|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
อันว่าด้วย.....ระบบเรด้าร์ลอยฟ้า: AWE, AWE&C, AWACS
นับตั้งแต่การถือกำเนิดขึ้นของเรด้าร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ทำให้สงครามทางอากาศเปลี่ยนโฉมหน้าไปอย่างสิ้นเชิง จากการที่นักบินต้องใช้เรด้าร์ของธรรมชาติคือประสาทสัมผัสทั้ง 5 มาเป็นการจ้องมองจอที่สร้างภาพเป้าหมายด้วยเคลื่อนแม่เหล็กไฟฟ้า การพัฒนาเทคโนโลยีของเรด้าร์ก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อย ๆ ตามกาลเวลา จากระบบเรด้าร์ขนาดมหึมา มาเป็นระบบขนาดเล็กที่สามารถใส่เข้าไปในเครื่องบินลำจิ๋วได้ ทำให้เครื่องบินรบชั้นแนวหน้าในช่วงสงครามเย็นต่างติดตั้งเรด้าร์เพื่อตรวจการณ์ภูมิประเทศ ตรวจจับข้าศึก รวมไปถึงการนำทางอาวุธปล่อยเข้าสู่เป้าหมาย
แต่เมื่อเวลาผ่านไป หลายประเทศได้คิดค้นหลักนิยมใหม่ในการใช้เรด้าร์ ด้วยเหตุที่ว่าสถานีเรด้าร์ที่ตั้งอยู่บนพื้นดินมีข้อจำกัดหลายประการ หนึ่งในนั้นคือคือมันเคลื่อนที่ไม่ได้ ซึ่งหลายครั้งหลายหนที่เครื่องบินรบของประเทศของตนจะต้องออกไปปฏิบัติการนอกขอบเขตของเรด้าร์ภาคพื้นดิน จึงทำให้มีการพัฒนาระบบเรด้าร์ที่สามารถติดตั้งเข้าไปในอากาศยานได้ เพื่อเป็นสถานีเรด้าร์ลอยฟ้า เหมือนเป็นตาขนาดใหญ่ที่สามารถมองเห็นยุทธบริเวณได้โดยรอบ โดยไม่จำกัดพื้นที่
มาวันนี้ ผมจึงขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับระบบแจ้งเตือนภัยทางอากาศลอยฟ้า และประเภทของมัน รวมถึงรุ่นที่น่าสนใจกันครับ
ปล. ข้อมูลกระทู้นี้ ส่วนหนึ่งได้มาจากคุณ icy_CMU ต้องขอขอบคุณมา ณที่นี้ครับ
ทำไมต้องมีเครื่องบินลำใหญ่ติดเรด้าร์ราคาแพง?
ดังที่กล่าวไปแล้วครับว่า การปฏิบัติการทางอากาศหลายครั้งหลายหน อาจจะจำเป็นต้องบินไปทำภารกิจ ณ ส่วนที่ระบบเรด้าร์ของฝ่ายเราเข้าไม่ถึง จึงทำให้ต้องมีระบบเรด้าร์ที่สามารถพาไปไหนก็ได้ นอกจากนั้น การปฏิบัติการของเครื่องบินประเภทนี้ ยังสามารภทหน้าที่เป็นศูนย์บัญชาการลอยฟ้า คอยควบคุมปฏิบัติการทางอากาศทั้งหมดในยุทธบริเวณหนึ่ง ๆ โดยไม่จำเป็นต้องรอการสั่งการทั้งหมดจากศูนย์ควบคุมปฏิบัติการภาคพื้นดิน ยิ่งกว่านั้นระบบเรด้าร์ลอยฟ้ายังสามารถเชื่อมกำลังทางอากาศทั้งหมดเข้าเป็นเครือข่าย ทำให้การปฏิบัติการเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
แต่ทั้งนี้ เครื่องบินชนิดนี้ก็ยังสามารถแบ่งแยกย่อยลงไปได้อีกหลายประเภท ตามหน้าที่และความสามารถของมัน เราลองไปทำความรู้จักแต่ละประเภทกันเลยครับ
AEW:Airborne Early Warning
เป็นระบบพื้นฐานที่สุดของเครื่องบินประเภทนี้ครับ หลักการของมันก็คือการนำระบบเรด้าร์ขนาดใหญ่ที่มีพิสัยการตรวจจับไกลติดตั้งเข้าไปในอากาศยาน ซึ่งมันจะทำหน้าที่เป็นตาที่มองเห็นได้ไกลกว่าเรด้าร์ของเครื่องบินรบทั้ว ๆ ไปครับ ระบบจะสามารถระบุตำแหน่งของภัยคุกคาม ความเร็ว ความสูง ทิศทาง รวมถึงการพิสูจน์ฝ่ายครับ
เครื่องบินประเภทนี้ที่น่าสนใจได้แก่ E-1 Tracer และ Nimrod AEW3
E-1 Tracer
E-1 Tracer นั้นเป็นการติดตั้งเรด้าร์รุ่น AN/APS-82 บนเครื่องบิน S-2 Tracker ครับ ซึ่งเรด้าร์ AN/APS-82 นี่ถือเป็นเรด้าร์รุ่นแรกที่นำมาใช้งานกับ AEW ครับ
E-1 Tracer ประจำการในช่วงทศวรรตที่ 50 บนเรือบรรทุกเครื่องบินครับ และถูกแทนที่ด้วยเครื่องที่ใหม่กว่าในช่วงทศวรรตที่ 70

Nimrod AEW3
Nimrod AEW3 เป็นการปรับปรุงเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลแบบ Nimrod ในช่วงปี 1970 ของสหราชอาณาจักรครับ โดยติดตั้งระบบเรด้าร์ที่ส่วนหัวและส่วนท้าย แต่โครงการประสบปัญหางบประมาณบานปลาย จึงถูกยกเลิกในเวลาต่อมา
Nimrod AEW3 นั้นทำให้เราเห็นว่าเครื่องบินแบบนี้ไม่จำเป็นต้องมีเรด้าร์เป็นจาน ๆ หมุน ๆ บินลำตัวแต่ประการใดครับ (ลองสังเกตุส่วนที่ปูด ๆ บริเวณหัวและท้ายเครื่องดูครับ)

AEW&C:Airborne Early Warning and Control
หลังจากยุคของการนำเรด้าร์มาติดตั้งบนเครื่องบินเพียงอย่างเดียว หลาย ๆ ชาติได้เพิ่มคุณสมบัติที่สำคัญประการหนึ่งเข้าไปนั้นก็คือคุณสมบัติในการควบคุมและสั่งการ (Command & Control) ครับ เครื่องบินไม่ได้เป็นเพียงเรด้าร์บินได้เท่านั้น แต่ยังสามารถควบคุมและสั่งการการปฏิบัติการทางอากาศให้กับกำลังทางอากาศในความรับผิดชอบได้ เพียงแต่ทำได้ไม่มากเท่า AWACS ซึ่งจะกล่าวในภายหลังครับ
เครื่องบินแบบนี้มีขนาดไม่ใหญ่มาก ราคาไม่แพงจนเกินไป หลายประเทศที่ไม่มีเงินถุงเงินถังจึงเลือกใช้เครื่องบินแบบนี้ในกองทัพอากาศของตนครับ รุ่นที่น่าสนใจมีหลายรุ่นคือ E-2C Hawkeyes, EMB-145, S 100B Argus, P-3AEW&C, E-737 Wedgetail, และ KJ-200 (Y-8 Balance Beam)
E-2C Hawkeye
E-2C Hawkeye ถือได้ว่าเป็นเครื่องบิน AEW&C ที่ประสบความสำเร็จแบบหนึ่งของโลกครับ มันมาแทนที่ E-1 Tracer ในภารกิจแจ้งเตือน ควมคุม สั่งการทางอากาศบินเรือบรรทุกเครื่องบิน Hawkeye รุ่นล่าสุดติดตั้งระบบเรด้าร์แบบ APS-145 ซึ่งทำให้เครื่องบินสามารถทำภารกิจลาดตระเวนได้ในทุกสภาพอากาศ ตรวจจับและติดตามเป้าหมายได้มากกว่า 20,000 เป้าหมาย ตรวจับได้ไกลว่า 600 กม. ซึ่ง Lockheed Martin ผู้ผลิตบอกว่าไกลกว่าเรด้าร์ประเภทเดียวกับทุกแบบในโลก สั่งการผ่านระบบ Joint Tactical Information Distribution System (JTIDS) ซึ่งมีความสามารถในการป้องกันการก่อกวนทางอิเล็กทรอนิค
ปัจจุบันสหรัฐกำลังพัฒนา E-2D Advanced Hawkeye ซึ่งจะติดตั้งระบบ Avionic แบบใหม่ ห้องนักบินเป็น Glass cockpit และมีความสามารถในการรับการเติมเชื้อเพลิงทางอากาศ
มีหลายชาติเลือกใช้ Hawkeye คือไต้หวัน, อิยิปต์, ฝรั่งเศส, ญี่ปุ่น, เม็กซิโก, สิงคโปร์, และแน่นอน กองทัพเรือสหรัฐ

EMB-145SA
EMB-145SA คือเครื่องบิน ERJ 145 ของบริษัท Embraer ประเทศบราซิลที่ติดตั้งเรด้าร์ PS-890 ของสวีเดน แบบเดียวกับที่ติดตั้งใน S-100B Argus ของสวีเดน ซึ่ง EMB-145SA ได้เปรียบตรงที่ใช้เครื่องยนต์ Turbofan ทำให้มีสมรรถนะทางการบินที่สูงกว่าครับ
ปัจจุบันมีผู้ใช้สองประเทศคือบราซิลและเม็กซิโก

S-100B Argus
ฟังชื่อแล้วอาจจะไม่ค่อยคุ้นหู แต่ถ้าบอกว่า ERIEYES แล้วล่ะก็ทุกท่านคงต้องร้องอ๋อ เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของ Package ที่สวีเดนเสนอให้กับไทยในการขาย JAS-39 Gripen
S-100B Argus ติดตั้งเรด้าร์ PS-890 ของ Ericsson บนเครื่องบินแบบ Saab 340 ตัวเรด้าร์มีลักษณะเป็นแท่งยาว ๆ อันเป็นการบ่งบอกว่ามันเป็นเรด้าร์ Phased Array ที่ไม่จำเป็นต้องใช้การหมุนของแหล่งกำเนิดเพื่อกวาดเคลื่อนเรด้าร์ ตัวเรด้าร์มีระยะตรวจจับที่ 450 กม. สำหรับเป้าหมายทางอากาศ 320 กม. สำหรับเป้าหมายในทะเล
ปัจจุบันกองทัพอากาศสวีเดนมี S-100B ใช้งานจำนวน 4 เครื่อง และกองทัพอากาศปากีสถานสั่งซื้อ S-1000 ซึ่งใช้เครื่อง Saab 2000 แทน Saab 340 ไปใช้งานจำนวน 6 เครื่อง มูลค่า 1 พันล้านเหรียญ

P-3AEW&C
P-3AEW&C คือเครื่อง P-3 Orion ซึ่งติดตั้งเรด้าร์ APS-145 นั้นเองครับ โดยมันถูกใช้งานในหน่วยศุลกากรสหรัฐเพื่อลาดตระเวนป้องกันสินค้าหนีภาษีและการการทำผิดกฏหมาย (คิดดูศุลกากรบ้านเขามีเครื่องบินใช้)

E-737 Wedgetail
E-737 Wedgetail คือเครื่องบิน Boeing 737 ซึ่งติดตั้งเรด้าร์แบบ Multi-role Electronically Scanned Array (MESA) ของ Northrop Grumman Electronic Systems ซึ่งโดยรวมแล้วเครื่องยังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายก่อนส่งมอบครับ (ซึ่งล่าช้ากว่ากำหนดถึง 18 เดือน)
กองทัพอากาศออสเตรเลียสั่งซื้อ E-737 Wedgetail ไปใช้งานจำนวน 6 เครื่อง ในสัญญามูลค่าหลายหมื่นล้านบาท นอกจากนั้นกองทัพอากาศตุรกียังสั่งซื้อไปใช้งานจำนวน 4 เครื่องในโครงการ Peace Eagle และกองทัพอากาศเกาหลีใต้จำนวน 4 เครื่อง

KJ-200
KJ-200 เป็นโครงการพัฒนาเครื่อง AEW&C ของกองทัพอากาศจีนครับ เรามีข้อมูลไม่มากนักสำหรับโครงการนี้ เท่าที่ (โลกตะวันตก) ทราบคือจีนใช้เครื่องบินรุ่น Y-8 ซึ่งติดตั้งเรด้าร์ Phased Array ที่ดูคล้ายกับ PS-890 ของสวีเดน
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2549 KJ-200 เครื่องต้นแบบ 1 ลำประสบอุบัติเหตุตก เป็นเหตุให้นักบินและเจ้าหน้าที่เสียชีวิตถึง 40 คน

AWACS : Airborne Warning And Control System
AWACS มักจะเป็นศัพท์ที่คุ้นหูครับ เพราะเรามักจะเรียกเครื่องบินในกระทู้นี้ทุกลำว่า AWACS หมดเพื่อความง่ายเข้า แต่ความจริง AWACS คือเครื่อง AEW ที่มีระบบ C4 หรือ Command Control Communication Computer นั้นเอง พูดง่าย ๆ ว่ามันมีความสามารถในการส่งการมากกว่า AEW&C มันทำได้แม้แต่จ่ายข้อมูลเป้าให้เครื่องบินขับไล่ทำการยิงจรวดโดยเครื่องบินขับไล่ไม่จำเป็นต้องเปิดเรด้าร์ของตนเองด้วยซ้ำครับ แต่ประสิทธิภาพที่สูงก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่แพงระยับ ซึ่งทำให้มีแต่ประเทศมหาอำนาจเท่านั้นที่มีใช้งาน
เครื่อง AWACS ที่เด่น ๆ ก็มี E-3 Sentry, E-767, A-50 Mainstray, KJ-2000, Phalcon
E-3 Sentry
AWACS รุ่นนี้มีคนรู้จักมากที่สุดครับ เพราะผู้ผลิตเป็นพวกบ้าสงคราม เลยได้ออกปฏิบัติการจริงอยู่บ่อย ๆ แถมผู้ใช้อื่นก็ยังเป็นมหาอำนาจทั้งนั้น
เครื่องถูกสร้างครั้งแรกในช่วงปี 1970 โดยมีพื้นฐานมาจาก Boeing 707-300 ครับ เครื่องสามารถบินติดต่อกันได้นาน 8 ชม. หรือ 4,000 ไมล์ และสามารถรับการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศเพื่อเพิ่มระยะเวลาการบินได้อีก
E-3 Sentry ออกปฏิบัติการครั้งแรกในสงครามอ่าวเปอร์เซีย โดยปฏิบัติภารกิจทั้งหมด 400 ครั้งรวม 5,000 ชม. และชี้เป้าให้เครื่องบินของพันธมิตรยิงเครื่องบินของอิรักตกทั้งหมด 38 เครื่องจาก 40 เครื่อง
E-3 Sentry มีใช้งานในกองทัพสหรัฐ 33 เครื่อง (ตก 1 เครื่อง) กองกำลังนาโต้ 18 เครื่อง (ตก 1 เครื่อง) ซาอุดิอารเบีย 5 เครื่อง สหราชอาณาจักร 7 เครื่อง และฝรั่งเศส 4 เครื่อง

E-767
E-767 ก็คือ E-3 นั้นเองครับ ใช้ระบบเรด้าร์รุ่นเดียวกัน (แต่ version ใหม่กว่า) เพราะว่าเครื่องบิน Boeing 707 ปิดสายการผลิตไปแล้ว กองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศของญี่ปุ่นจึงเลือกเครื่องบิน Boeing 767-200 มาติดตั้งเรด้าร์ โดยญี่ปุ่นจัดหาทั้งหมด 4 ลำ ใช้เงินกว่า 7 หมื่นล้านบาท

A-50 Mainstray
A-50 Mainstray เป็นเครื่อง AWACS ของรัสเซียครับ ติดตั้งเรดาร์ Vega-M เข้ากับเครื่อง Il-76 ซึ่งเป็นเครื่องบินขนส่งขนาดใหญ่ แต่ Vega-M มีความสามารถค่อนข้างต่ำกว่าระบบเรด้าร์ของสหรัฐ กล่าวคือ มีระยะจรวจจับ 230 กม. สามารถควบคุมอากาศยานได้ 10 ลำ (E-3 ควบคุมได้ 40 ลำ) บินได้นาน 4 ชม. หรือ 1,000 กม. เป็นต้น
ปัจจุบันรัสเซียมี A-50 Mainstray ประจำการจำนวน 18 เครื่องครับ

KJ-2000
KJ-2000 นั้นเป็นการพัฒนาขึ้นใช้เองของจีนครับ โดยมีพื้นฐานมาจากโครงการที่ถูกยกเลิกไปคือ A-50I (A-50 Mainstray ซึ่งติดตั้งเรด้าร์ของอิสราเอล) จีนใช้เครื่อง Il-76MD ในการติดตั้งระบบเรด้าร์ของจีนซึ่งพัฒนาโดย Nanjing-based 14 institute ซึ่งมีลักษณะคล้ายเรด้าร์ Phalcon ของอิสราเอล แม้ว่าจะมีลักษณะเป็นจาน ๆ แบบ Rotodome แต่ทว่ามันไม่จำเป็นต้องหมุนไปรอบ ๆ แบบของ E-3 ของสหรัฐ เนื่องจากมันเป็นเรด้าร์ Phased Array ที่ทำงานแบบอิเล็กทรอนิค ซึ่งมันจะกวาดเคลื่อนเรด้าร์ไปรอบตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งกลไลการหมุนแบบแม็คคานิคครับ
KJ-2000 จะสามารถประกาศความพร้อมรบได้ภายในปีนี้หรือปีหน้าครับ

Phalcon
ความจริง Phalcon เป็นชื่อของชุดเรด้าร์ที่พัฒนาโดยอิสราเอลครับ (EL/M-2075 Phalcon) โดยผู้ใช้สามารถเลือกติดตั้งกับอากาศยานที่ตนเองต้องการได้ โดยกองทัพอากาศอิสราเอลใช้เครื่อง Gulfstream G550 และรุ่นส่งออกซึ่งขายให้กับอินเดียจำนวน 3 ระบบนั้น อินเดียก็เลือกใช้ Il-76 เช่นกันครับ
ทั้งนี้ จีนเคยพยายามจัดซื้อระบบเรด้าร์ Phalcon แต่ถูกสหรัฐกดดันจนอิสราเอลไม่ขายให้ (จีนจึงทำใช้เอง) นอกจากนั้นยังพ่ายแพ้ให้กับ E-737 ในโครงการการจัดหาเครื่องบินของเกาหลีใต้ (เขาบอกว่าสหรัฐจะไม่ขายระบบสื่อสาร L3 ให้อิสราเอลนำไปติดตั้งกับ Phalcon เพื่อที่เกาหลีใต้จะได้เลือก E-737 ของตน )

AEW Helicopter
ไม่ใช่แต่เพียงเครื่องบินเท่านั้นทำภารกิจนี้ได้ แค่ยังมีเฮลิคอปเตอร์บางแบบที่สามารภทำภารกิจ AEW ได้เช่นเดียวกันครับ
หนึ่งในนั้นก็คือ Sea King ของราชนาวีหลวงซึ่งติดตั้งเรด้าร์เป็นโดมขนาดใหญ่ด้านล่าง Sea King รุ้น AEW ปฏิบัติการจากเรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Invincible โดยมีบทบาทสำคัญมากในสงครามหมู่เกาะฟอล์กแลนด์
นอกจากนั้นยังมี Ka-31 ซึ่งอินเดียและรัสเซียมีใช้งาน

แล้วไทยล่ะ? ไม่ซื้อ E-3 หรือ E-737 มาใช้บ้างเหรอ
ฝันไปเถอะ!!!!! 
เฮ้ยเดี๋ยว!!!....พี่ไทยไม่คิดอยากจะได้บ้างเหรอ?
มีครับ โครงการมีแน่ ทั้งโครงการปรับปรุง F-16, C-130, PC-9, โครงการจัดหา บ.ข. 20 แทน F-5, โครงการจัดหาเครื่องบินลำเลียงเสริม G-222, รวมไปถึงโครงการจัดหา AEW&C ด้วย
แต่ปัญหาก็คือ........เรามีโครงการมากกว่าเงินที่มี ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติของรัฐบาลประเทศสารขัณฑ์
ฉะนั้นเราต้องลองมาจัดลำดับความสำคัญครับ ถ้าพูดเฉพาะกองทัพอากาศ ความสำคัญอันดับหนึ่งคงหนีไม่พ้น บ.ข. 20 ที่จะมาแทน F-5 ของกองบิน 7 ที่ชราภาพและตกบ่อยมาก ถัดจากนั้นก็ต้องจัดหาบ.ข. 20 ให้เต็มฝูงคือ 16 ลำ ถัดไปก็ต้องไปดูเครื่องบินลำเลียงหรือการปรับปรุง F-16 ซึ่งต้องใช้เงินมหาศาล ยิ่งเศรษฐกิจอย่างงี้ แค่โครงการที่เร่งด่วนยังแทบดำเนินการต่อไปไม่ได้เลย AEW&C ของทอ.ไทยจึงต้องร้องเพลงรอต่อไป เนื่องจากว่าในปัจจุบันเรด้าร์ภาคพื้นก็ยังสามารถทำงานได้น่าพอใจ แน่นอนถ้ามี AEW&C มาเสริมจะยิ่งแน่นขึ้น แต่เงินยังไม่มีครับ ต้องรอก่อน
หรือเอาให้ง่ายเข้า ก็จัดหา บ.ข. 20 เป็น JAS-39 Gripen ก็ได้ครับ เขาบวก S-100B มาให้ 2 ลำ กับ Saab 340 เครื่องเปล่า ๆ ที่ใช้ฝึกอีก 1 ลำ
สำหรับวันนี้ จบเพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกท่าน สวัสดีครับ
Create Date : 05 กันยายน 2550 |
Last Update : 21 ตุลาคม 2550 4:08:59 น. |
|
27 comments
|
Counter : 11635 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: Navy IP: 125.25.210.167 วันที่: 5 กันยายน 2550 เวลา:16:47:48 น. |
|
|
|
โดย: Navy IP: 125.25.210.167 วันที่: 5 กันยายน 2550 เวลา:16:52:47 น. |
|
|
|
โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 5 กันยายน 2550 เวลา:17:27:22 น. |
|
|
|
โดย: q-_-p IP: 58.8.40.109 วันที่: 5 กันยายน 2550 เวลา:18:59:34 น. |
|
|
|
โดย: q-_-p IP: 58.8.40.109 วันที่: 5 กันยายน 2550 เวลา:19:03:50 น. |
|
|
|
โดย: Skyman IP: 202.28.62.245 วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:7:26:23 น. |
|
|
|
โดย: นิค IP: 210.1.13.194 วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:8:19:31 น. |
|
|
|
โดย: f-16 IP: 58.147.6.227 วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:10:23:34 น. |
|
|
|
โดย: sam IP: 58.9.71.204 วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:12:52:18 น. |
|
|
|
โดย: f-16 IP: 58.147.6.227 วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:13:21:18 น. |
|
|
|
โดย: Dark Squadron IP: 125.27.174.69 วันที่: 8 กันยายน 2550 เวลา:13:20:04 น. |
|
|
|
โดย: ง่ะ. . . . IP: 124.121.247.164 วันที่: 10 กันยายน 2550 เวลา:1:26:06 น. |
|
|
|
โดย: นิค IP: 210.1.13.194 วันที่: 10 กันยายน 2550 เวลา:10:44:48 น. |
|
|
|
โดย: SING BIRD IP: 125.24.192.163 วันที่: 12 กันยายน 2550 เวลา:16:22:32 น. |
|
|
|
โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 14 กันยายน 2550 เวลา:9:18:53 น. |
|
|
|
โดย: AnglezI IP: 58.8.153.177 วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:13:45:38 น. |
|
|
|
โดย: n IP: 202.41.187.247 วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:15:01:47 น. |
|
|
|
โดย: นางน่อยน้อย วันที่: 4 ตุลาคม 2550 เวลา:14:33:05 น. |
|
|
|
โดย: change me ! IP: 203.146.63.189 วันที่: 7 ตุลาคม 2550 เวลา:16:25:41 น. |
|
|
|
โดย: att IP: 221.128.64.44 วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:11:35:53 น. |
|
|
|
โดย: att IP: 221.128.64.44 วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:11:38:31 น. |
|
|
|
โดย: att IP: 221.128.64.44 วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:11:43:24 น. |
|
|
|
โดย: ธารา IP: 58.137.127.1 วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:12:41:24 น. |
|
|
|
โดย: ธารา IP: 58.137.127.1 วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:12:45:35 น. |
|
|
|
โดย: ธารา IP: 58.137.127.1 วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:12:46:46 น. |
|
|
|
โดย: ธารา IP: 58.137.127.1 วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:12:48:10 น. |
|
|
|
โดย: benzanaz IP: 124.121.55.64 วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:18:03:28 น. |
|
|
|
|
|
|
@ จ่อยน้องลิง @
@ จ่อยหัวหอม @

|
|
|
|
|
|
|