Terminator Salvation , คนเหล็กภาคเฉพาะกิจ กับ ภารกิจ 'พ่อตรูอยู่ไหน + ฉันเป็นใครเมื่อในอดีต'


... ถ้าความปรารถนาของคุณคือ ตั้งใจจะไปดู หนังคนเหล็ก เพื่อเอามันส์ล้วนๆ เลี่ยงอ่านบล็อกนี้ไปตีตั๋วดูได้เลย จะได้ไม่ต้องรู้สึกว่า จะเอาอะไรกันนักกันหนากับหนังคนเหล็ก ?

เพราะผมรับประกันว่า ฉากแอคชั่นในหนังออกแบบมาระเบิดเถิดเทิงดีมาก น็อตตะปู หลุดกระชากกระจุยกระจายสะใจ ฉากขับรถไล่ล่าก็ปรู๊ดปร๊าด และยิ่งได้เทคโนโลยีสมัยใหม่เนรมิต CG กับ งานโปรดั่กชั่นแบบเกรดเอ ภาพในหนังยิ่งดูยิ่งใหญ่อลังสมจริง

แต่สำหรับผม คาดหวังกับ หนังตระกูล Terminator ไว้มากกว่านั้น

คือถ้า Terminator เป็นหนังสไตล์หุ่นยนต์ที่ขนความสนุกแบบเอามันส์ เน้นความโลดโผนออกการ์ตูนๆ ไปดูเพื่อความสนุกล้วนๆอย่าง Transformer ผมคงจะไม่ให้ความสำคัญกับ ความสมจริง มากมายนัก และพร้อมจะ มองข้ามเหตุผลที่ไม่จำเป็น

แต่

1.Terminator ไม่ใช่หนังแอคชั่นเพียวๆ หากแต่เป็น หนังไซไฟแอคชั่น ซึ่ง เนื้อเรื่องกับความคิดสร้างสรรค์ ย่อมมีบทบาทสำคัญสำหรับหนังแนวนี้ และ การสร้างความสมจริงยิ่งสำคัญไม่แพ้กันสำหรับหนังที่พูดถึงโลกอนาคตที่ยังมาไม่ถึง

และ

2.ที่ผ่านๆมา ความสำเร็จของหนังตระกูลคนเหล็ก ไม่ได้มาจาก ความมันส์ เพียงอย่างเดียว แต่การที่หนังสองภาคแรกได้เป็นตำนาน นอกจากงานด้านเทคนิกที่โดดเด่นในยุคนั้น อีกส่วนหนึ่ง เพราะ คุณภาพของหนังแทบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นบท หรือ การกำกับ อยู่ในเกณฑ์ยอดเยี่ยม เป็นหนังไซไฟแอคชั่นที่เปิดแนวคิดย้อนเวลาไล่ล่าน่าสนใจ หยิบกลับมาดูซ้ำๆก็หารูโหว่ได้ยาก

ฝีมือการกำกับของ เจมส์ คาเมรอน ไม่ใช่ทำให้เราแค่สนุก แต่ยังทำให้เราเชื่อไปกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น มีความผูกพันไปกับตัวละคร




... ก่อนจะไปดูภาคนี้ ผมพยายามที่จะไม่คิดเปรียบเทียบกับสองภาคแรก เพราะเป็นการใจร้ายเกินไปที่จะให้ตัวเปรียบเทียบเป็น หนังที่ขึ้นหิ้งแบบนั้น รวมทั้ง รู้อยู่แล้วว่า ถึง Terminator Salvation จะมีเนื้อเรื่องต่อเนื่องจาก สามภาคก่อน และใช้ชื่อย่อๆว่า T4 แต่ผู้สร้างแสดงออกชัดเจนถึงเจตนาของการรีบู๊ตแฟรนไชส์นี้ใหม่ ให้ต่างไปจากเดิม

สามภาคเก่า ดูเป็นหนังไซไฟแอคชั่นแพ็คเกจเดียวกัน เพราะดำเนินเหตุการณ์ในโลกยุคปัจจุบัน โดยมี ตัวละครจากอนาคตแบกความไฮเทคมาต่อสู้ กับ สองแม่ลูกที่ต้องหาทางเอาตัวรอดด้วยสมองและสองขา โดยมีตัวช่วยจากอนาคตที่ล้าหลังกว่าตามมาเป็นผู้ช่วย

แต่ ภาคล่าสุด ดูเป็นหนังชุดใหม่ ที่อาศัยแค่ตัวละครกับโครงเรื่องเดิมมาสานต่อ แต่เปลี่ยนภาพรวมของหนังให้กลายเป็นหนังไซไฟอนาคตที่ให้อารมณ์หนังสงครามผสมแอคชั่น ในยุคหลังวันสิ้นโลก(Post apocalypse) บรรยากาศเดียวกับหนังประมาณ Mad max หรือ สมรภูมิรบระหว่างคนกับหุ่นใน The Matrix


... ด้วยเหตุนี้ ผมเองออกจะมีคะแนนเห็นใจในความกล้า เพราะ ถือว่าการสร้างหนังคนเหล็ก4 เป็นโจทย์ที่ยากและไม่น่าเสี่ยง สำหรับการสร้างภาคต่อของหนังระดับ ‘ตำนาน’ หากผู้สร้างไม่ได้มีทรัพยากรที่มั่นใจจริงๆว่าจะทำให้แฟนๆยอมรับ เหมือน Star wars ที่ใช้ผู้สร้างคนเดิม หรือแบบ The Matrix หรือ LOTR ที่วางพล็อตล่วงหน้าสำหรับทำเป็นไตรภาค

ดูอย่าง The Godfather ที่สร้างความเป็นตำนานไว้ที่สองภาคแรก แถมภาคสองยังดีกว่าภาคหนึ่ง การเลือกที่จะสร้างภาคสาม คือ การขุดหลุมฝังตัวเองจมกับความสำเร็จเก่าๆของ ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปล่า ทั้งๆที่ผมคิดว่า ตัวหนังภาค 3 ไม่ถึงกับเลวร้าย อยู่ในระดับดีพอใช้ ดีกว่าหนังมาเฟียหลายเรื่องเสียด้วยซ้ำ แต่เมื่อมีสองภาคแรก มันเป็นเรื่องยากที่ผู้คนจะไม่เผลอไปเปรียบเทียบ นั่นทำให้ ภาคสามเลยต้องเสียผู้เสียคนเรียบร้อยโรงเรียนเจ้าพ่อคอลีโอเน่

Terminator เองก็คล้ายๆกัน คือ ภาคแรกว่าดีแล้ว ภาคสองยิ่งดีกว่า และใครๆก็เก็บขึ้นหิ้งเป็นหนังแอคชั่นในดวงใจ แต่ ก็ยังมีคนอดใจไม่ไหวอุตส่าห์เข็นภาคสามตามมาหวังโกยความสำเร็จต่อเนื่อง ผลที่ออกมาจะว่าไปก็ไม่ได้ย่ำแย่มากมาย มีพล็อตเรื่องที่พอไปได้ ฉากแอคชั่นก็เข้าที มีตอนจบที่ผมคิดว่าเข้าท่า แต่ด้วยเงาของสองภาคแรกทาบทับเสียจนทำให้ ภาคนี้ปวกเปียกในสายตาหลายๆคน



การจบที่ภาค 3 ก็น่าจะเพียงพอ เพราะหนังบางเรื่องเหมาะทิ้งไว้เป็นแค่ตำนานเท่านั้น แต่เหมือนผู้สร้างยังไม่เข็ดและหวังจะโกยรายได้ต่อจากแฟรนไชส์คนเหล็ก จึงตัดสินใจทำภาคต่อแถมยังคิดจะทำเป็น ไตรภาคต่อเสียด้วยซ้ำ หากภาค 4 นี้ประสบความสำเร็จ (คล้ายๆกับ Star wars ต่างเพียงแค่ไม่ใช่ Prequel แต่เป็น Sequel)

แค่มีไอเดียจะสร้างคนเหล็ก 4 น่าห่วงแล้ว แต่ การเลือก McG มากำกับ ไม่ได้ทำให้แฟนๆมั่นใจมากขึ้นมาเลย กลับทำให้น่าเป็นห่วงมากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ

McG ถูกปรามาสล่วงหน้าตั้งแต่ไก่โห่ เพราะผลงานดังๆของเขามีแค่หนังแอคชั่นที่หวือหวาเหมือนการ์ตูน แถมยังมีความเป็นหญิงสูงอย่าง Charlie’s angle ซึ่งดูห่างไกลจากหนังที่เน้นความหนักแน่นแมนๆแบบคนเหล็ก ถึงตัวเขาเองก็เคยมีหนังนักกีฬาแมนๆทรงพลังอย่าง We Are Marshall แต่ตัวหนังดันเจ๊ง เลยทำให้คนไม่ค่อยรู้จัก

จากที่พลาดโอกาสทำ Superman การได้สานต่อคนเหล็กใน Terminator Salvation พิสูจน์ให้เห็นว่า McG เหมาะสมกับการทำหนังฟอร์มยักษ์แบบมีสีสัน แต่ ยังไม่เหมาะสำหรับหนังฟอร์มยักษ์ที่เน้นจริงจังอย่าง Terminator




... ผมยอมรับว่า ฉากแอคชั่นในหนังภาคนี้ มันส์มาก ดูเพลิน แต่ ความสนุกที่ดูมันให้อารมณ์ มันส์แบบวู้ๆว้าวๆ ไม่ใช่ มันส์แบบกดดันลุ้นระทึกชนิดแทบหยุดหายใจลุ้นเหมือนตระกูลคนเหล็กที่ผ่านมา ซึ่งถ้าจะดูหนังหุ่นยนต์มันส์วู้ๆ แบบนี้ Transformer ก็ตอบโจทย์ได้แถมอาจดีกว่าเสียด้วยซ้ำ

อีกทั้ง ธีมหนังที่ว่าด้วยสงครามวันสิ้นโลกแบบนี้ ความมันส์แบบวู้ๆว้าวๆ เพราะอิทธิฤทธิ์ของ CG และความหวือหวาฉับไว ดูจะไม่ช่วยส่งเสริมให้หนังมีความหนักแน่นเท่ากับ อารมณ์มันส์แบบบกดดันลุ้นระทึกที่ต้องอาศัยจังหวะการกำกับแบบคุมอารมณ์คนดู ที่ภาคนี้แทบจะไม่มีฉากโชว์ฝีมือผู้กำกับลักษณะนี้เลย แต่ อาศัยงานด้านเทคนิคมาชดเชยแทน


... McG ถนัดที่จะโชว์จุดขายหรือสร้างเสียงซู้ดปากคนดู จากความหวือหวามากกว่าที่จะพัฒนาหนังให้มีความลึก หรือ เทคนิกด้านการกำกับ ดั่งจะเห็นได้ว่า คนส่วนใหญ่ที่ได้ชมหนังเรื่องนี้ ล้วนแต่ยกนิ้วให้กับงานด้านเทคนิคที่เนรมิตหุ่นยนต์มาโชว์ฉากแอคชั่นเฟี้ยวฟ้าว หรือ บรรยากาศมืดหม่นของโลกอนาคตก็ดูน่าทึ่ง

และ หากอ่านพล็อตหนังของ T4 เพียงคร่าวๆ น่าจะออกมาเจ๋งไม่น้อย โดยเฉพาะการสร้างตัวละครใหม่อย่าง มาคัส ไรท์ ที่เป็นตัวละครลูกผสมความจำเสื่อม ออกมาตามหาต้นกำเนิดของตัวเองเหมือนตัวละครที่ผสมผสานระหว่างพระเอกในหนังไซไฟ Total recall และ พระเอกความจำเสื่อมในซีรี่ย์ Bourne กับภารกิจตามหาว่า ฉันเป็นใครเมื่อในอดีต และลดบทบาทของ จอห์น คอนเนอร์ ลงเหลือแค่ภารกิจ กู้โลก กับ ตามหาพ่อ

บวกแผนการอันสลับซับซ้อนของ สกายเน็ต ที่จ้องจะเปลี่ยนอนาคตโดยจัดการกับ จอห์น คอนเนอร์ หลังจากล้มเหลวมาครั้งแล้วครั้งเล่า

แต่เอาเข้าจริงแล้ว หนังทั้งเรื่องกลับมีอยู่แค่นั้น บทหนังขาดพัฒนาการทั้งในด้านเรื่องราวและตัวละคร เหมือนเป็นหนังที่โชว์ปฏิบัติการเฉพาะกิจของตัวบุคคลเสียมากกว่า ครั้นจะใส่มุมมองหรือประเด็นเด็ดๆก็รวบรัดเอาไว้ตอนท้าย จนดูแล้วรู้สึกเหมือนพยายามยัดเยียดมากกว่าจะทำให้คนดูได้คล้อยตาม




... ตัวอย่างของบทหนังที่ย้อนรอยเดิมแต่กลับไม่ทำให้รู้สึกเชื่อ เช่น มุมมองที่หนังสานต่อจากภาคก่อนๆ คือ ‘ความเป็นมนุษย์’ ที่แตกต่างจากเครื่องจักร

ใน T2 , T3 มีหุ่นยนต์ที่เรียนรู้ความรู้สึกจากมนุษย์ –> ดูแล้วเชื่อ เพราะบทหนังทำให้เห็นพัฒนาการว่า เกิดอะไรขึ้น หุ่นท่านผู้ว่าอาร์โนลด์ถึงอ่อนไหว

แต่ภาคนี้

การให้ ความเป็นคน เอาชนะ ความเป็นเครื่องจักร --> ดูแล้วไม่ค่อยเชื่อ หนังพยายามยัดเยียดสถานการณ์กับคำพูดที่ให้รู้สึกถึง ‘ความเป็นมนุษย์’ ที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะการตัดสินใจของ มาคัส ไรท์ ตอนท้ายๆ

แต่ผมดูแล้วกลับไม่รู้สึกฮึกเหิมหรือคล้อยตาม แถมยังรู้สึกขัดๆเสียอีกว่า ถ้าการตัดสินใจเป็นไปอีกแบบ ยังจะดูน่าเชื่อถือเสียกว่า เพราะหนังไม่ปูให้เห็นเลยว่า เขาได้ ความคิดที่อยากจะเป็นคนมากกว่า มาจากไหน ในเมื่อสมองส่วนเครื่องจักรนั้นถูกกำหนดค่าไว้อยู่แล้ว ยกเว้นว่า ถ้าหนังจะปูแบ็คกราวน์พอให้เห็นบ้างก็น่าจะดี


... และเหตุผลที่ทำให้ผมคิดว่า McG ยังไม่เหมาะกับการทำหนังแนวนี้ คือ เมื่อใดที่หนังหมดจากช่วงฉากโชว์แอคชั่น กลับไปสู่ดราม่าหรือมีตัวละครมาสนทนาพาที Terminator Salvation เป็นหนังที่ทำให้ผมร้อง ฮื้อ ในใจหลายรอบ กับ ความตุแหม่งๆ หรือ ความจงใจใส่การกระทำแบบสูตรสำเร็จที่ผุดแทรกขึ้นมาเป็นพักๆ

ทำให้ยิ่งรู้สึกถึงความไม่สมจริง ไม่เชื่อโลกอนาคตที่เกิดขึ้นในหนัง เหมือนที่เคยเกิดกับหนังอย่าง The Matrix และ ผิดกับภาคก่อนๆที่เชื่อและเพลินไปกับหนังจนจบ

ตัวอย่างของ ความฮื้อ เช่น

เปิดเรื่องน่าสนใจ แต่เมื่อขอแลกลายเซ็นด้วยจูบ มันดูตุแหม่งๆ โผล่มาในจังหวะที่มันยังไม่ใช่อะกิ๊บ ... ฮื้อ

บรรยากาศหลังโลกถูกทำลายน่าหวาดหวั่น แต่ พอนางเอกโผล่มาหน้าสวยเด้งแบบเมคอัพมีปากแดงๆ ... ฮื้อ

โผล่มาไม่รู้วันเวลาสถานที่ ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านเวลามาหลายปี ผ่านการกระแทกกระทั้นกันขนาดนั้นไม่แปลกใจตัวเองบ้างเลยว่าเป็นอะไร แต่ทำท่าช็อคสุดขีดตอนเห็นร่างกาย ... ฮื้อ

ไดอะล้อคเลี่ยนๆ ประมาณ หุ่นไม่ฝังศพแต่คนไม่เหมือนหุ่นนะเฟ้ย ... ฮื้อ

สาวนักรบสุดเท่ที่ดูว่าน่าจะมีประสบการณ์ผ่านกรำศึกสงครามมานาน โผล่มาแค่ฉากเดียว มาเพื่อจับมาคัสแล้วปล่อยไป เชื่อใจกันง่ายๆหลังผ่านเหตุการณ์แค่นั้น ... ฮื้อ

สกายเน็ตวางแผนล่วงหน้าซะดิบดี แต่สุดท้ายแผนต้องมาพังเพราะความเท่ที่หนังจงใจ ... ฮื้อ
ฯลฯ




... นอกจากนี้ ทีมนักแสดง ใน T4 ก็ยังเป็นทีมนักแสดงที่การรับส่งกันนั้นเข้าข่ายแย่ เหมือนต่างคนต่างเล่น ดูไม่เป็นทีมเดียวกัน แถมนักแสดงดังๆก็จับมือกันเล่นได้น่าผิดหวังจากมาตรฐานของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น คริสเตียน เบลล์ ที่ทำให้อยากกลับไปรื้อ The Prestige มาดูอีกรอบ หรือ ไบรซ์ ดัลลัส ฮาวเวิร์ด ที่กลายเป็นแค่นักแสดงหน้าสวยยิ้มสวย ทั้งๆที่เธอมีดีกว่านี้ดูได้จาก The village

หนังพยายามเน้น จอห์น คอนเนอร์ กับ มาร์คัส ไรท์ มากเกิน จนทำให้ตัวละครอื่นๆถูกกลืนหายไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งๆที่ ตัวละครอื่น ดูเหมือนจะมีความหมายและน่าสนใจมากกว่านั้น แต่หนังกลับให้ แต่ละคนโผล่มา เพียงเพื่อเข้าฉากเคลียร์ภารกิจตอนนั้นให้จบเป็นตอนๆ โดยไม่มีความต่อเนื่องกับเรื่องราว เช่น คุณยายผมขาวมาเพื่อโดนจับ , สตาร์มาเพื่อเป็นเพื่อน , ทหารสาวมาเพื่อพามาร์คัสเจอพระเอกแล้วปล่อย ฯลฯ

และ ปัญหาก็คือ บทของ จอห์น คอนเนอร์ ที่ต้องการเน้น (รวมทั้งตัวละครอื่นๆ) กลับเล่นอารมณ์เดียวตลอดเรื่อง แถม คริสเตียน เบลล์ ก็เค้นอารมณ์แบบตั้งใจมากแทบจะโอเว่อร์แอคติ้ง และทำหน้าเหมือนปวดอึแบบเดียวตลอดทั้งเรื่องเช่นกัน




ส่วนคนที่เล่นดีและเด่นแบบขโมยซีนกลับเป็นนักแสดงที่ไม่ดังเท่าอย่าง แซม เวิร์ทธิงตั้น ผู้มากับบุคลิกแมนๆขบถๆ ที่หลายคนกะเก็งไว้แล้วว่าจะเป็น ดาวดวงใหม่ในวงการโดยเฉพาะในผลงานที่ผู้คนเฝ้ารอคอยจากผู้ให้กำเนิด Terminator ตัวจริงในหนังใหม่ของเขา Avatar และ อีกคนที่เล่นได้ดีคือ แอนตั้น เยลต์ชิน ซึ่งเพิ่งปรากฏตัวเรียกเสียงฮาใน Star trek ภาคล่าสุด

คนที่น่าเสียดายคือ เฮเลน่า บอนแฮม คาร์เตอร์ ที่เล่นได้เด่น บทก็น่าสนใจ แต่ หนังให้เวลากับเธอน้อยเสียเหลือเกิน


... หนังมีความพยายามที่จะทำให้คนดูเชื่อมโยง ภาคนี้ กับ ภาคก่อนๆ ด้วยการนำประเด็นเก่าๆมาหวนรำลึก เป็นการเคารพต้นฉบับ ผ่านเหตุการณ์เล็กๆน้อยๆที่ทำให้สามารถแกะรอยกลับไปเชื่อมโยงกับภาคก่อนๆ ชนิดที่แฟนจากหนังคนเหล็กได้ดูแล้วก็ต้องอดอมยิ้มไม่ได้ เช่น หยิบยืมรูปหน้าของอาร์โนลด์แล้วใช้ CG ดัดแปลงเป็นหุ่นเหล็กฉบับหน้าเนียน หรือ มุกน่ารักๆที่หยิบประโยค I’ll be back กลับมาแต่เปลี่ยนคนพูด , เสียงของลินดา แฮมิลตั้น ในเทป ฯลฯ

(กระนั้น บางตอนก็รู้สึกว่ามากไปหน่อย เช่น วิธีสังหารหุ่นตอนท้ายๆ ที่คล้ายกับภาคเก่าๆ มันออกจะรู้สึกซ้ำซาก เพราะหนังเรื่องนี้ไม่ได้ รีบูธหนังภาคเดิม แต่ กำลังสร้างหนังภาคใหม่ แค่หยิบรายละเอียดเก่าๆเล็กๆน้อยมาให้หายคิดถึงพอน่ารักๆก็พอแล้ว)


สิ่งที่ชอบ

1.หุ่นยนต์กับ CG ... เริ่ดดด

2.ฉากแอคชั่น ... อู้วว้าววว

3.งานสร้างบรรยากาศโลกหลัง judgement day ... เกรด A+

4.แซม เวิร์ธทิงตั้น ... เกิด


สิ่งที่ไม่ชอบ

1.ความฮื้อทั้งหลายที่ว่าไว้

2.ตัวละครในหนัง ... ทั้งบทและการแสดง ที่ไม่ทำให้รู้สึกลุ้นหรือผูกพันเอาใจช่วยตัวละครเหมือนที่เคยมีกับอาร์โนลด์และผองเพื่อนในภาคก่อน แต่ภาคนี้ลุ้นเพราะสถานการณ์มากกว่า



สรุป ... McG ชดเชยจุดด้อยในหนังทั้ง ตัวบท , การกำกับ และ การแสดง ด้วยงานด้านเทคนิคล้วนๆ ซึ่งผลที่ออกมาทำให้คนเหล็กภาคนี้ออกแนวมันส์แบบวู้วๆว้าวๆ ชนิด ดูเอามันส์ ดูเอาสนุกตื่นเต้น คุ้มค่าตั๋วที่เสียไป และ ควรดูโรงเพื่อซึมซับความยิ่งใหญ่กับระบบเสียงที่สะใจ

พอสรุปได้ว่า หนังทำได้ดีในส่วนของฉากแอคชั่น แต่ น่าผิดหวังในส่วนที่เป็นดราม่าที่แห้งแล้งอารมณ์ความรู้สึก ไม่มีความผูกพันกับตัวละคร (ซึ่งการเป็นหนังแอคชั่น ไม่ใช่ข้อแก้ตัวในจุดนี้ หนังแอคชั่นดีๆหลายเรื่องสามารถทำให้คนดูผูกพันและอินไปกับเรื่องราวได้)

และ ถ้าใช้ชื่อ คนเหล็ก(Terminator) มาประกอบ จะรู้สึกว่า เป็น การเปิดฉากแฟรนไชส์ใหม่ที่หวือหวา แต่ ขาดเอกลักษณ์(คิดถึงหนังหลายเรื่องขณะดู โดยเฉพาะ Total recall ของท่านผู้ว่าฯในฉากช่วงท้าย) , ยังด้อยในความรู้สึกขึงขังสมจริงตามแนวทางใหม่ที่หนังต้องการนำเสนอ และ ไม่ค่อยมีความแปลกใหม่หรือความคิดสร้างสรรค์ที่หนังไซไฟแอคชั่นชั้นดีมักจะมีให้กับคนดู


ป.ล. ถ้าให้เทียบชอบ ภาค 2 > 1 > 3 > 4 > Terminator: The Sarah Connor Chronicles

หลายคนบ่นไม่ชอบภาค 3 กันมาก แต่ สำหรับผม ชอบ ฉากแอคชั่นในภาค 4 นี้มากกว่าภาค 3 แต่ ถ้าตัวหนังโดยรวม ผมกลับชอบภาค 3 มากกว่า เพราะอย่างน้อยภาคนั้นยังดูน่าเชื่อถือและตัวหนังรวมๆมีอะไรขัดใจน้อย(ยกเว้น การแคสต์ตัวพระเอกกับนางเอกที่ดูไม่เหมาะอย่างแรง)

ส่วน ซีรี่ย์ ที่ให้อยู่อันดับรั้งท้าย เพราะ ดูไปสองแผ่นแล้วไม่รู้สึกอยากจะดูต่อเลย


ป.ล. 2 ... เสียดายมากๆที่ McG ไม่ได้กำกับ Superman ที่เอามาทำใหม่ เพราะรู้สึกว่า เขาเป็นคนที่เหมาะสมกับสไตล์หนังลักษณะนี้ และหนังก็น่าจะออกมาขายวงกว้างได้มากกว่า Superman Returns ที่ต้องปิดตัวแฟรนไชส์ไปอย่างรวดเร็ว


Link บทความที่เกี่ยวข้อง

หนังดี(VD)ที่ผมฯเชียร์ - We are marshall

The Prestige , คุณตั้งใจดูอย่างใกล้ชิดแล้วจริงๆหรือ ?

Transformers , โอ้ว ไมเคิล เบย์ คุณเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆเลย

Superman Returns , ทำไมโลกใบนี้ยังต้องการ Superman ?

Star trek (2009) , จากใจคนที่ไม่ใช่ Trekkie --> “สุดยอด - Excellent - #$$@% - สุโค่ย - il_lli”



"ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ขอฝากหนังสือเล่ม 4 ที่ชวนเพื่อนผู้อ่าน ออกเดินทางสำรวจจิตใจมนุษย์ และ ทำความรู้จัก'คน' ให้มากขึ้น ผ่านโลกภาพยนตร์ ในหนังสือชื่อ มากกว่าที่ตาเห็น - LifeScan วางขายในร้านสือทั่วไป พฤษภาคมนี้จ้า






พื้นที่แนะนำผลงาน{ตัวเอง}

(คลิกที่รูปหนังสือ เพื่อ อ่าน หรือ แสดงความเห็น ต่อหนังสือแต่ละเล่มได้เลยครับ)

ปีนี้ “ผมอยู่ข้างหลังคุณ” ขอฝากผลงานเล่มล่าสุดที่เพิ่งคลอดจ้า อันว่าด้วย 'ความรักและกำลังใจ' ผ่านแรงบันดาลใจจากชีวิตและภาพยนตร์ ในหนังสือที่ชื่อว่า

เมื่อฉันลืมตา แล้วโลกเปลี่ยนไป



และ ผลงานสองเล่มก่อน จากสองปีที่ผ่านมา



"หนังสือรัก" หนังสือที่หยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม กับ องศาที่ 361 หนังสือที่อาสาช่วยคุณค้นหามุมเล็กๆในตัวเองที่จะมีความสุขในชีวิตได้มากขึ้น โดยอาศัย'หนัง'เป็นสะพานพาไปเข้าใจตัวเอง


มีขายตามร้านหนังสือทั่วไป แต่ เพื่อนๆที่หาซื้อตามร้านไม่ได้ "หนังสือรัก"เข้าไปสั่งได้จากเว็บของสนพ.เลยจ้าที่ //www.bynatureonline.com/store/bookstore.php ส่วน องศาที่ 361 และ เมื่อฉันลืมตา แล้วโลกเปลี่ยนไป สั่งได้จากในเว็บหรือหน้าร้านซีเอ็ดครับผม






ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก

พูดคุยกับเจ้าของ Blog คลิก

เปิดหารายชื่อหนังเก่าๆนอกเหนือจากในหน้าสารบัญ คลิก





ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป


Create Date : 01 มิถุนายน 2552
Last Update : 2 มิถุนายน 2552 13:06:35 น.
Counter : 11839 Pageviews.

25 comments
  
การให้หุ่นยนต์มีหัวใจและรู้สึกเหมือนมนุษย์ --- ดูแล้วไม่ค่อยเชื่อ
------------------

เอ่อ มาคัสเป็นคนนะคะ เป็นไซบอร์ก มีสมองเป็นคนครึ่งนึง และมีหัวใจเป็นคนค่ะ
ถ้าถามว่า เค้าได้ความเป็นคนมาจากไหน ก็จากพ่อแม่ตั้งแต่เกิดนั่นแหละค่ะ


แต่ไอ้ฮื่อๆนั่นก็เห็นด้วยนะคะ ตลกดี

แต่ยังไงก็ชอบภาคนี้ค่ะ สนุก
โดย: แมวเก้าแต้ม IP: 192.168.182.207, 112.142.122.194 วันที่: 1 มิถุนายน 2552 เวลา:17:58:22 น.
  
ไม่แปลกใจที่ คริสเตียน เบลล์ ทะเลาะกับ McG เลย

ส่วน sarah chronicles ฉายได้แค่ 2 ซีซั่นและโดนตัดจบไปเรียบร้อยแล้วครับ ^^
โดย: runtboy IP: 58.8.230.153 วันที่: 1 มิถุนายน 2552 เวลา:18:02:11 น.
  
แมวเก้าแต้ม ... ตอนพิมพ์ข้อความรีบไปหน่อย สื่อความหมายผิดครับ เข้า edit แก้แล้วคร้าบ ขอบคุณมากครับที่ทักท้วง

ขอบคุณครับกับทุกๆความเห็นที่มาคุยกัน
โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" วันที่: 1 มิถุนายน 2552 เวลา:18:29:06 น.
  
หวัดดีครับ
ยังไม่ได้ซื้อ Lifescan เลย
เดียวไปหามาดู

ป.ล.เเวะไปเยี่ยมผมบ้างสิครับ
ช่วงนี้คนไข้เยอะมากไหมเนี่ย ท่านหมอ
โดย: ลูกอบรสเขียด วันที่: 1 มิถุนายน 2552 เวลา:18:56:53 น.
  
ผิดหวังกับภาคนี้เล็กน้อย เพราะก่อนดูตั้งความหวังเอาไว้มาก ชอบธีมอนาคตมืดหม่น มีหุ่นเหล็กแบบนี้อยู่แล้ว แต่น่าเสียดายว่าฉากที่อยากดูที่สุดคือฉาก "สงครามระหว่างคนและเครื่องจักร" กลับไม่มีให้เห็นแม้แต่ฉากเดียว ส่วนมากจะสู้กับหุ่นตัวสองตัว คนมีสองสามคนเท่านั้น นึกถึงฉากเปิดของภาค 2 ยังมีฉากที่ให้ความรู้สึกเป็นสงครามมากกว่าอีก

แต่หลายๆ ฉากในภาคนี้ก็ทำได้ดีมาก ฉากไล่ล่าทั้งบนอากาศและบนถนน ฉากหุ่นยักษ์ งานโปรดักชั่นเนี้ยบมาก เนรมิตเมืองในอนาคตยุคสงครามได้สวยงามไร้ที่ติ

ส่วนจุดอ่อนคือบท การเล่าเรื่อง การตัดต่อในบางฉาก นั้นยังไม่ดีเท่าที่ควร ตัวละครไม่น่าสนใจ แม้แต่จอห์น คอร์เนอร์ มีเพียง มาร์คัส ที่ดูน่าติดตาม และการไม่มีอาร์โนลด์นั้นก็ทำให้คนดูอดคิดถึงเขาไม่ได้
โดย: AronSun IP: 124.120.242.197 วันที่: 1 มิถุนายน 2552 เวลา:23:00:06 น.
  
ตั้งความหวังไว้สูง ดูมาแล้วเลยแหม่ง ๆ
ยอมรับว่าไม่ค่อยปลื้มอ่ะค่ะ
แล้ว Transformers 2 จะเป็นยังไงล่ะเนี่ย
T T
โดย: Skyphere IP: 202.176.81.73 วันที่: 2 มิถุนายน 2552 เวลา:8:00:53 น.
  
ขณะที่ผมนั้นมองมันเป้ฯการเกริ่นนำ สำหรับภาคนี้ในสายตาผมว่ามันใช้ได้ ถามว่าบทบาทการพัฒนาการตัวละครมีมัย ผมขอตอบว่ามันมีอับ แต่ในเรื่องนั้นบงบอกได้น้อย แต่ถ้าดูการพัฒนาตามแต่ละภาค ซึ่งในภาค 3 ที่ จอห์น คอนเนอร์ นั้นดูไม่ค่อยเท่าไร (ชนิดผมดูแล้วบอกว่าไอ้หมอนี้มันเป็นผู้นำกู้โลกจริงๆเหรอ?) แต่ภาคนี้เค้าเป็นเหมือนศูนย์รวมคนทั้งโลก ดูได้จากฉากที่ คอนเนอร์ร้องขอคนทั้งโลกอย่าเพิ่งลงมือ เสียงคนทั้งโลกตอบรับคนๆนี้...

โจทย์ภาคนี้ อยู่ที่หัวใจมนุษย์กับเครื่องจักร? นอกนั้นเป็นการเกริ่น ตัวละครื้ทีบทบาทในภาค1 อย่างไคล์ รีส (ถ้าดูเอาฮา คือตามหาพ่ออย่างที่คุณว่า)

บางคนก็สงสัยว่าทำไมสกายเน็ตถึงไม่ฆ่าไครริสซะเลย ผมคิดว่า สกายเน็ตไม่แน่ใจว่า การฆ่าไคล์ รีส นั้นจะมีผลดีหรือผลเสียยังไง ประมาณห้วงทฤษฎีกาลเวลา ถึงฆ่าไคล์ รีส ตอนนี้ทิ้งอาจจะไม่มีผลกับห้วงเวลานี้ก็ได้ (พอมีใครจะเข้าใจมัย)

เลยทางดีที่สุดเก็บมันทั้งพ่อ ทั้งลูก นั้นแหละ และให้ผมเดาเรื่องนี้ใช้ทฤษฎี ห้วงเวลา 2 เส้น ตอนนี้ห้วงเวลาของ คนเหล็กแต่เป็น 2 ทางแล้ว...

อย่าลืมว่าสกายเน็ต ในT 4 เกิดจากสกายเน็ตในอนาคตมาปล่อยไวรัส (ในT3) ซึ่งมิใช่การลัดวงจรแบบ ห้วงเวลาแรก ถามว่ามีอะไรยืนยันถึงทฤษฎีนั้น คำพุดของสกายเน็ต ที่คุยกับมาคัส

'เราพยายามมาหลายปี ในการกำจัด คอนเนอร์'
(มันแปลได้หลายความหมาย รวมถึงทฤษฎีที่ผมว่า)

ฉะนั้น ซีรีย์ของคนเหล็กสงครามคนกับเครื่องจักร เพิ่งเริ่ม สิ่งที่ภาคต่อไปควรมี คือการมาของหุ่นที่เคยโผล่ภาคก่อนหน้านี้ T-1000 และ T-X
การย้อนเวลาของไคล์ รีส...การจับ T-800 มาล้างสมอง 2 บทหลังอาจจะมีเป้นเพียงการบอกเล่าก็ได้ เพื่อทำให้เส้นการวนลูปสมบูรณ์ ....

คงต้องรอดูผมเชื่อว่า ซีรีย์นี้ยังทำอะไรได้อีกเยอะ ถึงไม่มีอาร์โนลด์ก็ตาม...
แต่ข้อเสียของเรื่องนี้อยู่ที่ห้วงเวลาที่ผมยัง งง ว่าทฤษฎีจักรวาลเวลามันตกลงเป็นยังไง
โดย: act IP: 122.154.18.253 วันที่: 2 มิถุนายน 2552 เวลา:9:49:26 น.
  
ผมดูแล้ว ผมว่าหนุกดีครับไม่คิดไรมาก ยังไงก็รอภาคหน้า มาเร็วๆนะ (เปลี่ยนผู้กํากับด้วยก็ดีนะ55)
โดย: benz IP: 61.7.241.30 วันที่: 2 มิถุนายน 2552 เวลา:13:35:12 น.
  
ไม่ได้คาดหวังอะไรมากครับกับ Terminator ภาคนี้ ถือว่าดูได้เพลินๆ ...ที่ไม่ชอบก็คือ หนังไม่ยอมเดินหน้าต่อครับ ไม่รู้จะกั๊กไว้ทำไม สงสัยจะกั๊กไว้สร้างภาค 5-6-7-8 ต่อ ...รำคาญคริสเตียน เบลด้วยครับ แต่กลับชอบแซม วอร์ธิงตัน งานนี้เกิด..เกิด..เกิด..เกิดครับ 555+

ผมว่าภาคนี้งานบันทึกเสียงเยี่ยมเลยนะ คิดถึงสมัยรุ่งเรืองของ T2 ครับ ภาคนั้นงานเทคนิคเยี่ยมยอดมันไปซะทุกอย่าง

อ้อ..เกือบลืมแน่ะครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ
โดย: The Academy Award Winner วันที่: 2 มิถุนายน 2552 เวลา:19:12:56 น.
  
ดูแล้วๆ ไม่ค่อยเท่าไหร่นะ
โดย: concept IP: 125.25.58.220 วันที่: 2 มิถุนายน 2552 เวลา:21:58:41 น.
  
+ สิ่งที่ผมคิดและรู้สึก คุณ จขบ. ก็พูดออกมาเกือบหมดแล้วนะนั่น หุๆ เห็นด้วยครับ แอ๊คชั่นดี แต่ดราม่าอ่อน บทป๊อปคอร์นเหลือเกิน โดยเฉพาะความพยายามให้มาร์คัสทำเมโลดราม่าในช่วงท้าย มันน้ำเน่าโพดๆ อ่ะครับ
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 3 มิถุนายน 2552 เวลา:0:41:42 น.
  
บทเนื้อเรื่องไม่กระดิกไปไหนเลย สิ่งที่น่าจดจำก็ไม่พ้นฉากแอคชั่นวินาศสันตะโรทั้งหลายในเรื่อง แต่มีกลิ่นอายของคนเหล็ก ภาคเก่าๆกระจายอยู่เกือบทั้งเรื่อง

McG ทำหนังมาหลายเรื่อง แต่คนเหล็ก 4 ผมว่านี่เป้นงานกำกับที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาเลยนะ จากหลายๆองค์ประกอบ และในความพยายามของเขา ^^

โดย: negima_xx วันที่: 3 มิถุนายน 2552 เวลา:14:25:50 น.
  
พอเขียนของตัวเองเสร็จก็มาอ่านบ้าง แล้วก็รู้ว่าสิ่งจึ๋ยๆทั้วหลายผมไมได้คิดไปเอง
โดย: ต้องบอกด้วยเหรอ วันที่: 4 มิถุนายน 2552 เวลา:9:54:11 น.
  
ถ้าไม่เทียบกับเทพ T2 ก็สนุกดี
โดย: RA IP: 202.90.6.36 วันที่: 4 มิถุนายน 2552 เวลา:13:13:32 น.
  
เพิ่งไปดูมาสดๆ ร้อนๆ เลยค่ะ
ชอบ CG กับฉาก Action ที่สุด ทำได้เลิศมาก


ปล. มาร์คัสน่ารักมากเลยค่ะ ^0^
โดย: I love Orli ^0^ IP: 68.100.242.214 วันที่: 7 มิถุนายน 2552 เวลา:12:16:06 น.
  
แต่ผมชอบโคตร ๆ

แต่พอมาทำถึงภาค 4 โจทย์ที่ต้องตอบ มันยากเกินไปนะ ผมว่า ...

มีหลาย ๆ ประเด็น ที่หนังจะสื่อออกมาได้ และรวมถึง ในอินเตอร์เนต มีการเปิดเผยฉากจบที่แท้จริง ก่อนหนังจะฉาย ทำให้คนสร้างเค้าต้องมาปรับแก้บทกันใหม่อีก

จขบ. ลอง search ดูได้ครับ what went wrong in terminator salvation หรืออะไรประมาณนี้อ่ะครับ

แต่รู้สึกเห็นใจทั้งผู้กำกับและคนเขียนบทเรื่องนี้จริง ๆ เพราะกว่าจะสรุปออกมาเป็นแบบนี้ มันก็ไม่ง่ายเลย

และคงไม่ได้ทำให้หลาย ๆ คนที่เป็นแฟนพันธ์แท้เค้าชอบกันทุกคนนะ ผมว่า ...
โดย: ... กระซิบรัก จากความทรงจำ ... IP: 58.64.56.74 วันที่: 8 มิถุนายน 2552 เวลา:23:36:02 น.
  
เหมือนในหนังตัวอย่างจะมีบอกว่า จับเชลยไปสกัด dna ไรงี้, แต่ทำไมพอดูเต็มๆ ไม่เห็นเจอตอนที่บอกว่างั้นเลย.
โดย: อานนท์ IP: 193.200.150.82 วันที่: 9 มิถุนายน 2552 เวลา:10:09:42 น.
  
ผมไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่
เพราะฉากแอคชั่นและcgก็งั้นๆ
โดย: blackholesun IP: 124.122.184.228 วันที่: 9 มิถุนายน 2552 เวลา:17:16:41 น.
  
ผมชอบครับ

^-^
โดย: MTO IP: 124.120.209.61 วันที่: 10 มิถุนายน 2552 เวลา:13:32:38 น.
  
ผมว่าเค้าทำได้ดีอยู่นะ

การที่จะมาสานต่อโจทย์ที่ทิ้งไว้

มีต่อภาค 5 ก้อดี อย่าเพิ่งจบเรยนะ

ต่อไปเรื่อยๆ
โดย: แกถูกพิฆาตแล้ว IP: 222.123.54.177 วันที่: 13 มิถุนายน 2552 เวลา:11:32:37 น.
  
ชอบมากครับ สนุกมาก ดูแล้วชอบ McG ดูเขาพยายามดีแล้ว รายละเอียดหลายอย่างในหนังถือว่าดีมาก เช่น แอนตัน เยลชิน ที่เล่นเหมือน ไมเคิล บีห์น ใน T1 แทบทุกอย่าง, หรือทรงผมของ อาร์โนลด์ ที่เหมือนกับใน T1 เพราะเป็นหุ่นต้นแบบ

ที่คำพูดในหนังมันออก cliche หรือ เมโล ส่วนตัวผมว่าเหมาะแล้วนะครับ คำพูดของผู้นำกู้โลก กับ ครึ่งคนครึ่งหุ่นที่ต่อสู้กับตัวเองอย่างยิ่งใหญ่ ก็ควรจะเป็นคำพูดที่ยิง่ใหญ่หน่อย ผมเชื่อว่า หลายคนที่ชอบหนังเรื่องนี้คงจะจำประโยคหรือคำพูดเท่ๆในหนังได้อย่างแม่นยำ

แต่เห็นด้วยว่าดาราบางคนออกน้อยไปหน่อย โดยเฉพาะ มูน บลัดกู้ด(สาวทหาร แบลร์ วิลเลี่ยมส์) เท่มาก ส่วน เฮเลน่า บอนแฮม คาร์เตอร์...ผมว่าคงมาเล่นตามเพื่อน(แดนนี่ เอลฟ์แมน)มากกว่า

โดย: tHe cH@mp IP: 110.169.34.54 วันที่: 21 มิถุนายน 2552 เวลา:2:48:29 น.
  
รวมๆ แล้วชอบมากกว่าภาค 3 ครับ
ผมว่าดูสนุกดี แต่ที่ จขบ ฮื้อ นั่น
ผมก็คิดเหมือนกันครับ 5555 +

เรื่องความสัมพันธ์ตัวละครนี่เพิ่งนึกออกจริงๆ ครับ
ว่ามันโผล่มาเป็นฉากๆ จริงๆ -.-''


รวมๆ แล้วชอบมากกว่า Transformer 2 เยอะเลย
Transformer2 นี่ผมให้เป็นหนังแย่ที่สุดที่ผมเคยดูปีนี้เลย -*-
โดย: lkunl IP: 58.11.71.201 วันที่: 28 มิถุนายน 2552 เวลา:23:11:33 น.
  
ออ ประเด็นที่ท่าน act IP ว่าไว้นี่ผมก็คิดเหมือนกันครับ

ตกลงเรื่องนี้มันจะให้เป็น อนาคตแบบไหนกันแน่
วกไปวกมา กลายเป็นอนาคตมาสร้างอดีต
แถม ถ้าฆ่าพ่อภาคนี้ได้แล้วพระเอกจะหายไปทันที หรือว่าก็อนาคตก็เหมือนเดิม เออ งงดีแท้

ถ้าส่งพ่อกลับไปแล้วมันอนาคตมันจะเปลี่ยนทันทีรึเปล่า นี่ก็งงเหมือนกัน

ตกลงมันจะเลือกเล่นอนาคตแบบวนแบบไหน เหอๆ -.-''
โดย: lkunl IP: 58.11.71.201 วันที่: 28 มิถุนายน 2552 เวลา:23:15:23 น.
  
ไม่ได้ดูคนเหล็ก แต่เห็นมีข่าวว่าผู้กำกับคนเหล็กกับทรานฟอร์มเมอร์เขาบลัฟกันว่าใครลอกใคร ... แต่ที่แน่ๆ ไอ้ทรานฟอร์มเมอร์สองนี่น่าจะมีลอกคนเหล็กมาตรงไอ้มุขหุ่นปลอมตัวเป็นคนนี่แน่ละ...
โดย: ๋๋JRyn IP: 58.8.122.54 วันที่: 2 กรกฎาคม 2552 เวลา:2:14:11 น.
  
ผมว่าก็สนุกดีนะ แค่ต้องดูให้ครบทุกภาคแล้วค่อยมาดูเท่านั้นเอง รวมซีรี่ด้วย ผมว่าการดูหนังดูแล้วอย่ามาอคติจะดีกว่า เพราะหนังมันคนละเรื่อง มันต่างกัน ว่าไปถ้าไม่เอาพวกลาวาฆ่าคนเหล็กจะใช้อะไรละ แล้วก็ไอปืนแสงที่อยู่ภาคซีรี่ มันหายไปไหนแล้ว ผมว่าเรื่องนี้ต้องดูภาคต่อไปอีก หนังมันพัฒนาไปเรื่อยอีกอย่างหนังใหญ่ไม่ใช่หนังซีรี่จะให้อธิบายละเอียดเดี่ยวก็หลับมานั่งบ่นกันอีก อย่างน้อยก็ดีกว่าหนังไทยบ่างเรื่องแหละครับ
โดย: Rom IP: 125.27.37.105 วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:12:47:29 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Aorta.BlogGang.com

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]

บทความทั้งหมด