ชื่อร้าน : คูลิบเฮง ตลาดวังหลัง กรุงเทพฯ
รายการอาหาร : ข้าวโพดทอด หมูย่าง น้ำตกหมู ไส้กรอกรวมมิตร ยำวุ้นเส้นรวมมิตร ส้มตำไข่เค็ม
เวลาเปิดบริการ : ทุกวัน 09.00 - 21.00
ที่ตั้งร้าน : ตลาดวังหลัง พรานนก กรุงเทพฯ, กรุงเทพมหานคร บางกอกใหญ่ Thailand
พิกัด GPS : 13° 45' 19.56" N 100° 29' 7.53" E

ร้าน “คูลิบเฮง” นี่ไปกินตั้งแต่พ่อเข้าโรงพยาบาลเมื่อเดือนที่แล้วครับ นี่ก็จะเข้าไปผ่าตัดผังผืดในท่อปัสสาวะอีกทีแล้วเพิ่งจะได้เอามาลง อิอิอิ

ร้านนี้ถือว่าเป็นร้านในตำนานคู่กับ ร้าน “น้ำตกสีดา” ครับ ผู้คนแถวๆวังหลังจะรุ้จักกันเป็นอย่างดีทีเดียวเมื่อตอนสมัยที่ยังเป็นนักศึกษาวิ่งเล่นแถวท่าพระจันทร์ แต่นานทีจะได้ไปกินร้านนี้เหตุเพราะว่าต้องข้ามน้ำไปซึ่งก้อถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ครับ ต้องมีเหตุจำเป็น หรือต้องเป็นโอกาสพิเศษๆ ถึงจะไปกัน

ตอนที่จะทำบล็อกนี้เข้าไปหาข้อมูลของร้านนี้ในอากู๋เพิ่งจะพบความจริงว่า ร้าน “คูลิบเฮง”เป็นต้นตำหรับ “ข้าวโพดทอด”และตกทอดมาจนถึงร้าน “กิ้ว ท่าพระจันทร์” ซึ่งเป็นร้านที่คุ้นเคยมากกว่าเพราะอยู่ฝั่งท่าพระจันทร์ แต่ก็นานๆไปทีเพราะตัวร้านอยู่เกือบถึงท่ามหาราชซึ่งถ้านับก้าวเดินก็มากโขอยู่ แถม ร้าน “กิ้ว ท่าพระจันทร์” ก็ยังขึ้นชื่อในการรอคิวนาน อาหารช้าด้วย ถ้าไม่ว่างนานๆ ไม่มีเรียนติดกันหลายๆคาบก็คงไม่ไปกิน

จากการที่ได้ไปหาข้อมูลของ ร้าน “คูลิบเฮง” ทำให้ได้พบว่ามีคนไปให้ความเห็นในทางลบเกี่ยวกับ ร้าน “คูลิบเฮง” มากอยู่ทีเดียวในแง่ของไม่ยอมรับลูกค้า แต่วันที่ไปทานนั้นทุกคนในร้านก็ดูเป็นมิตรดี พอไปถึงโต๊ะเต็มพี่ในร้านก็ยังถามเราว่ามาแค่ 2 คนเอาโต๊ะแรกได้มั๊ย โต๊ะแรกจะเป็นโต๊ะเล็กมาก อยู่ติดกับตู้โชว์สินค้า พอร้านว่างแล้วพี่เค้ายังมาถามอีกว่าจะย้ายโต๊ะหรือเปล่า อาหารก็ไม่ได้ช้าเลย แถมอาเจ๊คนทำอาหารยังถามเราขำๆตอนเดินออกมาว่า “จะถ่ายรูปไปทำไม ถ่ายเจ๊ด้วยซิ”

ตามความคิดตัวเองน่าจะเป็นเพราะนักศึกษาชอบไปร้านนั้นเป็นกลุ่มใหญ่ๆ แล้วก็จะมีเรื่องเม้ามอยกันนานๆ ส่วนคนทำงานมากกลุ่มเล็กๆ กินเสร็จก็รีบไป ร้านจึงชอบกลุ่มคนทำงานมากกว่า อันนี้ก็เข้าใจได้ ร้านค้าเค้าก็อยากค้าขาย แล้วยิ่งเพราะร้านนี้โต๊ะน้อยด้วย เค้าก็เลยอยากรับลูกค้าที่ turn over สูงๆมากกว่าครับ

ร้านนี้ถ้าเปนคนที่คุ้นเคยกับตลาดวังหลังก็ไปไม่ยากครับ ขึ้นเรือมาลงท่าวังหลัง เดินมาซัก 50 เมตรบนถนนพรานนก ข้าง รพ. ศิริราช ก็จะเจอซอยเล็กๆซ้ายมือ ที่ปากซอยมีกุยช่ายทอดเจ้าอร่อยอยู่ เดินตรงมาเรื่อยๆ ผ่านร้านวังหลังเบเกอรี่ทางซ้ายมือ พอเดินตรงมาอีกหน่อยจะมีแยกขวา ให้เลี้ยว แล้วเดินตรงไป ร้าน “คูลิบเฮง” เป็นร้านที่อยู่ตรงตึกแถวล็อตแรกร้านสุดท้ายเลยครับ







ตัวร้านเป็นตึกแถวคูหาเดียว หน้าร้านจะเป็นส่วนปรุงอาหารครับ มีป้ายบอกชัดเจนเลยคราบ












ข้างในจะเป็นโต๊ะนั่ง ร้านนี้ไม่มีเมนูให้อ่านะครับ แต่มีเมนูตัวใหญ่ๆ ที่ติดเอาไว้ทั่วร้าน

ถ้าจะบอกว่าร้านนี้ขายอาหารอิสานคงไม่ถูกนัก เพราะว่าเค้ามีเมนูอื่นๆ ที่ไม่ใช่เมนูอิสานอีกหลายเมนูครับ











พอเรานั่งโต๊ะ น้ำ จาน ช้อน ผักแกล้มและข้าวเหนียวก็มากันอย่างพร้อมเพรียง









เมนูแรกที่สั่งเป็นเมนูต้นตำหรับที่ขึ้นชื่อของร้านนี้ตลอดกาล ข้าวโพดทอด










ไม่แน่ใจว่าเค้าใช้ข้าวโพดต้มสุก หรือข้าวโพดดิบมาคลุกกับแป้ง ทอดจนสุก หอม กรอบ ไม่อมน้ำมัน ทานเล่นๆ เพลินๆ รออาหารอย่างอื่นหมดจนไม่รู้ตัวเลยครับ ต้องสั่งจานที่สองมา จำได้ว่าสมัยก่อนเมนูนี้ดังมากๆ ทุกโต๊ะต้องสั่ง แล้วไม่ได้สั่งกันจานสองจานนะครับ สั่งมาตุนกันเป็นหลายๆจานต่อโต๊ะทีเดียวครับ เมนูนี้ทอดใหม่ๆอร่อยมากๆ











หมูย่าง










เมนูอร่อยอีกเมนูนึงของทางร้าน เค้าจะใช้หมูชิ้น มาคลุกเคล้าปรุงรสซะก่อนแล้วจึงนำไปย่างไฟให้สุกำลังดี ไม่แห้งจนเกินไปจิ้มน้ำจิ้มแจ่ว กินกับข้าวเหนียวร้อน อร่อยมากๆครับ











ไส้กรอกรวมมิตร












เมนูนอกคอกเมนูอาหารอิสาน ไส้กรอก 2-3 แบบทอดพอสุก เสิร์ฟพร้อมน้ำสลัด ผัก และซอสมะเขือเทศ เมนูนี้อร่อยแบบไม่เผ็ดคราบ











น้ำตกหมู











เมนูขึ้นชื่อของร้านนี้อีกหนึ่งเมนู ถึงรสชาติจะไม่สะท้านทรวงเท่ากันร้านน้ำตกสีดา แต่ก็อร่อยมากครับ เผ็ดนิดๆ กำลังดี ได้ข้าวเหนียวร้อนๆ ก็กินได้จนหมดชามเลยคราบ











ยำวุ้นเส้นรวมมิตร











ยำวุ้นเส้นใส่เครื่องเยอะแยะมากมาก รสชาติเปรี้ยวนำเผ็ดตาม เป็นเมนูช่วยชุรสของมื้อนี้ให้อร่อยขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลยครับ














เมนูสุดท้าย – ส้มตำไข่เค็ม











ส้มตำครกนี้ออกรสชาติหวานนิดๆ เปรี้ยวๆ เผ็ดๆ ช่วยชูรสให้ไข่เค็มซึ่งมีรสชาติมันๆ เค็มๆ ได้ดีทีเดียวครับ เส้นมะละกอก็กรอบเกรียว เคี้ยวสนุกมากเลยครับ











อาหารมื้อนี้เป็นมื้อที่ชอบมากๆ เพราะได้มาอยู่ในบรรยากาศเก่าๆ ที่ไม่ได้มาซะเกือบๆ 15 ปี .... โอววว ทำไมนานขนาดนี่เนี่ยะ อิอิอิ



Chubby Lawyer’s Café’ …………………….. ร้านอร่อย ..... ตามใจฉัน