|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
เยี่ยมชมเรือดำน้ำ USS City of Corpus Christi แบบเจาะลึก!
กองกำลังเรือดำน้ำนิวเคลียร์ของสหรัฐคือหนึ่งในนาวิกานุภาพที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดในโลก ซึ่งช่วยให้สหรัฐครอบครองมหาสมุทรทั้งหมดได้ และนั่นก็หมายถึงสหรัฐสามารถควบคุมความเป็นไปของโลกนี้ได้ภายใต้อำนาจของนาวิกานุภาพของกองทัพเรือสหรัฐ
ด้วยความกรุณาจากสถานฑูตสหรัฐประจำประเทศไทย วันนี้ ThaiArmedForce.com ได้รับโอกาสพิเศษที่สุดที่หาได้ยากยิ่ง นั่นก็คือ ทีมงานของเราสองคนได้รับโอกาสให้ลงไปเยี่ยมชมเรือดำน้ำ USS City of Corpus Christi ซึ่งเป็นหนึ่งในเรือดำน้ำนิวเคลียร์ชั้น Los Angeles จำนวน 45 ลำซึ่งปฏิบัติการอยู่ทั่วโลก ในโอกาสที่มาแวะพักที่ประเทศไทยหลังจากการปฏิบัติการในตะวันออกกลาง นี่เป็นไม่กี่ครั้งที่กองทัพเรือสหรัฐได้อนุญาตให้สื่อมวลชนลงไปเยี่ยมชมเรือดำน้ำนิวเคลียร์ของกองทัพเรือสหรัฐ โดยจะอนุญาตให้เฉพาะในโอกาสพิเศษที่เรือดำน้ำมาแวะพักที่มิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์อย่างดีเยี่ยมกับกองทัพเรือสหรัฐเท่านั้น ช่วงเวลาครึ่งชั่วโมงในเรือจึงเป็นช่วงเวลาที่หาได้ยากยิ่งจริง ๆ ครับ ดังนั้น ขอเชิญทุกท่าน ตามเราลงเรือดำน้ำนิวเคลียร์ลำนี้กันได้เลยครับ

ในตอนเช้ามืดของวันที่ 24 ตุลาคม 2552 เรือหลวงคีรีรัตน์ของกองทัพเรือไทยได้รับคำสั่งให้ไปรอ ณ จุดนับพบบริเวณกลางอ่าวไทยเพื่อรอรับเรือสองลำซึ่งจะมาแวะพักในประเทศไทยในช่วงหลายวันนับจากนี้ เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องธรรมดาถ้าเรือทั้งสองลำนี้ไม่ใช่หนึ่งในเรือรบที่ดีที่สุดในโลกทั้งบนผิวน้ำและใต้น้ำ นั่นก็คือเรือ USS Decatur (DDG-73) ซึ่งเป็นเรือพิฆาต AEGIS ชั้น Arleigh Burke ของกองทัพเรือสหรัฐ และเรือดำน้ำนิวเคลียร์ USS City of Corpus Christi (SSN 705) ซึ่งเป็นเรือดำน้ำนิวเคลียร์ชั้น Los Angeles ของกองทัพเรือสหรัฐเช่นกัน ด้วยการนำทางของเรือหลวงคีรีรัตน์ เรือทั้งสองลำเข้าเทียบท่า ณ ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรีในช่วงตี 4 ของวันที่ 24 ตุลาคม และในอีกไม่กี่ชั่วโมงนับจากนั้น เราจะได้มีโอกาสชมเรือดำน้ำนิวเคลียร์ลำนี้กันอย่างใกล้ชิด

ผู้ที่จะพาเราเยี่ยมชมเรือในวันนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากนาวาโท Robert M. Gaucher ผู้บังคับการเรือ USS City of Corpus Christi ลำนี้ครับ ท่านจะพาเราเยี่ยมชมเรือของท่านในวันนี้
ผู้การ Gaucher กล่าวว่า "ผมตื่นเต้นมากที่ได้มาเยือนประเทศไทยในครั้งนี้ สำหรับผมแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสมาเยือนประเทศไทย และลูกเรือส่วนใหญ่ของผมก็เช่นกัน ผมดีใจที่ได้มีส่วนในการช่วยสร้างความสัมพันธ์ของเรากับประเทศไทยซึ่งยาวนานมากกว่าใคร ๆ ในแถบตะวันตกของแฟซิปิก (ตะวันตกของสหรัฐ) ที่นี่เราวางแผนที่จะทำการฝึกร่วมกับกองทัพเรือไทยพร้อมกับมีโครงการช่วยเหลือชุมชนในพื้นที่อีกด้วย"
ตามผู้การ Gaucher ลงมาเลยครับ

และไม่ไกลจากจุดที่เราลงมา นี่คือที่แรกที่เราได้เข้าไปเยี่ยมชม ถ้าเราดูหนังเกี่ยวกับเรือดำน้ำอย่าง Crimson Tide หรือ The Hunt For The Red October แล้วล่ะก็ นี่คือห้องที่ท่านจะต้องคิดถึงครับนั้นก็คือห้องศูนย์ยุทธการ (Combat Information Center) ของเรือดำน้ำลำนี้นั่นเอง

และในเมื่อเรือลำนี้เป็นเรือดำน้ำ ดังนั้นอย่าคาดหวังความกว้างขวางโอ่โถ่งภายในเรือลำนี้ครับ ห้องศูนย์ยุทธการไม่ใหญ่ไปกว่าห้องพักในหอพักนักศึกษาเลย แต่ทุกมุมของห้องอัดแน่นไปด้วยเครื่องมือและแผงควบคุมต่าง ๆ จำนวนมาก
ตอนนี้ผู้การกำลังสาธิตการใช้กล้อง Periscope ของเรือดำน้ำครับ เมื่อมองเข้าไปในกล้องนั้นจะดูคล้ายเรามองผ่านช่องมองภาพของกล้องถ่ายภาพดี ๆ นี่เอง

ซึ่งภาพจากกล้อง Seriscope จะแสดงผลมาที่จอด้านขวานี้ด้วยเช่นกันครับ
ผมถามผู้การ Gaucher ว่าเรือลำนี้มีบทบาทในกองทัพเรือสหรัฐอย่างไร? .... "เรือดำน้ำสามารถทำได้แทบทุกอย่าง แม้ว่าเราจะเป็นเรือสำหรับการรบ แต่ภารกิจจริง ๆ ของเราก็คือการธำรงค์รักษาสันติภาพและเสถียรภาพ ซึ่งสำหรับภารกิจในการรบนั้น เราสามารถทำภารกิจได้มากไม่ว่าจะเป็นการต่อต้านเรือดำน้ำ การต่อต้านเรือผิวน้ำ ภารกิจการลาดตระเวน หรือแม้แต่ทำงานร่วมกับหน่วยซีล (SEALs) แต่เราก็หวังว่าเราจะไม่ต้องทำภารกิจเหล่านี้จริง ๆ "
เพราะนั่นก็คงหมายถึงสงคราม ซึ่งถ้าเกิดมันเกิดขึ้นจริง ๆ ห้องนี้ก็ถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำภารกิจเหล่านั้นนั่นเองครับ

ส่วนวงกลมสองอันนี้ก็คือพังงาเรือหรือพวงมาลัยของเรือที่จะควบคุมเรือนั่นเองครับ ผู้การ Gaucher บอกว่า "คนที่ทำหน้าที่ถือพังงาเรือนั้นมีอายุแค่ 19 ปีเท่านั้น มันเป็นภาระรับผิดชอบที่มากทีเดียวถ้าเทียบกับอายุของเขา แต่มันก็เป็นเรือน่าตื่นเต้นเหมือนกัน คิดดูสิครับ คุณอายุ 19 ปี แต่ได้บังคับเรือดำน้ำนิวเคลียร์"

ไม่นานผู้การ Gaucher ก็นำเราไปที่ห้องเล็ก ๆ ข้าง ๆ ห้องศูนย์ยุทธการครับ ห้องนี้มีขนาดเล็กมากคือราว ๆ 1.5 เมตร x 4 เมตรเท่านั้นเมื่อวัดจากสายตา แต่กลับเป็นห้องที่มีความสำคัญกับเรือลำนี้มากที่สุดห้องหนึ่งเพราะมันเป็นห้องสำหรับพนักงานโซนาร์นั่นเอง เนื่องจากเรือลำนี้ไม่มีหน้าต่าง การรับรู้ความเปลี่ยนแปลงในโลกภายนอกนั้น นอกจากกล้อง Periscope แล้วก็ต้องอาศัยการอ่านกราฟของสัญญาณโซนาร์ที่เรือตรวจจับได้ ซึ่งมันก็เปรียบเสมือนหูและตาของเรือนั่นเองครับ

หลังจากนั้น ผู้การ Gaucher พาเราลงมาในชั้นล่างของเรือซึ่งเป็นห้องที่สำคัญอีกห้องหนึ่งนั่นก็คือห้องเก็บอาวุธนั่นเองครับ
นี่คือตอร์ปิโดว์ขนาด 553 มิลลิเมตรรุ่น Mk 48 ของจริง ๆ ที่วางอยู่บนแท่นรอการบรรจุเข้าท่อปล่อยครับ โดยรางนี้จะทำหน้าที่โหลดตอร์ปิโดว์เข้าไปที่ท่อปล่อยด้านหน้าเมื่อต้องการใช้งานครับ

นี่ก็คือท่อปล่อยครับ ตอร์ปิโดว์จะสามารถบรรจุลงท่อได้เลย ซึ่งท่อนี้ยังว่างอยู่แปลว่าไม่มีตอร์ปิโดว์บรรจุอยู่ (แต่ท่ออีกด้านนั้นมีการบรรจุตอร์ปิโดว์ไว้ด้วย)

ข้างใต้ของรางปล่อยตอร์ปิโดว์ Mk 48 นั้นคือหนึ่งในระบบอาวุธที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกครับ เชื่อแน่ว่าหลายท่านคงจะเคยได้ยินชื่อของมันแน่นอน เพราะมันคือขีปนาวุธ Towmahawk นั่นเองครับ อยู่ข้างในกล่องนี่แหละครับ Towmahawk ตัวเป็น ๆ เลย

อีกฝากหนึ่งของห้องเก็บอาวุธนั้นจะเจอนี่ครับ ที่นอนนั่นเอง! ใช่แล้วครับ ลูกเรือนอนกันข้างตอร์ปิโดว์!!!
"เรามีกำลังพล 140 คนซึ่งนั้นมากกว่าที่นอนที่เรามีครับเนื่องจากเรามีพื้นที่จำกัดมาก ดังนั้นส่วนมากแล้วเราจะต้องแบ่งที่นอนจำนวน 2 ที่สำหรับคน 3 คน นั่นหมายความว่าจะต้องมีใครคนหนึ่งลุกออกไปทำงานเสมอ แต่สำหรับชาวเรือดำน้ำแล้วนี่คือสิ่งที่เราต้องเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่" ผู้การ Gaucher กล่าว
"เราสามารถใช้เวลาเป็นเดือน ๆ ดำอยู่ใต้ทะเลโดยไม่ต้องการการสนับสนุน ผมเคยออกทะเลไปมากกว่า 3 เดือนโดยไม่ได้กลับเข้าฝั่งเลย ซึ่งอันที่จริงเราสามารถออกไปได้นานกว่านั้น แต่มันก็ถูกจำกัดอยู่ที่อาหารที่เรานำไปได้"

และนี่ก็สิ้นสุดการทัวร์เรือของเราก่อนที่ผู้การ Gaucher จะพาพวกเราไปที่ห้องรับประทานอาหารของนายทหารครับ ขอลาห้องตอร์ปิโดว์กันด้วยภาพนี้ครับ เป็นท่อยิงตอร์ปิโดว์ซึ่งบรรจุตอร์ปิโดว์ Mk 48 ไว้พร้อมยิง!!!

"เรือดำน้ำสามารถเดินทางไปได้ทุกที่ ทุกเวลาด้วยความรวดเร็ว ซึ่งมันเปิดโอกาสให้เราสร้างเสถียรภาพให้กับการวางกำลังของหน่วยอื่น ... และเราก็เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของประเทศในการดำเนินการตามภารกิจที่เราได้รับมอบหมายโดยการใช้ความสามารถที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเรา" ผู้การ Gaucher กล่าวเมื่อผมถามถึงบทบาทของเรือดำน้ำในกองทัพเรือสหรัฐ ซึ่งผู้การ Gaucher ให้เกียรติเลี้ยงน้ำมะนาวพวกเราโดยท่านเป็นผู้เทน้ำให้เอง
ในห้องนี้คือห้องรับประทานอาหารของนายทหารครับ มันมีขนาดราว ๆ ห้องน้ำเกือบ ๆ สองห้องเท่านั้นเอง ที่นี่มีแก้วน้ำวางเรียงกันอยู่พร้อมกับเครื่องชงกาแฟและครัวซึ่งอยู่ในประตูอีกด้านหนึ่ง

ส่วนใหญ่แล้วเรือรบต่าง ๆ ของกองทัพเรือไทยมักจะมีเครื่องชงกาแฟทั้งนั้น และหลายครั้งก็มักจะมีเสียงบอกกล่าวกันว่ากาแฟของเรือลำไหนอร่อยกว่ากัน ผมเลยลองถามผู้การ Gaucher ว่ากาแฟของเรือของท่านนั้นรสชาติเป็นยังไง? :twisted:
"กาแฟของเรารสชาติดีครับ หลายโอกาสเรามีกาแฟของสตาร์บัคดื่มกัน แต่นั่นก็คือเราต้องนำมันลงมาในนี้เอง" ผู้การ Gaucher กล่าวพร้อมกับหัวเราะ :lol:

สักพักนึง เราก็ปีนออกมาจากเรือครับ เชื่อว่านี่คือประสบการณ์ที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งของทุกคนในวันนั้นทีเดียว

ดูภายในเรือแล้ว เรือก็แคบ แสงอาทิตย์ก็แทบไม่เคยได้เห็น ต้องอยู่เงียบ ๆ ใต้ทะเลนานหลายสัปดาห์ ผมเลยถามผู้การ Gaucher แล้วอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดของการเป็นชาวเรือดำน้ำ?
"สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการเป็นชาวเรือดำน้ำก็คือผู้คน ผมอาจจะรู้สึกลำเอียงไปบ้าง แต่ผมพูดได้ว่าเรามีลูกเรือที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีที่สุดซึ่งได้รับการคัดเลือกมาอย่างเข้มข้น ทุกวันผมเฝ้าดูพวกเขาอย่างภาคภูมิใจเมื่อพวกเราออกทะเลไปและปฏิบัติการกับเรือลำนี้ ผมคิดว่านี่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการทำงานในเรือดำน้ำ"

จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา กองเรือดำน้ำของสหรัฐนั้นเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ขาดไม่ได้เสมอมาเมื่อสหรัฐต้องเข้าร่วมปฏิบัติการทางทหารทั่วโลก การมีเรือดำน้ำลอยอยู่นอกประเทศข้าศึกไม่เพียงหมายถึงการสร้างความวิตกและความลำบากให้กับการปฏิบัติการของข้าศึกเท่านั้น แต่มันยังเป็นอาวุธลับในการปฏิบัติการเพื่อป้องกันกำลังของฝ่ายสหรัฐจากอันตรายของกำลังทางเรือของข้าศึก และในอีกแง่หนึ่ง เรือดำน้ำของสหรัฐเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการสืบหา เฝ้าคอย รวมถึงปฏิบัติการรวบรวมข่าวกรองในพื้นที่ต้องสงสัยด้วยการใช้ลักษณะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเราดำน้ำคือความเงียบและการพรางตัว เราจึงเรียกเรือดำน้ำทั้งหลายว่าเป็น "Silent Service" หรือผู้ปฏิบัติงานในความเงียบนั่นเอง

ทีงาน ThaiArmedForce.com ขอขอบคุณ
- Mr. Michael Turner ผู้ช่วยฑูตฝ่ายสื่อมวลชน และคุณบุษบงลาวัลย์ พัฒโร ผู้ชำนาญการด้านประชาสัมพันธ์ สถานฑูตสหรัฐประจำประเทศไทย - นาวาโท Robert M. Gaucher ผู้บังคับการเรือ USS City of Corpus Christi และกำลังพลทุกคนของเรือ

ภาคผนวก
เกี่ยวกับเรือ USS City of Corpus Christi
- USS City of Corpus Christi เป็นเรือดำน้ำโจมตีพลังงานนิวเคลียร์ในชั้น Los Angeles หนึ่งใน 45 ลำของเรือชั้นนี้ เรือประกอบพิธีวางกระดูกงูในวันที่ 4 กันยายน 1979 ทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำในวันที่ 25 เมษายน 1981 และขึ้นระวางประจำการในวันที่ 8 มกราคม 1983
- USS City of Corpus Christi เป็นเรือลำที่สองที่ได้รับการตั้งชื่อตามเมือง Corpus Christi ในรัฐเท็กซัส โดยมีคำขวัญประจำเรือว่า "เพื่อพระเจ้าและประเทศชาติ" (For God and Country)
- USS City of Corpus Christi เคยปฏิบัติงานในหลายพื้นที่ทั่วโลก ปัจจุบันเรือมีฐานปฏิบัติการอยู่ที่เกาะกวมภายใต้หมวดเรือดำน้ำที่ 15 ซึ่งถือเป็นเรือดำน้ำชั้น Los Angeles ลำแรกที่ถูกส่งไปประจำการที่นั่น
Create Date : 25 ตุลาคม 2552 |
Last Update : 25 ตุลาคม 2552 1:04:59 น. |
|
13 comments
|
Counter : 6322 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: YUCCA วันที่: 25 ตุลาคม 2552 เวลา:2:10:10 น. |
|
|
|
โดย: หน่อยอิง วันที่: 25 ตุลาคม 2552 เวลา:7:31:09 น. |
|
|
|
โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 25 ตุลาคม 2552 เวลา:13:25:30 น. |
|
|
|
โดย: น้ำเค็ม วันที่: 25 ตุลาคม 2552 เวลา:18:10:46 น. |
|
|
|
โดย: จูหน่านพ วันที่: 25 ตุลาคม 2552 เวลา:19:40:31 น. |
|
|
|
โดย: จูหน่านพ วันที่: 28 ตุลาคม 2552 เวลา:21:09:31 น. |
|
|
|
โดย: น้องผิง วันที่: 29 ตุลาคม 2552 เวลา:12:01:27 น. |
|
|
|
โดย: yoddel19 วันที่: 18 กรกฎาคม 2553 เวลา:17:14:25 น. |
|
|
|
|
|
|
@ จ่อยน้องลิง @
@ จ่อยหัวหอม @

|
|
|
|
|
|
|