วังหน้าระหว่างปี พ.ศ. 2349 2360
วังหน้าระหว่างปี พ.ศ. 2349 – 2360
หลังจากกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทสวรรคต ตำแหน่งพระมหาอุปราชว่างลงเป็นเวลา 3 ปี รัชกาลที่ 1 ยังไม่ได้แต่งตั้งผู้ใด ด้วยเหตุที่ขัดใจกัน
กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาททรงคิดว่า แท้จริง ผู้ที่สมควรได้ตำแหน่งพระมหากษัตริย์ควรเป็นของพระองค์ เพราะพระองค์ได้สู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับสมเด็จพระเจ้าตากสิน กอปรกับทรงหวั่นเกรงไปว่า เมื่อสิ้นพระองค์ ลูกหลานจะไม่ได้รับเกียรติยศเช่นพระองค์
พระเจ้ากรุงญวณยาลองมีศุภักษรเข้ามาทูลว่า จะทรงปล่อยตำแหน่งนี้ให้ว่างไว้ดูไม่ดี เจ้านายชั้นผู้ใหญ่ก็สิ้นพระชนม์ไปหลายพระองค์ รวมทั้งกรมวังหลัง เจ้านายที่ยังคงอยู่มียศศักดิ์และอายุเสมอกัน อาจจะเกิดเหตุวุ่นวายขึ้นได้
พระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรในรัชกาลที่ 1 จึงได้เป็นพระมหาอุปราช แต่ทรงประทับที่พระราชวังเดิม ทรงดำรงพระยศพระมหาอุปราช 3 ปี พ.ศ. 2352 เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นรัชกาลที่ 2 และทรงสถาปนาพระอนุชาธิราชให้ดำรงตำแหน่งพระมหาอุปราช ทรงพระนาม กรมพระราชวังบวรเสนานุรักษ์
พระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรในรัชกาลที่ 1 ทรงดำรงพระยศพระมหาอุปราช 3 ปี
ทำให้สายกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทหมดสิ้นลงในตำแหน่งวังหน้า
กรมพระราชวังบวรเสนานุรักษ์ พระนามเดิมจุ้ย เป็นพระโอรสลำดับที่ 7 ในรัชกาลที่ 1 และสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี ประสูติ พ.ศ. 2335 ทรงสมรสกับพระธิดาในสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท
พระองค์ได้ช่วยสมเด็จพระเชษฐาปฏิบัติราชการอย่างเข้มแข็ง ทั้งนี้เพราะพระเชษฐาทรงเป็นกวีและศิลปิน เก่งในเรื่องศิลปะ วรรณคดีและนาฏศิลป์
พระอนุชาจึงช่วยแบ่งเบาภาระในการบริหารราชการไปเป็นส่วนมาก ทรงดำรงพระยศพระมหาอุปราชเป็นเวลา 8 ปี ตำแหน่งพระมหาอุปราชว่างลงจนสิ้นรัชกาล
สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์ เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2360 ณ พระที่นั่งวายุสถานอมเรศ และไม่มีการสถาปนากรมพระราชวังบวรสถานมงคลขึ้นอีกในรัชกาลที่ 2
พระองค์ทรงมีพระโอรส 23 พระองค์ พระธิดา 17 พระองค์ ต้นราชสกุล บรรยงกะเสนา อิศรเสนา ยุคันธร รองทรง
กรมพระราชวังบวรเสนานุรักษ์ พระอนุชาในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงสมรสกับพระธิดาในสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ดำรงพระยศพระมหาอุปราช 8 ปี
ได้เป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคลในลำดับที่ 3 แห่งราชวงศ์จักรี