บริหาร การจัดการ การตลาด พัฒนาตนเอง พัฒนาความคิด กลยุทธ์ ธรรมะ จักรราศี ฯลฯ
จัดตั้งธุรกิจ ปรับปรุงกิจการ | ไขความลับสมองเงินล้าน | การเขียนแผนธุรกิจ | บริหารคน บริหารงาน | พัฒนาความคิด
พระไตรปิฎกฉบับหลวง | แด่องค์กรที่แสนรัก | สุขใจกับเด็กสมาธิสั้น
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
16 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
10 ความแตกต่าง ระหว่าง คนรวย กับ คนชั้นกลาง



ผมได้อ่านหนังสือเล่มเล็ก ๆ เล่มหนึ่งเขียนโดย Keith Cameron Smith เรื่องความแตกต่างที่โดดเด่น 10 ข้อ ระหว่างคนรวยกับคนชั้นกลาง และเห็นว่ามันมีความเป็นจริงอยู่พอสมควรจากการสังเกตของผม ดังนั้น จึงขอนำมาเผยแพร่เพื่อที่ว่าเราจะได้รู้ว่าเราอยู่ในด้านไหนของสังคมและจะต้องทำอย่างไรเพื่อที่ว่าเราจะได้ย้ายจากการมีแนวโน้มที่จะเป็นคนชั้นกลางสู่การเป็นคนรวย

ความแตกต่างข้อแรกก็คือ เศรษฐีนั้นคิดยาวแต่คนชั้นกลางคิดสั้น ว่าที่จริงคนที่คิดสั้นที่สุดก็คือคนจน พวกเขามักจะคิดอะไรแบบวันต่อวันทำนองหาเช้ากินค่ำ คนชั้นกลางนั้นมักจะคิดเป็นเดือนต่อเดือน นั่นคือคิดถึงวันเงินเดือนออก แต่คนรวยจะต้องคิดยาวเป็นปี ๆ หรือเป็นสิบ ๆ ปี ในใจของคนจนนั้น เขามักคิดแต่เฉพาะเรื่องของความอยู่รอดเป็นหลัก ในขณะที่คนชั้นกลางคิดถึงเรื่องความสุขสบายจากการจับจ่ายใช้สอยสินค้า ส่วนคนรวยนั้น เป้าหมายของพวกเขาชัดเจน เขาต้องการความเป็นอิสระทางการเงิน การคิดยาวนั้นมีพลังมหาศาล เพราะมันจะทำให้เขาอดออมและลงทุนระยะยาวซึ่งจะทำให้เงินงอกเงยแบบทบต้นเป็นเวลานาน และนี่คือสูตรสำคัญที่สุดในการที่จะทำให้คนมั่งคั่ง

ข้อสอง คนรวยพูดเกี่ยวกับเรื่องไอเดีย คนชั้นกลางพูดเกี่ยวกับสิ่งของ และคนจนพูดถึงเรื่องของคนอื่น นี่คงไม่ได้หมายถึงว่าคนรวยไม่พูดเกี่ยวกับเรื่องของสิ่งของหรือคนอื่น แต่หมายถึงว่าคนรวยจะพูดถึงเรื่องของคนอื่นน้อยกว่าคนจนและมักจะเป็นคนที่มีแนวความคิดดี ๆ หรือมีมุมมองต่าง ๆ มากกว่าคนชั้นกลางและคนจน เบื้องหลังของนิสัยในเรื่องนี้คงอยู่ที่ว่า คนรวยนั้นมักจะมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าคนจนซึ่งมักจะชอบ “ซุบซิบนินทา” เป็นนิจสิน ในขณะที่คนชั้นกลางอาจจะเน้นการทำงานประจำ ชอบพูดถึงเรื่องรถยนต์ ดนตรี การพักผ่อนหย่อนใจ เป็นต้น

ข้อสาม คนรวยยอมรับการเปลี่ยนแปลง คนชั้นกลางต่อต้านการเปลี่ยนแปลง คนชั้นกลางรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงจะคุกคามชีวิตความเป็นอยู่ที่ตนเองเคยชิน ในขณะที่คนรวยนั้นคิดว่าการเปลี่ยนแปลงอาจนำมาซึ่งชีวิตที่ดีกว่า เขาคิดว่าในการเปลี่ยนแปลงนั้นมักมีโอกาสที่เขาอาจจะฉกฉวยได้ เบื้องหลังนิสัยนี้อาจจะมาจากการที่คนรวยมีความมั่นใจสูงกว่าคนชั้นกลางที่มักจะกลัวว่าตนเองจะไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งใหม่ ๆ ได้

ข้อสี่ คนรวยกล้ารับความเสี่ยงที่ได้มีการพิจารณาและไตร่ตรองดีแล้ว คนชั้นกลางกลัวที่จะรับความเสี่ยง นี่เป็นนิสัยที่เป็นจุดอ่อนมากที่สุดของคนชั้นกลางในความเห็นของผม คนที่ไม่ยอมรับความเสี่ยงเลยนั้นจะพลาดที่จะได้ผลตอบแทนที่ดีโดยสิ้นเชิง ในขณะที่คนที่กล้ารับความเสี่ยงอย่างที่ได้มีการศึกษามาเป็นอย่างดีจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้โดยที่ความเสี่ยงจริง ๆ นั้นจะมีน้อยมาก ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนที่สุดก็คือ คนชั้นกลางส่วนใหญ่นั้นมักจะกลัวการลงทุนในหุ้นหรือตราสารการเงินที่มีความผันผวนของราคาโดยที่เขาไม่พยายามศึกษาว่าในระยะยาวแล้วมันอาจจะมีความคุ้มค่ากว่าการฝากเงินในธนาคารมาก ในอีกมุมหนึ่ง คนที่กล้ารับความเสี่ยงอย่าง “บ้าบิ่น” เช่นคนที่เล่นหุ้นวันต่อวันเองก็ไม่ใช่นิสัยของคนรวย คนรวยนั้นจะต้องรับความเสี่ยงเฉพาะที่มีการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว

ข้อห้า คนรวยเรียนรู้และเติบโตตลอดชีวิต คนชั้นกลางคิดว่าการเรียนรู้จบที่โรงเรียน นิสัยการเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ นี้ ผมคิดว่าเป็นหัวใจเศรษฐีจริง ๆ เพราะในความรู้สึกของผมเอง การเรียนรู้จากโรงเรียนเป็นเพียงพื้นฐานที่เรานำมาศึกษาต่อด้วยตนเองได้ และเวลาหลังจากการเรียนในโรงเรียนนั้นยาวมากเป็นหลายสิบปี ดังนั้น ความรู้ส่วนใหญ่จึงควรที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่เราเรียนจบจากโรงเรียน โดยนัยของข้อนี้ คนรวยจึงน่าจะมีนิสัยรักการอ่านหรือการหาความรู้ต่อไปเรื่อย ๆ ในขณะที่คนชั้นกลางนั้น พอเรียนจบก็มักจะไม่สนใจอ่านหนังสือหรือหาความรู้ใหม่ ๆ และความรู้ที่ผมคิดว่าคนชั้นกลางพลาดไปเพราะไม่มีการสอนในโรงเรียนก็คือ ความรู้ทางด้านการเงินที่คนรวยมักจะศึกษาต่อเพราะเห็นถึงความสำคัญและอาจนำไปสู่ความร่ำรวยได้

ข้อหก คนรวยทำงานเพื่อหากำไร คนชั้นกลางทำงานเพื่อจะได้ค่าจ้าง คนรวยมองว่านี่คือหนทางที่จะทำให้รวยได้มากกว่าแม้ว่าจะมีความเสี่ยง ในขณะที่คนชั้นกลางนั้นมักจะไม่กล้าเสี่ยงและอาจจะมีความคิดสร้างสรรค์น้อยกว่า จึงมุ่งไปที่การหางานที่จะมีรายได้แน่นอน แต่รายได้จากการใช้แรงงานของตนเองนั้น มีน้อยคนที่จะทำให้ตนเองรวยได้

ข้อเจ็ด คนรวยเชื่อว่าพวกเขาจะต้องใจบุญสุนทาน คนชั้นกลางคิดว่าพวกเขาไม่มีปัญญาที่จะทำบุญ ข้อนี้ผมเองคงไม่มีคอมเม้นท์อะไร ส่วนหนึ่งผมเองก็ไม่แน่ใจเนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องของแต่ละคนที่ไม่ค่อยบอกหรือรู้กันยกเว้นกรณีที่เป็นการบริจาคใหญ่ ๆ อย่างกรณีของบัฟเฟตต์หรือบิลเกต

ข้อแปด คนรวยมีแหล่งรายได้หลากหลาย คนชั้นกลางมีเพียงหนึ่งหรือสองแหล่ง ข้อนี้ก็เช่นกัน ผมเองไม่แน่ใจว่าคนรวยมีรายได้จากหลายแหล่งเพราะรวยแล้วจึงไปลงทุนในทรัพย์สินหลาย ๆ อย่าง หรือมีทรัพย์สินหลายอย่างจึงทำให้รวย แต่ที่ผมเห็นชัดเจนก็คือ คนชั้นกลางนั้น มักไม่ลงทุนในทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงทำให้รายได้มักจะมาจากเงินเดือนเป็นหลัก

ข้อเก้า คนรวยเน้นการเพิ่มขึ้นของความมั่งคั่งของตนเอง คนชั้นกลางเน้นการเพิ่มของเงินเดือน เป้าหมายของคนรวยนั้นอยู่ที่ว่าตนเองมีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหนโดยมองที่ภาพรวม ดังนั้น ถ้าเขามีหุ้นอยู่ การที่หุ้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเขาก็มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นโดยที่เขาไม่ต้องเสียภาษี แต่คนชั้นกลางพยายามทำงานเพื่อให้มีเงินเดือนสูงขึ้นแต่เขาอาจจะลืมไปว่าเขาจะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นด้วย สรุปก็คือ คนรวยเน้นการลงทุนใช้เงินทำงานแทนตนเอง คนชั้นกลางเน้นการใช้แรงงานของตนเอง

สุดท้าย ข้อสิบ คนรวยชอบตั้งคำถามที่เป็นบวกและสร้างกำลังใจ เช่น ฉันจะสร้างรายได้เป็นเท่าตัวในปีนี้ได้อย่างไร? ในขณะที่คนชั้นกลางชอบตั้งคำถามที่เป็นลบและเสียกำลังใจเช่น จะหาเงินมาจ่ายหนี้ค่าบัตรเครดิตเดือนนี้ได้อย่างไร ?

และนั่นก็คือความแตกต่าง 10 ข้อระหว่างคนรวยกับคนชั้นกลางที่มีคนตั้งข้อสังเกตไว้ ซึ่งผมเชื่อว่าส่วนใหญ่น่าจะเป็นจริง แน่นอน คนรวยบางคนก็มีคุณสมบัติที่เป็นแบบคนชั้นกลาง และคนชั้นกลางจำนวนมากก็มีนิสัยแบบคนรวย แต่ถ้าเราอยากรวย ผมคิดว่า การยึดนิสัยแบบคนรวยน่าจะทำให้เรามีโอกาสมากกว่า

(เอามาจากเมล์ที่ได้รับ)


Create Date : 16 มีนาคม 2551
Last Update : 28 มิถุนายน 2561 13:28:45 น. 19 comments
Counter : 784 Pageviews.

 
Acceptable


โดย: annapac@crowncork.co.th IP: 203.156.23.147 วันที่: 16 มีนาคม 2551 เวลา:18:22:13 น.  

 
ข้อความเยี่ยม น่าคิดจริงๆ


โดย: wildbirds วันที่: 16 มีนาคม 2551 เวลา:19:27:14 น.  

 


โดย: Borken วันที่: 16 มีนาคม 2551 เวลา:20:19:27 น.  

 
ดีจังค่ะ ที่ได้เข้ามาอ่านบทความนี้


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 16 มีนาคม 2551 เวลา:20:37:10 น.  

 
มีดอกไม้มาฝาก


แง๊ อ่านดูแล้วพบว่าผมยังจนอยู่นี่นา


โดย: 9A วันที่: 16 มีนาคม 2551 เวลา:22:05:57 น.  

 
ข้อความนี้ผมชอบมากที่สุดเลยครับขอบคุณมากและรู้สึกว่าตนเองโชคดีที่ได้เปิดอ่านwavนี้ อืม. อยากอ่านข้อมูลทึ่เกี่ยวกับการเริ่มต้นทำธุระกิจนะครับ ผมมีความเชื่อว่า จะปลูกต้นไม้ต้องหาเมล็ดพันธุ์ที่ดีและเราต้องการก่อน จากนั้นก็เตรียมดิน แล้วลงมือปลูกน่ะ แต่ตอนนี้ปัญหาของผมก็คือ ยังหาเมล็ดพันธุ์ที่จะปลูกไม่ได้ พูดง่ายๆก็คือยังไม่รู้ว่าจะทำอะไร ฮือๆ..


โดย: เดชฤทธิ์ IP: 61.19.69.157 วันที่: 25 มีนาคม 2551 เวลา:11:38:20 น.  

 


โดย: tin IP: 125.26.182.25 วันที่: 31 มีนาคม 2551 เวลา:21:48:59 น.  

 


Thanks


โดย: acasia IP: 202.137.153.70 วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:17:56 น.  

 
ไม่มีอะไรเป็นสูตรสำเร็จ เป๊ะๆหรอก ครับ

แต่ที่ผู้เขียน เขา เขียนวิเคราะห์ออกมา
ก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่ง ที่น่าจะใช่

ไม่ไร้สาระหรอกครับ

คนที่เกิดมาจน แล้ว มารวยทีหลัง ก็มีนะครับ
แต่ต้องอาศัยหลายๆปัจจัย

กำลังความคิด เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ

รวยมรดกแต่ไม่มีความคิดเอามาต่อยอด ก็รักษาสมบัติไม่ได้หรอกครับ


โดย: tan77 IP: 117.47.72.3 วันที่: 30 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:28:55 น.  

 
เห็นด้วยกับคุณ tan77 ค่ะ ถ้ามั่วคิดแบบนี้ก็จนไม่รู้จักรวยกันพอดี


โดย: โอ๋ IP: 58.64.88.37 วันที่: 1 มิถุนายน 2551 เวลา:21:40:36 น.  

 
ตอบ คห.9 ครับ
ผมคิดว่า ฐานะมันสร้างกันได้
อย่าไปมองโลกในแง่ร้ายเกินไปนักมันจะดีกว่า



โดย: xxx IP: 125.26.19.37 วันที่: 19 มิถุนายน 2551 เวลา:8:15:01 น.  

 
ขอบคุณครับ
เป็นข้อความที่ดีมาก

คงต้องใช้ควบคู่กับ หลักธรรมในพุทธศาสนา






โดย: chat5 IP: 116.58.231.242 วันที่: 1 กันยายน 2551 เวลา:17:53:04 น.  

 
ไม่ว่าคุณคิดว่าคุณทำได้หรือทำไม่ได้ คุณก็คิดถูกทั้งสองอย่าง แล้วแต่คุณจะคิด คุณคิดอย่างไรก็เป็นที่คุณคิดนั้นเอง


โดย: คนกำลังจะรวย IP: 222.123.11.250 วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:17:14:14 น.  

 
อยากรวยก้อทำสิครับ อย่ารอว่าเมือไหร่จะคิดได้ ถ้ามันคิดได้ง่ายๆคนรวยคงล้นโลก ทำในสิ่งที่อยากทำ แม้จะเกิดปัญหาเรายังอยากทำต่อ และเมื่อทำต่อไปเรื่อยๆจะประสพความสำเร็จเอง คนรวยส่วนมากก้อทำแบบนี้ไม่ได้คิดว่าปีนี้จะได้กี่ล้านอีกสิบปี้ได้กี่ล้าน ทำในสิ่งที่ชอบแค่นี้ก้มีความสุขแล้วเมื่อเราทำสิ่งที่ชอบมักจะทำได้ดีลูกค้าก้อจะอุดหนุนเรื่อยๆพูดง่ายๆของดีคนก้อชอบก้อติดแค่นั้น และอีกอย่างเมื่อเราได้ทำในสิ่งที่รักมันก้อมักจะพัฒนาเร็วกว่าสิ่งที่ไม่รักไม่ชอบ ถ้าเห็นคนอื่นทำเหมือเราและดีกว่าเราก้จะคิดออกว่าจะทำอย่างไรไห้ดีกว่าคนอื่น การพํฒนามาเอง ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่าคิดใหญ่ไห้คิดเล็ก ทำง่ายๆก่อนเพราะ ยิ่งง่ายยิ่งดียิ่งมีพื้นฐานธุรกิจต้องไห้เวลา ต้องมีประสพการณ์
คนส่วนมากอยากรวย
และปัญาหาก้อคือ
1 คิดไม่ออก จะทำอะไรดีว้า ทำคนแรกแล้วมักจะรวยเลย คนส่วนมากมักคิดแต่ไม่ค่อยมีคนคิดออก 555
2 คิดไปไกลแต่ไม่มีเงินทุน ก้อจนอะทำงานบริษัทหาเช้ากินค่ำ ค่าบ้าน ค่ารถ ส่งไห้แม่อีก จิปาถะ เห้อ
3 เคยทำแล้วล่ะธุรกิจ เจ๊ง ไม่อยากทำแล้วท้อใจ ทำงานบริษัทอย่างเก่าดีกว่า
ชีวิตคนส่วนมากมักคิดแบบนี้ บางคนอาจมากว่านี้
แต่ผมอยากบอกทุกคนว่า ทุกอย่างในชีวิตคือธุรกิจ เราทำงานบริษัทก้เป็นธุรกิจ ทุกสิ่งที่ทำแล้วได้เงินคือธุรกิจ ดังนั้นอย่าไปคิดว่าธุรกิจต้องลงทุนมหาศาล ธุรกิจต้องมีพวก ต้องมี ทุกอย่าง มันมากไปในโลกธุรกิจ
นิยามของ ธุระกิจ ก้อคือ การซื้อและขาย แค่นั้น
ธุรกิจระดับ ชาวบ้าน คือ ซื้อถูกขายแพง รับส่วนต่างคือกำไร
พูดง่ายๆก้อขายของธรรมดา ทั่วไปแหละครับขายมากได้มากขายน้อยได้นอ้ย ลงทุนมากได้มากลงทุนน้อยได้น้อย
ธุกิจระดับ พลทหาร ก้อคือ ซื้อแพงขายถูก คิกกำไรจากค่าบริการ พูดง่ายๆ หลอกไห้ซื้อถูกกว่าราคาจริงแต่คิดค่าบริการเป็นกำไร ปัจจุบัน ก้อโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ อื่นๆอีกมากมาย
ธุรกิจระดับ นายพล ซื้อแพงขายแพงกว่า อาจดูเหมือนไม่ฉลาดแต่คนฉลาดที่ไหนจะซื้อ ก้อคนโง่งัย เช่นรถยนต์ บ้าน เครื่องประดับ ของที่เป็นปัจจัยที่ห้า คนมักต้องการเพื่ออวดกันแต่ไม่คิดเรยว่าที่อวดน่ะอวดความโง่
ธุรกิจระดับ ยอดคน ซื้อถูกขายแพง ส่วนมากมักเป็นเป็นการขายแบบ โจรปล้นโจร หมายถึงการมีนอกมีใน คนซื้อได้เงิน คนขายก้อได้เงิน เจ้าของเสียเงินสองต่ออิๆเ ช่นระบบราชการไทย
ธุรกิจระดับ นักปราชญ์ มักเป็นการหลอกขายเช่น น้ำอัดลม ราคาต้นทุนแค่20% ของราคาขาย เป็นการขายที่เน้นกระแสตลาดและมักจะสร้างกระแสเอง ธุรกิจเช่นนี้เหมือนง่ายแต่ยาก
ธุรกิจ ระดับอัฉริยะ ก้อคือไมโครซอฟ กูเกิล เป็นการคิดง่ายแต่ขายได้ เน้นการคาดเดาความต้องการของตลาดรวมทั้งมีการพัฒนาต่อเนื่อง ระดับนี้นานๆจะเกินสักที


โดย: ธุรกิจก้อคือมีคนซื้อและขาย IP: 58.172.105.134 วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:22:13:18 น.  

 
แต่คนรวย(เริ่มตั้งแต่รวยความคิด)
ย่อมต้องการหรืออยากได้คนที่ฉลาดกว่ามาทำงานให้
ดูอย่างcp ทำไมเขาถึงรวยอยู่ได เพราะความคิด คิดจ้างคนฉลาดมาทำงาน บริหารงาน
คนรวย คนจน แตกต่างกันตรงความคิด


โดย: kungmoo IP: 202.149.25.235 วันที่: 26 มิถุนายน 2552 เวลา:7:11:07 น.  

 
ขอเสริมข้อเจ็ดครับ

ตามตรรกะคนที่คิดในแง่บวกอยู่เสมอมักจะเป็นคนที่มองเห็นค่าของผู้อื่่นและชอบที่จะให้โอกาสผู้อื่นเสมอ นี่เป็นหนึ่งในลักษณะของคนที่ประสบความสำเร็จครับ เมื่อเห็นคุณค่าของผู้อื่นเขาก็มักจะแสดงในลักษณะของการบริจาคการมอบทุน ต่างๆเป็นต้น

ตามหลักกรรม
การให้ผู้ให้ย่อมเป็นสุข และเมื่อนึกถึงการให้ทานที่ตนได้ทำไว้เขาผู้นั้นจะมีความสุขใจในภายหลั
และการให้ทานเป็นลักษณะประจำตัวของเศรษฐีโดยทั่วๆไปครับ นี่คือสิ่งที่เห็นกันได้ชัดในปัจจุบัน ในอดีตเขาเหล่านี้ก็เคยทำบุญให้ทานไว้มากต่อมากเมื่อมาเกิดในชาตินี้เวลาคิดจะทำสิ่งใดก็ประสบความสำเร็จอยู่เสมอทั้งๆที่ก็มีคนอื่นเขาก็เหมือนเขาแต่ก็ไม่สู้จะสำเร็จเท่ากัน ยกตัวอย่างกรณีของ search engine นี่ก็ชัดๆแล้ว หล่ะครับ


โดย: Tanongsak IP: 202.12.118.61 วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:14:19:07 น.  

 
เพิ่งเจอเว็บบล็อกนี้ รู้สึกสนใจ และชอบอ่านที่คนอื่นเขียน เห็นท่าว่าเวลาแต่ละวันจะไม่พอสำหรับนั่งหน้า comp แล้วละสิ ขอบคุณทุกคน


โดย: ๙ IP: 192.168.10.40, 203.172.196.146 วันที่: 27 ตุลาคม 2552 เวลา:16:33:33 น.  

 
อาจารย์ เป็นคนอ่าน เยอะ เก่ง มากจริงๆ

พอได้อ่านหลายๆบท ความแล้วก็ต้อง นับถือครับ


โดย: สมศักดิ์ IP: 58.8.89.207 วันที่: 21 กรกฎาคม 2554 เวลา:11:42:00 น.  

 
ความลับ
ขอบคุณครับ


โดย: luzefer IP: 180.183.227.120 วันที่: 26 สิงหาคม 2554 เวลา:11:51:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wbj
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 210 คน [?]




ต้องการสอบถาม กรุณาติดต่อทางเมล์ที่ wbjoong@gmail.com หรือ 062 641 5992, 062 826 1544

วิทยากรเชิงกิจกรรม

วิทยากรกระบวนการ

ที่ปรึกษาธุรกิจ

ด้านการบริหารจัดการ

การตลาดและการประชาสัมพันธ์

การบริหารทรัพยากรมนุษย์

การวางแผนกลยุทธ์

วิจัยธุรกิจ

IT Dashboard



ไม่ได้ ไม่มี ไม่ดี ไม่ได้...
ต้องได้ ต้องดี ต้องมี ต้องง่าย
และ ทำให้ดีกว่าดีที่สุด



<< Main Menu >>



ดวงถาวร


ดวงตามวันเกิด



ดวงตามปีเกิด






;b[^]pN 06' ไรินนื ่นนืเ "รินนื ๋นนืเ c:j06'

ต้องการสอบถาม โทร 062-641-5992, 062-826-1544
ติดต่อทางเมล์ที่ wbjoong@gmail.com
Line ID : wbjoong

ที่ปรึกษาธุรกิจ ด้านการบริหารจัดการ การตลาดและการประชาสัมพันธ์ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ และ การวางแผนกลยุทธ์ วิทยากรเชิงกิจกรรม, วิทยากรกระบวนการ นักวิจัยการดำเนินงานธุรกิจ Executive & Management Coach

ไม่ได้ ไม่มี ไม่ดี ไม่ได้... ต้องได้ ต้องดี ต้องมี ต้องง่าย และ ทำให้ดีกว่าดีที่สุด
<< Main Menu >>
Friends' blogs
[Add wbj's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friends


 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.