Su-47 Burkut เครื่องบินล่องหนจากรัสเซียกับความเป็นไปได้ที่จะเข้าประจำการ
ช่วงนี้กระแสบอลโลกดูดเอาความขยันของผมในการเขียน Blog ไปเกือบหมด วันนี้ว่าง ๆ เลยรื้อค้นความรู้ในสมองกลับมาเขียนใหม่ครับ ในฐานะที่ไม่ได้เขียนในหัวข้อนี้มานานแล้ว จึงขอเริ่มด้วยเรือที่น่าสนใจเรื่องนี้ครับ
Russia will launch its first fifth-generation aircraft in 2007, the commander of the country's air force said Thursday. "Several experimental models will take to the skies as early as 2007, but for now they will be equipped with intermediary engines," Vladimir Mikhailov told journalists. "In the future they will get fifth-generation engines, development of which is ongoing." He said fifth-generation engines would be created by 2010, but that: "If everything goes well, we will be able to complete work earlier." Defense Minister Sergei Ivanov said June 14 that Russia's first fifth-generation plane could make its maiden flight in 2009. Mikhailov said in March that the new plane would be virtually invisible to air-defense systems. He said the air force's financing would be increased in 2007, but did not name the exact figure.
//www.idrw.org
จากเนื้อข่าวสรุปได้ว่าเครื่องบินยุคที่ 5 (ยุคเดียวกับ F-22 F-35) ของรัสเซียจะเริ่มโครงการครั้งแรกในปี 2007 นี้ โดยเครื่องมีคุณสมบัติที่สำคัญก็คือ คุณสมบัติการตรวจจับได้ยาก หรือ Stealth นั้นเอง
ข้อมูลในปัจจุบันนั้นยังชี้ชัดไปลำบากถึงรูปร่างลักษณะของเครื่องบินลำใหม่นี้ของรัสเซีย แต่มีเครื่องบินลำหนึ่งที่น่าสนใจซึ่งเป็นเครื่องบินทดลองที่สร้างความแปลกใหม่ให้กับโลกอากาศยานทางทหาร ทั้งในด้านรูปร่างที่เป็นเอกลักษณ์ สีที่เข้ากับยุค และประสิทธิภาพของมัน ซึ่งดูแล้ว ณ ปัจจุบันนี้ก็คงมีเครื่องบินแบบนี้แบบเดียวที่พอจะเข้าข่ายเครื่องบินยุคที่ 5 ของรัสเซียตามข่าวที่ออกมา ใช่ครับ ผมกำลังพูดถึง Su-47 Burkut หรือ Golden Eagle นั้นเอง
Su-47 นั่นใช้ลำตัว แพนหางดิ่ง และชุด landing gear จากเครื่องบินตระกูล Su-27 เพื่อประหยัดงบประมาณ โดยส่วนปีกนั้นทำด้วยวัสดุผสม มีปีกคาร์นาร์ดเพื่อเพิ่มเสถียรภาพในการบิน
forward-swept wings อันโด่งดัง
แทบทุกคนเมื่อเห็นปีกลู่หน้าอันโด่งดังของเจ้า Burkut ก็คงต้องทึ่งในความสามารถของวิศวกรรัสเซีย แต่ทำไมต้องปีกลู่หน้าล่ะ???
ปีกลู่หน้าช่วยในการบินที่มุมปะทะสูง ๆ เสริมสร้างคุณสมบัติด้านอากาศพลศาสตร์ให้กับเครื่องในความเร็วต่ำกว่าเสียง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบินใช้อาวุธที่ความสูงมาก ๆ ได้ เพิ่มพิสัยให้เครื่องบิน ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีเครื่องบินรบแบบใดในประจำการที่ใช้ปีกลู่หน้าเลย
Plasma Stealth จากค่ายรัสเซีย
ผมเคยได้ยินมาว่ารัสเซียนั้นวางแผนทดลองเทคโนโลยีพลาสม่าสเตลล์กับเครื่องบินรุ่นนี้ด้วยครับ
ในปัจจุบัน เทคโนโลยีล่องหนฝั่งสหรัฐนั้นใช้การเคลือบสารลดการสะท้อนเรด้าห์และใช้เหลี่ยมมุมของเครื่องบินเพื่อลด RCS (Radar Cross Section: ภาคตัดขวางของเรด้าห์) ซึ่งมีข้อเสียเช่นใน F-117 นั้นจำเป็นต้องพ่นสารลดการสะท้อนเรด้าห์ทุก ๆ 10 เที่ยวบินเพื่อรักษาสภาพการล่องหนเองไว้
แต่พลาสม่าสเตลลืนั้นใช้หลักการที่แตกต่างกัน กล่าวคือตัวเครื่องบินนั้นจะสร้างสนามพลาสม่ารอบ ๆ เครื่องซึ่งจะดูดซับพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าจากเรด้าห์ของเครื่องบินข้าศึกและทำให้กระแสเรด้าห์โค้งงอออกนอกเครื่อง ซึ่งจะลด RCS ได้ถึง 100 เท่าเลยที่เดียว
แต่เทคโนโลยีนี้ยังคงเป็นปริศนาอยู่ว่าวิศวะกรรัสเซียจะสามารถสร้างเครื่องกำเนิดสนามพลาสม่าให้เล็กพอที่จะใส่เข้าไปในเครื่องบินได้หรือไม่ และความน่าเชื่อถือของเทคโนโลยีก็ยังมีเครื่องหมายคำถามอยู่
พลาสม่าสเตลล์กับ Su-47 จึงยังเป็นปริศนาต่อไป
สรุป
เรายังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า Su-47 นั้นจะกลายมาเป็นเครื่องบินขับไล่เขย่าโลกรุ่นใหม่ของรัสเซีย เพราะตัวมันเองนั้นความจริงแล้วมีสถานะเป็น "เครื่องบินสาธิตเทคโนโลยี" เท่านั้น แต่เชื่อว่าเครื่องบินลำใหม่ของรัสเซียน่าจะต้องมีเทคโนโลยีทั้งจากของ Su-47 และ Su-37 เข้ามารวมไว้ด้วยแน่นอน ( สำหรับโครงการที่คล้ายกันของมิโกยันคือ MiG 1.44 ผมจะนำข้อมูลมาเสนอในโอกาสต่อไปครับ)
Specification
General characteristics Crew: 1 Length: 22.6 m (74 ft 2 in) Wingspan: 15.16 m to 16.7 m (49 ft 9 in to 54 ft 9 in) Height: 6.3 m (20 ft 8 in) Wing area: m² (ft²) Empty weight: 24,000 kg (52,900 lb) Max takeoff weight: 34,000 kg (75,000 lb) Powerplant: 2× Lyulka AL-37FU afterburning, thrust-vectoring turbofans with digital control Dry thrust: 83.4 kN (18,700 lbf) each Thrust with afterburner: 142.2 kN (32,000 lbf) each Thrust vectoring: -20° to +20° at 30° per second in pitch and yaw Performance Maximum speed: 1.8 Much
Sea level: Mach 1.1 (1,400 km/h, 870 mph) Normal operating altitude: Mach 2 (2,500 km/h, 1,550 mph) Range: 3,300 km (2,050 mi) Service ceiling: 18,000 m (59,050 ft) Rate of climb: 230 m/s (45,300 ft/min) Wing loading: kg/m² (lb/ft²) Armament Guns: 1× 30 mm GSh-30-1 cannon with 150 rounds Missiles: 14 hardpoints (2 wingtip, 6-8 underwing, 6-4 conformal under the fuselage) Air-to-air: R-77, R-77PD, R-73, R-74 Air-to-surface: Kh-29T, Kh-29L, Kh-59M, Kh-31P, Kh-31A, KAB-500, KAB-1500
ภาคผนวก
ในส่วนนี้จะกล่าวถึงภาคตัดขวางของเรด้าห์ในเครื่องบินบางแบบครับ โดยถ้าเครื่องที่มีภาคตัดขวางยิ่งเล็กจะยิ่งตรวจจับได้ยาก และจะตรวจจับได้ก็ต่อเมื่อเครื่องบินนั้นบินเข้ามาใกล้มากพอเท่านั้น ที่เป็นคำตอบหนึ่งที่ว่าทำไม F-5 MiG-21 หรือ JAS-39 สามารถเอาชนะเครื่องบินใหญ่ ๆ ได้
หน่วยของ RCS เป็นตารางเมตร โดยแสดงให้เห็นถึงพื้นที่ที่จะปรากฏบนจอเรด้าห์
Estimated RCS of various aircraft (frontal view)
A-10: 25 B-1B: 10 B-52: 100 EFA 2000: 0.1 F-4: 25 F-16C: 1.2 F/A-18C: 3, 1.2 F/A-18E: 0.1 F/A-22: 0.0002 F-35: 0.0015 JAS.39 Gripen: 0.5 MiG-21: 5 Mirage 2000: 2 Rafale: 0.1-0.3 (clean) Su-30: 10-14 Tornado: 8
Create Date : 04 กรกฎาคม 2549 |
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2550 13:10:10 น. |
|
1 comments
|
Counter : 10424 Pageviews. |
|
|
|
อยากบอกว่า ... ชอบเรื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยีทางทหารที่คุณ จขบ. เอามาเล่าให้ฟัง มากๆ เลยนะครับ