A ........ Z
Group Blog
 
All blogs
 
Galileo : Suspect X ฟิสิกส์หรือคณิตศาสตร์ ก็ไม่อาจแก้ปัญหาชีวิตได้





เคยมีความรู้สึกต่อระดับความประทับใจ ในช่วงที่เวลาที่ห่างกันไหมขอรับ?
เป็นความรู้สึกที่เคยมีต่ออะไรสักอย่างหนึ่ง แล้วพอมาอีกช่วงเวลาหนึ่ง
เราจะรู้สึกโหยหาต่อสิ่งๆนั้น โดยรู้สึกถึงระดับของคุณค่าที่เพิ่มขึ้น
หรือค้นพบในแง่มุมที่ได้ละเลย อันเนื่องมาจากการขาดแคลนข้อมูลข่าวสารที่ไม่เพียงพอ
สิ่งนั้นกำลังเกิดขึ้นกับเจ้าซีรีย์ที่ชื่อว่า Galileo ซีรีย์ทีเคยฉายในโทรทัศน์ไทย
เมื่อสองปีล่วงเลยมาแล้ว





Galileo เป็นคนละฉบับที่มีสองสาวสวยชาวไทยออกตามหาตัวตนยังต่างแดน
อันเนื่องมาจาก อีกคนโกงข้อสอบกับอีกคนถูกแฟนบอกเลิก แล้วยังไปงอนใส่กันที่ต่า'ประเทศอีก
แต่เป็น Galileo ฉบับซีรีย์แนวสืบสวนเชิงฟิสิกส์ ที่คิดว่าเด็กสายวิทย์
ถึงได้ดูก็ยังงงๆ ที่ว่าด้วยพล็อตเรื่องง่ายๆ ที่อธิบายเสียฟังดูยุ่งยาก
เมื่อคดีฆาตกรรมปริศนาที่ทางกรมตำรวจญี่ปุ่น ไม่สามารถจะคลีคลายในรูปคดี
จึงต้องพึ่งพารองศาสตรจารย์ทางวิชาฟิสิกส์ ที่รักจะตามสืบเสาะให้ ในฐานะที่มัน
น่าสนใจมากกว่าที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ อันเป็นการเปลี่ยนแปลงความเชื่อ
งมงายในปรากฎการณ์เหนือธรรมชาติของผู้ตาย ให้มาอยู่ในสมมติฐานที่เป็นจริง
ในฐานะความเป็นไปได้ทางวิทยาศาสตร์ ที่สามารถจับต้องและทดลองซ้ำ
จนในที่สุด ......ก็เป็นจริงตามข้อสมมติฐานนั้น ในแง่ความจงใจของจำเลย
ในการดำเนินแผนการเพื่ออำพรางคดี โดยมีใช้กลวิธีทางวิทยาศาสตร์เช่นเดียวกัน




ตัวละครหลักๆในภาคซีรีย์ ที่ชื่อไทยว่า "ยอดอัจฉริยะไขคดีป่วน"
จึงมีเพียงสองท่าน คือ รศ. ยุกาว่า มานาบุ ที่เล่นโดย ฟุกุยามา มาซาฮารุ
ในฐานะนักสืบกาลิเลโอของเรื่อง (Galileo investigator)
ที่สนใจเพียงแต่การค้นคว้าและหาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์
นอกจากนี้ยังถูกสร้างบุคคลิกให้น่าสนใจแก่สาวๆ ทั้งเก่งทางกีฬา ศิลปะและการทำอาหาร
แต่ก็มีจุดแย่ๆ ในด้านมนุษยสัมพันธ์ และติดกรอบในหลักวิชาจนเกินไป
ส่วนตัวละครนางเอกอีกท่าน คือ อุทสึมิ คาโอรุ ที่เล่นโดย ชิบาซากิ โค
เป็นตำรวจสืบสวนมือใหม่ ที่จิตใจทางวิชาชีพมุ่งมั่น แต่ไม่ค่อยประสีประสาต่อรูปคดี
ถือเป็นคุณหนูเจ้าอารมณ์ แต่ก็ปรับเปลี่ยนทัศนคติอีกด้านให้กับรศ.ยุคาว่าว
ให้มองเห็นสิ่งต่างๆนอกกรอบความเป็นวิทยาศาสตร์ให้ลงมาสู่ความเป็นมนุษยนิยม




ความจริงผมเคยละเลงซีรีย์เรื่องนี้เมือ่หลายเดือนก่อน
ในช่วงที่กระแสความบ้าเห่อทางวิทยาศาสตร์กำลังจี๊ดขึ้นเส้นสมอง
แต่เป็น "จี๊ด" ในแง่ความหวั่นเกรง ถึงภัยตามกรอบแนวคิดทางวิทยาศาสตร์
ถึงขั้นเปิดตำราและแสวงหาสิ่งบันเทิง ที่เกี่ยวกับแนวไซ ไฟ หลายต่อหลายชิ้น
ซึ่งก็มีทั้งจริงบ้าง มั่วบ้าง ปะปนกันไปตามความหยิบฉวยสะดวกและแพร่หลาย
ซีรีย์ Galileo จึงเป็นหนึ่งสิ่งในการตอบสนองความบ้าเห่อส่วนตัว ในฐานะที่
เคยได้ยินชื่อเสียงและคำวิจารณ์มานาน ก็อาศัยการดูย้อนหลังเอาผ่านทางเน็ต
เป็นซีรีย์ที่ครั้งหนึ่ง เคยปรามาสเอาไว้ว่า..............


"ดูทีเดียวถึงสิบตอนรวด ล้วนไม่ได้เกิดจากตัวละครหลักของเรื่องแต่อย่างใดเลย
แต่เกิดจากปรัชญาวิพากษ์ ที่แอบซ้อน ชนิดที่ต้องขอกัดของจิก เจ้าความเป็น
"วิทยาศาสตร์" ในทุกๆตอน"






ถ้าอธิบายตามหลักการของรัฐบาลชวนเทอมสองแล้ว ก็ต้องบอกว่า
"เป็นไปตามหลักการ และยังไม่ได้รับเรื่องอย่างเป็นทางการ"
ซึ่งข้อแย่ในตอนนั้น ก็คือ ความขาดแคลนในข้อมูลเบื้องหลัง อีกทั้งในแง่เชิงเปรียบเทียบ
ตามประสบการณ์ หลังจากที่ได้รับชมและพิจารณากับซีรีย์แนวใกล้เคียงกัน
แต่ทำได้ไม่ส่าแก่ใจ ไม่ว่าจะเป็น Mr.Brain , Voice, ,Unfair , Lair game
แม้ซีรีย์เทือกนั้น จะสนุกสนานดี แต่ก็ยังรู้สึกถึงความไม่ลงตัว ขาดๆเกินๆ
บางคำตอบก็ดูไม่สมเหตุสมผลเท่าที่ควร ถึงกระนั้น เจ้า Galileo ก็ใช่ว่าจะสมบูรณ์แบบ
เพราะคุณพี่อธิบายเสียจน Over Suspected คือ เกินกว่าที่ฆาตกรจะสามารถอำพรางคดี
ด้วยระดับสติสตางค์เพียงนี้ มันเฉียดที่จะคว้ารางวัลโนเบิลสาขาฟิสิกส์ได้ไม่ยากเย็น
และที่สำคัญอีกด้าน คือ ภาคความเป็นดราม่าเข้มๆ ที่แทบจะไม่ปรากฎ เพราะหนักไปทาง
พ่อแง่แม่งอนและการตีโจทย์เสียเป็นส่วนใหญ่




แต่สิ่งเหล่านี้ ที่เคยเป็นข้อเสียในแง่ของประเด็นหลัก
กลับถูกนำมาแก้ไขใน Galieo ในโลกภาพยนตร์ ที่ใช้ชื่อว่า Galileo : Suspect X
ในฉบับที่แฟนพันธ์แท้ของ Galileo ซีรีย์ อาจจะมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ
ที่ชอบ อาจเพราะเป็นการยกระดับของการพัฒนาบทและตัวละคร (บางตัว) ให้มีมิติ
ในด้านอารมณ์ของตัวละครมากกว่าความวิจิตรพิสดารของรูปคดี ทุนสร้างที่หนาขึ้น
แง่ของโปรดักชั่นก็อลังการขึ้นเป็นกอง ส่วนที่ไม่ชอบ อาจเป็นไปได้ถ้าไม่นับตัวละครเดิมๆ
ที่เคยโลดแล่นในทีวี กลับมาสู่ภาพยนตร์อีกครั้ง ที่เหลือก็แทบไม่เหลือความเป็น
Galileo ซีรีย์ที่เราเคยได้ชมกันมา
บทบาทของตัวละครนักสืบสาวนัยน์ตาดุ อย่าง โค ชิบาซากิ ก็มีน้อยเสียจนน่าเคือง
ไม่นับตัวประกอบรองๆ ที่เล่นในตอน Galileo ซีรีย์ ที่มีให้อย่างกะปริดกะปรอย
หรือไม่ก็จางหายไป ด้วยความที่ฉบับหนังเริ่มต้นไขคดีปริศนา ที่ดูจะเรียกความสนใจของคนดู
เมื่อมีเรือเดินสมุทรจมพลิกคว่ำกลางทะเล โดยมีนักข่าวสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญที่
คาดคะเนเอาว่า การล่มครั้งนี้น่าจะเกิดจากอาวุธสงครามในกองทัพเพียงประการเดียว
แต่เชื่อไหมว่า คดีมหภาคนี้กลับเป็นคดีหลอกความสนใจของคนดู เพราะเอาเข้าจริง
เป็นเพียงคดีเปิดเรื่อง เพื่อจะแนะนำให้คนดูทำความรู้จัก รศ.อัจฉริยะกาลิเลโอ
อย่าง รศ.ยุกาว่า เท่านั้น ขณะที่คดีจุลภาค อย่างคดีฆาตกรรมภายในครอบครัวเล็กๆ
กลับเป็นเรือ่งราวหลักทั้งหมดของเรื่อง ครอบครัวธรรมดาครอบครัวหนึ่ง
ที่หญิงหม้ายที่อาศัยกับลูกสาวในอพาร์ทแมนเล็กๆ ถูกอดีตสามีเก่าตามรังครวญ
เลยเกิดการปะทะกันขึ้น ความที่แม่ต้องปกป้องลูกจากอดีตสามี จึงเกิดการ
ป้องกันตัว จนมารู้สึกอีกทีอดีตสามีก็กลายเป็นศพไปเสียแล้ว
ชายผู้อยู่ห้องใกล้เคียง เมื่อได้ยินเสียงเข้าจึงรับปากที่จะช่วยอำพรางคดีนี้ให้
ซึ่งมาทราบอีกที่ว่า ชายคนนี้เป็นครูสอนคณิตศาสตร์เด็กมัธยม ที่ชื่อ เทซึยะ อิชิกามิ
(เล่นโดย ชินอิจิ ซึสึมิ ใน Always ทั้งสองภาค)
ที่มักจะไปแวะเวียนให้บริการร้านขายข้าวกล่องของหญิงหม่ายท่านนี้เสมอๆ
แต่เรื่องมันไม่ธรรมดาเข้า เพราะภูมิหลังความสัมพันธ์ของครูคณิตศาสตร์ท่านนี้
คือ อดีตนักศึกษาร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกันกับ รศ. ยุกาว่า
แต่ทว่า เรียนกันคนละคณะ เพราะ รศ. ยุกาว่า เลือกเรียนทางฟิสิกส์
คณะที่ครูท่านนี้ เลือกเรียนคณิตศาสตร์ แต่ประโยคการยอมรับที่น้อยครั้ง รศ. ยุกาว่า
จะเอ่ยปากก็คือ "ไอ้หมอนี้ มันเป็นอัจฉริยะจริงๆ"





หนังเรื่องนี้สร้างประเด็นหลอกคนดู ที่เคยหลงในเชื่อสูตรสำเร็จของหนังทั่วไป
ถึงกระนั้น หนังเรือ่งนี้ก็ใช้สูตรสำเร็จบางอย่างของหนังหลายๆเรือ่งที่เราอาจจะเคยดูกันมา
โดยตัวหนังลดทอนในแง่การอธิบายทางวิทยาศาสตร์ลง ให้กลายเป็นคดีฆาตกรรมธรรมดา
ที่เราน่าจะพอเดาทางกันได้บ้าง (หลังจากที่ภาคซีรีย์ต่อให้เปิดตำราเตรียมเอ็นท์มาอ่านก็ยากจะคาดเดา)
เพราะหนังที่เน้นย้ำในการฉายภาพของสังคมบางส่วน ที่สังคมญี่ปุ่นเองไม่ปรารถนา
แม้บางคนอาจจะคิดมากไปว่า เป็นการสะท้อนสัญลักษณ์บางอย่างที่ผู้กำกับตั้งใจ
ที่เอาเข้าจริง หนังกับเฉลยอย่างโจ่งแจ้งและเป็นตัวเงื่อนสำคัญในการไขคดี
จึงมีอารมณ์ประเภทชิงไหวชิงพริบ ที่อาจพอรู้สึกได้ใน Death Note ที่นักเรียนหัวดี
แต่อยากเปลี่ยนโลก อย่าง ไลท์ ต้องหักเหลี่ยมกับ แอล เด็กไฮเปอร์จอมอัจฉริยะ
ความที่หนังให้น้ำหนัก กับตัวละครสมัยยุคนักศึกษามหาวิทยาลัย จึงต้องมีการเลือกใช้
ตัวละครเด็กหน้าคล้าย งานนี้ก็เลยเลือกใช้บริการของมิอุระ ฮารุมะ (ที่เล่นbloody monday)
รับบทเป็น รศ. ยุกาว่า ตอนวัยรุ่น ขณะที่ตัวละครเพื่อนพระเอก อย่าง ชุนเป คุซานากิ
(คนที่เล่นเป็นตำรวจผู้แนะนำให้ตำรวจหญิงคาโอรุ ได้รู้จักรศ. อัจฉริยะกาลิเลโอ)
เด็กคนนี้หาชื่อไม่เจอ อีกอย่างก็รู้สึกหน้าจะไม่เหมือนด้วย เลยไม่ค่อยสนใจ
เหตุที่ย้อนภูมิหลังตามสไตล์ขนบเดียวกันกับหนังฮ่องกงอย่าง Internal Affair ภาคสอง
ที่ย้อนไปไกลถึงนักเรียนนายร้อย หนังจึงเล่นประเด็นในส่วนทั้งความสัมพันธ์ของ
สองตัวละคร



อย่างแรก คือ การฉายแววความเป็นอัจฉริยะของ รศ.ยุกาว่า ที่ช่วยให้อนาคตของเพื่อนตำรวจ
อย่างเจ้าชุนเป ที่ตอนนั้นยังหน้าใสเป็นเด็กส่งพิซซา รอดพ้นความเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่า
ลูกค้า โดยผลักตกตึกถึงแก่ความตาย
อย่างที่สอง คือ การสนิทสนมรู้จักกับจอมอัจฉริยะทางคณิตศาสตร์ อย่าง เทซึยะ อิชิกามิ
ที่ปัจจุบันมีชีวิตที่หดหู่ สังกะตายไปวันๆ ทำกิจกรรมแต่ละวันซ้ำๆซากๆ
ดูไม่น่าจะเป็นเพื่อนกับพระเอกอย่างนักสืบกาลิเลโอของเราได้เลย




ในหนังยังคงเน้นสลับฉากในสองเหตุการณ์ อันอาจจะมีการย้อนสลับในวัยอดีตบางช่วง
ส่วนหนึ่งว่ากันด้วยของการสืบสวนศพผู้ตายปริศนา ที่ใบหน้าทุบจนเละ ทำลายลายนิ้วมือ
และมีการนำเสื้อผ้าไปเผา เรียกว่ากลบหลักฐานทุกอย่าง ซึ่งทั้งหมดเป็นการวางแผน
ของจอมอัจฉริยะทางคณิตศาสตร์เทซึยะ โดยผ่านการติดต่อทางโทรศัทพ์สาธารณะ
อีกทั้งสร้างสถานการณ์หาสิ่งบอกเหตุที่จะยืนยัน ความไม่เกี่ยวข้องในช่วงเวลา
ให้แก่สองแม่ลูก เพื่อให้รอดพ้นจากผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรม
โดยพยายามที่จะคาดเดาวิธีการสืบสวนของตำรวจ
แต่จากนั้นเรื่องทำท่าว่าสองแม่ลูกจะรอดพ้นของกล่าวหา
เมื่ออดีตสามีไปโยงใยกับแก็งค์ยากูซา จนผลของการสืบสวนพุ่งเป้าไปอีกประเด็น
จะมีก็เพียงนักสืบกาลิเลโอและตำรวจสาวอุซึมิ ที่จงใจเชื่อได้ว่า
มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับสองแม่ลูกในฐานะจำเลยในที่เกิดเหตุ (suspect's alibi)
แต่สุดท้ายเรือ่งก็ชักบานปลาย เมือ่ความพยายามบ่งการความเป็นไปของรูปคดี
กลายเป็นการบ่งการชีวิตของสองแม่ลูก ด้วยกิเลสเบื้องต่ำที่ฝังลึกอยู่ในจิตใต้สำนึกทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว





อย่างที่บอก ...........ใครที่เคยมาเปิดดู Galileo ซีรีย์ แล้วตั้งใจจะเป็นสาวก
ที่ต้องดูให้ครบสูตร ทั้งภาคซีรีย์ปกติเอย ภาคพิเศษใน Galileo Zero เอย
แล้วคิดว่าจะได้อรรถรสอย่างที่เคย โดยหวังว่าจะปรากฎใน Galileo Suspect X
อันนี้คงต้องทำใจอย่างแรง เพราะฉบับหนัง ถือว่าเป็นภาคที่ Dark สุดๆ
แบบที่ไม่เกรงอกเกรงใจว่า จะมีแฟนเก่ากลุ่มหนึ่ง รับความเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้
เข้าใจว่าเจ้าของบทประพันธ์ ฮิงาชิโนะ เคโงะ ไม่ตันเนื้อเรื่อง ก็อยากเล่าเรื่อง
ที่ชวนแตกต่างให้ท้าทายความสามารถยิ่งขึ้น
การนำเสนอของเรือ่งก็ไม่ได้วืดหวา ฉวัดเฉวี้ยงอย่างที่เคยรู้สึกชนิดที่ต้องอึ้งผสมกับทึ่ง
ที่ต้องเฉลยกรรมวิธีการฆาตกรรม ด้วยการวิธีทดลองทางวิทยาศาสตร์ในแบบเดียวกัน
เอาเข้าจริง หนังแทบจะไม่ได้หวังผลในจุดเฉลย ที่อยู่ในประเด็นนั้นด้วยซ้ำ
เพราะคนดูต่างก็รับรู้ว่า ใครเป็นฆาตกร ใครเป็นผู้วางแผน และจุดจบจะมาสิ้นสุดเช่นใด
แต่หนังกลับจะเป็นประชันบทบาทการแสดงของตัวละคร ระหว่างพระเอกของเรา
กับคนร้ายที่เรารู้จักเห็นอกเห็นใจยิ่ง แม้โดยส่วนตัวอาจไม่รู้สึกถึงความสามารถที่ว่า
ไอ้หมอนี้เป็นถึงนักคณิตศาสตร์ที่อัจฉริยะตรงไหน แม้พี่นักสืบกาลิเลโอของเราจะ
พยายามอธิบายความแตกต่างของนักฟิสิกส์กับนักคณิตศาสตร์อย่างมีเส้นแบ่งไว้ว่า.......


"นักฟิสิกส์พิสูจน์ความจริง จากการปฎิบัติในห้องทดลองชนิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แต่นักคณิตศาสตร์พิสูจน์ความจริง จากการจำลองทางสูตรตัวเลข
แต่ทั้งหมด ล้วนต่างต้องการผลลัพธ์ที่ตายตัว"



เพียงแต่ในประเด็นการเชื่อมโยงในแง่พฤติกรรม ของมูลเหตุการจูงใจของตัวละคร
อาจทำให้เรารู้สึกทึ่ง เมื่อหนังค่อยๆเฉลยทีละส่วนๆ ทีละประเด็น
แล้วมาผูกโยงรวมให้เข้ากัน จนเกิดเป็นรูปเป็นร่าง
อย่างไรเสีย........คำรับสารภาพสุดท้าย
ก็ไม่ได้เอ่ยจากปากของผู้กระทำความผิด มากกว่าผู้สมรู้ร่วมคิดที่รู้สึกผิดในจิตใจ
ในฐานะที่ไม่อาจเก็บงำความรู้สึกในใจไปได้ตลอด





ดังนั้นในความเห็นส่วนตัว ถือว่าออกไปแนวทางชอบ
ในฐานะดราม่าหนักๆ ที่ไม่ค่อยมีให้เห็น ในหนังสืบสวนสอบสวนแนวฆาตกรรมสักเท่าไร
เพราะส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปในความตื่นเต้น เร้าใจและความสยดสยองพองขน
เพราะเอาเข้าจริง ถึงจะมุ่งเน้นไปที่ความเรียบเนิบ อึกอัดและค่อยเขยิบคลี่ปม
มาใช้อย่างถูกจังหวะจักโคน ก็ยังคงทำให้ชวนติดตาม แม้จะเบี่ยงเบนการคาดเดา
ไปกับภาพตัวอย่างที่คิดว่าจะมาตามขนบเดิมๆ
กลายเป็น ผู้กำกับนำเรามาสู่การเป็นหนังชีวิตที่ชวนให้เราสนใจความเป็นไปของตัวละคร
ว่าจะออกในทิศทางไหน ขณะที่ความใส่ใจในแง่คดีที่เคยเป็นตัวเอกตามฉบับซีรีย์
ดูจะเป็นเรื่องรองไปถนัดตา อ่านคำวิจารณท่านอื่นๆ ก็ล้วนแล้วแต่คิดไม่ต่างกัน
ถือเป็นชัยชนะในความเศร้าในการไขปริศนาให้กระจ่าง ที่ไม่ว่าผู้สืบสวนหรือ
คนร้าย ต่างก็เจ็บปวดในชัยชนะทั้งสิ้น




ทางด้านตัวผู้กำกับ อย่าง ฮิโร่ชิ นิชิตานิ ดูจะภูมิใจกับเรื่องนี้อย่างมาก
เพราะค่อนข้างได้รับเสียงวิจารณ์เชิงบวกจากใจมหาชน
เพราะในประวัติการทำงานของแกก็สร้างซีรีย์ดีๆ
อย่าง ซูเปอร์สตาร์ถามหารัก Engine และ Galileo ภาคปกติมาแล้ว
ขณะที่ประวัติของนักแสดงเอกอย่างนักสืบกาลิเลโอก็น่าสนใจ
เป็นคนที่อยู่กับวงการเพลงทั้งในส่วนของการแต่งเพลงและเล่นกีต้าร์เอง
มาก่อนที่จะเล่นลงหนังเต็มตัวเสียอีก
ล่าสุดก็เพิ่งฉลองจะมีอัลบั้มฉลองยี่สิบปีไปหมาดๆ
นอกจากลุงฟุคุยาม่ากับน้องชิบาซากิจะเล่นซีรีย์ร่วมกันแล้ว ยังได้ทำโปรเจ็คเพลงร่วมกัน
ในวงที่มีชื่อว่า KOH กระแสนี้ก็ดีไม่แพ้กัน คนอะไร!ทำอะไรก็ดูดีไปโหมด.....
ไม่เหลือเผื่อแผ่เลยนะเฮีย ยกเว้นอายุเฮียที่ย่างเข้าสิบสี่ขวบ
อันนี้ไม่ต้องแผ่เผื่อ เพราะทุกวันนี้ก็เหลือที่จะขอเสียแล้ว ........




ข้อมูล จาก


wikipedia wikidrama และ //www.moviexclusive.com

รวมถึงบทความเก่าๆ ไว้รื้อฟื้นความจำ ในGalileo โอ้!ทำให้อาการเสพย์ติดซีรีย์กำเริบอีกแล้ว







Create Date : 18 ตุลาคม 2552
Last Update : 10 ตุลาคม 2555 13:44:10 น. 4 comments
Counter : 3103 Pageviews.

 
เท่าที่เรารู้ว่า กาลิเลโอภาค X นี้ สร้างจากนิยายสืบสวน
แล้วเราก็ทั้งอ่าน ทั้งดูไปเรียบร้อยแล้ว
หนังสือก็สนุก ..เพราะให้น้ำหนักแก่ตัวฆาตกร
แต่หนัง ใ้ห้น้ำหนักกับยุคาวา มานาบุ

แต่การจะดูหนังและอ่านหนังสือให้สนุกนั้น
ก็คือ ไม่ต้องเอาทั้ง 2 อย่างมาเปรียบเทียบกัน



โดย: นัทธ์ วันที่: 18 ตุลาคม 2552 เวลา:21:44:13 น.  

 
ตัวหนังค่อนข้างเครียดกว่าฉบับซีรีส์

คดีนี้ทีแรกคิดว่าทายถูกแล้ว แต่พอมาเฉลยคดีถึงกับอึ้งเลยค่ะ


โดย: glorious วันที่: 11 พฤศจิกายน 2552 เวลา:23:03:43 น.  

 
แผ่นอยู่ในมือเลยตอนนี้แต่ยังไม่ได้เปิดดู ตามธรรมดาอ่ะท่านบ้าคนหล่อก่อนแล้วค่อยตามดูหนังสีสาระ 555 อ้อเรื่อง shiroi Haru ก็กำลังจะดูอยู่นะท่าน


โดย: MamLHC วันที่: 13 พฤศจิกายน 2552 เวลา:12:32:54 น.  

 
เรื่องกาลิเลโอชอบมากเหมือนกัน หนังให้ระอะไรมากมายทีเดียวเรื่องวิทยาศาสตร์ คนกำกับหนังช่างฉลาดอะไรเยี่ยงนี้


โดย: dfh วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:05:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mr.Chanpanakrit
Location :
สงขลา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]




Friends' blogs
[Add Mr.Chanpanakrit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.