ลดความอ้วนง่ายๆ ได้ผลแน่ๆ
1. วังวนแห่งความอ้วนเริ่มขึ้น เมื่อคุณงดอาหารเช้า การควบคุมปริมาณแคลอรีเป็นเรื่องจำเป็นหากคุณต้องการลดน้ำหนัก แต่การงดอาหารเช้าจะให้ผลลัพธ์ตรงกันข้าม ทั้งยังอาจทำให้คุณอ้วนขึ้นด้วย ตัวการสำคัญคือค่าน้ำตาลในเลือด การไม่รับประทานอาหารเช้าจะทำให้ร่างกายเตรียมสะสมแคลอรีที่จะได้รับจากการรับประทานอาหารในครั้งต่อไปให้มากที่สุด ดังนั้นเมื่อรับประทานอาหารมื้อกลางวัน ค่าน้ำตาลในเลือดจะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ร่างกายจะดูดซึมน้ำตาลและไขมันมากกว่าปกติ ระดับน้ำตาลที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วนี้จะลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกันในอีก 2-3 ชั่วโมงให้หลัง และสมองจะส่งสัญญาณว่าร่างกายต้องการน้ำตาล ซึ่งจะตรงกับช่วงเวลาระหว่างมื้ออาหารหลักพอดี ส่งผลให้เรารับประทานของหวานมากจนได้รับแคลอรีมากเกินความจำเป็น เพราะฉะนั้น ถ้าอยากผอมต้องรับประทานอาหารเช้าทุกวันอย่าให้ขาด 2. ผอมทุกวันโดยอัตโนมัติด้วยอาหารที่มี ค่า GI ต่ำ คิดใหม่ในการรับประทานอาหาร อาหารที่เราบริโภคบางชนิดส่งผลให้ค่าน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้ง่าย ค่านี้เรียกว่า ค่าดัชนน้ำตาล หรือค่า GI ค่า GI สูงแสดงว่าน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว ค่า GI ต่ำแสดงว่าน้ำตาลในเลือดค่อยๆเพิ่มขึ้น ดังนั้นแม้จะรับประทานอาหารที่ให้พลังงานเท่ากัน แต่อาหารที่มีค่า GI ต่ำจะช่วยให้ร่างกายไม่สะสมไขมัน จึงทำให้อ้วนยาก แม้จะไม่รู้ค่า GI ของอาหาร แต่ก็สามารถสังเกตได้ง่ายๆจากสีสันของอาหาร โดยทั่วไปแล้วอาหารที่มีสีเข้ม เช่น สีน้ำตาล หรืออาหารที่ไม่ผ่านการขัดสีหรือขัดสีน้อย จะมีค่า GI ต่ำ ดังนั้น ข้าวกล้อง (ข้าวไม่ขัดสี) จึงมีค่า GI ต่ำกว่าข้าวขาว (ข้าวขัดสี) เราสามารถทำให้อาหารที่มีค่า GI สูงกลายเป็นอาหารที่มีค่า GI ต่ำได้ด้วยวิธีการปรุงอาหารและการจับคู่อาหาร เช่น ข้าวสวย (ข้าวขาว) หากนำมาทำเป็นข้าวซูชิ (ข้าวปรุงรสด้วยน้ำส้มสายชู เกลือ และน้ำตาล) ค่า GI จะต่ำลง เพราะเมื่อข้าวผสมกับน้ำส้มสายชูจะป้องกันการดูดซึมน้ำตาลได้ จึงช่วยควบคุมไม่ให้ค่าน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นอย่างพรวดพราดนั่นเอง 3. เติมธัญพืชลงในข้าวขาวก็ช่วยลดน้ำหนักได้ การรับประทานธัญพืช ทำให้ระบบประสาทส่วนกลางซึ่งควบคุมความรู้สึกอิ่มถูกกระตุ้น จึงป้องกันไม่ให้เรากินเยอะจนได้รับแคลอรีมากเกินไป และช่วยกระตุ้นการย่อยสลายไขมันและน้ำตาล 4. ช่วงลดน้ำหนักเลือกรับประทานพาสต้าดีกว่าอุด้ง อาหารหลักจำพวก ข้าวสวย ขนมปัง อุด้ง พาสต้า ล้วนแต่เป็นตัวการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดทั้งสิ้น จึงเป็นอาหารที่ควรระวังเป็นพิเศษในช่วงลดน้ำหนัก แม้จะมีน้ำตาลแฝงอยู่เหมือนกัน แต่อาหารเหล่านี้แต่ละชนิดก็ส่งผลให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นมากน้อยต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น เส้นอุด้งและเส้นพาสต้าต่างก็ทำ จากข้าวสาลีเหมือนกัน แต่ชนิดและวิธีการผลิตแตกต่างกัน ทำให้พาสต้ามีค่า GI ต่ำกว่า ขนมปังข้าวไรย์และขนมปังโฮลวีตมีค่า GI ต่ำกว่าขนมปังขาว แม้จะเป็นขนมปังเหมือนกัน หรือเมื่อเปรียบเทียบพืชหัวด้วยกัน มันฝรั่งมีค่า GI สูง ขณะที่มันเทศมีค่า GI ต่ำกว่า 5. กินข้าวนอกบ้าน สั่งสลัด ให้เป็นนิสัย การรับประทานสลัดผักก่อนให้ประโยชน์ 3 ประการ คือ ผักจะถูกดูดซึมที่ลำไส้เล็กตอนปลาย ลำไส้จึงดูดซึมไขมันได้ยากขึ้น ส่งผลให้สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ รวมไปถึงเส้นใยอาหารในผักช่วยขัดขวางการดูดซึมคอเลสเตอรอล จึงช่วยป้องกันการดูดซึมไขมันจากเนื้องสัตว์ และการรับประทานสลัดผักรองท้องจะช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น จึงเป็นวิธีจำกัดปริมาณแคลอรีอย่างได้ผล 6. คำคำเดียวที่เป็นต้นเหตุแห่งความอ้วน ร่างกายคนเราสามารถเผาผลาญพลังงานได้เต็มที่จนถึงช่วงอายุ 20 ปี หลังจากนั้นจะเริ่มลดลง ช่วงอายุ 30-40 ปีไปจนถึงช่วงอายุ 50-60 ปี ปริมาณการเผาผลาญพลังงานใน 1 วัน จะลดลงโดยเฉลี่ย 40 กิโลแคลอรี ความแตกต่างเพียง 40 กิโลแคลอรีอันเป็นผลมากจากอายุที่เพิ่มขึ้นนั้นเทียบเท่ากับพลังงานจากข้าวซูชิหนึ่งคำพอดี หากคิดว่าใน 1 ปี เราจะอ้วนเพิ่มขึ้นอีก 365 คำ เราสามารถลดข้าว 1 คำในแต่ละวัน เพิ่อลดพลังงานที่รับเข้าสู่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
//ch3.sanook.com/56347/%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%87%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%86-%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B9%81%E0%B8%99
Create Date : 07 สิงหาคม 2558 |
Last Update : 7 สิงหาคม 2558 8:31:08 น. |
|
0 comments
|
Counter : 939 Pageviews. |
|
|