A ........ Z
Group Blog
 
All blogs
 
Mr.Brain อัพสมองประลองเชิง


เคยได้ตั้งคำถามต่ออนาคตของซีรีย์ญี่ปุ่นเรื่องหนึ่งเอาไว้เมือ่ปีก่อน
เป็นปีที่ได้ร่ายประวั้ตินักแสดงท่านหนึ่ง ที่ต้องออกตัวก่อนหน้าเลยว่า
"ต่อมคนรักหญิง" ยังทำงานได้อย่างปกติสุขตราบถึงทุกวันนี้
คนๆนั้น ก็คือ นาย"คิมูระ ทาคุยะ"
นักแสดงชายตัวดึงดูด่ของเหล่าสาวกนักดูซีรีย์ญี่ปุ่น
(ที่แม้ใน Moon Lover ซีรีย์เรือ่งล่าสุด ดูจะดูดได้ไม่ลื่นคอเท่าไรนัก)
เป็นคำถามที่ได้ตั้งต่อซีรีย์ของค่าย TBS ภายใต้การเดี่ยวชูโรงของนายทาคุยะ เอาไว้ว่า
ตลอดที่ผ่านมา ลิขสิทธิ์ที่ส่งตรงมายังสถานีเมืองไทยเพื่อได้อนุเคราะห์สยามชนซีรีย์
ก็มีเพียงแต่เรื่อง Good Luck!! ที่เคยฝากความปรารถนาดีเอาไว้
โดยมีสถานีโทรทัศน์ไอทีวีเป็นแหล่งเผยแพร่ ที่นักดูรุ่นนี้คงไม่แก่เกินแกง
จนลืมกันจนจำไม่ได้ อย่างที่ผ่านๆมา หลายคนคงเอ๊!เอ๋!ว่า อ้าว
แล้วอย่าง Change, Engine ,Hero, Love Generation อะไรทำนองนี้ละ?
ก็อยากจะบอกว่า พวกนั้นมันเป็นงานคู่บุญ
ที่ทาคุยะได้ทำสัญญาไว้กับค่าย ฟูจิทีวีทางโน้นเขา
แม้อย่าง Grand Family ซีรีย์ใหญ่ฟอร์มยักษ์ของค่าย TBS
ที่นำเอางานบทภาพยนตร์สุดคลาสสิกมาละเลงซ้ำ ก็ค่อนข้างที่จะไม่เห็นวี่แวว
ว่าทางทางสถานีช่องไหนของเมืองไทย จะซื้อลิขสิทธิ์เข้ามาถ่ายทอด
ทั้งๆที่จะว่าไป กลิ่นของเรื่อง นี้มันสไตล์หนังมาเฟียฮ่องกงชัดๆเลย




แต่กับซีรีย์แนวนิติวิทยา(ประสาท)ศาสตร์ อย่าง Mr.Brain
อันนี้ต้องขอบอกแบบออกตัว โดยหยิบยกประโยคที่ยังไม่หมดอายุความ
จากปีที่แล้วขึ้นมาว่า "จะได้ฉายเมืองไทยรึไม่? ไม่อาจเดาได้ " เหตุจากความไม่มั่นใจ
ส่วนหนึ่ง ในระยะหลังมีซีรีย์ญี่ปุ่นเทียบชั้นทำกระแส ได้ดีพอกลบหน้ากลบตา
ลุงแก่ๆ อย่างทาคุยะ ที่อายุอานามเฮียไล่เเข่งกับนักษัตรทางปฏิทินแบบปีต่อปี
ขณะที่ความใจดีในการปล่อยลิขสิทธิ์จากผลงานของค่าย TBS
ไปสู่สากลโลกนั้น มีเงือ่นไขกระจุกกระจิก ไม่เหมือนกับทางค่ายฟูจิทีวีเขา
ส่วนอย่างที่สอง คือ ความซ่างซาของงานสร้างเชิงโหนกระแสนิติวิทยาศาสตร์
ที่ก่อนหน้านี้ มีการจัดสร้าง จัดทำและมาย้ำยีเสียจนเกร่อ อารมณ์ประมาณเฟ้อ
อาจเรียกได้ว่า เกิดกระแสฟองสบู่แตกไปพักใหญ่ ที่เอะอะอะไร
ใครเสียใครตาย หรือไม่มั่นใจในฝีมือสางคดีของคุณตำรวจ
ก็จะมาโยนงานให้กับฝ่ายนิติวิทยาศาสตร์ เสมือนว่าเป็นหน่วยงานครอบจักรวาล
สามารถคลี่คลายรูปคดีได้เสียหมด ยิ่งก่อนหน้าที่จะมีงานสร้างอย่าง Mr.Brain
ก็ได้มีงานก่อนหน้า ชิงกันเกิดแบบโหนกระแสวิทยาศาสตร์จับโจรเข้าคุก
ไม่ว่าจะเป็น ซีรีย์ Galieo , Voice, นี้ยังไม่รวมซีรีย์เรือ่ง Boss
ที่ตามมาทำคลอด ไม่ห่างไปนานนักนับแต่รู้ว่า Mr.Brian ยังพอขายได้อยู่





แต่กระนั้น งานสืบสวนสอบสวนจะมีวิธีการของการไตร่สวนหาความจริง
ในหลายแง่และหลายกรณี แต่ก็ปฏิเสธได้ยากว่า
งานนิติวิทยาจากแบบแผนทางวิทยาศาตร์ ที่อิงหลักจากเหตุและผล
มีลูกเล่นและวิธีการที่น่าดึงดูด ติดตรึงและสอดรับกับการดำเนินเรื่อง
ในแนวทางของไซโคทริลเลอร์ได้เป็นอย่างดี กล่าวคือ
ไม่ใช่แค่ทึ่งในแง่ของความซับซ้อนทางคดีเท่านั้น
ยังต้องตกตะลึงกับกรรมวิธีของการคลี่คลาย ด้วยผลพิสูจน์จากทางห้องแล็บ
ที่แม้จะไม่รู้ในส่วนผสมหรือตัวยา ให้กระดิกหูสักนิด
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับพวกดีเอ็นเอแบบม้วนๆหรือลายนิ้วมือแบบขดๆ
ที่หากให้เห็นในตอนแรก แล้วลองให้จับวางคู่หากันอีกที
คงสู้ปล่อยให้คนร้ายมันลอยหน้า ลอยตาและลอยนวล เสียยังดีกว่า





the human brain it weighs a mere 1400 grams.
(สมองมนุษย์มีน้ำหนักเพียง 1400 กรัมเท่านั้น)
In volume, it is 1400 cc and within it are 50 trillion neurons,packed tightly.
หรือเทียบได้กับ 1400 ซีซี และมีเซลล์ประสาทกว่า 50 ล้านๆเซลล์
เชื่อมโยงติดกัน)
Within a single second,2 trillion eletrical pulses
travel back and forth.
(ภายในหนึ่งวินาที สามารถส่งกระแสไฟฟ้าไปกลับได้ถึง 2 ล้านๆครั้ง)
However it is said that most humans use only a mere 5 %
of their brains.thry still much to learn about this organ.
อย่างไรก็ตาม ความสามารถของมนุษย์โดยปกติใช้ความสามารถ
ของสมองเพียง 5 เปอร์เซ็นท์เท่าน้น ยังมีเรื่องอีกมากที่เราจะต้องเรียนรู้
ในอวัยวะส่วนนี้)



Mr.Brain เป็นงานนิติวิทยาฯ ที่ใส่ภาษาคอเมดี้บนพื้นฐานของหลักการ
แต่ไม่ทำให้ความที่เป็นงานสืบสวน ซึ่งต้องอาศัยความน่าเชื่อถือและมีหลักฐานยืนยัน
กลายเป็นงานที่เลื่อนลอยและมุ่งขายในแง่ความตื่นเต้น สนุกหรรษาแต่ประการเดียว
การปรากฏตัวของ “ซึกุโมะ ริวสุเกะ” อดีตหนุ่มบริการตามคลับตามบาร์
ที่ไปประสบพบเจอกับสาวเจ้านิรนาม ที่กำลังยืนร้องห่มร้องไห้
ดวงตาเธอกำลังจ้องไปยังรองเท้าคู่โชว์อยู่หน้าร้าน ขณะที่ร้องเท้าส้นสูงคู่ปัจจุบัน
ที่เธอเคยสวมใส่ได้หักชำรุดอยู่ ไถ่ถามสนทนาจึงได้ความว่า
เหตุที่เธอต้องหลั่งน้ำตาเพียงเพราะเธอกำลังอกหักจากคนรักเก่า
และเปรียบเปรยรองเท้าส้นสูงที่หักเสมือนตัวเธอเอง ส่วนแฟนใหม่ไปใยดีกับสาวคนใหม่
ที่ไม่ต่างไปจากรองเท้าส้นสูงข้างที่กำลังถูกโชว์อยู่ที่หน้าร้าน
ซีรีย์เหมือนจะมาในแนวทางของเลิฟคอเมดี้ เป็นการกลับมาโคจรกันอีกครั้ง
ระหว่าง ทาคุยะกับฮิโระสุเอะ (ครั้งสุดท้ายที่ร่วมเล่นด้วยกัน ก็โน้นเลย
Love Vocation เมื่อสิบกว่าปีก่อน เป็นรักแบบเชิงเคารพของครูสอนเปียโนกับลูกศิษย์เท่านั้น)
ก็สปอยด์แบบผู้เขียนหมดหวัง เมื่อมาราธอนดูจนจบแล้วว่า
บทในตอนต้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอะไรที่เหลือในแบบยาวๆ ของ Mr.Brain อีกเลย
หลังการจากลาแบบพอสานต่อความสัมพันธ์ได้ (แต่ไม่ทำ?)
สึโคมุพระเอกของเราเป็นฝ่ายประสบอุบัติเหตุจากเขตก่อสร้างที่พังถล่มลงมา
แล้วเนื้อความของ Mr.Brain ก็เกิดขึ้น นับจากนี้ จากอุบัติเหตุค่อนข้างวิกฤต
ส่งผลให้สมองของริวสุเกะได้รับผลกระทบกระเทือน
ซึ่งถ้าเป็นไปโดยหลักแล้ว โอกาสของการรอดถือว่าเป็นไปได้ยาก อย่างเก่งก็เป็นเช่น
เจ้าชายนินทา เป็นพระเอกบนเตียงนอน ที่คงไปหาเจ้าหญิงกันในฝัน
แต่เส้นยาแดงของริวสุเกะ กลับนำมาพาให้เขามีระบบสมองที่เป็นอัจฉริยะ
ด้วยการพัฒนาของสมองซีกขวาที่เร็วกว่าคนปกติหลายเท่า
ซึ่งความอัจฉริยะในส่วนนี้นับจากอุบัติเหตุครั้งร้ายแรง จนเวลาล่วงมาอีกห้าปี
เขาก็ได้เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงานความมั่นคงระดับชาติของญี่ปุ่นที่มีชื่อย่อว่า
IPS (institute of police science)
เป็นหน่วยงานที่รวบรวมเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
ทางสายหลักวิทยาศาสตร์ในหลายๆสาขา เข้ามารวมกัน เพื่อพิสูจน์ปริศนาของหลักฐาน
ที่ได้ค้นพบในที่เกิดเหตุ นำมาศึกษาและวิเคราะห์เพื่อเชื่อมโยงสาวไปถึงตัวผู้ต้องสงสัย
ซึ่งในหน่วยงาน IPS จะประกอบไปด้วย หน่วยวิเคราะห์ภาพ หน่วยวิเคราะห์เสียง
หน่วยวิเคราะห์ทางเคมี และหน่วยวิเคราะห์ดีเอ็นเอ เรียกได้ว่า
หากมีการก่ออาชญกรรมหรือเข้าข่ายการก่อการร้ายที่ไหน
ขอเพียงให้ได้รับแจ้งหรือต่อสายตรงขึ้นหน้าจอมอนิเตอร์หลักมาเหอะ
หน่วยงานนี้จะประสานเข้าตัวแปร เพื่อค้นหาต้นตอให้ถึงแก่นกันทีเดียว
การเปิดรับตัวสึโคมุเป็นเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย
เท่ากับเป็นการเปิดฤกษ์แผนกประสาทวิทยา (neuroscience department)
เข้ามาเป็นการถาวร เพื่อทำการประสานหาค่าวิเคราะห์แล้วเขียนเป็นรายงาน
เพื่อรวบรวมกับหน่วยงานที่เหลือในส่วนอื่นของแผนก แต่ทุกอย่างดูจะไม่ง่ายเช่นนั้น
เพราะวิธีการทำงานของสึโคมุคล้ายกับว่า ไม่อาจจะปรับตัวเข้ากับคนหมู่มากได้
อีกทั้งมิตรสัมพันธ์ระหว่างบุคคลแลจะบกพร่อง ผิดกับสมัยที่เคยทำงานในบาร์
ที่เรือ่งวาจาและลีล่า ดูจะเข้าประชิดติดตัวแบบมัดใจบริวารและคนแปลกหน้าได้ไม่ยาก
ซึ่งก็แปลกที่ความลับส่วนนี้ ไม่มีการกล่าวถึงอีกเลย แม้จะจบภาคไปแล้วก็ตาม





My name is Tsukomu,write Kanji by number of 9 ,10 and 9
You can move a word "NO" from "AKUTAKAWA RYONOSUKE"
So Call "Ryotsuke".......
(ผมมีนามว่าสึโคมุ เขียนโดยอักษรคันจิที่มีต้ว 9 10 และ 9
คุณเองสามารถคัดคำว่า "โนะ" ออกจาก "อากุตาคาวา ริวโนสุเกะ"
ซึ่งจะอ่านได้ว่า "ริวซึเกะ" ..............

Why I should know?
(ทำไม อั๊วต้องรู้ด้วยฟะ?)


นอกจากนายสึโคมุ จะได้สร้างปัญหากับคนในองค์กร ยังไม่พอ
ยังได้กระจายปัญหาไปยังคนฝ่ายนอกองค์กรอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะคู่กรณี
อย่างหน่วยงาน Metropolitan Police Department
หรือถ้าเป็นบ้านเรา คงเรียกว่า "ตำรวจนครบาล" โดยเฉพาะตัวหลักๆ
ที่มี ทัมบาระ โทโมมิ (แสดงโดย คางาวะ เทรุยุกิ คุ้นหน้าดีจาก Tokyo Sonata)
เจ้าหน้าที่เลือดเดือดระดับมือพระกาฬของกรมตำรวจ
ที่เชื่อมั่นในสัญชาติญาณเชิงประสบการณ์ของตัวเองมากกว่าผลพิสูจน์ทางห้องเเล็ป
ที่มักจะไปคนละทางกับความเห็นกับเขาอยู่เสมอผิดกับคู่หู
ทาราโนสึเกะ (มิซุชิมะ ฮิโระ จากTokyo Dog,Adsolute Boyfriend)
เจ้าหน้าที่นักสืบหน้าใหม่ที่ดูเป็นตื่นเป็นเต้นเวลาออกนอกภาคสนามจริง
และให้การยกย่องในแนวทางการสืบสวนสุดอัศจรรย์บนโลกสมองของสึโคมุ
ถึงขั้นต้องมีการย่องแอบ เพื่อขอคำปรึกษาในการคลี่คลายคดีจากปากของสึโคมุอยู่เสมอ
แม้จะรู้ว่า หัวหน้าทัมบาระ จะไม่ปลื้มอย่างหนัก เอาเสียเลย





ส่วนอีกคนหนึ่ง ที่ให้การยอมรับสึโคมุเสียแต่เนินๆ
ก็ได้แก่ ผู้ช่วยสาวสุดสวย "ยุริ คาซุเนะ" (เล่นโดย ฮารุกะ อายาเซะ)
อดีตสาวหน่วยงานเภสัชฯ ที่ถูกโอนให้ต้องมาทำหน้าที่ผู้ช่วยในแผนกเปิดใหม่
อย่าง หน่วยงานประสาทวิทยา ซึ่งในตอนแรกเธอออกจะขยะแขยง
เพราะไม่รู้แนวทางการปฏิบัติเบื้องต้นของเรื่องสมองว่าจะแก้ไขสถานการณ์
การสืบหาตัวฆาตกรได้อย่างไร ก็ไม่รู้ว่าหมู่เหล่าหรือจ่าเฉย
แต่พอเห็นหน้าไอ้หนุ่มผมยาวสึโคมุ ก็กลายเป็นรักแรกพบ
แต่ก็ต้องมาสลบกับพฤติกรรมประหลาด ที่มีความเป็นกึ่งเด็กกี่งผู้ใหญ่
กระนั้น ทุกอย่างก็กระฉ่างชัดขึ้น เมื่อได้ประจักษ์ในความสามารถที่ซ้อนไว้อยู่ในตัว
อีกทั้งความมุ่งมั่นแบบไม่ใส่เกียร์ว่าง และออกสตาร์ทเร็วกว่าเเผนกใดๆ
ก็ซื้อใจน้องแกเกือบจะหมดหัวใจ ขณะเดียวกัน
สภาพของการเป็นผู้ช่วยในตอนแรก ก็กลับกลายเป็นผู้ช่วยกึ่งถูกทดลอง
ที่มักจะโดนจับโดนแกล้ง ถือเป็นความสวยที่เกิดมาไม่ถูกทีและผิดแผนก
แต่ก็ไม่เสียชาติเกิด ที่ได้มาร่วมงานที่แสนปวดประสาท ในแผนกประสาทวิทยา
ที่มีเขาและเธอเพียงสองคน ซึ่งสึโคมุก็ได้มอบความกล้าหาญที่มี
ให้กับยูริ ที่เดิมเป็นเพียงสาวคนอ่อนให้กล้าเผชิญหน้าตอ่การท้าทาย
ในความเฉื่อยชาของคนในองค์กร ให้ตระหนักต่อหน้าที่และความรับผิดชอบที่มีอยู่
แต่เมื่อเธอได้แสดงออกเป็นที่ประจักษ์ เธอก็กลับมาเป็นสาวหัวอ่อนคนเดิม
ที่ใครต่างก็รักใคร่เธอมากขึ้น





กระนั้น บทพิสูจน์ทางคดี ที่ถูกคลี่คลายในหลายๆกรณี
ซึ่งในทุกกรณี ตัวฆาตกรหรือผู้กระทำความผิด ล้วนแล้วแต่อ่านเกมและเดาทางเป็น
ทั้งวิธีการและรูปแบบในการสืบสวน เสมือนการย้อนรอยตามแบบเเผนวิธีทางนิติวิทยาศาสตร์
ไม่ว่าจะด้วย มูลเหตุจากแรงจูงใจ การใส่ความให้แก่คู่กรณีผู้มีความขัดแย้งเดิม
การสร้างหลักฐานเท็จเพื่อปั้นเรื่อง หรือการอาศัยของจำกัดทางอายตนะในตัวมนุษย์
ซึ่งจะว่าไป ปัญหาทั้งหมดที่ว่ามา ล้วนแล้วแต่เป็นเพียงอุปสรรคประการหนึ่งเท่านั้น
นี้ยังไม่รวมถึง การได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ในองค์กร
ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงาน IPS หรือ กรมตำรวจสันติบาล ด้วยกันเองก็ตามที
ที่กว่าจะได้การยอมรับนับถือในตัวสึโคมุจากบุคคลหลายฝ่าย
ก็ต้องมีบทพิสูจน์จากการไขปริศนาฆาตกรรม ที่ตัวริวสุเกะเอง
จำต้องดั้งดลไปให้เห็นกับตาในสถานที่เกิดเหตุและการออกเก็บข้อมูลเชิงลึก
ซึ่งจะไปผิดหลักธรรมเนียมปฏิบัติในหน่วยงานของตน
ที่นั่งรอกระดิกนิ้วเท้าอยู่ในห้องเเล็ป จนกว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จะโอนหลักฐานจริงจากที่เกิดเหตุเข้าสู่หน่วยงาน จะว่าไป
ตัวสึโคมุเอง ก็ไม่ได้ปฏิบัติวางตนให้ได้รับความน่าเชื่อถือมาตั้งแต่ต้น
ทั้งๆที่ หน่วยงานประสาทวิทยาในฐานะแผนกหนึ่งของทีมงานนิติวิทยาศาสตร์
ยังถือเป็นเรื่องที่ใหม่มาก และสร้างข้อครหา เสียงซุบซิบนินทา
ถึงผลงานวิจัยที่ประจักษ์ชัดเป็นรูปเล่ม (แม้แต่ผอ.ยังบีบให้รีบเขียนรายงานโดยพลัน
-ผอ.IPS เล่นโดย ไดอิชิ มาโอะ จากเรื่อง ไซอิ้ว)
เพราะมันเป็นเรื่องของก้อนเนื้อในกะลาหัว ที่จะถอดออกเป็นเสียงก็ใช่ที
ผสมน้ำยาเคมีก็ใช่ปะไร จะแหงะร่องสมองสองซีกออกมาก็ใช่ว่าจะมีตัวอักษรออกมา
หรือจะอินเซปชั่น สร้างทีมสำรวจร่วมในความฝัน นั้นก็วอร์เนอร์บาร์เดอร์เสียเหลือเกิน





แต่จะว่า มีหลายเสียงอยู่ เหมือนกันที่ปรามาสงานของ Mr.Brain
ว่าเข้าขอบข่าย การลอกเลียนหรือได้รับอิทธิพลมาจาก CSI สกุลเมืองต่างๆ
ด้วยความที่เห็นโครงเรื่องที่คล้ายคลึง ก็อาจจะเดาสุ่มยกโขลงกันไปเช่นนั้น
ซึ่งถ้าให้มองฐานองค์ประกอบโดยรวม อาจจะใช่ แต่ใน Mr.Brain
เขามีกรรมวิธีที่ต่างออกไป โดยใส่ความซับซ้อนในแง่ของการนำเอาหลักฐานในพื้นที่
ที่อาจก่อคดี หรือเอาหลักฐานจากนิติบุคคลผู้ต้องสงสัย มาจัดฉากวางไว้
เพื่อให้เกิดความไขว้เขว้ในการตามสืบในรูปคดีหรือเป็นการใส่ร้ายป้ายสีไปให้กับผู้บริสุทธิ์คนอื่น
ด้วยผลจากความศรัทธาที่มีให้จากขั้นตอนของคำว่า “วิทยาศาสตร์”
เท่ากับว่า หากเรื่องราวในซีรีย์ตะวันตกฟากโน้น ใน CSI เขาใส่กระบวนนิติวิทยาศาสตร์
ขึ้นมาเป็นพระเอกอย่างโดดๆ นั้นก็หมายความว่า ใน Mr.Brain เขาหันหน้าทะแยงข้าง
ให้กระบวนนิติวิทยาศาสตร์ที่ให้ผลเที่ยงตรง จนผู้คนศรัทธานั้น
ผู้สร้างเขาก็เอาคุณค่านั้น มาจัดฉากและออกแบบวิธีการ โดยอาศัยเจ้าความแม่นยำ
ไม่ว่าจะด้าน ลายนิ้วมือ ดีเอ็นเอ เส้นผม รังแค หรือหนังศีรษะ
มาซ้อนรูป อำพรางคดี ให้กระบวนการเข้าตรวจสอบหลักฐานที่ถูกจัดวาง
ทำสิ่งที่เคยเป็นบุญ ให้กลับกลายเป็นบาป ทำเอาประจักษ์พยานวิภาษวิธีต้องเฉไฉ
ด้วยการปักใจเชื่อตั้งแต่ต้น ด้วยฤทธิ์เดชอันเดชะของความเป็นวิทยาศาสตร์
แม้ว่าผู้ต้องหาส่วนใหญ่ ล้วนจะเป็นคนใกล้ ที่ไม่ใช่อื่นไกล
โดยพยายามล่อหลอกให้หลงคิดอยู่ตลอดเวลา หลอกในตัวบุคคลยังไม่เท่าไร
แต่หลอกในแง่การนำเสนอวิธีการ ด้วยการเอาขั้นตอนในการวิเคราะห์แบบประสาทวิทยาไว้เบื้องหน้า
แต่แท้ที่จริง เป็นการวางหลุมพรางซ้อนทริกเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง
โดยอาศัยพฤติกรรมความเจ้าเล่ห์และฉลาดเป็นกรดเฉพาะตนของตัวสึโคมุเอง
มุขแนวนี้เล่นเอาทำมึนจนยากจะคาดเดาเหตุการณ์ต่อไป ถือว่าเป็นงานซีรีย์ที่มีชั้นเชิงดีแท้
และจำต้องคิดวาง จนถึงต้องโยนทิ้งสูตรหักมุมแบบเก่าๆที่เคยรับชม เพราะกลายเป็นสิ่งที่ล่าสมัยให้ตกเก้าอี้หงายหลัง
เพราะคุณก็สามารถตกเก้าอี้หน้าหงาย ในฉบับของ Mr.Brain





ผู้เขียนเอง ก็ชมอย่างเพลิดเพลินไปทีละตอน
แบบที่ไม่ต้องมีภูมิความรู้ทางประสาทวิทยาติกค้างในสมองส่วนท้าย
ก็สามารถไหลไปตามเรื่องตามราว อย่างสนุกสนานครื้นเคร่ง
โดยไม่รู้สึกถึงความยัดเยียดทางวิชาการด้านสมองจากซีรีย์เรือ่งนี้
แม้จะมีศัพท์แสลงหู อย่าง ซีลีเบลลัม นีโอคอนเทกซ์ ไฮเปอร์ทาลามัส
โผล่มาเป็นระยะๆ แต่ก็เป็นการเสริมเพื่อให้วิธีการอธิบายดูน่าเชื่อถือ
พูดแล้วก็จบกัน ไม่เอามาพูดซ้ำซาก เพราะเขามีจุดขายในส่วนอื่นอีกเป็นกระปุง
แต่ความเด่นของเรือ่งนี้อีกอย่าง คือ
มักจะหาจังหวะดีๆ เติมเต็มในผลสำรวจจากประสิทธิภาพของมันสมอง
ที่เราคุ้นชินบาง ไม่คุ้นชินบาง ไม่ไปทำลายอรรถรสซีรีย์แนวสืบสวน
ยกตัวอย่าง การตัดเอาหน้าชายกับหญิงที่ใบหน้าละม้ายคล้ายกัน
แล้วมาแยกแยะว่า ใครคือหญิง ใครคือชาย หรือเกมส์เดาใจก่อนโอ้น้อยออก
ส่วนไอ้ประเภทไม่ใช่งานสำรวจ แต่เป็นงานพื้นฐานในวิชาวิทยาศาสตร์เบื้องต้นที่ควรรู้
เช่น อาหารมื้อเช้าเป็นมือ้ที่สำคัญที่สุด เพราะร่างกายต้องการน้ำตาลที่สูญเสียไปขณะหลับ
และอาหารบำรุงสมอง อย่างกล้วย ที่ให้ผลดี-ราคาไม่แพงเวอร์ แบบซุปไก่หรือโปรตีนเม็ด





ผู้เขียนไม่รู้หรอกว่า ทีมงานหมดไปกี่สิบเยนในการจ้าง
มืออาชีพทางการเขียนบทแนวอย่าง ทั้งตัว มากิตะ มิซุฮารุ กับ โมริชิตะ โยชิโกะ
โดยเฉพาะมิซุฮาระ เขามีหัวไบร์ทในงาน screenwriter ในแนวสืบสวนเชิงลึกลับ
มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ทิ้งงานมึนๆให้คนพอจำได้ อย่าง Zenibana,
Psychometrer Eiji,Bloody Monday และ Puzzle เป็นต้น
ส่วนโยชิโกะก็ไม่ได้น้อยหน้า เพราะมีรางวัลการันตีมือเขียนบทจาก TDAA
จากเรื่อง Jin และยังไม่นับ Byakuyako ที่หลายคนคลางแคลงใจว่าทำไม๊ทำไม
ถึงไม่ได้รับรางวัล แกสองคนก็ช่างไปเก็บเล็กผสมน้อย
จากเคล็ดแต่ไมยังลับ และลับแต่ไม่ยังเข็ดที่จะตามนำมาเสนอ
ขณะเดียวกัน น่าจะมีการออกภาคสนามสัมภาษณ์ทีมนิติวิทยาศาสตร์ตัวเป็นๆ
ที่นอกจาก ไปศึกษาหาความรู้ในแนวทางผ่าพิสูจน์แล้ว ยังต้องไปขอคำแนะนำ
ในทางการกลบกลืนรูปคดีให้ดูเนียน แต่กระนั้นความเนียนอย่างเดียว
ถ้าไม่ได้ผู้กำกับมือฉมัง ที่ควบคุมจังหวะให้ไปได้สอดรับได้ดีกับเนื้อเรื่องเชิงสืบจากศพแล้ว
แค่เห็นโปรดักชั่นตลอดทั้งเรื่อง กับ การประสานซีจีแบบไม่หวงงบ (แต่หวงตอนแทน)
ก็น่าจะเดาได้ว่า น่าจะไม่ใช่ผู้กำกับขี้ไก่ข้างทางที่ไหน
ซึ่งก็เป็นตามนั้น เพราะเป็นการอัญเชิญสามเทพผู้กำกับประจำค่าย TBS
ไม่ว่าจะเป็น ฟุกุซาวา คาซึโอะ (Karei naru ichizoku,Good luck)
ฮิรากาวา ยุอิชิโระ (Rookies,Jin) และยามามุโระ ไดซุเกะ (Love Shuffle,Jin)
ทั้งหมดล้วนแล้วแต่สร้างตำนาน ประดับแท่นบูชาแก่วงการซีรีย์ญี่ปุ่นแทบทั้งสิ้น
นี้จะไม่บวก ดารารับเชิญทั้งหลายชายหญิง ที่เล่นแบบจบค่าตัวเมื่อจบตอน
ก็ยังไปรับเป็นพระเอกนางเอก ในซีรีย์เรื่องอื่นๆได้
ก็อย่างว่านะตามประสา มีทาคุยะเป็นตัวนำของเรื่อง คนที่เหลืออื่นๆ
ก็เป็นได้แค่ดาวฤกษ์ที่หมุนไปตามเส้นวงโคจรไป ยกตัวอย่างฝ่ายหญิง ก็มี
เจ๊ฮีโระสุเอะ จาก Departures ไอบุ ซากิ จาก Absolute Boyfriend
ยุกิเอะ จาก Gokusen และ เจ๊โคยุกิ จาก Engine เป็นต้น





ส่วนฝ่ายชายก็ใช่ยอ่ยสักที่ไหน ไม่ว่าจะเป็น
ซาโต้ ทาเครุ จาก bloody Monday คาซุยะ จาก Nobuta wa Produce
หรือ Gackt จาก Moon Child เป็นต้นและยังเป็นเรือง
เรียกว่า ยกมาอัพเรตติ้งกินกันแหลก เกทับกันไปข้างหนึ่ง
แถมแต่ละคน ใช่ว่าต้องมารับสภาพดีๆกัน ล้วนแล้วแต่ต้องมารับบทโชว์พาวด์
ซึ่งถ้าไม่ใช่พวกฆาตกรคุณแอบที่แสนจะเลือดเย็นแล้ว คุณก็มีทางเลือกที่เหลือได้แค่
การที่ต้องมาเป็นคนวิกลจริตที่บกพร่องทางเซลล์สมอง
ที่แต่ละอาการ ก็เข้าข่ายด้วยการบำบัดแบบมัดปากผูกโยงไว้กับเตียง
ถ้าฤทธิ์มากน้อย ก็อาจต้องมีการช๊อตไฟฟ้าหรือไม่ก็ฉีดยาสลบ
ก็ดูอย่างก็ตั้งชื่อตอน อาทิพวก Serial Murders อย่างงี้
Serial Demonic Terrorist หรือประเภท Split Personality ก็เอามายัด
แล้วขยายผลไปอีกถึงสองตอน
ประเภทได้เห็นตัวอย่างตอนต่อไป ให้ได้ซี๊ดซาดซูดปากกันไปอีกอาทิตย์เต็ม
ซึ่งแน่นอนว่า ประคับประคองเรตติ้งที่มีเฉลี่ยเพียงแค่ แปดตอนให้ไปต่อเนื่องได้
แต่ถ้าให้นับถึงความเป็นงานที่ทรงคุณค่าแล้ว กลับรู้สึกสามัญธรรมดา
ด้วยการใส่ส่วนผสมมากมายหลายแขนง และไม่ได้ลงไปในรายละเอียดด้านลึก
ของตัวละคร หรือกระชากอารมณ์ในต่อมน้ำตากันอย่างสุดๆ
ถือเป็นงานโชว์ของและออกบูธเพื่อขายดารา ให้แลดูสมส่วนกับเกียรติยศ
นักแสดงขั้นเทพ อย่างป๋ายะเขาเป็นสำคัญ ผลก็เลยไม่ค่อยมีรางวี่รางวัล
มากไปกว่าการได้ใจชาวมหาชนคนดู





แม้จะไม่ใช่ผลงานที่เลิศหรูในแง่ความนิยมสุดโต้ง แต่ทว่า Mr.Brain
มันมีเสน่ห์เฉพาะตัว ที่ไม่เหมือนกับซีรีย์เรื่องอื่นๆที่เคยได้รับชมกันมา
อย่างแรกที่รู้สึก เป็นงานแสดงที่ดูผ่อนคลาย ไม่สอดรับกับโปรดักชั่นสุดอลังการ
ความรู้สึกต่อมา เป็นเรื่องอคติบางตัวละคร เพราะโดยปกติ
แค่ตอนเปิดเรือ่งจะต้องมีตัว่ละครตัวใดตัวหนึ่งที่ไม่ชอบน้ำหน้าอย่างแรง
แต่กับในซีรีย์เรือ่งนี้ ต้วละครแต่ละตัวได้สร้างอัตลักษณ์พิเศษเฉพาะ
เป็นมนุษย์ผู้มีความไม่สมบูรณ์แบบอยู่กับตัว จึงมีทั้งข้อเสีย ข้อด้อยและข้อผิดพลาด
ที่ต่างก็ยอมรับในข้อจำกัดของตนเอง ซึ่งก็อาจจะมีอิดออดบางในช่วงแรก
แบบว่าไม่จริ๊งไม่จริง แต่จากนั้นที่เหลือก็เปิดใจยอมรับ
และมองในวัตถุประสงค์ปลายทางหลักร่วมกัน คือ
การคลี่คลายคดีเพื่อหาคนผิดมาลงโทษ ก่อเกิดและทักถอเป็นมิตรภาพถาวรขึ้น
มากกว่าจะเป็นเพียงแค่หน่วยงานร่วมประสานภารกิจ หรือตกในสภาพแค่เพื่อนร่วมงานเท่านั้น
แล้วถ้าให้มองอีกด้าน แม้ซีรีย์จะพยายามอธิบายด้วยแนวกายวิภาคด้านสมอง
โดยเฉพาะการถ่ายโอนคำสั่งจากสมอง ไปยังอวัยวะส่วนต่างๆของร่างกาย
แต่พอถึงฉากดราม่าทำซึ้ง ระบบเจ้าสมองที่ว่านั้น แท้จริงก็ไม่ต่างจากการใช้
ซึ่งหัวใจ เพียงทว่าซีรีย์พยายามอธิบายตัวสอดรับอันเดียวกัน
แต่เลือกให้สมองเป็นอัตวิสัยของผู้กระทำ แต่มองมุมกลับ
ก็เป็นภาววิสัยของจิตใจที่ได้รับผลกระทำจากการกระทำในคราวเดียวกัน
กลายเป็นว่า ซีรีย์ทำให้ผู้เขียนหลายใจแบบเกลียดใครไม่เป็น
ไม่ว่าจะเป็นบุคคลากรในหน่วย IPS หรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล
แม้แต่ตัวฆาตกรเอง ก็ยังได้ใจสนบสนุนการไล่ล่าฆ่าฟันโดยรู้อยู่แก่ตัว
แต่ทำไงได้ ก็อยากเห็นการคลี่คลายอย่างเทพและไอ้เจ้าเทคโนโลยีล้ำสมัยไฮเทค
ที่แอบกลัวนิดๆว่า ถ้าดีเอสไอบ้านเรามาเห็น อาจมีการติ๊กกาจัดซื้อจากเมืองนอก
ซึ่งก็เป็นเงินภาษีของประชาชนคนรากหญ้าของเราๆท่านๆด้วยกันทั้งน่านเลย





ไหนๆก็พูดถึงอปกติในประสาทวิทยา (Eccentric Neuroscientist)
ที่แม้ว่า มาครั้งนี้จะไม่มีการชำแหละสมองเป็นก้อนๆตามสูตรนิยมกับเรือ่งใดๆ
ที่เข้าข่ายอวัยวะภายใน ที่นักทำซีรีย์ญี่ปุ่นเขาถนัดนักก็ตาม
ซีรีย์เรื่องนี้ จึงมาดีและมาแปลก ด้วยหันมาใช้เครื่องทีจีสแกน
ที่คล้ายกับอุโมงค์ยาวๆ มีลานเลื่อนให้ผู้ป่วยนอนแล้วไล่ไปเข้าไปตามช่อง
ประกอบกับการสร้างภาพกราฟฟิก ให้เข้าใจโดยสังเขปที่แลได้อย่างเพลินตา
และยังฉลาดที่จะเอาแต่ละกรณี มาทำเป็นเล่นให้ดูขำขำ
ไม่ได้เป็นงานที่ดูซีเรียส แบบที่ต้องถกเถียงเรือ่งเส้นเขาสันปันน้ำว่าอยู่ขีดไหน
หรือกล้วยตานี อยู่ในอธิปไตยในดินแดนใคร
ทั้งๆที่ศาสตร์ประเภทนี้ไม่น่าพิสมัยในหลักการเท่าไรนัก
ซึ่งจะว่าไปแล้ว จะให้มองว่าเป็นส่วนหนึ่งของจิตวิทยาเป็นครอบคลุมก็ไม่ถูกนัก
ควรจะเรียกในมุมกลับว่า เป็นศาสตร์ที่มีระบบวิธีวิจัยที่แยกย่อย ทั้งจาก
กายวิภาค (anatomy) ระบบประสาท (neurology) สรีรวิทยา (physiology)
และ จิตวิทยา (psychology) ที่นำมาบูรณาการโดยการจัดเขย่าให้คลุกเคล้าเข้ากัน
เป็นศาสตร์ที่ทำให้เรือ่งบนหัว ไม่ได้มีไว้แค่ใส่หมวกหรือหวีผมให้เป๋ข้าง
เห็นว่า ตอนนี้ทางไทยพีบีเอส นำเข้ามาฉายในเมืองไทย
แต่อาจต้องทำใจเสียงพากย์นิดหน่อย ซึ่งก็น่าขอบคุณที่นำงานดีๆ
มาขยายในกว้าง เพราะสมองไม่ใช่ของน่ารับประทาน
แต่อาหารที่บำรุงสมองของผลวิจัยดีๆจากเรื่องนี้ ก็อาจทำให้กล้วยไทยของดี
ไปตีตลาดไปไกลถึงเมืองนอกได้อยู่หลายหวีเชียว
แต่กระนั้น ก็ยังไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงเลือกเพลง Jump ของวง Van Halen วงอาร์ดร็อค
ปี 70 มาโซโลเปิดตัว เพราะอย่างงี้ละมั้งป๋ายะจึงเที่ยวกระโดดเหย๋งๆ ทั้งเรือ่ง
ให้เข้าคอนเซ็ปต์ของเพลงตามไปด้วย


You aren't to be a murder because there're nothing about you in place.
but no liar of your brain.
(คุณอาจไม่ถูกเรียกว่าฆาตกร เพราะไม่มีหลักฐานชี้มูลความผิดเกี่ยวกับตัวคุณได้
แต่สมองคุณไม่มีวันโกหก) ........



อวยข้อมูล โดย d-addict.com เจ้าประจำ


ครั้งหนึ่งเคยนั่งลุ้นให้นำลิขสิทธิ์ Mr.brain มาฉายในเมืองไทย ที่

ก่อนจะchange เป็น..คิมูระ ทาคุยะ



Create Date : 08 สิงหาคม 2553
Last Update : 12 สิงหาคม 2553 14:54:40 น. 27 comments
Counter : 3460 Pageviews.

 
ซี่รีย์นี้ ดูฉบับซับ พอมาฟังเสียงพากย์ ...
ก็ปิดเครื่องแล้วหยิบแผ่นมาดูใหม่

แนวเรื่องที่โปรด คนเล่นที่ชอบ
ดูยังไง เราก็สนุก


โดย: นัทธ์ วันที่: 8 สิงหาคม 2553 เวลา:22:27:04 น.  

 
ไล่ตามอ่านซะเหนื่อยเลยค่ะ
ละเอียดมาก จขบ.คงหมดพลังงานไปเยอะเลยนะคะ
ไปทานกล้วยบำรุงสมองหน่อยดีไหมคะ อิ อิ
เรื่องนี้ตอนฉากเปิดตัวป๋ายะครั้งแรกไม่ปลื้มเลยค่ะ หัวทองมาเชียว
แล้วก็รู้สึกงงๆเช่นเดียวกันที่มีฉากเจอกันของป๋ากับฮิโรสุเอะ
แล้วก็เหมือนตัดตอนไปเลย
แบบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องในตอนต่อไป
เลยสงสัยว่าแล้วใส่ฉากนี้มาทำไม
จะบอกว่าพระเอกเป็นคนมีเสน่ห์เหรอ
ดูแล้วไม่น่าจะใช่ เพราะฮิโรสุเอะก็ไม่เห็นจะสนใจ
หรือจะปูพื้นว่าพระเอกเป็นคนมีจิตใจชอบช่วยเหลือคนอื่น
เมื่อตัวตนเปลี่ยน ความสามารถเปลี่ยน
จึงอยากใช้ความสามารถที่มีช่วยเหลือสังคมอย่างนั้นหรือ??
ส่วนเนื้อเรื่องที่แบ่งเป็นตอนๆตามรูปคดี ก็น่าสนใจทุกตอน
แถมแขกรับเชิญแต่ละตอนก็ไม่ธรรมดา
รับประกันเรียกRatingได้แน่นอน
แต่ตอนที่ดูแล้วชอบมากที่สุดคือตอนที่2 คดีนักโทษประหาร
ที่บอกว่าเขาจะไม่มีวันตายและจะกลับมาแก้แค้น
Gacktแสดงได้โรคจิตมาก ทั้งสีหน้าทั้งบุคลิกติดตาเลยค่ะ
ที่ชอบอีกอย่างของซีรีส์เรื่องนี้คือการใช้การ์ตูนอธิบายเรื่องยากๆ
ซึ่งทำให้เข้าใจได้ไม่ยากและมีอารมณ์ขันน่ารักดี
แล้วที่สงสัยตลอดคือทำไมพระเอกถึงต้องใส่ชุดนอนตลอดเวลา
แม้แต่ใส่ชุดมาทำงานก็ทิ้งชุดนอนไม่ได้
อยากรู้จังค่ะว่าทำไม ซึคุโมะ ถึงผูกพันกับชุดนอนขนาดนั้น
จขบ.รู้ปล่าวคะ

ปล.แวะหลังไมค์หน่อยนะคะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 118.172.80.96 วันที่: 8 สิงหาคม 2553 เวลา:23:06:01 น.  

 
แซวเรื่องอาหารการกินก่อนเริ่มแรกมิใช่อะไรหรอกคับ
อยากลองเสี่ยงทาย ด้วยอาหารทิพย์ของท่านมะนาวฯ สตรีดีเด่น
เมื่อแต่ปางก่อน แต่ดูแล้วคงจนปัญญา เพราะท่านมะนาวฯเล่าว่า
ขายดีจำหน่ายคล่องเสียจนเกลี้ยงจาน ก็ไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมงานของท่าน
อดอยากปากแห้งจากที่ไหน หรือของโฆษณาชวนเชื่อเขาดีจริง
แต่สัตว์ทะเลทั้งหลาย คงไม่เสียชาติเกิด เมื่อได้มาอยู่ในกะทะภายใต้น้ำมือ
ท่านมะนาวฯทรงเครื่อง อาหารแปลกๆแบบไม่ต้องปรุง ต้องเรียกว่า "เสก" แล้วละครับ
ไม่ทำให้ประหลาดลิ้นได้ ต้องมาจากสำนักอิชโชคังแน่เลย
แต่สำนักนี้ เจ้าสำนักต้องเป็นแม่นางที่ขี้เมา แต่ท่านมะนาวฯคนคอออ่น
เห็นทีต้องยุให้ตั้งสำนักใหม่ดีกว่ามั้ง
แต่น้องว่าพอกล้อมแกล้มแล้ว พี่สาวนี้เทพยิ่งกว่า ทำขนมอบแป้งเก่งด้วย
บ้านนี้แสนจะกุลสตรีดีเด่นกันทั้งบ้านแน่เลย คนพี่แกคงเก่งตาามที่ท่านมะนาวฯ
ว่าแน่นอนเชียว เพราะดูไม่โม้ออกนอกหน้าเหมือนกันคนน้องเลย
แต่ก็อยากทานมันทั้งของพี่และของคุณน้องเลย แต่ขอดูอาการเพื่อนร่วมงานของ
ท่านมะนาวฯก่อนดีกว่า เผื่อข่าวหน้าหนึ่งไทยรัฐ จะพาดหัวว่า
"อาหารพิษกระจายกลางกรุง เย้ยพรกฉุนเฉิน รั่วทั้งบริษัทหาตัวการไม่เจอ"


ว่าแต่คุณพี่มะนาวฯทำคุกกี้ผสมข้าวโอ๊ตเป็นไม่ขอรับ
ผู้เขียนชอบทานมากเลย ทุกวันอาทิตย์ก่อนจะอัพบล็อก จะต้องวิ่งแจ้นไปซื้อที่เซเว่น
พร้อมกับกาแฟหนึ่งแก้ว เอามาเป็นพลังงานไว้ปั่นสมองทุกเช้าเลย
ส่วนไข่เจียวทรงทะเล ที่อร่อยแบบไม่ต้องปรุง ก็ชอบอยู่นะ
แต่ทว่ามันเป็นอาหารที่แปลกประหลาดผิดมนุษย์มนาอย่างที่ท่านว่าจริงๆนั้นแหละ
เอาไว้ทำใจและศึกษาผลกระทบข้างเคียงเอาไว้ก่อน ชีวิตผู้เขียนยังรู้สึกใช้ได้ไม่คุ้ม
อยากแลเห็นโลกนี้ไปอีกนานๆ เพื่อดูว่าเขาพระวิหารจะมีโอกาสตกเป็นของเมืองไทยอะป่าว
แต่แหม ไม่ค่อยเข้าใจอร่อยบนการที่ไม่มีอาหารใกล้เคียงพอเปรียบเทียบ
แต่ทำไม สุดท้ายมันก็ยังโดนเปรียบเทียบกับครั้งก่อนๆ และที่สำคัญ
ครั้งก่อนอร่อยกว่า ทั้งที่จริง มันควรจะพัฒนาดีกว่าครั้งก่อนยิ่งๆขึ้นไปไม่ใช่เหรอขอรับ
แสดงว่าอะไรที่เป็นแรกๆ ท่านมะนาวฯจะทำได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ
สุดที่เหลือต่อจากนั้น ก็เชื่อได้เลยว่า ...........มันน่าเชื่อ
พอๆกับคำว่า "ยะ" ที่ไม่คิดว่าท่านมะนาวฯจะสะกดคำๆนี้
คุยมาเป็นร้อยคอมเมนต์ เพิ่งเจอะเจอคำนี้จากรอยพิมพ์ท่านนี้แหละ

แล้วยิ่งถักนิตติ้ง เอานี้ต้องยกนิ้วว่าโคตรเซียน
นึกว่าเด็กวิทย์จะทำเป็นแค่ เอานิ้วหนึ่งจับหลอด อีกนิ้วกรอกน้ำยาเคมี
ผู้เขียนเคยพยายามที่จะหัดทำ แต่ความแมนก็เป็นอุปสรรคให้การอวดโฉมผลงาน
เมือ่ยนิ้ว และเหนื่อยหน่ายมาก กว่าจะสอดเข้ารูนั้น เปลี่ยนพรมสีนี้
และเก่งยิ่งกว่า ทำแล้วไล่กาแถวบ้านได้อีกต่างหาก
ท่านท่านมะนาวฯช่างมีคุณูปาการต่อเกษตรไทยอย่างยิ่ง
เป็นการไล่กาด้่วยภูมิปัญญาชาวบ้าน ควรให้รางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่น
สาขาหัตถกรรมยอดเยี่ยมจริงๆ แต่ถ้าใครไม่ปลื้มผลงานท่านมะนาวฯ
จะมอบให้ผู้เขียนก็เป็นเกียรติยศอย่างยิ่ง
เพราะการถักผ้าที่บูดๆ เบี้ยวๆรู้รึเปล่าว่า มันง่ายเวลาทำความสะอาด
ตรงแป้นพิมพ์คียบอร์ดอย่างมากเลย ประมาณว่าเซาะร่องลึกถึงปุ่มเหงือก
แต่ไม่เชือ่หรอกว่าท่านมะนาวฯจะทำได้ไม่ดี กุลสตรีเเห่งปี
มันต้องมีผลงานให้ประจักษ์แก่ครูประจำชั้นอยู่แล้ว
เอ๊ หรือวันๆดักรออาจารย์หน้าห้องพักครู เพื่อช่วยถือสมุดการบ้านเอาหน้ารึเปล่าอะน้อ


เออ ที่ชอบป๋ายะไว้ผมยาว อันนี้ไม่ใช่จริตท่านมะนาวฯนะขอรับ
แต่เป็นของผู้เขียนต่างหาก ส่วนหนึ่งที่ป๋ากับผู้เขียนคล้ายกัน
คือ ชอบไว้ผมยาว แม้หลายคนจะปากโฮ่งว่าไม่แม็ชต์กับใบหน้าก็เหอะ
ส่วนห้องในพันธทิพย์ทั้งหลาย ผู้เขียนให้รมต.เป็นฝ่ายบริหาร
และแจ้งความคืบหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันๆก็กระดิกเท้ารอบัญชาการรายงาน
อยู่นี้แหละ ส่วนหนึ่งที่เบื่อห้องพันธทิพย์เพราะความไม่ลงรอยนี้แหละ
ไม่เคารพความคิดต่างของอีกฝ่าย อย่างหนึ่งคือ ตกแต่งห้องได้ไม่หลากหลาย
แม้ประเด็นจะใช่ได้เลย อย่างล่าสุด เรื่องสุนัขในวัดที่เป็นข่าวใน
เรือ่งเล่าเสาร์อาทิตย์ มันเหมือนไมได้ผ่านการคัดกรอง แหล่งที่มาเชิงบุคคล
ก็ไม่น่าเชื่อถือ อย่างบล็อกนี้ เราพอดูจขบ.ได้ ว่ามีความเป็นกลางแค่ไหน
ให้เครดิตตรงไหนได้บ้าง แต่กับกระทู้นี้ ไม่รู้นะขอเดา
น่าจะมองที่หัวประเด็นมากกว่า ไม่ทราบว่าจริงอย่างที่รมต.ท่านมะนาวฯสำรวจบ้่างอะป่าว
เอ๊ แต่ท่านรมต.ไปทำกับรายการชิงร้อยชิงล้านแล้วละเนี่ย
ก้าวก่ายการบริหารอำนาจหน้าที่นิ จะปลดออกก็ไม่ได้
ภายใต้รัฐบาล ที่มีเราเพียงสองคนหัวโด่อยู่ แม้แต่ฝ่ายค้านก็ไม่อยากสังฆกรรมด้วย

ท่านมะนาวฯเคยไว้ผมยาวเหรอครับ ตื่นเต้นๆ
เหมือนกับผีจูออนตอนคลานออกจากบ่อน้ำรึเปล่า ผู้เขียนหลอนจนไม่กล้ามีทีวี
กลัวมาจะทะลุออกมาจากจอ คงจริงอะน้อ ก็หมดกับยาสระผมเกือบทุกวันนิ
แล้วไปตัดผมสั้นทำไมเหรอครับ ไปบวชชีพราหมณ์หรือว่าอกหักรักมังคุด
แต่ก็ถือว่า หาทางออกได้ถูกทาง ส่วนงานวัด คงหมดวัยไปแล้วมั้งครับ
ประสบการณ์ตอนเด็กๆ ทำให้งานวัดในตำบล ไม่ต่างจากงานคริสตมาส
ในเมืองนอกเมืองนาเลยนะท่าน เพียงแต่ว่าซาตาครอสนี้
เขาห่มเหลือง สมาทานศีลมากมายกรายกรอง แต่ก็เป็นลุงใจดี
มีขนมแจกเสมอ แถมมีนิทานธรรมะเล่าไม่ซ้ำเรือ่งอยู่ทุกวันพระเลย

Big Fish นี้หนังป่วยก็ว่าได้นะครับ
จำรายละเอียดมากไม่ค่อยได้ ดาราแทบจำไม่ได้เลย
จำได้คนเดียว คือ คนตัวยักษ์เขาเป็นนักบาส NBA ของทีมวอชิงตันวิซาร์ด
น่าจะสูง เจ็ดฟุตหกนิ้ว แต่จำชื่อไม่ได้แล้ว จำหน้าทื่อๆของแกได้
ต้องปลื้มป๋าทิม ก็ไม่น่าพลาดยังคงเป็นหนังสไตล์แก
เดาทางตอนต่อไปไม่ถูกเลยละ และไม่กล้าเดาด้วย
แต่ความรักของพ่อลูก อันนี้จำไม่ได้จริงแหะ
ในบรรดาหนังของแก ผู้เขียนชอบอนิเมชั่นแบบสต็อปโมชั่น
ของแกทุกเรือ่ง ไม่ว่า nightmare before chirstmas กับอีกเรือ่ง
อะไรแล้วน้อ เออ Corpse Bride ทั้งเยี่ยมทั้งคลาสสิก
แล้วก็อำนวยการสร้าง อย่างเรือ่ง nine ที่เป็นคอมพิวเตอร์กราฟฟิค
ก็ชอบด้วยเช่นกัน เป็นสกุลดาร์กอนิเมชั่น คงมีแต่แกเท่านั้นกระมัง
ที่กล้าทำอย่างนี้

เหนือ่ยเหรอครับ ก็น่าเหนื่อยอยู๋หรอก
เพราะเคยอยากเขียนถึงหลายครั้ง แต่แปลกตรงที่เขียนให้เป็นประเด็นไม่ได้เอาสักเลย
แตะมากก็เฉลยซะ แตะน้อยก็เสียดายแนววิธีการเล่าเรือ่งที่มีชั้นเชิง
และวางจุดได้ค่อนข้างแพราวพราว ความที่ตัวละครเยอะ
ต้องกลั้นใจตัดการพูดถึงตัวละครเสริมไปหลายๆตัว
ไม่อยากทำแต่ก็ต้องทำใจ ทำไงได้ไม่งั้นโครงเรื่องที่อยากเล่าก็จะหายไป
เขียนแปะๆ ไปแต่ละวัน เขียนไปก็ซ้ำประเด็นตัวเองไปเหมือนกัน
เอาอารมณ์ไปแทนก็แล้วกัน เออ! เรือ่งตัวฮีโระสุเอะ อันนี้ผู้เขียนครเดาทางเอา
นะครับ คิดว่าน่าจะไปปรากฎอีกทีในภาคต่อ เหตุที่คิดอย่างงี้
เพราะผู้เขียนบทมักจะมีรสนิยมเอาของทิ้งของขว้างในช่วงแรก มาใช้ประโยชน์ต่อ
ในภายหลัง อย่าลืมว่าเจ๊โยชิโกะ มือเขียนบทเรือ่ง Jin ที่เรารู้แน่ๆว่า
เรียวมะ ต้องกลับมาประสานฝีมือเพื่อทำให้หนังใหญ่เรืองjin ดำเนินเรือ่ง
อย่างสนุกเร้าใจขึ้น ส่วนมิซุฮารุ นี้ด้วยดีในการเอาของที่มีอยู่จำกัดมาใช้ให้คุ้มค่า
อันนี้ จำทางมาจาก Eiji และBloody Monday
ตอนแรกว่าจะตัดประเด็นการเล่าเรือ่งของฮีโรสุเอะ ออกไปตามฉบับ Edition Cut
แต่เกิดเป็นสาวกทุ่มสุดใจขาดดิ้นแล้ว ไม่กล่าวไว้รับรองเป็นทุกข์ในใจแย่เลย
แค่แคปเพียงรูปเดียว ก็รู้สึกผิดอยู่ในใจแล้ว
ซึคุโมะชอบใส่ชุดนอนเหรอครับ คิดไม่ถึงครับเลยขอรับ
เป็นดีไซด์เนอร์ตั้งใจออกแบบรึเปล่า เป็นซีรีย์อิงวิจัย
แต่เวลาเล่านี้ไม่สนุกเอาเสียเลย ประเด็นมันเยอะจัด
พอๆกับที่ปั่น inception ไม่ลงตัว ก็เลยปล่อยให้ข้างๆคาๆ
ค่อยไปต่อกันในวันแม่แห่งชาติต่อดีก่า


ขอบคุณนะครับสำหรับหลังไมค์ แค่ประโยคนี้
ก็พอรู้แล้วว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากล
กับเรือ่งเล่าบนนี้แน่เลย คงมาทางเดียวกับ
ซีรีย์ Jin ตามคาด
งั้นยกให้เป็นตำแหน่งรมต.พิสูจน์อักษรอีกนหนึ่งตำแหน่งดีกว่า


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 9 สิงหาคม 2553 เวลา:0:05:49 น.  

 
คือไข่เจียวต้มยำรวมมิตรทะเลที่มะนาวทำ
กว่าจะไปลงกะทะทอดได้ ก็คือมะนาวได้ปรุงรสมาเรียบร้อยแล้วไงคะ
ทั้งใบมะกรูดหั่นฝอย ตะไคร้หั่นฝอย น้ำปลา
นมสด น้ำพริกเผา พริกขี้หนูซอย ผงปรุงรส
ใส่ลงไปพร้อมสรรพแล้วค่ะ ก่อนที่จะเอาไปฝากที่ทำงานน่ะค่ะ
เพียงแต่มะนาวไปบอกพวกเค้าอีกทีว่า ปรุงรสเพิ่มได้ตามชอบ
พวกเค้าบอกไม่ต้องปรุงเพิ่มเลยเพราะที่มะนาวทำมาอร่อยดีอยู่แล้วค่ะ
ฮึ!แล้วมาหาว่าของเรา เป็นของเสก ต่อให้เป็นของเสกที่ทำงานก็บอกว่าอร่อยค่า
คนไม่ได้ทาน ไม่ต้องมาประชดประชันเลยค่ะ
แล้วเรื่องควาสะอาดผ่านมาตรฐานอย.แน่นอนค่ะ
อ่านดีๆนะคะว่าผ่านมาตรฐานอย.ไม่ใช่มอก.
เพราะฉะนั้นเรื่องความสะอาดระดับไหนคิดดูละกัน
ทุกขั้นตอนของการทำใส่ถุงมือตลอดนะเจ้าคะ
แถมถ้าของตกก็หยิบขึ้นมาภายใน 5วินาที เชื้อโรคยังไม่เห็น
รู้จักหรือปล๊าว"กฎ 5 วินาที" ของจูเลียน คลาร์กน่ะ
เจ้าของรางวัลอิ๊ก โนเบล ที่บอกว่า"เชื้อโรคยังไม่เห็น"
ถ้าเราหยิบกลับขึ้นมาได้ภายใน 5 วินาที
เห็นไหมคะ ขนาดอาหารที่มะนาวปรุงยังมีงานวิจัยรองรับเลย
ธรรมดาซะที่ไหน ฮิ ฮิ
เพราะฉะนั้นเรื่องท้องเสีย impossibleค่า
แล้วแหม!มีการบอกว่าชีวิตผู้เขียนยังรู้สึกใช้ได้ไม่คุ้ม
ไม่อยากเสี่ยงกับอาหารมะนาว หมั่นไส้มากค่า
ขอแช่งให้กินมาม่าแล้วท้องเสียจู๊ด จู๊ด ให้เข้าห้องน้ำไม่ทันเลยนะ ฮึ
แล้วไอ้ที่........นี้น่ะแอบว่าอะไรข้าเจ้าใช่ไหม บอกมานะ
ส่วนที่มะนาวทำอาหารแล้วอร่อยน้อยลง
ตัวมะนาวก็รู้สาเหตุค่า คือทำครั้งแรกมันมีทั้งความตื่นเต้น
ความท้าทาย ลุ้นว่าจะทานได้หรือทานไม่ได้
ความใส่ใจจึงมีเต็มที่ แต่พอทำเป็นแล้ว
มันรู้แล้วนี่คะ มันก็ไม่ท้าทาย ความใส่ใจก็เลยลดลง
อาหารจะอร่อยต้องใช้ใจทำด้วยใช่ไหมคะ
นายหญิงโอเซน ว่าไว้อย่างนั้นหรือปล่าวคะ

คุกกี้น่ะแนวถนัดของพี่มะนาวเลยค่า
แต่มะนาวไม่ชอบทาน มันเลี่ยน
พี่เค้าผสมนมเนยหนักมือ
แต่ที่ทำงานชอบมากกกกกกกบอกหนักเครื่องดี
พี่เค้าทำเป็นทุกอย่างค่ะไม่ว่าคุกกี้แบบไหน คุกกี้ข้าวโอ๊ตก็ทำได้ค่า
ช่วงปีใหม่เค้าจะเหนื่อยมากเพราะต้องทำแจกเยอะแยะเลยค่า
มะนาวชอบ บลูเบอร์รี่พายของพี่เค้ามากกว่าค่า
มันไม่หวานเลี่ยน อร่อยใกล้เคียงกับร้านกัลปพฤกษ์เลยค่า
คุณchanpanakritรู้จักหรือเปล่าคะ
ร้านกัลปพฤกษ์ของมจ.ภีศเดช รัชนีน่ะค่ะ
ร้านนี้เขาขึ้นชื่อเรื่องบลูเบอรี่พายค่ะ อร่อย มะนาวชอบทานค่ะ
คุณchanpanakritเคยหัดถักนิตติ้งด้วยเหรอคะ
ถักผ้าพันคอเหรอคะ แล้วสำเร็จไหมคะ สวยไหมคะ ได้ใช้ไหมคะ
โอ๊ะ โอ๋ มีดูถูกข้าเจ้าว่าประจบคุณครูเอาคะแนนด้วย ไม่เคยทำค่า
สงสัยคนในนี้ต้องเคยทำแหงมๆ ถึงรู้ว่าวิธีประจบคุณครูต้องทำยังไง
ว่าแต่ได้ผลหรือปล่าวค่า หรือโดนไม้เรียวแทนคะ อิ อิ

ผอมแล้วไว้ผมยาว มิดูซูบเซียวไปกันใหญ่เหรอคะ
อย่างป๋ายะมะนาวชอบที่สุดตอนไว้ผมทรงนายกเคตะ
ดูมีบุคลิก น่าเชื่อถือดีค่ะ ไม่ใช่ทรงหัวฟูๆนะคะ
หรือว่าคนที่มีความเป็นศิลปินอยู่ในตัว จะต้องไว้ผมยาว
เพื่อประกาศศักดาว่า ตูข้าก็อาร์ตตัวพ่อนะเฟ้ย อย่างงั้นเหรอคะ ฮิ ฮิ
มะนาวน่ะไว้ผมยาวมาตั้งแต่ชั้นมัธยมแล้วค่ะ
เพราะมันสะดวกค่ะไม่ต้องไปตัดผมบ่อยๆ
ที่สำคัญไม่เปลืองกะตังค์ด้วยค่ะ ฮิ ฮิ
แต่พอเรียนมหา'ลัยตอนใกล้ๆจะจบมันก็เรียนหนักมาก
แล้วอาจารย์ก็พูดตลอดว่าใครจะเชื่อถือเธอ
ใครจะRespect เธอ หน้าตาอย่างนี้ ทรงผมอย่างนี้
คือตอนนั้นมะนาวไว้ผมทรงตุ๊กตาบลายธ์ด้วยไงคะ
แล้วมะนาวกว่าจะได้นอนในแต่ละวันก็เกือบตีสองทุกวัน
พอสระผมตื่นขึ้นมาผมก็ยังไม่แห้ง
เลยตัดสินใจตัดเลยค่ะ แบบสั้นกุดเลย จนที่บ้านเรียกไอ้หนุ่มเลยล่ะค่ะ
อาจารย์นี้แบบเห็นมะนาวอึ้งเลยค่ะ แล้วอาจารย์ก็ไม่พูดอะไรอีกเลย
จริงๆแล้วมะนาวไม่ได้ประชดอาจารย์เลยนะคะ
คือมันคงถึงเวลาที่ต้องตัดแล้วจริงๆ
เพราะมันเริ่มกลายเป็นภาระ กับการที่ต้องมาสระ มารอให้แห้ง
ถ้าเป็นอย่างนั้นไม่ต้องหลับต้องนอนกันพอดีค่ะ
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ได้พิสูจน์แล้วก็คือทรงผม กับหน้าตา
มันไม่ใช่สิ่งที่ทำให้คนเชื่อถือหรือrespectเราสักนิด
การที่เราปฏิบัติต่อเขาต่างหาก
ที่ทำให้เราได้รับความเชื่อถือหรือrespectกลับมา
ไม่ได้เกี่ยวกับทรงผมหรือหน้าตาเลยแม้แต่นิดเดียวค่ะ

หนังของป๋าทิมเรื่องCorpse Bride มะนาวได้ดูแล้วค่ะ ชอบเหมือนกันค่ะ
ส่วนเรื่องThe Nightmare Before Christmas กับ
"9" Animation มะนาวยังไม่ได้ดูค่ะ
แต่ที่บ้านมะนาวมี"9" Animationค่ะ
มะนาวรีบไปคุ้ยขึ้นมาวางไว้ใกล้ๆตัวเลยค่ะ
กลัวว่าพอจะดูแล้วหามะเจออีก
มีข่าวเล่าให้ฟังค่ะว่าเรื่องรถไฟฟ้ามาหานะเธอ
ได้ไปฉายที่สิงคโปร์ คนที่รีวิวที่สิงคโปร์ให้คะแนนหนังเรื่องนี้ 2 ดาวครึ่งค่ะ
ซึ่งก็มากกว่าเรื่องThe Last Airbenderที่ได้แค่ 1 ดาวครึ่งเองค่ะ
สาวๆห้องเฉลิมไทยเลยกิ๊ว ก๊าวกันใหญ่
บางความเห็นตลกมากค่ะบอกว่า
ดีใจที่สาวสิงคโปร์ปลื้มสามีดิชั้น 555ช่างกล้า

พรุ่งนี้มะนาวขอเวลานอกหนึ่งวันนะคะ
คุณchanpanakritจำที่มะนาวเล่าให้ฟังได้ไหมคะ
เรื่องที่พี่เขาขอให้มะนาวช่วยตรวจผลงานให้พี่ที่จะทำเลื่อนตำแหน่ง
มันไม่ใช่แค่ตรวจแล้วล่ะค่ะ
แต่มันแทบจะเรียกว่าต้องทำให้เขาใหม่ทั้งหมดเลยค่ะ
มะนาวรู้แล้วล่ะค่ะว่าทำไมพี่เขาถึงขอให้มะนาวช่วยดูให้
มันเป็นงานวิจัยค่ะ เมื่อรู้แล้วก็เลยไม่มีทางเลือกค่ะ
ทำได้หรือไม่ได้ก็คงต้องช่วยกันต่อไปแล้วล่ะค่ะ
มะนาวจะไปรออ่านเม้นต์ตอบBuzzer Beat นะคะ
เจอกันวันพุธค่ะ ถ้ามีเวลาก็อย่าลืมนอนพักนะคะ

ปล.คุณchanpanakritแวะหลังไมค์หน่อยนะคะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 118.172.80.238 วันที่: 9 สิงหาคม 2553 เวลา:21:07:07 น.  

 
ทำไมไม่สานต่อความสัมพันธ์กับเรียวโกะ ? ก็แอบไปเห็นสเป็คทาคุยะเป็นสาวอวบที่ทำเอาสาวปลาแห้งอย่างฮารุกะออกอการเซ็งเป็ดมิใช่หรือ ฮ่าๆ แอบดูไปแล้วสองตอน ชอบฉากมากเลยล่ะ เขาทำได้หรูหราไปด้วยความนำสมัยไฮเทค ไม่แพ้หนังฮอลลีวู้ดเลยนะนั่น

เรื่องก็น่าสนใจดี แต่ไม่รู้ทำไม จึงไม่ค่อยรู้สึกขำกับการแสดงของทาคุยะ หรือจะอยู่ในช่วงอารมณ์เคร่งเครียด หรือจะเคยชินกับทาคุยะในแบบอื่นๆ ที่ ..ไม่ขำ มามากเกินไป พอดูคาแร็คเตอร์ตัวละครแล้ว นึกอยากให้ฮิโรเสะ อาเบะ มาเล่นบทนี้จัง (ดูๆ อยู่ก็นึกหน้าลุงขึ้นมา ทั้งที่ก็ไม่ได้คิดถึงจัดจนเพ้อหรอกนะ) ทั้งซาโต้ ทั้งคาเมะ คนโปรดทั้งนั้น ชอบซาโต้จัด แอยไปดูหน่อยนึงที่ Bloody monday 2 แต่ด้วยอคติมีมาแต่เดิมจึงยังไปไม่รอด เลยต้องหันไปแอบดูอีกหน่อยจากเรื่องบ้าบออาโนเนะ "คนรับใช้ของเมจัง" ที่มีฮิโระเป็นพระเอกและเป็นพี่ชายของซาโต้ ดูไปดูมาหนุ่มคนนี้ทำไมหน้าไปละม้ายคล้ายคลึงกับคาเมะได้ ทั้งที่เคยดูมาเรื่องอื่นไม่เคยรู้สึก

คงต้องรีบหาจังหวะกลับไปสานต่อ มีโคยูกิ กับไอบุด้วยอีกต่างหาก ดาราญี่ปุ่นนี่เขาดีนะ ขยันเดินสายแว่บโน่นแว่บนี่ เป็นสีสันดี ซึ่งส่วนนี้ละครไทยบ้านเราไม่ค่อยเคยเห็นเชิญกันมาเดินเตร็ดเตร่ให้รู้สึกอบอุ่นด้วยมวลมิตรสหายดารา

8 ตอนเอง สั้นๆ จบ แต่เท่าที่เห็นก็ดูหน้าตาดีขนาดนั้น คงไม่ได้หมายความว่าโดนหั่นเหมือน moon lovers หรอกนะคะ

คุณมะนาวคะ ... ไม่ชอบทาคุยะหัวทองเหมือนกันค่ะ ... ฝากบอกป๋าอย่าได้ทำอีก ผมยาวก็ไม่ชอบ แต่ยาวในเรื่องนี้ดูสมบุคลิก ถ้ามาในทรงแบบ change คงดูเรียบร้อยไม่พิลึกสมกับบท



โดย: prysang วันที่: 9 สิงหาคม 2553 เวลา:23:31:22 น.  

 
ดูเหมมือนจะมีอะไรให้ท่านมะนาวฯจับผิดได้ทุกวันเลยนะขอรับ
จะบอกว่าตั้งใจก็ใช่ที่ เพราะไม่ได้เกิดจากความตั้งใจในทั้งหลายทั้งปวง
แต่ดูสรรพคุณในส่วนผสมของการทำไข่เจียวทรงเครือ่ง
ก็ต้องบอกว่านี้มันเป็นตัวยาสมุนไพรพืชบ้านชัดๆเลย
ผสมกันแบบไม่หวงของ ถ้าไม่ทำแบบกะฆ่าให้ตาย
ก็ตอ้งอาหารอายุวัฒนะชัดๆเลย ความอร่อยจากการบอกเล่า
ของลิ้นผู้ร่วมงาน ย่อมเป็นมาตราฐานที่ยังชี้ชัดไม่ได้
แต่สงสัยจะอร่อยจริง เพราะไม่มีแม้ความกรุณาสักครึ่งฟอง
ปรารถนาดีมาถึงผู้เขียนคนนี้บ้างเลย กลัวจะอร่อยแบบปลอดภัย
ชนิดผ่าน MOU 43 ที่ได้รับการการันตีจากศาลโลก
เป็นไข่เจียวอาหารในพื้นที่ทับซ้อน ระหว่างความเป็นกับความตาย
แล้วไม่นึกว่า คณะเด็กวิทย์จะเป็นตุเป็นตะกับกฎห้าวินาทีเชื้อโรคไม่ทันเห็น
ถ้าเป็นเช่นนั้นโดยมีผลการวิจัยเป็นเครื่องยืนยัน เชื้อโรคแถวนั้น
คงติดเชื้อพาร์กินสัน คิดช้าไม่ทันใจ มีหวังอดตายตามสภาพ
กับศูนย์ผู้อพยพแถวๆนั้น แต่เจ๊จู้เลียน่ คลาร์กเป็นผู้ค้นพบเหรอครับ
มัวตามตัวเชื้อโรคอะป่าว สงสัยจะติดเข้าไปในกระแสเลือด
เพราะดูจะอินจัด จนไม่แยกไม่ออกว่าเป็นตัวเชื้อโรคหรือผู้ติดพาหะกันแน่
ส่วนท้องเสียนี้ เป็นอาจิณ จนกลายเป็นภูมิต้านทานชั้นเทพ
กลัวแต่คนรักสะอาดแถวโน้น จะเป็นลูกคุณหนู
ที่แตะฝุ่นนิด เขม่าหน่อย ก็จะสำออยปวดหัวตัวอ่อนขึ้นมาตะหงิดๆ
ส่วนอาหารจะใส่ใจ หรือทำไปตามประสบการณ์
แต่ไม่เข้าปากผู้เขียน ก็ไร้ซึ่งประโยชน์เพราะไม่มีผลต่อการบริโภค
แล้วไม่อยากรู้ด้วยหรอกนักว่า ตัวเองจะชอบทานอะไร
รู้แค่ว่า ผู้เขียนชอบทานคุ้กกี้ผสมข้าวโอ๊ต
รู้แล้วจะทำเป็นรับรู้อย่างเดียว ก็น่าเกลียดเกินไปมั้ง
ของฝากนะยังสะกดเป็นใช่ไหม คราวก่อนก็โดนเป็นของรับแขกไปทีแล้ว
ทั้งๆที่ก่อนหน้า สาธยายขายฝันสักยิ่งใหญ่
วันไหน เห็นพี่ขมดมวนอยู่แถวหน้าเตาอบ
ก็ขยบมาสักชิ้นสองชิ้นหน่อยสิ เชือ่ว่าท่านมะนาวฯมือไวใจเร็ว
ทำผิดคิดชั่วสักครั้ง พี่น้องกัน ยิ่งเป็นการสร้างความสัมพันธ์มากยิ่งขึ้น
กะจะกินกันแค่สังคมวงใน เผื่อไว้ให้กับบริษัท
เดี๋ยวเขาจะอ้วนพลีจนขี้เกียจ ไม่รู้จักทำงาน แล้วโดนไหว้วาน
หางงหางานมาให้เป็นการซ้ำเติม สู้เอามาให้ผู้เขียนดีกว่า
ไม่โยนบาปไปให้ แถมยังนั่งสรรหาอรรถรสจากซีรีย์ใหม่ๆมานำเสนอ
แม้ช่วงนี้ติดลูกขี้เกียจบ้าง ก็เพราะฟ้าฝนเป็นใจให้ซุกใต้ผ้าห่มที่ควรหนุนนอน
เสียดายผมสลวยของท่านมะนาวฯ ที่บำรุงบริษัทยาสระผมไปหลายเจ้า
น่าจะเก็บเอามาทำผ้าเช็ดพื้น เพราะได้วิตามินโปรอี ไว้คอยเคลือบผม
เวลาถูพื้นเช็ดคราบ มันจะได้ไม่ติดมากับใยผ้า
เสียดาย ปานี้คงถูกเผาเอามาไล่แมลงสาบไปหมดแล้วกระมัง

รถไฟฟ้าฯ ไม่ทำเงินในตลาดเมืองนอก
อันนี้เข้าใจได้อยู่ เพราะก่อนหน้าก็มีคนวิจารณ์ว่า
เป็นหนังขายกลุ่มเฉพาะคนดู ที่ไม่ได้มีความแปลกใหม่อันใด
ในตลาดความบันเทิงสากล จุดขายของหน้าหนังก็ไม่ชัดเจน
จะขายเที่ยวบนรถไฟ อันนี้บ้านเขาก็มีมานาน
ส่วนจะดูการบริหารเสน่ห์ของพี่ธีรเดช ก็ควรได้รับการปลูกฝังความกรี๊ด
จากละครไทยมาเป็นทุนเดิมก่อน เพื่อนำไปต่อยอด
ไม่ต่างจากเอาบุญชูไปตีตลาดโลกละมั้ง
หนังมันตอบสนองความบันเทิงสุนทรียะเฉพาะคนไทย
ดูหนังแล้ว อาจจะต้องเปิดหนัง lonely thailand มาดูประกอบ
เพื่อเข้าใจวัฒนธรรมเฉพาะด้านทางสังคม
Last Airbender ของเอ็มไนท์ ดูจะกู่ไม่กลับ
เห็นว่างานพี่แกจะดร็อปลงเพราะไม่ใช่สายถนัด
น่าเห็นใจ ที่แกพยายามหลุดจากกรอบเดิม ๆ ซึ่งแนะนำว่า
ควรกลับหาตัวตนเดิมๆ ที่เป็นความชำนาญเฉพาะ เพราะยังมี
ลูกเล่นแนวโค้งหักศอก ให้แกได้หากินรับประทาน อย่างในหลายๆ
Novel ก็มีอีกเพียบให้แกน่าลองเอามาดัดแปลงทำเป็นหนังจะตายไป

แหม ชักอยากรู้แล้วว่าเป้นพี่ใจร้ายคนไหน
ที่ทำให้เราต้องพรากจากกัน ไหนๆจะพรากแล้ว
ก็ช่วยตรวจปรู๊ฟข้อมูลก่อนจากอีกรอบได้ไหม
ดูเหมือนจะไม่คอ่ยมีใครคนอื่นช่วยจับผิดดีเท่าท่านอีกแล้ว
มิหน่าละ พี่คนที่ว่าคงเห็นจุดแข็งจากความเป็นช่างคิดช่างแค้น
ที่สอดส่องเก็บทุกอณูความ เป็นคุณแม่ละเอียดที่เอามาใช้ในเชิง
สร้างสรรค์ ก็จะเกิดประโยชน์ต่อมนุษยชน
เอ๊ ถ้าเขาได้ขึ้นตำแหน่งแล้วท่านมะนาวฯจะได้อะไรตอบแทนหว๊า
คงไม่ใช่ไข่อีกโหล ให้เอาไปทดลองเมนูประหลาดอีกใช่ไหมละน้อ


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 9 สิงหาคม 2553 เวลา:23:56:49 น.  

 
แหม!ได้ทีใช้ข้าเจ้าใหญ่เลยนะเจ้าคะ
ใช้เกินแรงงานขั้นต่ำแล้วเจ้าค่ะ
ทั้งคอยเป็นเลขาให้ช่วยจดโน้ตย่อซีรีส์
แล้วยังให้ช่วยตรวจปรู๊ฟอีก
แถมยังต้องไปหาข่าวให้คุณท่านในกระทู้อีก
ค่าจ้าง ค่าแรงก็ไม่ได้ ใช้ฟรีอย่างเดียว
รู้สึกว่าคุณท่านจะสบายนั่งกระดิกเท้าอย่างที่บอกไว้จริงๆนะเจ้าคะ
วันนี้บ่าวมีข่าวจากกระทู้มารายงานเจ้าค่ะ
ว่าตอนนี้เขากำลังถกกันถึงเรื่องAnimation รามเกียรติ์ ภาคปฐมบท
ที่มีความยาวแค่30นาที กันอยู่นะเจ้าคะ
คุณท่านได้ข่าวบ้างไหมล่ะเจ้าคะ
หรือว่ามัวแต่ยุ่งอยู่กับประเด็นเขาพระวิหารล่ะเจ้าคะ
เรื่องรามเกียรติ์นี้เขามีฉายให้ดูฟรีด้วยนะคะ ที่ SF MBK
และวันอาทิตย์นี้สองทุ่มยี่สิบ จะฉายที่Modern 9ค่ะ
มะนาวอดดูเลยเพราะต้องไปงานแต่งงาน ฮือ ฮือ เสียดายจัง
เพราะคนที่ได้ดูแล้วบอกว่างดงามมากค่ะ
เป็นอะไรที่สวยแปลกตา ลวดลายอลังการงานสร้างมากๆค่ะ
แล้วอารมณ์เหมือนกับได้ดูหนังตะลุง ที่เค้าเชิดๆน่ะค่ะ
บทพูดก็ไพเราะกินใจ
คนที่ดูแล้วบอกว่าสนุกด้วยค่ะอย่างฉาก
ตบหัวนนทุก บอกว่าเทวดากวนโอ๊ยมากๆเลย
บางคนเรียกว่า"จิตรกรรมยนต์"
เพราะเห็นบอกว่าจำลองภาพมาจากจิตรกรรมฝาผนังน่ะค่ะ
เห็นบอกว่าเป็นanimation styleไทยๆดีค่ะ
มะนาวดูเรื่องKick-Assเกรียนโคตรมหาประลัยจบแล้วนะคะ
Hit Girl ผมม่วงน่ารักดีค่ะ แต่โหดมากๆ ตัวแสบจริงๆ
ยิง เตะ ต่อยเป็นไฟ ฆ่าคนได้แบบไม่ทันกระพริบตา
หนังแรงดี ทั้งภาพ และการกระทำ
แต่มะนาวว่า หนังก็ไม่ใช่จะเอามันส์อย่างเดียวนะคะ
อย่างน้อยก็ยังบอกเราว่าอย่าได้นิ่งดูดายกันเกินไปนัก
อย่าคิดแต่ว่าธุระไม่ใช่ หรือว่าเข้าไปยุ่งแล้วเปลืองตัวเปล่าๆ
อย่าได้คิดเช่นนั้นเลย เพราะไม่อย่างนั้นมันจะกลายเป็นสังคมตัวใครตัวมัน
เห็นว่าตอนนี้สังคมอเมริกันมีปัญหาเรื่องตัวใครตัวมันมากเกินไป
ก็เลยมีการสร้างหนังแนวนี้ออกมากระตุ้นจิตสำนึก
ไม่รู้ว่าจริงเท็จประการใดคะ
และขอบคุณนะคะที่ไปหาข้อมูลเพลง Ichibu to Zenbuมาฝากน่ะค่ะ
ว่าแต่วง B’z นี้ มีใครในวงมาแสดงซีรีส์บ้างหรือเปล่าคะ

555เป็นไข่เจียวพื้นที่ทับซ้อน
ต้องเอามุกนี้ไปเล่าให้ที่ทำงานฟังแล้ว
ว่ารู้ปล่าวมีคนเขาบอกมาว่าพวกตัวๆน่ะ
ได้กินไข่เจียวพื้นที่ทับซ้อนระหว่างความเป็นกับความตายเชียวนะ555 ชอบจัง
แล้วคุณชายช่างเป็นคนมีน้ำใจมหาศาล
อุตส่าห์มีการบอกด้วยว่าไม่อยากรู้หรอกว่าข้าเจ้าชอบทานอะไร
รู้แค่ว่าตัวเองชอบทานคุ้กกี้ผสมข้าวโอ๊ต อืม!เป็นคนน่าคบมากค่ะ
ช่างเป็นคนจิงใจ๊ จริงใจ ไม่เสแสร้งเลยนะคะ
แถมมีการพูดทวงของฝากอีกแน่ะ
จะเอาหรือเปล่าคะคุ้กกี้ข้าวโอ๊ตน่ะค่ะ
มะนาวจะให้พี่สาวทำให้ เอาไหมคะ
จะได้เก็บไว้ทานอร่อยๆ เวลาอัพบล็อก

คุณchanpanakritอาการเดียวกับเพื่อนมะนาวเลยค่ะ
คือเสียดายผม แล้วถามเหมือนกันเลยว่าเก็บผมไว้หรือเปล่า
แถมบางคนหนักกว่านั้นอีก ถามว่าได้ขายไปหรือเปล่า
คือมะนาวไม่ได้เก็บไว้หรอกค่ะ ไม่รู้จะเก็บไว้ทำไมนี่คะ
ผมสั้นได้ก็ยาวได้ว่าไหมคะ
แต่จนป่านนี้เกือบสี่ปีแล้ว หุ หุ ยังไว้ยาวไม่ได้เลยค่ะ
คือผมสั้นมันสะดวกเวลาสระผม
แล้วประหยัดจริงๆด้วยนะคะ
เมื่อก่อนใช้ยาสระผมเปลืองมาก
แต่ตอนนี้ใช้แบบขวดปั๊ม700ccตั้งนานแน่ะค่ะกว่าจะหมด
ขนาดสระทุกวันด้วยนะคะ ประหยัดดีจังค่ะ
แต่ก็มีสิ้นเปลืองตรงที่ต้องไปตัด เล็มแทบทุกเดือนค่ะ
เพราะผมมะนาวยาวเร็วมาก
อย่างเวลาตัดผมกลับมาใหม่ๆ
ตาน้ำหอมเขาบอกว่าเขาชอบมองที่สุดเลยค่ะ
เพราะเขาบอกว่าหน้าตามะนาวจะตลกๆ
เด๋อๆ เหมือนเด็กบ้านนอกดีค่ะ
ซึ่งพอพูดอย่างนี้องครักษ์พิทักษ์มะนาวก็จะออกทำหน้าที่ทันทีเหมือนกันค่ะ
บอกพูดหยั่งงี้ได้ไง น่ารักออกจะตาย
ไม่เห็นจะตลกตรงไหนเลย
เห็นไหมคะว่าไข่เจียวแค่จานเดียว ยังออกฤทธิ์ได้ดีขนาดนี้
เพราะฉะนั้น เราก็จะใช้วิธีนี้เลี้ยงดูองครักษ์ของเราต่อไป อิ อิ

555ขำคุณchanpanakritถามยังกะรู้จักพี่เขาอย่างนั้นแหละค่ะ
มะนาวเองยังไม่รู้จักเลยค่ะว่าเป็นของพี่คนไหน
เพราะรุ่นพี่คนที่เป็นสื่อกลาง เขาเป็นคนรับงานมา
โดยที่มะนาวไม่ได้รู้ ไม่ได้เห็นด้วยเลยค่ะ
แต่จะปฏิเสธก็ไม่ได้ เพราะถ้าปฏิเสธก็จะรู้สึกไม่สบายใจ
รู้สึกผิดอีก ก็เลยต้องรับมา เพื่อความสบายใจของตัวเองล้วนๆเลยค่ะ
แล้วคุณchanpanakritสงสัยว่าทำแล้วมะนาวจะได้อะไรตอบแทน
ขอบอกเลยค่ะว่า ไม่ได้อะไรเลย นอกจากความสบายใจของตัวเองอย่างเดียวค่ะ
แถมพอจะแก้ไข ก็ต้องโทรไปบอกรุ่นพี่คนที่เป็นสื่อกลางว่าหนูจะแก้ให้พี่เขาไปเลยนะ
รุ่นพี่คนที่เป็นสื่อกลางรีบบอกเลยว่าเธอทำไปเลย ทำไปเลย
แล้วห้อยท้ายต่อมาว่า ทำของพี่เขาเสร็จแล้วเธอทำของชั้นต่อเลยนะ
มะนาวร้องไปเลยว่าไม่เอา หนูไม่ทำแล้ว
รุ่นพี่เขาโอดใหญ่เลยว่า น๊า! เธอช่วยชั้นหน่อยนะ
ชั้นจะตายอยู่แล้ว คือรุ่นพี่เค้าถูกส่งเป็นบุคลากรดีเด่น
โดยที่เจ้าตัวไม่ได้รู้เรื่องเลยค่ะ งุบงิบแอบส่งชื่อพี่เค้าไป
รุ่นพี่เค้าเครียดมาก จนต้องไปตรวจ MRIสมอง เพราะปวดหัวมาก
(MRI สมอง คือการตรวจสมองด้วยเครื่องสนามแม่เหล็กไฟฟ้าแรงสูง
ร่วมกับคลื่นวิทยุ เพื่อถ่ายภาพรายละเอียดของส่วนต่างๆของเนื้อสมอง )
เพราะไอ้บุคลากรดีเด่นน่ะ มันมาพร้อมกับต้องทำผลงานส่งมากมาย
มะนาวฟังแล้วทั้งสงสาร ทั้งเห็นใจ เลยบอกว่าหนูช่วยก็ได้ค่ะ
เพราะฉะนั้นต่อไปถ้ามะนาวหายไปเป็นพักๆ
ก็ให้พึงนึกเถอะว่า ข้าเจ้างานเข้าค่า

วันนี้มะนาวมีเรื่องคุยค่ะ มะนาวได้ของฝากจากเพื่อน
เป็นหมวกไหมพรมถักน่ารักมากเลยค่ะ
เป็นของตอบแทนที่มะนาวให้เค้ายืมซีรีส์
Iryu Team Medical Dragon ทั้งภาค1และภาค2ค่ะ
ที่ทำงานเห็น กิ๊ว ก๊าว อยากได้กันใหญ่เลยค่ะ
มะนาวก็สงสัยตงิดๆตั้งแต่ตอนที่เค้าโทรมาถามแล้วว่ามะนาวชอบสีอะไร
นึกในใจจะถามไปทำไม เลยบอกไปสองสี
เธอเลยผสมไหมพรมสองสีเข้าด้วยกันน่ารักมากเลยค่ะ
เธอบอกว่าเอาไว้ใส่เวลาไปเที่ยว
ผู้ช่วยมะนาวจับแล้วจับอีก บอกน่ารักมากเลย
ของน่ารักก็ต้องอยู่กับคนน่ารักถูกต้องแล้วว่าไหมคะ อิ อิ
แล้วที่บอกว่ามะนาวมีsplit personality(จากBuzzer Beat )ได้รับคำตอบแล้วนะคะ
ว่าบุคลิกหนึ่งคือใจดี ส่วนอีกบุคลิกหนึ่งคือน่ารัก หายข้องใจแล้วนะคะฮิ ฮิ
อ้อ!ลืมคุยไปค่ะ เพื่อนคนนี้บอกว่าชอบน้ำปลาหวานฝีมือมะนาวมากที่สุด
บอกว่ามะนาวทำอร่อยมาก เพราะของมะนาวใส่กุ้งแห้งบดค่ะ อย่างเยอะ
ไม่ได้ใส่เป็นตัวที่เคี้ยวลำบาก พูดไปแล้วมะนาวไม่ได้ทำมานานมากแล้วนี่นะ
หยุด4วันนี้ ทำน้ำปลาหวานไปฝากเหล่าบรรดาองครักษ์ดีกว่า ฮี่ ฮี่


โดย: มะนาวเพคะ IP: 118.174.82.225 วันที่: 11 สิงหาคม 2553 เวลา:20:52:29 น.  

 
ขณะนี้เวลาตีสองต้นๆ เป็นเวลาแห่งความสงัดวังเวง
ที่ผู้เขียนเพิ่งจะได้ลากสังขารกลับสู่ปิตุภูมินะขอรับ
ไม่นึกว่างานส่งท้าย ผู้ร่วมงานเกือบทั้งหมดของผู้เขียนจะจากจร
ลาบ้านคานา ด้วยข้อหารักแม่เเบบไม่เคยปรากฎ
ผลที่เหลือก็เลย ทำให้ผู้เขียนต้องรับหน้าเสือ่ในทุกกรณี
ที่พอกหางหมูเสียทั้งสิ้น สภาพเลยแย่อย่างที่ไม่มีวันได้เห็น
แล้วยังมาเจอข้อกล่าวหาว่า ผู้เขียนใช้แรงงานน้องนุชสุดใจขาด
แหม ก็แค่แปลผิด คิดความหมายไปเอง กดจิ้มแป้นโดยไม่สนความเที่ยงตรง
มากกว่าตรงเวลาปล่อยของ ไม่ได้กระดิกเท้าอย่างสบายหรอกนะ
แต่แอบผิวปากตามไปด้วย แหม มีท่านมะนาวฯทั้งคน
มิน่า ใครเล่าก็รู้สึกอุ่นใจแบบให้ใครต้องร้อนก้นแทน
ความรู้สึกดีๆแบบนี้ เพิ่งรู้สึกที่มีท่านมะนาวฯประจำบ้านไว้ไม่ผิดหวัง


เอ้อ!รามเกียรติ์อนิเมชั่น ได้ยินข่าวมานานแล้วครับ
ตอนที่ไปดูอินเซปชั่น ก็มีจัดนิทรรศการของอนิเมชั่นเรื่องนี้หน้าโรง
แต่ได้ฟังสัมภาษณ์จากทางไทยพีบีเอส ในช่วงข่าวศิลปะบันเทิง
ทางผู้ผลิตอ้างว่า เหตุที่เขาทำได้ด้วยเวลาจำกัดเพียงสามสิบนาที
เพราะงบประมาณบานปลาย ไม่มีนายทุนใหญ่ค่อยสนับสนุน
เลยเร่งรัดจัดฉาย เพื่อหาผู้อุปถัมภ์ส่วนหนึ่ง และชิมลางอนิเมชั่นกลิ่นหนังตะลุง
ที่ผู้ผลิตกล่าวอย่างชื่นชมว่า เป็นอนิเมชั่นแบบไทยๆ ที่ไม่มีชาติไหนเคยทำมาก่อน
หาดูได้จากเว็บคลิปทั่วไปแหละท่าน เห็นปล่อยไว้มากมายหลายเจ้า
ส่วนไอ้วันแต่งงานก็บอกให้เขาเลื่อน หรือไม่ก็หนีตามกันไปก่อน
แหม นานๆจะมีงานอนุรักษ์วัฒนธรรมร่วมสมัยอย่างนี้
คู่รักเขาคงเข้าใจ และคงหลีกทางให้แก่กัน ไหนๆทางมะนาวฯ
ก็ดำรงสมณะกึ่งชีพราหมณ์อยู่แล้ว ไม่ไปงานเขา เขาก็คงไม่มีโอกาสไปงานเราอยู่แล้ว
ถือว่าเจ๊ากัน ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบอยู่แล้วนิ


kick ass ก็อยากดูเหมอืนกันนะ
แต่ที่ร้านเช่า โดนเด็กเกรียนเช่าแผงไปจนเฮี้ยน ซึ่งปกติหนังใหญ่ไว้ว่า
จะทรงคุณค่าหรือหวยแตกแค่ไหน มันก็เกลี้ยงจากเด็กเกรียนอยู่เสมอ
หลายคนกล่าวว่าเป็นหนังแอคชั่น หนึ่งในสี่ที่ดีที่สุดในรอบปีเลยละท่าน
ก็มี kick ass, a team ,night and day และ salt
อันนี้ฟังมาหลายเสียงในสายผู้ชำนาญงาน เป็นจริงตามนั้นหรือไม่
ไม่ทราบ เพราะทั้งสี่เลือก ก็จนปัญญาทื่จะได้รับชมด้วยเหตุผลนานาประการ
kick ass นี้ที่มีนิโคลัส เคจ เล่นด้วยรึเปล่าครับ
เคยดูตัวอย่างช๊อตสั้นๆ มาแอคชั่นฮีโร่ที่แนวมากเลย
แล้ววง B's นี้ขายงาน ไม่ได้ขาายหน้าตานะขอรับ กะกินดารานักร้องอีกแล้ว
โดยเฉพาะวงนี้ ได้รับเกียรติ์จาก Hall of frame ให้ไปประทับตาปูนซีเมนต์
ที่ hollywood palace มาแล้วละ


ความจริงผู้เชียน ทำอาหารเก่งสักอย่างให้เป็นเมนูประจำตัว
ไม่ได้สักอย่าง เคยคิดว่า ผู้ชายอย่างไรเสียก็ทำอาหารได้อร่อยกว่า
พวกแม่ครัวทั้งหลายอยู่แล้ว โดยเฉพาะการโรยเครื่องปรุงไม่ห่วงปริมาณ
เป็นความกล้าที่ท้าทายเหล่านักลองชิมมานักต่อนักแล้ว
ปรากฎว่าโลกทัศน์โภชนาที่ว่า ไม่ได้เป็นไปอย่างนั้น
การทำอาหารมันมีกระบวนการของความพอเหมาะพอควร
วัตถุดิบที่นอกจากจะช่างเลือกแล้ว ต้องชั่งตวงและผ่านกรรมวิธีสูตรเฉพาะ
แบบราชตระกูลเดจังกึม
เสน่ห์ปลายจวัก ไม่น่าเชื่อว่าจะสร้างหน่วยอริราชย่อมๆ
ให้ช่วยมาปกป้องท่านมะนาวฯ จากเหล่าพาหะศัตรูเพียงเพราะฤทธิ์ของความอร่อย
ฟังดูเหมือนจะเวอร์ ว่าอะไรจะทำได้อร่อยได้ขนาดนั้น
ขอชิมด้วยก็ไม่ให้ชิม หาว่าเกินโควต้าสักอีก
ดี! ให้เขากินกันเยอะๆ เขาจะได้โยนงานให้ท่านมะนาวฯไปทำเยอะๆเช่นกัน
ผู้เขียน่ทำอะไรเป็นนิดเป็์นหน่อย ไม่ค่อยกล้าไปฝาก
ดีก็เสมอตัว แต่ถ้าเผลอชั่วขึ้นมานี้ บั่นทอนความรู้สึกน่าดูเลย
ส่วนเรื่องผมยาวเร็วยาวช้า มันเป็นได้เฉพาะบางคนเหรอครับ
นึกว่า ทุกคนก็มีอัตราเฉลี่ยนของผมต่อความยาวไล่เรี่ยกัน ไม่นึกว่า
มียาวเร็วบ้าง ช้าบ้าง อันนี้ไม่รู้ว่าเป็นพรสวรรค์รึเปล่านะครับ
แต่เรื่องผม ก็ทำให้หลายคนหมดเปลือ้งไปกับค่าใช้จ่ายกับมันอยู่ไม่น้อยเลยนะครับ


เออ!ท่านมะนาวฯไม่รู้เคยเจอ หรือเคยเป็นไหม
คือ มีเพื่อนที่ไม่ได้ติดต่อกันนานมาก แล้ววันนี้ก็โทรเข้าสายมา
เพียงเพราะเขาฝันถึงเรา โดยที่เราไม่ได้ไปอินเซปชั่นความฝันร่วมกับเขา
ท่านมะนาวฯว่า มันน่าจะมีเจตนาอะไรแฝงรึเปล่าครับ
เพราะความฝันเป็นสมมติฐานจากปราศนาการของหลักฐาน
มีเพียงแค่คนกล่าวลอย โดยเจ้าของความฝันเอง ความฝันไม่ใช่คลิป
ที่จะส่งบลูทรูทแชร์ร่วมกันได้
ถ้าเป็นชาย ท่านมะนาวฯจะคิดเห็นประการใด
ถ้าเป็นหญิง ท่านมะนาวฯจะคิดเห็นประการใด
ถ้าเป็นท่าน จะโทรหาเพื่อนที่ไม่ติดต่อกันนานรึไม่
เรื่องของสมองนี้เป็นอะไรที่น่าคิดมากมายเลยนะครับ
แต่เหมือนว่าใน Mr.Brain แทบไม่ได้เอาประเด็นนี้มาทำเป็นเรื่องเป็นราว
ช่างรู้สึกเสียดายความสามารถของสมองนักแล ที่แม้แต่ซีรีย์ก็ใช่ประโยชน์
จากมันได้ไม่เต็มทื่ ว่าแล้วสู้เอามาล้มหมอนนอนเสื่อท่าจะดีกว่า


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 12 สิงหาคม 2553 เวลา:2:39:43 น.  

 
สุดยอดเก่งมากเลยการไขคดีของ Mr.brindขอบอกว่าสมกับที่เขาเรียกกันว่านายอัฉยะ


โดย: โ IP: 114.128.91.215 วันที่: 12 สิงหาคม 2553 เวลา:13:17:37 น.  

 
คุณchanpanakritก็ได้หยุดสี่วันเหมือนกันเหรอคะ
เพื่อนร่วมงานเลยทิ้งจากจรไปหมด
แล้วดูซิไปกล่าวหาพวกเขาว่ารักแม่เเบบไม่เคยปรากฎ
มะนาวว่าช่วง2-3ปีนี้ ให้ความสำคัญกับวันแม่ค่อนข้างมากนะคะ
อย่างวันนี้มะนาวขับรถไป ฟังFM.101ไป
เขาและเธอเล่าถึงความรักของแม่ที่มีต่อลูก
ขนาดเป็นเรื่องของฝรั่งนะคะ มะนาวยังอินซะ
ขับไป ร้องไห้ไป ฮือ ฮือซาบซึ้งค่ะ
มะนาวก็เพิ่งรู้นะคะว่า
ผู้ชายทำอาหารได้อร่อยเพราะไม่หวงเครื่องปรุง
มะนาวเคยแปลกใจเหมือนกันว่า
ทำไมเชฟที่มีชื่อเสียงถึงมีแต่ผู้ชาย
เอ๊!หรือเป็นเพราะสาเหตุนี้จริงๆคะ

ใช่ค่ะเรื่องKick-AssมีNicolas Cageแสดงด้วยค่ะ
เป็นป๊ะป๋าปืนโหด แดดดี้ของหนูม่วงHit Girl ค่ะ
ส่วนเรื่องThe A-Teamมะนาวก็อยากดูค่ะ
แต่ร้านเจ้าประจำบอกว่ามาสเตอร์ยังไม่ออกเลยค่ะ
ส่วนKnight and DayหนังของTom Cruiseไม่ใช่เหรอคะ ไม่ดูค่ะ
เรื่องSaltมีคนบอกว่าเค็มแต่ดีค่ะ555
เมื่อคืนมะนาวดูเรื่อง"9" Animationแล้วค่ะ
เพิ่งรู้ว่าเป็นเรื่องของตุ๊กตากระสอบ
ที่เป็นความหวังของมนุษยชาติ
ตุ๊กตาแต่ละตัวก็สร้างให้ไม่เหมือนกัน
มีความแตกต่างกันตามลักษณะนิสัย
มะนาวดูแล้วเฉยๆกับตุ๊กตากระสอบตัวที่ 9ค่ะ
แต่ชอบตุ๊กตาคู่แฝดที่ขี้อาย น่ารักดี อยากรู้ อยากเห็น
และที่เท่โดนใจคือตุ๊กตากระสอบตัวที่7 เท่ซะ
แต่ฉากดูแล้ว เหี่ยวๆ หดหู่นะคะ
เพราะเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง
โดยรวมมะนาวไม่สัปหงกเลยค่ะ
อาจเป็นเพราะการนำเสนอแปลกดีค่ะ
วันนี้มะนาวอาจจะดูเรื่องIp Man 2ค่ะ
เห็นหลายเสียงบอกว่าสนุกค่ะ
คุณchanpanakritรู้จักสเตลล่า มาลูกี้ นางเอกฟ้าทะลายโจรไหมคะ
เธอมาออกรายการตีสิบ เธอถูกตัดขาขวาทิ้ง
เพราะเป็นโรคเกี่ยวกับต่อมพาราไทรอยด์(Parathyroid gland)
ที่ทำให้ปริมาณแคลเซียมสูงผิดปกติ จนเป็นอันตราย
ต้องตัดขาขวาทิ้งเพื่อรักษาชีวิต น่าสงสารจังเลยคะ

คุณchanpanakritก็ได้คุยกับเพื่อนแล้วไม่ใช่เหรอคะ
แล้วไม่ทราบเหรอคะว่า นอกจากเพื่อนโทรมาเพราะฝันถึงเราแล้ว
เพื่อนมีจุดประสงค์อะไรอีก ถามความเห็นมะนาวเหรอคะ
ถ้าเป็นชายโทรมาเหรอเขาคงอยากได้เบอร์โทรติดต่อของเพื่อนอีกคนหนึ่งมังคะ
ส่วนถ้าเป็นหญิงโทรมาเหรอคุณchanpanakritไปทำอะไรให้เขาต้องจดจำบ้างล่ะคะ
เพราะอาจเป็นประเภทอยากจำกลับลืม อยากลืมกลับจำมังคะ
ซึ่งมันอาจผุดขึ้นมาเป็นพักๆ เขาจึงโทรมาถามข่าวคราวมังคะ
เพียงแต่ใช้เรื่องฝันมาเป็นเหตุผลรองรับในการโทร
ไม่รู้ซิคะ คนที่รู้ดีที่สุดก็คุณchanpanakritนั่นแหละ มาถามอะไรมะนาว
ส่วนถ้ามะนาวฝันถึงเพื่อนสักคนหนึ่งที่ไม่ได้ติดต่อกันมานาน
มะนาวก็คงแค่เอ๊!เราฝันถึงเขาทำไมนะ แล้วก็จะเลือนๆไป
และก็คงไม่ได้สนใจ ขนาดต้องโทรไปหาหรอกค่ะ
ส่วนเรื่องความฝันนั้นก็ยังเป็นสิ่งที่ยังไม่รู้แจ้งเห็นจริงกันเลยค่ะ
ว่าทำไมคนเราถึงต้องฝัน แล้วช่วงที่คนเราเมื่อนอนหลับนั้น
เราก็ไม่ไ้ด้หลับอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืนค่ะ
ในขณะที่ร่างกายส่วนอื่นๆ กำลังพักผ่อน
แต่สมองซีกขวากำลังทำงานค่ะ เรียกว่าอยู่ในสภาวะการหลับตื้น
หรือการหลับชนิดกลอกตาเร็ว (REM= Rapid Eye Movement)
ซึ่งจะเกิดสภาวะเช่นนี้ประมาณ 4-5 ครั้งต่อคืน เนื่องจากสมองซีกขวากำลังทำงาน
จึงเกิดการคิดและจินตนาการถึงเรื่องราวต่างๆ และนั่นเป็นที่มาของความฝันค่ะ
หากลืมตาตื่นขึ้นหลังจากสภาวะการหลับตื้น
เราก็จะนึกเนื้อหาของความฝันนั้นออก
แต่หากร่างกายส่วนอื่นๆ รวมทั้งสมองซีกขวาอยู่ในสภาพการพักผ่อนโดยสิ้นเชิงแล้ว
จะเรียกว่า สภาวะหลับลึก
หรือการหลับชนิดไม่กลอกตาเร็ว (NREM=non rapid eye movement)
ซึ่งในสภาวะเช่นนี้เมื่อเราลืมตาืตื่น
เราก็จะจำความฝันหรือจำเรื่องที่ฝันไม่ได้เลย
และเราจะรู้ว่าคนผู้นั้นอยู่ในสภาวะการหลับลึกหรือหลับตื้น
ก็โดยการตรวจคลื่นสมองของเขาขณะหลับ
คนเราเมื่อเข้านอนประมาณ 15 – 20 นาที ก็จะเริ่มเคลิ้มหลับ
ซึ่งรูปแบบการนอนจะแบ่งตามลักษณะคลื่นสมองออกเป็น 4 stageค่ะ
เมื่อเริ่มหลับคลื่นสมองจะเป็น stage 1 และหลับลึกลงเรื่อยๆ
45 นาที ต่อมาจึงเข้าสู่ stage 4 ซึ่งเป็นช่วงที่หลับลึกที่สุด
หลังเข้าสู่ stage 4 ประมาณ 45 นาที การนอนจะเข้าสู่ช่วง REM
แล้วกลับสู่รูปแบบเดิมอีก ในแต่ละคืนจะเกิดเช่นนี้ 5 – 6 cycle
โดยในช่วงหลัง REM จะนานขึ้น stage 3 และ 4 น้อยลง
ส่วนขณะตื่นคลื่นสมองเป็น alpha waves 8 – 12 รอบต่อวินาที
เป็น low – voltage และความถี่ผสม (mixed frequency)
เมื่อเริ่มหลับ alpha waves เริ่มหายไป เข้าสู่ขั้นตอนการหลับที่แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ
NREM (non rapid eye movement)กับREM (rapid eye moverment)
นอกจากนั้นยังมีสารAcetylcholine ซึ่งเป็นสารเคมีในสมอง
ที่เกี่ยวข้องกับความฝันอีกด้วย เพราะเป็นตัวที่ทำให้เกิดREMค่ะ
แหะ แหะ มึนไหมคะ คุณchanpanakritพออ่านรู้เรื่องบ้างไหมคะ
เรื่องของสมองเป็นอะไรที่ซับซ้อนมากๆค่ะ
มะนาวอาจอธิบายไม่ดีก็ได้ค่ะ ก็มะค่อยเก่งค่า

พรุ่งนี้กับมะรืนนี้มะนาวขอเวลานอก2วันนะคะ
แหะ แหะ แล้วเหมือนเดิมนะคะ
คุณchanpanakritช่วยเม้นต์ทิ้งไว้ให้มะนาวด้วยนะคะ
เจอกันวันอาทิตย์นะค่า



โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.22.8 วันที่: 12 สิงหาคม 2553 เวลา:19:59:29 น.  

 
ถึงหยุดสี่วัน ก็เป็นวันหยุดที่ต้องสแตนบายนะท่านมะนาวฯเอย
ต้องมาออฟฟิครอบเช้า ก็แปลกใจอยู่เหมือนกันว่าทำไม
โต๊ะทำงานในออฟฟิค มันช่างวังเวงวิเวงโหวงได้เช่นนี้
นึกว่ามีซ้อมหนีไฟกันแต่เช้า เพราะเวลาซ้อมหนีไฟประจำตึกทีไร
ผู้เขียนจะแอบไปก่อไฟกับพรรคพวกที่หน้าตึกทุกที
แต่เช้าเมื่อวานแปลกหน่อยตรงที่ มีแต่ผู้เขียนทำเสลอเข้างาน
โดยไม่รู้ว่า โดนผู้ร่วมงานดัดหลังเอาสักแล้ว ขณะเดียวกัน
งานที่สุ่มก่อก็ต้องปล่อยให้หมวดทุกที งานนี้ไอ้คนที่ต้องสแตนบายแทนชาวบ้าน
ก็ตกที่เราโดนทันที เลยต่อรองเอาโอทีสักเลย ซึ่งก็ไม่คุ้มหรอก
แต่มันต้องทำละน้อ จะหลีกเลี่ยงเช่นใดได้
จะเเอบส่งสัญญาณให้ท่านมะนาวฯทราบ ก้ำกึงว่ามันอาจจะเสร็จเร็ว
แต่เอาเข้าจริง หน่วยประสานงาน ไม่มีใครพร้อมหรือทำให้สักคน
ต้องคอยๆแก้ไปทีละประเด็น หงุดหงิดชะมัดหยาดเลย
แต่คงเป็นกฎแห่งกรรม เพราะผู้เขียนก็เคยจิกกะบาลสาวน้อยเกรียนสยาม
ให้ช่วยตรวจบรู๊ฟ แปลศัพท์ และหาของทานไปเรื่อย
ความบรรลัยก็เลยสะท้อนเข้ากับตัวเอง อย่างว่าอะน้อ
มันก็ต้องมีความแค้นเป็นแรงส่งจากคนปลายทางด้วย
ไม่งั้น คงไม่เห็นฤทธิ์ออกเร็วเช่นนี้ ได้ฟังอย่างนี้แล้ว ขอส่าแก่ใจอะสิ
แถมไปตอกตะปู โดยโชว์วิชาพื้นบ้าน ด้วยการเอานิ้วโป้งกับนิ้วชี้ที่ปลายเท้า
เป็นตัวหนีบพยุงตะปู ไม่อยากเชื่อว่าวิถีโค้งของการยิงระยะห่าง
จะพลาดเป้า เบี่ยงเบนไปห้าองศา โดนยำเล็บมือนางไปเต็มๆ
กลับมาฝนตกหนัก ข้าวยังไม่ได้ทาน ก็เร่งมาตอบให้คนปลายทางประทับใจ
ที่ไหนได้แอบชะงอนอยู่หลังตัวทิ่มด้ามไมค์ แถมไม่อัพเลเวลล์พลัฟให้อีก
สงสัยจะแค้นฝังหุ่นกันเต็มๆ ฟังดู ท่านมะนาวฯเองก็บอกเสมอนักหนาว่า
เป็นขวัญใจในที่ทำงานตามประสากุลสตรีดีเด่นตกยุค
แล้วนี้ทำไม สิ่งที่ผู้เขียนรู้สึก ออกจะในเชิงสวนกระแสวงการเช่นนี้
รึเนี่ยเป็นอีกตัวตนหนึ่งที่แยกร่างอวตารที่จริงแท้ในอีกด้าน
วันแม่แล้วก็รักแม่มากๆแล้ว ก็เเผ่ให้สัตว์โลกบาลทั้งหลายแหล่ด้วยท่าจะดีนะครับ
เจอะไฟช๊อตที่หลังไมค์ มันรั่วมันซึมเล่นเอาชาหน้าวันแม่ทั้งวันเลย
งั้นต้องขอร้อยมะลิกราบขอขมา แต่ตั้งแต่ต้นยันท้ายซอยมีแต่ดอกหน้าวัว
ก้ถือกราบไปบูชายัญแทนพลางๆก่อนละกันนะท่าน
ใบมันใหญ่ดี เอาไปเช็คน้ำตาจากคลื่น 101 ไปชั่วคราวในช่วงที่หา
กระดาษทิชชูไม่ได้ ถือเป็นการอนุรักษ์ธรรมชาติไปอีกทาง

วันนี้ค้นหา รีวิวบล็อกหนังเก่าๆ จากในบล็อกแก็งค์
เพิ่งรู้เ หมือนกันนะว่า มีร่ายเสียจะทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องที่ไม่น่าจะมีใครดู
ที่นี้เป็นแหล่งศูนย์รวมนักเล่า ได้หลากหลายดีจังเลยนะขอรับท่าน
เพิ่งรู้อีกนะว่า kick ass นี้ เป็นผู้กำกับคนเดียวกับที่ทำ สตาร์ดัส
พลิกหนังให้ไปอีกคนละฟิวส์ได้มันส์สะเด๋วดีจังเลยนะครับ
ยังหาดูไม่ได้เลย แต่ไม่รีบหรอกนะ เป็นฮีโร่ไร้ต่อมความรู้สึก
ไม่ทราบว่าในวงการแพทย์เขามีอาการเช่นนี้จริงรึเปล่าท่าน
คงไม่มีจริงหรอกนะ อย่างนั้นมันก็ต้องกล้ามเนื้อประสาทตาย
อัมพฤกต์รับประทาน ต้องตัดทิ้งสถานเดียวใช่รึเปล่า
แสดงว่านิโคลัส ไม่เด่นสิครับเพราะเล่นแค่เป็นพ่อ hit girl
แอบไปดูคลิป เรื่องนี้มีฉากที่ตัวพ่อใหญ่ สอนลูกโดยเล่นกระสุนจริง
คงเกรียนมหาประลัยสมชื่อเลย พูดถึงนิโคลัส เคจนี้
เป็นคนที่แสดงหนังมาก แต่คุณภาพดร็อปลงทั้งน่านเลย
ที่ดูเหมือนจะมีคำชมหน่อย ก็เป็น national treasure ภาคสอง
knowing ส่วนใหญ่จะถูกชมในเรือ่งของบทมากกว่าฝีมือของเฮียเขา
แต่ผู้เขียนก็ชอบดูทุกงานที่แกรับเล่นนะครับ
สายตาเศร้าๆของแก ดูหม่น โทรม และไร้อนาคตกาลดี
ดู อนิเมชั่น 9 แล้วไม่ชอบเหรอครับ ผู้เขียนว่าออกแบบตัวละครและเรื่องราว
ได้เบอร์ตันดี ไม่เข้าใจน้อว่าทำไมไม่เข้าโรงเมืองไทย
เออ ท่านมะนาวฯเคยเข้าโรงไอ้ประเภททรีดีบางรึเปล่าครับ
ตอนนี้คุณภาพของตัวภาพดูจะถูกมองข้าม โดยหันมาให้ความสำคัญกับลูกเล่นแทน
ทีวีที่จะมาจับตลาดบน ก็มุ่งเน้นเทคโนโลยีขายพร้อมแว่นสามมิติ
ต่อไปคอม ก็คงต้องเล่นผ่านแว่นตา มือถือก็คงต้องใช้ชิบที่ประมวลสามมิติ
ความจริงเรือ่งสามมิติครองโลกนี้ มีมาตั้งแต่กระแสเกมส์เพลย์สเตชั่นแล้วละครับ
เป็นการสร้างงานภาพให้มีความเป็นโปรโตคอลก้อนๆ
แต่ผู้เขียนยังผูกพันกับงานภาพสองมิติอยู่เลย เพราะมันง่ายกับความเข้าใจ
และง่ายต่อสร้างด้วยตนเอง
ยิปมันสอง ก็ยังไม่ได้ดูเลยท่าน มีหงจิน เปามาโชว์กังฟูบนโต๊ะโรงเตียม
คงสนุกจริงดั่งว่าละท่าน เห็นว่าขายความเป็นคอมเมอร์เชียลอาร์ทงามๆ
เปลี่ยนศัตรูสงครามอย่างเจ้ายุ่น หันมาเป็นการอนุรักษ์ศิลปะมวยยงชุนในเวทีโลก
น่าดูเหมือนกันครับ กำลังรอการบันดาลจากเพื่อนสนิทอยู่


เกิดอะไรขึ้นกับนางเอก ฟ้าทะลายโจรเหรอคับ
ถึงกับตัดขาตัดแข้งกันเลยเหรอครับ พาราไทรอยด์นี้

เป็นผลมาจากกรรมพันธ์หรือการทานอาหารรึเปล่าครับ
ท่านมะนาวฯพอรู้อัตราส่วนต่อจำนวนคนปกติที่มีความเสี่ยงรึเปล่าครับ
คงไม่ได้เกิดกับเฉพาะคนหน้าตาดีเท่านั้นอะน้อ ไม่งั้นเสียดายแย่เลย
มันก็ทำให้เราต้องคิดกับอวัยวะหลายส่วน ว่าเราได้ใช้งานมันสมความรู้สึกว่าคุ้มค่ารึยัง
ดัง้นั้น ท่านมะนาวฯ ไม่มั่นสนทนาประสาทะกับผู้เขียนในวันนี้
วันไหนเราก็ไม่รู้อะน้อว่าจะพิมพ์ไม่ได้เหมือนอย่างเก่า จะตัดเยื่อไม่เหลือใย
ก็ใคร่ครวญให้ดีนะเออ โฮ๋ๆ ว่าแล้วก็ขู่สักเลย

คงจริงอย่างที่ท่านมะนาวฯว่านั้นแหละ
น่าจะเป็นการเปิดประเด็น หาหัวข้อมาคุยมากกว่า
ผู้เขียนได้รับสายก็ยัง มานั่งนึกไตร่ตรองความสมเหตุสมผลอยู่ในใจ
นี้ก็พยายามเทียบเคียงกับภาวะ REM ขั้นไหน
ไอ้ตอนที่คบๆกัน ตอนหลับก็ไม่ได้มานั่งสังเกตุการกรอบกระพริบตา
ว่ามันกี่ปิบๆ แต่ท่านมะนาวฯนาทีเดียวก็หลับแล้ว
ไม่ต้องโปะยาสลบก็หลับง่าย หลับมันได้ทุกที่
เออ พูดถึงสารAcetylcholine ดูเหมือนว่าใน inception จะมีการอ้างถึงด้วยละ
ท่านมะนาวฯดูเรื่องนี้น่าจะสนุกนะขอรับ แต่อาจจะหลับก็ได้
เพราะตอนผู้เขียนดูในโรง ยังมีเด็กเดินออก ตั้งห้าคนแนะ


หายไปสองวันเลยเหรอครับ
ก็ขอสนุกกับงานให้เต็มที่นะครับ ทำแล้วมีประโยชน์ต่อมนุษยชาติ
แล้ววันอาทิตย์จะมาทันเหรอครับ เพราะต้องไปร่วมงานแต่งงานอีก
ตามแต่สะดวกท่านละกัน เพราะคะแนนจิตวิสัยสำหรับท่านมันเต็มร้อยอยู่แล้ว


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 12 สิงหาคม 2553 เวลา:21:22:24 น.  

 
เล็บที่โดนตะปูเป็นยังไงบ้างคะ ระบมมากไหมคะ
เจ็บมากไหมคะ แล้วตอนนี้ดีขึ้นบ้างแล้วยังคะ
ยังเจ็บอยู่หรือเปล่าคะ ใส่รองเท้าได้ไหมคะ
แล้วทำไมถึงใช้เท้าหนีบตะปูล่ะคะ
ทำไมไม่ใช้มือจับ ปกติเขาใช้มือหนึ่งจับ มือหนึ่งตอกไม่ใช่เหรอคะ
คุณchanpanakritคงประมาทล่ะสิคะ เห็นไหมคะเลยทำให้เจ็บตัวเลย
แล้วที่ไปทำงานเขาไม่ให้หยุดทานข้าวเลยเหรอคะ
กลับมาดึกๆขนาดนั้น จะหาของทานได้จากที่ไหนคะ
มะนาวได้ยินอย่างนี้แล้ว รู้สึกเกลียดตัวเองจังเลยค่ะ
รู้สึกว่าตัวเองนิสัยแย่มาก ขอโทษนะคะ
แถมเข้ามาก็อปปี้ก็ไม่ได้อ่านรายละเอียดอะไรอีก
เฮ้อ!รู้สึกว่าตัวเองนี้ต้องปรับปรุงนิสัยกันขนานใหญ่แล้วล่ะค่ะ
อย่างที่คุณchanpanakrit สงสัยว่ามะนาวเป็นขวัญใจได้ไง
ก็ถ้าอยู่ที่ทำงานมะนาวจะดูเหมือนเป็นคนนิ่งๆไม่เอาเรื่องเอาราวกับใคร
ดูเหมือนคนใจดี แต่นิสัยจริงๆของมะนาวคือเป็นคนพะบู๊ และวีนแตกง่ายๆค่ะ
มะนาวก็เลยต้องหัดรู้จักควบคุมตนเองค่ะ ไม่อย่างนั้น ได้กระเจิงกันง่ายๆค่ะ
ถ้าไม่สนิทกันจริงๆ แทบไม่รู้จักนิสัยที่แท้จริงของมะนาวเลยค่ะ
อย่างเพื่อนซี้กลุ่มเดียวกันก็เจอฤทธิ์เดชมะนาวมาแล้วค่ะ
อย่างตอนที่อยู่ปีสี่ พวกเราไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน
และมีรุ่นพี่ไปด้วยกลุ่มใหญ่สิบกว่าคน
แล้วที่พักมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ พวกเพื่อนเค้าก็เตรียมชุดว่ายน้ำกันไป
แล้วไม่ได้บอกมะนาว ปรากฎว่ามะนาวมารู้ตอนที่จะขึ้นรถทัวร์
นั่งร้องไห้งอนเพื่อน น้อยใจเพื่อนอยู่ตรงท่ารถทัวร์นั้นล่ะค่ะ
จนพี่ๆเพื่อนๆทำอะไรไม่ถูกเลยค่ะ
แถมพอไปถึงที่พัก คุณchanpanakritเชื่อเปล่าคะ
เพื่อนๆไม่มีใครได้ลงสระเลยค่ะ ไม่กล้าลงกัน
เพราะกลัวว่ามะนาวจะเสียใจ แล้วดูสิคะ
แทนที่มะนาวจะบอกเพื่อนว่าเราไม่เป็นไร พวกเธอไปเล่นน้ำกันเถอะ
มะนาวกลับเฉย เพราะยังงอนไม่หาย ดูฤทธิ์เดชมะนาวซิคะ
โชคดีว่าเพื่อนๆมะนาวนิสัยดี พวกเค้าก็เลยทนนิสัยแย่ๆของมะนาวได้ไงค่ะ
คุณchanpanakritตอนนี้ก็คงอยู่ในสภาพแบบเดียวกับเพื่อนมะนาวล่ะค่ะ
แหะ แหะ มะนาวจัดให้คุณchanpanakrit
เป็นเพื่อนซี้ในโลกไซเบอร์ของมะนาวไปแล้วค่ะ
(ฟังดูเท่จังมีเพื่อนซี้ในโลกไซเบอร์ หุ หุ)
เพราะฉะนั้นคุณchanpanakritต้องทนอย่างเดียวแล้วล่ะค่า
แต่ถ้าทนไม่ไหว อนุญาตให้ไล่มะนาวได้อีกรอบค่า
(อิ อิ แล้วจะมานั่งร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่หน้าบล็อก อิ อิ)
แล้วออฟฟิศของคุณchanpanakritมีซ้อมบรรเทาสาธารณภัยด้วยเหรอคะ
ซ้อมปีละครั้งหรือว่า6เดือนครั้งคะ มีโรยตัวลงมาไหมคะ
มีตำรวจดับเพลิงมาช่วยซ้อมให้ไหมคะ
และต้องมีหน่วยปฐมพยาบาลไปประจำการให้ไหมคะ
อยากรู้ค่ะว่าใกล้เคียงกับที่มะนาวเคยเห็นหรือเปล่า

คุณchanpanakrit สงสัยว่ามีหรือเปล่าไอ้โรคไร้ความรู้สึกเจ็บปวด
555จะบอกว่ามีค่ะ ชื่อโรคCIP(Congenital insensitivity to pain)หรือ
congenital analgesiaจะแต่ค่องข้างเป็นrare casesนะคะ
สาเหตุเกิดจากมีการผลิตสาร"endorphins"
ซึ่งเป็นสารสารสื่อประสาท( neurotransmitters)
ที่ลดความเจ็บปวดขึ้นที่ต่อมใต้สมองส่วนหน้า(pituitary gland)
จึงทำให้คนที่ป่วยเป็นโรคนี้ไม่รู้สึกเจ็บปวด( cannot feel pain)
ถ้าดูรากศัพท์คำว่า"Endorphin"จะเห็นว่ามาจากคำ2คำสนธิกัน
คือ"endogenous + morphine."พอกระจ่างไหมคะ
แต่มะนาวว่าคนที่ป่วยเป็นโรคนี้ ต้องระวังกันเป็นพิเศษนะคะ
เกิดทะเลาะกันถึงตายได้นะคะ เพราะยิงกัน แทงกันมันไม่รู้สึกไงคะ
กว่าจะรู้กัน หยุดหายใจซะแล้ว มันจึงเป็นhigher riskค่ะ
ส่วนกรณีของนางเอกจากหนังเรื่องฟ้าทะลายโจร
จากที่อ่านมานะคะเธอมีภาวะแคลเซี่ยมในเลือดสูง
ที่เกิดจากความผิดปกติของต่อมพาราไทรอยด์
ซึ่งต่อมพาราไทรอยด์มีหน้าที่สร้างพาราไทรอยด์ฮอร์โมน (parathyroid hormone)
หรือพาราทอร์โมน (parathomone) เรียกชื่อย่อว่าพีทีเอช (PTH)
Parathomone ทำหน้าที่ควบคุมเมตาบอลิซึมของแคลเซียมและฟอสฟอรัสในร่างกาย
โดยทำให้ความเข้มข้นของcalciumและinorganic phosphate
ในกระแสเลือดให้อยู่ในระดับปกติ
แต่ในกรณีของสเตลล่า มาลูกี้พบว่ามีแคลเซียมในร่างกายสูงมากผิดปกติ
จากการตรวจพบว่าขนาดของต่อมพาราไทรอยด์ของเธอโตผิดปกติ
(ขนาดปกติประมาณเท่าเมล็ดถั่วเขียว)เมื่อแคลเซียมในกระแสเลือดสูง
ก็จะไปสะสมที่อวัยวะต่างๆโดยเฉพาะอวัยวะที่สำคัญๆ
เธอเล่าว่าของเธอมีแคลเซียมสูงผิดปกติที่ปอด
ทำให้เกิดอาการน้ำท่วมปอด และมีโอกาสหัวใจวายได้
เธอถูกส่งเข้ารักษาที่ห้องไอซียู
และแพทย์ใช้เครื่องช่วยทำงานแทนปอดและหัวใจ
โดยการแทงเข็มไปที่เส้นเลือดใหญ่ที่ต้นขาขวา เพื่อต่อเข้าหัวใจ และปอด
ต่อมาขาขวาเริ่มบวมและเท้าเริ่มจะเน่าดำ
แพทย์จึงต้องตัดขาขวาทิ้งเพื่อป้องกันการติดเชื้อในกระแสเลือดค่ะ
มะนาวสันนิษฐานว่ากรณีของเธอคงเกิดGANGRENEขึ้นนะค่ะ
คือการที่เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงอวัยวะส่วนนั้นๆได้
จึงเกิดสภาพเนื้อเน่าตาย แต่เป็นการเน่าตายของเซลล์โดยไม่มีการติดเชื้อน่ะค่ะ
จึงไม่มีน้ำเหลืองน้ำหนอง แต่เห็นเป็นเนื้อตายแห้ง ๆ สีดำ ๆ
ที่เรียกกันว่าDRY GANGRENEค่ะ
แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้จะเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดได้ค่ะ
จึงเกิดกรณีตัดขาเพื่อเป็นการเสียส่วนน้อยรักษาส่วนใหญ่(ชีวิต)ไว้ไงค่ะ
ไม่รู้มะนาวอธิบายได้เข้าใจปล่าวคะ ไหนบอกหน่อยจิ๊

มะนาวไม่ได้พูดซะหน่อยว่าไม่ชอบ"9" Animation
เพียงบอกว่าฉากหดหู่เท่านั้นเอง
ไม่ถึงกับไม่ชอบหรอกค่ะ
เพียงแต่ถ้าเปรียบเทียบกับAlice in Wonderland
มะนาวชอบAliceมากกว่าค่ะ แต่"9"มะนาวก็ดูได้สนุกนะคะ
คุณchanpanakrit ได้ข่าวหนังเรื่อง"เจัานกกระจอก"บ้างไหมคะ
เห็นว่าคนดูต้องอายุ 20อัพค่ะ เพราะมีฉากเห็นอวัยวะเพศน่ะค่ะ
แต่มะนาวอ่านเรื่องย่อคร่าวๆแล้ว เดาว่ามันเห็น
เพราะมันเกี่ยวกับการดูแลให้การพยาบาลน่ะค่ะ
เพราะตัวเอกบอกว่าได้รับอุบัติเหตุเป็นอัมพาตค่ะ
เป็นเหมือนเรื่องที่เปรียบเปรยถึงการมีอยู่ของตัวตน
นานๆจะเห็นหนังไทยสร้างหนังแนวนี้นะคะ
แถมดาราที่แสดงมะนาวไม่เห็นคุ้นชื่อเลยค่ะ
แล้วทำไมชื่อเรื่องถึงตั้งว่า"เจ้านกกระจอก"ล่ะคะ
มันจะสื่ออะไรเหรอคะ คุณchanpanakritพอทราบไหมคะ
และตอนนี้ที่กำลังเป็นที่กล่าวถึงในกระทู้คือหนังเรื่อง"สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก"
เสียงส่วนใหญ่บอกว่าเป็นหนังดีค่ะ ประทับใจ
นักแสดงแต่ละคนเป็นธรรมชาติดี โดยเฉพาะตุ๊กกี้บอกเธอตลกมาก
บอกว่าเหมือนเป็นเรื่องจริงของทุกๆคน
ที่เคยแอบชอบเพื่อน ชอบรุ่นพี่ ชอบรุ่นน้อง
ฟังดูเหมือนเป็นหนังแนวNostalgiaอย่างนั้นล่ะนะคะ
เห็นบอกว่าดูแล้ว Feel Good มากๆเลยค่ะ
ส่วนเรื่องที่มะนาวอยากดูมากๆเลยค่ะคือเรื่องBAARIAค่ะ
เพราะบอกว่าเป็นผลงานของผู้กำกับCINEMA PARADISO
ซึ่งเป็นหนังในดวงใจอันดับหนึ่งของมะนาวไงคะ
แต่คงต้องร้องเพลงรอนานแน่ๆเลยค่ะ
เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่แผ่นถึงจะออก
ยิ่งเป็นหนังสัญชาติอิตาเลียนด้วยแล้ว
คงต้องรอเป็นลิขสิทธิ์อย่างเดียวแน่เลยค่ะ
จะรอ จะรอ จะรอ แม้นานแค่ไหนก็จะรอ ฮิ ฮิ

คุณchanpanakrit เคยได้ข่าวตุ๊กตาบาร์บีมุสลิมไหมคะ
ที่ชื่อ"ฟุลลา"น่ะค่ะ มะนาวว่าคนผลิตฉลาดมากเลยนะคะ
เพราะในโลกนี้คนนับถือศาสนาอิสลามมีไม่น้อย
แล้วตลาดตรงนี้ก็ใหญ่มหึมา ข่าวบอกว่ายอดขาย
ตุ๊กตาฟุลลาไม่มีตกเลย มีแต่เพิ่มขึ้นๆ
แถมไม่ว่าตั้งราคาแพงแค่ไหน ผลิตมากี่ล็อตๆก็หมดสต็อก
โอ้!นะสมัยนี้ตุ๊กตาราคาเป็นหมื่นๆก็ยังกล้าซื้อให้ลูกเล่น เฮ้อ!
พอๆกับข่าวตี๋น้อยเมืองจีน ที่นับวันจะอุดมสมบูรณ์
จนต้องเข้าค่ายลดน้ำหนัก เพราะนโยบายลูกคนเดียวหรือเปล่าคะ
อาตี๋น้อยถึงถูกปรนเปรอมากขนาดนั้น
คุณchanpanakritกับมะนาวเราต่างก็ไม่ใช่ลูกคนเดียว
เลยมีสภาพเหมือนเด็กขาดอาหารทั้งคู่ว่าไหมคะฮิ ฮิ
แถม2วันมานี้งานพี่เค้าก็ไม่เสร็จ มะนาวก็เหนื่อยจะแย่
ตะลอนๆไปตรงโน้น ตรงนี้ รองเท้าก็กัดอีก ทรมานไปหมดเลยค่ะ
วันจันทร์สงสัยต้องแบกNotebookไปทำต่อที่ทำงานแน่เลย ฮือ ฮือ เศร้า

อ้อ!แล้วรู้ปล่าวคะว่าคำว่า"งิ้ว"
มะนาวนึกว่าคุณchanpanakritจงใจพิมพ์ผิดซะอีกค่ะ
ไม่ได้นึกเลยว่าพิมพ์ผิดจริงๆ เลยแซวแรงไปหน่อยขอโทษนะคะ
แล้วฟังเสียงหลังไมค์ดูเหงาๆจังเลยค่ะ เป็นไรปล่าวคะ
ไม่เป็นไรนะคะ
แล้วมะนาวว่าเราอย่าเพิ่งโยกไปคุยในบล็อกใหม่เลยนะคะ
เกรงใจคนที่เขาจะเข้ามาเม้นต์น่ะค่ะ
ดูอย่างกรณีบล็อกMR. BRAINนี้ก็ได้ เห็นไหมคะ
จะเข้ามาเม้นต์ ล็อกอินยังพิมพ์ผิดพิมพ์ถูกเลยค่ะ
พิมพ์ชื่อเรื่องก็งงๆ คงเกิดจากต้องลากเมาส์สุดลิ่มทิ่มประตู
เลยลืมหมดว่าจะเม้นต์เรื่องอะไร
หรือว่าเผลอไปอ่านที่เราคุยกันเข้า ซึ่งไม่เกี่ยวกับชื่อเรื่องเล้ย
ผลเบลอ ลืมหมดอีกว่าจะเม้นต์เรื่องอะไร
มะนาวว่าทิ้งไว้สักพักแล้วเราค่อยโยกไปคุยดีไหมคะ
เกรงใจคนเข้ามาจริงๆค่ะ คุณchanpanakritว่าไงคะ
เห็นด้วยกับมะนาวนะคะ นะ นะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.92.109 วันที่: 15 สิงหาคม 2553 เวลา:11:54:24 น.  

 
มันคล้ายๆกับว่าผู้เขียน กับท่านมะนาวฯไม่ได้คุยกันนานเลยนะขอรับ
ก็อย่างว่า คนที่เคยพบปะอยู่ทุกวัน หายไปวันเดียว
คงไม่ต่างจากใคร แปรงสีฟันด้ามประจำไปซ่อนอะน้อ
นิ้วเท้าจบมันก็ดีเหมือนกันนะครับ อย่างน้อยก็ทำให้เราอยู่ติดบ้าน
ไม่คิดจะออกไปไหนไกลให้รองเท้าสวมวิญญาณดุ กัดเจ้าของรองเท้าเล่นๆ
เหตุที่เอาเท้าไปจับแทนมือ อย่างว่าของมันต้องใช้แรงเหวี้ยงสูง
กำลังพละทั้งสองมือจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น แต่คงล้าจากการขาดอาหารตาก็เลยลาย
อีกอย่าง ทุบตะปูสักร้อยครั้ง พลาดสักครั้งคงไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่แย่ตรงที่พลาดครั้งเดียว เป็นจังหวะที่มีนิ้วเท้ารองรับอีกชั้น แทนที่จะเป็นพื้นปู
คิดในแง่ดี อย่างน้อยๆ ก็ได้มาสนทนาอย่างคล่องมือต่อท่านมะนาวฯ
ถ้าขืนนิ้วมือไปโดนค้อนเข้า คงทุลักทุเลแย่ในการยกเท้าสักข้างมาแทนมือ
แล้วต้องมากดแป้นพิมพ์จิ๋ว เวลาท่านมะนาวฯต้องการคนคอยปลอบใจ
อย่างไรเสีย การใช้มือลูบหัวมันน่าจะให้ความรู้สึกที่ดีกว่า
ลองคิดว่า ตอนนี้ผู้เขียนใช้เท้าเป็นอวัยวะสัมผัสเพื่อปลอบใจสิ
......คงเป็นความรู้สึกที่แย่น้อ อีกทางตอนนี้ผู้เขียนไม่มีทีวีประจำห้อง
ไอ้ประเภทเอาเท้าเป็นตัวเกลี้ยงรีโมตกระชับพื้นที่ ก็ไม่ต้องกลายเป็นสิ่งทรมาน
เพื่อความบันเทิงแต่ประการใด

เมื่อก่อนทำงานดึกดื่นทุกคืนแหละครับท่าน เพียงแต่เดี๋ยวนี้
ทางหน่วยเบื้องบนคงต้องการลดแผนเวลาโอที ส่วนใหญ่เวลาหิวก็เข้า
ร้านสะดวกซื้อ ซื้ออาหารที่สมกับความสะดวกสมชื่อร้าน
ส่วนน้ำนี้ไม่อาบก็เป็นเรื่องปกติ มันชินชาไปแล้ว
เวลางานเข้าจริงๆ มันไม่มีเวลากินหรอกคับ ทางหน่วยพื้นที่ทำงาน
เขาไม่สมใจหรอกว่างานคุณจะเสร็จรึเปล่า แค่งานของเขาเสร็จก็คือเสร็จกัน
แล้วก็มาระบายงานที่บอกใครไม่ได้ให้ท่านมะนาวฯฟัง
ท่านมะนาวฯอย่าไปเกลียดตัวเองเลยเถอะครับ ความเกลียด
เกิดขึ้นกับใคร คนๆนั้นก็เป็นเจ้าของๆความเกลียดมัน
เพราะรู้ว่าท่านมะนาวฯ สร้างพลวัตทางการกระทำ ก็ย่อมมีผลการกระทำ
เป็นตัวสะท้อน ลุงนิวตันก็บอกไว้ตั้งหลายสิบปีดีดัก
เพียงแต่การสะท้อนอาจต้องใช้เวลานิดนึง มิน่าคิ้วถึงได้กระดุกๆตลอดเวลา
มีจามบ้างเล็กน้อย แต่มีคลังคอมเมนต์เป็นการส่วนตัวเก็บไว้ในตัวจูจู๋บ
อันนี้น่ากลัวแหะ มันเหมือนในหนังสืบสวน ที่สมัยก่อนเขาเก็บเป็นเทปกัน
แต่ระยะหลังเขาหันมาเป็น เมโมรีสติก เฟรชไดร์ท ไมโครเอสดี
แต่ระวังหน่อยนะครับ เพราะคนที่โยนภาระให้ผู้อื่นเก็บความลับไว้ต่อ
มักจะไม่ตายดี อันนี้เห็นจากในหนัง ไม่ได้แช่งเอานะท่าน
แต่กระนั้น ผู้เขียนก็ไม่ลบทุกคอมเมนต์ที่ท่านได้ให้เกียรติ์บรรจง
บางอันก็เป็นกระทุ้งใส่หรอกขอรับ เชื่อไหมว่าคอมเมนต์ของท่านมะนาวฯ
มีหลายคนตามมาอ่าน จนเดี๋ยวนี้ เขาไม่เข้ามาอ่านบทความของผู้เขียนเสียแล้ว
อย่างน้อยๆก็มีคนหนึ่งแล้ว คิดว่าท่านมะนาวฯคงพอทราบกันดีอยู่
ส่วนนิสัยท่าน ไม่ต้องปรับปรุงหรอกครับ เป็นของท่านอย่างนี้นะดีแล้ว
ผู้เขียนเจอะอัตลักษณ์อย่างนี้มาครบปี ขืนเปลี่ยนไปก็ไม่ใช่ท่านมะนาวฯ
ผู้หลงตำแหน่ง บ้าเป็นพักๆ หนักไปทางกิน นอนนาน อ่านหนังสือไม่เลือก และคุณหนูสุขอนามัย
อย่าให้ผู้เขียนต้องประท้วงเอามะนาวคนเก่าของเราคืนมาเลย
เดี๋ยวจะผิดกฎหมาย พรก. ฉุกเฉินเอา


ตกลงท่านมะนาวฯเป็นคนขี้วีนเหรอครับ
สงสัยจะใช่มั้ง เพราะคล้ายๆว่าจะเจอมาดอกนึงแล้ว
ก็เป็นรื่องปกติธรรมดามั้งท่าน ใครๆเขาก็มีอารมณ์โกธากันเป็น
ก็ผลิตขึ้นไม่ยากนิ แค่ปล่อยอารมณ์โดยไม่รู้จักยั้งคิด
แต่เรื่องโกรธนี้ เป็นต้นทุนที่มีแต่เสียนะครับ เกิดกับใครก็กลายเป็นคนไม่น่ารัก
เกิดกับหัวหน้าก็กลายเป้นคนไม่มีวุฒิภาวะ เกิดกับเด็กก็เป็นคนไมมีสุขภาวะ
กล่าวคือ ทำลายทุกสภาวะที่มีอยู่กับตัว น้ำบรรดาลในกรุงเทพ
ยังหายากกว่าคนกรุงเทพที่บันดาลโทสะ ท่านมะนาวฯว่าอย่างงั้นไหม
ไม่เชื่อไปดูบนท้องถนนสิ ไม่ต้องขุดก็เจอให้เห็นกับตา


เพิ่งรู้ว่ามะนาวท่านไม่ถูกกับน้ำ หัวอกเดี๋ยวกันเลย
ก็อย่างว่าอะน้อ น้ำมันมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่าในร่างกาย ใครมันจะไปถูกกับน้ำ
เจ็บไข้ไม่สบายขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ เหนือ่ยๆสูงให้เหงื่อไหลอาบแทนน้ำดีกว่า
เหงื่อไหลเต็มกายแสดงว่าเป็นคนขยัน เลือดลมดีใช่ป่าว
น้ำมันเป็นปัจจัยนอกร่างกาย เเต่เหงื่อมันเป็นสมบัติทางกาย
จะไปชะล้างให้หายไปง่ายๆได้อย่างไรจริงไหมน้อ ถูกต้องเป็นรุ่นพี่สักป่าวทำตัวไม่ถูกต้อง
แต่ก็เเปลกน้อ รู้ว่าเป็นความผิดของตัวเอง ปล่อยให้ความงอนมาครอบงำสักงั้น
ที่ไม่เข้าใจท่านมะนาว คือ รู้ว่ามีเพื่อนที่ดีแล้ว ทำไมไม่ปฏิบัติตัวให้ดีสมกับการมีเพื่อนที่ดี
ไปโกรธ ไปงอน แล้วไปหาเพือ่นกลุ่มใหม่ในห้างสรรพสินค้า
ท่านอาจได้เพื่อนที่ไม่ถูกใจไปกว่าเดิมที่เคยมี แสดงว่าคงพอๆกันนั้นแหละกระมัง
ส่วนจะมาว่าเพื่อนซี้ในโลกไซเปอร์ มันทะแม่งๆนะขอรับ
ขอของฝากไม่เคยได้ หายไปก็งอน ร้องเพลงวันแม่ให้ก็ไม่ซึ้่ง
เพื่อนเขาทำกันอย่างงี้เหรอขอรับ แถมมีไว้ให้ฝึกความอดทน
เอํ เพื่อนหรือกระสอบทรายกันละน้อ แล้วไม่เคยไล่นะขอรับ
แค่สวดส่งให้มีทางที่ชอบเป็นของตัวเอง ที่ชอบๆ หาไม่ได้ง่ายๆนะครับ
ไมมีใครหนังสือการท่องเที่ยวที่ไหน ไกด์กรุ๊ปที่ไหนก็หาถูกใจไม่ได้
ต้องใช้ชีวิตที่มีอยู่ของตัวเองในการแสวงหา แล้วที่ชอบๆ ไปได้แค่คนเดียว
ไม่ต้องชวนไปนะครับ ยังไม่พร้อมที่จะไป


ตกลงพระเอกใน kiss ass แกป่วยเป็น ips เหรอครับ
ก็คล้ายๆกับคุณสเตลล่า เพียงแต่ ในkiss ass ต่อมผลิตเอนโดรฟีนเกินขนาด
แสดงว่าต้องผลิตขึ้นโดยตลอดสินะครับ ไม่ได้เกี่ยวกับเส้นประสาทตายอะไรทำนองนั้น
ส่วน คุณสเตลล่าก็แคลเซียมเกินขนาด อืมในความเชื่อที่ได้ยินโฆษณามักบอกเราว่า
คนส่วนใหญ่ขาดแคลเซียม จึงต้องหายนมเสริมแคลเซียมเพื่อรักษากระดูกและฟัน
แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าเรากำลังขาดหรือเกิน มันมีปรอทวัดแคลเซียมไหมครับเนี่ย
การอธิบายพอจะเห็นภาพอยู่ เอาเส้นเลือดหัวใจไปต่อที่คอ
ทำเหมือนหมออาซาดะ ในเมดิคอลดรากอนเลยนะขอรับ
แต่จะเห็นภาพชัดๆ ก็ตอนตัดขามั้งครับ ดังนั้นแค่ค้อนด้ามเดียวดูกลายเป็นเรื่องกระจอกไปเลย

เจ้านกกระจอก เพิ่งทราบจากหนังสือเอนเตอร์เทนต์สัปดาห์นี้นะท่าน
เห็นขาท่อนบนเลื่อยบนเตียง เป็นงานของผกก หญิง อโนชา สุวิชากรพงศ์
เห็นว่าไปได้รางวัลทรานซิลวาเนียมาด้วย ภาษาชื่ออินเตอร์เขาใช้ MUNDANE HISTORY
ท่านมะนาวฯก็เล่าสักผู้เขียนอยากดูอีกแล้ว เครียดจังกำลังเรตไว้ที่อายุยี่สิบเหรอครับ
ว้า ต้องพกบัตรประชาชนมาไหนไปไหนอีกแล้วเหรอเนี่ย ไม่ชอบเลย
สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก อันนี้ได้ยินมาสองกระแส ทั้งชอบและเฉยๆ
แต่ยอมรับตรงกันว่าเป็นหนังดีที่สุดของค่าย workpoint ก็รู้กันอยู่นะว่า
ค่ายนี้เคยมีหนังโดนใจด้วยเหรอ บังเอิญผู้เขียนไม่มีประสบการณ์แบบในหนัง
ก็เลยไม่ค่อยน่าสนใจ แค่นี้กระเทยรุมล่วงละเมิด ก็เล่นเอาหมดคาบวิชาแล้วละท่าน
ส่วนหนัง BAARIA เห็นในเอนเตอร์เทนต์เหมือนกัน (ดูเหมือนเล่มนี้มีทุกอย่างที่ท่านเล่า
สงสัยกำลังเอาสิ่งที่อยู่ในนิตยสารมาเล่า แนะนำลงทุนซื้อเขาหน่อยนะท่าน ฮา)
ผู้เขียนว่า ผกก เขาทำมาตราฐานตัวเองไว้สูงตั้งแต่ครั้ง cinema paradiso
แล้วก็ไม่มีเรื่องไหนที่ผ่านมา แกจะทำได้ชนิดมีคนยกย่องว่าใกล้เคียงกับ cp
เห็นว่าเป็นหนังสามวัยที่ผ่านช่วงชีวิตในสงครามโลก ก็น่าสนใจดีนะครับ
แต่คงอาศัยร้ายเช่าเช่นเคย ถ้าเป็นงานของผกก .อาโมโนวา ก็ว่าไปอย่าง
ผู้เขียนชอบมากจากเรื่อง pianist ชนิดว่าถ้าเล่นเป็น คงรอดจากสงครามโลกครั้งที่สาม
ได้ไม่ยาก
รอจริงเหรอท่าน คงได้รอกันนาน เพราะหนังประเภทนี้ปั๊มแผ่นเร็ว
และออกจากท้องตลาดทั่วไปเร็วสักด้วยสิ แต่ก็ไม่แน่ ท่านมะนาวฯมีเครือข่ายแถวบ้าน
อาจมีกั๊กไว้ให้ ซึ่งคงมีแต่ท่านคนเดียวนั่นแหละที่ซื้อไปดู
แล้วนี้เขาหันไปเล่นตุ๊กตาอาหรับแล้วเหรอท่าน เป็นบาร์บี้ที่มีสัญชาติ
แสดงว่าน่าจะเป็นซุนนีที่ไม่เคร่งศาสนาและต่อต้านโลกาภิวัฒน์นะขอรับ
แล้วน้องปรายน์อ้ายตุ๊กตาฝี เขาเลิกเห่อกันแล้วเหรอ
สักพักตลาดจีนคงผลิตจนเกรอ่ราคาตกกันไปเอง
สมัยนี้เด็กๆเขาเห่ออะไรกัน ผู้เขียนก็ไม่ค่อยจะทราบ
แต่เแอบไปดูบู๊ธของเล่นในห้าง หุ่นกัมดั๊ม f 91 ไม่เห็นราคาตกเลย
ตัวหนึ่งยังหกพันอย่างไร ก็อย่างนั้น ตอนนี้กำลังบ้า
Eurega seven เป็นการ์ตูนหุ่นยนต์อวกาศ คล้ายๆกันดั้มผสม
evangalien ไม่รู้ท่านมะนาวฯจะเคยข้องแวะอะไรทำนองนี้อะป่าว
เห็นขายที่ไหนก็บอกกันบ้างนะครับ กำลังตามล่า แต่คิดว่ายังไม่มีขายในเมืองไทย


ตอนนี้กะว่าจะโยกไปตอบใน Antique ที่เพิ่งปล่อยไปตอนเย็นนี้
แต่ทว่า เรตติ้งคอมเมนต์ก็ยังไม่ดีเท่าไร เอาเป็นว่า ร่ายไปอีกสักระยะที่นี้่
น่าจะดีกว่านะขอรับ เพราะในเรื่องโน้น มีเมนต์ไปสักสามแล้ว ผิดคาด
ไม่นึกว่ามีคนจำเรือ่งซีรีย์เก่าๆ ได้เยอะพอสมควร ขณะที่อัพเรือ่งใหม่ทีไร
เหงาทุกที............





โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 15 สิงหาคม 2553 เวลา:21:30:29 น.  

 
เข้ามานั่งพับเพียบพนมมือแต้ฟังหลวงตาchanเทศนาสั่งสอน
เข้าใจแล้วค่ะ ข้าเจ้าขอปฏิญานว่าจะปรับปรุงตัวเองนะเจ้าคะ
แม้ว่าจะบอกว่าไม่ต้องก็ได้เพราะคุ้นเคยกับมะนาวคนเดิมอยู่แล้ว
แต่ก็ยังรู้สึกแย่หน่อยๆกับการกระทำของตัวเองในครั้งนี้
แล้วก็ขอชี้แจงนะเจ้าคะข้าเจ้าไม่ได้ก็อปปี้เพื่อเอามาขู่กรรโชกทีหลังหรอกนะเจ้าคะ
(เริ่มกรุ่นๆหน่อยๆมะนาวท่องนะโมเข้าไว้นะ)
ข้าเจ้าก็อปปี้ก็เพื่อความสะดวกในการเม้นต์ตอบค่า
อย่างตอนเช้ามีเวลาซักนิดหนึ่ง ข้าเจ้าก็แค่เสียบHandy driveแล้วพิมพ์ได้เลย
ไม่ต้องมานั่งเข้าเน็ตให้ชักช้า ข้าเจ้าก็เคยบอกแล้วนี่หน่าว่า
ข้าเจ้าพิมพ์เก็บไว้ในNotepadแล้วทำไมถึงยังมาเข้าใจอะไรผิดๆแบบนั้นอีกล่ะคะ
เหตุที่พิมพ์ไว้ในNotepadเพราะเคยเจอพี่พันทำพิษส่งปุ๊บหายวับไปกับตา
ซึ่งคุณchanpanakritก็เคยเจอไม่ใช่เหรอคะ ส่งไปแล้วข้อความมันหายไปน่ะค่ะ
แต่ถ้าเราทำแบบนี้ ไม่ว่าพี่พันจะทำพิษยังไงก็ไม่กลัวให้โพสต์ซ้ำเป็นสิบครั้งก็ได้
คิดดูสิคะเราอุตส่าห์พิมพ์แทบตาย ไม่ใช่น้อยๆต้องมาตั้งต้นพิมพ์ใหม่กันอีก
มันไม่สนุกหรอกนะคะ มะนาวเลยพิมพ์ใส่Notepadมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะ
ตั้งแต่สมัยมะนาวคุยกับเพื่อนในกระทู้ดาราหรือเม้นต์ตอบในกระทู้ทั่วไป
มะนาวก็พิมพ์ใส่Notepadไว้เหมือนกันค่ะ ก่อนที่จะคุยกับคุณchanpanakritอีกค่ะ
แล้วที่สำคัญมะนาวก็สามารถต่อยอดการคุยได้ด้วย
ถัาไปเจอข้อมูลใหม่ๆที่น่าสนใจ
ที่สามารถเอามาเล่าต่อให้คุณchanpanakritฟังได้
มะนาวก็สามารถพิมพ์สะสมได้เลยไงคะ
คนที่ไม่ต้องหาเรื่องมาต่อยอดคุย
ไม่รู้หรอกว่ามันลำบากแค่ไหน แล้วยังมากล่าวหากันอีกฮึ!
คุณchanpanakritคงไม่เคยสังเกตุหรือสนใจล่ะสิ
ว่ามะนาวเป็นคนเปิดประเด็นการคุยใหม่ทุกครั้ง
ถ้าคุยต่อยอดกันแต่เรื่องเดิมๆมันด้วนไปนานแล้วล่ะค่ะ
มันคงไม่สามารถคุยกันได้จนถึงเดี๋ยวนี้หรอกค่ะ
ฮือ ฮือ ชักน้อยใจจริงๆแล้วนะ แล้วดูซิมาพิมพ์ว่าอีกว่า
"ดูซิ คนที่โยนภาระให้ผู้อื่นเก็บความลับไว้ต่อ
มักจะไม่ตายดี อันนี้เห็นจากในหนัง ไม่ได้แช่งเอานะท่าน"
จะบอกว่าแม้ว่าจะอ่านแล้วไม่ค่อยรู้เรื่องแต่ก็รู้ว่าถูกต่อว่าล่ะ
เริ่มเข้าบทใจร้ายอีกแล้วนะคะ
แล้วที่มะนาวคิดเซฟเก็บไว้ เพราะมะนาวคิดว่ามันเป็นความทรงจำที่ดี
มันเหมือนเราเขียนจดหมายโต้ตอบกัน
แต่เหมือนกับว่าจดหมายเหล่านี้คุณchanpanakritได้เก็บไว้อยู่ฝ่ายเดียว
ส่วนมะนาวไม่มีเก็บไว้เลย มะนาวก็เลยอยากมีเก็บไว้บ้างอ่ะค่ะ
แล้วมะนาวก็เพิ่งเริ่มเก็บเองค่ะ ของเก่าๆก็ไม่มี
แต่กลายเป็นว่าคุณchanpanakritไม่สบรมณ์พูดแช่งข้าเจ้าซะอีกฮือ ฮือ เศร้า

มะนาวฟังแล้วสงสัยจังเลยค่ะ
ฟังยังกะงานคุณchanpanakritเป็นงานก่อสร้างอย่างนั้นล่ะค่ะ
หรือว่าเป็นงานที่ต้องทำทุกอย่างแบบสากกะเบือยันเรือรบคะ
แล้วก็แหมช่างจินตนาการ ไม่คิดค่ะไม่ต้องมาใช้ปลอบใจเลย
เก็บไว้ใช้สำหรับล้างหน้าให้ตัวเองเถอะค่ะ
จะได้เป็นศิริมงคลฮี่ ฮี่ สะใจ
เอ่อ!แล้วคุณchanpanakritได้ดูหรือเปล่าคะ
Animation รามเกียรติ์ ภาคปฐมบททางช่อง9น่ะค่ะ
เป็นไงบ้างคะ เล่าให้ฟังหน่อยจิ๊
แล้วจริงเหรอที่บอกว่ามีคนมาตามอ่านคอมเมนต์มะนาว
อี๋!มาตามอ่านทำไม มะนาวพิมพ์อะไรก็ไม่รู้เพ้อเจ้อจะตาย
แล้วมะนาวไม่ใช่เจ้าของบล็อกซะหน่อย ล้อเล่นปล่าวคะ
อู๊ย!แล้วอย่างนี้มะนาวต้องสำรวมหรือเปล่าล่ะคะ
คุณ chanpanakritพูดเซี๊ยะมะนาวแหยงเลยค่ะ
แล้วใครบอกคะว่ามะนาวไม่ชอบอาบน้ำ
ตัวเองไม่ชอบคนเดียว ไม่ต้องมาลากคนอื่นไปร่วมก๊วนด้วยเลย
ก็ไหนบอกว่ามะนาวเป็นคุณหนูอนามัย
แล้วจะไม่อาบน้ำได้ไงฮึ! (ถ้าไม่หลับไปซะก่อนอิ อิ)
เพิ่งรู้ว่าคุณ chanpanakritไปสำรวจตลาดทีรามิสุมาซะด้วย
แหมของบางอย่างมันก็ต้องลงทุนจริงไหมคะ
ในเมื่อทำไม่เป็น ก็ต้องจ่ายเงินเป็นธรรมดาค่ะ
แล้วเค้กส่วนใหญ่มันก็ราคาประมาณนั้นกันทั้งนั้น
เจ้าทีรามิสุ มิใช่ว่าจะแพงกว่าเค้กอย่างอื่นซะที่ไหน
ถูกกว่าเค้กช็อกโกเเลตตั้งเยอะ
มะนาวเห็นคนอื่นเค้าชื่นชอบขนมไทยกัน อยากเอาบ้าง
กลัวตกเทรนด์ นั่งนึกไล่ใหญ่เลยว่าเราชอบอะไรน๊อ
กล้วยบวชชี ก็ไม่ชอบ ชอบกล้วยปิ้งมากกว่า
ขนมตาล ขนมกล้วย ขนมใส่ไส้ก็ไม่ชอบ
แล้วก็ปิ๊ง 555มะนาวชอบฝอยทองนะเอง โธ่เอ๊ย!นั่งนึกตั้งนาน

555ขอหัวเราะหน่อย ขำจริงๆที่ถามว่าตกลงพระเอกKick-Ass
ป่วยเป็นโรค ips เหรอครับ555รู้ปล่าวว่าไอ้โรค IPS นี้มันอะไร
555มันมาจาก Institute of Police Science ค่ะ
นึกออกหรือยังเอ่ย เอ้าบอกเพิ่มให้ก็ได้MR. BRAINไงคะ555เมื่อยกราม
ตอนโพสต์ก็ไม่ดึกมากนี่หน่า ทำไมเมาได้ขนาดนี้
ดูโรค CIP(Congenital insensitivity to pain) เป็น IPSไปได้ไงเฮ้อ!กลุ้มจาย
แล้วคำว่าCongenital แปลว่า แต่กำเนิดหรือ มีมาแต่กำเนิด
เพราะฉะนั้นพระเอกKick-Assจึงไม่น่าจะเป็นโรคนี้ค่ะ
เพราะพระเอกKick-Assไม่ได้เป็นมาแต่กำเนิดค่ะ กระจ่างนะคะ
ส่วนเรื่องที่ถามว่าแล้วเราจะรู้ได้ไงว่าเรามีระดับแคลเซี่ยมสูงหรือต่ำ
ก็ไม่ยากค่ะ เพียงแค่เจาะเลือดเพื่อตรวจดูระดับแคลเซี่ยมในเลือดก็เท่านั้นเองค่ะ
โอเคนะคะ 555ตลกอีกแล้วบอกว่าเครียดที่ต้องพกบัตรปชช.ไปแสดง
เพื่อจะเข้าดูหนังเรื่อง"เจ้านกกระจอก"
จะไปแสดงเหรอคะว่าไอ้ที่เห็นนี้น่ะตัวจริงๆนะเฟ้ย คนเดียวกับในบัตรนะเฟ้ย
ไม่ใช่พ่อของคนในบัตร 555อย่าไปตะคอกเขานะคะ
ว่ารู้จักไหมหน้าไปก่อนอายุน่ะ555
ส่วนหนังของผกก.เปโดร อัลโมโดวามะนาวได้ดู2เรื่องค่ะ
คือTalk to Her กับ Bad Education ชอบทั้ง2เรื่องเลยค่ะ
เห็นเขาเรียกผกก.คนนี้ว่าเจ้าป้าค่ะแสดงว่าเป็นMSMซินะคะ
(Men who have sex with men) ส่วนเรื่องThe Pianist
ไม่ใช่ของผกก.โรมัน โปลันสกี้หรอกเหรอคะ
ที่มีเอเดรียน โบรดี้แสดงนำน่ะค่ะ และรู้สึกว่าหนังได้รางวัลออสการ์ด้วย
เรื่องนี้มะนาวก็ได้ดู ชอบมากเช่นกันค่ะ รู้สึกที่บ้านจะมี2ชุดค่ะ

มะนาวได้ไปอ่านที่นสพ.ไปสัมภาษณ์เจ้าของสำนักพิมพ์
ถึงความเห็นเกี่ยวกับe-bookที่จะมาแทนที่หนังสือ
ส่วนใหญ่บอกไม่กลัวนะคะ โดยบอกว่าไม่กังวลเลย
เพราะบอกว่าe-bookไม่สามารถตอบสนองในเรื่อง
ของอารมณ์การอ่านได้ อย่างบอกว่าถ้าคนอ่านเกิดอารมณ์ซาบซึ้ง
สะเทือนใจ ก็คงไม่มีใครอยากนั่งร้องไห้กับเครื่องคอมพิวเตอร์แน่ๆ
แต่มะนาวว่านะ แล้วไอ้ที่เราดูซีรีส์ แล้วนั่งร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร
เราก็ร้องไห้หน้าคอมพ์ เหมือนกันนี่หน่า
แต่ที่มะนาวเห็นด้วยคือบอกว่าเราสามารถ เอาไปอ่านยังสถานที่ไหนก็ได้
ไม่ว่าจะเป็นที่เงียบๆใต้ต้นไม้ หรือที่บรรยากาศดีๆ
ซึ่งe-bookไม่สามารถตอบสนองเราตรงนั้นได้
เห็นด้วยมากค่า เจ้าพ่อไอทีว่าไงคะ
และที่โดนมากๆคือเขาบอกว่าเวลาอ่านแล้วประทับใจ
จนรู้สึกอยากขีดเขียน อยากทำเครื่องหมายต่างๆไว้
เราก็สามารถทำในหนังสือได้
แต่เราไม่สามารถทำในe-bookได้ค่ะ โดนค่ะโดน ว่าไหมคะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.25.182.136 วันที่: 16 สิงหาคม 2553 เวลา:20:56:34 น.  

 
ดูเหมือนว่าวันนี้จะอารมณ์ดีเป็นพิเศษนะขอรับ
งานเก่าที่เขาให้มาก็ค้างคา ตาปลาก็ขึ้นเท้า ยังแสวงหาความสุข
บนสิ่งที่เหนือกองอยู่บนทุกข์ได้ ช่างน่านับถือนะครับ
เหมือนว่าจะบรรลุถึงความสุข บนการย้ำยีความทุกข์ทนของผู้อื่น
ช่างกล้าน้อ! ทำแล้วท่านสุข แล้วผู้เขียนก็จะรู้สึกสุขตามไปด้วย
แม้จะมีฤทธิ์ของความเจ็บปวดอยู่บั้นปลาย ทำไปเถอะ
แต่ถ้าเอา Handy drive แล้วไม่ติดไวรัส แสดงว่าทุกคำพูดที่พิมพ์ของผู้เขียน
เป็นความบริสุทธิ์ที่กลั่นจากใจ แม้แต่โปรแกรมสแกนไวรัสใดใด
ก็ไม่อาจคัดกรองไปไว้ยังตะกร้า quarantine ได้ เพียงแต่ว่า
ไอ้คำพูดที่พิมพ์ มันดันไม่ผ่านโปรแกรมสแกนอารมณ์ของท่านมะนาวฯ
ซึ่งก็เป็นเจตนาอันตั้งใจ ทำไปให้เกิดปัญญาบ้างนะท่าน


ท่านมะนาวฯ เก็บไว้ใน Notepad เหรอขอรับ
คิดการณ์เล็กจัง สู้ผู้เขียนไม่ได้เพราะไปใช้อะไรที่ยิ่งใหญ่กว่าอย่าง Worldpad
ความจริงเมื่อ่กอนก็ใช้ notepad นะ แต่บางทีนิ้วไปพิมพ์แล้วลาก shift
หายไปหลายบรรทัด เรียกกลับมาใหม่ก็ไม่ได้ ก็เลยหันไปใช้อะไรที่เรียก
ข้อความก่อนหน้ากลับมาได้อีกครั้ง แต่ก็ขอบคุณนะครับ
ที่ทำให้ทุกรอยย้ำผ่านปลายนิ้วผู้เขียนดูมีความหมายกับใครบางคน
เพราะไม่งั้น ก็คงไม่ต่างจากแชต ออนเอ็ม หรือทวิสต์ข้อความ
ที่ลอยตามคลื่นกระทบฝั่ง แล้วซักพักจากจางหายไป
แต่มองอีกทาง ก็น่ากลัวไม่หยอก เพราะมันสามารถนำไปฟ้องร้องในชั้นศาลได้
แล้วถ้าเกิดเอาไปหากินตีพิมพ์เป็นเล่ม พ่อจะขอสาปแช่งถ้าไม่แบ่งค่าต๋งให้
แต่วิธีการพิมพ์ไว้ก่อน แล้วถ่ายโอนทีหลังนี้
ผู้เขียนเพิ่งฉลาดสร้างได้ไม่นานนี้เอง ส่วนใหญ่ก็ลุยบนเวทีใหญ่
เพราะต้องพอคาดเดา คำนวน และจัดวางย่อหน้าได้สะดวก
ไม่ต้องมาเรียบเรียง หรือแบ่งวรรคจัดสร้างอีกครั้ง
แต่นั้นก็ทำลายวรรณกรรมเชิงสร้างสรรค์ไปหลายชิ้น จะบิ้วอารมณ์อีกครั้ง
ฟิวส์เก่ามันก็ไม่ได้อยากที่ใจหวัง กลายเป็นงานแห่งการชำระรอยแค้นบนทางเดิม
วิธีที่ท่านว่าคงดีที่สุดแล้วละ ความสดจากงานพิมพ์อาจจะไม่ได้ถึงจิตสมอารมณ์หมาย
แต่ให้ตายเถอะ ต้องพิมพ์ไปแล้วหายพริบตา ก็ขอหมายสมอารมณ์โรคจิต
ลัด ง่าย เเละได้ทุกถอยกระบวนความไว้ก่อนละกัน
คนเราต้องเอาเวลาไว้กินไว้นอน และกลิ้งเกลือกอืกน้อท่าน


เปิดประเด็น? ก็แน่สิ ประเด็นผู้เขียนมันระบายหมดลงไปในบล็อกแล้ว
ที่เหลือ ก็รอการฝังกลบความคิดเห็นของผู้มาเยียมบางท่านบางคน
เพราะถ้ามีประเด็นเปิดเรือ่งใหม่ ก็เอาทำมาหากินสร้างหัวเรือ่งในลำดับต่อไป
เข้าใจละยังว่า การเปิดบล็อกมันดีอย่างนี้นี่เอง
แต่ถ้าไม่มีประเด็นของท่านมะนาวฯ ท่านมะนาวฯก็จะเป็นมะนาวที่ไม่มีน้ำ
คงไม่กะมาแต่ดูดข้อมูลวิสัย อิ่มพลีทีใครก็ทีมัน
มันก็ต้องมีการแลกวิชากันมั้งสิน้อ อย่าลืมสิว่า สังคมไซเบอร์คอมมูตี้
จะหล่อเลี้ยง่ตัวเองได้ ก็ด้วยการแลกเปลี่ยนทัศนะ ข้อมูลข่าวสาร และประสบการณ์
จะมาเอาแต่ฝ่ายเดียว ที่นี้ไม่ใช่อีเวนท์แจกของโดยขอดูเลขบัตรเครดิตที่ลงท้ายเลขนั้นเลขนี้
แต่ทุกสรรพสิ่งที่ท่านมะนาวฯคาบมาบอก ล้วนเป็นเรื่องแปลกใจที่ผู้เขียน
ถ้าไม่ปางตาย กลิ้งเกลือกจนต้องเข้าโรงพยาบาล
คิดว่าชาตินี้ก็ไม่น่าจะได้รับรู้นะครับ อย่างน้อยๆ ไม่ได้เพียงแค่ประโยชน์ผู้เขียนเท่านั้น
ยังเผื่อแผ่ไปถึงผู้อื่นที่ได้เข้ามาอ่านด้วย แม้มันจะไปในเชิงเจ็บเล็กน้อย
แต่ท่านมะนาวฯก็อธิบายศัพทฺ์แสงวิธีการ เสมือนคนเจ็บมีอาการปางตาย ไม่น่ารอด
และมีแนวโน้มที่จะมีภาวะแทรกซ้อน ติดเชื้อในกระแสเลือดและลุกลามไปสู่
โรคนั้นโรคนี้ ทั้งๆที่แค่นิ้วไปให้ค้อนกระแทกเล่นๆ อย่างเมื่อวานเกิดใครอ่านอย่างรวบๆ
แบบอ่านข้ามบรรทัด อาจนึกว่าต้องตัดขาเพื่อรักษาชีวิตจากพิษเข้ากระแสเลือด
โดยเขาอาจไม่สังเกตว่า นี้เรากำลังคุยถึงดาราท่านหนึ่งที่ออกรายการตีสิบ
อย่างว่า เขา ซึ่งไม่รู้ว่าใครคนไหนเลย แม้แต่ผู้เชียนเองมาอ่านคราวๆตอนแรก
ยังนึกว่า ท่านมะนาวฯแนะนำให้ต้องตัดขาเลย ที่ไหนได้ประเด็นนางเอกสเตล่านี้เอง
โฮ้! คอยโล่งขาสองข้างหน่อย


ไอ้เราก็จะช่วยปลอบใจสักหน่อย
ทำบุญ ได้โทษอีกแล้ว แต่จะกังวลไปทำไม ในเมื่อปัจจุบันนี้
เท้ายังเจ็บ มิใช่มือสักหน่อยเป็นเพียงแค่การสมมติ แต่ก็ทำให้การเดินทาง
กลายเป็นสิ่งทรมานที่รู้ว่าทุกก้าวของชีวิต เป็นเรื่องที่สำคัญ
ก้าวผิด นิ้วชี้ไปสะกิดนิ้วโป้งที โอ้ย! ไม่อยากคิดเลย นรกบนริมฟุตบาท
แล้วมาเจอคำเจ็บๆ คนใครบางคนในที่นี้ซ้ำเติมอีก
อยางน้อยๆผู้เขียนก็ใช้เท้าแคะจมูกตัวเองได้นะขอรับ ตัวเองทำได้อะป่าวเอ่ย


รามเกียรติ์อนิเมชั่นนี้ ไม่ได้ดูครับ
มั่วแต่อัพบล็อกไปจนลืมไปเลย แล้วท่านมะนาวฯละขอรับ
ไปเป็นเพื่อนเจ้าสาว แล้วเจ้าบ่าวปลอดภัยไหมขอรับ
ผู้เขียนไม่ได้ไปร่วมงานแต่งชาวบ้านนานมากแล้ว มีนิสัยอย่าง
คือ มักมองอะไรเป็นต้นทุนหักลบเพื่อหาจุดคุ้มทุนซะเรือ่ย
เงินใส่ซอง = โต๊ะจีนรวม + ของชำรวย
เพราะไปแล้วรู้สึกผู้บริโภคถูกเอาเปรียบด้วยสิทธิ์ถูกริดรอน
หลังๆเลยกลายเป็นงานที่ไม่มีแรงจูงใจในการเข้าร่วม
ขณะเดียวกัน ก็ถูกเจ้าบ่าว-สาว บอยคอต
เพราะรู้ว่าแจกการ์ดไป เสียของเปล่า สู้เอาไปให้คนที่ตบซองหนักๆ
ประมาณว่า คงได้ไปดูงานเพื่อนที่แต่งคนก่อนๆ แล้วนั่งเช็คหักลบ
แขกที่มีประวัติไม่ดี ระยะหลังๆเลยสบายใจขึ้น
แม้ใครบางคนอาจจะอยากแจกซอง ก็จะมีเพื่อนองครักษ์ทักดักไว้ก่อน
ว่าคิดดีแล้วเหรอที่ชวนมัน แล้วถ้าท่านมะนาวฯมีแผนที่จะเข้าหอออกโรงจริง
ถ้าอยากให้ผู้เขียนเป็นแขก กรุณาแจ้งรายการเมนูอาหารในงาน
พร้อมเผยไต๋ของชำรวยเป็นการถาวรก่อนนะขอรับ
แล้วผู้เขียนจะนำเข้าสู่กระบวนการช่างใจดูอีกทื
แนะนำให้เปลี่ยนตัดเค้กแต่งงาน เป็นตัดฝอยทองแต่งงานจะดีกว่า
เพราะผู้เขียนก็ชอบฝอยทองเช่นกัน ขนมจากหมู่บ้านโปรตุเกสสมัยอยุธยาตอนปลาย
เป็นมรดกมาตั้งแต่สมัยพระเพทราชาเลยนะขอรับ บ่าวสาวเอากรรไกรร่วมตัดฝอยทอง
โคตรเท่ห์จะตาย!!


เอาอีกแล้ว ปล่อยไก่วงการบังเทิงไปสองรอบ
รอบแรก ไปพิมพ์สมมติฐานโรคว่า IPS ได้ไง แสดงว่าเป็นอาการติดพัน
จากมิสเตอร์เบรนด์จริงด้วย น่าจะเป็นโรคผิดฝังใจจากครั้งก่อนไปซึมลึก
ในจิตใต้สำนึก เอาสิ่งถูกในสิ่งที่เคยผิด มาชำระในจุดที่ผิดในคำย่อที่ถูก
แสดงว่า kick ass เป็นการอุปโลกวิสัยของโรคอันคลาดเคลือน่สินะครับ
ทำไปเพื่อความบันเทิงโดยแท้ แล้วในหนังพระเอกแกเพิ่งเป็นเหรอครับ
น่าจะเป็นตอนออกพื้นที่ภาคสนามครั้งแรก อ่านรีวิวเห็นว่า
โดนเล่นเอาปางตาย
พ่อของคนในบัตร !! ถูกติดตลกร้ายอีกแล้ว
อยากได้อวัยวะเพื่อใช้ในการปลอบใจไหมครับท่าน? เพิ่งเอาออกจากอ่างล้างหน้าพอดี
ปล่อยไก่ตัวที่สอง จำชื่อผกก.ผิดอีกแล้ว โบลันสกี้จริงด้วยแหละ
แกเพิ่งถูกจำที่สวิสต์ ตามหมายจับพรากผู้เยาว์ของศาลอเมริกา
ถามว่าชอบมากไหม ก็ไม่นะ แต่คงดีกว่าผกก.ทอนาทอเร่
ต่อไปต้องหันมาเรียกว่า มะนาวฯอาร์ทตัวแม่แล้ว
ดูหนังอาร์ทเข้าใจยาก ทั้ง Talk to Her และ Bad Education
ไหนจะ Cinema Paradiso อีก เอ๊! ทำไมผู้เขียนยังไม่เคยได้ดู Bad Education
มันเป็นหนังไฟท์บังคับเชิงคุณภาพ ที่มักบิดไปเบนมาไม่มีสบโอกาสกระทำ
มันมืดแลมนไหมครับท่าน เพราะตอนนี้กำลังสร้างสัปดาห์ดูหนังเสริมการอ่าน
ให้ได้สิบเรื่อง ต้องนี้ฟาด the reader ,october sonata,National treature2
Book of Eli และGood Will Hunting
ไม่ทราบว่าท่านมะนาวฯจะพอนึกหนังทีว่าด้วยหนังสือบางไหมขอรับ
ความจริงก็ไม่สำคัญอะไรหรอก แค่อยากดูหนังแล้วมีอารมณ์อ่านหนังสือพ่วงตามไปด้วย


ถามว่ากระแสอีบุ๊ค น่ากลัวไหม
เท่าที่ดูยอดจำหน่ายเครืองเล่น ไม่ว่า ipad kindle และเห็นทางโซนี่
บุ๊คและบอร์ม วอร์มมาร์ค ผลิตเครื่องเล่นเฉพาะ ก็เห็นขายดิบขายดีจนเครื่องขาดตลาด
เห็นข่าวเล็กๆชิ้นหนึ่งที่ถูกหยิบเป็นข่าวไอทีประจำสัปดาห์ว่า
ยอดการดาวน์โหลดหนังสืออีบุ๊คเอาชนะยอดขายหนังสือแบบปกแข็งอย่างฉิวเฉียด
ถือเป็นการรุกคืบ ตลาดการอ่านที่ทรงพลังไปอีกก้าวอย่างรวดเร็ว
ทั้งแง่ราคาส่วนลด ความสะดวกในการเข้าถึงตัวหนังสือ และหมวดความจุในเครื่อง
แม้นายกฯอภิสิทธิ์จะพยายามสนับสนุนความเห็นให้เด็กไทยนิยมอ่านหนังสือจริงมากกว่า
อีบุ๊คมีความได้เปรียบทั้งเรื่องน้ำหนัก ภาระการแบกหิ้วหนังสือ และสามารถทำเครื่องหมายต่าง
ผ่านทางเครือ่งได้ ขณะเดียวกันก็สามารถแชร์ความรู้สึกของหนังสือเล่มนั้นผ่านเว็บจำหน่าย
ซึ่งเว็บนั้นก็มีการคัดเลือกหนังสือใกล้เคียงรสนิยมในการอ่าานของเราตามติดไปด้วย
เห็นทางทรูออนไลน์ เริ่มรุกคืบในเว็บบริการ แต่ค่อนข้างมีอย่างจำกัด
แต่ผู้เขียนเห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการอ่าน อาจด้วยข้อจำกัดส่วนตน
ที่เห็นความได้เปรียบของอีบุ๊คในแง่การใช้งานที่เหมาะสมกับตัวเอง
แต่อย่างที่ท่านว่านั้นแหละ การอ่านไม่ได้หมายความแค่สาระที่เห้นตรงหน้า
แต่เป็นเรื่องของอารมณ์ร่วมกับวัตถุที่จับต้องได้ และความคุ้นชินที่ปลูกฝังมาเนินนานนับแต่เด็ก
ขนาดโลกในเว็บไซด์ ท่านก็โลดแล่นไล่อ่านซะชำนิชำนาญ
ชำนาญซะจนจับคำผิดของผู้เขียนสักเกลี้ยงเกลา กลายเป็นหน้าเพจที่เต็มไปด้วยความถูกต้อง
เดี๋ยวจะอวยตำแหน่งราชินีลิควิคให้เป็นกำลังใจ




โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 16 สิงหาคม 2553 เวลา:22:38:42 น.  

 
ฮือ ฮือ ขึ้นต้นมาก็โดนหลวงตาเทศอีกแล้ว
แถมงานที่แก้ให้พี่เขาอันตรธานหายเกลี้ยงเลยค่ะ
ก็มะนาวเซฟแล้วทำไมมันกลับคืนสู่สภาพเดิมเหมือนยังไม่ได้แก้ก็ไม่รู้
งานนี้ตายหยังเขียด ต้องเริ่มต้นทำใหม่หมดเลยค่ะ
ฮือ ฮือ จะเป็นลม เลยต้องลาพักร้อน2วันรวดเลยค่ะ
แหะ แหะ จริงๆคือมะนาวมีวันลาพักร้อนเหลืออยู่9วัน
ถ้ามะนาวไม่ใช้ให้หมดภายในกันยายนนี้ จะถูกริบค่ะ
จริงๆมะนาวอยากลามานอนกินบ้านกินเมืองมากกว่าค่ะ
มะนาวไม่อยากลามาทำงานเลย ฮือ ฮือ อยากนอนๆอ๊ะ
แล้วนิ้วเท้าที่เจ็บเป็นยังไงบ้างคะ ดีขึ้นบ้างหรือเปล่าคะ
อย่าลืมดูแลเรื่องความสะอาดของแผลด้วยนะคะ จะได้ไม่มีการติดเชื้อ
ประเดี๋ยวแผลจะอักเสบเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาเปล่าๆค่ะ
แล้วตอนนี้มิต้องลากอีแตะไปทำงานหรอกเหรอคะ
แล้วระวังเท้าคนอื่นด้วยนะคะ
อย่าได้คิดลองดีแหย่นิ้วไปให้เขาเหยียบเล่นล่ะนะคะ
เฮ้อ!แล้วยังมีหน้ามาคุยเรื่องความสามารถพิเศษอีก
เก่งไปคนเดียวเถอะค่ะ แคะให้จมูกบานไปเลยก็ได้ค่ะ
มะนาวก็มีเรื่องคุยเหมือนกันนะคะ
เมื่อวานมะนาวทำน้ำปลาหวานไปให้ที่ทำงานทาน
ที่ทำงานบอกว่าอร่อยมากๆ ยกนิ้วโป้งให้เลย
แต่มะนาวว่าไม่ค่อยจะอร่อยเลยค่ะ
เพราะมะนาวไม่ได้ทำมานานแล้วมะนาวเลยหลงๆลืมๆ
ใส่ผิดใส่ถูก อาศัยใส่เครื่องหนักมือเข้าไว้
555แล้วช่วยได้จริงๆ ทุกเสียงบอกว่า อาหย่อยค่ะ

คุณchanpanakritรู้ปล่าวคะว่าผกก.เรื่อง"สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก"
เข้ามาตอบกระทู้เองเลยค่ะ แต่คงเป็นปลื้มนะคะ
เพราะมีแต่เสียงชื่นชม มีแต่คนบอกว่ากำลังจะไปดูเป็นรอบที่3
ที่ทำงานมะนาวบางคนไปดูมาแล้ว ก็ชอบเหมือนกันค่ะ
และเชียร์ให้เราไปดูกันค่ะ บอกไม่ผิดหวังแน่นอน หนังน่ารักมาก
ไม่รู้จะไปดูดีหรือเปล่า เบื่อเข้าโรงหนังจัง
แต่ถ้าต้องรอแผ่นก็ไม่รู้ว่าต้องรอนานแค่ไหน
หนังไทยรอแผ่นนานกว่าหนังฝรั่งอีกค่ะ
แต่ที่รู้ตอนนี้กระแสแอนตี้"บีบี"ในโรงหนังกำลังมาแรงมากค่ะ
จนมีคนมาตั้งกระทู้ในเฉลิมไทยว่า
"เบื่อกระทู้แอนตี้ บีบีในโรงหนังจริงๆ "
อื้อหือ!คุณchanpanakritเชื่อไหมคะว่า
เป็นกระทู้ที่มีการร่วมแรงร่วมใจของคนในเฉลิมไทยมากที่สุด
555ร่วมใจกันถล่มจขกท.น่ะค่ะ แบบว่าภายในไม่กี่ชั่วโมง
ปาเข้าไปสามร้อยกว่าความเห็น จนมีคนถึงกับเข้ามารำพึงว่า
ไม่เห็นคนในเฉลิมไทยกลมเกลียวเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวอย่างนี้มานานแล้ว
555อดขำไม่ได้ แต่จขกท.ไม่รู้จะเรียกยังไงดีนะคะ
เข้ามาแหย่ให้คนเฉลิมไทยของขึ้นเป็นพักๆอีกซะงั้น
จนถึงกับมีคนถามว่าจขกท.เป็นmasochismเหรอ
ถึงได้ไม่สะทกสะท้านกับเสียงตำหนิ เสียงก่นด่าเอาซะเลย
มะนาวอ่านแล้วรู้แต่ว่าซัดกันไม่เลี้ยง
ประเภทแบบว่าไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนประมาณนั้นเลยล่ะค่ะ
แล้วคุณchanpanakritไปดู เจอคนเล่นบีบีในโรงหนังบ้างหรือเปล่าคะ
แล้วแสงบีบีมันรบกวนสมาธิมากไหมคะ
คือมะนาวไม่เคยเจอเลยไม่รู้อ่ะค่ะ
แล้วอีกอย่างที่ตลกก็คือมีคนมาตั้งกระทู้ถามว่า
คนที่สายตาสั้นจะดูหนัง 3Dยังไง เพราะว่าใส่แว่นอยู่
แสดงว่าตาคนนี้ไม่เคยดูหนัง3D แหงมๆเลยค่ะ
ตอนที่มะนาวดูหนัง3D มะนาวกลัวแว่นจะเกี่ยวไม่อยู่ค่ะ
เพราะเราใส่ซ้อนกันใช่ไหมคะ แล้วแถมเก้าอี้ก็อย่างโยก
เด้งหน้า เด้งหลัง เด้งข้าง นั่งนึกตูข้าจะหล่นจากเก้าอี้ไหมนี่
ตอนที่คุณchanpanakritดูAvatar มีเก้าอี้โยกไหมคะ
แหะ แหะคือมะนาวดูหนัง3Dในสวนสนุกน่ะค่ะ

มะนาวดูเรื่องIp Man 2จบแล้วนะคะ
หนังมันส์และมีเนื้อหาสาระพอๆกับภาค1เลยค่ะ มิน่าถึงมีแต่เสียงชื่นชม
อาจารย์ยิปมันตัวจริงเป็นคนดีอย่างในหนังจริงเหรอคะ
ช่างเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน และแสนจะเป็นคนดีอะไรอย่างนี้
มันเหมือนคนในอุดมคติเลยค่ะ แล้วแสนจะใจเย็นใจดี
ในหนังไม่เห็นอาจารย์ยิปโกรธใครเลยค่ะ
แต่มะนาวชอบจังเวลาที่ต่อสู้กัน
คนแพ้บอกว่าขอบคุณที่ออมมือ คนชนะบอกว่าขอบคุณที่สั่งสอน
ต๊าย!ช่างมีมรรยาทอะไรอย่างนี้
แล้วก็ดูเรื่องที่แสลงต่อมคุณchanpanakritค่ะ
A Walk to Remember หนังรักโรแมนติคในใจใครหลายๆคน
มะนาวเพิ่งได้มาจากร้านแมงป่องประเภท5เรื่องแถม1เรื่อง
เลยดูฉลองซะเลย เป็นเรื่องBad boyกับรักแท้นะเอง
แต่เรื่องนี้มะนาวไม่เสียน้ำตาสักกะหยด
แถมไม่ซาบซึ้งด้วย สงสัยต่อมซาบซึ้งไม่ทำงานเหมือนกัน
ถ้าจะซึ้งก็คงเป็นตอนจบที่พระเอกเดินไปที่สะพาน
จากนั้นลมพัด แล้วพระเอกก็พูดว่า "ความรักก็เหมือนสายลม
ไม่อาจมองเห็น แต่สามารถรู้สึกถึงมันได้"
แล้วเพลง Cry ของ Mandy Moore ก็ขึ้นมา เลยมีน้ำตาซึมหน่อยๆ
ไม่เหมือนตอนดูเรื่องThe Notebook ซาบซึ้งประทับใจมาก
รักแท้ รักไม่มีวันเปลี่ยนแปลง มันเป็นอย่างนี้เองดอกหรือ
ไม่ว่าเธอจะเป็นยังไง ฉันก็รักเธอเสมอ
แม้ว่าเธอจะจำฉันไม่ได้ แต่ฉันก็ยังรักเธอเหมือนเดิม
โอ๊ย!ซาบซึ้ง เสียน้ำตาให้ปิ๊บหนึ่ง
ไอ้ที่รำพี้รำพันให้ฟังไม่มีในบทหนังหรอกนะคะ ร่ายโศลกเองค่ะ อิ อิ
คือเผอิญหนังปูเรื่องเหมือนไม่ใช่รักที่มั่นคง
แต่ที่ไหนได้ พระเอกสุดจะรักมั่นคงอะไรจะปานนั้น อิ อิ โดนค่ะโดน

หนังเสริมการอ่านเหรอคะนอกจากเรื่องA Walk to Remember,
The Notebook ,Dear John ของผู้แต่ง นิโคลัส สปาร์คส์ แล้ว
ก็มีเรื่อง The Boy in the striped pyjamasที่ได้รางวัลหนังสือยอดเยี่ยมแห่งปี
Irish Book Award Children's Book of the Yearแล้วก็มี
THE KITE RUNNERที่คุณchanpanakritรู้อยู่แล้ว
แล้วก็เรื่องThe Diving Bell and the Butterfly
จากหนังสือชุดประดาน้ำและผีเสื้อไงคะ
ส่วนเรื่องBad Educationแนะนำให้ดูนะคะหนังไม่หม่นหรอกค่ะ
เป็นหนังที่กระเทาะเปลือกกิเลสได้ดีค่ะ บอกได้แต่บอกว่าไม่ควรพลาดค่ะ
Gael Garcia Bernal แสดงเรื่องนี้ได้น่ารังเกียจมาก
ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับบทในเรื่อง
The Motorcycle Diaries ที่เป็น เช กูวาร่าค่ะ


ปล.คุณchanpanakritแวะหลังไมค์ด้วยนะคะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.25.182.160 วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:21:08:09 น.  

 
ถ้าเทศน์อย่างนี้คงไม่ นตถิ ปญญฺา สมาลาภา
น่าจะมีเสกน้ำมนต์สาดสักสองสามหยอด ไล่สิ่งไม่ดีออกไปจากใจ
อะไรทำให้ท่านมะนาวฯ มองผู้เขียนเป็นคนชราเช่นนี้
ประทานโทษ เห็นแก่อย่างนี้ ก็ฟังเพลง super junior ,big bang
และ y2pm นะไอน้อง พูดไปก็กระดากปาก แต่จำเป็นต้องกระชากวัยเพื่อซื้อใจเด็กๆ
ก่อนอื่นต้องขอยืนไว้อาลัยกับการจากไปของข้อมูลแฮนดิไดร์ฟ
อันนี้ผู้เขียนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่สิ่งที่ท่านมะนาวฯรับปาก
ทำให้เราต้องพรากจากกันไกลตั้งวันสองวัน เท่ากับว่าการลาพักร้อนสองวันรวด
ต้องทำให้เราต้องห่างกันไกลสักครั้ง ผู้เขียนก็พร้อมทำสิ่งที่ท่านมะนาวมุ่งหวัง
แต่อาจไม่เข้าใจอยู่บ้าง ว่ามันสำคัญมากมายอะไรขนาดนั้น
กับคนที่ท่านมะนาวฯที่คุ้นชิน ทั้งๆที่เป็นคนที่ถูกแนะนำมาอีกที
แต่ถ้าท่านมะนาวฯทำดี ย่อมมีอานิสงส์ต่อตัวเองตามไปด้วย
อย่างไรเสียก็เผื่อแผ่คนเจ็บคนยากเป็นกุศลผลบุญแถวๆนี้ด้วย
เผื่อเเผลเล็กแผลน้อยใกล้ตาปลา จะสมานกลับคืนมาโดยดี
เอาด้วยเล่ห์ไม่ได้ก็เอาด้วยบุญนี้เเหละ ส่วนความสามารถพิดศษเอามาเล่าให้ขำ
เพื่อคนทางโน้นจะสบายใจขึ้น ยังมาทำประชดใส่ เดี๋ยวก็เรียกเข้าห้องเย็นหลังไมค์บ้างเลย
อะไรอร่อยบอกได้แต่อย่าอธิบายให้ชัดได้ไหม
มันทรมานใจคนแถวนี้ มีดีมาอวดไม่ว่าเลย แต่อยากเห็นคนมีดีมาแบ่ง
รอมานานมาแล้ว ไม่เห็นมีการกระทำแบบไดอะเลคติกไซด์บ้างเลย
เล่นมุขนี้ทีไร เอ็นไซมมันผลิตคาปากเสียทุกที
คนแถวนี้ก็หิวเป็นนะท่าน มิใช่สมณชีพรามหณ์หรือนักรบฝ่ายอรชุนทีไหน
ฉันก็มีชีวิตจิตใจ ทำไมไม่เข้าใจกันบ้าง ประโยคนี้เจินๆ เคยกล่าวไว้
ในกุหลาบแดง 99 ดอกนะท่าน

เอ๊!ผกก.เรื่อง"สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก" เป็นผู้กำกับร่วมนะท่าน
ไม่ทราบว่าเป็นอดีต เสนาฯ หรือคนที่เล่นเป็นผอ. โรงเรียน
แต่กระแสคงดีจริง ขณะคนจัดรายการวิทยุคลื่นโปรดยังบอกว่า
"หนังเรื่องนี้ ซื้อใจไปตั้งแต่ต้นแล้ว สุดแท้แต่เรื่องจะนำพาไป"
แทนยังเป็นปากเป็นเสียงแก่เด็กๆ ว่าพวกเเก่เขาก็ชอบกัน
โดยเฉพาะหนูใบเฟริม ถึงขั้นระดมกันจัดตั้งแฟนคลับเกินห้าคน
นี้เข้าข่ายผิด พรบ.ฉุนเฉินชัด เขาว่าหนูคนนี้เล่นมิวสิค
เสก โลโซ ในเพลงอายุสิบสี่ จริงรึเปล่าไม่รู้
แต่ยังไม่มีอารมณ์ร่วมกับฉากแผ่นหนังมาริโอ กับในสระน้ำ
ประเภทเล่าแล้วกั๊ก นี้สุดเก๊กซิม ไม่รู้จะดูดีไหม
เพราะตลอดมา มีแต่คนแอบชอบฐานะรุ่นพี่ ไม่เคยแอบไปปลื้มรุ่นน้องที่ไหน
อันนี้พูดให้อาเจียน เผื่อจะซัดน้ำปลาหวานตัวเองไปมาก
แต่ประเภทโต้คลื่นจากหนังส่ามมิติ อันนี้ไม่เค๊ยไม่เคยนะท่าน
ยังไม่มีประสบการณ์ขนาดนั้น แค่โอกาสการได้ดูจากหนังตลับVHS
แค่นี้ก็ปลื้มนักหนาแล้ว ยิ่งรู้ข้อจำกัดทางธรรมชาติของความเป็นคนสายตาสั้น
ยังจะพยายามอีก อันนี้ไม่ไหวก็จะพยายาม แค่ดูได้ เห็นภาพ ได้ยินเสียง
คงไม่ยอมเสียมูลค่าของข้าวขาหมูสี่ห้าจาน เพื่อความเป็นหนังเทพขนาดนั้น
ไม่ใช่มักน้อยนะท่าน แต่มักจะไม่มีจะรับประทาน เลยต้องบริหารรายจ่ายได้เท่านี้แหละ



กระแสบีบีนี้พอรู้อยู่บ้าง ไอ้ประเภทขึ้นรถลงเรือ นี้ก็เห็นคาตา
ประมาณว่า พวกลื้อเป็นโฆษกรัฐบาลจากชาติไหน
ทำไมถึงประชาสัมพันธ์หน่วยงานถี่ยิบเช่นนี้
แต่อ้ายประเภทในโรงหนังนี้ ไม่ยักกะเห็นนะท่าน ถึงเห็นผู้เชียนก็รู้สึกดีโดยเปรียบเทียบ
กับบรรดาสิงห์รมโทร อย่างน้อยๆกาลเทศะอาจจะเสมอภาคกัน
คือ ติดลบทางจิตพิสัยทั้งคู่ แต่ในสถานการณ์ที่ต้องเลือก เท้าของผู้เขียน
เลือกที่จะยันพวกโทรสายไหมมากกว่า โสตทัศนทางตาก็ยังคอนเซนเทรด
อยู่กับจอหนังใบใหญ่ มากกว่ากว่าบีบีจอกระจี๊ด
แต่เป็นไปได้คงไม่ขอทั้งคู่ เพราะไม่อยากถูกผลาญเวลาให้กับโฆษณาปิดโทรศัพท์
ในโรงหนังตั้งห้านาที แล้วต้องมาเจอโฆษณาปิดบีบีอีกสี่นาที
ต่อไปคงมีโฆษณาปิดทวิสเตอร์ เฟสบุ๊ค และปิดตอบคอมเมนต์ในบล็อกแก็งค์ตามมาอีกกระพรวด
ทำไงได้ละ ล ื้อไม่เป็นอั๊ว ลื้อไม่เข้าใจอั๊วหรอก โควต้าอั๊วมีได้ก่อนเที่ยงคืน
แล้วอั๊วดันมีรอบดูหนังห้าทุ่ม อันนี้คิดเล็กๆเอาขำๆ นะท่าน อย่าพาไปห้องหลังไมค์เลยนะหลวงตาขอรัอง

ip 2 ผู้เขียนคงได้ดูในไม่ช้า กำลังรอเพื่อนเทพบันดาลให้อยู่
ได้ยินท่านมะนาวฯพูดอย่างนี้ มีหงจินเปาสหายเกลอจากชอบาเดอร์เช่นนี้
อยากดูมากกว่าภาคหนึ่งเสียอีก มารยาทของคนเอเชียนี้
บางสิก็ดีบางสิ่งก็ว่าร้ายนะท่าน ยิ่งถ้าท่านมะนาวฯได้อ่าน
Do and Don't Japanese Culture พ็อกเก็ตบุ๊คเล่มเล็กๆแล้ว
จะตลกขำแบบฮาไม่ออก ฝรั่งมันช่างแกะช่างแทะได้ถึงกึ๋นอะไรเช่นนี้
ลุงนิโคลัส สปาร์ก นี้คงทำให้วันหยุดที่แล้ว ถึงวันหยุดยาวคราวนี้
หลอนจับใจท่านมะนาวน่าดู เห็นกล่าวถึงอย่างไม่หยุดหย่อน
แต่ขอติงการออกแบบปกของลุงนิโคลัส หน่อยเหอะ ว่าอะไร
จะอินเพสชั่นนิยมปานนั้น เห็นแล้วไม่เข้าใจคอนเซ็ปต์ของหนังสือเอาสักเลย


อืม หนังเสริมการอ่านที่ท่านมะนาวฯแนะนำ
หลายเรื่อง ผู้เขียนชมแล้วไม่ได้เข้าประเด็นของการเชื่อมโยงแบบร้อยเรียง
หนังสือแบบโต้งๆเท่าไรนะ เป็นการกล่าวลอยๆก่อนเข้าเนื้อหาคอปเซ็ปต์
ของเรื่อง แต่ The Boy in the striped pyjamas เอามาเสนอซ้ำ
ชักน่าสนใจเสียแล้วสิ ต้องหารีวิวชาวบล็อกแก็งค์หน่อยแล้ว
แต่ kite runner นี้ทำมาจากหนังสือ ไม่ได้อ้างการปรากฎของหนังสือแต่อย่างใด
อย่างนี้ต้องหักหนึ่งน้ำปลาหวาน
ส่วน Gael Garcia Bernal นี้อึงกิมกี่เพราะไม่เคยได้ยิน
ได้ซีรีย์เรื่องใหม่มาแล้ว ไม่มีดอง ออกจะตื้นเต้น
งั้นขอตัวไปเสพเพื่อปั่นงานในอาทิตย์หน้า
ส่วนท่านมะนาวฯจะต้องปั่นงานใหม่ในงานเก่า แม้เศร้าแต่ก็เป็นการทบทวนวิชา
ให้แน่นขึ้น แล้วถ้าจะแชร์กันอ่านก็ยินดีนะท่าน
อยากรู้นักว่า อะไรทำให้ท่านมะนาวฯต้องมีความพยายามเยี่ยงนี้
ก็ขอให้ท่านมะนาวฯสู้ๆ ท่านมะนาวสู้ตาย สงสัยจะตายจริงแน่คราวนี้


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:22:35:51 น.  

 
มีคนตั้งกระทู้ค่ะว่าได้อะไรจากการดูซีรีส์ญี่ปุ่น
เข้าไปอ่านแล้วได้เห็นข้อคิดที่หลากหลายดีค่ะ
บางคนบอกว่าใจสู้ขึ้นเยอะ เพราะซีรีส์ญี่ปุ่นทำให้รู้ว่า
ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่นมันมีอยู่จริง
หรือบางคนบอกว่าทำให้มีความหวังและมีกำลังใจค่ะ
หรือบอกว่าดูแล้วได้แรงฮึด กับแรงบันดาลใจ
ถ้าคุณchanpanakritต้องตอบคำถามนี้ จะตอบว่าอย่างไรคะ
ส่วนมะนาวคงตอบว่าได้มุมมองใหม่ๆ ได้ข้อคิด
ได้เรื่องความอดทนและความพยายาม และไม่ให้สิ้นหวัง
และที่เด่นชัดมากคือให้รู้จักหน้าที่รับผิดชอบน่ะค่ะ
คุณchanpanakritว่าไงคะ ไหนเจ้าพ่อซีรีส์ญี่ปุ่นบอกข้าเจ้าหน่อยจิ๊
แล้วคุณchanpanakritได้เข้าไปดูMVของตำรวจท่องเที่ยวในยูทูปแล้วหรือยังคะ
ที่เต้นเพลง ซอรี่ ซอรี่ ของSuper Juniorน่ะค่ะ
มะนาวดูในข่าวเต้นกันน่ารักดีนะคะ
เห็นว่ามีคนเข้าไปดูขึ้นหลักสองแสนแล้วค่ะ
คุณchanpanakritเคยได้ยินข่าวกระซิบบ้างไหมคะ
ที่บอกว่ามีนวนิยายขนาดยาวหลายร้อยตอนจบ
เป็นนวนิยายใต้ดินที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงของสังคมออนไลน์
เรื่อง"โรงงานปลากระป๋อง"น่ะค่ะ
เห็นบอกว่าเป็นนิยายหมิ่นเหม่นะคะ
แล้วต่อไปก็เป็นข่าวไม่กระซิบนะคะ ค่อนข้างกระหึ่มพอสมควรเลยค่ะ
และเป็นที่รอคอยของหนุ่มๆในพันทิปด้วยค่ะ
คุณchanpanakritเดาได้แล้วใช่ไหมคะ
555หนังโป๊สามมิติเรื่องแรกในโรง Imax 3Dไงคะ
มะนาวขำตรงที่คนตั้งกระทู้เขาบอกว่าเขาไม่อยากดู
เพราะกลัวปลัดบินมาชนหน้าเขาค่ะ กลัวไม่เป็นศิริมงคล 555จี้ดี
เป็นกระทู้ที่ตั้งได้แป๊บเดียวคนก็เข้ามาตอบกันตรึมเลยค่ะ
555สงสัยรอกระทู้นี้กันมานาน ฮี่ ฮี่

ผกก.เรื่อง"สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก"มีหลายคนหรอกเหรอคะ
แต่คนที่เข้ามาตอบกระทู้เขาบอกเลยนะคะว่าเป็นผกก.
เขายังมาอธิบายเพิ่มเติมในบางฉากเลยค่ะ
แสดงว่าเป็นแบบเดียวกับเรื่องแฟนฉันแน่เลย
เอ่อ!คุณchanpanakritดูInceptionแล้ว
ได้สังเกตุเห็นตัวเลขนี้ในหนังไหมคะ5 2 8 4 9 1
มีคนสงสัยว่ามันมีความหมายซ่อนเร้นอะไรหรือเปล่าค่ะ
555ตอนนี้มะนาวมีความรู้สึกว่ากระทู้ Inception
เป็นอะไรที่เหมือนจะถูกจับลอกคราบแล้วนะคะ
แบบกะว่าเอาให้เกลี้ยงเกลาไม่ให้มีอะไรเล็ดลอดไปได้อย่างนั้นล่ะค่ะ
ไม่อยากจะเชื่อค่ะว่าคุณchanpanakritไม่รู้จักGael Garcia Bernal
เขาออกจะดังจากเรื่อง The Motorcycle Diaries
เป็นหนังที่ดัดแปลงจากบันทึกของ เช กูวาร่าค่ะ
เป็นบันทึกการเดินทางร่วมกับ อัลเบอโต้ กรานาโด้
ไปทั่วประเทศอาเจนติน่า ชิลี บราซิล และ เปรู ด้วยรถมอเตอร์ไซค์ค่ะ
การเดินทางนี้แหละทำให้เช ได้เห็นสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอเมริกาใต้
ทั้งความงดงามของธรรมชาติ และผู้คนที่อดอยาก ยากจน
ซึ่งเป็นจุดที่พลิกผันแนวทางชีวิตของเขาค่ะ
ถ้ายังไม่ได้ดูเรื่องนี้ หามาดูเลยนะคะ ไม่ผิดหวังค่ะ
คุณchanpanakritคงไม่ดูแน่เลย มะนาวเชียร์ไม่เห็นขึ้นสักเรื่อง ฮึ ฮึ
อ้อ!ลืมบอกไปค่ะว่ามะนาวได้เรื่อง Mementoมาแล้ว
กว่าจะได้หายากจริงๆค่ะ มะนาวไปได้ที่ร้านบูมเมอแรง มาค่ะ
อ้อและได้ Insomniaอีกเรื่องมาจากร้านแมงป่องค่ะ
แล้วหนังสือDo and Don't Japanese Culture
เป็นหนังสือแบบสายตาของฝรั่งมองเอเชียงั้นหรือเปล่าคะ
แล้วเป็นไงคะเวลาอ่านแล้วให้ความรู้สึกว่าเออ!จริงของมันหรือเปล่าคะ

มะนาวได้ไปอ่านเจอข่าวที่ให้ความรู้สึกFeel goodมากๆเลยค่ะ
คือเป็นเรื่องของคนที่ทำทานให้คนโฮมเลสน่ะค่ะ
คือคนที่ให้ทานเธอเป็นถึงระดับผู้บริหารของบริษัท
แต่ในตอนนั้นเธอไม่มีเงินสดติดตัว
เธอจึงให้บัตรเพลทินัมของอเมริกัน เอ็กซ์เพลส
แก่ชายโฮมเลสไป เพื่อให้ไปรูดซื้อของ ซึ่งเพื่อนๆที่อยู่ในเหตุการณ์
ต่างก็ฟันธงว่าเธอไม่มีวันได้บัตรคืน แต่เธอไม่คิดเช่นนั้น
สักพักหลังจากชายไร้บ้านซื้อของเสร็จแล้ว ก็นำบัตรมาคืนเธอ
ซึ่งเขาใช้ไปทั้งหมด 25ดอลลาร์ในการซื้อสบู่ บุหรี่(ไม่มีเงินแล้วทำไมต้องสูบ)
น้ำดื่ม และน้ำยาดับกลิ่นเหงื่อค่ะ
มะนาวประทับใจเพราะว่าโลกทุกวันนี้ยังมีสิ่งที่สวยงามหลงเหลืออยู่
นั่นก็คือยังมีTrust ในกันและกัน
อ่านแล้วยังมีศรัทธาในโลกใบนี้นะคะ
นสพ.ใช้คำว่าให้ใจไปก็ได้ใจกลับมา ใช่เลยค่ะ
คุณchanpanakritว่าไหมคะ

อยากแชร์วิจัยอีกเหรอคะ ของพี่เค้ายังไม่เสร็จอ่ะค่ะ
แล้วหัวข้อของพี่เค้ามะนาวว่าไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่
แต่มะนาวมีงานวิจัยหนึ่งที่มะนาวว่าน่าสนใจกว่าของพี่เค้าค่ะ
คุณchanpanakritลองอ่านดูนะคะว่าน่าสนใจหรือเปล่า
เป็นการวิจัยเชิงสำรวจถึงปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมทางเพศของนักศึกษาค่ะ
รูปแบบการวิจัยคือCross-sectional study(การวิจัยเชิงสำรวจแบบภาคตัดขวาง)
เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามที่ให้นักศึกษาตอบด้วยตัวเอง
(Self-Administered Questionaires)
ประชากรในการศึกษาครั้งนี้คือนักศึกษาชายและหญิง
ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี อายุโดยเฉลี่ยประมาณ20ปี
ร้อยละ80มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด
ได้รับค่าใช้จ่ายจากครอบครัวเดือนละประมาณ3800บาท
และรายจ่ายส่วนใหญ่ที่นอกเหนือจากค่าอุปโภค บริโภคก็คือ
ค่าโทรศัพท์มือถือค่ะ อาชีพของบิดา มารดาส่วนใหญ่คือ
รับราชการกับรัฐวิสาหกิจค่ะ
เขาได้ศึกษาพฤติกรรมเสี่ยง4 ด้านด้วยกันค่ะ คือ
1 พฤติกรรมด้านดื่มสุราหรือของมึนเมา
พบว่าร้อยละ70บอกว่าเคยดื่ม
และสาเหตุที่ดื่มคือเพื่อนชักชวน
สถานที่ดื่มคือ ผับ บาร์และชายทะเล
2พฤติกรรมการอ่านหนังสือหรือ,ดูหนัง,ดูดีวีดี,ดูอินเตอร์เน็ตที่กระตุ้นอารมณ์ทางเพศ
พบว่าร้อยละ69บอกว่าเคยดู โดยได้รับสื่อพวกนี้จากเพื่อน
และช่วงเวลาที่ดูคือช่วงดึก บุคคลที่ร่วมดูด้วยส่วนใหญ่คือเพื่อน
ส่วนใหญ่จะดูในบ้านของตัวเองหรือไม่อย่างนั้นก็ดูบ้านเพื่อน
3พฤติกรรมด้านการแตะต้องสัมผัสระหว่างชายหญิงในเชิงชู้สาว
พบว่าร้อยละ46บอกว่าเคย บุคคลที่แตะต้องสัมผัสคือแฟนหรือคู่รัก
ส่วนใหญ่เป็นการจับมือถือแขน การโอบกอดก็มีแต่น้อย
โอกาสในการแตะต้องสัมผัสคือการอยู่ด้วยกันตามลำพังในที่ลับตาคน
4พฤติกรรมการไปเที่ยวยังสถานเริงรมย์
พบว่าร้อยละ58เคยไปเที่ยว
สถานเริงรมย์ที่ชอบไปเที่ยวคือผับ บาร์ คอฟฟี่ช็อป
คนที่ไปด้วยคือเพื่อน และสาเหตุที่ไปคือเพื่อนชักชวนค่ะ

เมื่อเขาหาความสัมพันธ์ซึ่งเป็นขั้นตอนที่จะใช้การคำนวนทางสถิติเข้ามาเกี่ยวข้อง
ซึ่งสามารถใช้โปรแกรมสำเร็จรูปคำนวนออกมาได้ค่ะ
และพบว่าเพศชายมีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ
สูงกว่าเพศหญิงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ทั้งนี้ก็เป็นเพราะว่าสังคมไทยให้ค่านิยมความเป็นชายชาตรีว่า
จะต้องมีความสามารถทางเพศเป็นเลิศ
ในขณะเดียวกันค่านิยมในสังคมก็ได้กำหนด
บทบาททางเพศของผู้หญิงไว้ว่า
จะต้องเป็นกุลสตรีไม่ข้องแวะเรื่องเพศ
จึงส่งผลให้เพศชายมีประสบการณ์ทางเพศได้มากกว่าเพศหญิง
โดยไม่ขัดต่อบรรทัดฐานทางสังคม
จึงทำให้เพศชายมีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศสูงกว่าเพศหญิง
และเมื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
พบว่าคนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีจะมีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศต่ำ
เนื่องจากว่าใช้เวลาไปในการเรียนมากกว่า
ที่จะอ่านหนังสือ,ดูหนัง,ดูดีวีดี,ดูอินเตอร์เน็ตที่กระตุ้นอารมณ์ทางเพศ,
หรือว่าแตะต้องสัมผัสระหว่างชายหญิงในเชิงชู้สาว,หรือไปเที่ยวยังสถานเริงรมย์
ซึ่งผลนี้จะตรงข้ามกับผู้ที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำโดยสิ้นเชิง
ผลออกมาแบบนี้ไม่รู้ว่าคนเรียนไม่ดีจะออกมาต่อต้านหรือเปล่านะคะ
แต่ว่าผู้วิจัยเขาก็นำผลการศึกษาของคนอื่นในเรื่องนี้มาสนับสนุน
ผลการวิจัยนี้ว่าสอดคล้องกับผลที่เขาหาได้ค่ะ
พูดง่ายๆก็คือผลที่ข้าพเจ้าหาได้นี้เชื่อถือได้ค๊าบ
มะนาวยกตัวอย่างให้คุณchanpanakritดูเพียงนิ๊ดเดียวเท่านั้นค่ะ
เขาหาความสัมพันธ์อีกเยอะเลยค่ะ
อ่านเอาแค่พอเข้าใจก็พอนะคะ
ไม่รู้ว่าเรื่องนี้คุณchanpanakritต้องใจปล่าวคะ


ปล.คุณchanpanakritแวะหลังไมค์ด้วยนะคะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 182.52.89.197 วันที่: 18 สิงหาคม 2553 เวลา:20:49:02 น.  

 
กลับจากที่ทำงาน สภาพเหนื่อยกรอบ พร้อมกับบะหมี่ยี่ห้อนึง
ที่เคยอิ่มกรอบ แต่อุ่นนานเสียจนเส้นอบย้วยไปเสียแล้ว
บอกไว้ว่าจะโผล่มาเมื่อตอนประมาณตีสอง เหมือนสัจจะวาจาที่แช่งไว้
กลายเป็นเวลานี้โดยสมอยาก เจอะประเด็นคำถามยากสุดชีวิตข้อหนึ่ง
ที่ประเด็นว่าทำไมถึงได้ชอบดูซีรีย์ญี่ปุ่น เออ???ให้แสวงหาเหตุผล
เป็นรูปธรรมนะเหรอ จะตอบไปในทางคุณประโยชน์แบบถูกสุขลักษณะโภชนา
หรือสร้างแรงบันดาลใจในการแสวงหาความฝันอันสูงสุด
ถ้าเชื่อเช่นนั้นจริง คงไม่ได้สอดคล้องต้องกันกับตัวผู้เขียนหรอกนะ
เพราะจริงๆแล้วก็ดูมันไปทั่วแหละ หนัง ละคร ซีรีย์ และการ์ตูน
เพียงแต่ เวลาเล่าอะไรที่เกี่ยวกับซีรีย์ญี่ปุ่นแล้ว ไม่เก็ง ไม่เพ่ง ไม่โชว์หลักการ
ขึ้นบันไดหอคอยสามสี่ชั้น ให้ดูมีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์พิเศษ
แต่น่าจะเกิดจากความผูกพันกับการเติบโตมาพร้อมๆกับโลกซีรีย์แห่งญี่ปุ่นมั้ง
นึกถึงความทรงจำลางเรือน ของซีรีย์โอชิน เจ้าหนูเคนโด้ ซามูไรพ่อลูกอ่อน
สิงห์สาวนักสืบ ยอดหญิงสิงห์วอลเลย์ แล้วมันมีเยื่อบางๆ
ที่ถักทอสายใยที่ไม่เห็นรูปเส้น แต่รู้สึกได้ถึงการมีอยู่
ไอ้สิ่งที่แอบแฝงจากปรัชญาที่แจ่มแจ้งจากซีรีย์ ไม่เคยปรากฎขึ้นจริงอะไรกับชีวิตเอาเสียเลย
สำหรับผู้เขียน(นะ) มันเป็นภาพที่ดูดี แต่ในชีวิตจริง มันไม่ได้เหมือนอะไรกับซีรีย์นักหรอก
จะว่าไปมีความประโลมโลกอยู่สูง เพียงแต่ไม่ได้เป็นไปตามสูตรของการถ่ายทำ
มันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะชาติ ที่ชาติญี่ปุ่นเขาทำได้เฉพาะ
มีความพยายามจากหลายชาติ อยากให้เป็นเช่นนั้น ก็กลับกลายเป็นความกลบเกลื่อนไป
เอาเป็นว่า เป็นความต่อเนื่องของชีวิต ที่ได้รับการปลูกฝังจากหน้าจอทีวี
ไม่ได้มีอะไรมากมาย แต่มองอีกด้าน มันก็ชะล้างจิตใจได้โดยที่เราไม่รุ้ตัวก็เป็นได้
ซึ่งอันนี้คงต้องให้คนอื่นเขาตัดสินกันนะขอรับ


คลิปสารวัตรบอยแบนด์ อันนี้เห็นเขาว่ารายการเรือ่งเล่าเสาร์อาทิตย์
นำมาเผยแพร่จนกลายเป็นประเด็น แต่ที่ชิงเด่นก่อนเพื่อนเห็นเป็น ตร.ท่องเที่ยว
และกำลังจะมีตำรวจจากภาคต่างๆตามมา ซึ่งก็ระดมคัดสรรงานเพลงกันเอง
ซึ่งจะมี เพลงลูกเทวดา เกริล์เจเนเรชั่น ไม่เว้นเพลงฟุตบอลโลก
เป็นงานสร้างภาพลักษณ์ ที่เอาได้ความสนใจจากผู้คน
แต่หลายคนบอก ลึกๆแล้ว ไม่ค่อยจะเปลี่ยนแปลงทัศนคติแง่ลบที่สังคมมีต่อตำรวจ
ไม่งั้นนายก คงแต่งตั้ง ผบตร คนใหม่ได้เรียบร้อย ไม่ติดฝ่ายจเรที่ดึงเรื่อง
และมีแผนปฏิรูปกรมตำรวจ ซึ่งไม่ว่ารัฐบาลไหน ก็มีแผนงานเช่นนี้อยุ่เสมอ
สามมิตินี้คงกินเงินผู้เขียนได้ยาก ด้วยกลไกราคาที่แบ่งชนชั้น
ให้ผู้เขียนกลายเป็นนักดูอนาถา ที่ต้องอาศัยวันพุธเป็นวันนัดทำการ
แล้วถ้าหนังอย่างที่ท่านมะนาวฯว่ามีจริง คงเป็นหนังเลือดสาด
จากภาวะเลือดกำเดาไม่อุดตันก็พอสมควร งานนี้น่าจะได้รับการอุปถัมภ์
จากกาชาดสากล ไม่ก็กลุ่มคนเสื้อแดงอะน้อ


Motorcycle Diaries ดูแล้วครับ นานมากด้วย
คาดหวังพอสมควร แล้วมันกลับไมสมหวัง เป็นโรดมูฟวี่ที่วิวทิวทัศน์สวยงาม
แต่ความเป็นจิตวิญญาณเช กลายเป็นคนละทิศละทางที่ผู้เขียนเคยอ่าน
ไม่เหมือนในเชทั้งสองภาคของ ผกก โซเดนเบริก
ที่ทั้งภาษาพูดเเบบโปรตุกีส และให้ภาพกึ่งฟิลม์แปด มม.
แม้เป็นหนังที่ไม่เอนเตอร์เทนดู แต่ก็น่าเชื่อได้ว่า เรายังได้เห็นภาพของเช
ในฐานะสัญลักษณ์ของการต่อสู้ ที่เป็นวีรบุรุษในใจผู้ชม
เชจึงมีดีมากกว่าการอยู่ท้ายรภบรรทุกแน่นอน

ส่วน รหัสอินเซปชั่นนี้คิดลึกมากไปรึเปล่าครับ
เหมือนคนดูจะพยายามถอดความเสียทุกอย่างที่เห็นในหนัง
ผู้เขียนปล่อยให้หนังสุดแท้แต่จะพา ให้คนดูอย่างเราไปตามทางที่ผกก. ต้องการ
พยายามไม่คิด ไม่นึก ไม่คาดเดา สุดท้ายก็ได้ความสนุกกลับคืนมา
และไม่คิดว่าดูซ้ำให้เสียตังค์ แต่อาจหาหนังสือจิตวิทยามาแถมท้ายประกอบ
จึงรู้ว่า ผกก โนแลนแกคิดลึกไปกว่านักจิตวิทยาไปหลายขุม


แต่ข้องใจ โฮมเลสท์ที่ท่านมะนาวฯกล่าวถึง
เป็นคนกลุ่มที่ถูกตราว่าล่าง จากสังคมแนวมาร์กซิส
แต่ถ้ามองแนวสัจนิยม ตรรกะของการกระทำตามเงื่อนไขอาจจะเป็นไปได้
ถ้ามาเจอคอลเซ็นเตอร์เมืองไทย อาจจะรู้สึกว่า ไม่ว่าใครก็อาจตก
เป็นเหยื่อได้ ขอเพียงแค่มีมือถือ และพกบัตรเอทีเอ็ม
ความสวยงามของโลกมันมีแน่ละท่าน แต่อยู่ในสัดส่วนที่น้อย
และห่างไกลจากโลกแห่งสังคมยูโธเปียเข้าไปทุกที จะทำดี
ก็ต้องเป็นไปตามแผน CSR ทางธุรกิจ ต่างจากศรัทธาทางศาสนา
ที่ถ้าไม่มีปัญญา ก็อวิชชาดีๆนี้เอง

ส่วนประเด็นงานวิจัย ต้องต่อยอดกันยาวๆ พรุ่นี้ดีกว่า
น่าสนใจดี แต่ดูเหมือนจะไม่ต่างจากผลวิจัยที่ผู้เขียนเคยได้ยินมา
จากสหพัฒน์เมื่อสิบปีก่อน งั้นต้องขอตัวลาไปนอนสักแล้วละท่านน้อ


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 19 สิงหาคม 2553 เวลา:2:18:46 น.  

 
แล้วทำโอที ไม่ได้ทานอาหารหรอกเหรอคะ
ถึงต้องมาทานอาหารตอนตีสอง ทนหิวอยู่ได้ยังไงคะ
ไม่ทรมานตัวเองแย่เหรอคะ แล้วยังนอนดึกอีก เฮ้อ!
ฟังแล้วน่าเห็นใจยังกะข่าวพนักงานเก็บขยะ
ถูกปรับสองแสนอย่างนั้นล่ะค่ะ
แล้ววันนี้ต้องไปทำงานหรือเปล่าคะ
ส่วนมะนาววันนี้กับพรุ่งนี้พักร้อนแล้วค่ะ
แล้วดั๊นลืมซื้อนมเก็บไว้ มะนาวกินนมเป็นอูฐค่ะ
ขี้เกียจเดินไปซื้อจังเลยค่ะ ไม่อยากออกจากบ้านไปไหน
อยากทำงานให้เสร็จๆไปค่ะ จะได้ดูหนังที่ซื้อมาใหม่ๆ
อย่างThe Class,Memento,Insomniaซะทีค่ะ
เรื่องThe Classนี้มะนาวอยากดูตั้งแต่มีข่าวว่า
ได้รางวัลชนะเลิศ "ปาล์มทองคำ"จากเทศกาลหนังเมืองคานส์
และเป็นตัวแทนประเทศฝรั่งเศสเข้าชิงรางวัลออสการ์แล้วค่ะ
แต่หาซื้อยากมากค่ะ ก็อยู่ๆก็แจ็กพอต
เจอในกองหนังลดราคาเหลือแค่99บาทที่ร้านแมงป่อง
ดีใจแทบตายเลยค่ะ เพราะหนังแบบนี้ร้านเจ้าประจำแถวบ้านไม่มีขายค่ะ
เขาขายแต่หนังตลาดๆค่ะ และจะบอกว่าเรื่องThe Classนี้
เป็นนิยายมาก่อนนะคะชื่อ Entre les murs(The Class )
เป็นหนังสือที่ได้รางวัลที่ 1 จากกระทรวงวัฒนธรรมฝรั่งเศส
คุณchanpanakritก็ได้รายชื่อหนังที่เสริมการอ่านอีกเรื่องแล้วนะคะ
อ้อๆมีอีกเรื่องหนึ่งค่ะที่เสริมการอ่านเรื่องKundun ค่ะ
กำกับโดยมาร์ติน สกอร์เซซี เป็นเรื่องราวของท่านดาไล ดามะองค์ปัจจุบันนี้ล่ะค่ะ
มะนาวได้อ่านหนังสือ"ประวัติชีวิตของข้าพเจ้า"มาก่อนแล้วค่ะ
(ไม่แน่ใจเรื่องชื่อหนังสือว่าบอกถูกหรือเปล่าค่ะ)
แต่พอมาดูหนังเรื่องนี้ ซึ่งตอนแรกไม่รู้ว่ามาจากหนังสือเล่มเดียวกัน
พอดูไปๆรู้สึกว่าเอ๊!คุ้นจัง แล้วก็นึกได้ว่าเราเคยอ่านมาแล้วนี่เอง
หนังค่อนข้างยาวนิดหนึ่งค่ะ และเนิบๆเนือยๆแต่ไม่หลับค่ะ
คุณchanpanakritน่าจะดูได้ค่ะ
อ้อ!แล้วลืมบอกไปว่ามีอีกเรื่องหนึ่งที่มะนาวเลยไปซื้อมา
เพราะคุณchanpanakritพูดถึงบ่อยๆคือเรื่องDead Man Walkingค่ะ

เอ่อ!คุณchanpanakritรู้จักมิกะ นากาชิมาไหมคะ
เธอเคยแสดงเรื่องอะไรบ้างคะ
อ่านข่าวบอกว่าหลังจากหายไป2ปี
เธอจะกลับมาแสดงละครใหม่เรื่องConceited Detectiveคู่กับโทโมยะค่ะ
เห็นว่าเป็นละครแนวนักสืบคอมเมดี้ค่ะ
มะนาวอ่านเนื้อเรื่องคร่าวๆแล้วน่าดูเหมือนกันค่ะ
แล้วมีข่าววงKAT-TUN บุกเกาหลีค่ะ
เห็นบอกว่าบัตรขายเกลี้ยงภายใน20นาทีค่ะ
นานๆนะคะจะเห็นบันเทิงญี่ปุ่นบุกเกาหลี
แสดงว่าคาเมะก็ขายได้ในเกาหลีเหมือนกันซินะคะ
คุณprysangจะปลื้มเปล่าน๊อกับข่าวนี้
อ้อ!แล้วมีข่าวว่าพ่อTokyo Dogs สุดเท่โอกุริ ชุน
ไปเป็นผกก.หนังไปแล้วค่ะ
เห็นบอกว่าได้ไปโปรโมทหนังที่ตัวเองกำกับที่เกาหลี
เรื่อง Surely Somedayโดยชุนทั้งกำกับทั้งแสดงนำด้วยค่ะ
ส่วนดาราคนอื่นก็มีอายะ อูเอโตะและซาโตชิร่วมแสดงด้วยค่ะ
ส่วนในตอนนี้มติชนไม่ได้แนะนำซีรีส์ญี่ปุ่นมา2อาทิตย์แล้วค่ะ
หันมาแนะนำซีรีส์ของเมกาแทน
อย่างที่เพิ่งแนะนำผ่านไปก็เป็นซีรีส์เรื่องGrey's Anatomy
แต่อ่านในกระทู้แล้วเรื่องนี้ถูกพูดถึงน้อยกว่าHouse Md.อีกค่ะ
มะนาวได้ไปอ่านเจอมีการแนะนำหนังสือ
เรื่อง"สู่อนันตกาล ชีวิตฉันและสตีเฟ่น ฮอว์กิ้ง"
ที่แต่งโดยเจน ฮอว์กิ้ง แปลโดยโคจร สมุทรโชติ
หนา624 หน้าเป็นเรื่องราวของ"สตีเฟ่น ฮอว์กิ้ง"
ศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ที่มีชื่อเสียง
เขาเป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ไม่กี่คนที่สามารถเข้าใจและอธิบาย
ทฤษฎีสัมพันธภาพของไอน์สไตน์ได้อย่างละเอียด
หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวอีกด้านหนึ่งของเขา
ที่ถูกถ่ายทอดจากปากคำของอดีตภรรยา
ซึ่งเป็นผู้ที่รู้จักตัวตนของฮอว์กิ้งดีที่สุด
คุณchanpanakritได้เคยอ่านแล้วยังคะ
ปกติคุณchanpanakritหาซื้อหนังสือแนวนี้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ
วันนี้อาจคุยได้ไม่ยาวเท่าไหร่นะคะเพราะมีเวลาไปหาข่าวได้จำกัด
เนื่องจากภาระหน้าที่ ที่ไม่ใช่ของตัวเอง ฮือ ฮือ เศร้า
แล้วนิ้วเท้าเป็นยังไงบ้างแล้วคะ ดีขึ้นบ้างแล้วหรือยังคะ ยังเจ็บอยู่หรือเปล่าคะ

โอ๊ย!มะนาวนึกว่าเสร็จมะหล๋องก๋องแล้ว
IE ของมะนาวเจ๊ง เข้าพันทิปไม่ได้
เมื่อเช้ายังดีๆอยู่เลยค่ะ โชคดีที่มีFirefoxช่วยชีวิตไว้
ไม่อย่างนั้นต้องมีใครบางคนนึกว่าข้าเจ้าประท้วงอีกแน่เลย อิ อิ
เอ่อ!มะนาวเพิ่งรู้ว่ายูซูกิใน Moon Lovers คือนางเอกริโกะ
จากBuzzer Beat หรอกเหรอคะ ทำไมข้าเจ้าถึงได้เบ๊อะเชอะอย่างนี้
ดั๊นจำชื่อสุดสวยไม่ได้ว่าชื่อKitagawa Keiko
เฮ้อ!แล้วอุตส่าห์บอกว่าชอบนางเอกคนนี้ ต้องตบโหลกตัวเองหนึ่ง ฮึบ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.89.27 วันที่: 19 สิงหาคม 2553 เวลา:19:57:16 น.  

 
กลับมาถกเรื่องผลการวิจัยในหัวข้อ
"การวิจัยเชิงสำรวจถึงปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมทางเพศของนักศึกษา"
ไปอ้างอิงหน่วยงานผิดพลาดตามสไตล์ ถ้าไมพลาดก็ไม่ใช่เรา (ฮา)
ไม่ใช่สหพัฒน์หรอกนะครับ ไอ้โน้นมันเป็นวิจัยดัชนีมาม่ามากกว่า
จริงๆแล้วมันต้องเป็น สภาพัฒน์ ต่างหาก (หรือดุสิตโพลกันหว่า?)
แต่ที่ท่านมะนาวฯหยิบยกอย่างคร่าวๆ เกือบทำให้นึกว่า
เป็นผลวิจัยที่เคยเผยแพร่ใน มติชนสุดสัปดาห์ ประทานโทษ
เป็นฉบับที่ตีพิมพ์เมื่อสิบกว่าปีก่อน เหมือนก้อปปี้แล้วยกมาใส่ทั้งดุ้น
เพียงแค่เปลี่ยนปี พ.ศ. ปัจจุบันเท่านั้น
แทบไม่ต่างกันเลย เยาวชนนักศึกษามีค่าใช้จ่ายโทรศัพท์มือถือ
มากที่สุดเป็นอันดับแรก แต่ในนั้นยังมีเรื่องหอพักที่นักศึกษาอยู่ก่อนแต่ง
ในขณะดำรงสถานะนักศึกษาด้วย ตัวเลขเกือบครึ่งๆ กับหอพักหมู่เพื่อน
ส่วนเหล้า ยา ปลา ปิ้ง และสื่อลามก ที่อย่างแทบไม่ต่างกัน
จะเรียกว่า สังคมกลุ่มนักศึกษาาบางส่วนไม่พัฒนาในทางที่ดี
หรือเป็นมาตราฐานความเป็นอยู่ของนักศึกษาไทยในปัจจุบัน


แต่ท่านมะนาวฯ ช่วยอธิบายการวิจัยสำรวจแบบภาคตัดขวางให้หน่อยสิ
อ่านแล้วนึกภาพตามเองไม่ได้ นึกไปทางงานวิจัยในเงื่อนไขสังคมต้องห้าม
เอ๊ แล้วอย่างนี้ ท่านมะนาวฯต้องอาศัยการอ้างอิงโพลล์สำรวจดังๆ
อย่างดุสิตโพลล์ เอเเบคโพลล์ รามคำแหงโพลล์ เนชั่นโพลล์
ปกติ ผู้เขียนไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเหล่าบรรดาโพลล์เหล่านี้เท่าไรนัก
เพราะส่วนหนึ่ง ผู้เขียนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการให้ความคิดเห็นร่วมมาก่อน
เลยมักปฏิเสธที่จะยอมรับ ว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ตอบแบบสำรวจ
ที่จะเอามาอ้างอิงภาพรวมทางสังคมทั้งหมด
อีกอย่างผู้เขียนเป็นคนที่ชอบคิดขวางโลก อีกทั้งมือไม่พายยังเอาเท้าราน้ำ
ดังนั้น ในๆทุกงานวิจัย ผู้เขียนจึงเชื่อเอาเองว่าเป็นการศึกษา
โดยคนกลุ่มหนึ่งๆ ไม่ได้หมายความรวมถึงคนทุกคน
อย่างค่าใช้จ่ายเรือ่งโทรศัพท์ในยุคสมัย่กอน
ถ้าเป็นยุคผู้เขียน คงต้องเป็นเพจเจอร์ปี๊บๆ ซึ่งก็ไม่ได้เป็นค่ารายจ่าย
มากไปกว่าการซื้อหนังสือ หรือนิตยสารตามแผงร้านค้าทั่วไป
แต่ก็คงเป็นไปตามยุคสมัยอะน้อ
เด็กยุคมะนาวฯครองเมือง อาจจะใช้ ก็ถือเป็นบทสะท้อนสังคมอีกด้านละกัน
แต่ปล. เป็นงานวิจัยที่กดขี่เพศเชิงชายเหลือเกิน อันนี้เดี๊ยนรับไม่ค่อยจะได้
ไมเห็นเอางานวิจัย พฤติกรรมการดื่มเหล้าของสตรีเพศมาถ่วงดุลอีกข้างละเธอ

ผู้เขียนอยากรู้งานวิจัยเรื่องการอ่านและพฤติกรรมการอ่านของคนไทยโดยรวม
ไม่รู้ว่าท่านมะนาวฯจะไปแฮกส์ข้อมูลองค์กรมาได้อะป่าว
คาใจกับค่าเฉลี่ยปีละแปดบรรทัดมาก ทั้งๆที่คนไทยอ่านออกเขียนได้ตั้ง
เก้าสิบเปอร์เซ็นต์โดยประมาณ นี้ถ้ารวมเรื่องโลกการอ่านในอินเตอร์เน็ต
ที่ผู้เล่นอ่านตั้งตากันเอาเป็นเอาตาย คิดว่าค่าเฉลี่ยนจะพอช่วย
ให้เป็นหนึ่งหน้ากระดาษเอสี่ได้อะป่าวน้อ


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 19 สิงหาคม 2553 เวลา:20:18:44 น.  

 
ทำโอที ก็เพื่อมีกินให้มากขึ้น อิ่มขึ้นและอ่รอยขึ้นกว่าเก่า
แค่ไม่ทานอะไรตั้งแต่ตอนสิบโมง มาคลานหาอะไรกินตอนตีสอง
เป็นเรื่องอันแสนจะปกติมากครับท่านมะนาว
แต่เรียกตัวเองเป็นอูฐเสียน่าชังนักเชียว แต่ผู้เขียนนึกไปถึงแพะมากวก่าอะน้อ
ดื่มน้ำแล้วท้องไม่เสียเหรอครับ ผู้เขียนไม่มมีบุญญาธิการในเรื่องนี้
แต่คนดื่มน้ำมากๆ มักจะตัวโตเกินวัย แต่ฟังดูสภาพแล้ว
สงสัยว่าจะเก็บซ่อนไว้ในกระดูกส่วนใน อย่างน้อยก็ยังดีที่ดื่มไม่ใช่อาบ
ด้วยค่าน้ำนมอยู่ที่ตัวคุณแม่ มิใช่อยู่ที่อ้างอาบน้ำ
อย่างน้อยๆ คุณค่าส่วนนี้ท่านมะนาวฯก็ยังคงดำรงไว้มิให้สูญหาย
สมแล้วที่เป็นสตรีดีเด่นแห่งปีก่อนๆๆๆๆๆโน้น จริงๆ

The Class นี้ไม่เคยชมอะท่าน แต่น้องนางเอกน่าตาจรัสศรีดีไม่น้อย
แอบไปดูภาพจาก imdb มา หนังปาล์มทองคำนี้
ไม่ใช่ว่าจะดีสนุกสุดปลื้มไปเสียทุกเรื่องน้อท่าน เจอเจ็บๆอาร์ทๆมาก็เยอะ
งั้นขอยกตำแหน่งท่านมะนาวฯตัวเจ็บ เป็นผู้พิสูจน์ทางอารมณ์ไปก่อนล่วงหน้าละกัน
insomnia จะผิดกลิ่นโนแลนสไตล์ไปพอสมควรนะครับคิดว่า
ถ้าไม่บอกว่าเเกกำกับ ผู้เขียนอาจนึกว่ามันไม่ช่ายไม่ใช่เอาได้ง่าย
ท่านมะนาวเป็นโรคภูมิแพ้เก้าสิบเก้าเหรอ เห็นเสร็จราคานี้ประจำ
อย่างนี้เวลาท่านมะนาวฯอยู่ออฟฟิค ท่านมะนาวฯต้องเป็นเต้ยวงการหนังๆ
ท่ามกลางเหล่านักวิชาการในบริษัท

แล้วผู้เขียนอยากเปล่งประกายกรี๊ดอีกแล้ว
เพราะท่านมะนาวฯคงเข้าใจอะไรคลาดเคลื่อนนิดนึง
หนังที่ชวนไถลไปอ่านหนังสือ เป็นหนังที่พูดถึงหนังสือเล่มอื่นๆ
ทีไม่ได้เกี่ยวอะไรในต้นฉบับของหนังสือที่ถูกเอามาทำเป็นหนังแต่อย่างใด
ยกตัวอย่าง ใน The Reader มีการอ้างหนังสือที่ถูกหยิบ่อ่านให้หญิงที่อ่านหนังสือไม่ออก
อย่าง The Odyssey ของกวีโฮเมอร์,The Lady with the Dog,Huckleberry Finn เป็นต้น
หรือใน October Sonata ก็ใช้หนังสือแทนใจ จาก สงครามแห่งชีวิต จากปลายปากกาของศรีบูรพา
มันจะได้มีแรงบันดาลใจ ไปหาหนังสืออันเป็นสื่อประกอบภาพยนตร์มาตามอ่านนะท่าน
ส่วนให้เปรียบเทียบหนังกับต้นฉบับของหนังสือ อันนี้เป็นโครงการวางไว้ยามแก่เฒ่า
ซึ่งหวังว่าคงมีช่วงเวลา "ว่างมาก" ในตอนนั้น
แต่ตอนนี้แม้นมสักแก้ว ผู้เขียนยังไม่มีปัญญาเก็บกักตุนเอาไว้เลย
จะขอเผื่อจากท่านมะนาว ก็เห็นฤทธิเดชมาแล้วจากพลังไข่เจียวในเขตทับซ้อน
และของฝากจากแดนไกล ที่ยังไกลสมแดน



! ตั้งเครื่องหมายตกใจล่วงหน้า
เพราะไม่อยากเชื่อว่า กุลสตรีหญิงๆอย่างท่านมะนาวฯไม่รู้ว่ามิกะ
ชีเคยโลดเเล่นจากหนังเรื่องใด อมภูมิมีของดีพกเก็บไว้กับตัว
อย่าเอามาแกล้งกันนะครับ ชีดังโคตรๆ จากเรื่อง นานะ
ที่ทำเอาเด็กสาวสยาม เด็กทอมจากฝั่งธนบุรี ตีตั๋วลิโด้คนละรอบสองรอบ
อายุก็น่าจะไล่เลี่ยกับท่านได้ แต่คงไม่ได้เห็นชีรับเล่นเพราะเจ๊แกถอนตัวไปทำอย่างอื่น
ที่เดิ้นกว่า ชีมีเพลงดังหลายเพลง แต่เพลงหนึ่งที่ผู้เขียนตั้งเอาไว้เป็นนาฬิกาปลุก
ก็คือ เพลง Ai shiteru ตั้งไม่ใช่อะไรหรอก จะได้เอามานอนต่อนะ
ฟังแล้วมันช่างเคลิ้บเคลิมดีแท้ หนังที่ท่านมะนาวว่ามา Conceited Detective
ชื่อญีปุ่นเรียกว่า Unubore Deka อันนี้ได้ข่าวมาคราวๆ
แต่ทำไมถึงถามละ อ้อ!เหรอว่าอิจฉาที่เล่นคู่เจ้า โทโมยะ
เป็นเอามากนะท่านมะนาวฯ คงไม่น่าจะใช่โครงเรื่องนะท่าน
ส่วนชีหายก็พอเข้าใจ เพราะงานหลักของเจ็แกเป็นงานเพลงมากกว่า
ซึ่งก็มีงานเพลงต่อเนื่องทุกปี อย่างปีที่แล้วก็ต่ะลุยทัวร์ Trust Our Voice Tour
ส่วน Kat tun ไปดังที่เกาหลีแล้วเหรอครับ ดูเหมอืนว่าประวัติศาสตร์ความขัดแย้งชาติ
จะไม่มีผลต่อการคลั่งไคล้ทางการตลาดเอนเตอร์เทนของทังสองประเทศ
ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดีที่ควรจะเข้าใจกัน แม้จะฟังไม่ค่อยรู้เรื่องก็เหอะ
ส่วนซีรีย์ฝรั่ง นี้ยังดู 24 season 3 ไม่จบเอาสักเลย ปีก่ามาแล้วอะเนี่ย

"สู่อนันตกาล ชีวิตฉันและสตีเฟ่น ฮอว์กิ้ง"
รู้สึกว่าต้นฉบับภาษาอังกฤษจะชื่อ Travelling to Infinity
เห็นๆมาแต่ใกล้ วางคู่กับ age of turbulant ของลุงกรีนแบงค์
ด้วยความหนาและการเข้าควบคู่จับวางเรีรยงเพราะมาจากสนพ.โพสต์บุ๊คเดียวกัน
เปิดจับวางหลายครัง้แล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่ซื้อ
ทั้งๆที่ซื้อหนังสือก่อนหน้าที่เป็นงานเขียนของฮอกกิ้ง จากค่ายแปลมติชน
หลายต่อหลายครั้งแล้ว ไม่ว่า ประวัติย่อของกาลเวล (History of Time)
จักรวาลในเปลือกนัท (The Universe in a Nutshell)
จัดว่าเป็นปราชญ์ทางจักรวาลศาสตร์
ที่ไม่มน้อยหน้าไปกว่าไอน์สไตน์ แม้ตลอดชีวิตที่เหลือจะต้องเผชิญโรค ALS
(คล้ายๆหนูอายะใน 1 litre of tear เลย) อ่านงานของแกต้องอาศัยจินตนาการ
โอเวอร์ไซด์สุดๆ เป็นคนที่ได้รับรางวัล Lucasian Chair of Mathematics
เป็นคนที่สองในรอบรอ้ยปี นับตั้งแต่ไอเเซก นิวตันได้มาเป็นหัวโด๋เพียงคนเดียว
เราสามารถเอาชีวิตแก มาเป็นแบบอย่างแม้จะไม่รู้เรื่องวิทยาศาสตร์
สมองเขาไม่เคยอ่อนเปลี๊ยไปตามสภาพกล้ามเนื้อที่เขาเป็น
น่ายกย่องมากเลยนะขอรับ ดังนั้นอย่าโทษตัวเอง
กับนังหนู เคอิโกะเลยท่าน สมองคนเราก็อาจเห็นบางสิ่งที่ไม่ชินตาไปได้
แต่ถ้าจะทำจริง รู้สึกว่าเท้าผู้เขียนก็เริ่มกลับมาแข็งแรงได้อีกครั้งแล้ว
ต้องขอลองกระดิกนิ้วเท้าโชว์สักเล็กน้อยหน่อยแล้ว




โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 19 สิงหาคม 2553 เวลา:21:55:07 น.  

 
โอ๊ย!สมควรตบโหลกตัวเองสองที
ที่จำมิกะ นากาชิมาไม่ได้
สมควรที่คุณchanpanakritจะตกใจล่ะค่ะ
เพราะเรื่องนี้มะนาวชอบมากกกกกกก
มิกะเป็นนานะห้าว ส่วนเจ้าหญิงอัตสึเป็นนานะหวาน
แต่ภาค2มะนาวไม่ชอบนานะหวานเลยค่ะ
นอกจากหน้าตาไม่โดนแล้ว นิสัยในเรื่อง
ยังไม่เอาอ่าวอีกด้วยค่ะ ต้องให้ใครนะ
ที่แสดงเป็นแฟนที่เป็นนักดนตรีเพลย์บอยน่ะค่ะ
มาสั่งสอนเอาว่า ทำตัวแบบนี้ให้นึกถึงพ่อ แม่บ้าง
สมควรจริงๆเลยค่ะ ทำตัวไร้สมองสิ้นดี
มะนาวดูไปขัดใจยัยนานะหวานไป
ส่วนนานะห้าวไม่ต้องพูดถึง ถูกจาย ใช่เลย
แต่งตัวเท่สุดๆ ทั้งเข้มแข็ง ทั้งอ่อนโยน
ตอนภาค1นะคะมะนาวประทับใจมาก
ตอนนานะหวานถูกแฟนทิ้งแล้วมานอนร้องไห้
นานะห้าวเข้าไปในห้องไม่พูดอะไรซักคำ
แต่เข้าไปนอนกอดนานะหวานไว้ โอ๊ย!กระแทกใจเลยค่ะ
มันแสดงถึงว่านานะห้าวทั้งรักทั้งเป็นห่วงนานะหวาน
ไม่มีคำพูดใดๆมีแต่symbolที่สื่อออกมา
เหมือนกับคำเปรียบเทียบอะไรน๊า
"Actions Speak Louder Than Words"น่ะค่ะ
คุณchanpanakritว่าไหมคะ(จะบอกว่าไม่ได้ซาบซึ้งด้วยใช้ม๊า)
มะนาวก็มีเพื่อนแบบนานะห้าวเหมือนกันนะคะ
คือมะนาวเคยเจอคนโรคจิตบนรถเมล์ค่ะ
อี๋!นึกแล้ว ขนลุก ขยะแขยง มะนาวได้เล่าให้เพื่อนฟัง
เพื่อนบอกว่าต่อไปเค้าจะยืนข้างหลังมะนาวเอง
แล้วเค้าก็ปฏิบัติอย่างนั้นมาตลอดจนจบการศึกษาเลยค่ะ
จากที่เป็นแค่คนแปลกหน้าเพราะเรามาจากต่างโรงเรียนกัน
แต่ก็สนิทกันจนเป็นเพื่อนซี้แบบปาท่องโก๋เลยค่ะ
คือถ้าเห็นคนหนึ่งต้องเห็นอีกคนหนึ่งตลอดค่ะ
จนถูกแซวว่าคู่ปาท่องโก๋อ้วน ผอม
เพื่อนเค้าค่อนข้างตัวโตค่ะ
เพราะฉะนั้นพอยืนข้างหลังมะนาวก็บังมะนาวมิดเลยค่ะ
แล้วสงสัยใช่ไหมคะว่าทำไมอยู่ๆมะนาวถึงถามถึงมิกะขึ้นมา
คือว่าพอมะนาวอ่านเจอแล้วมะนาวก็คุ้นๆแต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก
หนังสือเขาก็ลงรูปให้ดูด้วยนะคะ แต่ดูแล้วไม่คุ้นเลยค่ะ
เลยถามผู้รู้ดีกว่า ขี้เกียจเข้าอากู๋
แล้วเหตุจูงจายก็ไม่ใช่โทโมยะนะค่า เจ้ายักษ์นั่นมะนาวไม่สนหรอกค่า
คลิปที่แปะให้นี้เป็นเพลง Ai shiteru เหรอคะ
ทำไมเสียงมิกะยังกะเสียงผู้ชายอย่างนั้นล่ะคะ ห้าวจัง
มะนาวว่านะอย่างคุณchanpanakritน่ะ
ต้องปลุกด้วย"นาฬิกาซ่อนหา"
คือมันปลุกแล้วมันจะซ่อนตัวเองให้เราต้องลุกมาควานหามัน
เพราะถ้าไม่หามัน มันก็จะปลุกต่อแล้วย้ายที่ไปเรื่อยๆ
แล้วจะบอกว่าไอ้"นาฬิกาซ่อนหา"นี้
ได้อิ๊ก โนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์เชียวนะ จะบอกให้
เพราะช่วยให้คนเราใช้เวลาในการผลิตรายได้มวลรวมประชาชาติได้คุ้มค่าขึ้น
หุ หุ คนให้รางวัลช่างคิดได้ไกลดีจริงๆแท้น๊อ ว่าไหมคะ

พูดเล่นปล่าวคะ ไม่ทานอะไรตั้งแต่สิบโมงแต่มาทานตอนตีสอง
เป็นมนุษย์เหล็กไหลหรือไงคะ หรือว่าอิ่มทิพย์
คุณchanpanakritช่างดำเนินชีวิตแบบทำร้ายตัวเองได้ดีแท้ๆ
แล้วอาหารที่เลือกทาน ก็แหมช่างให้คุณค่าทางโภชนาการสูงเหลือเกินนะคะ
แล้วไม่ต้องมาบอกเลยว่าคนจน คนจนก็เลือกทานอาหารที่ให้คุณค่าสูงได้ค่ะ
หาเวลาสัก1วันในหนึ่งอาทิตย์แล้วต้มจั๊บฉ่ายหม้อโตๆไว้ทานนะคะ
ใส่มันให้ครบทั้งซี่โครงหมู ทั้งเต้าหู้
ส่วนผักชอบทานอะไรคุณchanpanakritก็ใส่ลงไปเลยค่ะ
แค่นี้คุณchanpanakritก็ได้อาหารอร่อยๆไว้ทาน
แถมมีคุณค่าทางอาหารครบด้วย อยากทานตอนไหนก็แค่อุ่นเท่านั้นเอง
ตอนมะนาวไม่ขี้เกียจ มะนาวชอบทำไว้ทานเล่นๆเป็นหม้อๆเลยค่ะ
มะนาวทานคนเดียวค่ะ เพราะไม่อยากฟังที่บ้านวิจารณ์
เพราะว่ามะนาวทำสูตรของมะนาวเอง ไม่เหมือนที่ทำขายหรอกค่ะ
จะบอกว่านมแพะมะอร่อยเลยค่ะ มันสางๆไงมะรู้ ไมชอบทานค่ะ
ส่วนนมมะนาวดื่มได้สบายมากค่ะ เนื่องจากมะนาวดื่มมาสม่ำเสมอ
มะนาวจึงไม่มีภาวะพร่องแล็กเทส (Lactase deficiency)ค่า
เนื่องจากในนมมีน้ำตาลชนิดหนึ่ง เรียกว่าแล็กโทส (Lactose)
และมันต้องใช้เอนไซม์ที่เรียกว่า แล็กเทส (Lactase) ในการย่อย
ซึ่งแล็กเทสเป็นเอนไซม์ที่สร้างจากเซลล์เยื่อบุลำไส้เล็ก
ทำหน้าที่ในการย่อยน้ำตาลที่ชื่อว่าแล็กโทส
ให้เป็นลูโคส (Glucose) และกาแล็กโทส (Galactose)
แล็กโทส + แล็กเทส ได้เป็น กลูโคส & กาแล็กโทส
ซึ่งลำไส้สามารถดูดซึมได้ดี แต่ถ้ามีภาวะพร่องแล็กเทส
อาจจากสาเหตุใดก็ตาม อาจจากที่มีการดื่มนมน้อยลง เมื่อพ้นวัยเด็ก
และเมื่อมีการดื่มนมลดน้อยลง
ก็ทำให้การผลิตและการใช้เอนไซม์แล็กเทสลดน้อยลงตามไปด้วย
ในที่สุดเมื่อไม่มีการผลิตเอนไซม์แล็กเทสอีกเลย
และเมื่อหันกลับมาดื่มนมใหม่จึงมีอาการท้องเสียได้ค่ะ
เพราะเมื่อร่างกายขาดเอนไซม์ชนิดนี้
เมื่อเราดื่มนมเข้าไปน้ำตาลแล็กโทสในนม
ไม่ถูกย่อยให้เป็นน้ำตาลที่มีขนาดเล็กลง
ลำไส้ก็ไม่สามารถดูดซึมแล็กโทสได้
เป็นผลให้มีการดึงดูดน้ำเข้ามาในโพรงลำไส้
และเมื่อแล็กโทสเคลื่อนผ่านลงไปในลำไส้ใหญ่
ก็จะทำปฏิกิริยากับแบคทีเรียที่มีอยู่ในลำไส้ใหญ่ เกิดเป็นแก๊ส (ลม)
และสารที่มีฤทธิ์เป็นกรด ได้แก่ กรดแล็กติก และกรดอื่นๆ
จึงทำให้เกิดอาการท้องอืดและท้องเดินหลังดื่มนมหรือกินผลิตภัณฑ์จากนมเข้าไป
อย่างเช่น ช็อกโกแลต ไอศกรีม น้ำสลัด เนย คุกกี้ ก็เป็นได้ค่ะ
สาเหตุที่ร่างกาย พร่องเอนไซม์แล็กเทส
ส่วนใหญ่ไม่สามารถบอกได้ชัดๆว่ามาจากสาเหตุชักนำใด
มันอาจเป็นภาวะที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของร่างกายคนเรา
หรืออาจเกิดจากการติดเชื้อซึ่งเชื้อโรคจะเข้าไปทำลายเยื่อบุลำไส้เล็ก
ทำให้สูญเสียหน้าที่ในการสร้างเอนไซม์ชนิดนี้
ที่พบบ่อยได้แก่ทารกหรือเด็กเล็กที่เป็นโรคอุจจาระร่วงจากเชื้อไวรัสโรตา(rotavirus)
หลังจากโรคนี้ทุเลาลง เด็กจะมีอาการท้องเดินทุกครั้งที่ดื่มนม
ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ก็ดื่มนมได้ตามปกติ
ถ้าคุณchanpanakritอยากดื่มนมได้อีกก็ไม่ยากค่ะ
ลองดื่มพร้อมกับอาหารมื้อหลักสิคะ และดื่มครั้งละน้อยๆก่อน
หรือจะกินโยเกิร์ตก็ได้ค่ะเพราะโยเกิร์ตผ่านการย่อยโดยแบคทีเรียมาระดับหนึ่งแล้ว
ก็อาจไม่ทำให้เกิดอาการ หรือลดอาการให้น้อยลงได้ค่ะ
ถ้าไม่มีอาการเกิดขึ้นก็ค่อยๆ เพิ่มปริมาณการดื่มนมให้มากขึ้นค่ะ
ต่อไปก็สามารถดื่มนมได้ล่ะค่า(สงสัยบอกไม่เอา ว่าสิ้นเปลืองแหงมๆ)

จุ๊ จุ๊ มะนาวไม่ได้เป็นโรคภูมิแพ้99 ค่ะ แต่มะนาวเป็นโรคภูมิแพ้ 69ค่า
ประเภทเห็นปุ๊บถลาเข้าไปหาเลยค่า
ประเภทสติไม่มี มีแต่กิเลสล้วนๆเลยล่ะค่า
จะบอกให้ว่าMemento น่ะมะนาวซื้อมาราคา69บาทเองนะค่า
ถูกต้องแล้วค่ะ มะนาวเป็นเต้ยเรื่องหนัง(ฝรั่ง)ในที่ทำงาน
แต่พอหนังไทยมะนาวแป๊กสนิท จึงต้องเข้ากระทู้เฉลิมไทยหาข้อมูลไงคะ
ว่าตอนนี้เขาคุยเรื่องอะไรกันอยู่ค่ะ
โดยเฉพาะละครหลังข่าวนี้มะนาวไม่เคยดูเลยค่ะ
เคยพยายามแล้วค่ะ แต่ยอมแพ้หลังจากกัดฟันดูไปได้แค่สองตอน
ยอม หนูยอมจริงๆค่ะ หนูรับไม่ได้จริงๆที่พี่นึกอยากจะให้
ละครตอนนั้นเป็นแบบไหน พี่ก็ยัดบทพรวดเข้ามาโดยไม่ต้องมีเหตุผลใดๆรองรับ
หนูเลยต้องขอเป็นบุคคลหลังเขาล่ะค่า แต่ไม่ตกเทรนด์นะคะ
เขาคุยเรื่องอะไร ข้าเจ้าสามารถผสมโรงได้หมดล่ะค่า
(ความสามารถเฉพาะตัวมีมากในเรื่องนี้ หุ หุ)
อ้าว!เหรอ มะนาวอ่านโจทย์ไม่แตกหรอกเหรอคะ
ถึงกับทำให้คุณchanpanakritกรี๊ดแตก
ต๊าย ตาย เดี๊ยนขอโทษนะฮ้า เดี๊ยนลืมใส่แว่นฮ้า
เลยอ่านไม่ชัด ว่าแล้วก็คว้าแว่นขยายมาส่อง
(ดูขนมที่ตกลงไป แต่ไม่เกิน 5 วิ ปลอดภัย ปัดฝุ่นนิดหน่อยทานต่อได้ อิ อิ)
ส่วนซีรีส์ 24 มะนาวได้มาseasonไหนมาก็มะรู้
รู้แต่ว่าเปิดดูมะด้าย หลังจากเอามาดองไว้เกือบปี ก็ส่งคืนเขาไปเรียบร้อยแล้วค่า

สตีเฟ่น ฮอว์กิ้งป่วยเป็นโรคAmyotrophic lateral sclerosis (ALS) เหรอคะ
แล้วเขียนหนังสือได้ยังไงคะ
หรือใช้วิธีกระพริบตาเหมือนชอง โดมินิค โบบี้
จากThe Diving Bell and The Butterflyคะ
ฮอว์กิ้งกับอายะคงคล้ายกันที่
สูญเสียความสามารถในการควบคุมการเคลื่อนไหวทางกายภาพของตน
แต่รอยโรคเกิดคนละที่กันค่ะ ของอายะเกิดที่สมองน้อย(cerebellum)
ไขสันหลัง (spinal cord)และระบบประสาทนอกส่วนกลาง
(peripheral nervous system)มีการฝ่อลีบลง
ส่วนของท่านฮอว์กิ้งมีพยาธิสภาพของโรคอยู่ที่บริเวณแกนสมอง และไขสันหลัง
สาเหตุของอายะเป็นโรคทางพันธุกรรม
ส่วนของท่านฮอว์กิ้งสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด
แต่ปัจจุบันเชื่อว่าสาเหตุของโรคนี้อาจเกิดจาก
กลไกภูมิคุ้มกันต่อตนเองผิดปกติ (Autoimmune attack)
หรือเกิดจากกลไกอนุมูลอิสระ (Free radicals) ทำลายเซลล์ประสาทของตนเอง
หรือกิดจากสารสื่อนำกระแสประสาท (neurotransmitter)
ที่เรียกว่ากลูตาเมต (glutamate)กระตุ้นให้เกิดการทำลายเซลล์
อ่านเป็นข้อมูลเล่นๆนะคะ แก้ง่วง
อ้อ!บ้านเราก็มีนะคะที่ป่วยเป็นโรคเดียวกับท่านฮอว์กิ้ง
เป็นข่าวดังด้วย จำได้ไหมเอ่ย คุณพเยาว์ พูนธรัตน์ไงคะ
ที่เป็นสส.พรรคประชาธิปัตย์จังหวัดประจวบฯยังไงล่ะคะ
นึกออกปล่าวคะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.83.208 วันที่: 20 สิงหาคม 2553 เวลา:18:11:52 น.  

 
ใช่ค่ะตอนแรกมะนาวก็สงสัยว่าทำไมสหพัฒน์ฯ
ถึงมาทำวิจัยเรื่องนี้ หรือว่าพอนักศึกษาพวกนี้
เที่ยวเสร็จ แล้วต้องมากินมาม่าเพราะตังค์หมด 55
จะบอกว่าบางครั้งงานวิจัยมันก็ซ้ำไปซ้ำมาอย่างนี้ล่ะค่ะ
เพราะใช้ประชากร ใช้กลุ่มตัวอย่างคนละพื้นที่กัน
แต่ผลการวิจัยไม่ว่าเขาจะทำตรงจุดไหนมันก็ได้ผลที่สอดคล้องกันไงคะ
ซึ่งเวลาอภิปรายผลก็ใช้อ้างอิงกันได้
ว่าที่คนโน้นทำก็ได้ผลอย่างนี้เหมือนกันนะ
แต่ถ้าสภาพัฒน์ทำน่าจะเป็นการเก็บข้อมูลทั่วประเทศมังคะ
เพราะองค์กรใหญ่มหึมา เงินทุนก็คงหนา
ไม่กระจอกเหมือนพวกมะนาวร๊อก
กลุ่มตัวอย่างคำนวนแล้วเขาให้จำนวนต่ำสุดเท่าไหร่ที่จะให้ค่าที่เชื่อถือได้
ก็เอาเท่านั้นล่ะค่ะหรือเกินมาก็นิดหน่อยเองค่ะ
แล้วผลพวกนี้ล่ะค่ะที่เขาไปใช้อ้างอิงประชากรกลุ่มใหญ่อีกทีหนึ่งค่ะ
อืม!ที่คุณchanpanakritสงสัยมันก็ถูกล่ะค่ะ
แต่เวลาสำรวจเราไม่สามารถไปสอบถามทุกคนได้นี่คะ
มันถึงต้องใช้การคำนวนเข้าช่วยที่จะแปลผล และทำนายผลต่อไปไงค่ะ
แล้วเวลาเขาอภิปรายผล
ก็เห็นไหมคะเขาบอกว่าเชื่อถือได้แค่เท่านั้น เท่านี้เปอร์เซนต์
เขาไม่เคยบอกเลยว่าเชื่อถือได้หนึ่งร้อยเปอร์เซนต์
อย่างการทดลองที่เป็นPure Researchจริงๆ
เขาก็ไม่ได้ทำกับคนทุกคนเหมือนกัน
ทั้งๆที่คนแต่ละคนแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
แม้แต่พ่อ แม่ เดียวกัน ยังแตกต่างกันเลยค่ะ
อย่างบางครั้งวัคซีนที่ผลิตขึ้นมา ผ่านการทดลองใช้มาแล้วนะในพื้นที่หนึ่ง
ผ่านฉลุย แล้วเป็นไงค่ะ พอมาใช้อีกพื้นที่หนึ่ง เกิดผลข้างเคียงถึงชีวิต
แต่เขาก็ให้ใช้ต่อไปค่ะ คือคนส่วนใหญ่ไม่เป็นมีเพียงน้อยนิดเท่านั้นที่เป็น
เพราะฉะนั้นเขาก็จะแนบเป็นข้อควรระวังมาให้
มะนาวยกตัวอย่างวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ H1N1 2009
ที่ทำงานมะนาวเป็นบุคคลอยู่ในลิสต์กลุ่มแรก ที่ต้องโดนฉีด
แล้วเป็นไงคะ รวนเร แปรปรวนกันไปหมด ฉีดดีไหมๆ
มะนาวบอกว่ามีโอกาสเกิดอาการแพ้แค่น้อยกว่า 1 ในแสนซะอีก
เพราะฉะนั้นถ้าพวกเราไม่ฉีดแล้วใครที่ไหนเขาจะกล้าฉีดล่ะ
คือตอนนั้นมีข่าวคนท้องเสียชีวิตไงคะ คุณchanpanakritคงจำได้
แต่จริงๆคือพอสืบค้นลึกลงไปมันก็มีเงื่อนไขอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรร้อยเปอร์เซนต์หรอกค่ะ
ถ้าคุณchanpanakritไม่สามารถทำใจยอมรับไอ้ที่ไม่ร้อยเปอร์เซนต์นี้ได้
คุณchanpanakritก็คงไม่สามารถหาวิจัยไหนที่ถูกใจได้เลยค่ะ
แล้วคุณchanpanakritเล่นใช้ตัวเองเป็นบรรทัดฐานอย่างนั้น
แล้ววิจัยไหนมันจะรองรับล่ะค่ะ
ก็คิดเหมือนชาวโลกส่วนใหญ่เขาซะที่ไหน เฮ้อ!กลุ้มจาย

ส่วนเรื่องโพลล์เหรอคะ คงไม่ได้เอามาใช้อ้างอิงหรอกค่ะ
แต่น่าจะใช้เป็นตัวจุดประกายให้เราสงสัย
ว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงเหรอ
แล้วก็มาสู่คำถามการวิจัยเพื่อหาคำตอบต่อไปค่ะ
ส่วนพฤติกรรมการดื่มเหล้าของสตรีเพศเหรอ
ขอเวลาไปหาก่อนนะคะ ไม่รู้มีอ่ะปล่าว
ส่วนอีกเรื่องที่คุณchanpanakritอยากรู้
ม่ายมีแน่นอนค่ะ คนละสายงานน่ะเจ้า
วิจัยการอ่านและพฤติกรรมการอ่านของคนไทย
ต้องไปหาที่ไหนคะ น่าจะเป็นกะทรวงศึกษาหรือเปล่าคะ
มะนาวก็คาใจกับแปดบรรทัดเหมือนกันค่ะ
แต่ที่บอกว่าคนไทยอ่านออกเขียนได้ตั้งเก้าสิบเปอร์เซ็นต์นี้สิ คาใจกว่าค่ะ
เพราะที่มะนาวเจอมีจบป.ตรีมาสมัครงานที่หน่วยงานของมะนาว
มาเป็นลูกจ้างรายวัน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะ
ฮีเขียนหนังสือแบบว่าพวกเราอ่านไม่ออกเลยค่ะ
ตัวสะกด วรรณยุกต์ ต้องวางยังไง วางตรงไหนฮีไม่รู้
ฮีสะกดไม่เป็นใส่วรรณยุกต์ไม่ถูก แม้แต่คำว่าจักรยาน
มอเตอร์ไซค์ โรคความดันโลหิตสูง ฮีเขียนไม่เป็นค่ะ
แล้วฮีจบป.ตรีมาได้ยังไง มะนาวล่ะงงจริงๆค่ะ

มาเข้าเรื่องดีกว่านะคะ
รูปแบบการวิจัยเชิงสำรวจแบบภาคตัดขวาง(Cross-sectional study)
เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ ต้องมีกลุ่มตัวอย่างตามจำนวนที่กำหนด
มีเครื่องมือ เช่น แบบสอบถาม หรือแบบสัมภาษณ์(เก็บข้อมูลครั้งเดียว)
ใช้หลักวิชาสถิติวิเคราะห์ ซึ่งถ้าจำแนกตามวิธีการวิจัย
ก็จัดเป็น Observational Study(การวิจัยโดยการสังเกต) และ
เป็นเชิงพรรณนาณ.จุดเวลาใดเวลาหนึ่ง(Cross-sectional Survey )
ไม่มีกลุ่มเปรียบเทียบ มีExposureureเกิดตามธรรมชาติ
(Exposureสาร= ยา วัคซีน ภาวะ หรือปัจจัยใดๆ
ที่ประชากรหรือกลุ่มตัวอย่างหรือผู้ถูกทดลองได้รับ)
ในการศึกษาแบบนี้ กระทำโดยการสำรวจในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง
ในประชากรกลุ่มเป้าหมาย ในการกระทำดังกล่าว
การมีพฤติกรรมเสี่ยงหรือปัจจัยอื่นที่คิดว่าเกี่ยวข้อง
จะถูกวัดไปพร้อมๆกันหรือในเวลาเดียวกัน
ซึ่งจะคล้ายกับภาคตัดขวางของประชากรในช่วงเวลาหนึ่ง
และศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมเสี่ยงและปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้องในช่วงเวลานั้น
การศึกษาแบบนี้จะรู้แต่ความชุกของการมีพฤติกรรมเสี่ยง(Prevalence )เท่านั้น
คือไม่รู้เลยว่าใครเพิ่งเริ่มมีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ หรือใครมีมานานแล้ว จะแยกไม่ได้ค่ะ
แต่ประโยชน์คือทำให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับความชุกหรือผลกระทบ
เกี่ยวกับกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยเสี่ยงนั้น
เพื่อจะได้วางแผนในการดำเนินงานป้องกันต่อไปค่ะ
พอจะมองเห็นภาพบ้างไหมคะ
ไม่เห็นก็ไม่อธิบายแล้ว หมดแฮงแล้วเจ้าค่ะ

ประกาศ ประกาศ

แบตหมด แบตหมด

จะนอน จะนอน

พรุ่งนี้ขอเวลานอก

เจอกันวันอาทิตย์นะเจ้าคะ

ข้าเจ้าไปตอบให้ในบล็อกAntiqueก็ได้เจ้าค่ะ

(อ้อ!ลืมไปเจ้าค่ะ ฝากทุบนิ้วเท้าใครบางคนด้วยนะเจ้าค่ะ เริ่มมาระรานข้าเจ้าแล้วเจ้าค่ะ)



โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.83.208 วันที่: 20 สิงหาคม 2553 เวลา:18:19:38 น.  

 
วันนี้เป็นวันหยุด ที่ไม่ได้พักผ่อนของท่านมะนาวฯใช่ไหมขอรับ
ท่านมะนาวฯเองก็เเปลกคนดีนะขอรับ ใช้สิทธิ์วันหยุดทำกิจให้กับคนไม่คุ้นเคย
แต่พยายามคิดว่า คงมีสิ่งที่ประสงค์จะต้องทำ โดยมีเงื่อนไขการแก้รายงาน
เป็นส่วนประกอบไปด้วย อันนี้ไม่ได้คิดร้ายนะขอรับ
แต่เอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานตั้งด้วย ส่วนใหญ่ถ้าจะใช้สิทธิ์พิเศษอะไร
ก็มักจะมาหลายองค์ประกอบ มาเขย่าลงในสมอง
แล้วค่อยไตร่ตรองครุ่นคิด ความคุ้มค่าของราคาวันหยุดเมื่อเปรียบเทียบ
กับการกระทำ
พูดอย่างงี้ เหมือนกับจะอ้างโพลล์สำรวจตัวเองนะครับ
อยากให้ท่านมะนาวมาวิจัยบ้างจริงๆ ถ้ามีจะเก็บใบสรุปรายงานการวิจัย
โพลล์สำรวจตัวเอง ไว้แปะฝาบ้าน กราบเช้ากราบเย็นเป็นพุทธบูชา
มีไหมครับ? โพลล์สำรวจที่ใช้กลุ่มแบบสอบถามผู้สำรวจเพียงคนเดียว
แล้วตั้งรายงานการสำรวจนั้น เป็นแบบหัวข้อของผู้ถูกสำรวจ
อ้างเอง อิงเอง และเก็บเอาไว้เอง


มาฟังอารมณ์ฮาฮะ จากหนังเรื่องนานะในอารมณ์ของท่านมะนาวแล้ว
ถืออารมณ์เปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ในความคิดของนานะ สองด้าน
ด้านแรก เปลี่ยนภาพลักษณ์ในตัวมิกะแบบสุดฤทธิ์ทิ่มประตู
เพราะผู้เขียนติดตามงานเพลงของมิกะ มาตั้งแต่ชีตัวผอมกระหร่อง
ไว้ผมยาว โกนแต่งคิ้วซะโก่งรอบดาวอังคาร
แต่มาเจอมิกะในร่างการ์ตูน โอซากิ นานะ ชีเหมือนมนุษย์จากโลกดาวอังคาร
หน้าตาประหลาดเกินคน ดูไปก็ปฏิเสธเชิงหน้าตามาโดยตลอด
แต่สุดท้ายก็คอ่ยๆซึมยอมรับไปตามลำดับ ทำลายอัตลักษณ์เชิงภาพลักษณ์
ที่ติดตามานานนับปี
ส่วนนานะ หญิงหวาน โคมัทสึ นานะ
ผู้เขียนว่าชีเล่นได้ดีตามสภาพตัวละครนะครับ ก็หนูอาโออิ มิยาซากิ
เพราะชีออกจะหน้าหวานปานดวงใจเยี่ยงนี้
แต่ก็ไม่แปลกหรอกนะ เพราะบทของโคมัทสึมันช่างสดใส ไม่ท้าทายในการแสดง
ผู้เขียนว่า ความเป็นการ์ตูนแลดูเข้มข้นสุดชีวิต และบทแรงยิ่งกว่า
ไม่รู้ท่านมะนาวฯได้ดูฉบับการ์ตูนอนิเมะรึยังขอรับ เป็นลิขสิทธิ์ของ tiga วีดีโอ
ผู้เขียนชอบมันมากกว่าฉบับหนังเสียอีก ส่วน Glamorous Sky
ก็เป็นเพลงเอก ที่ทำให้ผู้เขียนบ้าเห่อทำเป็นริงโทนอยู่พักใหญ่
แต่ก็หมั่นไส้กระแส ที่ฮือฮาอยู่พักใหญ่ มิใช่อะไร
จะให้หนุ่มแก่ เข้าไปเบียดแย่งพื้นที่เก้าอี้กับเด็กสาวคอซองแถวลิโด้
เลยจำต้องรอพักใหญ่ในรูปแบบดีวีดีตามมา
เอ๊ ว่าแต่ครั้งสุดท้ายที่ดูหนังโรงของท่านมะนาวฯนี้เรือ่งอะไรขอรับ
เพราะเห็นเล่าหนังเรื่องไหน ก็เป็นรูปแบบของแผ่นไปเสียทุกที



อารมณ์เพื่อนสาวของท่านมะนาวฯ เป็นความสอดรับกับNana Situation
จริงเลยนะครับ แต่ประทานโทษ สิ่งที่ผู้เขียนเจอะเผชิญในความรู้สึก
ต่อท่านมะนาวฯ คือ Words and Sentence Speak Louder Than Action
โดยเฉพาะหลังไมค์แต่ละที ไม่ต่างจากการพาเชิญเข้าห้องเย็นเอาเสียเลย (ฮา)
เรียกโทโมยะ ว่าเจ้ายักษ์ ใจคอนานะแมนเข้าสิงเสียแล้ว
ไอ้นาฬิกาซ่อนหา อันนี้ไม่เก็กครับท่าน มันมีนัยยะถึงอะไรเหรอครับ
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ รายได้มวลรวมประชาชาติ เหรอครับ
มาแนวใช้จินตนาการจับเคลือบไม่ถึง แบบวิจัยสำรวจแบบภาคตัดขวาง
หลังๆท่านมะนาวฯ บรรลุวิชาธรรมไปไกลเลยนะครบั
ทำให้จับต้นชนปลายเรื่องราวไม่ถูก ขอใช้สำนวนเดิมของท่าน
ที่ฉุดผู้เขียนให้ตกจากหอคอยงาช้าง "ช่วยเอาท่านมะนาวฯคนเดิมกลับมาเถอะครับ"
ใครเอาอาจารย์แม่ มาสนทนากับผู้เขียนนิ!!



ทำจับฉ่าย ฟังเหมือนง่ายแต่ทำยากนะครับ
อุปกรณ์เครื่องครัว ก็มีเพียงแค่ตะเกียบกับน้ำยาล้างจาน
อ่านการทำงานของลำไส้กับเจ้าน้ำตาลลูโคส (เรียกว่าน้ำตานี้ถูกอะป่าวครับ)
แล้วทำอย่างไรให้ผู้เขียนเรียกเอนไซม์แล็กเทส เมื่อครั้งเยาว์วัยกลับคืนมา
จะให้เอาเจ้าโยเกิร์ตที่เละๆแหวะๆใส่เข้าปาก เข้าได้แต่ไม่ถูกปาก
เจ้า 69 นี้ เป็นราคาที่ไม่สมความเป็นเหตุเป็นผล
ไม่ว่าจะมีคุณภาพหรือไม่รึเปล่าขอรับ เรียกว่า ลดระดับการแสวงหาคำวิจารณ์เลยใช่ป่าว
อืม วันนี้ได้ฟังรายการที่อ.สุวินัย แกเล่าเรือ่งงานเขียนของนิโคลัส สปาร์ก
และหนังโป๊สามมิติ ได้จินตภาพเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปอีกด้าน
ซึ่งคุ้นชินในบางสิ่งที่ท่านมะนาวได้เคยให้ข้อมูลเอาไว้
มันสะท้อนมุมด้านลึกของการเกิดขึ้นของตัวตนในงานศิลปะเชิงพาณิชย์
ว่าแต่พเยาว์ พูนธรัตน์ ตายแล้วเหรอครับ ตกข่าวไปไกลเลยท่าน
เออ ! ฟังท่านมะนาวฯนำศัพท์แสงทางการแพทย์มาอธิบายเป็นฉากๆ
อยากถามมานานแล้วว่า เกิดจากการพรั่งพรูในthinkแว้บ
หรือลิงค์ฉับพลัน แล้วคว้าหนังสือข้อมูลที่ใกล้มือ
เพราะไม่รู้หรอกนะว่าแม่นแค่ไหน แต่ได้อ่านแบบบรรจงที่ละบรรทัด
ก็ต้องบอกในใจไว้ก่อนว่า นี้เรากำลังสนทนากับศาสตราจารย์ดร.
หรือ ผู้ช่วยรัฐมนตรีสาธารณสุขอะป่าว (ฮา)
แต่ทว่าดีมากเลยขอรับ ทำลายพฤติกรรมจริต
กินไม่ล้าง ข้างทางก็ได้ มักง่ายแต่อิ่ม ไปเสียถนัดตา
บางทียังเอาส่วนนี้ไปแนะนำคนรู้จัก มันก็สวนกลับมาว่า
เจอผีพยาบาทเข้าฝันมาเหรอไง! เดี๋ยวนี้เป็นคุณชายสะอาดไปตั้งแต่เมื่อไร
ใจก็อยากจะเปิดคอมเมนต์ของท่านมะนาวให้อ่าน
เพราะเล่าได้ชนิดเข้าไปเห็นส่วนในของตับ ไต ไส้ พุงกันเลยทีเดียว


วันนี้นิ้วเท้าส่วนบน ว่าจะกลับมาหายทัน
พอกล่าวสวัสดีทักทายอย่างเป็นทางการแบบอวัจนภาษาเข้าใส่ท่านมะนาวฯ
แต่ดันไปสะกิดขอบประตู แบบดูตาม้าแต่ไม่เห็นตาปลา
ทุกข์ใดให้แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงteen จริงๆ


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 20 สิงหาคม 2553 เวลา:22:56:24 น.  

 
ยังไม่จบกรณีอาการของโรค ALS (ไม่ขอกล่าวชื่ออาการเต็มนะครับ อ่านยากจัง)
เคยอ่านหนังสือประวัติ แต่เป็นฉบับภาษาอังกฤษลดราคา 99 บาท
อ่านได้ครึ่งเล่ม แต่พอรู้ว่าเป็นอาการคล้ายอายะ คือ อาการค่อยๆเป็น
แล้วเกิดขึ้นฉับพลันอย่างไม่รู้ตัว เวลาแกเขียนหนังสือสักเล่ม
ก้ใช้หลายวิธีครับ หนึ่งในนั้นก็มีการกระพริบตาด้วย
ได้ข่าวว่า ศรีภรรยาปัจจุบันที่เขียนหนังสือเล่มที่ท่านมะนาวฯอ่าน
ได้หย่าขาดกันแล้วนะครับ แต่ลุงฮอกก็ได้รักใหม่กับนางพยาบาลที่รักษา
กลไกร่างกายของมนุษย์นี้เอาแน่เอานอนได้ยากเหมือนกันนะครับ
เพราะไม่รู้ว่าจะมียีนส์ส่วนไหนแปรเปลี่ยนสภาพไป
เอ๊ แต่ไม่เข้าใจว่าหน่วยงานเล็กหน่วยงานใหญ่
มันมีผลต่อสภาพการเข้าถึงข้อมูลขนาดนั้นด้วยเหรอครับ
แต่ดูหน่วยงานของท่านมะนาวฯก็ไม่ธรรมดาเลยนะครับ
แต่ที่เล่าดูเหมือนจะแบ่งกัน เป็นรายกลุ่มกันสักหน่อย
ที่ผู้เขียนตั้งคำถาม ไมได้ดูแคลนอะไรหรอกนะครับ
แค่คิดไปในเชิงตัวเลขศึกษารวมหมู่ แต่ไม่ชอบที่จะเอามาเหมาคนไปทั้งประเทศทุกคน
เหมือนเวลาที่ผู้เขียน จะว่าอะไรที่เป็นการรวมหมู่ ก็จะอาศัยคำว่า"ส่วนใหญ่"
เพราะต้องให้เกียรติ์คนส่วนนอ้ย ที่คิดเห็นไม่เหมือนชาวบ้านเขา
ก็อย่างเราพวก "เด็กแนว" ที่ต้องครีเอฟทีฟ ไม่งั้นชีวิตนี้จำเจแย่เลย
ส่วนการรู้หนังสืออ่านออกเขียนได้ นำข้อมูลจาก time almanac
ที่ผู้เขียนบ้าซื้อทุกปี (ทั้งๆที่ เปลี่ยนแปลงอันดับไปไม่กี่ส่วน)
เป็นการรวบรวมรายปี ซึ่งเมื่อก่อนก็ซื้อของอีกสำนัก
แต่พอ time มารวมฐานข้อมูลของ brittannica ก็เลยดูน่าเชื่อถือ
จริงๆแล้ว คนไทยที่ literacy มากถึง 95.5 % เลยนะท่าน
ผู้เขียนเลยตั้งข้อสงสัยถึงค่าเฉลี่ย 8 บรรทัดต่อปีอย่างไงละท่าน
แต่ที่น่ากลัว คือ อัตราแพทย์ หนึ่งคนต่อประชากร 3395 คน
ขณะที่อัตราเตียงผู้ป่วย 1 เตียงต่อประชากร 445 คน
ขณะที่อัตราแพทย์ต่อประชากร ของญี่ปุ่น อยู่ที่ 1 ต่อ 489
เตียงคนไข้ อยู่ที่ 1 ต่อ 78 อันนี้เอามาแชร์เล่นๆ
เดี่ยวจะหาว่า ไม่ค่อยเปิดประเด็น แต่ก็อะน้อ
ท่านมะนาวฯเปิดแต่ละประเด็นทีไร ผู้เขียนมีให้ได้แค่ความเห็น
ซึ่งการโต้ตอบเช่นนี้ มีในสังคมพันทิพย์เยอะ
พวกเรามันคอมเมนต์สร้างสรรค์ อย่างน้อยๆ
ที่ปรึกษาทางการแพทย์ ต่อหนึ่งบล็อกเกอร์ ตลอดชั่วชีวิตที่ผ่านมา
ผู้เขียนเองก็ไม่เคยเจอะเจอ ชนิดที่มีให้แบบรายวันเช่นนี้มากอ่น
อย่าว่าของไทยเลย แม้กระทั่งของโลกเลยก็ว่าได้.....มีให้ได้แค่ขอบคุณ
และอัพเดทซีรีย์ประจำสัปดาห์ การ์ตูนธรรมสัปดาห์อีกวันละสองตอน


อืม เกือบจะลืมไปแล้ว H1N1
จำได้เลยว่า พอมีผู้เสียชีวิตเป็นคนท้อง อันนี้ก็เล่นเป็นข่าวใหญ่
ถึงขั้นตั้งคำถามกับมาตราฐานการแพทย์ไทยกันเลยทีเดียว
(เหมือนกับการเร่งตรวจสภาพเฮลิคอปเตอร์เก่าอยู่ตอนนี้เลย)
แต่ถ้าเป็นแล้ว ใครเล่าจะไม่ลอง
แม้แต่ตอนที่ประกาศล้างบางไก่ในพื้นที่ คนรักไก่ยังแนะนำให้
แบ่งให้ฉีดกับไก่ในเล้าของพวกเขา แทนที่จะฆ่าตายเฮี้ยน
เออขอรับ มีคำถามอีกแล้ว ทำไมถึงต้องฆ่าไก่ทุกตัว
เพราะบางตัวเป็นไก่พันธ์ ไก่ชนตัวราคาแพง
ถ้าจะส่งให้ไปตรวจในห้องแล็ป เหมือนตัวกับคนไข้ในโรงพยาบาล
อันนี้ทางหน่วยงานสาธารณสุขเขามีข้อยกเว้นไหมครับ
ตกลงท่านมะนาวฯถูกจับฉีดรึขอรับ มีผลข้างเคียงไหมขอรับ
หรือที่เป็นอยู่ปัจจุบันนี้คือ ผลข้างเคียง อันนี้ล้อเล่นนะครับ
อย่าเพิ่งงอนกัน เพราะท่านมะนาวบอกเองนะว่าเป็นคนขี้แพ้
(แต่ไม่ชวนตี แต่ชวนเข้าหลังไมค์แทน -ฮา)


แต่ใช่ว่า ผู้เขียน จะไม่เชื่อมั่นโพลล์นะครับ
อย่างน้อยๆ กฎหมายการเลือกตั้ง ในเรื่องประกาศเเอ็คซิสโพลล์
อันนี้ผู้เขียนเห็นด้วย เพราะมันแม่นเสียยิ่งกว่าแม่นจริงๆ
เมือ่อก่อนเวลาเห็น อ.สุขุม เฉลยทรัพย์ออกทีวี เอาโพลล์การเมืองมากาง
ก็ฟันธงได้เลยว่า การเลือกตั้งในอีกสัปดาห์หน้า ไม่ได้กลายเป็นสิ่งกระตุ้นใจ
เอาเสียเลย ลงไปคะแนนคงไม่พ้นไปตามโพลล์


อ้าว!แบตหมดสักแล้ว ไม่น่าจะหมดเพราะคอมเมนต์
แต่น่าจะเป็นงานก่อนหน้า ไม่ทราบว่าแบตก้อนนี้ต้องชาร์ตด้วยนมเปรี้ยวอะป่าวเอ่ย
อยากจะชาร์ตให้แต่ มีแค่ป๋องเดียว อันนี้ขอแฮปดื่มเองดีกว่า
ทำให้วิจัยเชิงสำรวจแบบภาคตัดขวาง คงเป็นในทางเสี่ยง
ถ้าเสี่ยงอย่างนี้ ก็เข้าข่ายเชิงลบสิครับ
แล้วความชุก มันเหมือนกับสามชุกหรือเปล่า ชุกนี้ก็คล้ายกับยุงชุมทางภาษาบ้านๆอะป่าวครับ
แต่เดาว่า "ชุก" ทางสถิติน่าจะคล้าย ความถี่ อะน้อ
ยังไม่เห็นภาพเลย นอนตอนหัวเย็นสักแล้ว ตื่นมาเล่าสักตอนตีหนึ่งหน่อยสิ
ยังงง อยู่เลย ไอ้เราตีสองยังแบกร่างสวมวิญญาณมาเลย
เออ ดู Momento แล้ว ช่วยร่ายให้ฟังด้วยสิ ว่าคิดฉากนั้นเหมือนกันรึเปล่า
จะได้รู้ว่า ไอ้เราไม่ได้ความจำสั้นไปตามหนังเรื่องนั้นด้วย
เอ้า!คุณน้องหัวแม่โป้ง กระดิกหัวอำลาแม่สิซิลูก บ๊ายบาย!!


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 21 สิงหาคม 2553 เวลา:0:21:26 น.  

 
ข้าเจ้าไปบล็อกAntiqueแล้วนะเจ้าคะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.25.180.78 วันที่: 22 สิงหาคม 2553 เวลา:16:30:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mr.Chanpanakrit
Location :
สงขลา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]




Friends' blogs
[Add Mr.Chanpanakrit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.