกไปเรียงร้อยกับ
ประจักษ์พยานในสำนวนคดี เท่านี้ก็เป็นการปิดฉากในคดีฆาตกรรมปริศนา
ที่ทำเอากรมตำรวจหัวหมุนติ้วก่อนหน้า เพราะฆาตกรแต่ละคนเขาจัดการเก็บผลงานสักเรียบ
ชนิดที่เจ้าหน้าที่แต่ละคน จับมือใครดมไม่ได้สักราย (แต่ก็ไม่จับแพะเหมือนบ้านเรานะ)



แต่เรือ่งราวของแต่ละตอน ก็ไม่ง่ายเช่นนั้น
เพราะมีความยึดโยงเกี่ยวเนือ่ง กับเหตุการณ์ประกอบแวดล้อม อีกตั้งมากมาย
อีกทั้งพลังวิเศษของเจ้าเอย์จิ ก็ใช่ว่าชัดเจนในระดับไฮเดฟฟีเนชั่น
แต่จะเป็นช๊อตของเหตุการณ์ ที่มีทั้งในอดีตและปัจจุบันที่ไม่ปะติดปะต่อกัน
และภาพส่วนใหญ่ ก็จะเป็นเพียงองค์ประกอบปลีกย่อย หาใช่เมนต์หลัก
ชนิดได้เห็นหน้าคาดตาของคนร้ายไม่ ดังนั้น ในทุกๆคดี
พระเอกเอย์จิของเรา จำต้องเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในสถานที่เกิดเหตุ
ร่วมกับเจ๊เรียวโกะ ผู้ที่เป็นทั้งเจ้าของคดีและไม่ใช่เจ้าของคดี
ประกอบกับความที่เป็นหญิงเก่ง ไฟแรง มีความบ้าบิ่นและมุทะลุ
จึงทำให้ไม่เป็นที่ปลื้ม ทั้งเจ้าหัวหน้าและเพือ่นร่วมอาชีพสักเท่าไรนัก เป็นเหตุให้
มีการขัดแข้ง-ขัดขาและมีปากมีเสียงกันอยู่เป็นประจำ อีกทั้งไปเล่าเรือ่ง
ความสามารถพิเศษของเจ้าเอย์จิ ก็ดันกลายเป็นเรืองขบขันและสร้างช่องระยะห่างให้
ในการขอความร่วมมือ สุดท้ายสิ่งที่ทำได้ คือ การยืมมือของพระเอกเอย์จิของเรา
ให้การคลี่คลายคดีโหดๆ ที่ไม่เหลือเค้าลางหลักฐาน พอจะให้มัดตัวคนร้ายได้
นอกไปจากหลักฐานในที่เกิดเหตุชิ้นสองชิ้น ที่มักไม่เหลือคราบลายนิ้วมือสักด้วยสิ
เพราะกำลังเป็นเทรนด์นิยมของผู้ก่อการ ในยุค ๙๐ ที่หนังเรือ่งไหนๆ เขาก็ทำกัน



สิ่งที่ทำให้ผู้เขียน สามารถสร้างสถิติส่วนตัวในการชมซีรีย์เรือ่งนี้อย่างมาราธอน
ชนิดข้ามปีแบบไม่มีโฆษณาคั่น ส่วนหนึ่งต้องยกให้ในความแปลก
เป็นความแปลกที่ฉีกแนว ปัจเจกนิยมฮีโร่ (Individual Hero) แบบที่มักเห็นในซีรีย์
แนวสืบสวนของยุคนี้ เพราะใน Psychometrer Eiji ถึงแม้ว่าจะมีเพียงเจ้าเอย์จิ
คนเดียวเท่านั้นที่มีหัตถ์วิเศษ ที่จะต้องเชื่อมโยงหลักฐานอันนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้
แต่ด้วยความที่เป็นซีรีย์วัยรุ่นมัธยมปลาย ก็ไม่อาจละเลยที่จะแหนบปีกเพื่อนรักอีกสองคน
ในฐานะตัวละครสำคัญ ที่มีบทเข้าฉากในทุกๆตอน อย่างเจ้าทามิยะ และเจ้ายุซุเกะ
อาจด้วยวัตถุประสงค์ของซีรีย์ ที่ต้องการเชิดชูในเรือ่งมิตรภาพและความไว้เนื้อเชื้อใจกัน
ซึ่งจะไปเฉลยในตอนสุดท้ายว่า ทำไมเพื่อนสองคนนี้ถึงมีความสำคัญกับพระเอกนัก
อีกอย่าง ถ้าการขาดสองคนนี้ไป หรือลดความสำคัญของสองตัวละครนี้ลง
ก็ไม่แน่ว่า ซีรีย์เรือ่งนี้จะเป็นที่จดจำของคนดูต่อไปอีกนานแสนนาน อีกรึเปล่า?
แต่อย่างไรก็ตาม สองคนนั้น ก็ยังไม่เป็นที่จดจำเท่ากับน้องคนสวยของพระเอก
ที่ชื่อว่า "เอย์ริ" เป็นอารมณ์ถวิลแบบที่เคยรู้สึกกับนักแสดงสาวน้อยอูมิกะ
น้องสาวพระเอกในเรือ่ง Bloody Monday คนที่เกิดเป็นน้องสาวพระเอกนี้ก็น่าเห็นใจเสมอ
เพราะต้องถูกชิงตัวไปปู้ยี้ปู้ยำ เป็นหลักประกันให้พระเอกต้องมั่นเป็นคนที่มาตามนัด
และรักษาคำมั่นสัญญา ซึ่งคนร้ายเรือ่งไหนๆ เขาก็ไม่เคยไว้ใจพระเอกของเรื่องกัน
แต่ขอบอก เอย์ริ น้องสาวพระเอกคนนี้ ไม่ธรรมดา มีบทบาทสำคัญแบบคาดไม่ถึง
แบบชนิดที่คนเขียนบทเรื่องไหนๆ ก็คิดไม่ถึงว่ากระดาษเปล่าไม่กี่แผ่น จะทำให้น้อง
เปลี่ยนเป็นคนละคนได้ถึงเพียงนี้ ชนิดที่ผู้เขียนก็ยลซีรีย์มาไม่น้อย ยังต้องตาค้าง
ว่ามันเล่นกันถึงเพียงนี้เลยเหรอ? (น้องสาวคนนี้เล่นโดย มัตซึโมโตะ ริโอะ
ทุกวันนี้ น้องก็ยังเจิดจรัสงานชุกอยู่ในวงการ อย่าง Tokyo Friend และ Love Operation)



ส่วนพล็อตในการฆาตกรรมในแต่ละตอน
ก็ต้องขอบอกว่า เข็นทรัพยากรของกลวิธีการฆาตกรรมทั่วทิศทุกมุมโลก
ตามแต่กระแสของเทรนด์ภาพยนตร์ไซโคทริลเลอร์ที่โลกจะคิดมาได้ มันจึงมีทั้ง
แบบ Jack The Rippers ก่อวินาศกรรมเพื่อปล้นเงินแบบ Die Hard 3
ลัทธิกลุ่มก๊วนแบบโอมชินริเคียว ผีเข้าในแบบหมอผี exsocist
ผู้ให้คำปรึกษาอย่าง Silent of the Lamb หวีดผวาอย่าง Scream เป็นต้น
เป็นแต่ละตอน ที่มักมีกลุ่มพระเอกเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างไม่ตั้งใจ
ประมาณว่า ไปเที่ยวแล้วดันเจอะเจอกันแบบบังเอิญเข้ากับเหตุฆาตกรรม
เป็นการบรรจบที่ดูจะเหมือนกับเส้นขนานกันคนละทาง แต่จูนกันติดในทุกคดี
อาจจะมีเพื่อนคนนั้น น้องคนนี้ พี่ป้าท่านนั้น ประสบอุบัติทวเหตุจนยากที่จะถอนตัว
ซึ่งบางทีก็ดูจริงจัง บางครั้งก็ทำเป็นเล่น และหลายทีก็ดูจะหลุดโลกกันไปเลย
(อย่างตอนเด็กแฝด และตอนสุดท้าย เป็นต้น) แถมการคาดเดาตัวคนร้าย
ก็มีทั้งแบบที่ถูกมั้งก็มี ผิดแบบมองข้ามตัวละครตัวนี้ไปได้ไง ก็มีไม่น้อย
แต่ลูกล่อลูกชน จะคล้ายๆกับ Mr.Brain คือ คนจริงใจยังแพ้คนใกล้ตัวนี้แหละ
แต่อย่างว่า คนใกล้ตัวมันมีเยอะ แต่ผู้ดัดแปลงบทก็ถือว่าฉลาดในการใช้ทรัพยากร
ในพลังเหนือธรรมชาติ โดยปล่อยให้ความสามารถที่ตายตัว ไปใช้วิธีการในหลายกรณี
แบบไม่ใช่มาจับสัมผัสกันโต้งๆ แต่ก็กลเม็ดเด็ดพรายให้หลอกล่อคนดู
และในหลายๆ เงือ่นไขที่พอจะสรรหา เพื่อมิให้พลังวิเศษกลายเป็นสิ่งพร่ำเพรือ
โดยใช้อย่างไม่ถูกที่ควร และคงนี้กระมัง ที่ทำให้ตอนจบกลายเป็นซีรีย์ปรัชญา
ในแนวนิยัติภาวะนิยม (Determinist) ที่มาวิพากย์วิจารณ์การตระหนักรู้
ถึงการแบกรับภาระของผู้มีญาณวิเศษ ที่ไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่องเขา
เป็นญาณวิเศษประจำตระกูล ที่ผู้มีระอาต่อการอยู่ร่วมในสังคมมนุษย์
แม้จะเป็นในสิ่งที่พระเจ้าอาจจะประทานมาให้ เป็นจิตแบบเจโตปริยาญาณ ที่หยั่งรู้
ความรู้สึกนึกคิดจิตใจของคนๆนั้น ซึ่งอาจทำดีอย่าง แต่ในใจคิดเห็นไปอีกอย่าง
ที่แม้เจ้าตัวไม่ประสงค์ที่จะรู้ แต่ถ้าเผลอสัมผัสจับต้องให้เข้าแล้ว ถึงปิดหูที่จะได้ยิน
แต่สมองก็รับรู้ในความหมายนั้นไป ไม่อยากเชือ่เลยว่า จากหัวค่ำที่เป็นซีรีย์ตลกโปกฮา
พอมาตีห้ากว่าๆ กลายเป็นซีรีย์ดราม่าหนักอึ้ง ที่ต้องระวังมือของตัวเองไม่ให้ไปจับต้องกับอะไร



ซีรีย์เรือ่งนี้ ถือว่าใช้ทรัพยากรของตัวละครได้ทุกคุ้มค่าเรือ่งหนึ่ง
เท่าที่พึ่งจะมีได้ โดยเฉพาะการให้บทคนร้ายแก่ตัวละครที่เป็นหัวหน้าตำรวจของริโกะ
(เล่นโดยนากาชิวา โทชิยะ ดาราเก๋าร่างใหญ่ที่เล่นหนังสายซามูไร ใน Azumi2และShinobi)
หัวหน้าตำรวจจอมกระแดะเหน็บแหนม พูดญี่ปุ่นคำอังกฤษคำ มาแต่ละคราวหมาดสุนัขเรียกพี่
เป็นคู่กัดในทุกกรณีกับนางเอกตลอดศก เป็นคนตัวใหญ่ที่ขี้ขลาด ตอนมีวางระเบิด
ยังถีบให้ลูกน้องลุยตายเอาดาบหน้าไปก่อนเลย
ถือว่าช่างกล้าในสายตาของผู้เขียน เพราะโดยส่วนใหญ่ บทตัวละครที่มีอำนาจนิยม
ในฐานะตัวแทนของสถาบันที่ยึดติดในหลักการเดิมๆ มากกว่าที่จะเน้นในเป้าหมาย
มีความสามารถที่จะควบคุมชะตากรรมความเป็นความตายของตัวละครเอก
ก็มักจะลงเอยด้วยการยอมรับเจตจำนงตั้งต้นอันแนวแน่ของตัวละครเอก
ไม่ก็สลายไปร่วมกับแนวคิดดั้งเดิม ที่ไม่สอดรับกับยุคสมัยที่เปลี่ยนผ่าน แต่อย่างน้อยๆ
ก็ไม่เคยมี ที่จะเปลี่ยนแปลงสภาพกลางคัน ให้มีตัวตนไปคนละแบบ
แบบที่พรีเซนต์ทนโทนมาในทุกๆตอน เจออึ้งลูกนี้ไม่ทันหาย
มาเจอตัวละครแบบสร้างมากลางเรือง แล้วเข็นมาตลอดให้จบในตอนท้าย
อย่าง "ซาวะกิ" (เล่นโดย ไซอิชิ ทานาเบะ ) ที่มาแนวจิตเวช เป็นศิษย์อาจารย์เดียวกันกับนางเอก
เป็นบทสำคัญไม่ใช่น้อย ก็มาทั้งในแนวให้คำปรึกษาและเหมือนจะเป็นดาร์ลิ่งนัยๆกับนางเอกริโกะ
แต่ทว่าก็เข็นไม่ขึ้น ก็นิสัยของคุณพี่ท่าน นางร้ายคนไหนๆ ก็คงคบหาดูใจกันยาก
ดูตอนที่พี่ท่านเล่น Kimi wa Petto พี่ท่านก็ยังไม่ทุ่มถึงปานนี้ สงสัยกินยาไม่ได้เขย่าขวด
เลยแสดงบทลูกบ้า ค่อนข้างมาก เพราะเอาเขาจริงใครที่ถูกรับเชิญให้ร่วมเล่นในเรื่องนี้
ก็ต้องฝากสติกับสัมปะชัญญะ เอาไว้ที่บ้าน
แต่อย่างว่า มาเจอเด็กหนุ่มอย่างเอย์จิ ที่นอกจากจะสัมผัสถึงสิ่งที่รับรู้
ทั้งใน อตีตังสญาณ และ อนาคตังสญาณ แล้ว พลังวิเศษของหมอนี้ ยังไปรับรู้ถึง
จิตใต้สำนึกที่ฝังลึกในวัยเยาว์ของตัวคนร้าย ชนิดที่ถ้าให้แฉเป็นน้ำจิ้มนิดหน่อย
ก็จี๊ดขึ้นสมองคนร้าย ให้ต้องปล่อยดาบทิ้งปืนในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน ไปในบัดดล



และด้วยความนิยมในภาคแรก ทำให้ทาง NTV มีโครงการที่จะสร้างภาคสอง
ในสองปีต่อมา ซึ่งก็ยังประคองเรตติ้งมาด้วยดี ถึงแม้ว่าทีมงานจากหลายส่วนในภาคแรก
จะไม่ได้มามีส่วนร่วมในภาคสอง ทั้งอย่าง หัวหน้าโปรดิวเซอร์ ทีมโปรดิวเซอร์ และผู้กำกับ
และยิ่งโดยเฉพาะนางเอกสาว เนเน่ กับน้องสาวพระเอก อย่าง ริโอะ ที่ไม่ได้ร่วมเล่นด้วยแล้ว
ผู้เขียนเลยไร้กระจิตกระใจ ที่จะไล่ตามต่อในฐานะผู้ดู ในหลักสูตรเร่งรัดข้ามปี
(แต่ใช้เวลาไปสิบชั่วโมง) แม้กลุ่มก๊วนพระเอกจะยังครบทีม แต่นั้นก็ไม่ใช่สาระสำคัญอะไร
โดยเฉพาะเจ๊เนเน่ ใครจะเชื่อว่าอีกสิบกว่าปีต่อมา หน้าเจ๊ยังผ่องใสไม่เปลี่ยน
ซึ่งบรรดาเหล่าเครือ่งสำอางถนอมผิวแบบเบบี้เฟรช ควรวิ่งเข้าหาให้แกเป็นพรีเซนเตอร์โดยด่วน
(และเรือ่งนี้ ทำให้เจ๊กับเจ้าทานาเบะ เป็นคู่รักฉันท์สามีภรรยากันนั้นเอง)
ถึงว่าแม้ จะเป็นซีรีย์ที่มุ่งขมวดปมของปริศนาทางคดี ที่เจียดเวลาให้กับสิ่งอื่นค่อนข้างน้อย
เพราะมุ่งในประเด็นหลัก คือ การคลี่คลายปมคดี ในขณะที่ซีรีย์สืบสวนในปัจจุบัน
ต้องแบ่งปันเวลาในแต่ละตอน ให้กับบทที่สัมพันธ์ในเชิงมนุษย์
การอธิบายตรรกะในหลักการทางวิทยาศาสตร์ และการโต้คารมเพื่อค้นหาวัตถุประสงค์หลัก
แต่กับ Psychometrer Eiji นี้ไม่ ไม่มีถอยหลัง มีแต่เดินหน้า และก็หน้า.........หน้า
ไปจนบรรลุเป้าหมายเพื่อจับกุมคนร้าย ซึ่งส่วนใหญ่ไม่จับเป็น ก็จับตาย
ตามแต่ความละมุ่นละม่อนในคนร้าย มาไม่กี่คนก็ยากหน่อย แต่ถ้ามาทั้งโรงพัก
อันนี้คงต้องยอมจำนนแต่โดยดี



ผู้เขียนไม่ค่อยแน่ใจนักว่า ซีรีย์เรือ่งนี้เคยเข้ามาฉายในทีวีไทยแล้วรึยัง?
แต่เท่าที่สังเกตทีเซอร์ก่อนพักเข้าโฆษณา คอ่นข้างคุ้นหูคุ้นตาเหมือนว่าเคยเห็นที่ไหน
เป็นซีรีย์ที่บูชาครู ในฐานะต้นแบบของฆาตกรต่อเนือ่งจากเรือ่งต่างๆ นำมาย้ำเปเข้ากัน
เป็นซีรีย์เชิดชูความเป็นเพื่อนโดยไม่เกี่ยวข้องกับกีฬา ในฐานะสิ่งสำคัญระหว่างวัย
ในฐานะคนรู้ใจ ที่ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล เผชิญชะตากรรมอับโชคมาด้วยกัน
เป็นบุคคลที่พระเอกขอปฏิญาณว่า ไม่ว่าเขาจะทำกับเราอย่างไร
ก็จะขออยู่และเชื่อใจพวกเขา อย่างไม่เปลี่ยนแปลง แม้พวกมันจะเจ็บมาเย๊อะก็ตาม
ส่วนคนที่จะเกรงว่า จะมีความรักข้ามวัย ระหว่างพระเอกกับนางเอกด้วยแล้วนั้น
ต้องขอบอกว่า เรื่องนี้ใครไม่ทำให้คิดเป็นอื่นไกล แม้จะมีการปฏิสัมพันธ์ในการ
ขอความช่วยเหลือกันอยู่ทุกตอน แต่ทว่านั่นเป็นเรือ่งในทางคดี
ในขณะที่นอกเวลางาน จะหนักไปทางพระเอกหาเรืองหลอกรับประทานนางเอก
ประทังชีพไปวันๆ จึงมีสถานะไม่ต่างจาก แม่ที่อุปถัมภ์ลูกแต่อย่างใด
เป็นซีรีย์ที่แม้จะไม่ถอดรื้อความเป็นมนุษย์ขึ้นมาตีแผ่ แต่ก็ไถ่ถามว่าความเป็นมนุษย์
ที่เชื่อใจในเผ่าพันธ์เดียวกัน และสังคมกระทำย้ำยี่ต่อบุคคลมามากน้อยเพียงไร
มือข้างเดียวไม่อาจให้คำตอบที่แน่ชัดจุดนี้ได้ มากไปกว่าสำนึกที่เปิดกว้างให้เคารพ
ต่อความเป็นบุคคลระหว่างกัน ว่าแล้วก็แฮปปี้นิวเยียร์กับตัวเองดีกว่า ........



ข้อมูล
//www.asianrice.tv/media/Psychometrer-Eiji
//wiki.d-addicts.com
wikipedia










Create Date : 02 มกราคม 2553
Last Update : 2 มกราคม 2553 21:10:28 น. 3 comments
Counter : 3464 Pageviews.

 
เรื่องนี้ได้อ่านการ์ตูน จบไปนานแล้ว
แต่ไม่ยักรู้ว่ามีซีรีย์ ...แบบนี้ต้องจดไปอีก...
แนวอย่างนี้แหละ ที่ชอบดู ...

ช่วงปิดเทศกาลเราก็ตั้งใจจะดูซี่รีย์นะ
แต่ปรากฎว่า คนเต็มบ้าน..ได้แต่ช่วยกันทำของกิน
เลยไม่ได้ดูอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ..


โดย: นัทธ์ วันที่: 3 มกราคม 2553 เวลา:7:56:27 น.  

 
ผม เพิ่งได้ลองอ่านการ์ตูนเรื่องนี้

ก็เลยติดหนึบ ขามีซีรี่แล้วรึนี่ สุดยอดดด


โดย: N,K IP: 180.183.120.68 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:18:43:22 น.  

 
5555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555สุดยอดจิงจิงสุโค่ยดังใจได้คับพี่ดีคับผมเหมาะสมคับท่านจันลันดีลางดีการ์ตูนซีร๊นิทุกใจดีชอบชอบชอบจัดมาจัดมา++


โดย: .8i9kpdhvgdbf IP: 119.42.109.167 วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:20:53:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mr.Chanpanakrit
Location :
สงขลา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]




Friends' blogs
[Add Mr.Chanpanakrit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.