|
เพชร x เพชร หายนะแห่งสีดำ (24)
ต้นไม้ขาว กำลังรักษาบาดแผลให้กับมังกร นางลอกเอาเปลือกของต้นไม้ชนิดหนึ่งออกมาเป็นเส้นยาวๆ จำนวนหลายสิบเส้น
ภายใต้เปลือกของต้นไม้ชนิดนี้มีลักษณะเป็นเยื่อนุ่มๆ สีเขียวอ่อน ซึ่งจะช่วยให้บาดแผลสมานตัวกันได้รวดเร็วยิ่งขึ้น นางค่อยๆ พันเปลือกไม้นี้ปิดทับลงบนปากแผลบนหน้าอกของเขา
ทั้งสี่ยังคงอยู่ในที่เดิมไม่ได้เคลื่อนย้ายไปไหน ภายในหุบเขาสิ่งต่างๆ สงบลงมากแล้ว แต่ยังคงมีแรงสั่นสะเทือนเบาๆ เกิดขึ้นอยู่เป็นระยะ และเหนือยอดของภูเขาไฟยังมีกลุ่มควันดำ และฝุ่นผงพวยพุ่งออกมาอยู่ตลอดเวลา
เมื่อการรักษาเสร็จสิ้นลงนางก็เอาแต่นั่งนิ่งไม่ยอมพูดอะไรทั้งสิ้น ที่เหลืออีกสามคนต่างมองหน้ากันไปมา ในที่สุด นิล ก็เป็นผู้ที่พูดขึ้นเป็นคนแรก
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ไม่มีใครที่จะสามารถตอบคำถามนี้ของเขาได้ มังกร จึงพูดขึ้นบ้างว่า
พวกเรามาแนะนำตัวเองกันก่อนดีกว่า ฉันชื่อ บูรพา อาศัยอยู่บนยอดของภูเขาไฟ
ประจิม เป็นเพื่อนรักของฉัน
ฉันแวะมาหาเขานานๆ ครั้ง แต่พักหลังมานี้เขาไม่ค่อยชอบให้ใครมารบกวน ฉันจึงไม่ได้ลงเยี่ยมเขานานมากแล้ว
ฉันชื่อ นิล อยู่ที่ทุ่งหิน และคนนี้คือลูกชายของฉันเขาชื่อ เพชร พวกเราเดินทางมาหานายช่างใหญ่ที่ป่าเขียวด้วยธุระบางอย่าง
ฉันแยกทางกับลูกชายที่นั่นแล้วเดินทางมากับนายช่างใหญ่เพียงสองคน
ต้นไม้ขาว ยังคงเอาแต่นั่งนิ่งไม่พูดอะไรทั้งสิ้น เพชร จึงกล่าวแนะนำตัวให้นาง
เธอชื่อ ต้นไม้ขาว ครับ
พอผมแยกทางกับพ่อก็พบเธอในป่าเขียว
เธอช่วยผมตามหาพ่อครับ
ต้นไม้ขาว
ฉันคิดว่าเธอคงเข้าใจความหมายผิดไป ฉันเองก็รู้จักเธอ ชื่อของเธอควรจะเป็น ดอกไม้ขาว มากกว่า
เมื่อได้ยิน บูรพา พูดชื่อ ดอกไม้ขาว ออกมานางก็ยังคงนั่งนิ่ง แต่หยาดน้ำตาค่อยๆ รินไหลลงมาอาบสองแก้ม ความเงียบกลับคืนมาอีกครั้ง แต่เพียงไม่นานนักมังกรก็มีข้อเสนอแนะขึ้นอีกว่า
พวกเราผลัดกันเล่าเรื่องที่ตัวเองรู้ออกมา พอเอาเรื่องของทุกคนมารวมเข้าด้วยกัน พวกเราอาจจะรู้อะไรมากกว่านี้ก็ได้
ทั้งหมดเห็นด้วยกับ บูรพา และ นิล ขอเล่าเรื่องราวของเขาเป็นคนแรก เขาเริ่มจากการค้นพบก้อนเหล็กนิลที่นำไปสู่การเดินทางของพวกเขาสองพ่อลูกมายังป่าเขียวเพื่อพบกับนายช่างใหญ่ และในที่สุดก็ได้รับคำยืนยันว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครรู้จักมาก่อน
หลังจากนั้นเพราะข้อเสนอของนายช่างใหญ่ที่ต้องการจะสร้างสรรผลงานจากเหล็กนิล เขาจึงสั่งให้ลูกชายกลับบ้านไปเพียงลำพัง แล้วเดินทางผ่านอุโมงค์เขียวมายังภูเขาไฟเพื่อพบกับประจิม
แต่เมื่อทั้งสามพบกันเขาก็หมดสติไป และเขาได้สติขึ้นมาอีกครั้งก็ในตอนที่ บูรพา กำลังต่อสู้กับนายช่างใหญ่
เพชร เล่าเรื่องของเขาเป็นคนถัดมา เขาเริ่มเล่าต่อจากเมื่อได้แยกทางกับพ่อจนได้ไปพบกับ สำริด เข้า เขาจึงฝากข่าวไปถึงแม่ แล้วหาทางติดตามพ่อจนมาเจอกับ ต้นไม้ขาว
ในตอนที่เล่าเขายังคงเรียกนางว่า ต้นไม้ขาว อยู่เช่นเดิม เพราะเขาคิดว่าหากเรียกนางในอีกชื่อหนึ่ง นางคงต้องร้องไห้อีกแน่
ทั้งสองเดินทางมาถึงภูเขาไฟเมื่อผลงานของนายช่างใหญ่เสร็จสมบูรณ์ ก้อนเหล็กนิลได้กลายเป็นดาบสีดำเล่มนั้นไปแล้ว เกิดการแย่งชิงดาบกันขึ้น นายช่างใหญ่ได้มันไปแล้วแทง ประจิม ตาย ก่อนที่ บูรพา จะเข้ามาช่วยพ่อของเขาเอาไว้
พอ บูรพา ได้ฟังเรื่องของสองพ่อลูกจบ เขาจึงเริ่มเล่าเรื่องราวในส่วนของเขา
แผ่นดินสูงสุดเขย่าให้เขาตื่นขึ้นด้วยความงงงัน ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของ ประจิม ดังแว่วมา เขารีบบินขึ้นไปบนท้องฟ้า สภาพอากาศในตอนนั้นผิดปกติเป็นอย่างมาก เขาพุ่งทะลุเมฆดำที่หนาทึบลงมาจนได้พบกับนายช่างใหญ่กับดาบสีดำเล่มนั้น
เรื่องราวทั้งสามส่วนถูกนำมาปะติดปะต่อเข้าด้วยกันได้อย่างพอดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดดูจะชัดเจนยิ่งขึ้น แต่สองพ่อลูกก็ยังคงไม่เข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกันแน่
บูรพา เป็นเพียงผู้เดียวที่ดูจะเข้าใจในเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ และนั่นจึงทำให้เขามีท่าทางเป็นทุกข์มากที่สุดด้วย เขาตัดสินใจที่จะเล่าอะไรบางอย่างให้ทั้งหมดได้รับรู้กันเอาไว้
ฉันคิดว่า ฉันต้องเล่าตำนานเรื่องหนึ่งให้พวกเธอฟัง แล้วพวกเธอจะเข้าใจเรื่องทั้งหมดนี้
พอได้ยินคำว่าตำนาน เพชร ก็รู้สึกสนใจขึ้นมาทันที แต่พอเห็นท่าทางที่ผิดปกติของ บูรพา เขาจึงคิดขึ้นมาว่า บางทีตำนานเรื่องนี้ อาจไม่สมควรที่จะฟังก็ได้
มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับคณะของผู้พเนจร
พวกเธอเคยได้ยินมาก่อนไหม
สองพ่อลูกพยักหน้า ส่วน ต้นไม้ขาว ยังคงนั่งเฉยเหมือนเดิม บูรพา มองดูนางด้วยความเป็นห่วงก่อนที่จะเล่าเรื่องของเขาต่อไป
พวกเธอคงได้ฟังมาจากนายช่างใหญ่ ตำนานของพวกฉันก็คล้ายๆ กัน แต่ของพวกฉันมีส่วนเพิ่มเติมที่ถือเป็นคำพยากรณ์อยู่อีกส่วนหนึ่งที่แตกต่างออกไป ในคำทำนายกล่าวเอาไว้ว่า
ก่อนที่ผู้พเนจรทั้งห้าจะจากไป ผู้พเนจรสีดำได้แอบทิ้งสิ่งหนึ่งเอาไว้เป็นสิ่งสุดท้ายโดยไม่ให้ผู้อื่นรู้
สิ่งนั้นก็คือ หายนะแห่งสีดำ สิ่งนี้จะนอนหลับไปจนกว่าเวลาที่เหมาะสมจะมาถึง เวลาที่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกสร้างขึ้นบนแผ่นดินแห่งนี้เสื่อมโทรมลง และเมื่อถึงเวลาที่มันปรากฏขึ้น แผ่นดินทั้งหมดก็จะหวนคืนสู่ความว่างเปล่าอีกครั้ง
เมื่อ บูรพา กล่าวจบ ภูเขาไฟก็ส่งเสียงครวญครางออกมา คล้ายกับเป็นการตอกย้ำในคำพูดของเขา เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างฉับพลัน ทั้งหมดเงยหน้าขึ้นมองดูจึงแลเห็นกลุ่มควันดำที่กำลังพวยพุ่งออกมาเป็นจำนวนมาก
ปากปล่องภูเขาไฟถูกขยายให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เศษหินจำนวนมากมายกลิ้งตกลงมาตามไหล่เขาที่ลาดชันของมัน นิล จึงกล่าวขึ้นว่า
เราควรไปจากตรงนี้จะดีกว่า
ไปไหน
คำถามของ บูรพา ทำให้ทั้งหมดนิ่งอึ้งไป ใช่แล้วหากแผ่นดินทั้งหมดต้องสูญสลายไปพวกเขาจะหนีไปที่ไหนได้อีก
มันเริ่มต้นจากพวกเรา กว่าที่ฉันจะรู้ตัว ทุกอย่างก็สายเกินไปแล้ว พวกเราทั้งหมดต่างแยกกันอยู่อย่างโดดเดี่ยวด้วยช่วงชีวิตที่ยาวนาน ต่างคนต่างไม่เคยสนใจกัน จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อฉันและ ประจิม ได้ร่วมกันออกค้นหา จึงได้พบกับความจริงว่า ไม่มีการให้กำเนิดเด็กหญิงมานานมากแล้ว ไม่มีหญิงชาวมังกรอีกต่อไปแล้ว และนั่นหมายถึงจะไม่มีการกำเนิดอีกต่อไป พวกฉันทั้งหมดตายไปแล้ว
รอเพียงแค่เวลาเท่านั้น
น้ำตาของ ต้นไม้ขาว พากันหลั่งไหลออกมาก่อนที่นางจะรวบรวมคำพูดออกมาได้ว่า
ฉันไม่ใช่ ดอกไม้ขาว อีกต่อไปแล้ว ฉันเป็นเพียง ต้นไม้ขาว หญิงคนสุดท้ายของชาววนาที่ไม่อาจผลิดอกบานได้อีกต่อไปแล้ว
เพชร หวนนึกถึง สำริด ที่ต้องเดินทางออกมาจากภูเขาเหนือเพื่อไปหาคู่ถึงทุ่งหิน
สำหรับพวกเขาเองมันก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และหากวันเวลาล่วงเลยไปสุดท้ายพวกเขาเองก็คงเป็นเช่นเดียวกัน แต่ตอนนี้มันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว เพราะทุกสิ่งทุกอย่างกำลังจะจบสิ้นลงแล้ว
แต่แล้วจู่ๆ ในใจของเขาพลันเกิดความสงสัยในเรื่องๆ หนึ่งขึ้นมา ไม่มีใครรู้เห็นการกระทำของผู้พเนจรสีดำจริงหรือ หายนะแห่งสีดำเป็นสิ่งสุดท้ายที่พวกเขาทิ้งเอาไว้แน่หรือ ภาพของเพชรในตำนาน และคนลึกลับผู้นั้นกับเสื้อคลุมสีขาว ผุดขึ้นมาภายในใจของเขา
ผมคิดว่า
พวกเราทั้งหมด
อาจยังมีความหวังเหลืออยู่
ผมไม่แน่ใจนัก
แต่ผมคิดว่า
ผมอาจจะต้องทำอะไรบางอย่าง
แล้วมันอาจจะช่วยพวกเราทั้งหมดได้
นิล มองหน้าลูกชายด้วยความงุนงง บูรพา นั้นยังมีท่าทีเป็นปกติ แต่ ต้นไม้ขาว มองดู เพชร ด้วยความรู้สึกเชื่อมั่น เพราะเธอยังคงจดจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ได้ดี
เมื่อเด็กหนุ่มตะโกนเรียกพ่อของเขา ได้เกิดลำแสงสีขาวมาช่วยหยุดร่างของ นิล เอาไว้ ลำแสงนั้นดูเหมือนจะมีพลังเหนือกว่าหายนะแห่งสีดำเสียอีก นางจึงกระตุ้นให้เขาพูดต่อไป
ผมเชื่อว่าผู้พเนจรสีขาวรู้ว่า ผู้พเนจรสีดำได้ทำอะไรลงไป ท่านจึงได้ทิ้งอีกสิ่งหนึ่งเอาไว้ให้กับพวกเรา หายนะแห่งสีดำไม่ใช่สิ่งสุดท้ายที่ถูกทิ้งเอาไว้ แต่คือเพชรในตำนานต่างหาก เพชรแห่งสีขาว คือทางรอดของพวกเรา
บูรพา ถามแทรกขึ้นมาทันทีว่า
แล้วตอนนี้ เพชรแห่งสีขาวอยู่ที่ไหน แล้วเราจะต้องทำอย่างไรกับมันบ้าง และที่สำคัญที่สุดก็คือเธอรู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไรกัน
เพชร นิ่งอึ้งไปทันที เขาไม่รู้จะตอบคำถามเหล่านี้ได้อย่างไร เขารู้ว่าเพชรในตำนานนั้นตั้งอยู่บนแท่นภายในห้องโถงทรงกลมของเหมืองแห่งปฐม แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเมื่อพบแล้วจะต้องทำอย่างไรต่อไป
และที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องทั้งหมดนี้เขารับรู้มันมาจากในความฝัน หากเขาพูดออกไปพ่อจะต้องว่าเขาแน่ๆ แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจบอกเรื่องราวทั้งหมดออกไปตามความเป็นจริง
ต้นไม้ขาว ไม่สงสัยในคำพูดของ เพชร เลย นิล เองก็เช่นกัน แม้ว่ามันจะฟังดูเลื่อนลอยเหมือนนิทาน แต่เขาก็มีความเชื่อมั่นในตัวลูกชายอยู่เต็มเปี่ยม
บูรพา ขอให้เขาอธิบายเพิ่มเติมถึงลักษณะของเหมืองแห่งปฐม และสภาพภายในของห้องโถงแห่งนั้น เด็กหนุ่มนึกทบทวนอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะบอกออกไปตามที่เขาได้เคยเห็นมันในความฝัน
บูรพา เองก็เคยรู้จักเหมืองแห่งปฐมมาก่อน เขามีชีวิตอยู่มานานมากแล้ว นานจนเกินกว่าที่ชาวปฐพีจะจินตนาการไปถึงได้ และสิ่งที่เด็กหนุ่มพูดออกมาก็ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด
เขาหวนคิดถึงตอนก่อนที่ภูเขาไฟจะเริ่มขยับตัว เขาได้เห็นลำแสงสีขาวพุ่งขึ้นมาจากทางแถวๆ เหมืองแห่งนั้น มันพุ่งขึ้นไปสูงก่อนที่จะโค้งตัวแล้วทะลุกลุ่มเมฆหนากลับลงไปยังพื้นดินอีกครั้งตรงเชิงภูเขาไฟพอดี คงจะมีอะไรสักอย่างเกี่ยวข้องกันกับสิ่งที่เด็กหนุ่มกำลังพูดถึง
เอาล่ะ
แล้วพวกเราจะต้องทำอย่างไรกันต่อไป
ผม
จะต้องเป็นคนไปนำมันออกมา
ผมเพียงคนเดียวเท่านั้น
Create Date : 15 ตุลาคม 2552 |
Last Update : 15 ตุลาคม 2552 8:19:21 น. |
|
0 comments
|
Counter : 516 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|