|
เพชร x เพชร วงกตเหมืองโบราณ (30)
ภาพที่แปลกตากำลังปรากฏอยู่เบื้องหน้าของเด็กหนุ่ม ผนังข้างหน้าที่ห่างออกไปไม่ไกลนักถูกอาบไล้ไปด้วยแสงดีแดงส้มที่ดูลี้ลับ และอากาศรอบๆ ตัวของเขาก็พากันเต้นระริกจนทำให้ภาพต่างๆ พร่ามัวไป
มันทำให้ เพชร นึกไปถึงอากาศกลางทุ่งหินในยามเที่ยงของฤดูร้อนที่ร้อนจัด ไอแดดที่เต้นระริกไปมา และเหงื่อที่ไหลหลั่งออกมาจนท่วมตัว แต่ในตอนนี้เขาไม่ได้รู้สึกร้อนมากขึ้นไปกว่าเดิมเลย ร่างกายของเขายังคงรู้สึกเป็นปกติอยู่เช่นเดิม
เพชร ก้มลงสำรวจมองมือข้างที่ถือ หัวใจแห่งไฟ ให้แน่ใจอีกครั้ง เด็กหนุ่มรู้สึกหวาดกลัวราวกับว่ามันพยายามจะลื่นหลุดออกจากมือของเขาไป เขาบอกย้ำกับตัวเองอยู่ไปมา ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ตามเขาจะต้องไม่ปล่อยมือข้างนี้อย่างเด็ดขาด
เมื่อ เพชร เดินพ้นทางโค้งข้างหน้าออกไป ต้นกำเนิดของแสงสีแดงส้ม และคลื่นความร้อน ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเด็กหนุ่มอย่างฉับพลัน จนเขาต้องรีบหรี่ตาลงแล้วยกมือข้างที่ว่างอยู่ขึ้นมาบดบังสายตาเอาไว้
หินหนืดสีแดงสว่างที่ร้อนจัดกำลังค่อยๆ ไหลไปอย่างช้าๆ อยู่ภายในแม่น้ำหินที่ตัดขวางเส้นทางเดินข้างหน้าให้ขาดออกจากกันเป็นช่องกว้าง
ลำธารสีแดงสายนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของ เส้นเลือดของแผ่นดิน ที่ไหลเข้าท่วมภายในเหมืองแห่งปฐม และขับไล่ชาวปฐพีทั้งหมดให้ต้องทิ้งบ้านของพวกเขาไปเมื่อนานมาแล้ว
แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป เส้นทางการไหลก็มีการเปลี่ยนแปลงไปด้วยจนทำให้ในตอนนี้ มันกลายเป็นเพียงเส้นทางสายเล็กๆ เท่านั้น แต่ถึงแม้ว่ามันจะเล็ก ความร้อนของมันก็ไม่ได้ลดลงไปด้วยเลย
เพชร ใช้ทั้งสองมือจับ หัวใจแห่งไฟ เอาไว้แน่นอย่างลืมตัว ในหัวของเขาบอกกับตัวเองว่าจะต้องเดินทางย้อนกลับไปตามเส้นทางเดิมที่ผ่านมา แต่ขาของเขากลับยืนนิ่งสนิท สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้านี้ถึงแม้ว่าจะดูน่ากลัว แต่ก็กลับมีความสวยงามดึงดูดใจไปด้วยในเวลาเดียวกัน
เด็กหนุ่มก้าวออกไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ราวกับถูกมนต์สะกด เขาค่อยๆ เดินเข้าไปจนใกล้กับขอบของแม่น้ำเพลิงสายนี้ หินที่ถูกหลอมจนกลายเป็นของเหลวสีแดงค่อยๆ เคลื่อนผ่านไปทางด้านขวาของเขาอย่างช้าๆ มีไฟลุกขึ้นบนผิวหน้าของมันตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้างอยู่ตลอดเวลา และมีบางอย่างที่มีลักษณะคล้ายกับขี้เถ้าสีคล้ำลอยอยู่บนผิวหน้าของมันด้วย
ทิ้งฉันลงไป
เสียงลึกลับนั้นดังขึ้นมาอีกครั้ง ทิ้ง 'ฉัน' อย่างนั้นหรือ เพชร คิดขึ้นมาอย่างแปลกใจ คำพูดประโยคนี้ทำให้เขารู้สึกสับสน เขามองสำรวจไปรอบๆ ตัวแต่ก็ไม่พบอะไรอยู่ในบริเวณนั้นทั้งสิ้น
ในเลือดแห่งไฟ
เสียงนั้นยังคงดังต่อไป เลือดแห่งไฟ เด็กหนุ่มต้องงงงันกับคำแปลกๆ ที่พึ่งจะเคยได้ยินนั้น แต่แล้วพอเขามองออกไปตรงหน้า คำตอบก็ผุดขึ้นมาในทันที สิ่งที่ไหลเวียนอยู่ใน เส้นเลือดของแผ่นดิน หินหนืดร้อนที่ลุกเป็นไฟเหล่านี้ ย่อมเป็น เลือดแห่งไฟ นั่นเอง
ทิ้งฉันลงไป
เพชร ก้มลงมองสิ่งที่เขากำลังถืออยู่ในมือ หัวใจแห่งไฟ แสงสีแดงจางๆ ของมันเต้นกระพริบผสานเข้ากับแสงสีแดงส้มที่สว่างอยู่ทั่วทั้งบริเวณนี้
เจ้าพูดกับฉันหรือ
เด็กหนุ่มยืนนิ่งรออยู่พักใหญ่ แต่ก็ไม่มีเสียงใดตอบกลับมา เขาจึงเริ่มพิจารณาทางเลือกทั้งหมดของเขาอย่างรอบคอบอีกครั้ง
ตอนนี้จุดหมายของเขาก็คือต้องหาทางออกไปจากเหมืองโบราณแห่งนี้โดยเร็วที่สุด หากไม่ถอยหลังกลับก็ต้องมุ่งต่อไปข้างหน้า
ความจริงแล้วระยะห่างระหว่างฝั่งทั้งสองของ เส้นเลือดของแผ่นดิน ก็ไม่ได้กว้างมากมายนัก เพียงแต่ว่ามันมีหินหนืดร้อนกั้นกลางอยู่ ส่วนขาข้างซ้ายของเขาก็กลายเป็นเครื่องถ่วงทำให้ไม่สามารถออกแรงกระโดดได้อย่างเต็มที่
และที่สำคัญที่สุดก็คือเขาไม่แน่ใจว่า หัวใจแห่งไฟ จะสามารถปกป้องเขาได้มากขนาดไหน หากเขาพลัดตกลงไปในเลือดแห่งไฟ อะไรจะเกิดขึ้น
ส่วนเรื่องที่จะให้ทิ้ง หัวใจแห่งไฟ ไปในตอนนี้นั้น เป็นเรื่องที่เขาคิดว่าเป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด หากเขาปล่อยมือออกจากมัน ร่างของเขาคงแทบจะลุกไหม้ไปในทันที
เพชร หันหลังกลับ เขาตัดสินใจออกเดินย้อนเส้นทางเดิม
#####
อัคนี ยืนนิ่งหลบอยู่ในที่เดิมมาพักหนึ่งแล้ว ร่างสีดำที่เขาติดตามมาหยุดยืนอยู่กลางลานหินโล่งลักษณะแปลกๆ ที่เขาไม่เคยพบเห็นมาก่อน
มันเป็นแอ่งขนาดใหญ่ที่ยุบตัวลงไป คล้ายกับถูกบางสิ่งที่ตกลงมาจากบนฟากฟ้าชนจนพื้นดินกลายเป็นหลุมกว้าง แต่จะเป็นสิ่งของใดที่ตกลงมานั้น เขาก็ไม่อาจคิดจินตนาการได้
เขายืนหลบอยู่ข้างหลังก้อนหินใหญ่ที่บริเวณขอบของแอ่งกระทะ แล้วจับตาดูสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่เบื้องล่าง ในตอนนี้ดูเหมือนว่าเงาสีดำจะปรากฏบ่อยขึ้น และแต่ละครั้งจะคงอยู่เป็นเวลานาน ร่างของ นายช่างใหญ่ ดูอ่อนล้าลงไปอย่างเห็นได้ชัด
นายช่างใหญ่ ไม่อาจฝืนต่อต้านได้อีกต่อไป ทั้งร่างกายและจิตใจของเขาอ่อนล้าลงจนหมดสิ้นเรี่ยวแรง หายนะแห่งสีดำ กำลังจะเป็นฝ่ายได้ชัย การต่อสู้ของเขาสิ้นสุดลงแล้ว
ผืนแผ่นดินแห่งนี้สิ้นสุดลงแล้ว เขาค่อยๆ หลับตาลง ภาพสุดท้ายที่ปรากฏขึ้นภายในห้วงความคิดของเขาก็คือภาพใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มของ ดอกไม้ขาว นั่นเอง
อัคนี มองเห็น นายช่างใหญ่ หลับตาลง แล้วเงาสีดำนั้นก็ปรากฏขึ้น แต่ครั้งนี้ร่างนั้นค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่เขาได้เห็นทำให้ร่างของเขาเริ่มสั่นสะท้าน ความกลัวกำลังเข้าเกาะกุมหัวใจแล้วบีบแน่นจนเขาแทบจะขาดใจ
เขาอยากจะวิ่งหนีไปจากตรงนี้แต่ก็ไม่อาจทำได้ เขาจึงได้แต่ยืนมองดูร่างสีดำที่ตอนนี้ดูจะไม่มีรูปร่างอีกต่อไปแล้ว มันกลายเป็นความมืด ความว่างเปล่า แต่กลับรู้สึกถึงการมีอยู่ของมันได้อย่างชัดเจนยิ่งกว่าเดิม
เปรี้ยง
เสียงดังสนั่นระเบิดขึ้นในความเงียบ ดาบสีดำด้ามนั้นถูกปักลึกลงไปบนพื้นดิน ผืนแผ่นดินเริ่มบิดตัวไปมาด้วยความเจ็บปวด คลื่นความสั่นสะเทือนแผ่กระเพื่อมกระจายออกไปทุกทิศทาง
#####
นิล กับ บูรพา รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้น ในครั้งนี้แตกต่างไปจากแผ่นดินไหวในทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา พวกเขาเองก็ไม่อาจอธิบายได้ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร แต่พวกเขาสามารถรู้สึกได้
ทั้งสองหันมามองสบตากัน มังกร เบนสายตามองไปทางฟากฟ้าทิศตะวันตก ความมืดในบริเวณนั้นเข้มข้นขึ้นจนแทบจะกลืนกินทุกสิ่งที่อยู่รอบๆ เข้าไปจนหมดสิ้น
นิล มองตามไปในทิศทางเดียวกัน แล้วในที่สุดเขาก็พูดขึ้นว่า
มันเริ่มต้นขึ้นแล้ว
บูรพา ตอบโดยที่ไม่ได้ละสายตาไปจากความมืดนั้น
มันจบลงแล้วต่างหาก
แล้วทั้งคู่ก็ได้แต่ยืนนิ่งอยู่เช่นนั้น
#####
เพชร ซวนเซจนล้มลงไป แต่มือทั้งสองข้างของเขายังคงเกาะกุม หัวใจแห่งไฟ เอาไว้แน่น แรงสั่นสะเทือนในครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างฉับพลันจนเขาไม่ทันได้ตั้งตัว
ตอนนี้เขากำลังอยู่ในท่านอนหงาย และเมื่อเขาค่อยๆ ตะกายชันตัวขึ้นมาได้ เส้นเลือดของแผ่นดิน ที่อยู่ตรงหน้าก็กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลง หินหนืดร้อนเดือดพล่านและสั่นกระเพื่อมจนท่วมล้นฝั่งสองข้างออกมา
เด็กหนุ่มรีบคืบคลานถอยห่างออกมาจากที่ตรงนั้น แต่แผ่นดินที่ไหวไปมาทำให้เป็นอุปสรรคในการเคลื่อนไหวเป็นอย่างยิ่ง และนอกจากนี้เขายังต้องคอยกอดหินก้อนนั้นเอาไว้อย่างระมัดระวัง เพราะมันคอยแต่จะกลิ้งหลุดออกจากมือของเขาอยู่ตลอดเวลา
หินขนาดต่างๆ เริ่มหลุดร่วงลงมาจากเพดานของอุโมงค์ เพชร ตัดสินใจที่จะอยู่ให้ชิดติดริมกำแพงให้มากที่สุด แล้วภาวนาให้แผ่นดินหยุดไหวโดยเร็ว
#####
ในขณะที่ อัคนี เอาแต่หลบซ่อนอยู่หลังก้อนหินด้วยความหวาดกลัว อีกร่างหนึ่งที่คอยติดตาม นายช่างใหญ่ อยู่เงียบๆ กลับก้าวออกมาอย่างหาญกล้า ร่างอ้อนแอ้นนั้นยืนประจันหน้ากับความมืดที่สามารถกลืนกินได้ทุกสิ่ง ในแววตาของนางไม่มีความหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย
ในดวงตาคู่นั้นเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตาที่รินไหลมาตลอดทาง และยังคงไม่เหือดแห้งไป เสียงเพลงเบาๆ ล่องลอยออกมาจากปากน้อยๆ ของนาง ออกมาจากห้วงลึกในดวงใจของนาง แล้วทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในที่นั้นก็เริ่มร้องคลอไปกับนาง
Create Date : 26 ตุลาคม 2552 |
|
0 comments |
Last Update : 26 ตุลาคม 2552 13:26:51 น. |
Counter : 605 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|