630324 ตระหนักแต่อย่าตระหนกกับไวรัสโควิท-19
630324 ตระหนักแต่อย่าตระหนกกับไวรัสโควิท-19 by พรรณี เกษกมล
ช่วงที่โควิทระบาดรุนแรง ทำให้ใครต่อใครรู้สึกหวาดกลัว โดยเฉพาะผู้เฒ่าผู้แก่ ที่เขาประเมินกันว่า อัตราการตายจะสูงกว่าวัยหนุ่มสาว แต่ขอโทษทีเถอะ ไอ้ที่ตายกันโครม ๆ น่ะ มีคนแก่กี่คนกัน เพราะคนแก่หมดวัยที่จะออกไปเที่ยวสังสันท์เฮฮากับเพื่อนฝูง หรือไปที่ชุมชนคนมาก ๆ แล้ว
อย่า อย่าเผลอคิดเช่นนี้ เพราะยังมีที่ที่คนแก่ยังต้องไปอยู่ นั่นก็คือ โรงพยาบาลและวัด
หมอออกมาบอกว่า ให้งดกิจกรรมทางสังคมบ้าง แม้แต่การไปหาหมอ ให้ห่าง ๆ ออกไป ทีวีประกาศกันโครม ๆ ว่า แค่ไปขูดหินปูน งดก่อนนะ คลินิคพิเศษศิริราชงดบริการแล้ว
คำว่าตระหนักกับตระหนกใช้บ่อย มันต่างกันตรงไหน
วิธีรับมือเมื่อเผชิญหน้ากับความน่ากลัว มี 2 ระดับ
เมื่อคิดว่าเรารับมือได้ ป้องกันตนเองให้พ้นจากโควิทได้ เรียกตระหนัก
วิธีการง่าย ๆ ตามหมอบอก ให้เว้นระยะห่างจากผู้คน จะคุยกับใครให้ห่างสักเมตรสองเมตร น้ำลายจะได้ไม่กระเซ็นฝอยใส่ ไม่ไปในที่ชุมชนคนหนาแน่น เพราะไม่รู้หน้าอินทร์หน้าพรหมคนไหนมีเชื้อนี้อยู่ในตัว เลยต้องใส่หน้ากากป้องกัน
อยู่บ้านคนเดียวสบายใจ ถ้าต้องไปกินกับคนอื่น พกช้อนของตนเอง กับช้อนกลางส่วนตัวไปหมอบอก ให้อยู่บ้าน หยุดเชื้อ ถ้าขอร้องไม่ได้ หมอบอก หมอจะขออยู่บ้านเอง ยุ่งแน่ ๆ สัปเหร่อบอกยินดีทำให้ทุกศพ พระบอกยินดีสวดให้ มีแต่คนยินดีถ้ามีคนดื้อสิ้นชีพ เพราะโค
วิทแพร่เชื้อเร็วแต่ตายน้อย ใครจะไปรู้ เราอาจเป็นหนึ่งในจำนวนน้อยที่ตายก็ได้
ถ้าทำตามหมอบอกได้ ไม่รู้สึกหวาดกลัว เพราะมีวิธีป้องกันตนเองที่ดีแล้ว เรียกว่าตระหนัก
ถ้าหวาดกลัวจนเกินเหตุ ประสาทแดกเพราะกลัวตาย แต่บางคนบอกประสาทแดกเพราะไม่มีจะแดก เฮ้อ ถ้ากลัวจนคุมสติสตังค์ไม่ได้ เรียกตระหนกนะครับ ตั้งสติกันหน่อย คงไม่ตายกันหมดโลกหรอก หรือถ้าตายหมดโลกจริง ๆ น่าจะดีกว่าเหลือรอดอยู่คนเดียวนะ จะบอกให้