ถึงมิตรรักแฟนblogทุกท่าน ตุลาคมนี้ ในงานมหกรรมหนังสือฯ

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ขอฝาก ผลงานเล่มที่สามที่จะเปิดตัว วางแผงด้วยค้าบ

ถัดจาก หนังสือรัก และ องศาที่361 มาเป็น การผสมผสานระหว่าง แรงบันดาลใจ + ชีวิต + ภาพยนตร์ นำมาสู่หนังสือเล่มล่าสุด ที่ผมตั้งชื่อว่า

เมื่อฉันลืมตา แล้วโลกเปลี่ยนไป

ได้ปกเมื่อไหร่ จะนำมาเสนออีกครั้งครับ







...สามสี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นช่วง ซบเซาหงอยเหงาสำหรับคอหนัง เพราะหาหนังที่อยากดูจริงๆยากเหลือเกิน แต่ก็เป็นโชคดี ที่ช่วงนี้ ลิโด้-สกาล่า ช่างสรรหาหนังดีๆมาให้ดู เช่น

ถ้าใครชื่นชอบหนังตลกร้ายในบรรยากาศยุโรปสวยๆ เชียร์ให้ไปดู In Bruges

หรือ ถ้าใครอยากดูหนังติสต์แตก งานอาร์ตตัวแม่ อย่าพลาด The Fall หนังของผู้กำกับ The Cell

แต่ ถ้าใครพิสมัยหนังบ้านๆดูง่ายๆสบายใจ ผมขอเชียร์ เทคเคน

ได้ยินชื่อ เทคเคน ครั้งแรกเราอาจนึกว่าเป็นหนังที่สร้างจากเกมส์บ้าพลังอย่าง Tekken แต่ความจริง ชื่อหนัง คือ Taken หนังของผู้กำกับชาวฝรั่งเศสศิษย์ลุก แบซง ที่งวดนี้ อาจารย์ลุกมีเครดิตเป็นคนเขียนบท พร้อมๆกับทีมนักแสดงมากฝีมือจากฮอลลีวู้ด

อย่าง เลียม นีสัน (ทำให้ผมนึกถึง Schindler's List เพราะอาทิตย์ก่อน ก็เพิ่งเจอ ราฟ ไฟนส์ ใน In Bruges ) , แฟมเก้ แจนเซ่น ในบทคุณแม่ และ แฟนๆซีรี่ส์ LOSt จะได้ต้อนรับการกลับมาของ แมกกี้ เกรซ เจ้าของบท แชนนอน สาวหน้าหวานนิสัยคุณหนูที่ไปติดเกาะแล้วก่อเรื่องจนได้เรื่อง


... เหตุที่ผมตัดสินใจดูหนังเรื่องนี้ เพราะตัวอย่างหนังดึงดูดมาก นั่นคือ ตัวอย่างตัดให้เราได้เห็น



เลียม นีสัน ในบทคุณพ่อ รับโทรศัพท์จากลูกสาววัยรุ่นที่ไปเที่ยวยุโรป ลูกกำลังรายงานว่าถึงที่แล้ว ทันใดนั้น น้ำเสียงเปลี่ยนไปเต็มไปด้วยความตกใจ เมื่อเธอมองผ่านหน้าต่างเห็นคนลึกลับสามสี่คนบุกเข้ามาในห้องพักกำลังจับเพื่อนของเธอ และ กำลังจะตามมาหาเธอ

พ่อบอกให้ออกจากห้องน้ำ ไปซ่อนใต้เตียง แล้ว ให้เตรียมพร้อมในสิ่งสำคัญที่สุดนั่นคือ

พวกมันกำลังจะจับตัวลูกไป

ลูกร้อง กรี๊ดดดดดดดดดดด ทิ้งโทรศัพท์ไว้

พ่อพูดโทรศัทพ์ให้อีกฝั่งฟังว่า เขามีความถนัดในงานที่ทำมานาน ไม่ว่าจะอีกฝ่ายจะเป็นใคร ถ้าไม่ปล่อยลูกสาว เขาจะตามหาจนเจอ จะทำให้เป็นฝันร้าย และ จะฆ่าให้ตาย

อีกฝ่ายตอบผ่านเสียงโทรศัพท์ข้ามทวีป มาเป็นคำสั้นๆว่า good luck


... ตัวอย่างที่มีประสิทธิภาพ ย่อมเรียกคนดูได้ แต่ โชคร้ายที่หนังไม่ใช่ฟอร์มยักษ์ จึงทำให้ถูกจำกัดฉายอยู่แค่สกล่า และเซ็นจูรี่ จนบางคนอาจงงๆประมาณว่า มีหนังเรื่องนี้ในสยามประเทศด้วยหรือ

ถ้าเทียบกับในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา หรือจะในรอบปีนี้ก็ได้ Taken เป็นหนังสำหรับคอแอคชั่นที่ไม่ควรพลาด เพราะ หนังเก็บรายละเอียดของความเป็นหนังแอคชั่นชั้นดี ได้ครบครัน คือ มีทั้งบทที่ดี การแสดงที่ดี คิวบู๊ที่ดี และ สามารถรวมกันแล้วได้ ความสนุกมากพอที่จะมองข้ามจุดอ่อนของหนังได้




.... สัดส่วนดราม่าที่หนังใส่ในช่วงต้น เพื่อให้คนดูเห็น ภาพความสัมพันธ์ของพ่อ-ลูก ไม่ได้ใส่เข้ามาพอเป็นพิธีแบบลวกๆ เพราะผลลัพธ์ที่ตามมาคือ เราจะสัมผัสได้ถึง อารมณ์ดราม่าที่กระจายอยู่ทั้งเรื่องทำให้คนดูมีความรู้สึกลุ้นร่วมไปกับคุณพ่อ และ ทำให้ฉากสุดท้ายหลายๆคนอาจมีน้ำตาซึมในความรักที่พ่อทุ่มเพื่อลูก

ซึ่ง การใส่ ความเป็นดราม่าในหนังแอคชั่น นี้เอง ที่หนังไทยหลายเรื่องก็พยายามทำ แต่ทำออกมาแล้วเหมือนพยายามยัดให้มีๆไปซะ และ คนดูก็ไม่รู้สึกอินตาม


บุคลิกวิตกจริต รอบคอบ ย้ำคิด ขี้ระแวดระวัง ของ คุณพ่อในหนัง เช่นให้ลูกต้องโทรทุกครั้งเวลาถึงบ้าน หรือ ก่อนนอน การตรวจเช็คซ้ำๆ ฯลฯ อาจดูน่ารำคาญ แต่เมื่อ พฤติกรรมเหล่านั้น อยู่ในความเป็นพ่อ เราก็จะเห็นประโยชน์ของความระแวดระวังเกินเหตุ และ เข้าใจว่าทั้งหลายทั้งปวงล้วนมีที่มาจาก ความรัก และ ความต้องการไถ่โทษของคนเป็นพ่อที่เคยละเลยครอบครัว

หลายๆรายละเอียดในหนัง เป็นตัวอย่างของการเขียนบทที่คนทำหนังไทยน่าศึกษา คือ ไม่ได้ดีเลิศ แต่ทำออกมาง่ายๆ เนียนๆ และ เห็นภาพชัด เวลาที่จะอธิบาย บุคลิก,อาชีพ,แนวความคิดของตัวละคร ไม่จำเป็นต้องให้ ตัวละครโผล่มาบอกว่า “ผมชื่อสมชาย เป็นพระเอกนะจ๊ะ เป็นตำรวจในท้องถิ่น ผมเกลียดคนโกง”

แต่หนังใช้ บทสนทนาระหว่างเพื่อนฝูง ใช้งานวันเกิดของลูกสาว ทำให้เราเห็นภาพคร่าวๆของ ชายคนหนึ่งที่เคยทำงานหน่วยราชการลับ บ้างานจนทิ้งครอบครัว แล้ว ภรรยาไปแต่งงานใหม่ ส่วนตัวเองสำนึกผิดจึงทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่ใกล้ๆลูก แต่ก็ยังติดนิสัยที่ทำอะไรไม่สนกฎของคนอื่นและขี้ระแวดระวังมากกว่าปกติ


... ข้อเสียของบทหนังจะมีอยู่บ้างก็ตรงที่กำหนดการคลี่คลายสถานการณ์ให้ง่ายเกินไปหน่อย โดยเฉพาะการเดินทางกลับตอนท้าย ที่รวบรัดเหมือนขี้เกียจให้รายละเอียดเพิ่มเติม กับ การที่หนังทำให้ตำรวจฝรั่งเศสดูป้อแป้เกินจริง ตำรวจที่มีก็ มีแต่คนโกงและอ่อนแอไร้ประสิทธิภาพ เกิดเหตุตูมตามกว่าจะมา ก็พาลงหลุมเรียบร้อยแล้ว

แต่อย่างที่บอกตอนต้น หนังเรื่องนี้อยู่ในกลุ่ม ความสนุกที่มีมากเพียงพอต่อการลบภาพจุดอ่อนขณะดู เรียกได้ว่า กว่าจะคิดได้ ก็ต่อเมื่อออกมาจากโรงพักใหญ่ๆแล้ว



....เลียม นีสัน ในวัยเฉียดใกล้หกสิบ ระห่ำได้ใจคนดู อารมณ์ประมาณ ข้ามาคนเดียว แบบ เจสัน บอร์น แต่ยังไม่ได้เก่งกาจระดับเมพขนาดนั้น ลุงเลียม ให้ความเว่อร์ความมันส์เหมือน Die-hard ที่ตายยากตายเย็นแถมก่อนเชือดตัวละครแต่ละตัวก็ทิ้งคำพูดสะใจคนดู เป็น Die hard เวอร์ชั่น สู้เพื่อลูกโดยแท้

ฝีมือแอคติ้งของลุงเลียมทำให้ บทคุณพ่ออดีตหน่วยราชการลับ มีความน่าเชื่อถือมาก ปกติคุณพี่จะมาในบทดราม่าแต่พอต้องจับอาวุธ วิ่งไล่ ก็ดูทะมัดทแมงคล่องแคล่ว และ หนังก็ละเอียดดีในส่วนที่แสดงนิสัยใจคอของตัวละคร สมกับคนทำอาชีพนี้ หรือ การเปิดเรื่องด้วยหน้าที่บอดี้การ์ด ก็ช่วยสร้างความมั่นใจในฝีมือให้กับคนดูได้

ส่วนคุณลูก แมกกี้ เกรซ ตัวจริงอายุ 25 พอมาแอ๊บแบ๊ว 17 ก็เนียนได้ใจ เธอเล่นได้น่ารักน่าชัง ชวนให้คนดูอยากลงไปลุยกับคุณพ่อเพื่อพาเธอกลับมาสู่ขออย่างที่สุด เสียดายที่ไม่ค่อยเห็นผลงานจอใหญ่ของเธอเท่าไรนัก


... พล็อตล่อลวงนักท่องเที่ยวในเรื่องนี้ ทำให้ผมคิดถึง Hostel เล็กน้อย ตรงที่ วาดภาพ ยุโรป ให้ห่างไกลจากความเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยว และ เป็นเขตแดนอันตรายมิใช่น้อยๆสำหรับสาวๆที่ไปเที่ยวตามลำพัง อันเนื่องมาจากกลุ่มแก๊งค์ค้าเนื้อสด

แต่เรื่องนี้ มีข้อคิดสอนใจเพิ่มเติมคือ ถ้าจำเป็นต้องไปกันแค่ก๊วนของตัวเอง ปัจจัยเสี่ยงภัยในตัวสาวๆคือ สภาวะแด๊ะแด๋เกินเหตุเหมือนเพื่อนนางเอกในเรื่อง หากไม่ระมัดระวัง อาจตื่นมาอีกที ถ้าไม่เปลือยกายถูกแขวนด้วยตะขอเช่นใน Hostel ก็อาจนอนจมเข็มฉีดยาแบบในเรื่องนี้ ก็เป็นได้

ผลลัพธ์โดยรวมที่ออกมา จัดได้ว่าเป็นงานแจ้งเกิดที่น่าจับตาจริงๆสำหรับผู้กำกับชื่อนี้ Pierre Morel หลังจากที่เคยกำกับ District 13 มาก่อนแต่ยังไม่เปรี้ยงปร้างเท่าไหร่ และ ทำให้ Taken เป็นหนังตลาดๆดูง่ายที่น่าดูที่สุดในช่วงนี้

สามารถติดตามบทสรุป การให้คะแนน และบทวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มเติม หรือบทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ พร้อมความเห็นของเพื่อนร่วมบล็อคที่รักการดูหนัง ได้ที่ //vreview.yarisme.com พร้อมลุ้นรับบัตร Major M Cash มูลค่า 500 บาท จำนวน 8 ใบ ทุกเดือน

ขอฝาก พ็อกเก็ตบุ้คสองเล่มที่ไม่ใช่ หนังสือวิจารณ์หนังเพราะ "หนังสือรัก" เป็นการหยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม ส่วน องศาที่ 361 หนังสือเล่มล่าสุดที่จะช่วยให้คุณค้นหามุมเล็กๆในตัวเองที่จะมีความสุขในชีวิตได้มากขึ้น โดยไม่ต้องมองหาจากผู้อื่น


เพื่อนๆที่หาซื้อตามร้านไม่ได้ "หนังสือรัก"เข้าไปสั่งได้จากเว็บของสนพ.เลยจ้าที่ //www.bynatureonline.com/store/bookstore.php ส่วน องศาที่ 361 สั่งได้จากเว็บของซีเอ็ดครับผม

ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ

ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง