Fantastic Four: Rise of The Silver Surfer + Ocean's Thirteen , หนังของพ่อครัวที่รู้ตัวว่าทำอะไรอร่อย
...ถ้ามีสายสะพายเป็นแบบนางงาม ผมคงรู้สึกผิดที่ช่วงนี้ทำหน้าที่ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย นอกจากจะไม่ค่อยได้เขียนถึงหนัง ยังไม่ค่อยได้เข้ามาทักมาตอบเพื่อนๆเท่าไหร่ ด้วยเหตุขลุกขลักเล็กๆน้อยๆ บวก งานที่รับไว้เคลียร์ไม่เสร็จ และ งานประจำซึ่งกำลังเปลี่ยนที่ทำงาน แต่รับประกันว่าผ่านช่วงนี้ไปเรียบร้อยจะกลับมาซู่ซ่าอย่างที่เคยยืนยัน


บล็อกช่วงนี้ก็เลยขอทำหน้าที่สั้นๆ มิใช่ “ดูแล้วมาคุยกัน” แบบยาวๆ


...มีน้องๆเพื่อนๆถามว่า หนังสองเรื่องนี้ (Fantastic Four: Rise of The Silver Surfer / Ocean's Thirteen ) ดีมั้ย สนุกป่าว ผมจะถามกลับไปทุกครั้งว่า แล้วได้ดู F4 ภาคแรกหรือยัง , แล้วได้ดู Ocean ทั้งสองภาคหรือยัง

เพราะ ผมรู้สึกว่า หนังสองเรื่องสองรสนี้ มีความเหมือนกันก็ตรงที่ ภาคต่อที่สร้างๆมากับภาคแรก คุณภาพและอารมณ์หนังไม่ทิ้งห่างกันมากจนเกินไป เช่น ถ้าคุณชอบ F4 ภาคแรก คุณไม่ควรพลาดภาคนี้ ถ้าคุณชอบ Ocean ทั้งสองภาคก็ไม่ควรพลาด Ocean ภาคนี้

แต่

ถ้าคุณรู้สึกว่า F4 เป็น หนังซูเปอร์ฮีโร่ที่เบเบเหลือเกิน แก่นสาระก็ไม่ค่อยมี คติสอนใจก็บางหวิวสู้พี่ๆแบบแบทแมนที่ดำมืดทะมึนหม่น หรือ สไปเด้อหล้าที่เต็มไปด้วยข้อคิดมากมาย ไม่ได้ ถ้าเช่นนั้น อย่าเสียเงินไปดูภาคสอง

ถ้าคุณรู้สึกว่าการนั่งดู Ocean ’s11,12 มันช่วงปวดสมองเหลือเกิน กับการต้องมานั่งฟังตัวละครพูดๆกับแผนอะไรก็ไม่รู้ตามไม่ทัน ถ้าเช่นนั้น อย่าไปดู Ocean’s13

สำหรับผม

...ผู้กำกับของหนังสองเรื่องนี้ เหมือน พ่อครัวที่รู้ฝีมือรู้ความสามารถตัวเองดี และ พ่อครัวแบบนี้ เรามักจะไม่ผิดหวัง เพราะ เขาจะรู้ว่าเขาทำอาหารอะไรอร่อยและทำมันออกมาสุดฝีมือ

อาหารที่เขาทำ อาจเป็นแค่ ขนมครก ที่ดูจะขาดสารอาหาร หรือ เป็นอาหารที่กินแล้วไม่อิ่มท้อง แต่ ขนมครก ที่เขาทำออกมา อย่างน้อยรับประกันได้ว่า กินแล้วก็อร่อยเหาะ และ ถ้าเราก็อยากกินอะไรที่อร่อยๆมากไปกว่าอะไรที่มีวิตามินครบครันหรือหนักท้องมากเกินไป กินกับพ่อครัวเจ้านี้ เราจะไม่เสียดายตังค์

F4



...ไม่ใช่หนังฮีโร่ที่อัดแน่นไปด้วยสาระ ข้อคิด หรือ แง่มุมทางดราม่า เหมือนกับรุ่นพี่ๆอย่าง สไปดี้ , แบทแมน

F4 ภาคแรกมีดีในตัวมันเองก็ตรงเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ ที่ขายความบันเทิงจาก พลังวิเศษ เทคนิกพิเศษ และ ขายความสนุกสนานเป็นหลัก ซึ่งผลลัพธ์ก็ตอบโจทย์ตัวเองได้ดี

ผมไม่คิดว่า หนังซูเปอร์ฮีโร่ ที่ดี หมายถึง ต้องเต็มไปด้วยปมทางจิตใจอันซับซ้อนหรือคติสาระที่มากมายเสมอไป เราสามารถสร้างหนังดีๆที่ดูสนุกโดยไม่จำเป็นต้องอัดแน่นด้วยบทที่ซับซ้อนหรือหนักสาระได้ แต่เท่าที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า หนังซูเปอร์ฮีโร่ดีๆที่จับกลุ่มคนดูอายุน้อยๆมักจะหาได้ยากยิ่ง เพราะ หนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ว่าดีมีคุณภาพ มักจะเป็น หนังที่มี ความเป็นผู้ใหญ่ ในตัวสูง

ผมเองจึงออกจะชื่นชอบ ที่มีหนังซูเปอร์ฮีโร่ อย่าง F4 เพราะ นี่เป็นหนังที่ผมเชื่อว่า เด็กเล็กๆจะสามารถนั่งดูกับพ่อแม่อย่างสนุกสนาน โดยตัวพ่อแม่เองก็ไม่เบื่อหน่ายจนเกินไป แถมไม่แน่อาจจะคึกคักไปกับลูกๆด้วย หรือ ถ้าผมมีลูก F4 ก็เป็นหนังที่ผมอยากหยิบมาดูกับลูกที่อายุยังน้อยๆมากกว่า แบทแมน หรือ Hulk

Fantastic Four: Rise of The Silver Surfer ก็ไม่ต่างจากภาคแรก มิหนำซ้ำ แง่มุมดราม่ายังน้อยกว่าภาคแรกอีกต่างหาก มีตัวละครรับเชิญโผล่มาเพิ่ม และ เป็นบุคคลสำคัญถึงกับเป็นชื่อตอน นั่นก็คือ Silver surfer ตัวละครที่ เข้าแก๊งค์ไหนหัวหน้าแก๊งค์ตายหมด เพราะดาวดวงไหนที่เขาเดินทางไปต้องล่มสลายภายในแปดวัน โชคร้ายที่โลกคือเป้าหมายของเขาในครั้งนี้ และ โชคร้ายยิ่งกว่าสำหรับแฟนตาสติกโฟร์ เพราะ การมาของ Silver surfer ทำให้งานแต่งงานของคู่หนุ่มยางยืดกับสาวอัลบ้า ต้องล่มกลางคันอีกรอบ

หนังก็ไม่ได้อัดแน่นด้วยสาระจนจุกอก และ ยังคงตั้งหน้าตั้งตาขายเอฟเฟคต์เนียนตากันแบบสนุกสนาน หนังพาคนดูเดินทางไปหลายประเทศ เล่นกับพลังวิเศษสลับไปมาอย่างเพลิดเพลิน ที่น่าผิดหวังมีอยู่อย่างเดียว คือ หนูอัลบ้า ดูงามน้อยกว่าภาคแรกหลายเท่า

Ocean's Thirteen


Ocean’s movie หรือ หนังในตระกูลโอเชี่ยนทั้งสามภาค เป็นตัวอย่างหนังขายสไตล์ชั้นดี ที่มี ตัวละครมาพูดๆๆ วางแผนๆๆ ทำตัวเท่ๆๆๆ แล้วก็หักเหลี่ยมเฉือนคมไปมา โดยเนื้อหาเดินหน้าไปไวราวกับพายุทอร์นาโด ซึ่งถ้าใครคิดว่า ดูหนังอย่าง พลอย ต้องคิดเยอะ ผมกลับคิดว่า ดูหนังตระกูล Ocean กลับใช้เซลล์สมองหลายส่วนมากกว่า ไม่อย่างนั้นคงจะตามไม่ทัน

หากใครชอบภาคใดภาคหนึ่งก็ไม่ควรพลาดภาคที่เหลือ หากใครดูภาคเดียวแล้วเกลียดเข้าไส้ อย่าไปหามาดูเพิ่มเลย เพราะ ภาคที่สามนี้ ก็ใช้สูตรไม่ต่างจากภาคก่อนๆ ยกเว้นที่ต่างชัดเจนคือ ภาคนี้ การแท็คทีมของแดนนี่ โอเชี่ยน&Co. ไม่ได้ทำเพื่อเงิน แต่ เป็นการจับมือสู้เพื่อมิตรภาพ แก้แค้นเอาคืนให้กับเพื่อนที่ถูกโกง

แน่นอนว่า ภาคแรก ที่โอเชี่ยนและผองเพื่อน ร่วมมือกันชิงทั้งเงินทั้งเมียเก่า จะเป็นภาคที่ทำให้แฟนๆหนังตระกูลนี้ ชอบอกชอบใจ กับเสน่ห์ที่หนังโปรยมาตั้งแต่นักแสดงยันบทหนังอันชาญฉลาด มาถึง ภาคสอง หลายคนบ่นผิดหวัง แต่ผมออกจะชอบภาคสองโดยเฉพาะมุกตลกทั้งหลายที่ขำถูกใจ โดยเฉพาะ บทหนังที่กล้าเล่น มุกจูเลีย แบบไม่อายใคร กับตัว แคธลีน ซีตาโจนส์ ที่สวยบาดตาบาดใจมากๆ (ดูเธอเล่นหนังมาก็มีเรื่องนี้กับ The terminal นี่แล ที่ปลื้มสุดๆ) เสียดายที่ภาคนี้มีออกทะเลเป็นพักๆ มีเนือยๆเป็นพักๆ จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยม

ภาคสามนี้ วางรายละเอียดให้มีความกระชับลงตัวกว่าภาคสอง นักแสดงเล่นกันเข้าขาจนเหมือนกับนั่งดูเพื่อนๆมาเจอกันจริงๆ เสียดายที่ ตัวหนังไม่สามารถสร้างความสดใหม่ชวนตื่นเต้นเท่าภาคแรก และ การได้นักแสดงคนที่ผมชื่นชอบมากที่สุดคนหนึ่งอย่าง อัล ปาชิโน่ มาเล่นนั้น ดูคนเขียนบทจะวางให้ตัวละครของแกมีลูกเล่นลูกล่อลูกชนน้อยไปหน่อย ไม่ค่อยสมศักดิ์ศรีที่จะมาเป็นคู่ปรับของแก๊งค์โอเชี่ยนแล้วก็เลยทำให้ แผนของแก๊งค์โอเชี่ยน แต่ละแผนดูจะสำเร็จล่วงหน้าไปได้ง่ายๆเกินไปชนิดไม่ต้องลุ้น

ดูได้เพลินๆ แฟนๆของหนังชุดนี้ อย่าพลาด ดูจบก็ตั้งหน้าตั้งตารอ Ocean's 14 กันต่อไป

สรุป ... สำหรับคนเคยดูภาคก่อนๆแล้วขอสรุปตามความเห็นด้านบนตรงย่อหน้าที่4 ที่เขียนไว้ แต่ หากท่านไม่เคยดูภาคต้นๆของหนังสองเรื่องนี้มาก่อน

Fantastic Four: Rise of The Silver Surfer ตีตั๋วเข้าไปได้เลย ถ้าอยากดูหนังซูเปอร์ฮีโร่โชว์เทคนิกพิเศษ ที่ดูสนุกๆเพลินๆผ่อนคลาย ส่วน Ocean’13 แนะนำว่า ทำการบ้านโดยดูภาคก่อนๆมาน่าจะอินและเข้าใจ มุก หลายๆมุกมากกว่านี้


ป.ล. หนังโรงตอนนี้เชียร์ Fracture หนังดราม่าหักเหลี่ยมที่ผมชอบมาก โดยเฉพาะในส่วนสามนักแสดงที่เท่หล่อสวยเหลือกิน และ ประเด็น ความเป็นคนที่ถูกทดสอบของพระเอก ซึ่งมันใกล้ตัวเราทุกคนเหลือเกิน กับ Love and Honor หนังซามูไรจากผู้กำกับ Twilight samurai หนังพูดถึง ซามูไรหนุ่มผู้ต้องตาบอดด้วยเหตุจากการทำงาน เขาเข้าใจว่า ตาบอด ทำให้ไร้ค่าและไร้รัก ซึ่งหนังจะทำให้เราได้เห็น เกียรติยศและความรัก ที่แท้ สมชื่อหนังเป็นอย่างดี หนังออกแนวนิ่งเนิบแต่ได้กลิ่นไอญี่ปุ่นแท้ๆราวกับมีโดเรมอนมานั่งดูอยู่ข้างๆ

(Fracture จะเขียนถึงเต็มๆอีกครั้งครับ)




ขอฝาก"หนังสือรัก" พ็อกเก็ตบุ้คที่ไม่ใช่ หนังสือวิจารณ์หนัง แต่เป็นการหยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม



(นอกจากตามร้านทั่วไป สนพ.ฝากแจ้งว่า มีลด15% ถึงสิ้นเดือนกค.ที่ ดอกหญ้าสาขา อนุสาวรีย์, เมเจอร์สุขุมวิท, พันธ์ทิพย์ กทม., เมเจอร์เชียงใหม่, แฟชันไอแลนด์, เมเจอร์รังสิต, เมเจอร์ปิ่นเกล้า, เมเจอร์รัชโยธิน)

เพื่อนๆที่หาซื้อตามร้านไม่ได้ เข้าไปสั่งได้จากเว็บของสนพ.เลยจ้าที่ //www.bynatureonline.com/store/bookstore.php






ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ

ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง





ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป


Create Date : 23 มิถุนายน 2550
Last Update : 23 มิถุนายน 2550 0:22:58 น.
Counter : 2950 Pageviews.

10 comments
  
ตอนนี้ รอดู หม้อแปลง อยู่ อิอิ

ทรานส์ฟอร์มเมอร์ อิอิ
โดย: " คุณชายช่างฝัน " วันที่: 23 มิถุนายน 2550 เวลา:0:46:26 น.
  
ยังไม่ได้ดูซักเรื่องเลยคับ
อย่างนี้ต้องรีบไปดูก่อนที่จะไม่มีให้ดูซะแล้ว
โดย: เก่งกว่าผมตายไปหมดแล้ว วันที่: 23 มิถุนายน 2550 เวลา:9:18:48 น.
  
ยังไม่ได้ดูเหมือนกันครับ
ถ้าทางต้องรอปลดระวางก่อน
โดย: เด็กผู้ชายที่ไม่แตะบอล (kanapo ) วันที่: 23 มิถุนายน 2550 เวลา:12:10:36 น.
  
ยังไม่มีโอกาสได้ไปดูเหมือนกันค่ะ หนังน่าสนใจทั้งนั้นเลยน่ะคะ โดยเฉพาะ หนังสือรักค่ะ ฮิฮิ วันนี้ขอมาเก็บข้อมูลไว้ก่อนดีกว่าน่ะคะ ขอบคุณมากค่ะ
โดย: สาวอิตาลี วันที่: 23 มิถุนายน 2550 เวลา:19:30:15 น.
  
4 ของผมหนุกมากครับ ไปดูมาละ ส่วน 13 นี้ ต้องไปดู 11 กับ 12 ก่อน คงตัองรอออก ซีดี ก่อนจะได้ดูม้วนเดียวจบแล้ว อาเจียนเลือดไปเลย โปรแกรมหน้าก็คงจะเป็น ทรานฟอร์มเมอร์แน่นอน ครับกระผม
โดย: adente IP: 202.28.9.80 วันที่: 24 มิถุนายน 2550 เวลา:17:30:36 น.
  
ชอบมุกนี้จริงๆ ได้กลิ่นไอญี่ปุ่นเหมือนมีโดเรมอนมานั่งดูอยู่ข้างๆ
โดย: ss IP: 61.91.165.152 วันที่: 24 มิถุนายน 2550 เวลา:20:29:40 น.
  
+ F4 ดูไม่ทัน (ช่วงนี้ผมดันเก็บหนังเทศกาลเยอะไปหน่อย) คงข้ามไป
+ 's 13 ดูแล้ว ... ถึงแม้ผมจะไม่เคยดู 's11 กับ 's12 แต่ก็พอจะรู้เรื่องอยู่บ้าง ก็เลยพอเข้าใจอ่ะครับ (แต่ก็เกือบตามเนื้อเรื่องไม่ทันแน่ะ เพราะหนังหักเหลี่ยมเฉือนคมเนี่ย ผมมักตามไม่ทันเท่าไหร่)
+ Fracture เพิ่งดูมาเมื่อวันเสาร์ เด๋วจะไปเขียนไว้สั้นๆ ที่หน้าแรก แล้วรอเขียนเต็มๆ ที่หน้าที่คุณจขบ. ว่าจะเขียนอีกทีนะครับ
+ Love and honor คิดว่าคงไม่ทันได้ดู เพราะผมยังค้างหนังเทศกาลอิตาลีอีก 2 เรื่องที่ซื้อตั๋วไว้ วันอังคารกับวันพุธนี้ ... และยังค้างหนังรอบปกติที่อยากดูอีก 1 เรื่องคือ Arthur and the Minimoys ด้วยอ่ะครับ เหอๆๆ
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 25 มิถุนายน 2550 เวลา:11:11:12 น.
  
จะมารออ่าน Fracture นะคะ
ไปดูมาแล้วค่า ชอบมั่กๆ
โดย: red IP: 202.28.6.18 วันที่: 25 มิถุนายน 2550 เวลา:14:59:02 น.
  
หนังที่ว่ามาข้างบนผมไม่ดูเลยสักเรื่อง
มันไม่ใช่แนวอ่ะ
แต่ fracture นี่ ok เลยสนุกดี
โดย: เอ IP: 203.156.64.175 วันที่: 8 กรกฎาคม 2550 เวลา:7:17:29 น.
  


สามารถติดตามบทสรุป การให้คะแนน และบทวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มเติม
หรือบทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ พร้อมความเห็นของเพื่อนร่วมบล็อคที่รักการดูหนัง
ได้ที่ //vreview.yarisme.com พร้อมลุ้นรับบัตร Major M Cash มูลค่า 500 บาท จำนวน 8 ใบ ทุกเดือน
โดย: ป๋องแป๋ง IP: 124.120.0.136 วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:16:28:18 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Aorta.BlogGang.com

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]

บทความทั้งหมด