เสียกรุงศรีครั้งที่สอง

เสียกรุงศรีครั้งที่สอง

ขอเกริ่นนำให้รู้เรื่องที่เราเคยเสียเอกราชในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีสักนิด เผื่อบางคนที่ลืม ๆ ว่า ทำไมเราคนไทยต้องรักกัน และทำไมเราต้องสามัคคีกัน เพื่อดำรงคงอยู่แห่งความเป็นชาติไทย เพราะคราบน้ำตาในครั้งนั้นอาจเหือดแห้งจางหายไป และไม่เป็นบทเรียนให้คนรุ่นใหม่ได้ตระหนัก

บ้านที่เราสร้างและอยู่ร่วมกัน อาจสุขบ้างทุกข์บ้าง อย่างไรเสียคงดีกว่าให้คนอื่นมายึดบ้านไป แล้วเรากลายเป็นเพียงผู้มาขออยู่ขออาศัย ที่ไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียงอันใด เพราะโดนกลืนชาติกลืนศาสนาไปเสียแล้ว ความรู้สึกจะเป็นเช่นไรล่ะ คิดเอาเองนะ คงจะมีแต่ทุกข์เท่านั้น หาสุขไม่เจอ

การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง เท่ากับการสิ้นชาติไปทีเดียว เพราะกรุงศรีอยุธยาคือราชธานี เมื่อพม่าในยุคของราชวงศ์โกนบอง ได้มารบทัพจับศึกกับราชวงศ์บ้านพลูหลวง และไทยพ่ายแพ้

เมื่อวันอังคาร ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 5 ปีกุน ตรงกับวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2310

พม่าล้อมกรุงศรีอยุธยานาน 14 เดือน พระเจ้าเอกทัศน์ทรงยอมเป็นประเทศราชของพม่า แต่พม่าประสงค์ให้ยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข แต่นับเป็นโชคที่เกิดเหตุการณ์จีนบุกพม่า ทำให้พม่าเลือกที่จะรักษาเมืองของตนเองก่อน กอปรกับสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงเถลิงอำนาจและตั้งอาณาจักรของคนไทยใหม่

ไทยเข้าสู่สมรภูมิรบ รักษาเมืองได้นานพอควร แต่สุดท้ายแพ้สงคราม ด้วยโดนโอบล้อมนานเกิน ต้องตกเป็นเมืองขึ้นของพม่า

สภาพบ้านเมืองที่พ่ายแพ้สงครามเป็นอย่างไร นึกภาพกันออกบ้างไหม ไฟเผาพินาศวอดวายไปจนหมดสิ้น พระคู่บ้านคู่เมืองถูกเผาลอกทองคำไป

บ้างก็ว่า บางคนพยายามแอบซ่อนทรัพย์สินไว้ใต้ดิน เผื่อมีโอกาสไปเอาคืน บ้างขนย้ายของมีค่าของบ้านเมืองติดตัวอพยพตามมา วัดบางแห่งฝั่งธนมีพระพุทธรูปทองคำที่โบกปูนทับไว้ รอผ่านไปเนิ่นนาน จึงรู้ว่า ภายในคือทองคำ

ใจกลางกรุงศรีอยุธยา โดนเผาให้ราบเป็นหน้ากลอง เขาว่า ไฟเผาผลาญบ้านเมือง วัดวาอารามสถานที่สำคัญนานถึง 7 วัน 7 คืนทีเดียว




Create Date : 08 กันยายน 2562
Last Update : 8 กันยายน 2562 6:56:48 น.
Counter : 792 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Drpk.BlogGang.com

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]

บทความทั้งหมด