Michael Clayton , ชีวิตของทนายภารโรง


...อาชีพ ทนาย เป็น อาชีพหนึ่งที่ผมเคยคิดว่าตัวเองน่าจะเอาดีทางนี้ได้ เพราะอาศัยทางถนัดสมัยเรียนคือพึ่งพาความจำ กับ ทักษะการพูดที่นำหลักฐานของตัวเองที่มีโน้มน้าวอีกฝ่ายให้คล้อยตาม ซึ่งความเชื่อแบบนี้อาจเป็นความเชื่อผิดๆก็ได้ เพราะ การเป็นทนาย ยังจำเป็นต้องอาศัยอะไรที่มากกว่านั้น

หนึ่งในนั้นคือการมี จุดยืน

เพราะหากไร้จุดยืน เมื่อต้องอยู่บนเส้นสีเทาๆก็มีแนวโน้มที่เราจะโอนอ่อนไปสู่ฝั่งสีดำ เมื่อต้องตัดสินใจว่าจะต่อสู้เพื่อความถูกต้องหรือเงินทองก้อนโต เราก็มีแนวโน้มจะเลือกฝั่งเงินทองแล้วอ้างเหตุผลความชอบธรรมหรือความจำเป็น

มิเช่นนั้น เราก็อาจจะต้องเป็นเหมือนกับ ไมเคิล เคลย์ตั้น ในฉากที่พี่ชายทักเขาว่า ฝั่งตำรวจนึกว่าไมเคิลเป็นทนาย ฝั่งทนายก็นึกว่าไมเคิลเป็นตำรวจ เขาเองก็อาจจะแยกไม่ออกด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังทำหน้าที่อะไร



...ไมเคิล เคลย์ตั้น แนะนำตัวเองให้คนดูรู้จักผ่านงานที่ต้องไปเคลียร์ว่า เขาเป็นทนายที่มีบทบาทเป็นแค่ ภารโรง ที่ทำหน้าที่เก็บกวาด ไม่ใช่ทนายที่ขึ้นโรงขึ้นศาลว่าความ เขาคอยตามล้างตามเก็บปัญหาตกค้างของแต่ละคดี ด้วยความเป็นคนที่รู้จังหวะ รู้ช่องทาง หน้าที่ ภารโรง ของเขาจึงทำได้ดี

อาร์เธอร์ ทนายความที่เกิดออกอาการจิตแตก เกิดอาการ manic episode เพราะขาดยาแล้วแก้ผ้ากลางที่ประชุมวิ่งออกไปลานจอดรถ ขณะตกลงกันในคดี ยูนอร์ธ

ยูนอร์ธ บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผลิตเกษตร ถูกพบว่า มีผลอันตรายต่อผู้ใช้แต่บริษัทก็พยายามปกปิดไว้



เมื่อ อาร์เธอร์ คิดจะเปิดโปงความจริงก็เท่ากับพาตัวเองเข้าสู่ความเสี่ยง ยูนอร์ธ จึงพยายามทำทุกทางเพื่อยับยั้งเขาไว้

ไมเคิลได้รับมอบหมายให้มาจัดการคดีอาร์เธอร์ แต่เมื่อเขาเจอข้อเท็จจริงนี้ ก็ทำให้เขาต้องอึ้งและต้องคิดว่าจะจัดการอย่างไร หากเลือกความถูกต้องก็เท่ากับต้องทรยศต่อบริษัทของตัวเอง



...จะว่าไป เนื้อหาของ Michael Clayton ก็ไม่มีอะไรต่างจากหนังทนายยุคจอห์น กริแชม เฟื่องฟู ที่นิยมเล่นประเด็นสำนึกผิดชอบชั่วดี แถมตัวบทหนังก็ไม่ได้โชว์ความเก่งกาจหรือฉากเฉือนคมของตัวละครเท่าไหร่นัก พระเอกของเรื่องเหมือนถูกนำไปตามจังหวะ เอาตัวรอดเป็นครั้งๆตามสถานการณ์ที่บีบเข้ามา แถมยังนับว่าเป็นพระเอกเป็นหนึ่งในตัวละครที่อาศัยโชคหลายด้าน เช่น ออกจากรถถูกจังหวะ หรือ มีพี่ชายเป็นตำรวจ ฯลฯ

สิ่งที่ต่างไปคือ ตัวละครไมเคิล ไม่ใช่ประเภทพระเอกฉลาดล้ำเซียนเหยียบเมฆ แต่เขาก็แสดงให้เห็นถึงความเก่งในการเก็บกวาดของเขาเป็นอย่างดี และ เขาก็เป็นตัวละครที่มีปัญหาส่วนตัวให้ต้องสะสาง ซึ่งเขาไม่สามารถจัดการได้ง่ายเหมือนกับ ตอนเป็นภารโรงจัดการปัญหาของบริษัทตัวเอง

... ด้วยพล็อตเก่าๆดูไม่น่ามีอะไรแปลกใหม่ ความโดดเด่นของหนังจึงเป็นเหมือนการโซโล่โชว์เก๋าของ Tony Gilroy อดีตมือเขียนบทจาก บอร์นทั้งสามภาค ที่มากำกับหนังเป็นครั้งแรก เขายังคงเล่าเรื่องได้อย่างชาญฉลาดเปี่ยมพลังงาน และ ดูเหมือนแกจะติดใจสไตล์การเล่าเรื่องเรียงลำดับย้อนหลังแบบ 3 --> 1 --> 2 --> 4 เหลือเกิน

นั่นจึงทำให้ ครึ่งชั่วโมงแรกของหนังคือความงุนงง ที่คนดูยังจับต้นชนปลายไม่ถูก จาก บทสนทนามากมายที่ผ่านเข้ามาอย่างรวดเร็ว กับ เรื่องราวของตัวละครที่หนังค่อยๆบอกที่มาที่ไปด้วยการเล่าย้อนหลังไปทีละน้อย



ยิ่งผนึกกับการแสดงที่ปึ้กมากของจอร์จ คลูนี่ย์ , ทิลดา สวินตั้น และ ทอม วิลกินสัน โดยเฉพาะหนุ่มจอร์จที่หลังๆเราเคยชินกับภาพเท่ๆแบบในตระกูล Ocean มาพลิกบทบาทในเรื่องนี้แบบไม่คิดค่าตัว(แต่ขอหักเปอร์เซ็นต์รายรับของหนังแทน) กับ ลุงทอมที่โชว์ฝีมือชั้นเลิศชนิดเทศกาลล่ารางวัลไม่ควรมองข้าม



ส่วนผสมทั้งหมดคือองค์ประกอบชั้นดีที่ทำให้ Michael Clayton แม้จะไม่สดใหม่แต่ก็เก๋าเพียงพอที่จะอยู่แถวหน้าของรายชื่อหนังดีประจำปีนี้

สรุป .. ชอบหนังดราม่าดีๆ ชอบหนังแนวทนาย ไม่ควรพลาด แต่อย่าไปดูตอนง่วงๆมิเช่นนั้นอาจท้อใจเนื่องจากตามเรื่องราวไม่ทัน ส่วนตัวแล้วเห็นด้วยว่าหนังดีตามคำวิจารณ์เลิศหรูที่หนังได้รับมา แต่ ส่วนตัวแล้วก็ผิดหวังอยู่นิดๆเพราะหวังไว้สูงไปหน่อยและคาดหวังกับเนื้อหาที่มีอะไรเด็ดๆมากไปกว่านี้ แถมการคลี่คลายของหนังยังมีหลายอย่างที่ดูง่ายไปหน่อย( เช่น โยนนาฬิกาง่ายๆอีกฝ่ายก็เชื่อว่าตายแน่ๆ หรือ รอดตายเพราะโชคช่วย ฯลฯ)

เมื่อเทียบกับ หนัง 'พูดมาก' ที่เข้าใกล้เคียงกัน และ พุ่งเข้ากระแทกสมองคนดูเหมือนๆกัน ในแง่คุณภาพ Michael Clayton มีความสมบูรณ์พร้อมมากกว่า แต่ ความชอบของผมมีให้ Lions for Lambs มากกว่า เพราะ หนังมีประเด็นที่ดูจบแล้วให้ต่อยอดความคิดมากกว่ากับมีฉากให้ซึ้งมากกว่า


ป.ล. ส่วน ม้าสามตัว มีความหมายอย่างไร ผู้กำกับเฉลยไว้แล้วที่นี่ครับ --> //www.aintitcool.com/node/34448




แจ้งข่าวจาก จขบ. : องศาที่ 361 สิ้นเดือนพฤศจิกาฯ รอเจอ องศาที่ 361 พ็อกเก็ตบุ้คเล่มที่ 2 ของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ที่จะนำ หนัง มาเป็น สะพาน ให้ผู้อ่านเข้าใจตัวเองและพบมุมเล็กๆที่จะทำให้มีความสุขในชีวิตมากขึ้นกว่าเดิม ที่ร้านหนังสือใกล้บ้านท่านนะค้าบ






ขอฝาก"หนังสือรัก" พ็อกเก็ตบุ้คที่ไม่ใช่ หนังสือวิจารณ์หนัง แต่เป็นการหยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม



เพื่อนๆที่หาซื้อตามร้านไม่ได้ เข้าไปสั่งได้จากเว็บของสนพ.เลยจ้าที่ //www.bynatureonline.com/store/bookstore.php






ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ

ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง





ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป


Create Date : 21 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2550 1:30:01 น.
Counter : 4190 Pageviews.

7 comments
  
อ่านรีวิวเรื่องนี้จากหลายๆบลอก ก็น่าดูนะคะ ......ขอบคุณค่ะสำหรับรีวิวดีๆ
โดย: Michiru วันที่: 21 พฤศจิกายน 2550 เวลา:9:34:19 น.
  
ผู้กำกับเขียนบทเรื่อง The Bourne เชียวนา แต่กลัวอย่างเดียวว่าหนังมันจะดูยากน่ะสิ
โดย: นักวิจารณ์สมัครเล่น IP: 125.25.54.11 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:01:29 น.
  
ทำไมอาทิตยนี้คุณได้ดูหลายเรื่องจังครับ
โดย: mayhem IP: 58.8.192.216 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2550 เวลา:16:50:21 น.
  
อ่านบทสัมภาษณ์แล้ว รู้สึกว่าโทนี่ กิลรอยเป็นคนมีความตั้งใจ และฉลาดดีใช้ได้แฮะ อ่านไปยิ้มไปตอนที่แกนั่งชมทิลด้า สวินตันแบบเป็นคุ้งเป็นแคว

ส่วนตัวชอบการแสดงของทอม วิลกินสัน มากที่สุด และไม่คิดว่าทิลด้าเล่นดีเท่าไหร่ แต่เมื่อมานั่งนึกภาพเธอในหนังขึ้นมาเรื่อยๆ เธอก็มีดีระดับพอเข้าชิงได้เหมือนกันนะ...

ตอนนี้ใน imdb กำลังตั้งป้อมเชียร์ ทอม วิลกินสัน กันยกใหญ่ทีเดียว
โดย: nanoguy วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:1:12:29 น.
  
+ หุๆ ชอบทีเดียว ... และผมได้เขียนไว้ที่ 'หน้าแรก' ซะเกือบหมดแว้วอ่ะคับ
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:17:32:25 น.
  
หนังดีที่ควรดูอีกเรื่องครับ ทำให้เราได้ใช้สมองควบคู่ไปกับสายตา เพราะหนังดำเนินเรื่องเร็วตัดกับบรรยากาศเรื่อยๆเนือยๆ เหมือนอยากให้คนดูได้คิดตามไมเคิลไปด้วย แล้วบวกด้วยการแสดงดีๆของคลูนี่ย์ ลุงทอม สวินตัน และพอลแล็ค(ผมชอบการแสดงของสองคนหลังมาก) เสริมด้วยบทคมๆของโทนี่ กิลรอยเข้าไป ทำให้หนังออกมาดีทีเดียวเลยครับ
โดย: TheChamp IP: 58.8.106.56 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2550 เวลา:0:31:16 น.
  


สามารถติดตามบทสรุป การให้คะแนน และบทวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มเติม
หรือบทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ พร้อมความเห็นของเพื่อนร่วมบล็อคที่รักการดูหนัง
ได้ที่ //vreview.yarisme.com พร้อมลุ้นรับบัตร Major M Cash มูลค่า 500 บาท จำนวน 8 ใบ ทุกเดือน
โดย: ป๋องแป๋ง IP: 124.120.0.136 วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:17:10:17 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Aorta.BlogGang.com

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]

บทความทั้งหมด