ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายเกินพิกัด...แล้วจะกลับมาเขียนเรื่องที่ค้างไว้ให้จบครับ...สักวัน
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
21 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 

เพชร x เพชร วงกตเหมืองโบราณ (28)

เพชร รู้สึกอ่อนล้าลงเรื่อยๆ อาการบาดเจ็บ และเส้นทางที่แสนจะวกวน บั่นทอนทั้งกำลังกาย และจิตใจของเขาไปจนแทบจะหมดสิ้น

เขาใช้มือทั้งสองข้างยันกับผนังอุโมงค์แล้วค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่ง เด็กหนุ่มต้องหยุดพักสักครู่ เขาเดินต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว

เขานั่งหอบหายใจอยู่นาน ก่อนที่จะเริ่มตรวจดูอาการขาข้างซ้ายของเขาอีกครั้ง ซึ่งมันก็ดูไม่แย่ลงเท่าไรนัก

เด็กหนุ่มคลายผ้าที่มัดเอาไว้ออก ขยับท่อนเหล็กให้เข้าที่แล้วมัดให้แน่นใหม่อีกครั้ง ในตอนนั้นเองเขาก็เริ่มรู้สึกถึงอาการอีกอย่างหนึ่งที่ค่อยๆ รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เขารู้สึกหิวขึ้นมาเป็นอย่างมาก

เด็กหนุ่มนึกไปถึงใบไม้รูปหัวใจเหล่านั้นที่ ต้นไม้ขาว เคยให้เอาไว้ในตอนที่ต้องเดินทางเข้าไปในอุโมงค์เขียว เขาจำได้ว่ามันยังมีเหลืออยู่อีกหลายใบ

เพชร ต้องรู้สึกประหลาดใจอีกครั้งเมื่อพบว่าใบไม้รูปหัวใจที่เขาเก็บไว้กำลังถูกสิ่งหนึ่งกัดกินอยู่อย่างหิวโหย

ลูกกลมที่อุดมไปด้วยขนสั้นเกรียนสีเทาอ่อนกำลังแทะกินใบไม้หนึ่งในสองใบที่ยังเหลืออยู่อย่างรวดเร็ว และก่อนที่เด็กหนุ่มจะทันได้ทำอะไรลงไป ใบไม้รูปหัวใจก็หลงเหลืออยู่เพียงใบเดียวแล้ว เขารีบคว้ามันเอาไว้ได้ทันก่อนที่เจ้าตัวนั้นจะเอามันเข้าปากไป

สายตาที่วิงวอนคู่นั้นจ้องมองเข้าไปในดวงตาของ เพชร เขาจำมันได้แล้ว มันก็คือหนูถ้ำที่ อัคนี นำมาให้นั่นเอง เพียงแต่ว่าตอนนี้ลำตัวของมันอ้วนกลมไม่ดูผอมแห้งเหมือนในตอนที่มันยังนอนจำศีลอยู่

มันคงกินใบไม้รูปหัวใจเข้าไปหลายใบแล้ว และหากเด็กหนุ่มยังไม่คิดจะหาอะไรกินในตอนนี้ ใบไม้ก็คงจะถูกมันกินไปจนหมดสิ้น

ในตอนที่จะออกเดินทางมากับพ่อนั้น เพชร กลัวว่าเจ้าหนูถ้ำตัวนี้อาจจะตื่นขึ้นในระหว่างที่เขาไม่อยู่บ้าน เขาจึงแอบนำมันติดตัวมาด้วย และมันก็นอนหลับสนิทมากับเขาตลอดทางโดยไม่เคยก่อปัญหาอะไรให้เลย จนกระทั่งแม้แต่ตัวเขาเองก็ลืมมันไปในที่สุด

ปลอกคอที่เขาใส่เอาไว้ให้ยังคงคับแน่นอยู่บนคอที่อวบอ้วนของมัน สายผูกก็ขยับส่ายไปมา เมื่อมันเดินขึ้นมาตามตัวของ เพชร เพื่อที่จะไปเอาใบไม้รูปหัวใจใบสุดท้ายที่อยู่ในมือขวาของเขา

เพชร ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะลงมือแบ่งใบไม้ออกเป็นสองส่วนแล้วยื่นชิ้นหนึ่งให้กับมัน

“เรามาแบ่งกันกินนะ”

เจ้าหนูถ้ำคล้ายกับจะเข้าใจในคำพูดของเขา มันรับส่วนแบ่งของมันมาแทะกินอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เด็กหนุ่มก็ค่อยๆ เคี้ยวใบไม้ครึ่งใบนั้นอย่างช้าๆ

ต่อจากนี้ไม่ว่าเส้นทางจะยาวไกลไปอีกเท่าไร เขาก็ไม่มีเสบียงเหลืออยู่อีกแล้ว พอแทะกินใบไม้หมดแล้วสายตาคู่เดิมนั้นก็จ้องมองดูเด็กหนุ่มอีกครั้ง แต่คราวนี้คล้ายกับว่ามันกำลังพยายามจดจำคนผู้นี้เอาไว้ จดจำผู้ที่ให้อาหารแก่มัน

“ฉันยังไม่ได้ตั้งชื่อให้แกเลย…”

“เอาเป็น…เจ้าเทา…เจ้าบอล…เจ้าฟู…”

“เอ่อ…เจ้าปุย”

“จี๊ด”

“แกชอบชื่อนี้หรือ…เจ้าปุย”

“…จี๊ด”

“ตกลง…ยินดีที่ได้รู้จัก เจ้าปุย ฉันชื่อ เพชร”

“จี๊ด…จี๊ด”

เด็กหนุ่มใช้นิ้วลูบหัวมันเบาๆ เจ้าปุยก็หลับตายืนนิ่งอยู่อย่างนั้น สัมผัสของขนนุ่มๆ ของมันทำให้เขารู้สึกดีขึ้น การมีเพื่อนเดินทางเช่นนี้ย่อมดีกว่าการต้องอยู่ในอุโมงค์มืดเพียงลำพัง พอเขาหยุดลูบหัวมัน เจ้าปุย ก็ยืนนิ่งจ้องมองดูเขา

ดวงตาของมันทำให้เขาต้องหยุดคิดอีกครั้ง เขาจะพามันร่วมผจญภัยไปในเส้นทางที่แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่รู้เลยว่าจะไปสิ้นสุดในที่ใดอย่างนั้นหรือ

เด็กหนุ่มเอื้อมมือออกไปครั้ง คราวนี้เขาลูบหัวมันเบาๆ สองสามครั้งแล้วจึงถอดปลอกคอของมันออกมา ถึงอย่างไรมันก็เป็นหนูถ้ำ มันย่อมสามารถเอาตัวรอดในสถานที่แบบนี้ได้ดีกว่าเขาอยู่แล้ว

“ไปเถอะ เจ้าปุย”

“แม้ว่าเราจะพึ่งรู้จักกันได้เพียงไม่นาน แต่ฉันก็รู้สึกชอบแกมากเลยนะ ถ้าพวกเราทั้งหมดสามารถผ่านพ้นเหตุการณ์ที่เลวร้ายครั้งนี้ไปได้ ฉันจะกลับมาหาแกอีก อย่าหนีหายไปไหนนะ ฉัน…ลาก่อน”

“จี๊ด”

เพชร ค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นยืน เขาก้าวเดินออกไปสองสามก้าวแล้วจึงค่อยเหลียวหน้ากลับมา เจ้าปุยเองก็เดินตามเขามาด้วยเช่นกัน ระยะห่างระหว่างทั้งสองจึงยังคงเดิม พอเขาเดินต่อไปอีก เจ้าปุย ก็ยังคงเดินตามอีก เด็กหนุ่มจึงต้องหันกลับมาพูดกับมันอีกครั้ง

“…อย่าตามมาเลย ฉันไม่มีของกินเหลืออีกแล้ว…”

“เราแยกกันตรงนี้นะ”

ครั้งนี้ เจ้าปุย คล้ายกับจะสามารถเข้าถึงความรู้สึกในใจของ เพชร มันยอมหยุดยืนอยู่ตรงนั้นเมื่อเด็กหนุ่มออกเดินต่อไป และเมื่อเขาหันกลับมาอีกครั้ง เจ้าปุย ก็หายตัวไปแล้ว

เพชร ยกมือขึ้นปาดเช็ดเหงื่อ ในตอนแรกเขายังไม่ค่อยแน่ใจนัก แต่ตอนนี้เขารู้สึกมั่นใจแล้วว่า อากาศรอบๆ ตัวกำลังร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ

ทุกครั้งที่สูดลมหายใจเข้าไป เขาจะรู้สึกได้ถึงไอร้อนที่ไหลผ่านรูจมูกแล้วแผ่กระจายไปทั่วภายในร่างกายของเขา มันทำให้เขารู้สึกอึดอัดหายใจลำบาก และนอกจากนี้ขาข้างซ้ายของเขาก็มีอาการปวดมากยิ่งขึ้นหลังจากที่ต้องเดินลากมันมาเป็นเวลานาน

เด็กหนุ่มเดินมาจนถึงทางแยกอีกครั้ง เขาสามารถรับรู้ได้ถึงไอร้อนที่แผ่ออกมาจากอุโมงค์ทางด้านซ้าย ในขณะที่ทางด้านขวาดูจะเย็นกว่า

แต่ความรู้สึกของเขากลับบอกว่าเส้นทางที่ถูกต้องน่าจะเป็นทางซ้าย เขาจึงยืนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ในที่สุด เพชร ก็ตัดสินใจที่จะเดินเลี้ยวไปทางซ้ายตามความรู้สึกของเขา

ยิ่งเดินทางต่อไปอากาศก็ยิ่งร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ เพชร กำลังจะยกมือขึ้นเพื่อถอดเสื้อออก แต่มือของเขากลับล้วงเข้าไปในเสื้อแล้วเจอของสิ่งหนึ่งเข้า

พอมือของเขาสัมผัสถูกวัตถุชิ้นนี้ อากาศร้อนที่ลอยอบอวลอยู่รอบๆ ตัวก็ค่อยๆ เย็นลงทีละน้อย เด็กหนุ่มรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก เขาลองปล่อยมือออกจากของสิ่งนั้น อากาศก็ค่อยๆ ร้อนขึ้นจนเหมือนเดิมอีกครั้ง เขาจึงหยิบหินก้อนนั้นออกมาถือเอาไว้

หัวใจแห่งไฟ บูรพาได้บอกเอาไว้ว่า ผู้ที่มีหัวใจแห่งไฟย่อมไม่เกรงกลัวต่อความร้อนใดๆ ทั้งสิ้น

เพชร กำหินก้อนนั้นเอาไว้ในมือข้างขวา อากาศร้อนรอบตัวของเขาค่อยๆ เย็นลงจนกลับเป็นปกติ เด็กหนุ่มคิดว่ามันคงไม่ได้ทำให้อากาศเย็นลงจริงๆ แต่มันทำให้ร่างกายของเขาไม่ได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิภายนอก และเขาก็ไม่รู้ว่ามันทำอย่างนั้นได้อย่างไร

แสงสีแดงที่กระพริบอยู่ภายในเป็นเหมือนกับจังหวะการเต้นของหัวใจ เด็กหนุ่มจ้องมองดูมันแล้วเกิดความรู้สึกแปลกๆ ขึ้น

เขาคิดว่ามันเองก็กำลังจ้องมองดูเขาอยู่เช่นกัน ความคิดประหลาดๆ เรื่องหนึ่งพลันผุดขึ้นในหัวของเขา เขาคิดว่าหินก้อนนี้มีชีวิต

ทางแยกถัดไปค่อยๆ ปรากฏขึ้นตรงหน้า คราวนี้ เพชร ก็ยังคงรู้สึกว่าจะต้องเลี้ยวไปทางซ้ายอยู่เช่นเดิม แต่ในขณะที่เขากำลังจะเลี้ยวไปทางซ้าย จังหวะการกระพริบของแสงสีแดงภายในหัวใจแห่งไฟกลับเปลี่ยนไปในทันที

มันกระพริบถี่เร็วขึ้นคล้ายกับพยายามที่จะบอกว่า มันต้องการจะเลี้ยวไปในอีกทิศทางหนึ่ง เด็กหนุ่มจึงเกิดความรู้สึกลังเลขึ้น เขาหยุดยืนตรงทางแยกแล้วลองทบทวนความรู้สึกของตัวเองอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาก็ยังคงมั่นใจว่าอุโมงค์ทางซ้ายน่าจะเป็นเส้นทางที่ถูกต้องแล้ว

เพชร ลองเก็บหัวใจแห่งไฟเอาไว้ในเสื้ออีกครั้งแล้วค่อยๆ ปล่อยมือออก พอปลายนิ้วของเขาหลุดออกจากหินก้อนนั้น เขาก็รู้สึกถึงคลื่นความร้อนที่รุนแรงมากแผ่กระจายออกมาจากอุโมงค์ทางด้านขวา

มันร้อนมากจนเขาต้องรีบกุมหินก้อนนั้นเอาไว้อีกครั้งอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มพอจะคาดเดาออกแล้วว่ามีสิ่งใดอยู่ที่สุดปลายอุโมงค์สายนี้

มันจะต้องเป็นสายน้ำสีแดงที่เดือดพล่าน หินที่ถูกหลอมจนกลายเป็นของเหลวแล้วไหลไปทั่วภายใต้พื้นพิภพ หรือ เส้นเลือดของแผ่นดิน นั่นเอง




 

Create Date : 21 ตุลาคม 2552
0 comments
Last Update : 21 ตุลาคม 2552 8:26:43 น.
Counter : 610 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


zoi
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




..........
Friends' blogs
[Add zoi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.