ส่วนซิงเกิลที่เคยมีวางจำหน่ายก่อนถูกมารวมในสตูดิโออัลบัม No Night Land เพลงที่ 2 คือ Uta wo Utaou เคยออกจำหน่ายในเดือนธันวาคม ปี 2011 อันดับอาจไม่ดีนักเมื่อเทียบกับเพลงแรก เพราะคาชาร์ตอยู่ที่ 27 ใน Oricon's Weekly chart เท่านั้น นอกจากซิงเกิลตัวนี้แล้ว อัลบัม No Night Land ยังมีอีกหลายเพลงที่ถูกนำไปใช้ทางการตลาด อาทิ เพลง Yes/No Continue? กลายเป็น theme song ให้กับ Cartoon Network เรื่อง Amazing World of Gumball in Japan รวมไปถึงเรื่องJill Stuart ด้วย ส่วนเพลง Tomodachi / Koibito ประกอบโฆษณาสินค้า Ghana Milk Chocolate ในเครือของ Lotte และสุดท้ายเพลง Bon Appetit ก็เป็นเพลงประกอบโฆษณา สินค้า Fauchon ของทางเครือ Asahi
บทคัดย่อ : ขอเลือกในฉบับเวอร์ชั่นซีรีย์เป็นเบื้องต้น ซึ่งถ่ายทำในปีเดียวกันกับภาพยนตร์ ที่กัตจัง หรือ Sawajiri Erika รับบทเป็นสาวน้อยขี้โรค XP (แพ้แสงอาทิตย์) ดังนั้นชีวิตประจำวันส่วนใหญ่จึงไม่เหมือนชาวบ้าน เพราะการนอนในช่วงกลางวัน เพื่อมาเล่นดนตรีข้างถนนในช่วงกลางคืน แล้วเธอก็ได้รักแรกพบกับชายหนุ่มที่เป็นเจ้าของกีต้าร์ ซึ่งเธอเก็บได้จากถังขยะ โดยเขายังตัดใจไม่ได้กับแฟนสาวที่เลือกตามความฝัน ด้วยการเป็นนักร้อง ซีรีย์เรือ่งนี้มันดูออกว่าเธอลิปซิงค์แน่ แต่บรรยากาศของการเล่าเรื่อง ก็ทำให้ละเลยประเด็นนี้ไปได้อย่างสนิทใจ ซึ่งทั้งเพลง Taiyo to Uta และ Stay with Me ล้วนแล้วแต่เป็นตัวเอก ที่สร้างชื่อให้นิกเนมKaoru Amane โด่งดังในระยะเวลาสั้นๆ และคงไม่มีโอกาสที่จะได้เห็นความสวยใสอะไรเอ่ย จากนักแสดงสาวErikaอีกต่อไปแล้ว
ผลลัพธ์: ซิงเกิลTaiyou no Uta (A Song to Sun) เป็นซิงเกิลทะยานขึ้นอันดับหนึ่งนานสี่สัปดาห์ ส่งอานิสงส์ให้ซิงเกิลในนามส่วนตัว ที่ไม่เกี่ยวกับละครอย่าง Free ตามขึ้นชาร์ตอันดับหนึ่งไปด้วย เธอจึงถือเป็นศิลปินหญิงคนแรกที่เปิดตัวความเป็นนักร้อง ก็มีซิงเกิลขึ้นอันดับหนึ่งถึงสองหนในปีเดียว จัดเป็นคนแรกในรอบ 39 ปีของวงการอุตสาหกรรมดนตรีในประเทศกระนั้นเชียว
3 >> Midnight Sun (ร้องโดย YUI)
บทคัดย่อ : เป็นพล็อกเรื่องเดียวกันกับ Taiyo to Uta แต่มีการเสริมแต่งตามความเหมาะสม ในแง่ช่องทางการนำเสนอที่ผิดแผกแตกต่างกัน Midnight Sunจะเป็นชื่อที่รู้จักกันดี ในแวดวงอุตสาหกรรมคนดูหนัง ถึงกระนั้นทั้งสองเรื่องต่างก็มาจากต้นฉบับอันเดียวกัน โดยรับอิทธิพลมาจากหนังฮ่องกงเรือ่งหนึ่งในปี94 แต่เวอร์ชั่นหนังอาจจะได้ภาษีดีกว่า ตรงที่ได้Debut Singerสาวน้อยแก้มตุ่ย YUI ที่เป็นการแสดงเรื่องแรกและเรือ่งเดียวในชีวิต ส่งผลให้ซิงเกิลอย่าง It's Happy Line , Good bye Days และ Skyline ที่เธอแต่งเอง เล่นสดเอง ร้องเอง กลายเป็นเพลงฮิตโดยไม่ต้องสงสัย และปัจจุบันเธอเอง ก็กลายเป็นSuperstar ที่มีเพลงฮิตในออริกอนชาร์ตแทบจะทุกครั้ง ยามที่ได้ออกผลงาน
ผลลัพธ์: Good-bye days เป็นซิงเกิลลำดับที่หก แต่อีกด้านก็จัดเป็นซิงเกิลที่ห้า หากนับในแง่การสังกัดค่ายเพลง (เพราะซิงเกิลแรกของเธอจริงๆ คือ เพลงIt's happy line ที่ออกแบบอินดี้ไร้สังกัด) แม้จะขึ้นสู่อันดับที่หนึ่งในออริกอนชาร์ตเดลี แต่เป็นก็3ในอันดับวิกลี และที่36 ในซิงเกิลประจำปี 2006 อยู่คาชาร์ตนานกว่า 44 สัปดาห์
Densetsu no Shojo (伝説の少女) Debutซิงเกิลแรกของอลิสะ ที่มีความหมายถึงสาวในตำนาน เปิดตัวในเดือนเมษา ปี๑๙๙๑ และถูกบรรจุอยู่ในอัลบั้มแรกArisa เพลงนี้ถูกนำไปประกอบสินค้าโฆษณา เครื่องดื่มภายใต้แบนด์ดังKirin ที่อลิสะเป็นนางเอกโฆษณาเองด้วย ขึ้นชาร์ตออริกอนวีกลีอันดับที่๕ คลิปนี้จะมาพร้อมกับเพลง Eden no Machi(エデンの都市) พูดถึงเมืองแห่งอีเดน ซึ่งเป็นซิงเกิลลำดับที่๒ จำหน่ายเดือนสิงหาปีเดียวกัน แต่เพลงนี้จะไม่ได้ถูกนำมาใช้ เป็น commercial tie-inใดใด ติดออริกอนวีกลีอันดับที่๕เช่นกัน
๒) ส่วนงานแสดงที่เป็นชิ้นเป็นอันเรื่องแรกของมิซุกิ ต้องเป็นอีกหนึ่งปีต่อมา เพราะในปี๑๙๙๒ เธอได้รับบทนำ ซึ่งยังคงเป็นค่ายทีวีฟูจิเหมือนเดิม ในเรือ่งHoukago (ซึ่งทางช่อง๓ของไทยก็ได้ลิขสิทธิ์มาฉายในช่วงบ่าย ที่ตั้งชื่อเรื่องว่า"สลับร่างสร้างรัก") เป็นเรือ่งของชายเฮ้วกับหญิงเรียบร้อย ที่ต้องสลับร่างกันจากอุบัติหลังฝนตก ตอนนั้นเธอรับบทเป็น อาคิยามา อาซุสะ รองหัวหน้าประธานนักเรียน ประกบกับดาราวัยรุ่น อิชิดะ อิเซอิ ในบททาคาโมโตะ โคเฮ กำหนดฉายสั้นๆเพียง๕ ตอน และจากนี้เธอก็มีโอกาสได้ปล่อย ซิงเกิลเพลงของเธอเองในชื่อ Shake Your Body for Meเพื่อเป็นเพลงประกอบของเรื่อง
Kaze no Naka de(風の中で) หมายถึงในสายลม เป็นซิงเกิลลำดับที่๓ รีบจำหน่ายในเดือนพฤศจิกา ปี๙๑ และเป็นซิงเกิลสุดท้ายเพื่อปิดอัลบั้มสตูดิโอตัวแรกในชื่อ Arisa เพลงนี้ถูกนำไปใช้ในภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอ Cho Shojo Reiko และอนิเมชั่นซีรีย์เรือ่ง Babar ติดชาร์ตวิกลีในอันดับที่๑๐เท่านั้น
๓) แต่งานที่ทำให้เธอดังเป็นพลุแตกจริงๆ เห็นจะมาจากซีรีย์คอเมดี้เรื่องNurse no Oshigoto ในบท พยาบาลสาวฝึกหัดจอมป่วนอาซากุระ อิซุมิ เป็นซีรีย์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากของค่ายฟูจิเช่นเคย ถึงขั้นมีการสร้างภาคต่อต่ออีกถึง๔ภาค (โดยซีรีย์เริ่มต้นฉายปี๑๙๙๖มาจบบริบูรณ์ในปี๒๐๐๒ รวมทั้งหมดได้๖๑ตอน กับอีก๑ตอนพิเศษ ส่งผลให้เธอได้รางวัลTDAAในสาขานักแสดงหญิงยอดเยี่ยม เข้าใจว่าน่าจะเป็นรางวัลแรกและรางวัลเดียว) ส่งผลให้ตอนนั้น ซิงเกิลอีกมากมายของเธอถูกทยอยลงเป็นเพลงประกอบซีรีย์เรือ่งนี้ ชนิดไม่ซ้ำแทร็ก อาทิ Promise to Promise,Days,Break All Day และLove Potion ความดังของซีรีย์เรื่องดังกล่าว ยังมีการถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์ต่อในปี๒๐๐๒ ซึ่งเท่ากับเป็นการส่งท้ายปิดฉากอิซุมิพยาบาลแสบอวสานไปด้วยดี
Too Shy Shy Boy! ซิงเกิลเพลงแด็นซ์ลำดับที่๔ ออกเดือนเมษา ปี๙๒ และจะเป็นเพลงแรกในอัลบั้มสตูดิโอชุดที่๒ Shake Your Body For Me เพลงนี้ยังคงถูกนำไปประกอบโฆษณา เครื่องดื่มยี่ห้อเดิม และเพลงนี้ก็ถูกไปใช้ในโฆษณาคอนแท็คเลนส์ ยี่ห้อMenicon ในบรรดาซิงเกิลทั้งหลายทั้งปวง เพลงนี้ น่าจะเป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จมาก ขึ้นชาร์ตวิกลีสูงถึงอันดับที่๔
Kimi ga Suki Dakara(君が好きだから) เพลงรักเลียนๆ แปลได้ว่าBecause I Love You อันนี้เป็นซิงเกิลเพลงที่๖ ออกจำหน่ายเดือนสิงหา ปี๙๓ จะถูกรวมอยู่ในอัลบั้มรวมฮิตชุดแรก Fiore เพลงนี้ยังอยู่มาตราฐานความฮิตตามปกติ คือ ไม่พ้นที่๑๐ ตามฐานปกติทั่วไป
๕) วกกลับมาพูดถึงงานเพลง ที่เธอถือว่าค่อนข้างจะเอาดีจนถึงปัจจุบัน ย้อนกลับไปปี๑๙๙๑ ซิงเกิลเพลงแรกในชีวิตของเธอ คือ เพลงที่มีชื่อว่า Densetsu no Shojo (伝説の少女) ที่ถูกจัดจำหน่ายโดย Nippon Columbia เปิดสู่สาธารณะเดือนเมษา ความหมายประมาณถึงสาวในตำนาน และถือเป็นการผูกโยงกับเครื่องดื่มภายใต้แบนด์เครือคิริน เปิดตัวในออริคอนชาร์ตวีกลีอันดับที่ห้า อยู่ในชาร์ต๑๖สัปดาห์ ติดอันดบซิงเกิลขายดีประจำ อันดับที่๖๑ ยอดขายกว่าสองแสนสองหมื่นเจ็ดพันกว่าชุด ในปีเดียวกันนั่น เธอถูกจัดเป็นนักร้องหน้าใหม่ประจำปีของ Japan Record Award ด้วย
Happy Wake Up! เป็นซิงเกิลลำดับที่๗ ที่ีถือว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดในชีวิต เพราะขึ้นอันดับออริกอนวิกลีสูงถึงอันดับ๓ ค้างชาร์ต ได้นานกว่า๑๖สัปดาห์ เพลงนี้ถูกนำไปประกอบ โฆษณาสินค้าซุปคัพภายใต้แบนด์ในเครือของอายิโนะโมะโตะ
Anata no Sedai e Kuchizuke o(あなたの世代へくちづけを) ความหมายประมาณฝัน-หวาน-อาย-จูบ ซิงเกิลตัวที่๘ จำหน่ายเดือนแห่งความรัก ปี๙๕ ถูกนำไปประกอบธีมซีรีย์เรือ่งHelp! ของค่ายทีวีฟูจิที่ตัวเธอเล่นเป็นนางเอก ติดอันดับชาร์ตที่๙ เพลงนี้จะถูกไปรวมในอัลบั้มรวมเพลงฮิตในชุดArisa's Favorite:T.K.Songs.
๗) ถ้านับเอาเฉพาะตอนนี้ มิซุกิน่าจะออกซิงเกิล มาแล้วไม่ต่ำกว่า๒๗ชิ้น เป็นเพลงที่ถูกนำไปประกอบเป็นธีมซีรีย์๑๑ เรื่อง (เพลงล่าสุดที่ถูกนำไปใช้ คือ เพลงHoshi no Hate จากซีรีย์เรือ่ง Hanawake no Yon Shimai ของช่องTBS) ส่วนผลงานเพลงก็มี ๖อัลบั้มสตูดิโอกับอีก ๕อัลบั้มรวมฮิต รวมกันยอดขายกว่า๓ล้านก้อปปี้ ผ่านการอยู่ภายใต้สังกัดไม่น้อยกว่า๓แห่ง ประกอบด้วย Vision Factory , Avex Group และNippon Columbia
Kaze mo Sora mo Kitto...(風も空もきっと) ข้ามมาที่ซิงเกิลที่๑๑ เพลงเนื้อหาด้านสายลมกับท้องฟ้า แต่ทว่าดันถูกไปประกอบอนิเมชั่นมนต์แห่งจันทราสักงั้น จะเป็นเรือ่งไหนไปไม่ได้ นอกเสียจากการ์ตูนเรื่อง Sailor Moon ยุคนี้เริ่มเป็นยุคที่อลิสะไม่ค่อยมีเพลงติด๑ใน๑๐ของออริกอนชาร์ตวิกลีแล้ว แม้แต่เพลงนี้ก็ขึ้นอันดับอย่างมากได้แค่ที่๒๔ ก่อนจะเริ่มพูดถึง การย้ายค่าย เพื่อไปสู่การเจาะตลาดที่มีกลุ่มเป้าหมายที่มีวุฒฺภาวะขึ้น
๘) มิซุกิมีสถิติอยู่หนึ่งอย่างที่ถูกบันทึกใน Guinness World Records เธอเป็นนักแสดงหญิงในบทนางเอก ที่มีงานทางหน้าจอทีวีเป็นเวลา๑๙ปีติดต่อกัน ชนิดยากที่จะหานักแสดงไหนเทียบเคียง ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ของวงการซีรีย์ทีวี ตามการรายงานของแหล่งข่าวTechinsightJapan โดยสถิตินี้เริ่มต้นนับจากซีรีย์เรื่อง Jajauma Narashi ในปี๑๙๙๓ของค่ายฟูจิทีวี เรื่อยมาจนถึงปี๒๐๑๐ จนถึงเรือ่ง Tenshi no Wakemae ของค่ายNHK (แต่เข้าใจว่าสถิติยังคงดำเนินต่อไป เพราะสถิติที่ว่านี้ ประกาศเอาในช่วงปี๒๐๑๐ ขนาดที่ผลงานที่เหลืออย่าง Hanawake no Yon Shimaiทางช่องTBS และAnswerทางช่องNTV ก็ยังคงยกให้เธอเป็นนางเอกอยู่ดี ซึ่งคงต้องบูชาในที่นี้ว่า หล่อนคือ นางเอกตลอดกาลสองพันปีโดยแท้
Promise to Promise ซิงเกิลที่๑๒ จำหน่ายเดือนกรกฎา ปี๙๖ เพลงนี้ถูกประกอบซีรีย์ทีวี ที่ได้ชื่อว่า สร้างชื่อให้กับอลิสะมากที่สุด Nurse no Oshigoto ทางค่ายฟูจิเจ้าเดิม ถึงขนาดมีการสร้างต่อถึงสี่ภาคกับ๑ภาพยนตร์ แต่อันดับดีที่สุด ก็ได้อย่างมากแค่ที่๑๗