ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายเกินพิกัด...แล้วจะกลับมาเขียนเรื่องที่ค้างไว้ให้จบครับ...สักวัน
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
2 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 

เพชร x เพชร นายช่างใหญ่ (14)

ก่อนที่ฟ้าจะมืด นิล ปีนกลับขึ้นไปบนกิ่งไม้ที่เขาได้เลือกเอาไว้อีกครั้ง ทิวทัศน์ยามอาทิตย์กำลังตกดินที่มองจากเหนือพื้นดิน นับเป็นภาพที่แปลกประหลาดสำหรับเขา แต่เขาก็ลงความเห็นว่ามันเป็นภาพที่สวยงามน่าประทับใจอีกภาพหนึ่ง

นิล ล้วงมือหยิบเอาผลไม้ลูกเล็กๆ สีแดงออกมากิน มันมีรสเปรี้ยวน้อยๆ แต่มีน้ำอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้มันแก้กระหายได้ดี

ความจริงแล้วเขายังเจอผลไม้อื่นๆ อีกหลายชนิด แต่เขาไม่รู้จักและไม่กล้าที่จะลองเสี่ยง การพบกับคนอื่นๆ ในวันพรุ่งนี้พร้อมด้วยอาการหิว หรือกระหายบ้าง ย่อมดีกว่าอาการปวดท้องที่อาจเกิดขึ้นได้

ลมโชยพัดมาอ่อนๆ ฟ้าค่อยๆ มืดมิดลง นิล เผลอเงยหน้าขึ้นมองไปทางด้านบน สิ่งที่พบมีเพียงสีเขียวทึบทึมของเหล่าใบไม้เท่านั้น แต่เขาก็รู้ดีว่าสูงขึ้นไปเหนือยอดไม้เหล่านี้ มีประกายที่สุกสกาวของดวงดาวพร่างพราวอยู่ทั่วท้องฟ้า

เขานึกถึงในสมัยก่อนตอนที่เคยนอนมองดวงดาวในยามค่ำคืน ความรู้สึกถึงตัวตนที่ค่อยๆ หดเล็กลง พวกเราช่างเป็นสิ่งที่เล็กน้อยเสียเหลือเกิน ภายใต้จักรวาลที่แสนกว้างใหญ่แห่งนี้

ในความสงบเงียบ ที่มีเพียงเสียงใบไม้คุยกันเบาๆ กับเสียงนกและสัตว์ที่ออกหากินยามค่ำคืนแว่วมาให้ได้ยินไกลๆ ความรู้สึกบางอย่างค่อยๆ ก่อตัวขึ้น

นิล กำลังคิดถึงบ้าน บ้านที่แสนสบายของเขา คิดถึง อำพัน ภรรยาที่แสนน่ารัก คิดถึงชีวิตที่สุขสงบในทุ่งหิน ชีวิตที่ในทุกๆ วันสิ่งต่างๆ จะดำเนินไปอย่างเรียบง่าย

เขาตัดสินใจได้ในตอนนั้นเองว่า เมื่อพบกับลูกชายอีกครั้ง เขาจะเดินทางกลับทุ่งหินในทันที การค้นพบอะไรก็ไม่มีความหมายสำหรับเขาแล้วในตอนนี้

และสำหรับเหล็กนิล เขาคิดว่าคงจะมอบให้กับนายช่างใหญ่เป็นของขวัญ ตอนนี้เขาไม่อยากได้มันอีกต่อไปแล้ว เพราะมันคือต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องออกเดินทางในครั้งนี้

นิล ใกล้จะเคลิ้มหลับไปอยู่แล้วในตอนที่ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังแว่วมา เขานอนนิ่งๆ ฟังเสียงดังกล่าวอยู่อีกครู่หนึ่ง ประสาทของเขาค่อยๆ ตื่นตัวขึ้นจนเต็มที่

เขาจำได้ว่าเคยได้ยินเสียงแบบนี้มาก่อน เขาค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อฟังต่อไปอีกครู่หนึ่ง เขาจึงมั่นใจว่ามันคือเสียงร้องเพลงของชาววนานั่นเอง

แต่มีบางอย่างที่ผิดแผกกันอยู่ ในครั้งนั้นบทเพลงที่เขาได้ยินไพเราะลึกซึ้งชวนให้เพลิดเพลินยิ่งนัก

แต่บทเพลงที่กำลังขับขานอยู่นี้กลับแฝงไว้ด้วยความเศร้า และความเจ็บปวด ซึ่งเมื่อรวมเข้ากับความคิดถึงบ้านของเขา น้ำตาก็ค่อยๆ รินไหล จนเขาต้องยกมือขึ้นปาดเช็ดมัน

เสียงค่อยๆ เคลื่อนที่เข้ามาใกล้กับต้นไม้ที่ นิล นอนอยู่ เขาลังเลว่าสมควรจะทำเช่นใดดี

ในที่สุด เขาก็ตัดสินใจปีนลงมาจากต้นไม้ เขาคิดว่าการแอบนั่งฟังใครบางคนคร่ำครวญด้วยความเสียใจนั้นเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม แต่เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะทำตัวเช่นไรหากได้พบเจอกับผู้โศกเศร้าคนนี้

การเคลื่อนไหวของ นิล คงทำให้คนผู้นั้นรู้ตัว เสียงเพลงจึงเงียบหายไปในทันที เขายืนลังเลอยู่ที่ใต้ต้นไม้ ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป

“…ฉันชื่อ นิล เป็นชาวปฐพีแห่งทุ่งหิน…เดินทางมากับลูกชายเพื่อทำธุระกับนายช่างใหญ่ในป่าเขียวแห่งนี้”

นิล พูดออกไปด้วยเสียงเบาๆ คล้ายกลับกลัวว่าจะปลุกราตรีที่เงียบสงัดนี้ให้ตื่นขึ้น

“…ฉันกำลังเดินทางเพื่อไปนำไม้หินมาให้กับนายช่าง…แต่ว่าฉันหลงทางจึงต้องขึ้นไปนอนอยู่บนต้นไม้ต้นนี้…”

รอบข้าง นิล ยังคงมีแต่ความเงียบ แต่เขาแน่ใจว่ามีใครบางคนกำลังยืนฟังเขาอยู่ ชาววนาผู้ขับขานบทเพลงยังคงยืนอยู่ภายในหมู่ต้นไม้เหล่านั้น

“ที่ฉันปีนลงมาเพราะได้ยินเสียงเพลงของท่าน…และฉันคิดว่าการแอบฟังคนอื่นเป็นมารยาทที่ไม่ดี…ถึงแม้ว่าฉันจะฟังไม่เข้าใจเลยก็ตาม…”

นิล กำลังจะพูดถึงเรื่องความเศร้าที่แฝงอยู่ในบทเพลง แต่เขาก็เปลี่ยนใจเสียก่อน เพราะคิดว่ามันไม่สมควร

ความเงียบยังคงอยู่อีกครู่หนึ่ง ก่อนที่ นิล จะพบเห็นเงาของบางอย่างเคลื่อนไหวออกมาจากหมู่ไม้ที่อยู่ตรงหน้า ชาววนาคนหนึ่งค่อยๆ ก้าวเดินออกมา ความมืดของยามราตรีทำให้ นิล ไม่อาจมองเห็นหน้าตาของคนผู้นี้ได้ชัดเจนนัก

“…เธอมาหา…นายช่างใหญ่…ที่วงต้นไม้ชายป่า…อย่างนั้นหรือ…”

ชาววนาผู้นี้พูดภาษาของชาวปฐพีได้อย่างตะกุกตะกัก ซึ่ง นิล ก็ไม่รู้สึกแปลกใจแต่อย่างใด เพราะตามปกติแล้วพวกเขาไม่ค่อยได้ติดต่อสัมพันธ์กันนัก

แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาต้องประหลาดใจ นั่นก็คือจากน้ำเสียงที่ได้ยิน เขาแน่ใจว่าชาววนาผู้นี้ต้องเป็นหญิง เขาเองไม่สามารถบอกได้ว่ารู้ได้อย่างไร แต่เขามั่นใจในเรื่องนี้อย่างมาก

“ใช่ครับ”

“…เธอบอกว่ามากับลูกชาย…ผู้สืบทอดของเธอใช่ไหม”

“ครับ”

นิล รู้สึกได้ถึงความเศร้าเมื่อนางพูดคำว่าผู้สืบทอดออกมา และมันทำให้เขาหวนนึกถึงท่าทีของนายช่างใหญ่ ตอนนั้นตัวนายช่างใหญ่เองก็มีท่าทีเช่นนี้เหมือนกันเมื่อได้เห็น เพชร เขาสงสัยว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับชาววนาเหล่านี้กันแน่

“ตอนนี้เธออยู่ห่างจากวงต้นไม้ไม่ไกลนัก แต่ฉันก็ไม่ขอแนะนำให้เธอเดินทางในตอนกลางคืนอย่างนี้ เธอควรจะรอให้ถึงตอนเช้าเสียก่อนจะดีกว่า”

“ถ้ารอจนถึงเช้า ฉันคงจะเดินสวนทางกับพวกเขา ฉันอาจจะรอพวกเขาอยู่ตรงนี้ แต่ถ้าหากฉันกลับไปที่วงต้นไม้ได้ก่อนที่จะเช้า พวกเขาก็ไม่ต้องลำบากเดินทางออกมาตามหา…และฉันเป็นห่วงลูกชายด้วย เขาพึ่งเคยเดินทางเป็นครั้งแรก…เขาเองก็คงรู้สึกเป็นห่วงฉันเช่นกัน ”

หญิงชาววนาผู้นั้นนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง

“…ถ้าอย่างนั้นฉันจะพาเธอไปส่ง แต่เธอต้องรับปากฉันเรื่องหนึ่งก่อน…เธอต้องไม่บอกเรื่องนี้กับนายช่างใหญ่ ต้องไม่พูดอะไรเกี่ยวกับฉันให้เขาฟังทั้งสิ้น”

นิล ไม่รู้สึกแปลกใจเท่าใดนักเมื่อได้ยินนางพูดเช่นนี้ เขาพยักหน้าตอบตกลงทันที

“ขอให้เธอเดินตามฉันมา และเมื่อเธอเข้าใกล้วงต้นไม้ฉันก็จะจากไปในทันที…และจงอย่าลืมคำสัญญาของเธอ…”

เงาร่างสองสายค่อยๆ เดินติดตามกันไปในความมืด ร่างที่เดินนำหน้ารูปร่างสูงเพรียว ส่วนเงาที่ตามหลังมาในระยะไม่ห่างนั้นรูปร่างเตี้ยกำยำ

นิล ไม่สามารถจดจำรายละเอียดของเส้นทางที่ผ่านไปได้ เขารู้ว่าไม่ได้กำลังเดินไปตามทางเดิน แต่เดินตัดผ่านเข้าไปในหมู่ไม้ เหล่าต้นไม้ที่ขึ้นเบียดเสียดกันอยู่คล้ายกับแหวกเป็นทางสายหนึ่งให้กับพวกเขา

นิล ไม่รู้ว่าร่างที่เดินนำหน้าอยู่นั้นหายไปตั้งแต่เมื่อใด แต่เมื่อมองตรงไปเขาก็แลเห็นแสงไฟที่กำลังเต้นระริกอยู่ในความมืด โรงช่างอยู่ห่างออกไปไม่ไกลแล้ว




 

Create Date : 02 ตุลาคม 2552
0 comments
Last Update : 2 ตุลาคม 2552 7:51:26 น.
Counter : 469 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


zoi
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




..........
Friends' blogs
[Add zoi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.