|
|
| | 1 | 2 | 3 |
| 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
| 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
| 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
| 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
20 มีนาคม 2550.........10 ปี เรือหลวงจักรีนฤเบศร
เมื่อวานนี้ วันที่ 20 มีนาคม 2550 เป็นวันครบรอบ 10 ปี ของการขึ้นระวางประจำการของเรือหลวงจักรีนฤเบศร เรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกและลำเดียวในภูมิภาค
10 ปีที่ผ่านมา แม้เรือหลวงจักรีนฤเบศร (ต่อไปจะขอเรียกชื่อเล่นว่า 911 ตามหมายเลขประจำเรือนะครับ) จะไม่ได้รบกับใคร....ซึ่งดีแล้วล่ะครับ....แต่เรือลำนี้ก็มีบทบาทในการช่วยเหลือประชาชนในหลาย ๆ ครั้ง ทั้งปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ พายุต่าง ๆ สึนามิ ไปจนถึงการช่วยเหลือคนไทยในกัมพูชา
วันนี้ ผมขอท่านไปรู้จักกับเรือลำนี้ให้มากขึ้นอีกนิดกันครับ
คงยังจำกันได้ถึงตอนที่ใต้ฝุ่นเกย์ถล่มประเทศไทย กองทัพเรือในฐานะเป็นกำลังหลักในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหน่วยหนึ่งนั้นพบว่า เรือที่เรามีอยู่นั้นมันทั้งเล็ก ทั้งบาง โต้คลื่นแรง ๆ อย่างงั้นไม่ไหว ประกอบกับเราต้องการเพิ่มศักยภาพในการปกป้องน่านน้ำไทย จึงเป็นที่มาของการซื้อเรือบรรทุกฮ. ซึ่งทางรัฐบาลได้จ้างบริษัท Bazan-Ferrol ต่อเรือให้เราในราคา 7,000,000,000 บาท และใช้แบบของเรือ Principe de Asturias ของสเปนแม่แบบในการสร้าง โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชนินีนาถทรงเสด็จไปทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำที่ประเทศสเปนเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2539 จากนั้นเรือได้ทำการฝึกกับ Principe de Asturias ที่สเปนและเดินทางกลับประเทศไทย
โดยทั่ว ๆ ไปแล้วต่างประเทศจัดเรือลำนี้เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินครับ และจัดให้ไทยเป็นประเทศที่ปฏิบัติงานด้วยเรือบรรทุกเครื่องบินด้วยเช่นกัน ทาง IZAR ซึ่งเป็นผู้ต่อเรือเรียกเรือลำนี้ว่า Compact Aircraft Carrier แต่เพื่อความเหมาะสม กองทัพเรือจึงเรียกเรือลำนี้ว่า "เรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์"
เรือจักรีนฤเบศรมีระวางขับน้ำสูงสุด 11,486 ตัน ความเร้วสูงสุด 26 น็อต ระยะปฏิบัติการประมาณ 10,000 ไมล์ทะเล การจัดอากาศยานที่จะไปกับเรือนั้นจะเป็นไปตามภารกิจ ส่วนมากจะบรรทุกเครื่องบิน AV-8S ไป 6 ลำ และฮ. SH-60B อีก 4 ลำ กระสุนและอาวุธอีก 100 ตัน
เรือมีระบบอาวุธคือจรวดต่อสู้อากาศยาน Mistral ซึ่งติดตั้งในแท่นปล่อย Sadral จำนวน 3 แท่น ปืนกล .50 นิ้ว อีก 2 กระบอก
แต่โดยทั่วไปแล้ว เรือจักรียังขาดระบบต่าง ๆ ที่ต้องติดอีกมาก แน่นอน งบยังไม่มี
อากาศยานประจำเรือประกอบไปด้วย
AV-8S Harrier Matador
ความจริง Harrier รุ่นนี้ก็คือ Harrier รุ่น A ที่สเปนนำมาโมแล้วเปลี่ยนชื่อเป็นรุ่น S "Matador" เราซื้อแบบมือสองมาจากฝูงบินนาวีที่ 8 ของกองทัพเรือสเปนในราคา 90 ล้านเหรียญ ซึ่งดูท่าแล้วเจ้าเครื่องนี้จะเป็นเครื่องโจมตีมากกว่าเครื่องบินขับไล่เพราะมันไม่มีเรด้าห์ Harrier ของทร.ตัวนี้ตั้งแต่จัดหามาค่อนข้างประสบปัญหาขาดแคลนอะไหล่มาโดยตลอด ไม่แน่ใจว่าทุกวันนี้ความพร้อมรบจะสักเท่าไหร่ บางท่านบอกว่าบินได้ 2 ลำบ้าง 3 ลำบาง คละเคล้ากันไป
Harrier ของเราเป็นเครื่องมือสอง แม้สเปนจะดุแลมันได้เป็นอย่างดี แต่อีกไม่นานมันก้จำเป็นจะต้องปลดประจำการไป ซึ่งตอนนี้ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าทร.เองยากได้เครื่องมาแทนเจ้านักสู้วัวอยู่หรือเปล่า เพราะยังไม่เห็นเขียนในแผนการจัดหาเลย บางทีทร.อาจจะใช้จนหมดสภาพและปลดประจำการ และทำให้เรือลำนี้เป็นเรือบรรทุกฮ.เต็มตัวก็ได้ในช่วงนี้
ในอนาคตถ้าทร.ต้องการให้มีเครื่องบินประจำการบนเรือลำนี้จริง ๆ มีทางเลือกอยู่ 2 ทาง ทางเลือกรแกคือจัดหา Harrier มือสองจากทางฝั่งอังกฤษ (Harrier GR.7) ที่เพิ่งปลดประจำการไปและอินเดียยกเลิกการจัดหาเข้าประจำการหรือจัดหา AV-8B Harrier II Plus จากนาวิกโยธินสหรัฐมาใช้ ซึ่งทางเลือกนี้ยังต้องพิจารณาข้อกำหนดอีกหลายข้อ คือ AV-8B ของ USMC นั้นยังจะประจำการไปอีกนาน ถ้าจะจัดหามาก็ต้องจัดหารุ่นที่ปลดไปแล้ว หรือถ้าเราจะไม่มอง Harrier จริง ๆ ก็คงต้องไปเข้าคิวซื้อเครื่อง F-35 B แล้วล่ะครับ เพราะเป็นเครื่องขึ้นลงทางดิ่งรุ่นเดียวที่จะผลิตในอนาคต ซึ่งเราคงต้องรอนานกว่าจะได้มา คือในราว ๆ ปี 2015 - 2020 เพราะต้องต่อคิวรอซื้อหลังจากประเทศที่เข้าร่วมโครงการ
SH-60B Sea Hawk
ฮ.ตัวนี้ถูกกำหนดชื่อว่า ฮ.ปด.๑ หรือเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำแบบที่ ๑ ซึ่งบางท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมหน้าตามันเหมือน Black Hawk ของทบ.จัง คำตอบก็คือมันเป็น Black Hawk รุ่นใช้งานทางทะเลนั้นเอง เราซื้อมาเป็นมือหนึ่งทั้งหมด 6 ลำราคา 138 ล้านเหรียญ
เช่นเดียวกับเรือที่มันอยู่ Sea Hawk ของเรายังติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ครบถ้วน ว่ากันจริง ๆ ก็คือยังไม่เคยมีใครเห็นรูป Sea Hawk แบกตอร์ปิโดว์เลย ไม่รู้ว่ามันเป็นความลับหรือติดยังไม่ได้กันแน่ แหะ ๆ
เคยเห็นข่าวจากต่างประเทศเช่นกันครับว่า ทร.กำลังทำการ Upgrade ฮ. Sea Hawk ทั้ง 6 ให้สมบูรณ์ แถมตังจะปรับปรุงให้สามารถติดตั้งจรวดปราบเรือรบ Penguin อีกด้วย ซึ่งถ้าเป็นจริง ก็เพิ่มขีดความสามารถของฮ.แบบนี้ได้มากทีเดียว
อีกเรื่องหนึ่งคือ Operating Cost ครับ เรือลำนี้มี Operatin Cost ค่อนข้างสูง ยิ่งทร.ซึ่งเป็นเหล่าทัพที่งานหนักแต่เงินน้อยด้วยแล้ว ยิ่งยากที่เรือจะได้ออกทะเลบ่อย ๆ ซึ่งถ้าอยากให้เรือมันสมบูรณ์จริง ๆ เงินมันต้องมาด้วยครับ
ยังไงก็ตาม ถ้าเกิดอะไรขึ้น เช่นน้ำท่วม หรือพายุ เรือลำนี้ก็ยังพร้อมเสมอที่จะออกไปช่วยเหลือชีวิตมนุษย์ ซึ่งเชื่อว่าในอนาคต ถ้าเศรษฐกิจเราดี ๆ รัฐบาลให้งบมา เรือลำนี้คงได้ติดอะไรเพิ่มขึ้นตามแผนสักวันครับ
เกร็ดเล็ก ๆ ของเรือลำนี้
-เรือลำนี้เดินทางกลับไทยโดยผ่านทะเลเมดิเตอร์เรเนียน คลองสุเอซ มหาสมุทรอินเดีย จนถึงไทย
-เรือประจำการอยู่ที่อ่าวไทย แต่ก็เคยเดินทางไปช่วยสึนามิที่อันดามันมาแล้ว
-การสตาร์ดเครื่องเรือแต่ละครั้ง ว่ากันว่าใช้เงินถึง 200,000 บาท......แค่สตาร์ดเครื่องนะครับ
-เรือลำนี้พลาดการออกปฏิบัติการที่ติมอร์ตะวันออก คงเป็นเพราะไม่มีตังค์ (เพราะต้มยำกุ้งแผลงฤทธิ์พอดี)
- เรือลำนี้ไม่ใช่เรือลำที่ใหญ่ที่สุดในกองทัพเรือไทยครับ เรือลำที่ใหญ่ที่สุดคือเรือหลวงสิมิลัน ระวางขับน้ำ 20,000 ตัน รองลงมาคือเรือหลวงจักรีนฤเบศร 11,486 ตัน อันดับสามคือเรือชุดเรือหลวงพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ระวางขับน้ำประมาณ 4,000 ตัน
- เรือลำนี้เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และลำเดียวที่กำลังประจำการอยู่ในภูมิภาคเอเชียแฟซิปิก
- ไทยเป็น 1 ใน 9 ประเทศที่ปฏิบัติงานด้วยเรือบรรทุกเครื่องบิน ซึ่งนอกจากไทยแล้วยังมีบราซิล ฝรั่งเศส อินเดีย อิตาลี รัสเซีย สเปน สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา
-แต่ฝรั่งส่วนใหญ่ยังไม่รู้เลยว่าเรามีเรือบรรทุกเครื่องบินกะเค้าด้วย
-911 เป็นรหัสของเรือ และเป็นชื่อเล่นที่กลุ่มเพื่อน ๆ ของผมใช้เรียกเรือจักรี การสร้างเรือจงถึงการปล่อยลงน้ำนั้นทุกอย่างเป็นฤกษ์เลข 9 ทั้งหมด
| Create Date : 22 มีนาคม 2550 |
| Last Update : 5 พฤศจิกายน 2550 13:42:37 น. |
|
13 comments
|
| Counter : 8085 Pageviews. |
 |
|
|
| โดย: กิตติโชค IP: 203.147.0.48 วันที่: 22 มีนาคม 2550 เวลา:1:23:23 น. |
|
|
|
โดย: น้องเบิร์ด (AsWeChange  ) วันที่: 22 มีนาคม 2550 เวลา:4:38:06 น. |
|
|
|
| โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 22 มีนาคม 2550 เวลา:15:31:53 น. |
|
|
|
| โดย: กิตติโชค IP: 203.147.0.44 วันที่: 22 มีนาคม 2550 เวลา:19:38:20 น. |
|
|
|
| โดย: PaveHawk IP: 125.24.143.169 วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:23:35:29 น. |
|
|
|
| โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:10:25:49 น. |
|
|
|
| โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:10:27:05 น. |
|
|
|
| โดย: tow IP: 203.113.67.5 วันที่: 3 พฤษภาคม 2550 เวลา:20:25:37 น. |
|
|
|
| โดย: กบร. IP: 58.9.192.188 วันที่: 4 พฤษภาคม 2550 เวลา:11:22:31 น. |
|
|
|
| โดย: อัครเดช IP: 203.113.17.180 วันที่: 5 พฤษภาคม 2550 เวลา:13:11:25 น. |
|
|
|
| โดย: เอ คนสร้างเรือ IP: 203.113.17.180 วันที่: 5 พฤษภาคม 2550 เวลา:13:12:34 น. |
|
|
|
| โดย: นัท IP: 124.120.177.230 วันที่: 30 พฤษภาคม 2550 เวลา:22:58:48 น. |
|
|
|
| โดย: จริงๆ นะ IP: 222.123.230.71 วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:18:57:27 น. |
|
|
|
|
|
|
|
@ จ่อยน้องลิง @
@ จ่อยหัวหอม @
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 56 คน [
Bazan-Ferrol กับ IZAR ใครเป็นผู้ต่อเรือหลวงจักรีนฤเบศรของเรากันแน่หรือครับ เห็นเอ่ยมาสองชื่อในบทความ
เพึ่งรู้ไม่นานว่ามีเรือที่ใหญ่กว่าเรือจักรีนฤเบศรด้วย ทั้งที่ความกว้างและยาวของเรือหลวงสิมิลันน้อยกว่า...แล้วระวางขับน้ำมากกว่าได้ยังไงเนี่ย