จาก Blog ที่แล้วอันว่าด้วย

10 ตัวละครประทับใจ ประจำปี 2010 by "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=01-2011&date=13&group=14&gblog=243


Blog นี้ก็เป็นหนึ่งใน การรวบรวมความประทับใจจากหนังที่ได้ดูในปีที่ผ่านมา เหมือนที่ทำมาตลอด 5 ปีครับ และ เป็นทีของ ฉากประทับใจประจำปี 2010

เดิมทีทุกๆปี จะนำเสนอรวดเดียวจบ แต่ ปีนี้เป็นปีที่มีงานชนกับงานปิดต้นฉบับหนังสือเล่มใหม่ ตอนแรก ตั้งใจว่าจะจัดการหนังสือให้เสร็จก่อน แต่ก็เกรงว่า กว่าจะเสร็จปาไปอีกนาน พาลผู้อ่านจะหมดใจรอ

เลยใช้ facebook ให้เป็นประโยชน์ด้วยการ อัพเดท ที่ละอันดับเมื่อว่างๆ แล้วนำมาลงใน blog

( หน้า facebook : //www.facebook.com/IbehindYou )

นั่นแปลว่า เพื่อนๆผู้อ่านที่ติดตาม สามารถอัพเดต blog นี้ผ่านหน้า facebook ทีละอันดับ หรือ เข้ามาอ่านใน blog เป็นระยะๆ โดยข้าพเจ้าจะค่อยๆทยอยจัดอันดับจนครบสิบอันดับเหมือนทุกปี

เมื่อครบ 10 อันดับฉากประทับใจ ก็จะไปต่อด้วย 5 หนังไม่ชอบ + 50 หนังประทับใจประจำปี 2010

และ ปีนี้มีขอแถม 5 อันดับหนังตัวอย่างกระชากใจ


กติกา : อันดับที่เลือกมา คือ ฉากจากหนังที่ได้ดู ซึ่งไม่ใช่จำเพาะแค่ ช็อต หรือ ซีนใดซีนหนึ่ง แต่ รวมถึงช่วงเวลาสั้นๆที่มีในหนัง

เกณฑ์การตัดสินต่างจาก กรรมการทั่วโลก เพราะ ไม่ได้เลือกจาก คุณภาพ แต่ มาจาก ความประทับใจของเจ้าของบล็อกล้วนๆ

และต่อไปนี้คือ 5 อันดับหนังตัวอย่างกระชากใจ + 10 อันดับฉากประทับใจ จากหนังที่ได้ดูในปีที่ผ่านมา


10 อันดับฉากประทับใจ



อันดับ 10

แอคชั่นตอนท้าย Kick-Ass



Hit-girl มาในชุดเด็กนักเรียนตัวน้อยใสซื่อ ก่อนจะตีลังกายิงปืน ขว้างมีดสั้น โยนระเบิด ไล่ไปตั้งแต่ชั้นหนึ่ง ถึงชั้นบน ก่อนพ่อหนุ่ม Kick-Ass จะมาเซอร์ไพรส์กราดกระสุนนอกหน้าต่าง แถมมี เพลงประกอบสุดมันส์ ฉากแอคชั่นของเด็กสองคนช่วงท้ายนี้จึงมีความสนุกแซ่บสะใจในระดับ ห้าดาว

ทำความรู้จัก จิ๊วจี๊ด กับ Kick-ass ต่อได้ที่ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=18-04-2010&group=14&gblog=202


อันดับ 9

ทุกๆฉากที่เป็นสามมิติใน How to train your dragon



หนังหลายเรื่องมักจะโม้โชว์ความเป็นสามมิติของตัวเองเสียดิบดี แต่พอไปดูจริงๆแล้วทั้งเฟลทั้งเสียดายตังค์

How to train your dragon ไม่คุยเขื่องเหมือนคนอื่นๆ แต่ กลับสร้างความประทับใจในความเป็นสามมิติที่ทำให้สัมผัส ความตื้นลึกของภาพได้จริงๆโดยไม่ต้องเน้นพุ่ง และ เมื่อกลับมาดูในแบบสองมิติอีกรอบ แม้คุณค่าของหนังยังอยู่ครบ แต่ต้องบอกว่า อรรถรส ความขลัง อลังการในหลายฉากๆลดถอยลงไปมาก

ความเป็นสามมิติของหนังเรื่องนี้ ช่วยสนับสนุนอารมณ์ของหนังในหลายๆฉาก เป็นความเนียนตาและคุ้มค่าเงินที่จะจ่ายเป็นค่า 3D ที่ขอยกให้เป็นอันดับสอง รองแค่พี่เบิ้ม Avatar เท่านั้น


อันดับ 8

ทุกๆฉากกู้ระเบิดใน The Hurt locker



ระหว่างกู้ - เครียด กดดัน แทบหยุดหายใจ ลุ้นหืดจับ ราวกับไปยืนอยู่รอบๆสถานที่เกิดเหตุ / กู้แล้วดันระเบิด - ระบบเสียงเซอรราวด์ได้ใจ ตูมตามสมจริง เม็ดทรายแทบจะกระเด็นออกมาใส่หน้าคนดู


อันดับ 7 ฉากเจ็บจนจุก ใน Up in the air และ Aftershock



ตอนเขียน Up in the air ลง Filmax ตั้งชื่อบทความว่า 'จี๊ด เจ็บ จุก' และ ฉากที่อยู่ในชื่อบทความ คือ นับตั้งแต่ พระเอกออกจากงานบรรยาย แล้วรีบเดินทางเพื่อไปหา ความสุขใหม่ ที่ไม่ใช่ เครดิตการ์ด,การท่องเที่ยว,บัตรวีไอพี ฯลฯ แต่ ความสุขนั้นมอบบทเรียนชีวิตบทใหม่ที่ำให้เจ็บจนจุก จนเราเป็นห่วงว่า พระเอกจะกลับไปเป็นคนเดิมอีกหรือเปล่า



ส่วนใน Aftershock คือ เจ็บจนจุกทุกๆฉากปล่อยหมัดเด็ดทำลายต่อมน้ำตาคนดูไม่ว่าจะเป็น ฉากต้องเลือกของแม่ , ฉากพรากลูกขึ้นรถประจำทาง หรือ ฉากเด็ด มะเขือเทศ


อันดับ 6

งานคืนสู่เหย้าใน Lost season 6



พูดมากไปก็เดี๋ยวจะกลายเป็นการสปอยล์ เอาเป็นว่า แฟนๆ Lost ที่ติดตามกันมาตั้งแต่ซีซั่นแรก ถ้าได้ดู 2 episode สุดท้ายที่กวักมือเรียกตัวละครเก่าๆกลับมาราวกับงานคืนสู่เหย้า ที่คนนั้นก็มา คนโน้นก็มี คนนี้ก็สมหวังซะที

มันทำให้คนดูที่ผูกพันกับพวกเขารู้สึกอินซึ้งตื้นตัน ยิ้มอย่างเศร้าๆ ที่รู้ว่า จะเป็นการพบกันครั้งสุดท้ายก่อนจากกันอย่างถาวร ดีใจที่อย่างน้อยพวกเขาหลายคนก็ได้สมหวัง ไถ่บาป และ ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ในท้ายที่สุด


อันดับ5

ฉากฮาแบบคอมโบ ตั้งแต่น้าค่อมเล่นสนุ้กไปจนถึงในสนามกีฬาแหงๆ ใน 'น้ำ ผีนองสยองขวัญ'



ไม่ได้หัวเราะหนักๆและนานๆแบบนี้มานานแล้ว ไม่รู้ว่ามุกในหนังมันตรงจริตต่อมฮาตัวเองหรืออย่างไร แต่ ความฮาในฉากที่ยกมาต่อเนื่องกันนั้น มันมาเป็นคอมโบ แต่ละมุกที่ยิงออกมาเกินกว่าครึ่งเวิร์คในระดับห้ากะโหลก

แถมเมื่อน้าค่อมมาท๊อปฟอร์มเอาในหนังเรื่องนี้ ยี่สิบนาทีสุดท้ายของหนังจึงเป็นความฮาที่คิดถึงเมื่อไหร่ก็ยิ้มได้ทุกครั้ง เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากๆช่วงหนึ่งของการดูหนังในรอบปี และ ยกให้เป็นหนังตลกที่ ตลกที่สุดของปีที่ผ่านมา


อันดับ 4

ฉาก เปิดเรื่อง The Social network



ถ้าฝีมือไม่ถึง มันก็จะออกมาเป็นฉากนั่งคุยธรรมดาๆ แต่ มันไม่ธรรมดาและมีเสน่ห์ดึงดูดคนให้อยากจดจ่ออย่างต่อเนื่อง เมื่อ ผู้กำกับสามารถจับเอาอารมณ์หนังในช่วงเวลาสองชั่วโมงที่เหลือให้คนดูมาสรุปใส่ฉากนี้

ทำให้เรารู้ล่วงหน้าว่า เรากำลังจะพบกับอะไร เช่น เรากำลังจะพบเรื่องราวที่เล่าอย่างฉลาดๆ ตัวละครพูดมากๆ มีตัวละครที่เก่งแต่นิสัยไม่น่ารัก เป็นเรื่องราวของความสัมพันธ์ ฯลฯ

และแม้จะเป็นฉากสั้นๆไม่กี่นาที สองนักแสดงก็ใช้เวลาปล่อยของได้คุ้มค่าเหลือเกิน สาวรูนี่ ส่องรัศมีเจิดจรัสจนอยากให้มีบทในหนังมากกว่านี้ ส่วนหนุ่มเจซซี่ ก็ทำให้คนดูเชื่อและสร้างคาแรคเตอร์ที่น่าจดจำอย่างชัดเจนในเวลาแค่ห้านาที

อ่าน The Social network ต่อได้ที่ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=12-2010&date=09&group=14&gblog=240


อันดับ 3

ฉากร่วงหล่นกองไฟ และ ฉากส่งต่อความรักก่อนจากลา ใน Toy Story 3



เรื่องรีดน้ำตานี่ต้องยกให้เค้าละ 'pixar' จะลูกเด็กเล็กแดง ยัน อาเฮียหน้าโหด หรือ อากงอาม่า ก็สามารถถูก pixar เรียกน้ำตาได้เสมอ ยิ่ง Toy story 3 มีจุดต่างจากเรื่องอื่นๆคือ ความผูกพันกับคนดูมานับ 10 ปี เมื่อถึงจังหวะขยี้ Pixar ก็ไม่มีอ่อนข้อ

ฉากกอดคอกันลงเปลวไฟ คือ ฉากที่ผมชอบที่สุดในหนังเรื่องนี้ สายตาของตัวละครมันบ่งบอกความผูกพัน และ ความเชื่อมั่นในมิตรภาพอย่างหนักแน่นโดยไม่ต้องพูดออกมา ประมาณว่า “ขอบคุณที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขเดินทางร่วมกันมา และ ดีใจที่มีเธอเป็นเพื่อนมาตลอดหลายปี”

แต่ ฉากบอกลาครั้งสุดท้าย ก็ลืมไม่ได้จริงๆ มันไม่ใช่แค่การปิดฉากหนังเรื่องหนึ่งที่คนดูผูกพันมานับสิบปี แต่มันทำให้เห็น ความรักที่คนหนึ่งคนมีต่อของเล่น เสมือนเพื่อนที่โตด้วยกันมา และทำให้เห็นว่า การรักใครสักคน มันจะทำให้เรา เข้าใจคนๆนั้นอย่างถ่องแท้ เข้าใจตัวตนมากกว่าที่คนอื่นๆรู้จักเพียงผิวเผิน

ในฉากส่งต่อให้บอนนี่ หากไม่ใช่ แอนดี้ รักและผูกพัน กับของเล่นเหล่านั้น เขาคงไม่สามารถที่จะบรรยายรายละเอียดพร้อมกับแสดงออกถึงความใส่ใจได้มากขนาดนั้น

ทบทวนความทรงจำดีๆที่มีต่อ บัซ ไลท์เยียร์ และ ผองเพื่อน ได้ที่ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=18-08-2010&group=14&gblog=235


อันดับ 2

ฉากม้านั่งที่สวนสาธารณะ ใน 500 days of summer



ช่วงเวลาสิบนาทีที่อดีตคู่รักนั่งคุยกันบนม้านั่งตัวเก่า เป็น สิบนาทีที่ดูกี่รอบก็เสียน้ำตา มันเป็นฉากที่สรุปทุกอย่างของความรักที่ผิดหวัง ที่เริ่มต้นจาก ความโกรธ เกลียด ผิดหวัง เสียใจ อยากจะด่าอีกฝ่ายว่า 'ไอ้คนใจร้าย' แล้วเปลี่ยนไปสู่ ความเข้าใจ มองเห็นความจริงที่เคยมองข้าม ให้อภัย ยอมรับ ปล่อยวางความรู้สึกที่ค้างคา แล้ว เดินหน้าต่อ(move on)

เพลงไทยที่เหมาะกับฉากนี้มากๆคือ 'อีกหน่อยเธอคงเข้าใจ' เพราะเมื่อเธอเข้าใจ เธอก็จะเห็นว่าฉันไม่ได้อยากทำร้ายเธอ และถ้าใจร้าย เราก็คงไม่ได้เจอกันที่ม้านั่งตัวนี้ เพราะไม่มีเหตุผลที่ฉันต้องมานั่งรอเจอเธออีก และทำให้ หนังรัก(เลิก)เรื่องนี้ มีอะไรที่ชวนให้พูดถึงมากกว่า เรารักกัน

แม้จะมีฉากแนวๆ เก๋ๆ มากมายอยู่ในหนังเรื่องนี้ แต่ ฉากเรียบๆฉากนี้จี๊ดเสียดแทงแซงทางโค้งชนะเลิศ และ จะอยู่ในใจไปอีกนาน

ชวนไปอ่านที่เขียนถึง 500 days of summer แบบเต็มๆได้ในหนังสือ 'เจ็บเพราะรัก' เน้อ

อันดับ 1 (coming soon)





5 อันดับหนังตัวอย่างกระชากใจ


อันดับ 5

Scott Pilgrim vs. The World Movie

ตัวอย่างหนัง ที่น่าเสียดายเหลือหลายที่ดันไม่เข้าโรง แต่ตอนนี้มีแผ่นแล้ว ข้าพเจ้าก็ยังไม่ได้ดู ตัวอย่างนี้ coooool and awesomeeeeee and ตูมมมมมม!!! ผ่างงงงงงง!!!





อันดับ 4

Harry Potter and the Deathly Hallows: Part I

trailer ที่ปล่อยออกมามีอยู่สองเวอร์ชั่น แต่ เวอร์ชั่นแรกของ เป็นเวอร์ชั่นที่ช่างอลังการ+ขลัง ดนตรีประกอบช่วยให้หนังมีความน่าดูในระดับห้ากะโหลก

อ่าน บทความเกี่ยวกับ แฮรี่กับลอร์ดหน้าปลาดุก ต่อได้ที่ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=30-11-2010&group=14&gblog=239






อันดับ 3

Inception



ลีโอหน้าเหวอ + เสียงหวูด หึ่มหึ่มหึ่ม ผ่าง + พล็อตคนล่าฝัน + ฉากระเบิดสุดเท่ + เมืองพลิกได้เหมือนห่อหมก + คนถูกมัดห่อเป็นแหนม + ลูกข่าง?? = เสียงอุทานในใจตอนเห็นตัวอย่าง "โอ๊ยยยย นี่มันหนังอะไรกัน อยากดูๆๆๆๆๆ"

อ่าน เรื่องราวลีโอกับลูกข่างได้ที่ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=28-07-2010&group=14&gblog=229



อันดับ 2

A Serious Man

จุดร่วมของเทรลเลอร์ และตัวหนังจริงของ A Serious Man คือ ถึงจะไม่เข้าใจมันอย่างถ่องแท้ แต่เราก็ตกหลุมรัก ความหลอนเหวอที่มีเสน่ห์อย่างประหลาด ทั้งเสียงและไดอะล็อกที่ตัดมามันผสมผสานกัน แล้วฝังอยู่ในหัวหลังดูจบไปอีกพักใหญ่ๆ






อันดับ 1

The Social Network



ไม่เคยคิดว่า creep จะทำให้ขนลุกได้ขนาดนี้แถมเนื้อเพลงก็เข้ากับตัวละครอีกต่างหาก เป็นหนังตัวอย่างที่บอกได้ว่านี่เป็นหนังฉลาดๆ มีความอาร์ตผสมความตลาด สวยงามคล้ายบทกวี และ ต้องมีของแบบไม่ธรรมดา

อ่านเรื่องของน้องมาร์คต่อได้ที่ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=12-2010&date=09&group=14&gblog=240

***
***

รายชื่อข้างต้น เป็นความประทับใจของผม

แล้วสำหรับ คุณ

ปีที่ผ่านมา มีฉากไหนที่ประทับใจ ชวนมาแบ่งปันกันครับ


หลังจาก จบ Blog นี้แล้ว


Blog หน้า มาว่ากันต่อด้วย



50 หนังประทับใจประจำปี 2010 ตอน (ขอแบ่งเป็น 2 ตอน 2 blog)



Link 10 ฉากประทับใจประจำปี ของปีที่ผ่านๆมา

10 ฉากประทับใจประจำปี 2009

10 ฉากประทับใจ ประจำปี 2008

10 ฉากประทับใจ ประจำปี 2007

10 ฉากประทับใจ ประจำปี 2006

10 ฉากประทับใจ ประจำปี 2005


***
***

ขอฝาก หนังสือเล่ม 5 ของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" จ้า
(วางอยู่ตามร้านหนังสือทั่วไทยแล้ว)









อ่านจบแล้ว ชวนมาคุยกันที่นี่ครับ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=18

และ

ความเห็นของ เพื่อนผู้อ่านที่อ่านจบแล้ว และสละเวลาเขียนถึง

//blogs.lumamagic.com/?p=1957



หนังสือ 4 เล่มก่อนหน้าที่ว่าด้วย 'ภาพยนตร์ - จิตวิทยา - พัฒนาตัวเอง(self - development)' ของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"








สำหรับเพื่อนๆที่เล่น FaceBook หรือ Twitter ณ.บัดนาว "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ขยายสาขาเรียบร้อยแล้วจ้า