Knight & Day - อีธาน ฮันต์ เวอร์ชั่น กระโดดบนโซฟาโอปร่าห์ & นางฟ้าชาร์ลี เวอร์ชั่น รั่ว


... จากหนังตัวอย่าง สายลับเพี้ยนๆจับพลัดจับพลูคู่กับสาวเปิ่นออกสู้กับเหล่าร้าย ทำให้ผมนึกถึง หนังสายลับอารมณ์ ตลก มันส์ ฮา ประมาณ True Lies โดยเน้นขายดาราฟอร์มยักษ์รุ่นพี่ที่ใกล้จะตกรุ่นอย่าง พี่ครู๊ซ และ น้องดิอาซ

หน้าหนังเรื่องนี้ ดูออกจะเฮฮาปาจิงโกะ ขัดกับสไตล์ของผู้กำกับ James Mangold ที่เคยสร้างผลงาน ซีเรียสจริงจังค่อนไปทางหนักและเปี่ยมสาระอย่าง 3:10 to Yuma , Walk the Line , Identity , Girl , Interrupted จึงทำให้อดคิดไม่ได้ว่า การเปลี่ยนแนวมาทำ แอคชั่นตามสูตรเอามันส์เช่นนี้ น่าจะมี อะไรดีๆ ซุกซ่อนอยู่

และผลลัพธ์ที่ออกมาก็คือ หนังสูตรสำเร็จที่แม้’ไม่มีอะไรใหม่’ แต่ก็เป็นตัวอย่างที่ดีเหลือเกินว่า ถ้าได้ทีมงาน หรือ ผู้กำกับมีฝีมือ หนังสูตรเก่าๆก็สามารถเขย่าออกมาได้’น่าสนใจ’ แถม แทบทุกองค์ประกอบในหนังเรื่องนี้ เช่น ฉากแอคชั่น , ฉากขับรถไล่ล่า , งานสตั๊นท์ , การถ่ายภาพ ฯลฯ ล้วนแล้วแต่เกรดเอทั้งสิ้นชนิดที่ดูแล้วแทบจะไม่มีอะไรให้ต้องตำหนิ

( เทียบกับ หนังซัมเมอร์ฟอร์มยักษ์ ปีเดียวกันอย่าง ทีม A หรือ เจ้าชายเปอร์เซียหน้าหล่อ ผมชื่นชอบ งานด้านเทคนิก ในหนังเรื่องนี้มากที่สุด)



การฉีกแนวของ James Mangold ครั้งนี้ พิสูจน์ฝีมือของเขาให้เห็นว่า นอกจาก หนังหนักๆ ถ้าต้องมาจับ หนังแอคชั่นคอมิดี้เบาๆ เขาก็ทำได้ แถมยังทำได้ดีเสียด้วย ตัวหนังมีกลิ่นอายของหนังสายลับแนว mission impossible ที่มีการแย่งชิงของสำคัญบางอย่าง , มีนักวิทยาศาสตร์ที่หลายคนต้องการตัว และ มีการหักหลังในองค์กร ฯลฯ รวมถึงชวนให้นึกถึง เจมส์ บอนด์ ในฉากที่ เฮียทอม ขึ้นจากทะเล เพียงแค่ว่า ตัดความซีเรียสของหนังกลุ่มนั้นทิ้งแล้วใส่อารมณ์เบาๆสบายๆรั่วๆเปิ่นๆของทั้งตัวเอกคู่พระ-นาง

จุดเด่นใน Knight & Day ที่ต้องยกนิ้วให้ James Mangold คือ การที่เขาสามารถรีดเสน่ห์ของสองดาวดังที่ใกล้ถึงช่วงหมดยุค ให้คนรุ่นใหม่เห็นพลังดาราของทั้งคู่เหมือนยุครุ่งโรจน์ หลังจากออร่าจางหายไปกับหนังระยะหลังๆ



จากบทบาทโปรดิวเซอร์พุงพลุ้ยหัวล้านถ่อยๆฮาๆ จาก Tropic thunder ที่กำลังจะมีหนังใหญ่ของตัวเอง มาสู่บทสายลับเพี้ยนๆ ผมคิดว่า เฮียทอม คงต้องมาทางนี้แหละ เพราะถึงใน Mission impossible เขาจะดูเท่ แต่เมื่อเทียบกับ บท อีธาน ฮันต์ เวอร์ชั่นกระโดดบนโซฟาโอปร่า อย่างที่เห็นในเรื่องนี้ ดูแล้วมีเสน่ห์น่าสนใจกว่าเยอะ (และมันยังทำให้เขาดูมีความขี้เล่น ดูมีมิติน่าสนใจมากกว่า ทำตัวเท่ เหมือนเรื่องอื่นๆ)

ส่วน คาเมร่อน ดิอาซ ที่เครียดๆไปกับ The Box และ My sister’s keeper ได้กลับมารับบทถนัดนั่นคือ วีดว้ายกระตู้วู้ ไม่มีอะไรให้พูดถึงมากเพราะบทบาทของเธอในเรื่องก็ไม่ได้ต้องการขายแอคติ้งลึกซึ้งอะไร นอกจาก พลังของดาราที่สามารถมาประกบคู่กับเฮียทอม โดยไม่ถูกข่ม แล้วยังมีเสน่ห์กับพลังดารามากพอที่จะสามารถดันหนังไปข้างหน้าด้วย (ซึ่งในหนังถือว่า น่าแปลกใจ สำหรับหนังที่เฮียทอมเป็นตัวนำ แต่มีช่วงเวลาที่ปราศจาก ทอม ครูซ ไปเกือบสิบนาทีช่วงท้าย) และ คาเมร่อน ดิอาซ ก็ รั่ว ได้อย่างสมบูรณ์แบบจริงๆ



ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองหรือเปล่า คือ แม้จะอุดมไปด้วยความอึกทึกคึกโครม แต่ จังหวะการเล่าเรื่องของเรื่องนี้ก็น่าสนใจ คือ ไม่ได้เร่งจังหวะหรือตัดต่อเร็วๆเหมือนหนังแอคชั่นยุคใหม่ แต่กลับมีผ่อนเป็นพักๆ จุดที่นึกว่าจะหนักก็ตัดไปเบา หรือ คั่นจังหวะด้วยฉากที่ชวนให้ยิ้มเช่น ภาพเบลอๆตอนสะลึมสะลือของนางเอก (ซึ่ง จังหวะ คอมิดี้เบาๆที่ตัดสลับแบบนี้ ชวนให้คิดถึง Killer ที่เพิ่งเข้าโรงไป ต่างกันก็ตรง Killer ทำได้ไม่ถึง ออกจะยึกยักๆดูตุปัดตุเป๋ แต่เรื่องนี้ทำออกมา ดูสนุก ดูเพลิน)

และจะว่าไปแล้ว ถึงตัวหนังจะออกแนวหนังสูตรอารมณ์รั่วๆฮาๆ ก็ใช่ว่า จะขาดสาระหรือเอกลักษณ์ที่น่าสนใจ เพราะ ตัวละคร รอย มิลเลอร์ นอกจากจะมีความรั่วเฉพาะตัวที่ชวนหัวเราะหึๆได้ตลอด เขายังมีจุดเด่นที่ชนะใจสาวๆ ต่างจาก สายลับประเภทโชว์เก๋าคนอื่นๆ และ ทำให้ หนังเรื่องนี้นอกจาก ส่วนของแอคชั่นคอมิดี้ ยังมี ส่วนโรแมนติกและอ่อนโยน ที่ช่วยทำให้หนังดูนุ่มนวลกลมกล่อมขึ้น จาก การกระทำของรอย



ภารกิจตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง เราเห็นว่า ในเวลาเดียวกับที่ หน้าฉากของเขามีภารกิจสำคัญ หลังฉากเขายังคอยแอบปกป้องดูแลคนที่ตัวเองรัก โดยไม่บอกให้อีกฝ่ายรับรู้ไปพร้อมๆกัน

เขาให้ความสำคัญในการดูแล คนที่รัก ไม่แพ้ งานที่ต้องปกป้อง
(ติดตามความเคลื่อนไหวของพ่อแม่ , ยอมหายสาบสูญเพื่อคนใกล้ชิดไม่เดือดร้อน , คอยช่วยเหลือนางเอกให้ปลอดภัยตั้งแต่ เตือนไม่ให้ขึ้นเครื่อง , แกล้งจี้เป็นตัวประกัน ฝั่งตรงข้ามจะได้ไม่รู้ว่าเป็นพวกเดียวกัน ฯลฯ)

รอย จัดเป็นผู้ชาย สไตล์ ปากไม่บอกรักบอกห่วง แต่ การกระทำเป็นตัวบอกทุกอย่าง (ขนาดด้านการงาน ก็มีลักษณะเหมือนๆกัน คือ ยอมเป็นคนผิดไม่พูดออกมาให้ชัดเจน )

ที่โชคดีจึงไม่ใช่ นางเอกที่มาเจอพระเอกที่นอกจากจะเร้าใจ กับ คอยปกป้องให้ความปลอดภัยตลอดเวลา แต่ ตัวพระเอก ก็โชคดีไม่แพ้กัน ที่เขาได้เจอใครซักคน เช่น นางเอก ผู้สามารถ มองทะลุพฤติกรรมเปลือกนอก จนมองเห็น ความรัก ที่แสดงออกผ่านการกระทำที่มีต่อคนที่เขารักและห่วงใย

ทำให้ รอย สามารถเดินตามความฝันโดยมีคนรักอยู่เคียงข้างในท้ายที่สุดที่ someday กลายมาเป็น today


สรุป ... ไม่ได้ หัวเราะขนาดขำก๊าก แต่ ออกแนวหนังอารมณ์ดี ดูไปยิ้มไปมีมุกให้ขำนิดขำหน่อยเป็นพักๆ ซึ่ง ถ้ามองในทางที่หนังเลือกมา (แอคชั่น , สายลับ , โครมคราม , คอมิดี้) ได้เท่านี้ ถือว่าน่าพึงพอใจ

ส่วนตัวแล้วยังไม่สนุกแบบสุดๆเหมือน The A-team ที่ขอยกถ้วยหนังสนุกสุดประจำซัมเมอร์ แต่ก็นับได้ว่า เป็น หนังฟอร์มยักษ์ / หนังป๊อบคอร์น /หนังสูตรสำเร็จ ที่ทำออกมาดูสนุกคุ้มค่าตั๋ว เหมาะสำหรับการคลายเครียดหรือเสพความบันเทิงเบาๆที่มีคุณภาพ


ป.ล. หากจะมีอะไรให้ผิดหวัง คงเป็นในส่วน พอล ดาโน่ ที่อุตส่าห์ได้เขามาเล่นในบทบ้าๆ ก็น่าจะให้ปล่อยความบ้าบอได้เต็มที่กว่าที่เป็นอยู่ เมื่อเทียบกับศักยภาพที่เขามี เหมือนกับที่เคย บ้าแบบซีเรียสทรงพลังไปใน There will be blood



บทความใน blog ที่อ้างอิงถึง

3:10 to Yuma + Before the Devil Knows You're Dead , ทำดีไม่ง่าย / ทำได้ไม่ทำ
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=25-03-2009&group=14&gblog=146

Walk the line , มิตรภาพในความรัก
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=02-03-2006&group=1&gblog=209


ชำแหละ Identity :เจาะลึกตอนจบ ผู้ร้ายคือใครและเป็นอ ะไร?
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=10-03-2005&group=4&gblog=7

ออสการ์ กับ หนังที่ 'หนัก แมน แรง ชั่ว' (2) , There will be blood
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=02-2008&date=26&group=14&gblog=74

The A-team - มันโคตรจะเว่อร์ เว่อร์โคตรจะมันส์
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=21-06-2010&group=14&gblog=218

Prince of Persia – ความสนุกพอไปได้สไตล์ดีสนีย์ ของ เจ้าหญิงวุ่นวายและเจ้าชายชอบกระโดด
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=15-06-2010&group=14&gblog=217

Killers - กึ๊กๆกั๊กๆยึกๆยักๆ กับ เรื่องรักของนักฆ่า
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=07-06-2010&group=14&gblog=214




ขอฝาก หนังสือเล่ม 5 ของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" จ้า
(วางอยู่ตามร้านหนังสือทั่วไทยแล้ว)










อ่านจบแล้ว ชวนมาคุยกันที่นี่ครับ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=18

และ

ความเห็นของ เพื่อนผู้อ่านที่อ่านจบแล้ว และสละเวลาเขียนถึง

//blogs.lumamagic.com/?p=1957



หนังสือ 4 เล่มก่อนหน้าที่ว่าด้วย 'ภาพยนตร์ - จิตวิทยา - พัฒนาตัวเอง(self - development)' ของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"








สำหรับเพื่อนๆที่เล่น FaceBook หรือ Twitter ณ.บัดนาว "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ขยายสาขาเรียบร้อยแล้วจ้า






Create Date : 26 มิถุนายน 2553
Last Update : 26 มิถุนายน 2553 3:16:33 น.
Counter : 6846 Pageviews.

3 comments
  
,center>
เจิมๆๆๆเจิมๆๆๆ
อ้าว!!!เป็นนักเขียนเหรอคะเนี่ยะ!!!
เชยจัง
เข้ามาเม้นท์นานๆที
ถึงว่าชื่อที่ log in คุ้นมากๆ
ขอให้งานเขียนขายดีมีชื่อเสียงด้วยค่ะ


วันที่ Knight and Day แรกเข้าเป็นวันเกิดแฟนพอดี
เธอเกริ่นว่าเรื่องนี้น่าดูจัง
(ทั้งๆที่เธอไม่ชอบดูหนังโรง)
เธอบอกเห็น ตย.แล้วชอบ
ทั้ง Tom และนางเอกจากหนัง Charlie 's Angle เก่าปานนั้น
ก็เลือกดูคู่กับ A-Team เลือกเพียง 1 เรื่อง

สนุกดี เริ่มมาก็ยิงกันหูดับกับพระเอกโค ตะ ระ เก่ง
เหมือนหนังจีนเฉินหลง..บวกหนังรักเล็กๆ
ไปดูกันนะ..แล้วอุดหนุนหนังสือของ จขบ.ด้วย
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 26 มิถุนายน 2553 เวลา:6:25:28 น.
  
ชวนไปบ้านพี่มีเลขเด็ด
โดย: nuyect วันที่: 26 มิถุนายน 2553 เวลา:8:57:30 น.
  
เราเพิ่งมีเวลาไปดู..ชอบมากในระดับหนึ่ง ส่วนตัวชอบพระเอก-นางเอกอยู่แล้ว เรื่องนี้ทำให้ได้เห็นมุมมองความรักของหญิงและชาย ผู้ชายหลายคนก็ไม่เคยบอกรักแต่ใช้การกระทำให้เห็นถึงความห่วงใยและใส่ใจ(แต่กว่าผู้หญิงเราจะเข้าใจบางครั้งอาจสายเกินไปนะ) ทางด้านนางเอกก็ทำให้เห็นว่าอานุภาพแห่งความรักก็ทำให้เราทำอะไรที่บ้าระห่ำได้เหมือนกันนะ...
คำเตือน..ฉะนั้นโปรดอย่าทำให้เราตกหลุมรักนะ
โดย: หยุนหยิน IP: 115.67.108.212 วันที่: 13 กรกฎาคม 2553 เวลา:23:01:17 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Aorta.BlogGang.com

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]

บทความทั้งหมด