|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
รู้จักกับ...เทคโนโลยีทางทหารใน "++Transformer++"
ผมเป็นพวก Perfectionism ครับ คนพวกนี้ชอบความสมบูรณ์แบบ หมายความว่าคนพวกนี้จะไม่ค่อยชอบถ้ามีอะไรไม่สมจริง หรือไม่เหมือนจริง ซึ่งกรณีนี้เกิดขึ้นเมื่อผมดูหนังเรื่อง Stealth ที่ไม่มีอะไรเป็นความจริงเลย!!! ดูแล้วอารมณ์เสียมาก เซ็งสุด ๆ .....ขออภัยนะครับ ผมเป็นแบบนี้จริง ๆ ทำให้ถ้ามีหนัง Action ที่มีเครื่องบินรบ รถถังหรือเรือรบเข้ามาเกี่ยวข้อง ผมจะตั้งแง่ไว้ก่อนเลย......Transformer ก็เช่นกันครับ
แต่ในเมื่อเห็นหลาย ๆ คนพูดว่าหนังมันมันส์สุดยอด ผมก็เอาวะ ถ้ามันไม่สมจริง ก็ปล่อยผ่าน ๆ ไป...แต่ว่าเมื่อดูแล้ว กลับพบว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ใช้อาวุธสงครามได้สมจริงที่สุดเรื่องหนึ่งทีเดียว แทบไม่มีอาการเว่อร์ให้เห็นเลย....แหม หนังก็สนุก ทุกอย่างลงตัวจริง ๆ ออกจากโรงมาแล้วจริงประทับใจมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ผมก็เลยได้ไอเดียว่า จะลองรวบรวมว่าใน Transoformer มีเทคโนโลยีทางทหารอะไรบ้าง เผื่อจะเป็นความรู้ให้กับทุกท่านไม่มากก็น้อยครับ
V-22 Ospray
ตอนเปิดเรื่องจะเห็นเครื่องบินใบพัดขนาดยักษ์ 2 ลำกำลังลำเลียงทหารครับ ลำนี้แหละคือ V-22 Ospray ความพิเศษของมันคือ มันทำการบินได้แบบเครื่องบิน ในขณะที่ขึ้นลงได้แบบเฮลิคอปเตอร์ เราเรียกอากาศยานแบบนี้ว่า tiltrotor ครับ
การพัฒนาอากาศยานแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ เพราะต้องใช้เทคโนโลยีที่ค่อนข้างซับซ้อนในการพัฒนาระบบส่งกำลัง และใบพัดของตัวเครื่อง เพราะตัวใบพัดจะต้องเปลี่ยนตำแหน่งไปในระหว่างที่เปลี่ยนจากการลอยตัวแบบเฮลิคอปเตอร์ไปเป็นการบินเดินทางแบบเครื่องบินครับ ด้วยความซับซ้อนของมัน ทำให้มันประสบอุบัตติเหตุบ่อยครั้งในระหว่างการพัฒนา ครั้งที่ร้อายแรงที่สุดคือ V-22 ลำต้นแบบเสียการควบคุมจนตกลงไปในแม่น้ำ ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 11 คน
แต่ทั้งใน ในที่สุด V-22 ก็พัฒนาจนเสร็จสมบูรณ์ และทะยอยเข้าประจำการในกองทัพอากาศและนาวิกโยธินสหรัฐครับ
ในกองทัพอากาศ จะใช้รุ่น CV-22 โดยจะมีภารกิจในการลำเลียงหน่วยปฏิบัติการพิเศษของกองทัพอากาศ ซึ่งถ้าผมจำไม่ผิดทหารในเรื่องก็เป็นหน่วยรบพิเศษของกองทัพอากาศเช่นกัน (มัวแต่ดู เลยลืมดูสัญลักษณ์เลย)
ส่วนนาวิกโยธินสหรัฐจะใช้รุ่น MV-22 ครับ โดยมีภารกิจในการลำเลียงนาวิกโยธินระหว่างชายฝั่งและเรือบัญชาการยกพลขึ้นบกของนาวิกโยธิน โดยในรุ่นนี้นั้นจะมีความสามารถในการหมุนปีกให้ขนานไปกับลำตัวเครื่องระหว่างจอด เพื่อลดพื้นที่ในการจัดกับครับ (เรือมีพื้นที่น้อย)

RQ-4 Global Hawk
ตอนที่หุ่นยนต์ฝ่ายร้ายกำลังเล่นงานทหารสหรัฐอยู่นั้น จะได้ยินกองบัญชาการพูดว่าเครื่องบินสอดแนมของเราจะมาถึงในอีก 2 นาที ซึ่งเครื่องบินสอดแนมที่ว่านี้ก็คือ RQ-4 Global Hawk นั้นเองครับ
Global Hawk เป็นอากาศยานไร้คนขับ หรือที่เราเรียกว่า UAV นั้นเอง Global Hawk ใช้การควบคุมระยะไกลจากกองบัญชาการ โดยมีหน้าที่สอดแนมสนามรบเป็นภารกิจหลัก
เทียบกับ UAV ทั่ว ๆ ไปแล้ว Global Hawk มีขนาดใหญ่มาก คือมีความยาวจากหัวถึงหาง 13.5 เมตร และมีความกว้างจากปลายปีกถึงปลายปีกึง 35.4 เมตร ซึ่งการที่ต้องมีปีกกว้างเช่นนี้ เพื่อสร้างแรงยกเพิ่มขึ้น จะได้ประหยัดเชื้อเพลง และทำให้บินได้นานขึ้นครับ
ในการทดลอบ Global Hawk เคยบินจากสหรัฐไปถึงออสเตรเลียโดยไม่หยุดพักเลย และตัวต้นแบบของ Global Hawk ก็เคยออกทดสอบในสถานการณ์จริงในสงครามอัฟกานิสถานและอิรักครับ
MH-53 Pave Low
จำฉากเปิดเรื่องได้ไหมครับ ที่ F-22 สองลำไป Intercept เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่ง ซึ่งต่อมากลายเป็นตัวร้ายของเรื่อง เฮลิคอปเตอร์ลำนี้คือ MH-53 ของกองทัพอากาศสหรัฐนั้นเองครับ
MH-53 นั้นถูกใช้ในการขนส่งหน่วยปฏิบัติการพิเศษครับ ความคล่องตัวจะได้เปรียบเจ้า Ospray มากกว่า โดย MH-53 จะบินลัดเลาะภูมิประเทศเข้าไปยังพื้นที่เป้าหมาย และปล่อยหน่วยปฏิบัติการพิเศษลงไป
นอกจากนี้ MH-53 ยังถูกใช้ในภารกิจ CSAR หรือ Combat Search & Rescue นั้นเอง โดยมันจะบินไปรับนักบินที่ถูกยิงตกพร้อมกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษเช่นกัน ลองหาอ่านการปฏิบัติการลักษณะนี้ได้ที่กระทู้นี้ครับ
"Leave No Man Behind": ขอต้อนรับทุกท่านสู่ SAREX 2007 at Chiang Mai Int'l Airport ภาค การแสดงการบิน

E-3 Sentry AWACS
E-3 ลำนี้คือเรด้าห์ลอยฟ้าครับ เป็นศูนย์บัญชาการลอยฟ้าที่จะควบคุมปฏิบัติการทางอากาศของเครื่องบินขับไล่ทั้งหมด สามารถระบุตำแหน่ง ชี้เป้าหมาย ไปจนถึงนำทางเครื่องบินขับไล่เข้าโจมตีเป้าหมายโดยเครื่องบินขับไล่ทำแค่กดยิงอาวุธเท่านั้น ในยุทธวิธีทางอากาศของกองทัพอากาศสหรัฐนั้น E-3 สำคัญมากครับ
เรด้าห์ของ E-3 นั้นสามารถจับเป้าหมายได้ไกลกว่า 375 กม. โดยเรด้าห์นี้ติดตั้งอยู่บนเครื่อง Boeing 707 และสามารถบินได้ต่อเนื่องการนานถึง 10 ชม. โดยไม่หยุดพัก และสามารถรับการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศเพื่อเพิ่มเวลาบินให้นานขึ้นได้อีก
E-3 จะมีเจ้าหน้าที่ในเครื่องบินปฏิบัติงานกับเรด้าห์ชุดนี้ และทำการติดต่อสื่อสารและชี้เป้าให้กับเครื่องบินลำอื่นครับ
ด้วยราคาของเครื่องที่แพงระยับ คือราว 300 ล้านเหรียญ จึงทำให้มีแต่ประเทศพันธมิตรรวย ๆ เท่านั้นที่จัดซื้อไปใช้เช่น กองกำลังนาโต้ อังกฤษ ซาอุดิอารเบีย และญี่ปุ่น แต่ว่าหลายประเทศนำไปติดตั้งกับเครื่องบินแบบอื่นเช่น Boeing 767 เป็นต้น (เพราะ Boeing 707 ปิดสายการปลิตไปแล้ว)

AC-130
ในฉากที่ทหารสหรัฐกำลังต่อสู้กับหุ่นยนต์ในทะเลทหารอยู่นั้น จะเห็นว่ามีเครื่องบินขนาดใหญ่ที่หน้าตาเหมือนเครื่องบินลำเลียงบินมา และทหารสหรัฐก็เรียกให้เครื่องบินลำนั้นยิงปกระสุนขนาด 105 มม. ลงมา เครื่องบินลำนี้คือ AC-130 นั้นเองครับ
AC-130 นั้นความจริงมันก็คือ C-130 ติดอาวุธนั้นเองครับ ภารกิจหลักของมันคือบินเอียงข้างให้ทหารในเครื่องยิงอาวุธเข้าใส่เป้าหมายภาคพื้นดิน ในภารกิจการสนับสนุนทางอากาศโดยใกล้ชิด (Close Air Support) แบบในหนังนั้นเองครับ

ในหนังจะเห็นว่า ทหารบนพื้นขอให้ AC-130 ยิงกระสุนขนาด 105 มม.ลงไป กระสุน 105 มม. นี้ยิงออกมาจากปืน M102 ซึ่งเป็นปืนใหญ่ที่ใช้ยิงจริง ๆ ในกองทัพบก แต่กองทัพอากาศนำมาปรับปรุงให้ขึ้นไปติดกับเครื่องบินได้ครับ ปืนแบบนี้ ทหารปืนใหญ่ของไทยก็ใช้อยู่เช่นกันครับ
พูดกันง่าย ๆ คือ เครื่องบินลำนี้แบกปืนใหญ่ขึ้นไปยิงนั้นเอง

A-10 Thunderbolt II
เหนือทะเลทราย ในฉากเดิม จะเห็นเครื่องบินสองลำกราดปืนกลเข้าใส่หุ่นยนต์ต่างดาว เครื่องบินลำนั้นก็คือ A-10 Thunderbolt II นั้นเองครับ
A-10 ถูกออกแบบมาให้เป็น The Tank Killer ครับ เป็นเครื่องบินโจมตีขนานแท้รุ่นสุดท้ายของโลกการบินทหาร เนื่องจากในสมัยสงครามเย็น ภัยคุกคามจากรถถังโซเวียตกว่าหมื่นคัน ทำให้ต้องสร้างเครื่องบินที่จะมาล่าทำลายรถถังเหล่านั้น ซึ่งโชคดีที่มันไม่เกิดขึ้นครับ
หลังสงครามเย็น ภัยคุกคามจากโซเวียตหมดไป กองทัพสหรัฐจึงคิดจะปลดประจำการ A-10 ไป เนื่องจากมันไม่เคยออกสงครามเลย และคาดว่าประสิทธิภาพของมันคงไม่เท่าไหร่ แต่เมื่อมีสนามให้เล่น มันก็พิสูจน์ตัวเองได้ครับ นั้นคือในสงครามอ่าวเปอร์เซียรอบแรก A-10 สามารถทำลายรถถังอิรักได้กว่า 1,000 คัน ยุทธยานยนต์ของอิรักอีกกว่า 2,000 คัน ประสบความสำเร็จในการปฏิบัติการถึง 95.7% ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะใช้จรวด AGM-65 ยิงครับ
และหลังสงครามอ่าว มันก็ได้เข้าร่วมสงครามอีกหลายครั้ง ทั้งในปฏิบัติการ Allied Force ในโคโซโว ในอัฟกานิสถาน ไปจนถึงอิรักรอบสอง ความสามารถของมัน ทำให้กองทัพอากาศสหรัฐจะประจำการมันไปอีกอย่างน้อยจนถึงปี 2025 ครับ

A-10 มีความคล่องตัวสูง บินต่ำ ๆ ได้ดี เลี้ยวแคบ ๆ ได้เยี่ยม และแบกอาวุธหนักไปได้เยอะครับ (รถถังเลยไม่เหลือ) จุดเด่นของ A-10 ที่ทุก ๆ คนจะนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ ก็อยู่ตรงที่ปืนกลอากาศ GAU-8/A นั้นเอง
GAU-8/A เป็นปืนกลหลายลำกล้อง (Gatling Gun) ซึ่งเวลายิงนั้นลำกล้องจะหมุนสลับกันไป โดยมีอัตราการยิงอยู่ที่ 4,200 นัดต่อนาที หรือราว ๆ 50 - 70 นัดต่อวินาที!!!! และกระสุนขนาด 30 มม. ของมันก็ยังทำมาจากยูเรเนียม ซึ่งให้ผลดีที่สุดในการเจาะกระรถถังและรถเกราะครับ
ทั้งนี้ A-10 1 ลำ แบกกระสุนไปได้ 1,350 นัดครับ

UH-60 Black Hawk
ในตอนท้ายของหนัง เฮลิคอปเตอร์สองลำที่พยายามจะมารับพระเอกนั้นคือ UH-60 Black Hawk นั้นเอง
หลาย ๆ ท่านรู้จักเจ้าเหยี่ยวดำนี้ดีครับ เพราะหนังเรื่อง Black Hawk Down ที่มีมันเป็นพระเอก Black Hawk ถือเป็นหนึ่งในเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงที่ดีที่สุดในโลกแบบหนึ่งในปัจจุบันครับ มันเป็นเฮลิคอปเตอร์อเนกประสงค์แนว ๆ ฮิวอี้นั้นเองครับ
นอกจากนี้ Black Hawk ยังแตกลูกแตกหลานไปหลายแบบ ทั้ง Sea Hawk, Prave Hawk, Knight Hawk, Jay Hawk, Navy Hawk ฯลฯ ซึ่งประเทศไทยเรามีอยู่ 3 แบบครับคือ Black Hawk ของกองทัพบก ส่วนกองทัพเรือมี Sea Hawk และ Navy Hawk ครับ

F-22 Raptor
มาถึงพระเอกของงานอีกลำครับ นั้นคือ F-22 Raptor นั้นเอง
หลายๆ ท่านคงจะรู้จักมันเป็นอย่างดีอยู่แล้วครับ เพราะมันคือเครื่องบินขับไล่ที่มีคุณสมบัติ Stealth แบบแรกของโลก แถมยังทันสมัยสุด ๆ และรูปร่างก็สุดเท่ห์อีกด้วย
F-22 พัฒนามานานกว่า 20 ปีครับ จนเพิ่งจะได้ประจำการและประกาศความพร้อมรบ (หมายถึงพร้อมออกสงครามจริง ๆ) ก็เมื่อปีที่แล้วนี้เองครับ ราคาค่าตัวมันสูงถึงเกือบ 180 ล้านเหรียญสหรัฐ แพงมาก ๆ ครับ
F-22 มีความคล่องตัวสูงมาก เพราะเครื่องยนต์ของมันสามารถปรับทิศทางได้ จึงทำให้วงเลี้ยวมันแคบมาก ๆ ซึ่งจะเป็นกระโบชน์ในการ Dog Fight หรือการสู้รบติดพันครับ
ถ้าสนใจมากกว่านี้ ลองไปหาอ่านได้ที่นี่ครับ
"F-22 สุดยอด (หรือเปล่า) เครื่องบินรบของอเมริกา"

สำหรับเรื่องอากาศยานคงหมดแล้วล่ะครับ ต่อมามาดูเรื่องยุทโธปกรณ์ภาคพื้นดินกันครับ
กระสุน Sabot
ในหนังนั้นกระสุน Sabot เป็นกระสุนชนิดเดียวที่มีผลต่อหุ่นยนต์ครับ Sabot เป็นคำเรียกกระสุนซึ่งมีหัวกระสุนเล็กกว่าลำกล้องครับ จึงทำให้ต้องมีส่วนห่อหุ้มเพื่อที่จะสามารถยิงออกมาจากลำกล้องได้ ซึ่งกระสุนชนิดนี้จะใช้พลังงานจลน์เป็นตัวทำลายเป้าหมาย โดยพลังงานจลน์จะทำให้หัวกระสุนเจาะเข้าไปในเกราะของรถถังได้ รูตอนเข้านิดเดียวครับ แต่ข้างใน ไม่เหลือครับ
กระทู้นี้มีคำอธิบายค่อนข้างดีอยู่แล้วครับ ลองไปกันตามกระทู้นี้ได้เลยครับ
//www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X5606496/X5606496.html

การชี้เป้าด้วยเลเซอร์
ในตอนใกล้จะจบของเรื่อง จะเห็นทหารบนพื้นใช้อุปกรณ์เลเซอร์ชี้เป้าให้กับ F-22 ใช้อาวุธเข้าโจมตี และเครื่องบินก็จะใช้เลเซอร์นั้นเป็นการกำหนดจุดโจมตี
ยุทธวิธีแบบนี้มีจริง ๆ ครับ (แต่อุปกรณ์เลเซอร์ไม่น่าจะสมจริง ซึ่งเดียวผมจะรวบรวมความไม่สมจริงตอนท้ายครับ) ซึ่งทหารที่ทำหน้าที่นี้จะเรียกว่า Forward Air Controllers หรือผู้ควบคุมอากาศยานหน้า โดยทหารเหล่านี้จะร่วมเดินทางไปกับทหารราบ เมื่อมีความต้องการให้เครื่องบินโจมตีเป้าหมายภาคพื้นดิน ผู้ควบคุมอากาศยานหน้าก็จะใช้เลเซอร์ยิงไปที่เป้าหมายนั้นครับ เครื่องบินที่บินอยู่จะใช้ลำแสงเลเซอร์นี้เป็นจุดอ้างอิง และใช้อาวุธจำพวกระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์ ซึ่งตัวระเบิดจะวิ่งตามลำแสงนั้นไปจนกว่าจะกระทบเป้าหมายครับ
Smoke Bomb และวิทยุ
อันนี้ก็เรื่องจริงครับ ในการเรียกการโจมตีทางอากาศ เครื่องบินหรือทหารราบอาจจะใช้ Smoke bomb เพื่อสร้างจุดอ้างอิงในการโจมตี เช่นระบุตำแหน่งของตนเอง หรือระบุตำแหน่งที่จะใช้โจมตีครับ ซึ่งพวกเขาจะติดต่อการด้วยวิทยุ โดยทหารราบจะเป็นคนนำทางการโจมตีให้กับเครื่องบินครับ ลองดูหนังเรื่อง We Were Soldier เป็นตัวอย่างครับ
ผมว่าคงหมดแล้วล่ะมั๊งครับ เท่าที่นึกดูก็นึกไม่ออกละ....งั้นเอาเป็นว่า ต่อไปนี้ เรามาดู "ความไม่สมจริง" ของหนังกันบ้างดีกว่าครับ
F-22 บินหลบตึกโจมตี
เรื่องนี้เป็นความเว่อร์ของหนังในการที่จะทำให้หนังดูสนุกตื่นเต้นครับ
เรื่องที่ 1 ก็คือ ในความเร็วขนาดนั้น สมองของมนุษย์อย่างเรา ๆ ท่าน ๆ คงไม่สามารถที่จะสั่งให้นักบินใช้ข้อมือหลบซ้ายหลบขวาได้อย่างงั้นแน่นอนครับ และในย่านความเร็วสูงขนาดนั้น เครื่องบินไม่น่าจะมีความคล่องตัวพอที่จะหักซ้ายหลบขวากับตึกที่อยู่ห่างกันในหลักร้อยเมตรได้ครับ
เรื่องที่ 2 การโจมตีจริง ๆ แล้ว ไม่จำเป็นและไม่ควรบินต่ำแบบในหนัง แล้วปล่อยระเบิดครับ ยุทธวิธีการโจมตีในระดับต่ำนั้นมี แต่ในหนังมันต่ำเกินไปครับ แถมถ้าจะต้องใช้เลเซอร์เป็นจุดอ้างอิงแล้วล่ะก็ จำเป็นต้องอยู่สูงกว่านั้นมากครับที่จะให้เวลาอาวุธปล่อยปรับตัวเองไปหาเป้าหมายครับ
F-22 ยิง Missile
จรวดที่เห็นในหนังนั้น คงเป็นอะไรไปไม่ได้ครับนอกจาก AGM-65 Maverick แต่เท่าที่ทราบ F-22 ยังไม่สามารถติดจรวดชนิดนี้ได้ครับ เพราะโดยส่วนมากแล้ว F-22 จะต้องเก็บอาวุธในช่องเก็บ (Weapon Bay) ซึ่งอาวุธแต่ละชนิดต้องถูกออกแบบใหม่เพื่อให้เข้ากับช่องเก็บอาวุธ ทั้งนี้ ผมยังไม่เคยได้ยินว่ากองทัพอากาศสหรัฐออกแบบ AGM-65 รุ่นติดใน Weapon Bay ครับ....ซึ่งอันนี้จริง ๆ แล้วอาจจะสามารถติดได้ครับ ถ้ามีการพัฒนารุ่นให้ติด หรือไม่อีกที อาจจะเลี่ยงไปติดที่ตำบลติดอาวุธ (Pylon) ด้านนอก แต่ผมไม่มีข้อมูลว่า Pylon ของ F-22 นั้นติดอะไรได้และรับน้ำหนักได้เท่าไหร่ครับ

กล่องเลเซอร์ชี้เป้าตัวเล็กนิดเดียว
เอ เท่าที่เคยได้ยินมา ผมไม่เคยเห็นแหล่งกำเนิดเลเซอร์สำหรับชี้เป้าเล็กขนาดนั้นนะครับ เพราะโดยหลักแล้วมันหน้าตาเป็นอย่างในรูปครับ เป็นอุปกรณ์ที่ชื่อว่า AN/PED-1 Lightweight Laser Designator Rangefinder หรือ LLDR ซึ่งผู้ควบคุมอากาศยานหน้าจะแบกเจ้านี่ไปครับ
อีกอย่าง การชี้เป้าด้วยเลเซฮร์นั้น ไม่น่าจะมีลำแสงสีเขียวให้เห็นเด่นชัดขนาดนั้น ตัวผมเข้าใจว่ามันควรจะเป็นลำแสงในย่านความถี่ที่มนุษย์มองไม่เห็นมากกว่าครับ

รถถัง Megatron
ไม่ล่ะครับ รถถังบ้าสงครามอย่างงี้ไม่มีจริงแน่นอน ผมเชื่อว่าผู้สร้างคงได้แรงปันดาลใจมาจาก M1A2 ของกองทัพบกสหรัฐ แต่ว่าของ Megatron มันเว่อร์ไปนิดครับ ตรงปริมาณปืนและความใหญ่ของมัน ซึ่งถ้ารถถังมันสูงขนาดนั้นจริง ๆ ล่ะก็ จะถือเป้นรถถังที่ไร้ประสิทธิภาพมาก เพราะมันจะเพิ่มพื้นที่ให้ถูกยิงได้มากขึ้น (เป้าขนาดใหญ่ขึ้น)

สำหรับวันนี้ จบเพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกท่าน สวัสดีครับ
Create Date : 15 กรกฎาคม 2550 |
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2550 15:47:31 น. |
|
24 comments
|
Counter : 13463 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: TigerOod IP: 202.91.18.192 วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:06:19 น. |
|
|
|
โดย: thai navy IP: 210.86.223.193 วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:16:12 น. |
|
|
|
โดย: f-16 IP: 210.86.223.193 วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:19:33 น. |
|
|
|
โดย: 007 IP: 203.113.50.13 วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:26:59 น. |
|
|
|
โดย: SpruenceT IP: 202.28.180.201 วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:28:56 น. |
|
|
|
โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:31:46 น. |
|
|
|
โดย: wissly IP: 203.113.50.10 วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:49:23 น. |
|
|
|
โดย: ผมรู้จักคุณ คุณอาจไม่จักผม IP: 58.64.105.153 วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:58:19 น. |
|
|
|
โดย: tolstoy วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:40:24 น. |
|
|
|
โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:8:53:42 น. |
|
|
|
โดย: รด.ราชบุรีเขต ๒ IP: 117.47.21.238 วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:11:38 น. |
|
|
|
โดย: Mstn IP: 203.209.41.44 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:41:04 น. |
|
|
|
โดย: Gan IP: 124.120.111.96 วันที่: 22 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:02:22 น. |
|
|
|
โดย: Flying T. Tiger IP: 124.121.113.36 วันที่: 23 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:34:32 น. |
|
|
|
โดย: Ford (ฐนกรณ์ ) วันที่: 24 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:26:36 น. |
|
|
|
โดย: หมาเห่า IP: 125.25.191.42 วันที่: 27 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:47:48 น. |
|
|
|
โดย: เหอะๆ IP: 203.144.135.8 วันที่: 28 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:09:15 น. |
|
|
|
โดย: neme IP: 202.28.77.33 วันที่: 5 กันยายน 2550 เวลา:15:16:38 น. |
|
|
|
โดย: นัฐภูมิ IP: 203.150.4.105 วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:13:08:10 น. |
|
|
|
โดย: sky boy IP: 222.123.156.88 วันที่: 29 กันยายน 2550 เวลา:22:10:24 น. |
|
|
|
โดย: f-16 IP: 203.113.76.9 วันที่: 23 ตุลาคม 2550 เวลา:15:21:34 น. |
|
|
|
โดย: ทอแสง IP: 58.8.52.190 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:22:12:41 น. |
|
|
|
โดย: helldiver วันที่: 23 สิงหาคม 2551 เวลา:4:50:38 น. |
|
|
|
|
|
|
@ จ่อยน้องลิง @
@ จ่อยหัวหอม @

|
|
|
|
|
|
|
ผมหารายละเอียดตัวนี้ไม่เจอ...