A ........ Z
Group Blog
 
All blogs
 
Gokusen2 ลูกสาวเจ้าพ่อขอเป็นครู (คุมิโกะreturn)





ไม่ต้องรอช้าอยู่ใย หลังจากที่ผู้เขียนได้สาธยายเรื่องราวของซีรีย์ลูกสาวเจ้าพ่อขอเป็นครู
ไปได้สองวัน ดูเหมือนจะเป็นวาระติดพัน ให้ต้องขอรับโอกาสอีกสักครั้ง
เพื่อสาระเน่ในการลำดับเรื่องราวต่อมาของภาคที่สอง
อันเป็นภาคที่ทางสถานี NTV เจ้าของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดการออกอากาศ
ซึ่งทิ้งช่วงจากงานที่เคยสร้างไว้ในภาคแรกไปกว่าสามปี
แต่งานนี้ผู้เขียนขอติดพ่วง มาเอาเขียนต่อเนื่องอีกคำรบ
เพื่อฉลองเป็นพุทธบูชา ถึงแม้จะดูว่าไม่เกี่ยวกัน แต่คติธรรมจากซีรีย์เรื่องนี้
ถ้าเลียบๆเคียงๆ แบบเอียงนิดๆ คงน่าจะเกี่ยวกันบ้าง ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
หรืออย่างน้อยๆ ก็เขียนเอาในวัมาฆบูชากันเห็นๆนี้แหละ
เพียงทว่าในตอนนี้ ยังคิดไม่ออกบอกไม่ได้ เลยขอละไว้ในฐานที่เข้าใจ
ตามประสา คนดูซีรีย์ซึ้งๆฮาๆ แต่ทว่าจะรอช้าให้ครบองค์ประชุมคงไม่ไหว
ก็เลยขอบอกเล่าจากใจกันตอนนี้ เพราะอย่างไรเสียพรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุดชดเชยอีกวัน
เสียดายนิดหน่อย ที่ไม่ได้หยุดยาวไปสักสามวันซ้อน
ไม่งั้นอาจถอยภาคที่สาม และฉบับ Movie ตามมาให้จบสิ้นกระบวนความ
แต่เมื่อโควต้ามันไม่อำนวย อย่างน้อยๆ การถอดความรู้สึกในภาคที่สอง
ก็ยังคงอุดมด้วยมุขขำๆ และหนุ่มแมนๆ ที่เดินกันให้ไขว้เหมือนเช่นเคย



แต่การได้มาเขียนตอ่ในครั้งนี้ ผู้เขียนจำต้องเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่พอสมควร
เพราะวันนี้ทั้งวัน ผู้เขียนมาไล่อ่านคอมเมนต์กันเล่นๆ ตามไล่หัวข้อหมวด "จะดูหนังถ้าฉันมีเวลา"
จึงเพิ่งระลึกชาติมาได้ว่า คอมเมนต์ที่ท่านผู้มีเกียรติ์สละเวลามาบรรจงปนละเลง
ล้วนแล้วแต่เป็นกุศลจากกุลสตรีเพศเสียส่วนใหญ่ จะมีชายบุรุษที่เสลอแซมบ้างก็อยู่คน
คนๆนั้น ก็คือตัวผู้เขียนเอง ดังนั้นต่อไปนี้เวลาที่จะวี๊ดว๊ายกระตู้ฮู้นักแสดงหญิงบางราย
อาจจะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง โดยการลดบรรทัดความสำคัญแบบออกนอกหน้า
ไปพอสมควร และให้เวลาใส่ใจกับเหล่านักแสดงชายให้มากขึ้น
โดยที่จะพยายามหักห้ามใจตัวเอง ไม่ให้ไปหลงเสน่ห์ของเหล่าบรรดาชายๆจนเสียเชิงชาย



การเริ่มต้นในภาคที่สอง จึงเป็นการต่อเนื่องในเรื่องราว
จากการแตกกระส่านซ่านเซ็นของเหล่าบรรดาสมาชิกครูของโรงเรียนชิโรคิน
หากใครที่คงพอเคยดูและจำความกันได้เลาๆ คงจะจดจำวีรกรรมบนความประทับใจในความเศร้า
เพราะทางโรงเรียนมัธยมชิโรคิน ทั้งทางเหล่าบรรดาสมาชิกและเพื่อนนักเรียน
ต่างรวมตัวกัน ปฎิเสธมติการปลดประจำการในสถานภาพความเป็นครู
เมื่อเรื่องราวเบื้องหลังของครูคุมิโกะ ในฐานะผู้สืบทอดทายาทรุ่นที่สี่ของสมาชิกยากูซาพรรคโออิโดะ
รับรู้กันไปทั่ว ทั่วแน่เพราะมันแผ่หล้ากันโต้งๆ จนเป็นข่าวหน้าหนึ่ง
มีผลให้โรงเรียนมัธยมชิโรคินต้องถูกปิดตัวลง หนึ่งในนั้นก็มี โกโระ ซาวาตาริ
ที่มีเอี่ยวในฐานะที่ปฎิเสธมติของผู้อำนวยการเขตการศึกษาแบบไม่ไว้หน้ากลางที่ประชุม
จำต้องแบกหน้าไปหาสถานศึกษาใหม่ โชคดียังพอเข้าข้าง
ด้วยเจ้าตัวยังคงกินในตำแหน่งใหญ่ อย่าง หัวหน้าอาจารย์ที่โรงเรียนมัธยมคุโรกิน
แต่โชคร้าย ยังคงไม่พ้นร่างแหชิ้นใหญ่ที่ผู้อำนวยการโรงเรียน
จัดวางให้เชิงบังคับ ว่าเป็นภารกิจพิสูจน์ฝีมือ ว่าต้องกำราบเจ้าเด็กห้อง 3D
โดยทุกวิถีทาง โดยไม่สนใจใยดีว่า เด็กในชั้นนี้จะเรียนจบหรือไม่ก็ตาม
แม้จะเหลือเวลาอีกแค่สามเดือนก็ตามที งานนี้ลุงโกโระของใครก็เถอะ
จำต้องวิ่งแจ้นตามใจนาย เร่งรัดติดต่อไปยังสำนักงานจัดหาครู
ที่ไม่บอกก็จะไม่รู้ นึกว่าเข้าสำนักจัดหางานบ้านเรา


The New Teacher .Will He come today?
(เอ! ได้ข่าวว่าวันนี้จะมีครูเข้ามาใหม่ใช่ไหมเอ่ย)
Absolutely.He must be good and stronger.Besides an excellent sport.
l think he'll suppress those delinguent students at all.
He is a my expectation as a whole.
(แน่นอนที่สุด เขาจะต้องเป็นครูที่เก่งและแข็งแกร่ง
นอกจากนี้ ยังต้องเป็นเลิศด้านการกีฬาอย่างมิต้องสงสัย
ฉันในฐานะอาจารย์ใหญ่คิดว่า เขาจะต้องกำราบเจ้าพวกเด็กนักเรียนเลวๆ
เสียอยู่หมัด เขานี้แหละ คือไพ่สุดท้ายที่ฉันมีอยู่ตอนนี้)



เอ๊! ใช้คำว่า he แสดงว่าต้องมีความเข้าใจผิดครั้งใหญ่เกิดขึ้นแน่
ก็ยังเห็นครูคุมิโกะเดินเด๋อด๋า อยู่ข้างหลังอาจารย์ใหญ่โกโระอยู่แหม้บๆ
ไปๆมาๆอย่างไรไม่ทราบ มีความผิดพลาดทางด้านเอกสาร สุดท้ายหวยที่ได้
ก็มิใช่ใคร เธอเป็นครูสอนเด็กอนุบาลที่กำลังตกงานอยู่หมาดๆ เพราะกำราบเด็กวัยนี้
มันยากกว่าเด็กมัธยมปลายเป็นไหนๆ วีรกรรมครั้งใหม่กำลังจะเกิดขึ้น
ภายใต้สิ่งที่เรียกว่า พรหมลิขิต หรือจะประนามว่า เวรกรรม ก็ตามที
แม้แต่อาจารย์ใหญ่โกโระ เมื่อได้ทราบถึงการมาของครูคุมิโกะ
ที่ซาบซึ้งเป็นอย่างดี ในทั้งวีรกรรมที่เคยสร้างไว้ในสมัยที่เป็นอาจารย์ประจำชั้นห้อง 3D
ในสมัยที่ประจำอยู่ที่ชิโรคิน และซึ้งยิ่งกว่าเพราะรู้ถึงตัวตนอีกด้านของตัวครูคุมิโกะ
ในฐานะสายเลือดของพรรคโออิโดะรุ่นต่อไป แม้จะพยายามตัดไฟเสียแต่ต้นลม
แต่ลมเที่ยวนี้ก็แรงเอาการ มันสายเกินแก้เพราะคุณครูแกบุกมาถึงประตูห้องพักครู
เป็นที่เรียบร้อย ห้องพักครูที่ผู้อำนวยการใหญ่รับทราบถึงการมารายงานตัวปฐมฤกษ์
และออกมาต้อนรับขับสู้แต่โดยดี



Who're send a pretty girl for control 3D room?
(ใครน้อ!ช่างส่งครูที่น่ารัก มาประจำห้องสามดีได้เนี่ย)
Oh I know.you have a plan that an aggression is not worked it should be a gentleness
(เออ ฉันเข้าใจแล้ว นี้ต้องเป็นแผนที่ว่า เมื่อใช้ไม้แข็งไม่ได้
ก็ต้องหันมาเล่นไม้นวมเสียบ้างก็น่าจะดี)


ท่านผู้อำนวยการ คิดเองเออเองอย่างนี้ มีเหรอคนอย่างโกโระจะไม่รับหน้า
ว่าแล้ว ก็ต้องต้อนรับครูคนใหม่แต่หน้าเก่าอย่างครูคุมิโกะเอาไว้ก่อน
แต่ขณะเดียวกัน ก็ต้องมีการเตี๊ยมนอกรอบถึงความลับในครั้งเก่าก่อน
เพราะขืนเกิดมีการเพ่งพายซ้ำสองเกิดขึ้น มีหวังชะตากรรมของเราสอง
มีสิทธิ์จะถูกหลุดจากบ่า ด้วยงานนี้มีผู้ที่กำความลับอยู่เพียงเราสองคน
ครูยุคสมัยมัธยมชิโรคินเอง ก็กระจัดกระจายแยกย้ายหนีหายกันไปหมด
ส่วนลูกศิษย์ลูกหาต่างก็สำเร็จรับปริญญาบัตรกันเป็นที่เรียบร้อย
แต่ชีวิตของเราสอง ยังคงต้องเดินไปอีกไกล และที่สำคัญกว่านั้น
นี้แค่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ยังสถานศึกษาใหม่ที่ชื่อออกเสียงคล้ายกับที่เก่า
แต่อ่านว่า โรงเรียนมัธยมชายล้วนคุโรกิน



hide your true identity .The fact that you're the 4th generation of the Oedo
Family.a prominent yakuza group.
(จงเก็บความลับของเธอเองไว้ให้ดี เกี่ยวกับความจริงที่ว่า เธอเอง
คือผู้สืบทอดรุ่นที่สี่ของพรรคโอเอโดะ แห่งแก็งค์ยากูซา)


แน่นอนว่า ซีรีย์ภาคสองยังคงดำเนินเรื่องดำเนินราว ตามแบบฉบับที่ภาคหนึ่ง
เคยเป็นอย่างไรมา ภาคสองก็ยังคงรักษาน้ำใจแฟน Gokusen ไว้เช่นนั้น
ยังคงเป็นครูคุมิโกะ ที่มีรูปแบบในการแต่งกายตามสไตล์ชุดวอร์มกับรองเท้าผ้าใบ
มัดจุกผมสองข้าง สวมแว่นตากลม อันเป็นเอกลักษณ์แบบkill bill ตะวันออก
(หรือ kill bill ตะวันตกไปลอกเขามาอีกทีละหว่า?) ยังเป็นยัยคุมิโกะที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลง
บุคคลิกหรือพัฒนาตัวละครไปตามห้วงเวลาที่ผ่านเลย
จะว่าไป แม้แต่องค์ประกอบแวดล้อม ถ้าหลงนึกไปว่ามีการปรับเปลี่ยนตัวละครอื่น
โดยให้นักแสดงหน้าใหม่มาสวมบทเดิมที่เคยมีในภาคแรก บางทีก็อยากจะหลงเชื่อ
ไปเช่นนั้น จะได้ไม่ต้องปูเรื่องราวอะไรกันมากมาย โดยเฉพาะเพื่อนคณะครูในโรงเรียน
อาจเพิ่มความมีสีสันมากขึ้นหน่อย โดยเติมตัวละครบางตัวให้มีบารมี
พอที่จะข้ามหัวสั่งการอาจารย์ใหญ่โกโระได้ ซึ่งก็คือผู้อำนวยการใหญ่ของโรงเรียน
โกโรกาวา เกนจิ (เล่นโดย อิโอะอุเอะ จุน ที่เคยเล่นเรื่อง unfair และ attention please)
ซึ่งตำแหน่งนี้ คิดว่าคงเข้าทางกับความเป็น Gokusen เพราะในภาคสาม
ก็ยังคงดำรงตำแหน่งนี้ไว้ในเรื่อง แม้จะย้ายไปอยู่ยังโรงเรียนใหม่แล้วก็ตาม
แต่ภาคนี้ช่างร้ายเหลือ เพราะจะหาทางกำจัดยัยครูคุมิโกะที่นับวันจะกระด้างกระเดื่อง
และเถียงคำไม่ตกฟาก ทั้งๆที่มีสัญญาจ้างเพียงสามเดือน
ส่วนตัวละครที่ดูเพิ่มมิติมากกว่าภาคหนึ่งอีกตัว คือ ครูบาบะ ไซอิกะ
(เล่นโดย อาซูมะ มิกิฮิซะ ล่าสุดไปเล่นใน Tokyo Dogs ด้วย) เป็นครูที่ชอบในตัวคุมิโกะ
อย่างออกหน้าออกตาและแสดงทีท่าตามตื้อไม่เลิกอย่างหัวปักหัวปำ เหตุที่บอกว่าไม่เลิก
ก็เพราะในภาคที่สาม พี่ท่านมีสถานศึกษาแหล่งใหม่ ก็ยังไปเป็นครูแบบบุพเพสันนิวาสกลายๆ
ทำให้ยากูซาสายคุณหนูท่านอย่างเท็ตซึ ต้องมามีคู่แข่ง ที่ไปเสริมความน่ารำคาญใจ
ให้ตัวคูมิโกะเพิ่มเป็นสองเท่า ส่วนอาจารย์ที่เหลือ ก็เป็นรูปแบบโครงสร้างที่ไม่ต่างจากภาคแรก
ก็จะมีอาจารย์สาวที่ตะแหร็ดแต๊ดแต๋ คอยเป็นคู่แข่งแย่งแฟนหนุ่มกับตัวครูคุมิโกะ
ซึ่งครั้งนี้ หวยล็อคกระเทาะหัวใจไปตกกับอาจารย์หนุ่มวิชาอังกฤษของโรงเรียนสตรีล้วน
อย่าง อาจารย์ทาคุมะ คุโจ (เล่นโดย โชสุเกะ ทานิฮารา ผ่านงานมาแล้วจาก Triangle และ
Love Shuffle และยังจะไปเจอพี่แกใน Nodame ภาค Movie เร็วๆนี้อีก )
โรงเรียนหญิงนั้นก็มีชื่อว่า โมโมเกริ์ล ที่อยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนคุโรชิน ที่คิดว่าถ้าตาไม่บอด
ก็ไม่น่าจะเดินหลงจนหาไม่เจอ จึงไม่น่าแปลกใจ ที่แกจะเดินสวนกันกับครูคุมิโกะในทุกเช้า
ไหนจะอาจารย์แวดล้อมท่านอื่นๆ ที่เออออห่อหมกทุกคำพูดที่เบื้องบนสั่งการ
และกระทำพฤติกรรมขยะแขยงทุกครั้ง เมื่อได้ยินคำว่าห้อง 3D ซึ่งมากและไม่สำคัญพอที่จะกล่าวถึง




ส่วนตัวละครในสายยากูซ่าพรรคอุเอโดะ ก็ต้องขอบอกว่า
ยังคงยกมาทั้งก๊วน ตั้งแต่หัวหน้าใหญ่ตลอดจนลูกสมุนบริวาร
ไม่ว่า หัวหน้าคุโรดะ สมุนมือซ้ายและมือขวาที่ตามประกบท่านคุณหนู
ทุกฝีก้าว ยกเว้นในแถบชานโรงเรียน อย่างเจ้าหนวดเท็ตซึและเจ้าอ้วนมิโนะรุ
ก็ยังเสริมความใกล้ชิดสนิทสนมกว่าเดิม
ในสไตล์สายลับร้านรถเข็นขนมโทริยากิหน้าศาลเจ้าอยู่เช่นเคย
แม้แต่ลูกสมุนที่ไม่น่าสำคัญ อย่าง ฮิโระและทากามะ ก็ยังเสนอหน้ามาให้เห็น
และที่สำคัญกว่านั้น ดูเหมือนจะเสริมบทเข้าฉากหน้ากล้องโปรยมุขหยอดใส่
ชนิดเล่นเอง กินเอง และชงเอง มากขึ้นกว่าภาคแรกเป็นกอง
ส่วน คุมะ (เล่นโดยโทโมฮิโกะ วากิ) เจ้าอ้วนผู้สืบกิจการร้านบะหมี่
คนนี้ไม่ใช่ยากูซา แต่เป็นลูกศิษย์ผู้สำเร็จภายใต้การอบรมดูแลและ
เอาใจใส่ด้วยน้ำมือและกำปั้นของคุณครูคุมิโกะ ก็ถือเป็นตัวแจมหนึ่งเดียว
ในบรรดาศิษย์ทั้งหมดที่หนีหน้าหายตา ไปแจ้งเกิดกับซีรีย์เรือ่งอื่นๆ
เพื่อไม่ให้นักเรียนต้องมาเหยียบกันตายในภาคสอง



The Superintendent has said,they were useless students
in the beginning.They never treated teacher as teachers
Everything they did was done halfway.
(การที่ผู้อำนวยการเคยกล่าวว่า เด็กหัวโจกพวกนี้เป็นพวกเศษสวะ
ตั้งแต่เริ่มต้น เพียงเพราะพวกเขาไม่เคยได้การดูแลเอาใจใส่จากครู
เหมือนที่ครูมักมอบให้แก่พวกเขา ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาอยู่ตอนนี้
เป็นเพียงแค่ครึ่งทางของชีวิตเขาเท่านั้น)



แต่ตัวละครบริบทแวดล้อมที่กล่าวมา ล้วนยังเป็นน้ำจิ้มรสทรงเครื่อง
เพราะตัวเครื่องปรุงที่จัดจ้านจริงๆ ยังคงเป็นห้านักเรียนหัวโจกประจำห้อง 3D
ส่วนทำไมต้องห้านี้ อันนี้ไม่มีคำตอบ บางทีอาจเป็นให้ง่ายต่อการบริหารค่า
เฉลี่ยต่อตอนต่อภาค ที่สถานี NTV ให้ได้มากสุดแค่สิบตอน
ซึ่งห้าคนจากบรรดานักเรียนในห้อง ที่มีทั้งหมด ๒๗ คน หวยล็อคส่วนใหญ่
จึงไปตกกับเหล่าบรรดานักแสดงวัยรุ่น ที่ปัจจุบันมีงานชุกเสียจน
ชนิดเห็นหน้ากันจนเบื่อ ซึ่งห้าคนที่ว่าประกอบด้วย ตัวนำอยู่สองนาย
เป็นสองนายที่ในบทของเรื่อง ไม่กินเส้นกินวากันตั้งแต่ตอนแรก
ทั้งๆที่อดีต ทั้งสองต่างเป็นเพื่อนที่สนิทสนมกันเสียเหลือเกิน
คือ ฮายาโตะ ยาบูกิ (รับบทโดย อากานิชิ จิน เด็กค่าย Johnny
กับชื่อวงว่า KAT-TUN ที่ไม่ค่อยชอบจะเล่นซีรีย์เสียเท่าไร
แต่ก็น่าดีใจสำหรับคนที่ติดตาม เพราะจะมีหนังใหญ่ เรื่อง Bandage
ที่เจ้าจินรับเล่น ซึ่งเข้าฉายในปีนี้)
กับ เจ้าโอดากิริ ยู เด็กที่ไม่ต้องมาโรงเรียนก็สำเร็จการศึกษาได้
เพราะบิดาเป็นคนใหญ่คนโต จัดการบัญชาการกับผู้อำนวยการ
เพื่อไม่ให้ต้องมาข้องแวะกับเพื่อนนักเรียนกุ๊ยห้อง 3D
(คนนี้รับบทโดย คาซึยะ คาเมะนาชิ งานซีรีย์นี้มีโชว์ให้เห็นเพียบ
ทั้ง Nobuta no produce ,1 Pound no Fukuin , Mr.Brain)
ส่วนเพื่อนอีกสามคนนี้ เห็นเป็นต้องร้องอ้อกันแน่นอน
อย่างเจ้าเคอิตะ ก็รับบทโดยโคอิเกะ เท้ปเป้ จาก IryuและDragon Zukara
เจ้าโคสุเกะ รับบทโดย โคอิเดะ ไคอิสุเกะ จาก Rookies,Nodame และjin
เจ้าตัวสูงฮิคารุ รับบทโดย ฮายามิ โมโคมิชิ จากTokyo tower ,Absolute Boyfriend
เรียกได้ว่า แต่ละคนล้วนเป็นเทพนักแสดหลักในเวลาต่อมาแทบทั้งสิ้น
อันนี้ไม่รู้เรียกว่า บารมีของการอบรมสั่งสอนของคุณครูคุมิโกะดีรึไม่?
แต่เอาเป็นว่า ใครได้เดินผ่านมาและเดินผ่านไปใน สถาบัน Gokusen
รับรองว่าจบภาคเมือ่ใด หันไปเอาดีได้ไม่ยาก ไม่ใช่แค่การการันตีเพียงรุ่นสอง
แม้แต่รุ่นพี่ในภาคแรก ก็ยังเจิดจรัสค้างฟ้าไม่ตกฟากกันเสียทุกราย
(จะยกเว้นเจ้าอ้วนคุมะดีรึเปล่าหว่า? เพราะมาภาคสองก็ยังมีคนที่ตัวอ้วนหัวทอง
แต่คราวนี้ ผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ชุดเดิมเขาไม่เอาไว้เชิดชู ให้เป็น
หนึ่งในห้าแห่งวาสนาหัวโจกค้างฟ้าแห่งห้อง 3D เหมือนเช่นภาคแรก)



ดูจนจบแล้ว ก็บอกไม่ได้ว่าจะภาคสองหรือภาคหนึ่ง
ว่ามันมีความสนุกมากน้อยไปกว่ากัน เพราะทั้งสองภาคต่างก็อมตะคลาสสิกกันทั้งคู่
เพียงแต่ถเความดูสารรูปของความเป็นเด็กกุ๋ยแล้ว ภาคหนึ่งน่าจะทำได้ติดตากว่า
(ก็ภาคนี้แต่ละคนหน้านี้หวานซะ) แต่การใส่ความเป็นดราม่าแล้ว
ดูเหมือนสัดส่วนจะเทมาให้กับภาคสองอยู่พอสมควร
ถึงกระนั้น ความตลกเลยเถิดก็ยังคงรักษาไว้ไม่เสื่อมคลาย
แต่ความชีวาวายในความเป็นบทซึ้ง ก็ดูจะมาเร็วกว่าภาคที่แล้ว
อย่างในบางตอนไม่ต้องรอให้ผ่านมาเสียครึ่งเรื่อง
ก็พร้อมจะระดมใส่ไหลยาวกระชากอารมณ์ที่ยังฮาก๊ากจากตอนที่แล้วไม่หาย
โดยเฉพาะสถานภาพด้านมืดของครูประจำชั้น ครั้งนี้เด็กในชั้นเขารู้กันเร็ว
แบบว่าต้องมาตายน้ำตื้น ด้วยมีเกลือที่เป็นหนอน
ส่วนมุขขำๆแบบเผลอหลุด เพราะลืมสถานภาพที่ยังค้างมาจากที่พรรค
อันนี้ก็เอามาใช้กันถี่ยิบเช่นเคย แบบหลุดคำสบถโวหารกลิ่นไอยากูซาในชั้นเรียน
หรือบาดแผลของอาจารย์ใหญ่โกโระที่เป็นนักเที่ยวกลางคืนตัวยง
จะว่าไปซีรีย์เรื่อง Gokusen ก็สะท้อนความไม่สมบูรณ์
ในตัวมนุษย์ที่มีทั้งด้านมืดและด้านสว่างคละเคล้าปะปนกันไป
เพียงแต่การแสดงออกในเบื้องหน้านั้น ฝ่ายนักเรียนของห้อง 3D เลือกที่จะแสดงออก
ในด้านลบที่เน้นไปในเชิงความรุนแรง
ที่คล้ายๆจะเป็นการต่อต้านระบบและรับรู้เจตนาที่ไม่จริงใจของตัวอาจารย์รุ่นก่อนๆ
อีกทั้งต้องแบกรับความคาดหวังของพ่อแม่ที่ไม่ได้สอดคล้องกับความรู้สึกที่แท้จริงของเด็ก
ผิดกับตัวอาจารย์ ที่ภาพลักษณ์เบื้องหน้า มันสอดรับกับทัศนคติเชิงบวกที่สังคมคาดหวัง
แม้เบื้องหลังก็มีอะไรที่หากได้รับรู้ในฐานะบุคคล ก็จะรู้สึกผิดหูผิดตาไปพอสมควร
แต่เรื่องอย่างงี้เขาบอกให้เหยียบไว้ ขืนเผลอเล่าแบบปากต่อปาก
นอกจากจะเป็นการไม่ไว้หน้าผู้หลักผู้ใหญ่ หาว่าไม่มีสัมมาคารวะด้วยแล้ว
ดีไม่ดี อาจจะมีผลต่อระบบคะแนนสอบสะสมปลายภาค เกิดไปสอบโอเนต-เอเนตคราวใด
ขาดคะแนนไปสักตัวสองตัว คณะในฝันที่วาดไว้อาจจะเหลือแค่ประตูลูกกรงของคณะกระมัง



ภาคที่สอง จึงถือเป็นภาคที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของค่ายสถานี NTV เขา
จะว่าไปสร้างมาภาคไหนๆ ขอให้มี คำว่า Gokusen แปะหน้า ก็ทำท่าว่าดีได้เสมอ
แม้ว่าภาคสอง จะทำจำนวนตอนน้อยกว่าภาคที่หนึ่งถึงสองตอน
แต่นั้นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะยังมีเวลาทิ้งช่วงพอให้ทำภาค Special ฉลองความสำเร็จ
แบบที่ครั้งหนึ่งค่ายเพลงบ้านเรา ฉลองยอดขายด้วยการเปลี่ยนปกแถมเพลง
เพื่ออัพยอด เป็นเรตติ้งในปี ๒๐๐๕ ที่หลายบ้านติดอินเตอร์เน็ต รับจานดาวเทียม
แต่ก็ยังปาไปเฉลี่ย ๒๗ กว่าๆ ทั้งๆที่ภาคแรกทำไปได้เพียง ๑๗ กว่าๆ เท่านั้น
เอาเพียงแค่ตอนอวสานตอนเดียว ก็เล่นเอาคุณพ่อบ้าน แม่บ้านพ่วงด้วยลูกบ้าน
ติดหง่อมแหงมไปไหนไม่เป็น ยอดเรตติ้งเลยกระฉูดเหมือนแต่งเมก ขึ้นไปถึง ๓๒ ครึ่ง
เกิดมาก็เพิ่งเคยเจอ ทั้งๆที่ข้ามช่วงสหัสวรรษมาตั้งหลายปี และไม่รู้ว่ากระแสบีบด้วยรึเปล่า
ทำให้รางวัลจากสถาบัน TDAA ครั้งที่ ๔๔ คล้ายจะเป็นการล็อคสเปกรางวัลแบบภาคที่หนึ่ง
ด้วยนักแสดงนำหญิง ก็ยังตกเป็นของ เจ๊ นากามะ ยุกิเอะ ในบทคุณครูคุมิโกะเจ้าเก่าเจ้าเดิม
ส่วนนักแสดงสมทบชาย เป็นรางวัลเดิมแต่หน้าใหม่ ที่เล่นโดย เจ้าหนูคาเมนาชิ คาซูยะ
แต่ได้ครั้งนี้ก็เหมือนชิมลาง เพราะในปีต่อมา ไอ้หมอนี้ไปได้ในนักแสดงนำชายจาก
Nobuta wo Produce ที่ดูอย่างไรก็ไม่น่าได้ แต่ก็ไม่อาจปรามาสไอ้หนูคาเซะได้
เพราะใน Gokusen Movie ไอ้หมอนี้เป็นตัวยืนในฐานะตัวแทนศิษย์เก่าตลอดทั้งเรื่อง
ขณะที่เพื่อนเก่าๆ ทั้งแต่ภาคหนึ่งถึงภาคสาม ได้มากสุดก็แค่สังสรรค์คืนสู่เหย้า
เพราะเราทีมงาน ไม่มีเวลาสำหรับการเข้าฉากให้แก่ท่าน
ส่วนทีมเบื้องหลัง ก็ต้องเรียกว่าอยู่กันครบจนแทบเป็นทีมงานที่รู้ใจ
ทั้งคนดัดแปลงบท โปรดิวเซอร์ และผู้กำกับ (ซึ่งมีใครบ้าง ก็ไปหาอ่านตอนแรกกันเอาเอง)
แต่จะมีลืมกล่าวเพื่อให้เกียรติ์ ที่ตกหล่นจากคราวที่แล้ว ก็เห็นจะเป็น
คนประพันธ์เพลงประกอบ ซึ่งในซีรีย์เรื่อง Gokusen นั้น
ถือว่าเป็นสำคัญยิ่ง จะเล่นให้ขำก็ต้องพึ่งพา จะให้โศกาก็จำต้องเรียกหา
โอชิมะ มิชิรุ ชื่อนี้ จึงไม่เคยขาดสายในการใช้บริการทุกเมื่อ

As long as they grow up to be strong and forthright people
who are able to feel other's pain.They have strong hearts that
know how to protect someone
(ตราบเท่าที่ลูกศิษย์ของฉัน เขาสามารถเติบโตอย่างเข้มแข็งและ
เข้าถึงหัวจิตหัวใจของผู้อื่นอย่างตรงไปตรงมา พวกเขามีจิตใจที่เข้มแข็ง
พอที่จะปกป้องใครสักคนที่เขารัก)




แม้แต่เพลงที่ใช้ในเรื่อง ก็ยังต้องพึ่งในเพลง Kizuna ของเจ้าคาเซะ
ที่หมายถึง สิ่งกีดขวางที่พวกเราจำต้องกระโดดก้าวข้ามไป
นึกถึงเรื่องกระโดดในวัยเรียนทีไร เจอกันตอนเที่ยงที่หลังโรงเรียนทุกที........


ข้อมูลจาก
//jkdramas.com/jdramas/07/Gokusen2
//wiki.d-addicts.com/Gokusen
//en.wikipedia.org





Create Date : 01 มีนาคม 2553
Last Update : 1 มีนาคม 2553 17:53:23 น. 27 comments
Counter : 2885 Pageviews.

 
เป็นละครที่ชอบมากค่ะ (แม้จะดูแค่ภาคแรก และยังไม่ได้ดูภาค2ก็ตาม 555)

เป็นอะไรที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ฉันมาก
ดูจบแล้ว ฉันถึงขั้นอยากเป็นครูเลยล่ะคะ

และครูอย่างยาคุมิ ก็ถือเป็ฯครูในดวงใจเลยค่ะ
อยากมี+เป็นครูอย่างนี้จังค่ะ


โดย: บุยบุย วันที่: 1 มีนาคม 2553 เวลา:13:49:57 น.  

 
ตามมายลหนุ่มๆในGokusen2ตามคำแนะนำ
มีขวัญใจหลายคนแค่Akanishi Jinคนเดียวก็เรียกแขกได้แล้ว
นี่แถมTeppei Koikeอีก 555ถูกใจ
ส่วนKamenashi กับ Mokomichiไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่
แล้วจะหามาดูนะคะ



โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.68.43 วันที่: 1 มีนาคม 2553 เวลา:20:23:10 น.  

 
ไปชอบเจ้าอาคานิชิคนเดียว

คงแย่หน่อยนะท่าน เพราะเจ้านี้ไม่ค่อยลง
มาเล่นซีรีย์สักเท่าไร ส่วนเจ้าเท้ปเป้นี้

ไม่อยากเชื่อว่าท่านมะนาวจะไปปลื้มได้

เพราะบทที่เล่นตอนแรกๆ มันช่างเหฃาเย่เสียนี้กระไร

เป็นหมอใน Iryu ก็ทำตัวขัดใจหมออาซาดะ

เสียหมด Dragon Zugura ก็รองบ่อนซะ

ไม่แน่เห็นงานอื่นๆ อาจหันมาปลื้มกับที่เหลือได้ไม่ยากนะขอรับ


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 1 มีนาคม 2553 เวลา:21:49:52 น.  

 
ชอบหนุ่มจินและเทปเป้เพราะคนหนึ่งหล่อ คนหนึ่งน่ารัก
หนุ่มจินถึงจะไม่เคยดูหนังหรือซีรีส์ของเขาเลย
แต่ความเป็นหนุ่มหล่อของวงKATTUN ก็ทำให้สนใจได้ไม่ยาก
ส่วนเทปเป้ถึงจะเล่นแต่บทเหยาะแหยะ แหยๆ
แต่ด้วยหน้าตาที่น่ารัก ตัวเล็กๆขาวๆหน้าใสๆ
ดูแล้วก็เอาใจช่วยได้ไม่ยาก ส่วนคาเมะนาชิแม้จะดูหนังเขาเยอะ
แต่ก็ยังไม่โดน และหน้าตายังไม่ดึงดูดใจพอ จึงยังไม่ปลื้ม
ส่วนโมโคมิชิตอนดูเรื่องTokyo Towerยังไม่ค่อยปลื้ม
มาปลื้มหน่อยๆตอนเล่นเรื่องAbsolute Boyfriend
หุ่นยนต์ไนท์โตะที่น่าสงสาร
แต่น่าเสียดายที่เรื่องนั้นมีมิตซุชิม่า ฮิโระแสดงด้วย
ก็ยังเป็นปลื้มรุ่นพี่นัมบะอยู่นี่หน่า

ปล.ตอนนี้กำลังดูเรื่องFutatsu no Spicaอยู่ค่ะ
สนุกดีนะคะ ดูจบแล้วจะไปคุยไว้ที่บล็อกSpicaค่ะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.53.220 วันที่: 2 มีนาคม 2553 เวลา:21:10:28 น.  

 
ชำแหลนักเรียนหัวโจกเป็นรายบุคคลเลยนะขอรับ

แม้แต่ผู้เขียนเอง เจ้่าจินก็ไม่มีผลงานอื่นผ่านตา
ผู้เขียนเลยเช่นกันขอรับ อย่างว่าสมาชิกของวง
Kikiren ที่เอาดีแต่การร้องเพลงอย่างเดียว

เทปเป้ ผู้เขียนยังไม่ปลื้มงานแกสักชิ้น ยกเว้นที่เล่นหนังใหญ่

เกี่ยวกับปฏิหาริย์พลังวิเศษรักษาแผล เรื่อง
Kids แต่ก็พอประมาณเพราะบทเข้ากับบุคคลิกเท่านั้น

โมโคมิชิ ผู้เขียนว่าฝีมือการแสดงพัฒนาขึ้นเยอะในแต่ละปี

ติดตามผลงานไอ้หมอนี้ไว้นะครับ

ส่วนเจ้าคาเมะนาชิ แปลกจังที่ท่านไม่ชอบ

เพราะในเรื่องการการันตีฝีมือ หมอนี้โดดเด่นกว่าใครทั้งหมด

มีTDAA สองสมัยแล้วนะขอรับ
ฝีมือขึ้นเทพไปแล้ว แต่ไปรับงานเสียศูนย์
ในone pounds เข้า

ก็เสียประวัตินิดหน่อย ไม่งั้นตามทางทาคุยะ
ได้ไม่ยาก

และเย้ ท่านมะนาวเพคะแลFutatsu no Spicaแล้ว

เพราะยังไม่เห็นใครที่ออกมาเชียร์ซีรีย์ค่าย NHK

เลยสักคน แค่ดูให้สนุก แค่นี้ก็สำเร็จสำหรับกองเชีนร์ไม่มีทุนจ้างแล้ว


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 2 มีนาคม 2553 เวลา:22:33:21 น.  

 
รูปสวย glitter emoticon comment glitter.mthai.com

เพิ่งกลับมาถึงบ้านค่ะ พาเด็กไปแสดงงานกาชาดเสร็จวิ่งรอบต่อรำหน้าศพเลย เหนื่อยแต่ก็สนุกค่ะเด็กๆhappyมากๆเลยค่ะวันนี้แบงค์สีม่วงปลิวว่อนเลย คุณchฟnสบายดีนะช่วงนี้ไม่มีเวลาอยู่หน้าคอมเท่าไรเลย พรุ่งนี้มีสอนสองที่ วันพฤหัสพาลูกศิษย์ฝีมือดีไปแต่งหน้าเจ้าหน้าที่เทศบาลที่ซ้อมรับปริญญาวันเสาร์และอาทิตย์เด็กมีงานแสดงต่ออีก คุณchanสบายดีนะคะ


โดย: เกศสุริยง วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:0:12:32 น.  

 
ขอสารภาพว่าเรื่อง Kids แทบจะไม่ได้ดู
เทปเป้เลยค่ะ เพราะท่านจิ๊ ทามากิ ฮิโรชิ
แสดงเสียไม่เหลือคราบท่านจิ๊เลย
ไม่นึกว่าจะแสดงเป็นBad boy ได้เหมาะขนาดนั้น

คุณChanpanakritช่วยแนะนำซีรีส์ของคาเมะ
ที่มะนาวต้องทึ่งกับฝีมือการแสดงของเขาให้หน่อยซิคะ
ก็ขนาดไล่ตามเทียบชั้นกับป๋ายะได้ก็นับว่าไม่ธรรมดา

มีค่ะซีรีส์ของNHKที่คนดูบ้านเราเชียร์
และเป็นที่กล่าวขวัญถึงด้วยคือเรื่องเจ้าหญิงอัตสึ(Atsuhime)ไงคะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 118.173.88.185 วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:20:56:00 น.  

 
ใช่แล้วท่านมะนาวเพคะ

ผู้เขียนลืมท่านจิ๊ ฮิโรชิไปได้ไง

ความจริงตอนที่ผู้เขียนได้ดู Kids ก็นานพอดูแล้ว

ตอนนี้โนดาเมะ ยังไม่ได้เป็นซีรีย์รับรู้ของผู้เขียน

เพราะถือว่าทิ้งช่วงการดูซีรีย์ครั้งใหญ่

จนกระทั่ง กลับมาคลั่งอีกครั้งเมื่อได้มีโอกาสดู

ซีรีย์ Galileo เอา ตอนนั้นจึงได้รู้จักเจ้าเทปเป้
คิดว่าน่าจะเป็นกระทู้ใดกระทู้หนึ่ง ที่แฟนคลับ

กรี๊ดกร๊าดไม่ใช่น้อย พอท่านมะนาวยกขึ้นกล่าว
ถึงระลึกชาติได้ เออ เล่นกันคนละโลกไปเลย

ตอนนั้นพี่ท่านแก badboyจริงๆละ ผมนี้ยาวเซ่อเชียว

จะให้แนะนำงานของคาเมะเหรอครับ
ถ้าเริ่มต้นมาแล้วไม่ปลื้มจริงๆ คงบิ้วกันลำบาก
หน่อย แต่ผู้เขียนยังเคยหลงนึกไปว่า

เป็นคนเดียวกันกับตัวละคร คุโจ้ โอคุยะ
ปรากฎว่าพอไปเช็คประวัติจริงๆแล้ว

เป็นคนละคนกันเลย เพราะไอ้หมอนี้มันชื่อ
ซาโต้ ทาเครุ ไม่ใช่เจ้าคาซุยะแต่อย่างใด

ส่วนเจ้าอัตสึฮีเมะ ก็ต้องบอกว่าเป็นหน้าซีรีย์
ที่ดูแล้วก็เดาสถานีออกได้เลย

สำหรับผู้เขียน รับได้ไม่กี่ตอน โครงเรื่องมันแข็ง
เกินไป ไม่เหมาะกับกลุ่มผู้ชมวัยจี๊ดจ๊าดอย่างผู้เขียน

แม้สตาร์จะมากมาย อย่างตัวมิยาซากิ ไอโอะจากนานะ

มาเป็นอัตสึฮีเมะ และเจ้าโนชิโมริมาแจมด้วยก็ตาม

ถ้ามาแนวนี้ ผู้เขียนต้องโปกมืออำลา
ล่าสุดมาอีกแล้ว เจ้ามาซาฮารุจาก Galileo

ต้องมารับบทวีรบุรุษนักปฏิรูปเรียวมะ ประวัติเขา

คือคนเดียวที่โผล่ในซีรีย์ Jin นะท่าน
อันนี้ก็รับไม่ค่อยได้เช่นกัน



โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:23:02:56 น.  

 
Fukuyama Masaharuแสดงเป็นท่านเรียวมะเหรอคะ
โอ้!คงเป็น ซาคาโมโต้ เรียวมะที่หน้าตาดีมาก
ตอนที่ดูเรื่องเจ้าหญิงอัตสึ ท่านเรียวมะแสดงโดยท่านจิ๊ ทามากิ ฮิโรชิ
บุคลิกดูเป็นคนต๊องๆ แถมผอมมากดูไม่ได้เลยค่ะ
พอมาดูเรื่องJINบุคลิกท่านเรียวมะก็เป็นอย่างนั้นอีก
แล้วให้มาซาฮารุมาแสดงเป็นท่านเรียวมะ
555อยากเห็นจังว่าจะแสดงต๊องแบบไหน
ยังติดตาที่มาซาฮารุแสดงเป็น ศาสตราจารย์มานาบุ ในGalileoอยู่เลยค่ะ
คุณChanpanakrit ไม่ชอบละครแนวTaigaเหรอคะ
ถ้าอย่างนั้นหนังจีนโบราณแบบมังกรหยกล่ะคะชอบหรือเปล่า


โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.93.255 วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:19:53:10 น.  

 
ช่ายแล้วคับ

ซาคาโมโตะ เรียวมะ คนๆนี้เป็นสัญลักษณ์ที่สอดคล้อง
กับยุคโพสต์โมเดรินท์ ระมาณว่าเกิดก่อนยุคสมัย

ที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลง คล้ายๆกับเทียนวรรณกับ
กศน กหลาบ รับความคิดตะวันตก
ขนาดเดียวกันก็แสวงหาหนทางอัตลักษณ์กลายๆ

แต่ได้ยินว่า จะตีความใหม่สำหรับพ่อพระเอกกาลิเลโอเขา

ความจริงแกเล่นหนังเรื่องอื่นไว้เยอะ แต่แปลกน้อคับทำไม

จำได้แต่บทนี้บทเดียว อ้ายtaiga มันเป็นศัพท์ประมาณไหน

เหรอคับ ถ้าฉบับชอร์บาร์เดอร์

สิบปีที่แล้วอาจใช่ แต่ตอนนี้ไม่แล้วคับ
หรือว่าท่านชอบ เจาะเวลาหาจิ้นซีหรือไม่ก็

แปดเทพอสูรมังกรฟ้าเอย


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:22:50:34 น.  

 
Taiga คือละครแนวย้อนยุคน่ะค่ะ รู้สึกจะเป็นแนวถนัดของNHKเขาค่ะ
ของจีนก็ประมาณอย่างที่คุณChanpanakrit กล่าวถึงนั่นล่ะค่ะ
คือมะนาวนึกว่าโดยปกติ คนส่วนใหญ่จะชอบๆหนังจีนแนวย้อนยุคกัน
จากที่อ่านดูในเฉลิมไทย ตอนที่อิลจิแม ออนแอร์
แล้วไปแย่งเวลาหนังจีนเข้า โดยแฟนจีนถล่มซะน่าสงสาร
ทั้งๆที่เป็นละครที่สนุกมาก แต่มาอยู่ผิดที่ ผิดเวลา จากการจัดผังของช่อง3
เรื่องนี้ได้แจ้งเกิดหรือเปล่าไม่รู้ แต่มะนาวก็เข้าไปเชียร์เงียบๆทุกครั้ง
ส่วนของจีนมะนาวได้ดูเรื่องมังกรหยก 2 ตอน ตำนานศึกเทพอินทรี
ที่มีตัวละครเซียวเล่งนึ้ง กับเอี้ยก้วยน่ะค่ะดูแล้วชอบมาก
โดยเฉพาะหลิวอี้เฟยที่แสดงเป็นเซียวเล่งนึ้งสวยมากๆค่ะ
พอรู้ว่ามีการสร้างมังกรหยกเวอร์ชั่นใหม่ ก็ตามติดข่าวนี้
และไปสอยมาเรียบร้อยแล้วค่ะเป็นละคร40ตอนจบค่ะ
แถมอึ้งย้งเวอร์ชั่นนี้ยังหน้าตาน่ารักมากๆด้วยค่ะ

ปล.มะนาวดูเรื่องFutatsu No Spicaจบแล้วนะคะ
ไปเม้นต์ไว้ที่บล็อกSpicaเรียบร้อยแล้วค่ะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.47.98 วันที่: 5 มีนาคม 2553 เวลา:19:54:32 น.  

 
Taiga คือความหมายเช่นนี้เองเหรอคับ
ไม่เคยคุ้นหูเลยสักครั้งในชีิวิต

แต่เอ๊แฟนหนังใครมากใครน้อยกว่ากันนี้
คงตามกลุ่มตามวัย เสียเป็นหลักใหญ่
ถ้าในครอบครัวมีทีวีเครื่องเดียว
บ้านผู้เขียนคงตีกันตายแน่เลย
พ่อชอบซีรีย์จีน พี่ชอบซีรีย์ฝรั่ง
ส่วนคนอื่นๆชอบลุะครไทย ตายกับตายเท่านั้น


รู้สึกว่าตัวละครเซียวเล่งนึ้ง เล่นมาหลายคนแล้วนะครับ
ถ้าใช้ความรู้สึก แต่สายนี้ไม่ถนัด คงฟังท่านมะนาวฯเพลินๆดีกว่า

สี่สิบตอน พระแม่เจ้า ถ้านึกภาพการรีวิว คงเหนื่อยแย่เลย
ไปอ่านความรู้สึกท่านใน Futatsu No Spica อืมม
น่าเข้าใจอยู่


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 5 มีนาคม 2553 เวลา:22:44:25 น.  

 
โด่งดังมานานนับปี แต่ยังไม่มีโอกาสได้ดูสักทีค่ะเรื่องนี้ T^T


โดย: Lavinia วันที่: 6 มีนาคม 2553 เวลา:17:16:47 น.  

 
ช่วงนี้มะนาวคงไม่สามารถเข้ามาคุยได้สักระยะหนึ่งนะคะ
เพราะต้องอ่านหนังสือสอบค่ะ สอบเสร็จแล้วจะเข้ามาคุยใหม่นะคะ
แต่อยากเชียร์ให้คุณChanpanakrit ดูเรื่องThe Queen's Classroomจังเลย
เพราะคนที่แสดงเป็นอ.อาคุสึ มายะคือAmami Yuki ดารานำจากTop Casterค่ะ
เนื้อเรื่องเด่นมากเลยค่ะ ถ้าคุณChanpanakritได้ดูคงมีเรื่องเขียนได้หลายประเด็นแน่ๆเลยค่ะ
ไม่ได้ทิ้งการบ้านไว้ให้นะคะ เพียงแค่อยากอ่านที่คุณChanpanakritเขียนเท่านั้นเองค่ะ
ขอตัวไปเป็นมะนาวจำศีลก่อนนะคะ บ๊าย บายค่ะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 118.174.52.67 วันที่: 6 มีนาคม 2553 เวลา:20:14:57 น.  

 

มะนาวเพคะหายหน้าหายตาไป
ผู้เขียนคงว้าเหว้อีกเช่นเคย

เพราะภูมิเอนเตอร์เทนท์ของท่าน
ทำให้ผู้เขียน เอ้อเหรอ ไปหลายต่อหลายเรื่อง

แต่อย่างว่า ดูซีรีย์แล้วไม่ปฏิบัติตามหลักธรรม
แก่นสารของเรื่อง อันนี้คงจะรู้สึกแย่กว่าน้อท่าน

อ่านบล็อกเมื่อไรก็ได้ท่าน แต่การสอบนี้
สอบแล้วสอบเลย มาอ่านซ้ำอีกทีคงไม่ได้แล้วน้อ

The Queen's Classroom จะต้องเป็นเรื่องถัดออกไป

ที่ผู้เขียนจะต้องรีวิวแน่นอนคับ เพราะGokusen
ช่วยขับเคลื่อนความบ้าเห่อระยะบ้างอย่าง

แ้ม้แต่ Top Caster ผู้เขียนก็ไม่เคยดูอีกเช่นกัน
จักรวาลซีรีย์กว้างใหญ่ยิ่งนัก

แต่เอ๊! จำศีล อ้าว!ไ่ม่อ่านหนังสือต่อรึเนี่ย
เอาหนังสือวางไว้ใต้หมอน ไม่ทำให้สอบผ่านหรอกนะท่าน

เชื่อสิ! เพราะลองมาแล้ว เจ็บมาเยอะ


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 7 มีนาคม 2553 เวลา:0:47:34 น.  

 
มารายงานตัวแล้วค่ะ แบบunhappy
มะนาวต้องเลื่อนสอบค่ะจากวันที่13นี้
เป็นวันที่27ปลายเดือน คงไม่ต้องบอกนะคะว่าเพราะอะไร
แต่ก่อปัญหาให้มะนาวอย่างใหญ่หลวงเลยค่ะ
เพราะมะนาวต้องpresentวิจัยวันที่26นี้
อุตส่าห์วางแผนไว้ซะดิบดีว่าสอบเสร็จจะตะลุยวิจัย
แล้วทีนี้ก็อีรุงตุงนังน่ะซิ วันนี้ presentพรุ่งนี้สอบ
โอ้!พระเจ้าช่วยลูกช้างด้วยเถอะ ฮือ ฮือตายแน่งานนี้
ขอโทษนะคะเข้ามาบ่นอะไรให้ฟังก็ไม่รู้ ฮือ ฮือ มันอัดอั้นตันใจน่ะค่ะ
จะว่าไป อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ฟูมฟายไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา
ว่าแล้วก็หยิบเรื่องHEROขึ้นมาดูหน้าป๋ายะแก้เครียดดีกว่า
เวลาไม่สบายใจมะนาวชอบหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาดู จะเลือกดูเฉพาะ
ตอนที่อามามิยะทำแว่นตาแตกแล้วมองไม่ชัดเวลาอ่านหนังสือ
แล้วชอบทำปากเจ๋อๆให้คุริวรู้สึกวุ่นวายใจ ดูแล้วน่ารัก ทั้งมัตจังทั้งทาคุยะเลยค่ะ
ได้ดูตอนนี้แล้วจะอารมณ์ดีขึ้นมาอย่างทันใด หายเครียด อิ อิ

แล้วTHE HURT LOCKERก็ได้ออสการ์ไปครองสมใจ
มะนาวเคยเปิดดูเรื่องนี้แต่ไม่สำเร็จ เพราะจะรู้สึกคลื่นไส้วิงเวียนและปวดหัวแทบจะระเบิด
ไม่สบายไปเลยค่ะ คือมะนาวจะดูหนังในลักษณะที่มีภาพเคลื่อนไหวแบบนี้ไม่ได้ค่ะ
อย่างThe Bare Witch Project หรือSaving Private Ryanก็ดูไม่ได้เหมือนกันค่ะ
เนื่องจากมีความไม่สัมพันธ์กันของภาพที่เห็นกับน้ำในหูน่ะค่ะ
แต่ถ้าไปนอนหรือพักเพื่อresetก็หายค่ะ

ปล.คุณChanpanakrit ไปดูกระทู้นี้สิคะ A8958122ที่กระทู้แนะนำน่ะค่ะ
เป็นอะไรที่..............555


โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.33.116 วันที่: 10 มีนาคม 2553 เวลา:20:37:28 น.  

 
มาถึงก็สร้างความไม่พึงพอใจให้กับท่านมะนาวฯ

ไม่ใช่น้อย แต่จะว่าไปการสอบและ
การพรีเซนต์รายงาน ของท่านมะนาวฯเอง
ก็ไม่ต่างจากม๊อบเลยนะขอรับ

กล่าวคือ ตีม้วนเดียวจบ ไม่ต้องยืดเยื้อ
เป็นไงเป็นกัน เรียกว่าระดมทุกสรรพกำลังใน
คราวเดียว

อย่างนี้สิครับ ถึงจะเรียกว่าตายเป็นตาย
เจ๊งเป็นเจ๊ง

แต่ทางออกด้วยการอาศัยป๋ายะกับหนูมัตซึ
อันนี้ดูเป็นทางออกไม่ตรงจุดนะขอรับ
ไม่ลองเอา Grand Family มาดูซ้ำเหรอคับ
จะได้เครียดซ้ำตั้งตายไปคราวเดียวกัน

HURT LOCKER ถือว่าได้ไม่พลิกโผ
เจ๊บิกโกโร่ ความจริงก็มีฝีมือมาเนินนานแล้ว
เพียงแต่ คณะกรรมการออสการ์ระยะหลังๆ
ดูเหมือนว่าสื่อจะจับทางออก ว่ามีความเป็น
อนุรักษ์นิยมที่ไม่ค่อยเปิดรับวิธีคิดในชั้นเชิงล่าๆเท่าไรนัก

ไปแลกระทู้คลิปโฆษณาสั้นที่ท่านมะนาวฯเสนอแล้ว

อืมม ไอเดียเขาบรรเจิดดีนะขอรับ
แต่ฮา แต่อารมณ์ก็ประมาณขายหัวเราะจริงๆ
เป็นภาษาฝรั่งเศสสักด้วย ฟังไม่ออกแต่ก็
เพลินดี


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 11 มีนาคม 2553 เวลา:19:56:16 น.  

 
555เข้ามาหัวเราะจนได้ จริงด้วยทำไมมะนาวถึงนึกไม่ถึงนะว่า
ควรจะดูเรื่องKarei Naru Ichizokuไม่ใช่HEROดูซิต้องรอให้คุณChanpanakritมาบอก
ขอบคุณนะคะ มะนาวพึ่งพาคุณChanpanakrit ได้จริงๆ555
เป็นคำแนะนำที่ดีมากๆเลยค่ะ เพราะตอนที่มะนาวดูเรื่องนี้
มะนาวจิตตกอย่างรุนแรง เรียกว่าร้องเฮ้ยเลยค่ะ ว่าทำอย่างงี้ได้หยั่งไง
คนสู้ขนาดนี้ไม่เคยยอมแพ้ไม่ว่าจะมีอุปสรรคแค่ไหน
แล้วทำไม ทำไมถึงให้ตัดสินใจแบบนั้น ไม่ยอมๆ รับไม่ได้
แล้วจะทำอย่างไรล่ะ หลังจากหันรีหันขวาง ก็เลยไปเอาHEROมาดูอีกรอบ555


โดย: มะนาวเพคะ IP: 118.172.83.237 วันที่: 11 มีนาคม 2553 เวลา:23:35:23 น.  

 
ยังดีนะครับที่ไม่ได้แนะนำ
a sleeping Forret ไปอีกหนึ่งเรื่อง

จะได้สมอารมณ์โศกนาฎกรรมเข้าไปใหญ่

แต่ไม่อยากเชื่อว่า Hero จะสมถวิลทางอารมณ์
ได้ถึงเพียงนี้ ถึงขึ้นเป็นยาบรรเทากล่อมความเศร้าโศก

ได้ชงัด ขณะที่่ผู้เขียนแล้ว ถือเป็นงานที่ผู้เขียน
จะสามปีเข้าไปแล้ว
ยังไม่คิดจะดูแผ่นที่ห้าเสียสักครั้งเลยละ


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 12 มีนาคม 2553 เวลา:18:55:35 น.  

 
ไชโย ไชโย วิจัยก็เลื่อน ไชโย ไชโย

วันนี้อารมณ์ดี ต่อให้สิบSleeping Forestก็ไม่ทำให้เศร้าแล้วค่ะ
เรื่องนี้มะนาวจำไม่ได้แล้วว่าทำไมตอนจบพระเอกถึงตาย
คุณChanpanakritยังพอจำได้ไหมคะ ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยซิคะ
แล้วนางเอกเรื่องนี้ก็สวยนะคะ แต่จะว่าไปแล้วมีเรื่องไหนบ้างที่Mihoไม่สวย
ยิ่งLove 2000แล้วยิ่งสวย แต่คุณChanpanakritอาจบอกว่า
สวยต้องแบบน้องหนูเรียวโกะเท่านั้นอิ อิ ไม่ขัดคอค่ะ

ส่วนเรื่องHEROก็คนเขาชอบทาคุยะอ่ะ แล้วเรื่องนี้ป๋าแกก็เท่ซะ
ก็ดูหน้าป๋าคลายเครียดไง แล้วแถมมีมัตจังอีกก็doubleถูกใจไงคะ
ที่สำคัญหนังมันเป็นตอนๆอยากดูตอนไหนมะนาวก็เปิดดูแต่ตอนนั้นไงคะ
ก็เลยใช้เป็นยาบรรเทาอารมณ์เซ็ง อารมณ์เศร้า อารมณ์เบื่อได้ค่ะ
ก็คุณChanpanakritยังดูไม่ถึงตอนที่9 ซึ่งเป็นตอนที่มะนาวเปิดดูบ่อยที่สุด
เป็นตอนที่มัตจังทำแว่นตาตกแตกแล้วมองตัวหนังสือไม่เห็นต้องทำตาปรือๆปากเจ๋อๆ
เวลาอ่านหนังสือเพราะมองตัวหนังสือไม่เห็น แล้วดูสีหน้าป๋ายะตอนเห็นมัตจังทำท่านั้น
อ๊าย!เข้าใจความรู้สึกป๋าเลยค่ะ แล้วเรื่องนี้นางเอกเธอก็ช่างไม่สนใจหนุ่มเอาเสียเลย
หมกหมุ่นแต่หนังสือ จนไม่สนใจหนุ่มรอบตัว ขำเวลาพระเอกชวน แล้วเธอบอกปัด
แบบเธอไม่สนใจจริงๆ ซึ่งเรื่องนี้มัตจังเธอก็แสดงได้ดี๊ดี ก็เลยเข้าทางมะนาวไงคะ
คือชอบการแสดงของทั้งพระเอกและนางเอก ก็เลยสมถวิลทางอารมณ์
หายข้องใจแล้วยังคะ ส่วนเรื่องLove Generationมะนาวเฉยๆเพราะไม่ใช่
แนวเรื่องที่ชอบ ถึงแม้ทั้งคู่จะแสดงด้วยกันก็ไม่โดนค่ะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.86.44 วันที่: 12 มีนาคม 2553 เวลา:20:27:12 น.  

 
เออ ตอนจบของซีรีย์ a sleeping forrest

เป็นอย่างไร แม้กระผมเองก็ยังมึนๆ
รู้สึกได้เพียงแต่อารมณ์ตอนที่ได้ชม

ที่แลจะหมนๆ ไม่อย่ากเชื่อว่าท่านมะนาว
ก็ดูทันกับเขาเหมือนกัน

เออ ว่าคุยถึงเจ้าทาคุยะ จำได้ว่าเคยเขียน
ประวัติคร่าวๆของเจ้าหมอนี้
ไม่รู้ท่านมะนาวเคยตามไปเจิมอะป่าว

แนะนำให้ชิมลางที่
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=chanpanakrit&date=24-05-2009&group=3&gblog=21
ดูละกัน


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 13 มีนาคม 2553 เวลา:10:50:11 น.  

 
หุ หุ จะสารภาพว่าเรื่องSleeping Forest มะนาวเพิ่งดูเมื่อ2ปีที่ผ่านมานี้เองค่ะ
แต่มันจำไม่ได้อ่ะ จำได้แต่ว่าพระเอกนั่งรถไฟกลับบ้านแล้วเสียชีวิต
แต่จำไม่ได้เลยว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้เสียชีวิต ไม่สบายหรือว่าได้รับบาดเจ็บ
นึกไม่ออกจริงๆค่ะ แล้วเรื่องนี้เนื้อเรื่องก็เน้นที่นางเอกเป็นหลัก
พระเอกเป็นส่วนที่มาเติมเต็มให้นางเอกเท่านั้นเอง
ต่อให้ชอบป๋ายะยังไงก็นึกไม่ออกอยู่ดีค่ะ

คุณChanpanakritไม่อยากเขียนถึงเรื่องนี้บ้างเหรอคะ
มะนาวว่ามันอึมครึมๆเหมือนที่คุณChanpanakritบอกจริงๆด้วยค่ะ
ดูซิขนาดดูไม่นานยังจำอะไรไม่ค่อยได้เลย
ลองเขียนหน่อยซิคะ อยากอ่านค่ะ

ปล.มะนาวตามไปอ่านลิ้งค์ของป๋ายะมาแล้วนะคะ
และไปเจิมว่ารักป๋ายะมาเรียบร้อยแล้วด้วยค่ะ



โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.31.224 วันที่: 13 มีนาคม 2553 เวลา:16:45:03 น.  

 
ซีรีย์บางเรื่อง ก็เป็นเรื่องที่ดี
แต่เวลาให้พยายามนึกถึงมันขึ้นมา

หลายครั้งก็คิดไม่ออกเหมือนกันนะขอรับ
ไม่แน่ใจว่าถูกแทงรึเปล่า
เอาไปว่า ค่อยหาแผ่นมาย้อนรำลึกภายหลัง
ละกันนะครับ ช่วงนี้ใช้กำลังเซลล์สมองไปเยอะ

หรือแก่แล้วก็ไม่ทราบได้
ช่วงนี้โควต้ากำลังเต็ม จะพยายามทยอยๆ
สัปดาห์ละเรื่อง จะทำไปอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆนะขอรับ


อิจฉาแทนป๋ายะ ไปอ่านคอมเมนต์ยอ้นหลังทีไร

ใครเขาก็ปลื้มกันทั้งน่าน


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 14 มีนาคม 2553 เวลา:20:42:45 น.  

 
คุณChanpanakritเขียนตามสบายนะคะ ไม่ต้องเขียนตามที่มะนาวออเดอร์
ขอบคุณมากๆค่ะที่จะเขียนให้อ่าน

คุณChanpanakrit เคยดูเรื่องSummer Timemachine Blues หรือเปล่าคะ
ที่มี Eitaกับ Juriแสดงด้วยกัน เป็นหนังปี2005
เป็นหนังที่ผูกเรื่องได้สนุกมากเลยค่ะ
ตอนที่ดูไม่นึกว่าหนังจะสนุกได้ขนาดนี้
หนังเล่นกับเวลาได้ดีจริงๆ
แล้วเวลาดู หนังก็ให้เราได้ทำความเข้าใจเรื่องกาลเวลาไปพร้อมกับตัวละคร
เพื่อจะได้ไม่สับสน โดยที่ตัวเราเองก็ไม่รู้สึกว่าถูกยัดเยียด
ตัวแสดงแต่ละคนที่เหมือนต๊องๆบ๊องๆแต่ก็น่ารักมาก ส่วนหน้าตาก็แค่ไปวัดได้ตอนค่ำๆเท่านั้น
โดยเฉพาะเจ้าคนที่หวงยาสระผม เห็นหน้าที่ไรต้องอมยิ้มตามทุกที
พอดูจบก็ได้แต่รำพึงปนทึ่งว่า"คิดได้ไง"
เป็นหนังที่น่าสนใจเรื่องหนึ่งเลยค่ะ

วันนี้หาเหตุออกนอกบ้านอย่างไม่กลัวเหตุการณ์
แล้วก็ไปได้หนังสือมา2เล่ม
"กว่าจะเป็นสารคดี"ของคุณธีรภาพ กับ
"ญี่ปุ่นที่คุณต้องรู้จัก"ของคุณวิทูรย์ ภูริปัญญาวานิช
ที่หนังสือเล่มนี้น่าสนใจคือการเล่าถึงความสัมพันธ์
ระหว่างไทยกับญี่ปุ่นเมื่อ600กว่าปีก่อนกับอาณาจักรริวคิว(โอกินาวา)
และความสัมพันธ์ทางการทูตสมัยรัชกาลที่5
โดยมีอัครราชทูตญี่ปุ่นคนแรกคืออินางาชิ มันจิโร
ซึ่งท่านมันจิโรคนนี้ถูกกล่าวถึงตอนมะนาวดูเรื่องเจ้าหญิงอัตสึน่ะค่ะ
ว่าเป็นบุคคลที่เปิดไอเดียให้มีการคิดเรื่องกองทัพเรือแบบใหม่
และยังมีเรื่องราวของท่านยามาดะ นางามาสะด้วยค่ะ
แค่เปิดดูคร่าวๆก็น่าสนใจแล้วค่ะ เลยไม่ลังเลใจที่จะสอยหนังสือเล่มนี้กลับมาบ้าน


โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.64.157 วันที่: 14 มีนาคม 2553 เวลา:23:53:26 น.  

 
ขอยกยอดไปตามในหัวข้อซีรีย์ Otousan นะครับ

ท่านมะนาวเพคะ เดี๋ยวเรตติ้งเรื่องนี้จะกระฉุดไป


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 15 มีนาคม 2553 เวลา:21:19:15 น.  

 
ขอยกยอดไปตามในหัวข้อซีรีย์ Otousan นะครับ

ท่านมะนาวเพคะ เดี๋ยวเรตติ้งเรื่องนี้จะกระฉุดไป


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 15 มีนาคม 2553 เวลา:21:19:42 น.  

 
ความคิดเห็นหลังดูเรื่องนี้จบลงคือ
เป็นซีรีส์ที่ไม่ได้ดูก็ไม่เสียดาย เพราะไม่มีอะไรใหม่เลย
เนื้อเรื่องก็ก็อปปี้ภาคหนึ่งมาแบบเด๊ะๆ เปลี่ยนแต่ตัวคนแสดงอย่างเดียว
แล้วบอกว่าทีมงานเบื้องหลังอยู่กันครบ ทั้งคนดัดแปลงบท โปรดิวเซอร์ และผู้กำกับ
นี่เป็นเหตุผลของการเดินตามแนวเดิมเหรอ ไม่คิดจะหลีกหนีแนวเดิมๆกันบ้างเลยเหรอคะ
แล้วถ้าคิดพล็อตเรื่องไม่ออก ก็ไม่เห็นน่าจะสร้างภาคต่อเลย
แต่อย่างว่าล่ะนะคะ ขนาดตัวข้าเจ้าดูแบบขัดอกขัดใจมาก
แต่เสียงส่วนใหญ่กลับชอบซะนี่ เรทติ้งปาเข้าไปตั้ง๒๗ กว่าๆ สูงน่าดูชมเลย
หรือว่าตัวเรียกเรทติ้งเป็นหนุ่มๆทั้งห้าคน ที่วางบุคลิกเหมือนตัวละครในภาคหนึ่งเปี๊ยบ
อย่างเช่นบุคลิกของ"จิน"ก็ให้เหมือน"จุน" ของ "ฮายามิ" ก็คล้ายบุคลิกของชุน
แถมบทของคาเมะ กับบทของจิน ก็ขี่ๆกันอยู่อีก เหมือนตอนแรกจะให้จินเด่น
แต่ไปๆมาๆก็เหมือนว่าจะให้เป็นคาเมะเด่นด้วย ดูแล้วเลยรู้สึกว่าตกลงผกก.จะเอาไงกันแน่
แต่มากระจ่างแจ้งก็ตรงที่ว่าจะดันคาเมะ ในภาคต่อไปนะเอง
ก็เลยให้เด่นไปสองคนซะเลย แต่จะบอกว่าทั้งสองคนแสดงบทนี้สู้"จุน"ไม่ได้
จุนแสดงได้เหนือกว่ามาก ดูเรื่องนี้แล้วจินหายหล่อไปเลย แสดงไม่เก่งเอาซะเลย
น่าผิดหวังจริงๆ พอหันมาทางคาเมะ ก็โอ๊ย!แสดงได้ไม่ต่างกันเลย
แต่หุหุ คาเมะกลับได้รางวัลนักแสดงสมทบชาย จากTDAA ซะนี่
สงสัยข้าเจ้าจะมีปัญหาในการดูซีรีส์ของญี่ปุ่นซะแล้วมั๊ง
แล้วที่ผิดหวังอีกคนหนึ่งคือเคย์สุเกะ โคอิเดะ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่คือ
กระเทยน้ำใจงามในโนดาเมะ แสดงเรื่องนี้แบบเหมือนไม่ใช่เคย์สุเกะยอดฝีมือ
แสดงได้แบบประดักประเดิดมาก
ต้องโทษผกก.แล้วที่ดึงศักยภาพของเคย์สุเกะ ออกมาไม่ได้

ขอพูดถึงตัวแสดงที่ชอบดีกว่า
ในเรื่องนี้ชอบอยู่สองคนคือเทปเปย์ โคอิเกะ ที่น่ารักมาก มีติดกิ๊บที่ผมด้วย
บทเหมาะกับตัวมาก ขี้แหย ไม่ชอบสู้ ดูแล้วใช่เลย ที่เลือกให้เทปเปย์แสดงบทนี้
ส่วนโมโคมิชิ ฮายามิ ความคิดเห็นส่วนตัวว่าเขาแสดงได้ดีที่สุดในทั้งห้าคนนี้
แม้ว่าตอนแรกเหมือนจะไม่สนใจเขา แต่พอดูไปๆหมอนี่แสดงเก่งเเหะ
ดูว่าเขาแสดงเป็นธรรมชาติ ไม่ค่อยรู้สึกว่าฝืนๆหรือว่าเค้นๆ
ส่วนทีเด่นของเรื่องนี้ก็เหมือนกับภาคหนึ่งคือ
ข้อคิดและคำแนะนำสั่งสอนที่ได้จากครูคุมิโกะ
เป็นคำแนะนำสั่งสอนที่โดนทุกตอน ซึ่งเป็นส่วนที่ดีที่สุดของซีรีส์เรื่องนี้
ถ้าประเทศไหนมีคุณครูแบบครูคุมิโกะเยอะๆ
ประเทศนั้นคงมีบุคลากรที่มีคุณภาพนะคะ
เป็นครูที่เป็นครูทั้งจิตใจและจิตวิญญาน อยากให้บ้านเรามีครูแบบนี้บ้างจัง
ส่วนบทที่ให้ครูคุมิโกะแอบชอบครูคุโจ หรือมีครูผู้หญิงสวยๆมาแอบชอบเท็ตสึ
นี้ก็ช่างไม่แตกต่างจากภาคหนึ่งเล้ย คิดว่าที่เรื่องนี้เรทติ้งดี น่าจะมาจาก
บทครูคุมิโกะ ที่เหมือนตอบสนองความคาดหวังของคนในสังคมได้นะเอง ว่าไหมคะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 182.53.41.132 วันที่: 1 มกราคม 2555 เวลา:8:26:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mr.Chanpanakrit
Location :
สงขลา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]




Friends' blogs
[Add Mr.Chanpanakrit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.